ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สะกิดรักหัวใจ ยัยไฮโซตกกระป๋อง

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 1 ธ.ค. 50



    ตอนที่ 3

                   

    แพรหยุดเรียนไปหลายวัน เพราะอาการเจ็บที่เท้า กว่าจะมาเรียนได้ก็ปาเข้าไปวันที่สี่ แม้หมอจะสั่งให้เธอพักรักษาตัวหนึ่งอาทิตย์ แต่เธอรู้สึกไม่สบายใจที่ต้องหยุดเรียนตั้งแต่เปิดภาคเรียนแรก ดั้นด้นดื้อดึงจะมา ก้องและสัน พาเธอมาส่งที่คณะ เธอยังต้องใช้ไม้เท้าค้ำยัน

    แน่ใจนะว่าไหวสันพูดขึ้นเมื่อมองดูเธอ พยายามจะออกจากแท็กซี่ใช้ไม้เท้าพยุงตัวโดยมีก้องพยุงอยู่ด้านข้าง

    นั้นนะสิ บอกให้พักก็ไม่เชื่อ แรกๆมหาลัยเขายังไม่เริ่มสอนอะไรมากนักหรอก เธอมาตามจดเอาที่หลังก็ได้ก้องเสริมสีหน้ายุ่งๆ เขาเพิ่งจะทะเลาะกับเธอมาเมื่อเช้านี้ เพราะไม่เห็นด้วยที่เธอจะมาเรียนในสภาพแบบนี้ แต่แพรดื้อดึงจะมาให้ได้ เขาเลยต้องยอมเธอ

    พวกเธอจะบ่นอะไรกันหนักหนา บอกว่าไหวก็ไหวสิ..  สันเอากระเป๋าฉันออกมาด้วย

    เธอบอกอย่างเริ่มหงุดหงิด พร้อมสั่งให้สันเอากระเป๋าสะพายของเธอที่เบาะรถมาให้ด้วย

    ด้ายเลยคร๊าบเจ้าแม่.สันมีสีหน้าเหยียดๆ รับเสียงยาน ได้ทีล่ะใช้ใหญ่เลยนะ

    แพรและก้องต่างส่งเสียงหัวเราะลืมเรื่องหงุดหงิดไปเลย แพรไม่เคยใช้ให้สันอะไรได้เลย เพราะไอ้หมอนี่ไม่ยอมทำอะไรให้เธอ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก้องรับกระเป๋าของแพรมาต่อจากสัน เปิดออกก่อนค่อยล้วงเอายาของเธอจากกระเป๋าเสื้อของตัวเองใส่ลงไป จากนั้นส่งต่อไปให้แพร

    เอ้า.. แล้วอย่าลืมกินยาล่ะ ฉันต้องไปแล้ว เดี๋ยวสาย

    รู้แล้วน่าแพรขมวดคิ้วรับเสียงอู้อี้ในลำคอ รับกระเป๋ามา

    ขณะที่ทั้งสามคนจะแยกจากกัน รถเบนซ์สปอร์ต เจ้ากรรมคันเดิมพลันวิ่งโฉบเข้ามายังที่จอดรถหน้าคณะ แพร ก้อง และสัน ต้องหยุดมองตาม ธานุพันธ์เมื่อก้าวลงจากรถ แพรกลัวว่าจะมีเรื่องกันอีก ต้องรีบไล่ให้ก้องและสันรีบกลับไปยังคณะของตัวเอง

    ก้องและธานุพันธ์เดินสวนกัน ต่างก็มองเขม่นกันแวบหนึ่ง ก่อนจะผ่านเลยไป ทั้งสองตัวสูงสูสีไล่เลี่ยกัน ก้องจะสูงกว่านิดหน่อย แต่ก็นับว่าเป็นคู่มวยที่พอฟัดพอเหวี่ยง แพรต้องลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อเห็นทั้งสองคนไม่คิดทำอะไรต่อกัน

