ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สะกิดรักหัวใจ ยัยไฮโซตกกระป๋อง

    ลำดับตอนที่ #26 : ตอนที่ 26

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 51


                   

     

    รถแท็กซี่ เมื่อมาจอดถึงบ้าน ก้องไม่รีรอ รีบลงไปอย่างขึงขัง เดินจำพรวดๆ ตรงเข้าไปในบ้าน ทันทีที่เข้ามา เขาเห็นพิมพ์ดาราหลับอุตุอยู่บนโซฟา ยิ่งเพิ่มความโมโหยิ่งขึ้น

    พิมพ์ดารา !”ก้องเรียกเสียงดัง พร้อมกับไปคว้าแขนเธอฉุดให้ลุกขึ้น พิมพ์ดาราร้อง โอ้ย สีหน้าเจ็บปวด แต่ก้องไม่ได้สนใจ โวยใส่เสียงดัง

    เธอทำไมไม่มีความรับผิดชอบเลยหรือไง พอฉันไม่อยู่เธอก็ทิ้งงานเลยเหรอ ฉันผิดหวังกับเธอจริงๆ  -- เราต้องคุยกันหน่อยแล้ว

    พิมพ์ดาราโกรธจัด กระชากมือออกจากก้อง กุมตรงนิ้วที่เป็นแผล ก้องถึงได้สังเกตเห็นผ้าพันแผลที่นิ้ว สีหน้าขึงขังของเขาเปลี่ยนไป

    นั่นมือเธอไปโดนอะไรก้องถาม

    แต่พิมพ์ดารากลับไม่ตอบ มองเขาด้วยความโมโห

    เอามาดูหน่อยซิ

    ก้องบอก พร้อมจะไปจับมือเธอขึ้นมาดู พิมพ์ดารากลับเบี่ยงหลบ

    ไม่ต้องมายุ่งเลย ฉันจะเป็นอะไรมันเกี่ยวอะไรกับนาย

    จะไม่เกี่ยวได้ยังไง เธอเป็นลูกจ้างฉันนะ เร็วๆ เอามาดู

    พิมพ์ดาราดื้อเงียบ เชิดหน้าไม่สนใจ จนก้องต้องไปคว้าแขนของเธอเอง

    โอ้ย! จะทำอะไรฉันเจ็บนะ

    ก็อยู่เฉยๆ สิ ฉันจะดูแผลให้

    ก้องทำเสียงดุ แต่ก็ผ่อนแรงจับแขนของเธอเบาๆ เขาเปิดผ้าพันแผลออก และเห็นรอยคมมีดบาดนิ้วของเธอเป็นทางยาว แผลดูจะลึกไม่ใช่เล่น ก้องพอจะรู้แล้วทำไมเธอถึงทำงานต่อไม่ได้ รู้สึกสำนึกผิดที่มาต่อว่าเธอโดยไม่ถามก่อน

    ฉันว่าแล้ว ถ้าฉันไม่อยู่ เธอต้องเกิดเรื่องแน่ๆ สะเพร่าจริงๆ แล้วนี่ไปโดนอะไรมา

    ก้องบ่น แต่น้ำเสียงฟังดู นุ่มกว่าที่แรก พิมพ์ดาราต้องแสยะสีหน้าใส่เมื่อรู้ว่าก้องคงจะรู้สึกผิด พิมพ์ดาราได้ที เลยตีสีหน้าประชดอย่างยโส บอกสิ่งที่เธออย่างบอกออกมา

        ฉันเจ็บมือ เลยทำงานต่อไม่ได้ แต่นายกลับบอกว่าฉันหนีงานไม่รับผิดชอบ ใครกันแน่ที่ไม่รับผิดชอบ ทั้งที่นายทิ้งฉันให้ทำงานคนเดียว ตอนนี้ยังมาว่าฉันสะเพร่าอีกเหรอ ทุเรศสิ้นดี...

