ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สะกิดรักหัวใจ ยัยไฮโซตกกระป๋อง

    ลำดับตอนที่ #25 : ตอนที่ 25

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 51



    พิมพ์ดารามาอยู่กับก้องได้หลายเดือนแล้ว และเธอก็เริ่มจะคุ้นเคยกับความเป็นอยู่ เธอเริ่มจะบ่นน้อยลง และทำงานมากขึ้น ระหว่างที่ทั้งสองปูพรมในห้องชุดหลังหนึ่ง

    ขณะทำงานก้องรู้สึกว่า พิมพ์ดาราจะมองมาที่เขาบ่อยๆ แต่เมื่อเขาหันไปมองเธอ เธอก็ชักสายตาหลบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นอย่างนี้ประมาณสองสามครั้ง พอบ่อยครั้งเข้า เขาเริ่มรู้สึกอึดอัดและสงสัย

    มีอะไร?”ก้องเงยหน้าถามทันที ที่เธอหลบตาเขาอีกรอบ

    อะไร? มีอะไร?” พิมพ์ดาราสะดุ้งถามกลับ

    ก็เธอหน่ะ มองฉันทำไมบ่อยๆ

    คะ.. ใครมองพิมพ์ดาราตอบไม่ค่อยจะเต็มเสียง

    เอ๊า.. ก็เห็นอยู่หลัดๆ ยังมาเถียงอีก ตกลงมีอะไรหรือเปล่า

    ปะ..เปล่า ไม่มีอะไรซักหน่อย ฉันแค่ดูว่านายปูพรมยังไง นายก็ทำงานไปสิ -- ทำงานสิทำงาน

    คำหลังพิมพ์ดาราคะยั้นคะยอกลบเกลื่อนใช้มือตีไปที่พรม เบาๆ เร่งก้องให้ทำงานต่อ ไม่ต้องมาสนใจเธอ ก้องขมวดคิ้วแทบชนกัน ดูแล้วมันไม่ใช่ เธอต้องมีอะไรมากกว่านั้น แต่ไม่รู้ว่าอะไร เมื่อคิดไม่ออกก็ไม่รู้จะทำยังไง

    พอดีกำลังจะตัดพรม แต่หาที่กรีดพรมไม่เจอ สงสัยจะลืมไว้ที่รถ ก้องเลยใช้พิมพ์ดารา เพราะตัวเองขี้เกียจละมือจากงานที่ทำอยู่

    นี่ ฉันลืมที่กรีดพรม อยู่ในรถ เธอไปเอามาหน่อยสิ

    ห๊ะ..อ๋อ ได้พิมพ์ดาราบอกรับง่ายๆ พร้อมกับลุกขึ้นเดินออกไป

    ก้องงงงันเหมือนไม่เชื่อหู สะดุดใจคิด ทำไมวันนี้มาแปลก ปกติต้องมีเถียง อาจจะเป็นทำไมนายไม่รู้จักเอามาให้ครบ หรือไม่ก็ ทำไมนายไม่รู้จักไปเอาเองนะ ใช้แต่ฉันอยู่เรื่อย แต่นี้ไม่มีซักแอะ ทำไมวันนี้ใช้ง่ายจัง

     

    พิมพ์ดารามาที่รถด้วยจิตใจที่ค่อนข้างสับสน รู้สึกไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง หมู่นี้ทำไมตัวเองถึงมีอาการแปลกๆ โดยเฉพาะกับนายก้อง หน้าของเขามันเหมือนมีแรงดึงดูดให้เธอต้องมอง  และกิริยาท่าทางของเขาก็เหมือนทำให้เธอต้องไปสนใจทุกครั้ง และที่สำคัญเวลามองหน้าเขา หัวใจจะเต้นไม่เป็นจังหวะเหมือนกับที่อยู่ในตู้โทรศัพท์ในวันนั้น มันเป็นมาหลายวัน จนถึงวันนี้อาการมันรุนแรง จนแสดงออกมาให้ก้องสังเกตเห็น

    ฉันเป็นอะไรของฉันนะ พิมพ์ดาราสบถลอยๆ อย่างนึกงงตัวเอง ก่อนจะหยิบที่กรีดพรมกลับไป

    ระหว่างที่เดินกลับไปที่ทำงาน พิมพ์ดาราเดินผ่านป้อมยาม ที่มีทีวีเครื่องเล็กเปิดอยู่ เสียงจากทีวี เป็นเรื่องที่สะกิดใจเธอ จนเธอต้องหยุดฟัง