    ธานุพันธ์ก้าวตามหลังแพรขึ้นบันไดของคณะ เห็นเธอใช้ไม้เท้าพยุงเดินกระด๊อก กระแด๊ก อย่างยากลำบาก อดไม่ได้ที่ต้องพูดขึ้น

    หมอเขาบอกให้เธอ พักหนึ่งอาทิตย์ไม่ใช่เหรอ แล้วนี่มาทำอะไร

    แพรเหลือบมองแบบค้อนๆ ไม่ได้ตอบ กระด๊อก กระแด๊ก ขึ้นบันไดต่อไป ธานุพันธ์ต้องมองเธออย่างรำคาญใจมานี่ ให้ฉันช่วยเธอเองเขาบอกพร้อมเข้าพยุงตัวเธอ ที่ด้านหลังกลับมีเสียงนักศึกษาหญิงที่ตามเข้ามาในคณะ ซุบซิบนินทา

    ฉันว่าแล้ว คู่นี้ต้องมีอะไรกันแน่ๆ วันก่อนเห็นอุ้มขึ้นรถ วันนี้ยังประคองกันมาด้วยกันอีก สงสัยเป็นแฟนกันแน่ๆ

    จริงเหรอ เสียดายจังพี่นุจะมีแฟนแล้วเหรอเนี่ย

    นักศึกษาที่วิพากษ์วิจารณ์ ยืนจับกลุ่มกันไม่ไกล จนแพรรู้สึกอายเล็กๆ ขยับตัวออกจากการพยุงของเขา แต่เพราะเธอขยับแรงไปหน่อย ทำให้เหยียบบันไดพลาด ทำท่าจะตกบันไดลงไป ธานุพันธ์รีบดึงร่างเธอเอาไว้รั้งตัวเธอเข้ามา คราวนี้เรียกว่าแทบเป็นกอดกันจริงๆ  ความตกใจทำให้แพรไม่ได้ขยับตัว อยู่ในอ้อมกอดของเขา จ้องมองเขานิ่ง จากนั้นหน้ากลับแดงขึ้น

                นั่นไงฉันว่าแล้วเสียงนักศึกษาหญิงอีกคนหนึ่งร้อง ชี้นิ้วให้ดู พร้อมอีกหลายคนที่ร้องกรี๊ดอย่างไม่เชื่อสายตา

                    นี่พวกเธอไม่เห็นหรือว่าเขาเจ็บอยู่  ฉันก็แค่ช่วยประคอง พวกเธอว่างจนไม่มีอะไรทำหรือไง ถึงมายืนซุบซิบนินทาคนอื่นอยู่ได้ พูดกันแบบนี่ไม่คิดเหรอผู้หญิงคนนี่เขาจะเสียหายธานุพันธ์หันไปตะคอกใส่ กลุ่มชะนีทั้งหลายแหล่ เรื่องนิสัยเจ้าอารมณ์ ขี้หงุดหงิดของธานุพันธ์ เป็นที่รู้กันดี แต่เขาก็ยังมีเสน่ห์ดึงดูดใจสาวๆ แม้แต่ดุก็ยังหล่อ สาวๆบางคนคิด

                    ไปเถอะ ฉันจะพาเธอไปส่งธานุพันธ์หันไปบอกแพรเบาๆ โดยไม่สนใจเสียงวิจารณ์ที่ดังตามหลังมา คำพูดของเขาที่ดูเหมือนจะปกป้องเธอ ทำให้ใจเธอหวิวลอยไปไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ให้เขาพยุงตัวขึ้นบันไดไปส่งถึงห้องเรียนที่คณะ คิดในใจว่า หมอนี่ก็มีส่วนดีเหมือนกันแฮะ

                   