     นี่ เธอ..จะมากไปแล้วนะก้องกัดฟันบอก

    ทำไม จะไล่ฉันออกจากบ้านเหรอ

    พิมพ์ดาราสวนทันควัน หันมามองก้องเขม็ง ก้องแยกเขี้ยว ทำท่าจะเถียง แต่ก็เถียงไม่ออก และนึกเห็นใจเธออยู่เหมือนกัน

    เอาเถอะๆ ฉันผิดเอง ยกให้เธอวันหนึ่งก็แล้วกัน

    พิมพ์ดาราลอบยิ้มอย่างผู้ชนะ การที่เขายอมให้เธอ ทำให้เธอมีความสุขอย่างประหลาด

    แล้วนี่ เธอไปหาหมอมาหรือยัง

    คำถามนี้ทำเอารอยยิ้มพิมพ์ดาราแทบหุบยิ้มในทันที

    ไม่ต้องหรอก ฉันทำแผลแล้ว

    เธอบอกน้ำเสียงหวั่นๆ

    อะไรกัน แผลลึกขนาดนี้เธอจะมาทำแผลเองได้ยังไง ต้องให้หมอเย็บนะ แบบเนี้ย

    พอพูดถึงการเย็บแผล พิมพ์ดาราถึงกับหน้าซีด

    ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็หายมั้ง

    มันจะหายง่ายๆ ซะที่ไหนแผลแบบนี้ ไปฉันจะพาเธอไปหาหมอ

     ไม่นะ ฉันไม่ไปหาหมอ

    พิมพ์ดาราทำเสียงเหมือนจะร้องไห้ จนก้องนึกสงสัยว่าเธอกลัวอะไรกับหมอนักหนา หรือว่า

     อ๋อ  ...พิมพ์ดารา เธอกลัวเข็มใช่มั๊ยเนี่ยก้องนึกออก ยิ้มถามอย่างรู้ทัน

    พอพูดถึงเข็ม สีหน้าของพิมพ์ดาราแสดงออกมาอย่างชัดเจน ก้องหัวเราะขำขันที่รู้จุดอ่อนพิมพ์ดารา

    เธอกลัวเข็มจริงด้วยๆ ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนอย่างเธอจะกลัวเข็ม

      แล้วคนอย่างฉันกลัวเข็มไม่ได้หรือไง ให้ตายฉันก็ไม่ไปหาหมอ

    พิมพ์ดาราแย้งสวนทำท่าจะร้องไห้

    ไม่ได้หรอก ยังไง ฉันก็ต้องพาเธอไปหาหมอ ฉันเป็นนายจ้างเธอก็ต้องรับผิดชอบสิ

    พิมพ์ดารารู้แน่ๆว่าเธอจะต้องโดนเขาบังคับไป รีบลุกขึ้นหนีไปอีกฝั่งของห้อง ก้องกลับนึกสนุก ตามไปไล่จับตัวพิมพ์ดารา จะพาไปหาหมอให้ได้ เธอวิ่งหนีแทบจะรอบห้อง สุดท้ายถูกก้องรวบตัวอุ้มพาดบ่า แบกไปขึ้นรถ

    คนเลว ฉันจะฆ่านาย ปล่อยฉันลงนะ

    พิมพ์ดาราดิ้นอยู่บนบ่า ทุบหลังก้อง ดังปึกปัก ก้องกลับสนุกหัวเราะ แบกเธอไปขึ้นรถอย่างสะใจ  คิดว่าปกติเธอชอบหยิ่งยโสจนหน้าหมั่นไส้ แต่เวลากลัวอะไรขึ้นมา ก็แกล้งสนุกดีเหมือนกัน

     

    พิมพ์ดาราถูกจับไปหาหมอ เย็บแผลไปสี่เข็ม ฉีดยากันบาดทะยักอีกสามเข็ม สองตาแดงบวมเพราะกลัวจนร้องไห้ ในขากลับ ก้องขับรถนั่งขำเล็กขำน้อยมาตลอดทาง นึกถึงภาพ พิมพ์ดาราดิ้นอาละวาดจนเขาต้องจับให้หมอทำแผลกับฉีดยา ยังขำไม่หาย