    เรื่องของหัวใจ เป็นเรื่องที่ตอบยากนะครับ การจะบอกได้ว่าเรา รักหรือชอบใครสักคน ต้องแยกแยะให้ออก ว่าชอบแบบไหน ชอบยังไง แบบคนรักหรือแบบเพื่อน

    แล้ว แบบเพื่อนกับแบบคนรัก นี่จะแยกแยะยังไงค่ะ ขอให้อาจารย์อธิบายสักนิดหนึ่งค่ะ

    คือ แบบเพื่อนนี่ก็ไม่มีอะไรมาก ก็คงรู้สึกเหมือนกับเราถูกใจอะไรซักอย่าง อยากให้เขาไปไหนมาไหนกับเรา หรือเราอยากไปไหนมาไหนกับเขา อยากพูดคุยพบปะกัน รู้สึกเป็นห่วงกันก็เป็นเรื่องธรรมดา ก็เหมือนคบเพศเดียวกันแหละครับ

    เพียงแต่ว่าอันนี้จะนำไปซึ่งจุดเริ่มตนของความรัก ถ้าคุณมีความรู้สึกเพิ่มขึ้นไปจากนี้ เช่น จากห่วงเป็นหวงและเป็นหึง และอยากให้เขาสนใจคุณบ่อยๆ จากที่เคยอยากพูดคุยธรรมดาเปลี่ยนเป็นอยากใกล้ชิด และคุณจะเริ่มเห็น เขาหรือเธอ หล่อหรือสวยขึ้นทุกวัน จนต้องมองเขาบ่อยๆ อันนี้แหละครับคือเริ่มจะรักแล้ว  

    เสียงที่กรีดพรม ตกลงพื้นดัง แกร็ก พร้อมกับพิมพ์ดารายืนตาค้างดูทีวี

    ไม่นะ เป็นไปไม่ได้ ฉันหรือจะรักอีตาบ้านั่น

    เธอพูดออกมาเสียงดัง จนยามที่อยู่ในป้อมต้องหันมามองเธอ

    มองอะไร ไม่เคยเห็นคนเหรอ -- รายการไร้สาระเชื่อไม่ได้หรอกพิมพ์ดาราเอ็ดใส่ยาม ประโยคหลังยังว่าใส่โทรทัศน์ ก่อนจะสะบัดตัวเดินไป

    นี่คุณ ของคุณตกหน่ะ ไม่เก็บไปเหรอยามเรียกเธออย่างงงๆ ไม่เข้าใจว่าเธอเป็นอะไร หรือทะเลาะกับแฟนมา

    พิมพ์ดาราครางเสียง หึ ในลำคอ กลับมาหยิบที่กรีดพรมกลับไป

    เป็นไปไม่ได้  เป็นไปไม่ได้ ฉันหรือจะรักอีต้าบ้านั่นพิมพ์ดาราเดินบอกตัวเองตลอดทาง อย่างว้าวุ่นใจไหน พิมพ์ดาราเธอลองแยกแยะดูดีดีซิ  อีตาบ้านั่นมีอะไรให้เธอรักได้มั่ง ไม่มีเลย เอาเปรียบฉันก็ที่หนึ่ง ชอบใช้งานฉันก็ที่หนึ่ง ขี่เหนียวก็ที่ แถมดูยังไงก็ไม่คู่ควรกับฉัน ฉันแค่ไขว้เขวไปชั่ววูบเท่านั้น จำไว้พิมพ์ดารา

    เธอกำลังพยายามโกหกบอกกับตัวเองเพื่อไม่ให้ไปรักนายก้อง นึกข้อเสียของก้องออกมาท่องไว้ เผื่อเวลาเห็นหน้าเขาอาจทำให้จิตใจเธอกลับเป็นปกติเหมือนเมื่อก่อน

    แต่เมื่อเธอเปิดประตูเข้าไป ภาพที่เห็นคือก้อง ถอดชุดหมี ครึ่งท่อนบนมัดกับเอว ระบายความร้อน เผยให้เห็นเสื้อกล้ามข้างใน และกล้ามเนื้อเป็นมัด หยาดเหงื่อเกาะพราวไปตามตัว และใบหน้า พร้อมกับที่เขายกน้ำขวดโพลาลิสขึ้นดื่มดับกระหาย

