คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 2 [100%]
ภายในห้องทำงานขนาดใหญ่ปรากฏร่างหนายืนเหม่อมองออกไปยังท้องฟ้าผ่านกระจกขนาดใหญ่ ดวงตาสีนิลจับจ้องไปยังก่อนเมฆสีขาวบริสุทธิ์ที่เคลื่อนไหวไปมาอย่างช้าๆ วายุยังคงนึกถึงความฝันนั้นอยู่ หญิงสาวในฝันทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าแปลกประหลาด แม้เวลาจะผ่านไปครึ่งวันแล้วแต่เขาก็ยังคงหวนคิดถึงหญิงสาวที่ตนเห็น
ลลิสาเดินเข้าห้องทำงานมาอย่างเงียบเฉียบ ใบหน้าสวยหวานเผยรอยยิ้มออกมาพร้อมเอ่ยเรียกเขาเบาๆ ทว่าเขากลับไม่หันมามองเธอแม้แต่นิด วายุยังคงตกอยู่ในภวังค์ของตน เหตุเพราะเขานั้นรู้สึกว่าหญิงสาวในหนังสือนั้นเหมือนกับใครบางคน แต่เป็นใครบางคนที่เขายังนึกไม่ออก
“วายุคะ”
เสียงใสของลลิสา หญิงสาวคนรักของวายุดังขึ้นพร้อมขมวดคิ้ว ร่างสมส่วนเดินเข้าไปกอดชายหนุ่มอย่างน่ารักน่าใคร่ คนโดนสวมกอดสะดุ้งเล็กน้อย พลันยกยิ้มขึ้นเมื่อเห็นว่าใครมา
“เหนื่อยหรอคะ ถ้างั้นลิซ่าจะนวดให้นะคะ ไปที่โซฟากัน”
แม้จะอยากบอกปฏิเสธ แต่อีกใจก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโลกในหนังสือให้หญิงสาวฟังก็ได้ เขาพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเดินตามเธอที่บัดนี้จับจูงเขาไปนั่งที่โซฟาสุดหรูในห้องทำงาน จากนั้นลลิสาจึงเดินอ้อมไปหยุดยืนที่ด้านหลังของเขา พลันเริ่มบีบนวดให้ทันทีหวังคลายความขบเมื่อยให้แก่คนตัวใหญ่ เสียงใสพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดจนชายหนุ่มอดที่จะยิ้มให้กับหญิงสาวไม่ได้
เขาไม่ได้เหนื่อย แต่ใจของเขากำลังหวนคิดถึงอะไรบางอย่างที่เขารู้สึกคุ้นเคย ร่างบางของหญิงสาวในหนังสือทำให้เขารู้สึกคิดถึงใครคนหนึ่ง ทว่าไม่ว่าจะพยายามนึกแค่ไหนก็นึกไม่ออก
ประตูห้องทำงานของ CEO บริษัทเครื่องประดับถูกเปิดออกอย่างช้าๆ ภาพของชายหญิงคู่หนึ่งปรากฏต่อสายตาสีสวย น้ำตาเม็ดโตคลอขอบตา นัยน์ตาแสนสวยวูบไหวไปมาอย่างเศร้าสลด ทว่าเธอไม่อาจจะต่อว่าหรือทำอะไรได้
“ดีขึ้นมั้ยคะ”
ลลิสาถามพลางเอี้ยวตัวมาด้านข้างก่อนจะหอมแก้มสากไปเบาๆอย่างแสนรัก ในขณะที่ชายหนุ่มยิ้มบางๆนึกเอ็นดูแม่สาวขี้อ้อนคนนี้ไม่น้อย
“ดีขึ้นแล้ว ขอบคุณนะครับลิซ่า”
หญิงสาวส่งยิ้มให้เขา ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้หวังได้ลิ้มชิมรสริมฝีปากหยักสวยของชายหนุ่ม หากแต่ก็ต้องชะงักไปราวกับเห็นภาพซ้อนของใครบางคน คนที่เขานึกเท่าไหร่ก็ไม่ออก มือหนาจับไหล่มนให้หยุดเข้าหาตนทันที
ลลิสาหน้าเสียทันที ก่อนจะผละออกมาพลางพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย “วายุรังเกียจลิซ่ามากหรอคะ เราคบกันมาสามปีแล้วนะ อย่าว่าแต่ความสัมพันธ์ทางกายเลย แค่จูบคุณยังไม่เคยให้ลิซ่าสักครั้ง”
“ไม่.. ไม่ใช่หรอกลิซ่า ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่.. โธ่โว้ย!”
