คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 2 [50%]
บทที่ 2
กงล้อแห่งชะตากรรมค่อยๆหมุนอีกครั้ง…
ไม่ว่าจะวิ่งหนีเท่าไหร่ก็ไม่อาจจะรอดพ้น…
ตัวตนที่เปรียบเสมือนตุ๊กตา กลางหลังราวกับมีเส้นด้ายบางๆที่มองไม่เห็น….
ไม่ว่าจะกรีดร้องออกมาอย่างไร ทุกอย่างก็ยังคงดำเนินต่อไปราวกับเทพเจ้าเห็นเป็นเรื่องสนุก...
สายลมเอื่อยๆพัดเข้ามาภายในห้องนอนของชายหนุ่ม กลิ่นดอกไม้นานาพรรณส่งกลิ่นหอมจรรโลงใจให้แก่ผู้คนที่ยืนมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม ทว่ากลิ่นดอกไม้ที่ว่าหอมนั้นยังไม่น่าดอมดมเท่ากับกลิ่นกายหอมอ่อนๆของหญิงสาวเสียด้วยซ้ำไป
สมุดจดขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กนักถูกยื่นไปตรงหน้าของหญิงสาว หน้าปกของสมุดไร้ลวดลายใดๆจนคนให้ยังอดนึกสมเพชตนไม่ได้ทีไม่สามารถหาสิ่งที่ดีกวานี้ให้แก่เพื่อนคนแรกในชีวิตของตนได้
ทว่านัยน์ตาสีมรกตกลับลุกวาวราวได้ของที่ถูกใจ มือเล็กๆเอื้อมไปรับสมุดสีน้ำตาลมากอดไว้แนบอกประดุจมันคือของสำคัญ
“ขอบใจนะ”
“ขอโทษนะ ความจริงฉันอยากจะให้อย่างอื่นมากกว่า แต่..”
เขาพูดออกมาอย่างสมเพชตน รู้สึกไม่ดีนักที่ไม่สามารถมอบสิ่งของหรือเครื่องประดับสวยงามที่น่าจะเหมาะกับผู้หญิง หรือของที่สื่อความหมายดีๆได้ หากแต่หญิงสาวกลับยิ้มออกมา กอดสมุดของเขาเอาไว้แน่นทั้งยังขอบคุณเขาที่มอบของขวัญชิ้นแรกให้แก่เธอ
“ข้าดีใจมากที่ได้รับของสิ่งนี้มา ทั้งที่เราเพิ่งจะได้พบกันเพียงครั้งเดียว แต่เจ้ากลับนึกถึงข้า เจ้าช่างเป็นบุรุษที่มีน้ำใจเหลือเกิน แต่รู้ไหม... สำหรับข้าแล้ว ของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตของข้า คือการที่ได้เจอเจ้าต่างหากล่ะ”
คำพูดและน้ำเสียงที่หลุดออกมาทำให้เขานิ่งอึ่ง เธอไม่ได้แค่พูดไปโดยไม่สนใจแน่ๆ ดวงตาสีมรกตและแววตานั่นช่างใสซื่อและบริสุทธิ์เกินกว่าจะหลอกลวง ปากเล็กขยับพูดอีกครั้งหลังจากยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน
“ข้าไม่มีของขวัญจะให้เจ้ากลับเสียด้วยซ้ำไป นี่สิควรขอโทษมากกว่า”
“อย่าคิดมากเลย ฉันแค่อยากให้กับมิตรภาพครั้งแรกของเรา”
เขาพูดพลางอมยิ้มออกมาเมื่อเธอไม่ได้รังเกียจเขา ไม่ได้รังเกียจของขวัญที่เขาให้สักนิด หากแต่กอดมันแน่นและยังหวงแหนมันน่าดู
“ดีใจที่เธอชอบนะ”
“หนังสือเล่มนี้ ข้าจะตั้งชื่อให้แก่มันด้วย จากนั้นข้ากับเจ้าก็สลับกันเขียน ข้าเขียน เจ้าอ่าน หากเจ้าเขียน ข้าก็จะอ่าน”
“อืม”
แม้จะเป็นคำตอบสั้นๆ หากแต่มุมปากหยักกลับยกยิ้มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว รู้สึกดีที่ในที่สุดชีวิตที่เคยเงียบเหงา รังแต่จะรอความตายให้คืบคลานเข้ามาเริ่มมีแสงสว่าง เวลานี้เริ่มรู้สึกว่าตนมีค่าและรู้สึกอยากมีชีวิตต่อ
นิ้วชี้เรียวจิ้มลงไปบนสมุดสีน้ำตาลเข้ม พลันค่อยๆลากนิ้วไปมาราวกับเพิ่มลวดลายให้แก่สมุด ส่วนไหนที่เธอลากผ่านจะมีปรากฏเส้นสีเขียวขึ้นมา กลางเล่มมีชื่อที่เป็นลายมือของหญิงสาว และนามของมันคือ
‘....’