                    เรื่องของแพรและธานุพันธ์เริ่มเป็นเรื่องเม้าท์กันทั่วคณะบริหาร ข่าวลือที่ว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกันเริ่มแพร่สะพัดออกไป  ทั้งที่ในตอนหลังเขาสองคนแทบไม่ได้เจอหน้ากันเลย ที่พบกันครั้งสุดท้ายรู้สึกจะเป็นตอนที่ ธานุพันธ์พาแพรไปถอดเฝือก ตามความรับผิดชอบในฐานะเจ้าของคนไข้ โดยมีก้องและสันไปเป็นเพื่อน และยังนัดเพื่อนของเขาที่เป็นคนขับรถเฉี่ยวเธอ ตามไปขอโทษที่โรงพยาบาลด้วย เพื่อจะได้จบปัญหาทั้งหมด ทำให้แพรรู้ว่าเขาไม่ได้เป็นคนขับรถเฉี่ยวเธอจริงๆ ก้องเลยต้องไปขอโทษที่ไปต่อยหน้าเขา

    แต่ก็บังเอิญอีกนั่นแหละ ที่มีคนเห็นธานุพันธ์พาแพรขึ้นรถโดยไม่เห็นก้องกับสันที่ตามไปทีหลัง ทำให้เป็นเรื่องเม้าท์กันต่อไปอีก แพรจึงเริ่มเป็นจุดสนใจของนักศึกษาคนอื่นๆ ที่เฝ้าคอยมาถามเธอ แต่เธอก็ต้องปฏิเสธทุกครั้ง

    พักหลังดูธานุพันธ์ซึมๆเงียบๆ เหมือนมีเรื่องกลุ่มใจกับตัวเอง บางครั้งเดินผ่านแพรที่คณะ ก็ไม่ได้ทัก ใจลอยเหมือนมองไม่เห็น มันทำให้แพรกระวายใจอย่างประหลาดเหมือนมีอะไรค้างคาในใจ คิดจะเข้าไปถามให้หายข้องใจแต่ก็ไม่กล้า

    จนวันหนึ่งแพรมีเรื่องที่จะต้องให้พี่รหัสช่วยในการติวการสอนที่ใกล้จะสอบเอาคะแนนเก็บ และพี่รหัสของเธอก็คือนายธานุพันธ์ ความจริงเธอก็ไม่คิดจะให้เขาช่วย แต่คนอื่นๆ เริ่มเข้าหาพี่รหัสให้ช่วยติวหนังสือกันแล้ว เพื่อหวังเก็บคะแนนไว้ได้สูงๆ มันทำให้เธอนึกกลัวว่า คะแนนของเธอจะออกมาไม่ดีจนสอบไม่ผ่าน บางครั้งเธอคิดจะเข้ากลุ่มกับเพื่อนในคณะเพื่อขอติวด้วย แต่ก็ได้รับการตอบกลับมาว่า

    เธอก็มีพี่รหัส ไม่ใช่เหรอ ทำไม่ไม่ให้เขาติวให้ล่ะแม้พวกเขาจะบอกเธอยิ้มๆ แต่ก็แฝงไว้ด้วยความริษยา

    ส่วนก้องและสันช่วยเหลือเธอในเรื่องนี้ไม่ได้แน่นอน เพราะเรียนอยู่กันคนล่ะคณะ และทั้งสองคนต่างก็วุ่นวายกับการเรียนของตัวเอง นั่นแหละแพรถึงต้องหอบหนังสือบัญชีปึกเบ้อเร่อ เดินเก้ๆกังๆ มองหาธานุพันธ์ไปตามคณะ ก่อนจะพบเขานอนทอดตัวอยู่บนม้าหินหลังคณะที่เงียบสงบ เอามือก่ายหน้าผาก สีหน้าเหมือนมีเรื่องคิดไม่ตก

    แพรขยับเข้าไปใกล้ แกล้งทำเป็นเดินเสียงดัง หวังให้เขารู้สึกตัวและมองเห็นเธอ ธานุพันธ์ เห็นเธอจริงๆ เพียงแต่เหลือบมองแค่แวบเดียว ไม่ได้ทัก เหมือนกับเขาไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน แพรนึกโมโหอยู่ในใจ ต้องกระแอม เป็นเชิงจะทักทาย เหมือนมีเรื่องจะคุยด้วย

