ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มายาวายุ ซีรีส์ชุด ทาสรักธาตุสวาท

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 3 [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 5 มิ.ย. 57


    ใบหน้าคมยกยิ้มขึ้นมาบางๆ เมื่อเปิดหนังสือขึ้นอ่านแล้วได้พบกับสาวแห่งสายลมอีกครั้ง น่าแปลกที่ตอนนี้เขาอยากทำความรู้จักกับเธอ อยากพูดคุย อยากเห็นรอยยิ้มของ เรียกได้ว่าอิจฉาผู้ชายที่ได้คุยกับเธอเป็นบ้า

                เขาโผล่มายังห้องนอนของชายหนุ่ม หญิงสาวยกยิ้มอย่างน่ารักน่าใคร่ ก่อนจะวิ่งทะลุร่างของเขาไปพลางยัดหนังสือใส่มือชายหนุ่มคนหนึ่ง ชายหนุ่มที่ไม่ว่าเขาจะเพ่งพินิจเท่าไหร่ก็ไม่อาจเห็นได้ชัดเจน มีแต่ความเลือนราง เฉกเช่นเดียวกับหญิงสาว

                ข้าเขียนมาแล้ว เพราะอย่างนั้นเจ้าก็ต้องเขียนมาให้ข้าอ่านบ้างนะ

                ชายหนุ่มพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง ทว่ากลับเจอเสียงเล็กๆสั่งห้ามเสียก่อน

                เดี๋ยวก่อนสิ เจ้ายังป่วยอยู่ไม่ใช่หรือ อย่าเพิ่งลุกเลย เอาไว้ดีขึ้นค่อยลุกเถอะนะ

                คนป่วยพยักหน้าตอบรับ มือหนาเตรียมเปิดหนังสือออกดู แต่กลับเจอขัดอีกครั้ง

                อะไรกัน! ข้าอุตส่าห์มาหาเจ้าทั้งที เจ้ากลับจะทิ้งข้าไปสนใจหนังสือนั่นงั้นหรือ ข้าไม่ยอมนะ แบบนี้แล้วข้าจะคุยกับใครกันล่ะ

                เธอบ่นออกมาพลันแก้มป่อง เรียกความขบขันให้แก่คนที่ยืนมองดูเหตุการณ์และหนุ่มนิรนามที่เตรียมจะเปิดหนังสือ

                คุยกับฉันนี่แหละ ขอโทษที ฉันไม่เคยมีเพื่อน ไม่เคยเขียนอะไรแบบนี้มาก่อน เลยอดจะตื่นเต้นไม่ได้

                ข้าเองก็ไม่เคย เพราะอย่างนั้นตอนนี้ข้าก็เลยตั้งหน้าตั้งตารออ่านเรื่องที่เจ้าจะเขียนมาเหมือนกัน

                คนพูดทำหน้าตื่นเต้นระคนตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้อ่าน ส่งผลให้ชายหนุ่มที่กึ่งนั่งกึ่งนอนยกมือลูบหัวให้หล่อนเบาๆอย่างเอ็นดู ในขณะที่หญิงสาวยิ้มพลางเริ่มบทสนทนาเรื่องใหม่ เสียงที่หวานใสประดุจระฆังกังวานทำให้คนที่ไม่มีใครรับรู้ว่ามีตัวตนอยู่รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ปากเล็กๆขยับพูดไม่หยุด เจื้อยแจ้วไปมาจนคนฟังทั้งสองอดขำไม่ได้ที่เธอช่างสรรหาเรื่องมาพูดให้ฟัง       

                หญิงสาวกลับไปหลังจากที่ตะวันเริ่มลาลับ ฝั่งชายหนุ่มยันตัวขึ้นพลางเริ่มเปิดอ่าน ก่อนจะหลุดขำออกมาเมื่อเห็นประโยคที่เธอเขียนไว้

                ครั้งแรกที่เจอกัน... ข้าก็รู้สึกยินดียิ่งนักกับการพบกันระหว่างข้ากับเขา...

                ชายหนุ่มที่มีรูปร่างหน้าตาแปลกประหลาดกว่าคนที่ข้าเคยเห็น..

                แม้นัยน์ตาจะเป็นสีรัตติกาล แต่กลับมีรูปร่างใหญ่โตกว่าข้ามาก เส้นผมก็มิใช่สีนิลเฉกเช่นบุคคลทั่วไป

                ช่างน่าประหลาดเสียจริง..