เสียงทุ้มพูดออกมาอย่างสับสน สบถดังลั่นเมื่อไม่เขาใจว่าตนเองเป็นอะไรกันแน่ ฝั่งลลิสาเมื่อเห็นคนรักหนุ่มมีอาการเครียด หญิงสาวพลันรีบโอบกอดทันที
“วายุ ไม่เป็นไรนะคะ ลิซ่ารอคุณได้เสมอ”
ภาพเบื้องหน้าทำให้มายาถึงกับน้ำตาไหลอาบแก้ม เมื่อสิ่งที่เห็นคือคนทั้งสองจูบและกอดกัน มือเล็กปาดน้ำตาออก พลันปรับสีหน้าให้ยิ้มออกมา ว่าไปเธอก็ควรจะทำใจให้ชินกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้แล้ว เพราะมันเหมือนกับดูวีดีโอซ้ำไปซ้ำมา นานจนชินชาไปเสียแล้ว
ร่างระหงของหญิงสาวอีกคนแทรกกายผ่านประตูเข้ามา ในมือถือกล่องอาหารขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ใบหน้าไม่ได้แต่งแต้มเครื่องสำอางใดๆแต่กลับสวยหวานอย่างลงตัว เธอเดินมาหยุดอยู่ที่โซฟาราคาแพงของวายุ ก่อนจะยกยิ้มบางๆแล้ววางของที่นำมาให้ลง
ใบหน้าหล่อเหลาจ้องผู้มาใหม่ ความเงียบแผ่กระจายไปทั่วห้อง คิ้วหนาขมวดอย่างหงุดหงิดที่มีบุคคลที่สามเข้ามา โดยเฉพาะบุคคลที่สาม คือ หญิงสาวที่มาใหม่ตรงหน้า
ชีวิตของ วายุ วินเชสเตอร์ หนุ่มลูกครึ่งไทย-บราซิล เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์รูปหล่อที่ใครๆต่างพากันขยาด กลับมีหญิงสาวเข้ามาติดพันถึงสองคน
หนึ่งคือคนรักที่แสนดี..
อีกหนึ่ง คือหญิงสาวที่แสนน่ารำคาญ ไม่ว่าจะทำอย่างไร เธอก็ไม่หายไปจากชีวิตเขาเสียที...
“มาทำไม?”
“ฉันได้ยินว่าวันนี้คุณมาสาย เลยคิดว่าคุณน่าจะป่วย ก็เลยของบำรุงมาให้น่ะค่ะ”
เธอพูดออกมาดั่งที่คิด เพราะปรกติคนบ้างานเช่นวายุไม่เคยตื่นสายหรือยอมเสียเวลางานไปกับเรื่องไร้สาระแน่ๆ
กล่องถูกวางลงบนโต๊ะ ก่อนหญิงสาวเจ้าของนัยน์ตาสีมรกตจะจ้องมองไปที่ชายหนุ่ม ดวงตาสั่นไหวเพียงนิดด้วยเศร้ากับภาพเบื้องหน้า
“ลิซ่า คุณออกไปก่อน”
เขาพูดพลางยิ้มให้คนรัก ในขณะที่เธอก็พยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย ลลิสาส่งยิ้มให้หญิงสาวผู้มาใหม่อย่างอ่อนโยน ก่อนจะเดินออกไปจากห้องทันที
“ฉันไม่ได้ต้องการของพวกนี้ เอากลับไปซะ!!”