    มีอะไรธานุพันธ์เอ่ยขึ้นห้วนๆ พร้อมกับปลายตามองเธอ แต่เมื่อเห็นหนังสือที่เธอหอบมาก็พอจะเดาออก นี่ถือเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายสำหรับเขา เขาไม่คิดว่าแพรจะขอให้เขาช่วยติวให้ เรื่องสอบเก็บคะแนนเหรอเขาพูดต่อพร้อมดันตัวลุกขึ้นนั่ง

    พี่รหัสคนอื่นๆ เขาเริ่มจะติวสอนให้รุ่นน้อง แต่พี่รหัสฉันไม่รู้ทำอะไรอยู่แพรพูดเปรย เหมือนพูดกับอากาศ มีอากาศค้อนเล็กน้อย ธานุพันธ์มองเธอนิ่ง ก่อนจะขยับดูนาฬิกา ดูว่าตัวเองมีเวลามากน้อยแค่ไหน

    นั่งสิเขาพูดเสียงเรียบๆ เรียกให้เธอนั่ง แพรวางท่าอยู่พักหนึ่งแต่ก็นั่งลง วางหนังสือลงบนโต๊ะหิน ธานุพันธ์ขอดูรายการวิชาที่จะสอบ เปิดหนังสือที่เธอหอบมา ถามถึงการเรียนของเธอ ครั้งนี้ดูเขาแปลกกว่าทุกครั้ง เขาดูเงียบเฉย พูดเรียบๆ ไม่เอ็ดเสียงดังเหมือนที่ผ่านมา มันทำให้แพรรู้สึกประหลาดใจ ทั้งคู่นอกจากการเรียนแล้วไม่ได้พูดถึงเรื่องอื่นเลย ธานุพันธ์พลิกหนังสือหลายเล่ม ใช้ปากกาขีดเส้นใต้บทความที่สำคัญเอาไว้ เขาทำได้เร็วและตรงประเด็น อธิบายให้แพรเข้าใจได้ง่ายๆสั้นๆ จนทำให้แพรทึ่ง ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนฉลาดและเรียนเก่งขนาดนี้

    ที่จะออกข้อสอบ ก็ประมาณนี้แหละ เธอมีอะไรอีกมั๊ยธานุพันธ์สรุปพร้อมกับถามเธอ แพรดูเขาจนอึ้งไป แทบไม่ได้ฟังที่เขาพูด กว่าจะนึกได้ว่าเขาถามอะไรเธอ ต้องรีบตอบกลับไป

    มะ..ไม่มี

    ก็ดี งั้นคงหมดธุระแล้วมั้ง?ธานุพันธ์เปรยถามตัดบท แพรเงียบไปพักหนึ่งไม่ได้ลุกขึ้น ก่อนตัดสินใจลองถามดู

    นี่คุณ มีเรื่องกลุ้มใจเหรอ คงไม่ใช่เรื่องข่าวลือที่เราเป็นแฟนกันหรอกนะ

    ธานุพันธ์ ได้ฟังถึงกับแสยะยิ้ม พูดเหมือนจะขำ

                    นี่ คิดว่าฉัน จะมานั่งกลุ้มใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่องหรือไงเขาเริ่มจะมีท่าทีพูดจากลับมาเป็นคนเก่า

                    แล้วทำไมพักนี้คุณดูแปลกๆแพรถามอีก

                    ฉันก็เป็นของฉันอย่างงี้ แล้วมันเรื่องอะไรของเธอธานุพันธ์ตอบอย่างเสียมิได้ แพรถูกย้อนกลับมาทำให้เธอนึกฉุน นั่นสินะแล้วมันเรื่องอะไรของเรา รีบเก็บรวบรวมหนังสือทำท่าจะลุกขึ้น