                ข้าคือสายลม เป็นอิสระและสามารถไปได้ทุกที่ที่ปรารถนา เจ้าน่าจะรู้จักข้าอยู่แล้วล่ะนะ ข้ามีชื่อว่า... มีคุณปู่ที่แสนใจดีเป็นเทพสายลม แล้วตอนนี้เพื่อนสนิทของข้า ก็คือ เจ้ายังไงล่ะ

                ท่อนประโยคชื่อที่หายไปทำให้วายุนึกนิ่วหน้า เขาไม่เข้าใจจริงๆว่าเหตุใดเขาจึงไม่สามารถรับรู้ถึงใบหน้าของคนในที่แห่งนี้ รวมไปถึงชื่อของคนทั้งสองด้วย แน่นอนว่ามันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดพอสมควร

                ทว่าชายหนุ่มที่ป่วยกลับส่ายหัวเบาๆให้กับความใสซื่อของหญิงสาว เธอว่าเขาแปลกแต่กลับไม่ดูตนเลยสักนิดว่าแปลกกว่าเขาเสียอีก มือหนาหยิบปากกามา ก่อนจะเริ่มเขียนอักษรตอบกลับลงไป

                ครั้งแรกที่เจอกัน... ฉันรู้สึกประหลาดใจว่าผู้หญิงที่ไหนกันมาอยู่ภายในบ้าน

                เธอเป็นหญิงสาวที่มีนิสัยประหลาด.. ร่างกายก็ประหลาด.. สีตาก็ประหลาด.. แถมยังมาว่าฉันประหลาด..

                ทั้งที่เธอประหลาดกว่าฉันหลายเท่าแท้ๆ

                แต่... นั่นกลับทำให้เธอกลับงดงามมาก ไม่ใช่แค่เพียงหน้าตา แต่หมายรวมถึงจิตใจด้วย

                หมอนั่นคิดแบบเขาเลยแหละ ครั้งแรกที่เห็นข้อความที่หญิงสาวเขียน เขาก็คิดแบบนี้เลย เธอประหลาดกว่าชายที่ป่วยเป็นไหนๆ แต่กลับบอกว่าชายป่วยนั้นแปลกกว่าตน

                ชายหนุ่มยังไม่รู้จะเขียนอะไรตอบกลับไป เขาปิดสมุดลงก่อนจะอมยิ้มแล้วหลับไป พลันนึกภาพเหตุการณ์ยามเช้าของอีกวันออก และหากให้เดาละก็ เธอคงจะต้องแก้มป่องโวยวายเขาเป็นแน่

    *****************************************************************************************

                มันเป็นจริงดั่งที่เขาคิด..

                ราวกับวายุกำลังดูวีดีโออยู่ วันเวลายามกลางคืนถูกหมุนไปอย่างรวดเร็ว เพียงไม่ถึงห้านาทีก็เป็นยามเช้าเสียแล้ว แถมรู้ตัวอีกที ผู้เฝ้ามองก็เห็นมายากำลังยืนแก้มป่องโวยวายคนป่วย เพราะหมอนั่นเล่นเขียนตอบกลับเธอในสมุดซะเธอเสียหมด

                ใบหน้ายามบ่นดูน่ารักน่าใคร่มากกว่าน่ารำคาญ มองเท่าไหร่ก็หาความเบื่อไม่เจอ ในความคิดของวายุ หากเป็นเขา แถมยังต้องอยู่เพียงลำพังเช่นนี้ การจะตกหลุมรักเธอไม่ใช่เรื่องยากเลย

                เขานั่งมองดูภาพคนทั้งสองหยอกล้อกันบ้าง หญิงสาวงอนบ้าง ยิ้มอารมณ์ดีบ้าง ดุคนป่วยบ้างอย่างไม่เบื่อตา ในขณะเดียวกันก็แอบอิจฉาอยู่คนป่วยอยู่เนืองๆที่โชคดีได้เจอกันหล่อน

                แม้จะเป็นเพียงโลกแห่งความฝัน แต่เขาก็อยากจะได้ผู้หญิงเช่นนี้บ้าง

                วายุนึกอึ้ง เขาก็ได้แล้วนี่ ลลิสา หญิงสาวที่แสนจะใสซื่อและบริสุทธิ์เฉกเช่นเดียวกับหญิงสาวเบื้องหน้านี้ หากแต่ทำไมเขาถึงไม่รู้สึกใจเต้นยามเมื่ออยู่ใกล้เธอ ไม่เหมือนกับหญิงสาวไร้นามในโลกหนังสือ

                ผู้เฝ้ามองสลัดหัวไม่ให้ตนคิดฟุ้งซ่านไปมากกว่าเดิม ยังคงมองคนทั้งสองพูดคุยหยอกล้อกัน น่าแปลกที่เขาไม่เห็นใบหน้าของชายหนุ่มได้อย่างชัดเจน ผิดกับมายาที่เขาเห็นเธอทุกอย่าง วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และเขาก็เฝ้าดูอย่างเพลินเพลิดราวกับเสพย์ติดเรื่องของทั้งคู่ไปเสียแล้ว

    *****************************************************************************************

                ก๊อก ก๊อก ก๊อก

                เสียงประตูห้องทำให้สติของวายุกลับมาอีกครั้ง นัยน์ตาคมเหลือบมองนาฬิกาก่อนจะพบว่ามันผ่านไปเพียงชั่วโมงกว่าๆ มือหนาปิดหนังสือก่อนจะวางลงในลิ้นชักทำงานของตน ก่อนจะพูดให้คนนอกห้องเข้ามาได้

                ประตูห้องถูกเปิดออก เผยให้เห็นร่างเพรียวลมของรินลดา หญิงสาวเดินมาด้วยใบหน้าเคร่งเครียดพร้อมกับแบกแฟ้มเอกสารจำนวนมาก ก่อนจะวางลงบนโต๊ะแล้วจ้องมองใบหน้าของพี่ชายด้วยความไม่สบายใจ

                อะไร?”