นัยน์ตาสีนิลของผู้เฝ้ามองพินิจพิเคราะห์และพยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วว่าเหตุใดตนถึงอ่านหนังสือเล่มนี้ไม่ออก แม้จะไม่อยากยอมรับนักว่าตนกำลังถูกดึงเข้าสู่เรื่องลี้ลับ หากแต่เขาก็ยอมรับเลยว่า เขาสนใจเรื่องเบื้องหน้านี้มากๆ
คนป่วยตกตะลึงกับลายเส้นที่เธอใช้เขียนชื่อหนังสือ ในขณะที่แม่ร่างบางยิ้มแป้นออกมาแล้วเอ่ยต่อ
“สวยใช่ไหมละ ข้าตั้งชื่อหนังสือเล่มนี้ตามชื่อของเจ้าและข้า ต่อแต่นี้หนังสือเล่มนี้เป็นทั้งของเจ้าและของข้า ตกลงนะ”
ผู้เฝ้ามองจับตาดูทุกอย่างโดยไม่ละสายตา หญิงสาวแสนดีที่ไม่เสแสร้งอะไรทำให้เขานึกประทับใจ เป็นไปได้ก็อยากจะเข้าไปทำความรู้จักกับเธออีกคนด้วยซ้ำไป หากเพราะในโลกแห่งนี้เขาไร้ตัวตน คงทำได้แค่เฝ้ามองดูทุกอย่าง แม้จะไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดก็เถอะ
พลันร่างกายกลับรู้สึกเหมือนโดนดึงกลับอย่างรุนแรง ทุกอย่างดำดิ่งสู่ห้วงเวลาแห่งความเป็นจริง ก่อนดวงตาที่ปิดสนิทจะเปิดออกเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังลั่นห้อง เขาสบถออกมาเบาๆเมื่อรู้ว่าตนฝันไป แต่มันกลับเป็นฝันที่แปลกประหลาดที่สุดตั้งแต่มีชีวิตมา
เขามองนาฬิกาและพบว่ามันเป็นเวลาแปดโมงกว่าแล้ว เขาหาวหวอดๆออกมาพลางเด้งตัวลุกไปอาบน้ำอย่างไม่ใคร่สนใจนักที่ตนจะไปสายสักวัน
ร่างสูงกำยำเดินออกมาแต่งตัวพลันครุ่นคิดเกี่ยวกับหนังสือที่อ่าน นัยน์ตาสีนิลเหลือบมองนาฬิกาในขณะที่มือหนาผูกเนคไทด์เสร็จพอดี ชายหนุ่มเตรียมเดินออกจากห้อง หากแต่มีอะไรบางอย่างให้เขาเหลือบมองหนังสือที่ถูกวางไว้กลางเตียง
วายุถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินไปหยิบมันขึ้นมาติดตัวไว้ เขาส่ายหัวไปมาเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกไปจากห้องและปิดประตูลงเบาๆ
‘เอาเถอะ คิดซะว่าเอาไว้อ่านแก้เซ็งอีกที’
*****************************************************************************************
สวัสดีค่า สริมนคนเดิมเองค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกงุนงงกันบ้างไหมคะ เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย
จะถูกใจใครบ้างไหม คงต้องรออีกสักระยะ เพื่อถามไถ่
ทว่าหากมีใครสักคนที่ชอบใจ ก็คงดีใจมากมายเลยค่ะ
ฝากละครเวทีโรงเล็กที่เปิดม่านไปแล้วเรื่องนี้ด้วยนะคะ
รักค่ะ
สริมน
^_^
ความคิดเห็น