คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 15
ก้องวางแผงยังไม่ทันเสร็จ ลูกค้าที่ผ่านไปมา พอเห็นเสื้อผ้าที่แขวนบนราว มันเตะตาและรู้ว่าเป็นของดี รีบเข้ามามุงดูหยิบจับกันใหญ่ ยิ่งเห็นยี่ห้อ ยิ่งไม่อยากจะเชื่อ ราคาเสื้อผ้าพวกนี้ อยู่บนห้างราคาหลายพันบาท ต่างคนต่างเข้ามามุงจับดู สภาพเสื้อผ้าแต่ล่ะตัวยังดีและใหม่อยู่
“ของแท้หรือป่าว พ่อค้า” ลูกค้าผู้หญิงคนหนึ่งถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ของแท้สิย่ะ คิดว่าคนอย่างฉันจะใส่ของปลอมหรือไง”เสียงพิมพ์ดาราเปรยงึมงำมาจากท้ายรถข้างๆ โดยที่ก้องยังไม่ทันตอบ ก้องต้องปลายตาไปมองเธอ เหมือนจะบอกให้เธอเงียบไปซะเถอะ
แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่สนใจ รีบเลือกแบบที่เธอชอบสองสามตัว แล้วควักเงินให้ก้องโดยไม่รีรอ เพียงชั่วขณะ แผงขายของท้ายรถของก้องมีคนมามุงกันเต็ม เสื้อผ้า รองเท้า และกระเป๋าของพิมพ์ดาราถูกขายไปชนิดที่เรียกว่าเทกระดาน จนก้องรับเงินแทบไม่ทัน สุดท้ายไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว
“สองหมื่นสาม สองหมื่นสี่ สองหมื่นห้า สองหมื่นหก ว๊าว ขายดีกว่าที่คิดแฮะ”ก้องนับเงินหน้าระรื่น โดยมีพิมพ์ดารานั่งมองตาเขียวปัด
“นี่ นายจะไม่แบ่งให้ฉันเลยหรือไง นั่นมันเสื้อผ้าและของๆฉันนะ” พิมพ์ดาราร้องบอกเมื่อเห็นก้องทำท่าจะเก็บเงินเข้ากระเป๋า
“แบ่งอะไร ! ฉันต้องใช้เงินนี้ไปทำทุนนะ ขืนแบ่งให้เธอ เธอก็เอาไปถลุงหมด ไป ..ขึ้นรถ เดี๋ยวฉันจะไปหาซื้อเสื้อผ้าให้เธอใหม่”
พิมพ์ โมโหจนควันออกหู แต่ทำอะไรไม่ได้ มองตามหลังก้องที่กำลังไปขึ้นรด้วยตาขวางๆ ก่อนจะกระแทกเท้าเดินตามไปขึ้นรถปิดประตูดัง ปัง ระบายอารมณ์
“เบาๆหน่อย เดี๋ยวถ้ารถฉันพัง ฉันเอาเธอตายแน่”ก้องบอกเตือน
“รถมัน สับประรังเค ถ้าฉันปิดประตูแค่นี้มันจะพัง ก็สมควรแล้วล่ะ” พิมพ์ดาราเถียงเสียงอุบอิบ
“อ้า.. ยัยนี่ เดี๋ยวฉันก็ไล่ลงจากรถซะเลยนี่ เถียงคำไม่ตกฝากจริงๆ” ก้องสบถ อย่างไม่เชื่อว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดื้อขนาดนี้ พิมพ์กลับเชิดหน้านิ่งไม่รู้สึกรู้สา แต่ก็เงียบไม่ต่อคำ ก้องจึงค่อยขับรถออกไป
เขาพาเธอมาที่ตลาดโบ้เบ้ หาซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงหลายชุด และที่สำคัญต้องราคาถูก พิมพ์ดาราดูเสื้อผ้าแต่ล่ะตัว ด้วยจิตใจห่อเหี่ยว ‘ฉันต้องทนใส่เสื้อผ้าพวกนี้เหรอเนี่ย’ มันช่างไร้รสนิยมสิ้นดีในความคิดของเธอ
แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น ก้องยังซื้อชุดหมี กับรองเท้าผ้าใบให้ พิมพ์ดารารู้สึกแปลกใจ
“นี่อะไร ทำไมฉันต้องใส่ชุดแบบนี้” พิมพ์ดาราถาม
“ชุดทำงานไง เธอต้องใส่”ก้องบอกสั้นๆ
“งานอะไร ?”