    ท่วงท่าของเขาในสายตาพิมพ์ดารา มันเหมือนภาพสโลโมชั่น ของนายแบบโฆษณา เขาดูเท่ และสมาท จนพิมพ์ดารามองตาค้าง กลืนน้ำลายดังอึก สิ่งที่เธอคิดไว้ก่อนจะเข้ามากลับลืมไปหมดเลย สิ่งที่เข้ามาแทนในสมองก็คือ เสียงจากรายการทีวีที่ได้ยินก่อนหน้านี้

    เมื่อคุณเริ่มเห็นเขาหล่อขึ้นทุกวัน นั่นหละ คุณเริ่มรักเขาแล้ว

               

                นี่ ไปซะนานเลย ที่กรีดพรมฉันหล่ะ

                เสียงก้องที่ร้องทัก ทำให้พิมพ์ดาราสะดุ้งจากภวังค์ ส่งที่กรีดพรมให้อย่างเหม่อๆ ก้องรับที่กรีดพรมมา พร้อมกับสังเกตดูอาการของพิมพ์ดารา

                    วันนี้ เธอเป็นอะไร ดูแปลกๆ ไม่สบายหรือป่าว

    ก้องใช้มือจะไป แตะหน้าผากเธอตรวจดู

    พิมพ์ดารากลับใจเต้น ตุ่มๆ ต่อมๆ รีบเบี่ยงหน้าหลบ ก้องนึกว่าพิมพ์ดาราหวงตัว คิดว่าเขาจะแต๊ะอั๋ง ต้องเบ้หน้าใส่

    คิดว่าฉันอยากจะโดนเธอหรือไง ฉันไม่คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงเลยจะบอกให้

    ก้องบอกแก้การเสียหน้า ที่ถูกเธอตั้งท่ารังเกลียด

    พอดีโทรศัพท์ของก้องดังขึ้นขัดจังหวะ ทำให้พิมพ์ดารารอดตัวที่จะถูกซักไซ้

     

    แพร มีอะไรเหรอถ้องรับโทรศัพท์และพูดลงไป คำว่าแพร ทำให้พิมพ์ดาราต้องเงี่ยหูฟัง

    มีธุระกับฉันเหรอ.... ใช้ยังทำงานอยู่ ...ไปได้มั๊ย? ไปได้ซิ ....เจอที่ไหนนะ.... โอเค ตกลง แล้วเจอกัน

    เสียงก้องคุยตอบโต้กับโทรศัพท์ ทำให้พิมพ์ดาราจะจับใจความได้ แล้วก้องก็หันมาบอกกับเธอ

    เดี๋ยวฉันจะออกไปข้างนอกนะ เธอทำงานไปคนเดียวก่อนก็แล้วกัน

    อะไรนะ จะทิ้งฉันให้ทำงานคนเดียวเหรอพิมพ์ดาราแย้งเสียงเขียว

    ใช่  ก็งานที่เหลือไม่มีอะไรมากแล้วนี่ เธอทำเฉพาะที่เธอทำได้ไปก่อนแล้วกัน ..อ้อ นี่กุญแจรถ ถ้าฉันมาไม่ทันเธอก็ขับกลับบ้านไปก่อนเลยนะ

    ก้องบอกพร้อมรีบร้อนออกไป โดยไม่สนใจพิมพ์ดารา เธอรู้สึกฉุนเฉียวจนถอนลมหายใจเสียงดัง โฮ๊ะ คิดอย่างโมโห พอเป็นยัยแพรโทรมาละก็ หน้าระรื่นรีบร้อนออกไปเชียว และยังทิ้งฉันไว้ให้ทำงานคนเดียวอีก คนอย่างนาย ฉันไม่มีวันไปรักได้หรอก

    นี่แหนะเธอปากุญแจรถใส่ประตู ที่ก้องปิดมันลงตอนออกไป เป็นการระบายอารมณ์     

         

       

     

    ก้องออกไปนั่งแท็กซี่ ไปร้านคาเฟ่กาแฟ ที่นัดหมาย พอถึงที่ร้าน เห็นแพร นั่งโต๊ะติดกระจกด้านหน้า ในมือของเธอยังมีหนังสือนิตยาสารตกแต่งภายใน กับเฟอร์นิเจอร์อีกหลายเล่ม แพรเมื่อเห็นก้องก็กวักมือเรียก ยิ้มทักทาย