เสียงทุ้มเอ่ยออกมาดังลั่นเพราะมั่นใจว่าห้องนั้นเก็บเสียง ยังผลให้มายาถึงกับผงะ ดวงตาวูบไหวอย่างเศร้าสร้อยที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไร หรือพยายามแค่ไหน เขาก็ไม่เคยเห็นคุณค่า
“คุณควรจะทานมันเสียหน่อย สักนิดก็ยังดี”
“เธอไม่ใช่เจ้าชีวิตฉัน กลับไปพร้อมกับไอ้กล่องบ้าๆนี่ด้วย กลับไปซะ!”
เขาออกปากไล่เธออีกครั้ง น้ำใสๆคลอขอบดวงตากลมโต ทว่ากลับไม่ไหลออกมาแม้เพียงนิด มายายกยิ้มขึ้น ก่อนจะเอ่ยออกมาเบาๆด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“คุณอาจจะยังไม่หิว ฉันจะกลับไปทำงานแล้วล่ะ คุณไม่ต้องไล่หรอกค่ะ”
เธอพูดอย่างอ้อนวอน ใบหน้าสวยหวานราวกับนางฟ้าทว่าแฝงไปด้วยความเศร้าทำให้วายุนึกรู้สึกผิด ทว่าเขาก็เลือกที่จะพูดจาใจร้ายกับเธอ
ผู้หญิงที่มีใบหน้าสวยหวาน ทว่าใจกลับโสมม รู้ทั้งรู้ว่าเขามีคนรักอยู่แล้วยังจะพยายามแทรกตนมาเป็นมือที่สาม!
“ออกไปก่อนที่ฉันจะหงุดหงิดกว่านี้ วันนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ!”
เขายังคงพูดจาไม่ไว้หน้า หัวใจของมายาตกไปอยู่ที่ปลายเท้า เจ็บราวมีใครเอามามีดมากรีดก้อนเนื้อที่อกด้านซ้าย ทว่าเธอก็ยังคงไม่โกรธเขา แต่เลือกที่จะยิ้มและเดินออกไปแต่โดยดี
วายุพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ มายา... หญิงสาวนัยน์ตาแสนสวย ทว่านิสัยกลับแสนแปลก ไม่ว่าเขาจะพูดจาใจร้ายกับเธอแค่ไหน มายาก็เลือกที่จะทนและพยายามทำดีกับเขาต่อ
เธอทำเช่นนี้มาสามปีแล้ว...
สำหรับวายุมันเป็นปัญหาใหญ่ หากเธอมาในมาดของนางร้ายมากกว่านี้ เขาอาจจะไม่รู้สึกผิดใดๆเวลาต่อว่าไป ทว่าเธอกลับมาเงียบๆ ราวกับขอแค่ได้ดูแลเขาก็เพียงพอแล้ว แม้จะไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเลย นั่นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกผิดที่ต้องพูดจาใจร้ายกับเธอเสมอ
หากตนเจอมายาก่อนลลิสา เขาก็คงต้องยอมรับว่า ตนคงหลงรักเธอได้ไม่ยาก แต่นี่ตนมีหญิงสาวคนรักผู้แสนดีที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้ ไม่มีทางที่เขาจะไปเลือกมายา หญิงสาวจิตใจโสมมที่ต่อหน้าทำใสซื่อ แต่ลับหลังจะร้ายกาจขนาดไหนเขาก็ไม่อาจหยั่งรู้ได้
ประตูห้องถูกเปิดออกอีกครั้ง ร่างระหงในชุดเดรสสั้นสีชมพูเดินนวยนาดเข้ามาในห้อง พลันหยุดนั่งลงที่ตักแกร่งแล้วซบอกของชายหนุ่มทันที
“เธอมาทำอะไรหรอคะ”
“ไม่รู้สิ ไม่เห็นจะต้องสนใจ”
สิ้นเสียงเขาก็กอดคนในอ้อมแขนแน่น ทว่ากลับไม่ได้ฟังหญิงสาวพูดแม้เพียงนิด แต่ในใจกลับตวัดคิดไปถึงหญิงสาวดวงตาสีมรกต เจ้าของข้าวกล่องที่เขาตราหน้าว่าเธอร้ายกาจ ไม่อาจจะสลับใบหน้าแสนเศร้าของมายาออกไปจากในหัวได้แม้เพียงนิด
ความคิดเห็น