    พิมพ์ดารา โมโหก้องจนไม่คุยด้วย พอกลับถึงบ้านก็ขึ้นห้องตัวเอง

    นี่ ที่ฉันพาไปหาหมอ เพราะฉันเป็นหวงเธอนะ จะมาโกรธอะไรเล่าก้องแหย่บอกยิ้มๆ ตามหลังพิมพ์ดาราที่กำลังขึ้นบันได เธอกลับหันมาแห้วใส่

    ไม่ต้องมาพูดเลย นายกะแกล้งฉันชัดๆ ฉีดกันบาดทะยักแค่เข็มเดียวก็พอ ทำไมให้หมอฉีดตั้งสามเข็ม

    พร้อมปิดกระแทกประตูดังปัง หายเข้าไปในห้อง

    เอ๊า ก็กันไปได้ตั้งหลายปี ไหนๆก็ฉีดแล้ว ก็ฉีดไปเลยทีเดียว คราวหลังก็ไม่ต้องไปฉีดอีก

    ก้องบ่นป่นหัวเราะ นึกเอ็นดูเธอขึ้นมา บางทีเธอก็ดูเหมือนเด็กๆ พิมพ์ดาราอยู่ในห้องได้ยินที่ก้องพูด กันไปได้ตั้งหลายปีหรือเขาอยากให้เธออยู่ที่นี่นานๆ

    บ้าที่สุด ฉันจะอยู่ที่นี่ได้ยังไง ฉันอยู่ไม่ได้หรอก -- ฉัน.. ฉันจะชอบนายไม่ได้

    พิมพ์ดาราบอกค้านกับหัวใจตัวเองเบาๆ

    วันรุ่งขึ้น ก้องออกไปทำงานคนเดียว โดยไม่ปลุกพิมพ์ดารา คิดให้เธอพักอยู่บ้าน ทิ้งโน้ตไว้บนโต๊ะกินข้าว

    ระวังแผลอย่าให้โดนน้ำ จะทำให้หายช้า ถ้าเป็นอะไรขึ้นมา ก็โทรหานะ อยู่ดูแลบ้านด้วย อย่าซนจนบ้านพังหละ

    ประสาท.. ใครจะไปซนจนบ้านพัง คิดว่าฉันเป็นคนปัญญาอ่อนหรือไงพิมพ์ดาราสบถเมื่อหยิบโน้ต ขึ้นมาอ่าน แล้วเธอก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อย คิดว่าเขาก็เป็นห่วงเธอเหมือนกัน

    ในตอนสาย เกือบเที่ยง สันกลับนั่งแท็กซี่แวะมาที่บ้านของก้อง ยังหอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังติดมือมา พิมพ์ดารามองดูสันอย่างสงสัย ก่อนจะถาม

    นายมาทำอะไร?”

    ผมก็มาเยี่ยมคุณพิมพ์นะสิ พอดีโทรไปหาไอ้ก้องมา มันเล่าให้ฟัง ผมก็เลยอาสามาอยู่เป็นเพื่อนคุณ นี่ซื้อของมาฝากเยอะแยะเลย เห็นมั๊ย

    พิมพ์ดารามองสันอย่าง งงๆ ไม่ได้พูดอะไร คิดว่าหมอนี้จะมาเยี่ยมเธอทำไมนะ แต่ก็ดีเหมือนกัน อยู่คนเดียวว่างๆ ก็น่าเบื่อ

    สันซื้อกับข้าวมาทำกินในตอนเที่ยงด้วย แต่มือพิมพ์ดาราเจ็บทำไม่ได้ และที่สำคัญเธอทำไม่เป็น สันจึงอาสาออกโรงเอง