    เธอว่ามีธุระสำคัญ นี่มันอะไรเหรอก้องถามขึ้นเมื่อเข้ามานั่งเรียบร้อย

    อะไรกัน เจอหน้า ก็ถามหาธุระแล้ว จะกินอะไรหน่อยมั๊ย มื้อนี้ฉันเลี้ยงเองแพรยิ้มหัวเราะบอก แล้วเรียกพนักงานมาสั่งเครื่องดื่ม ก้องขอกาแฟร้อนแค่แก้วเดียว

    นี่ก้อง เธอว่ากาแฟร้านนี้รสชาติเป็นยังไงแพรถามความเห็น เมื่อเห็นก้องเริ่มจิบดื่มกาแฟ

    ก็อร่อยดีนะ

    แล้ว บรรยากาศตกแต่งในร้านหล่ะแพรถามต่อ

    ก้องต้อง มองสำรวจไปรอบๆ ก่อนจะหันกลับมา

    ตกแต่งมีสไตล์ ดูสบายๆ เหมาะสำหรับนั่งอ่านหนังสือหรือฆ่าเวลา -- ว่าแต่เธอถามทำไม

    แพรยิ้มจนกว้าง ก่อนจะบอกอย่างดีใจ

    ฉันกำลังจะทำร้านกาแฟ

    จริงเหรอก้องดูจะตื่นเต้นระคนยินดี รีบถามกลับทำที่ไหนหล่ะ

    ก็แถวๆหน้ามหาลัย ตอนนี้ได้ที่แล้ว แต่ว่าฉันกำลังหาคนตกแต่งร้าน และนี่แหละฉันถึงเรียกเธอออกมา เธอเคยสัญญากับฉันไม่ใช่เหรอ หากฉันได้ทำร้านกาแฟ เธอจะมาตกแต่งร้านให้

    ก้องนึกถึงสัญญาสมัยเรียนมัธยม ที่เขาเคยให้ไว้กับแพร แต่ในตอนนั้นที่หวาดหวังไว้หมายถึงว่า อนาคตเขาจะได้แต่งงานกับแพร และช่วยเธอทำร้านกาแฟตามที่ตั้งใจ แต่ตอนนี้ทุกอย่างดูจะผิดเพี้ยนไปหมด รอยยิ้มของก้องเลยดูหดหูเมื่อนึกถึงสัญญาข้อนี้

     

    ทำไม เธอไม่อยากทำเหรอแพรถาม เมื่อเห็นก้องมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

    เปล่า.. ทำซิ เพียงแต่ว่าฉันมีคนแค่สองคนนะ กลัวว่าจะทำร้านเธอออกมาไม่ดี และจะทำให้ช้าหน่ะ

    แพรพอฟังถึงค่อยยิ้มออก นึกว่าก้องไม่อยากจะทำให้แล้ว เลยพูดต่อ

    เรื่องนี้ไม่เป็นไร ฉันเชื่อมือเธอ อีกอย่างฉันไม่รีบหรอก เธอทำให้สุดฝีมือเลยก็แล้วกัน

    ก้องได้แต่ยิ้มเจือๆ รับ คิดในใจว่า ในเมื่อเคยให้สัญญาไว้แล้วก็คงต้องทำ แม้ตอนนี้จะอยู่ในฐานะเพื่อนก็เถอะ

    พิมพ์ดารา นั่งปูพรมคนเดียวในห้อง อารมณ์ของเธอหงุดหงิด และตาขวาง เธอเหลือบดูนาฬิกาที่ฝาห้องบ่อยๆ และดูว่าเมื่อไหร่ก้องจะกลับมา จนบ่ายสามโมง ยังไม่เห็นวี่แววของอีตาก้อง ทำให้เธอเห็นอะไรก็เกะกะขวางตาไปหมด หมดสมาธิที่จะทำงาน  

    ชิ  คงจะแอบไปเที่ยวกับยัยนั่นซิท่า มันน่านัก แล้วทิ้งฉันให้ทำงานคนเดียวเนี่ยนะ

    เพราะมั่วแต่คิดโมโหก้อง จนที่กรีดพรมที่เธอกรีดอยู่ พลั้งมาบาดมือตัวเอง พิมพ์ดาราร้อง โอ๊ะ ชักมือขึ้นมา บาดแผลที่นิ้วเป็นร่องลึกจนเลือดไหลอาบมือ เธอทั้งตกใจ ทั้งเจ็บและโมโห ปนเปกัน ขว้างที่กรีดพรมทิ้งไปเต็มแรงระบายแค้น กดแผลที่นิ้ว ก่อนจะฟุบหน้าลงร้องไห้