                คำถามห้วนๆหลุดออกมาจากปากหยักสวย คิ้วเข้มขมวดเป็นปมด้วยนึกไม่เข้าใจว่าน้องสาวของตนจะทำตัวเป็นบ้าหอบฟางเอาแฟ้มเอกสารมาทำไมมากมาย

                “ดูนี่สิคะพี่

                รินลดาเริ่มต้นพูดพลางเปิดแฟ้มออก ก่อนจะเริ่มชี้ให้เห็นถึงอะไรบางอย่าง สายตาคมกริบจ้องมองตามที่น้องบอก ก่อนจะเริ่มเอะใจอะไรบางอย่างหลังจากที่ฟังคำพูดน้องของตนจบ

                ระยำ! ฉันก็ว่าแล้วว่ามันแปลกๆ ยังคิดอยู่ว่าทำไมเครื่องประดับมันถึงออกมาเหมือนกันขนาดนี้! ใครกันที่มันกล้าขโมยต้นแบบเครื่องประดับเราออกไปขายให้ไอ้เวรนั่น!!!”

                เขาพูดพลางนึกถึงการประชุมครั้งที่แล้ว รินลดาหาข้อมูลมาให้เขาดูก่อนจะเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ แน่นอนว่าปัญหาเวลานี้คือ บริษัทเขาถูกคู่แข่งทำคอลเล็คชั่นเครื่องประดับออกมาตัดหน้าตลอดเวลา ทั้งยังมีรูปร่างและรูปทรงที่เหมือนกันอย่างไม่ผิดเพี้ยน

                “ตอนนี้ยังไม่รู้ แต่ตอนนี้เราไว้ใจใครไม่ได้แล้วเสียงใสพูดออกมาอย่างที่ใจคิดแต่ที่แน่ๆมันคงรู้เรื่องบริษัทเราดีเลยแหละ ไม่งั้นมันต้องมีอะไรเหลือให้สาวถึงตัวบ้าง

                “กล้องวงจรปิดล่ะ

                ผู้เป็นน้องส่ายหัวเบาๆเป็นการบอกปฏิเสธ ดาเช็คหมดแล้ว ไม่มีอะไรผิดปรกติ ให้เดาน่าจะเป็นคนที่เราคาดไม่ถึงเลยแหละ

                วายุพ่นลมหายใจออกมาอย่างรุนแรง เขายังนึกไม่ออกว่าใครมันจะกล้าเล่นลอบกัดกับเขา ในขณะที่รินลดามองพี่ด้วยสายตาบางอย่าง

                “เรื่องนี้พี่ให้เธอเป็นคนจัดการ ต้องการอะไรก็บอกแล้วกัน พี่จะช่วยซัพพอร์ตให้เอง

                “เข้าใจแล้วรินลดาพยักหน้ารับคำ อีกเรื่องหนึ่ง…

                “อะไรคนถามเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย

                พี่ควรจะกลับบ้านบ้างนะ ถ้านานกว่านี้คุณแม่ล้มป่วยแน่

                เธอพูดออกมาอย่างที่คิด ในขณะที่ชายหนุ่มเบนหน้าออกไปนอกหน้าต่าง คิ้วเข้มขมวดหากันอย่างไม่เข้าใจตนเองนัก ก่อนจะพูดออกไปให้คนเป็นน้องได้ยิน

                อีกสักพักพี่จะกลับ ฝากเราดูแลคุณแม่ด้วยละกัน

                “ดาไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมพี่ถึงต่อต้านคุณพ่อกับคุณแม่มากขนาดนี้

                เธอเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจจริงๆ ชายหนุ่มเองก็ไม่รู้จะตอบออกไปอย่างไร ได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆพลางตอบกลับ

                “พี่ก็.. ไม่รู้

                รินลดาถอนหายใจออกมาเช่นเดียวกับผู้เป็นพี่ เธอพยักหน้าเบาๆตอบรับ เข้าใจล่ะ หาคำตอบได้ก็รีบกลับละกันนะคะพี่

                เมื่อจบเรื่องที่ควรพูด หญิงสาวก็เดินออกจากห้องทำงานทันที ในใจกระหวัดคิดถึงอะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องพี่ชาย ลางสังหรณ์บอกให้เธอระวังตัว และเร็วๆนี้คงได้เกิดอะไรขึ้นอีกแน่นอน

    *****************************************************************************************
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×