    สันเอ๋ย เธอคือเทพธิดาแห่งโชคลาภมาโปรดแล้ว รอจนเรียนจบสอบเป็นทนายได้เมื่อไหร่ เมื่อนั้นแหละ เธอจะพาให้เราร่ำรวย ต้องตีซี้เข้าไว้

    สันนึกอย่างอารมณ์ดี บอกกับตัวเอง ขณะทำกับข้าว ไม่นานกับข้าวหลายอย่างถูกทำมาวางไว้บนโต๊ะ ทุกอย่างบริการประทับใจ จนพิมพ์ดารานึกฉงนแปลกใจ

    นี่.. นายก้องให้นายมาทำแบบนี้เหรอ

    หือส์ ..ใครว่า นี่ผมอาสามาเอง กับข้าวพวกนี้อุตสาห์ลงทุนไปเดินหาซื้อมากับมือเลยนะจะบอกให้

    พิมพ์ดาราผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็คิดดูว่า ก็นั่นนะสินะ คนอย่างนายก้องเหรอ จะมาดีกับฉันขนาดนี้

    กินกันเถอะ เดี๋ยวกับข้าวเย็นสันคะยั้นคะยออย่างเป็นกันเอง ตั้งท่าเตรียมทานข้าว

    พิมพ์ดาราลังเลนิดหนึ่ง ดูอาหารบนโต๊ะที่มีอยู่หลายอย่างและน่ากินไม่ใช่เล่น เธอว่างท่าเชิดหน้าเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ดูเป็นคนเห็นแก่กิน บอกอย่างไว้ตัว

    ก็ได้ ถ้านายตั้งใจทำให้ฉันกิน ฉันจะกินให้ก็ได้

    จากนั้นหยิบช้อนขึ้นทาน อย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง

    คำพูดท่าทางของพิมพ์ดารา ทำสันเอ๋อไปพักหนึ่ง เหมือนกับตัวเองเป็นหนี้บุญคุณเธอยังไงยังงั้น

    มันยังไงๆว่ะ แทนที่เธอจะขอบใจฉัน ฉันต้องเป็นฝ่ายขอบใจเธอที่กินเหรอเนี้ย เออแปลกดีสันคิดอย่างนึกขำ ไม่ค่อยใส่ใจ ก่อนหยิบช้อนมารับประทานเป็นเพื่อน

     ไม่นานที่นอกบ้าน กลับมีรถสีดำคันหนึ่งค่อยๆเทียบเข้ามาจอดริมขอบรั่วห่างๆประตู คนที่ก้าวลงมาจากรถ ท่าทางลับๆล่อๆ สวมหมวกแก็บ ใส่แว่นตากันแดดอันใหญ่ เหมือนกับพยายามพรางตัวเองไม่ให้ใครจำได้  เขาก็คือธานุพันธ์ ตอนนี้ต้องการมาดูให้แน่ใจว่า พิมพ์ดาราอยู่กับก้องจริงๆตามที่แพรบอกหรือป่าว ที่อยู่ของก้องเขาให้เพื่อนๆ ไปสืบถามมาจากรุ่นพี่ของก้องที่คณะสถาปัตย์ ไม่ได้ถามเอามาจากแพร แม้แต่รถที่ขับมาก็ไม่ใช่รถของตัวเอง เป็นรถที่ยืมมาจากที่บ้านใหญ่

    ธานุพันธ์ แอบด่อมๆมองๆ ผ่านเข้าไปในบ้านอยู่แถวๆริมรั่ว เพราะกลัวคนในบ้านจะเห็น  ยิ่งถ้าเขาจ๊ะเอ๋กับพิมพ์ดารา ก็ไม่รู้ว่าจะวางตัวยังไง