    เพราะนายแท้ๆ นายก้อง ฉันจะจำเอาไว้เลยพิมพ์ดาราร้องปนสะอื้น พาลไปถึงนายก้องโทษที่เขาเป็นตนเหตุทำให้เธอต้องเจ็บตัว

     

     

    ที่ร้านกาแฟ แพรและก้องพูดคุยกันถึงเรื่องรายละเอียดรูปแบบของร้านอยู่พักใหญ่ จนได้รูปแบบตามที่แพรต้องการ แพรดีใจคิดชวนก้องไปดูหนังต่อ แต่ก้องกลับเหลือบดูนาฬิกา มันเป็นเวลาเย็นมากแล้ว แล้วเขาก็รู้สึกเป็นห่วงพิมพ์ดาราขึ้นมา ไม่รู้ว่าทิ้งเธอให้ทำงานคนเดียวจะเป็นยังไงมั่ง

    ก้อง เธอมีธุระอะไรต่อ อย่างนั้นเหรอแพรถามเมื่อเห็นก้องลังเลสองจิตสองใจ ยังไม่ตอบตกลงจะไปดูหนัง

    จริงๆ ก็ไม่มีอะไรหรอก เพียงแต่ฉันทิ้งพิมพ์ดาราให้ทำงานคนเดียว ไม่รู้ว่ายัยนั่นจะทำอะไรเสียหายหรือป่าว

    เธอ...เป็นห่วงคุณพิมพ์เหรอแพรลองเลียบเคียงถามอย่างช้าๆ เพื่อยังเชิดดูใจของก้อง แต่ก้องกลับไม่ได้คิดอะไร บอกออกมา

    มันก็น่าเป็นหวงอยู่หรอก วันนี้ยิ่งทำตัวแปลกๆด้วย ...ก้องยิ่งคิดชักยิ่งเป็นห่วง เออ...ฉันว่าฉันกลับไปดูดีกว่า เรื่องจะเลี้ยงฉันดูหนัง ไว้คราวหลังและกันนะแพร วันนี้ฉันกลับก่อนนะ

    ก้องบอกพร้อมกับลุกขึ้นจากโต๊ะ และสาวเท้าเดินออกจากร้านไปอย่างรีบร้อน จนแพรไม่ทันได้พูดอะไรต่อ คิดน้อยใจจนบอกไม่ถูก ปกติก้องจะไม่ทิ้งเธอไปง่ายๆ อย่างนี้  จนเธอต้องขมวดคิ้วมองตามหลังก้องอย่างไม่พอใจ

     

    ก้องออกจากร้าน นั่งแท็กซี่กลับไปที่ทำงาน ที่ห้องกลับไม่มีคนอยู่ เครื่องมือบางอย่างถูกทิ้งระเกะระกะ และงานก็ดูจะไม่ได้คืบหน้าไปจากเดิมเท่าไหร่

    อ้า พิมพ์ดารา พอฉันไม่อยู่ก็อู้งานเลยนะ มันน่านัก แล้วฉันจะหักเงินเธอ คอยดูก้องบ่นอย่างนึกโมโห เมื่อเข้ามาไม่เห็นพิมพ์ดารา จากนั้นออกไปที่ลานจอดรถ รถตู้ของเขาก็ไม่อยู่ แสดงว่าพิมพ์ดาราขับกลับบ้านไปแล้ว

    ก้องเหลือบดูนาฬิกา เพิ่งจะสามโมงกว่า ต้องคิดอย่างฉุนขาด พอฉันไม่อยู่ไม่ทันไร ก็เลิกงานกลับบ้านแล้วหรือเนี่ย เธอนี่ไม่มีความรับผิดชอบจริงๆ    

                    รีบนั่งรถตามกลับบ้านไป หวังไปเฉ่งพิมพ์ดารา ให้รู้สำนึกเสียบ้าง

    @@@@@

    นานเลยครับกว่าจะออกตอนนี้ ต้องขอโทษท่านผู้อ่านด้วย พอดีแต่งนิยายสองเรื่องพร้อมกัน เลยลำบากหน่อย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×