คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 5 [50%]
บทที่ 5
ราวกับเถาวัลย์ที่มีหนามแหลมคมพันธนาการทั่วร่าง
ไม่ว่าจะย่ำกรายไปยังจุดไหนก็ไม่อาจหลีกพ้นจากความเจ็บปวด
แม้จะเป็นสายลมแห่งเทพเจ้า ก็ไม่อาจหลบหนี
ต้องเดินตามชะตากรรมที่ถูกกำหนดไว้ดังเดิมอยู่ดี
ท้องฟ้ายามค่ำคืนมืดสนิท ไร้แม้กระทั่งแสงดาว เหลือไว้เพียงพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่สาดแสงสีทองและโดดเด่นอยู่เพียงลำพังท่ามกลางนภา
ความเครียดขึงปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา ภาพมายาล้มลงไปกองบนพื้นเพราะเขายังคงตราตึงอยู่ในสมอง ไม่ว่าจะหาข้ออ้างใดๆมาก็ไม่อาจลบล้างความผิดที่ตนกระทำไปได้ในวันนี้
“ฉันควรจะทำยังไงกับไอ้ความรู้สึกเฮงซวยนี่กันแน่นะ...”
พึมพำออกมาพลางนอนแผ่หลาลงกลางเตียง นัยน์ตาคมจับจ้องไปยังเพดาน พลางบดกรามแน่นเมื่อนึกถึงภาพมารุตโอบกอดร่างบางพลางอุ้มขึ้นห้อง
ทั้งที่ปฏิเสธเสียงแข็งมาตลอด ว่าไม่เคยสนใจเธอ หากแต่ภาพของเธอมันยังคงติดตาเขา ความเป็นห่วงผสมปนเปไปกับความโกรธกำลังทำให้เขารู้สึกแย่
เขาสะบัดหัวแรงๆเพื่อไล่ภาพหญิงสาวที่มีนัยน์ตาแสนดึงดูดออกจากหัว อาจเพราะความรู้สึกผิดบาปเข้าเกาะกุมจิตใจของตน เขาถึงได้เริ่มเอนเอียงไปทางเธอ แต่อย่างไรเสียเขาก็ไม่มีวันหลงรักผู้หญิงอย่างมายาแน่นอน
*****************************************************************************************
สายลมแผ่วเบานำพาความเย็นเข้าสู่ห้องนอนสี่เหลี่ยม บนเตียงขนาดใหญ่ปรากฏร่างของหญิงสาวนอนนิ่งไม่ไหวติงใดๆ ลมหายใจของมายาสม่ำเสมอบ่งบอกให้รับรู้ว่าหลับไปแล้ว ทว่ามารุตที่นอนเฝ้าอยู่นั้นกลับเป็นห่วงจนหลับไม่ลง
เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขายาวเดินมาที่เตียงเพื่อดูอาการของเจ้านายตน มือหนาทาบทับลงบนหน้าผากเล็ก พลันดวงตากลมโตค่อยๆปรือขึ้น ก่อนจะมองพลันส่งยิ้มให้แก่ชายหนุ่มที่มีดวงตาสีดั่งม่านหมอก
“ขอโทษที เธอเลยตื่นเลย”
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ มีอะไรหรือเปล่า”
“รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
“จ้ะ”
แม้มายาจะตอบรับแต่มารุตรู้ดีว่าร่างบางบนเตียงนั้นโกหก “ฉันไม่ให้เธอไปทำงานกับไอ้เวรนั่นแล้วนะ ฉันลาออกให้แล้ว”
“แล้วเขาก็ยอมง่ายๆงั้นหรือ”
“น่าจะละมั้ง ไม่เห็นจะพูดห้ามหรืออะไรออกมาสักคำนี่”
เสือหนุ่มยังคงพูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย แม้จะรู้ว่าการพูดโกหกออกมาเช่นนั้นจะทำให้มายาเจ็บปวดก็ตาม แต่ก็น่าจะดีกว่าบอกไปว่า วายุรั้งไว้เพราะคิดว่าเธอเป็นหัวขโมย
มายามีสีหน้าเศร้าสลดลงเพียงนิด ไม่นานนักใบหน้าก็แย้มยิ้มออกมาบางๆ “ข้าจะไม่ไปทำงานให้วายุแล้วก็ได้ แต่มารุตช่วยอะไรข้าสักนิดได้หรือไม่”
คำพูดสมัยเจอกันครั้งแรกกอปรกับสีหน้าแกมขอร้องทำให้มารุตพูดไม่ออก เขายอมพยักหน้าอย่างว่าง่าย “อะไรล่ะ”
“เท่าที่ฟังมา บริษัทของวายุคงโดนคนลอบกัด ข้าให้อยากให้เจ้าช่วยหาหลักฐานให้ทีได้หรือไม่ว่าใครกันที่ทำเรื่องเช่นนี้”
สิ้นเสียง มารุตพลันตวัดสายตาจ้องใบหน้าสวยหวานด้วยสายตาแสนดุ ก่อนจะแผดเสียงออกมาดังลั่นเอ่ยถามแม่ร่างบางบนเตียงที่เวลานี้แค่จะลุกก็ยังไม่สามารถทำได้
“มันทำร้ายเธอขนาดนี้ ยังจะไปช่วยมันทำไม!!”