                    ระหว่างที่ธานุพันธ์มองดูเธอมีอารมณ์กึ่งฉุน กุลีกุจอเก็บหนังสือ กลับมีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวสมอง เขาคิดจนนิ่งมองดูเธอ ก่อนจะเอ่ยขึ้นเปรยๆ

                นี่ เธอดูไปก็ไม่เลวนะ

                ห๊ะ..คำพูดของธานุพันธ์ ทำเอาเธออุทานตกใจ เหมือนไม่เชื่อหู คุณว่าอะไรนะแพรรีบถามกลับ มีสีหน้าฉงนจนบอกไม่ถูก

                    ฉันว่าเธอดูไปก็สวยดี เรามาเป็นแฟนกันมั๊ย

                ตุ๊บ ! หนังสือในมือของแพรตกลงพื้น

                    ทะ..ที่พูด นี่หมายความว่ายังไงเธอมีอาการติดอ่างกะทันหัน

                    คืองี้ธานุพันธ์ขยับตัวตั้งต้นเริ่มอธิบาย

                ที่บ้านจะให้ฉันแต่งงาน โดยให้หมั่นกับผุ้หญิงคนหนึ่ง ฉันยังไม่อยากจะแต่งตอนนี้ ก็เลยคิดว่าถ้าฉันมีแฟนเป็นตัวเป็นตน ไม่แน่ว่าพ่อฉันอาจจะเปลี่ยนใจ ฉันเลยคิดว่าจะหาแฟนสักคนไปหลอกพ่อของฉัน

                ไปหลอกคุณพ่อของคุณ ก็หมายความว่าเป็นแฟนหลอกๆนะสิแพรขมวดคิ้วถามย้ำ

                    ใช่ เพราะตอนนี้ข่าวลือที่ว่าเราเป็นแฟนกัน ก็หนาหู มันจะช่วยได้เยอะ  พ่อฉันต้องเชื่อแน่ๆธานุพันธ์พูดยิ้มๆ นัยน์ตามาดมั่น เหมือนจะเชื่อมั่นในแผนการของตัวเองที่คิดขึ้น

                    ประสาทหรือป่าว ฉันไม่เอาด้วยหรอกแพรบอกอย่างงอนๆ น้ำเสียงแฝงความผิดหวังเล็กน้อย รีบเก็บหนังสือที่ตก ทำท่าจะรีบไป ธานุพันธ์กลับคว้าข้อมือเอาไว้ก่อน

                    นี่ฉันไม่ได้ให้เธอทำป่าวๆนะ ฉันจะจ้างเธอด้วย

                คิดว่าฉันเป็นคนเห็นแก่เงินหรือไงแพรกระชากเสียง พลางสะบัดข้อมือให้หลุด รีบหันตัวเดินออกไป

                    สามแสน! สามแสนสำหรับงานนี้ธานุพันธ์ตะโกนไล่หลัง มันทำให้แพรต้องชะงักเท้า ธานุพันธ์รู้โดยทันทีว่าเธอเริ่มลังเล ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงเห็นแก่เงิน แต่ว่าฉันหาทางออกไม่ได้จริงๆ เลยต้องให้เธอช่วย เพื่อนเธอต่อยฉัน ฉันยังไม่เอาเรื่องเลย เธอจะช่วยฉันหน่อยไม่ได้เหรอไง ฉันไม่อยากแต่งงานกับคนที่ฉันไม่ชอบหรอกนะเขาพูดต่อ ที่แรกแพรหันกลับมา คิดจะตวาดแว้ดใส่เขา แต่เมื่อฟังประโยคสุดท้ายพร้อมกับเห็นนัยน์ตาที่ดูอ้อนวอนและน่าสงสาร ทำให้เธอต้องเปลี่ยนใจ มองดูเขานิ่ง ท่าทีของธานุพันธ์ไม่เหลือความหยิ่งที่เขามักแสดงต่อเธออีก แพรถอนหายใจยาวเหมือนยากจะตัดสินใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบาๆ

                    ฉันขอคิดดูก่อนเธอพูดแค่นี้ก็หันตัวเดินออกไป

                   

                    เย็นวันนั้นเธอนั่งรถประจำทางกลับบ้านพร้อมกับสัน ด้วยจิตใจที่เหม่อลอยเหมือนมีเรื่องให้คิด ส่วนก้องนั้นแยกไปกับรุ่นพี่ที่คณะ สันเหลือบดูแพรที่ใจลอย อยู่บ่อยๆ แต่เธอเหมือนไม่รู้สึกตัว จนสันอดไม่ได้ที่จะถาม

    คิดอะไรอยู่สันเปรยถามอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แพรเหมือนจะรู้สึกตัว หันกลับมา

    อ๋อ.. ป่าวไม่มีอะไร

    สันไม่ค่อยจะเชื่อที่เธอบอก ลักษณะของเธอบอกว่ามีเรื่องกลุ้มใจให้คิด แต่สันก็ขี้เกลียดถามมากความ ได้แต่ปล่อยเลยตามเลย หันไปมองสาวๆที่ขึ้นลงรถเมล์แทน

    เออนี่. .. ก้องไปทำอะไร เห็นกลับดึกทุกคืนแพรถามขึ้นเมื่อนึกถึงก้อง

    ก็ไม่มีอะไร แค่ก้องมันอยากทำงานพิเศษ พี่ป๋องพี่รหัสของมันก็เลยหางานให้ทำ

    งานอะไร ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องแพรมีทีท่าประหลาดใจอยากรู้ เมื่อนึกถึงก้องที่พักนี้เหมือนจะห่างเหินจากพวกเขา เพราะก้องมักจะไปพร้อมรุ่นพี่ที่คณะบ่อยๆ และจะกลับดึกมาก พอเธอถามก็จะไม่ค่อยตอบ เอาแต่ยิ้มๆ ทำให้เธอนึกขุ่นใจอยู่เหมือนกัน

    เห็นว่าเป็นงานต่อเติมภายในมั้ง พี่ป๋องเขากว้างขวางในแวดวงนี้ รู้จักคนเยอะพอดีรับจ๊อบได้งานหนึ่ง เลยเอาไอ้ก้องไปด้วย

    อ้าว แล้วทำไมก้องไม่ยอมบอกฉัน พอถามก็เอาแต่ยิ้ม ไม่ยอมบอก

    มันไม่อยากให้เธอรู้นะสิ จริงๆแล้วมันก็ไม่อยากให้ฉันบอกเธอเหมือนกันสันตอบยิ้มๆ

    ทำไมล่ะ เดี๋ยวนี้เธอสองคนเห็นฉันเป็นคนนอกหรือไงแพรขึ้นเสียงอย่างไม่สบอารมณ์  

                    อย่าโมโหไปหน่อยเลยน่า ใกล้ถึงวันเกิดเธอแล้วไม่ใช่เหรอ รอดูวันนั้นเอาก็แล้วกันสันตัดบทบอกอย่างอารมณ์ดี แต่มีลับลมคมนัยน์แฝงให้คิด มันทำให้แพรได้แต่จิ๊ปาก พูดไม่ออก เพราะรู้ว่าต่อให้เธอบีบคอคาดครั้นเอายังไง สันก็คงไม่ปริปากบอกถ้ามันไม่อยากบอก คิดในใจว่าอีตานี่สมกับที่เรียนนิติ จะเป็นทนายจริงๆ

    วันนี้มีแต่เรื่องให้เธอต้องได้คิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของก้องที่ไปทำงานพิเศษโดยไม่ยอมให้เธอรู้ เรื่องคำพูดของสันที่ทำให้เธออยากรู้ และก็เรื่องของธานุพันธ์ที่ทำให้เธอต้องคิดหนัก เธอต้องระบายลมหายใจอย่างหัวเสีย ขยับตัวกระแทกเบาะ โดยไม่พูดอะไรอีก

               
                                                                      @@@@@@@@@@@@

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×