    สักพักเห็นผู้หญิงเดินออกมาจากบ้าน ในมือเธอถือตะกร้า เตรียมจะมาเก็บเสื้อผ้าที่ตากไว้ ตรงราว ที่แรกธานุพันธ์เห็นแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเธอคือพิมพ์ดารา แต่เธอก็คือพิมพ์ดาราจริงๆ ตอนนี้เธอดูเป็นผู้หญิงธรรมดา ที่แต่งตัวพื้นๆ หน้าตาไม่ได้แต่งเติมเครื่องสำอาง แถมยังดูซูบผอมกว่าก่อน แต่ยังดูสวยและบุคลิกก็ยังโดดเด่นสง่าเหมือนเดิม

    ธานุพันธ์มองเธออย่างตะลึงงัน เขาไม่เคยเห็นพิมพ์ดารทำงานบ้านมาก่อน และท่าทางที่เคยแข็งกระด้างของเธอก็ดูจะอ่อนลงมาก จากการที่เธอตั้งใจเก็บเสื้อผ้าอย่างถนอม เหมือนแม่บ้านที่เอาใจใส่ต่อคนในครอบครัว ธานุพันธ์ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นภาพพิมพ์ดาราแบบนี้ในชีวิต แวบหนึ่งในความคิดของเขาบอกว่า เธอดูมีเสน่ห์ขึ้น    

      ขณะนั่น สันออกมาช่วยพิมพ์ดาราเก็บผ้าอีกคน หลังจากที่ล้างจานเสร็จแล้ว ลมทำท่าจะพัดแรง และฝนกำลังจะตก แวบหนึ่งของสายตาพิมพ์ดาราที่มองผ่านไปยังนอกรั่วผ่านไปยังธานุพันธ์ เขารีบหลบสายตาเธอ เข้ามุมรั่วไม่ให้เธอเห็น ใจหนึ่งก็ยากเข้าไปทัก แต่อีกใจหนึ่งก็กลัว

    เขากลัวพิมพ์ดารามาตั้งแต่เล็ก เพราะพ่อของเขาตามใจเธอ ความอิจฉาพิมพ์ดาราทำให้เขาเกลียดเธอ แต่หลังจากที่พ่อของเขาถอนหมั้นพิมพ์ดารให้กับเขา และตัดขาดกับเธอ ไล่ให้เธอกลับไปอังกฤษ เขาถึงรู้ว่า ไม่ว่าอย่างไร พ่อก็ยังรักเขามากกว่าเธอ ในตอนนั้นส่วนหนึ่งในใจเขาก็นึกสงสารพิมพ์ดาราเหมือนกัน เพราะถึงอย่างไรเขากับเธอก็เติบโตมาด้วยกัน

    มาถึงตอนนี้เห็นพิมพ์ดาราอยู่อย่างธรรมดา ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก และก็ไม่มีคนใช้ ไม่รู้ว่าด้วยนิสัยของเธอ เธออยู่มาได้ยังไงจนป่านนี้ ที่แน่ๆ เธอคงจะลำบากไม่ใช่น้อย ทำให้เขารู้สึกผิดต่อเธอขึ้นมา หากไม่ใช่เพราะเขาหนีออกจากบ้านเพื่อต่อรองกับงานถอนหมั้น พ่อของเขาก็คงไม่โกรธจนตัดขาดจากเธอ

    ฝนเริ่มสาดโปรย พิมพ์ดารากับสันหอบผ้ารีบกลับเข้าบ้าน ธานุพันธ์เข้าไปหลบฝนอยู่ในรถ เขามองสายฝนที่ตกกระทบกระจก คิดไม่ตกอยู่คนเดียว ว่าเขาควรจะทำอย่างไรดีเกี่ยวกับพิมพ์ดารา เวลาผ่านไปนาน กว่าธานุพันธ์จะตัดสินใจได้  พลางขยับตัว ขับรถกลับไปยังบ้านโชติการณ์ เขาต้องไปคุยอะไรบางอย่างกับพ่อของเขา              

    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
    ขออภัย ที่เรื่องนี้นานไปหน่อยกว่าจะอัพนะครับ พอดีติดอัพ นิยายจิวอวงยี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×