“ดั่งคำสัญญาที่เคยให้ไว้แก่เขา ข้าเคยเล่าทั้งหมดให้เจ้าฟังแล้วมิใช่หรือมารุต อีกอย่างข้าแค่ต้องการพิสูจน์ว่าข้าไม่ใช่หญิงชั่วที่หาญกล้าทำร้ายเขาด้วยวิธีเลวทรามเช่นนั้น ขอล่ะมารุต มีเพียงเจ้าที่สามารถช่วยข้าได้ในเวลาเช่นนี้”
เสือหนุ่มกัดฟันกรอด ใจหวนคิดไปถึงชายหนุ่มที่มายาหลงรักยิ่ง ในใจนึกเจ็บปวดที่ตนไม่สามารถเข้าไปอยู่ในหัวใจของเธอได้แม้เพียงนิด ทว่าเขาก็เลือกที่จะรับปาก เมื่อได้ยินคำพูดต่อมาของเธอ
“อีกอย่าง.. ข้าน่ะ.. เหลือเวลาอีกไม่นานแล้วล่ะ พลังของข้ามันหายไปทีละนิดทุกภพทุกชาติ ข้าคิดว่านี่คงจะเป็น..”
“อย่าพูดนะ!!” เขาตวาดออกมาดังลั่นเมื่อรู้ว่าหญิงสาวจะเอื้อนเอ่ยอะไรออกมา “เข้าใจแล้ว แค่เอาหลักฐานว่าใครเป็นคนหักหลังมันไปปาใส่ไอ้หน้าโง่นั่นก็พอใช่ไหม ข้าจะช่วยเพียงเท่านี้ และนี่จะเป็นเรื่องสุดท้าย หวังว่าเจ้าคงจะเข้าใจ หลังจากจบเรื่องนี้ ไม่ว่าเจ้าจะขอร้องอย่างไร ข้าก็จะไม่ให้เจ้าพบกับไอ้ชายชั่วที่มันขยันทำร้ายจิตใจเจ้าอีก”
คำพูดของมารุตเรียกรอยยิ้มของมายาได้เป็นอย่างดี เธอรู้ว่าถึงแม้เขาจะพูดจาดั่งคนใจร้าย ทว่าแท้จริงแล้วมารุตนั้นใจดี หากใครได้ไปเป็นคู่ครองนั้นคงโชคดีเป็นแน่
“ขอบใจมากนะ”
“นอนได้แล้ว”
มายายิ้มหวาน ก่อนจะค่อยๆปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง ไม่นานนักก็เข้าสู่ห่วงนิทรา ทว่าเสือหนุ่มกลับย่อตัวนั่งลงพลันพ่นลมหายใจออกมาอย่างรุนแรง
“ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะมายา หลังจากนี้ไป ข้าจะทำเพื่อตัวเองบ้าง ข้าจะไม่ยอมเสียเจ้าไปเพราะไอ้มนุษย์สารเลวนั่นแน่”
*****************************************************************************************
ความคิดเห็น