“ทุกอย่าง..ที่เราทำแล้วได้เงิน” ก้องบอกยิ้มๆ เป็นเลศนัย และก็ไม่ได้บอกอะไรต่อ
พิมพ์ดารานึกข้องใจ เป็นงานแบบไหนนะ ที่จะให้เธอทำ หมอนี่ ต้องคิดอะไรอยู่แน่ๆ
ก้องเดินซื้อของให้เธอจนครบ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว หรือของใช้ส่วนตัวอื่นๆ ที่เธอพึงจะได้ จนผ่านร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง พิมพ์ดาราหยุด แล้วรียกก้อง
“นี่นาย เอาเงินมาให้ฉัน หนึ่งพัน”พิมพ์ดาราบอก
ก้องหน้ายุ่ง คิดว่ายัยนี้จะยังไงก็จะเอาเงินให้ได้เลยแฮะ
“เธอจะเอาไปทำอะไร”
“ก็ไปซื้อของใช้ส่วนตัวสิ”
“ก็นี่ไง ฉันซื้อมาให้ครบแล้ว”
“ยังไม่ครบ” พิมพ์ดาราเถียง “ เอามาเถอะน่า”
“ไม่อ่ะ ..ฉันให้เงินเธอ เดี๋ยวเธอไปซื้ออะไรไม่เข้าเรื่องเข้าราวอีก เงินเราต้องประหยัด ฉันให้ซื้อได้แต่ของที่จำเป็น”
พิมพ์ดาราเหลืออด หน้าแดง ตะเบ็งเสียงออกมา
“แล้วผ้าอนามัยนี่มันจำเป็นมั๊ย”
เธอพูดไม่ใช่เสียงค่อยๆ จนคนเดินผ่านไปมาเหลียวหันมามอง อมยิ้ม
ก้องนิ่งหน้าเหรอ ก่อนจะค่อยๆล้วงเงินแบงก์พันส่งให้เธอ
“อ้า. เธอนี่ไม่อายคนเลยหรือไงนะ ตะโกนออกมาได้ อ่ะ.. เอาไป”
พิมพ์ดารา กระชากแบงก์มาจากมือก้องอย่างหงุดหงิด ก็ใครล่ะที่ทำให้เธอต้องตะโกน จากนั้นเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ ซื้อผ้าอนามัยมาสองกล่อง แล้วกลับมาขึ้นรถ
“ไปได้แล้ว” พิมพ์ดาราบอกทำเสียงหงุดหงิด หลังจากขึ้นมานั่งเรียบร้อย แต่ก้องยังไม่ออกรถ แบมือกระดิกนิ้วตรงหน้าเธอ
“ข้อร้อง อย่าอม.. ตังทอนเอามา”ก้องบอกอย่างรู้ทันเธอ เพราะดูเธอแกล้งจะทำเป็นลืมเงินทอนไม่คืนเขา
พิมพ์ดาราเม้มปาก ถลึงตามองก้องอย่างโมโห นายนี่กะไม่ให้ฉันมีเงินติดตัวเลยหรือไงนะ แล้วเธอก็ต้อง ล้วงเอาตังทอนออกมาวางโปะลงไปบนมือเขาแรงๆ ก่อนกอดอกกระแทกหลังกับเบาะรถอย่างขัดใจ
ก้องยักคิ้วยิ้มกว้าง เก็บตังเข้ากระเป๋า จากนั้นค่อยขับรถกลับบ้าน ขากลับก้องยังแวะซื้อกับข้าวถุงกลับไปกินที่บ้าน พิมพ์ดาราไม่ค่อยจะชอบเท่าไร กับ กับข้าวถุงแบบนี้ เธอชอบกับข้าวที่ทำสุกใหม่ๆมากกว่า
“นี่ ทำไมนายไม่ซื้อกับข้าวมาทำกินเอง กับข้าวแบบนี้ฉันกินไม่ลงหรอก” พิมพ์ดาราบอกแบบไม่ค่อยชอบใจ มองดูก้องเทแกงลงหม้อต้ม
“เออ..เราออกไปหาไรกินข้างนอกดีม๊ะ”เธอยิ้มแนะแสดงความเห็น และเป็นยิ้มที่ฝืนประจบเต็มที่ เพื่อว่าก้องจะเห็นด้วย
ก้องเงยหน้าขึ้นมองพิมพ์ดาราและยิ้มตอบเหมือนจะเห็นด้วย ก่อนจะหุบยิ้มแล้วพูดออกมา
“ฝันไปเถอะ มีอะไรให้กินก็กินไป อย่าเรื่องมากนักเลย... เอ้า.. เอาแกงนี่ไปอุ่น”
พิมพ์ดาราหุบยิ้มทันที นึกเคืองอยู่ในใจ หมอนี่งกจริงๆ จะประหยัดอะไรกันนักหนา รับหม้อต้มไป เงอะง่ะ อยู่ตรงหน้าเตาแก๊ส
‘อ่าว.. แล้วทำยังไงล่ะเนี่ย’เธอคิด ปลายตาไปดูก้องเหมือนจะถาม แต่ก็เปลี่ยนใจ เพราะนายนั้นต้องกระแนะกระแหนเธอว่าทำอะไรไม่เป็นอีกแน่ๆ เลยคิดจะทำด้วยตัวเอง
เธอเปิดวาวแก๊สจนสุด เอาหม้อต้มตั้งลงบนเตา แล้วก้มดูว่ามันเปิดอะไรยังไง แล้วก็บิดปุ่มเปิดมันรวดเดียว ไฟลุกพรึบขึ้นอย่างแรงโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว และหน้าเธอก็อยู่ใกล้เตา พิมพ์ดาราร้อง ว๊าย ด้วยความตกใจ สะบัดหน้าหนี ใช้มือปิดหน้าไว้
ก้องหันมาเห็นต้องตกใจด้วย ไม่รู้ว่าเธอโดนไฟลวกหน้าหรือป่าว รีบเข้ามาดู
“เธอเป็นอะไรหรือป่าว ไหนให้ฉันดูซิ” ก้องถามเสียงตื่น พยายามเอามือเธอที่ปิดหน้าออก แต่สิ่งที่ก้องเห็น คือคิ้วที่สวยของพิมพ์ดารา ถูกไฟลามเลียไหม้ออกไปแถมหนึ่ง กับผมของเธอที่ถูกเปลวไฟเผาจนหยิกกระจุกหนึ่ง นอกนั้นไม่มีอะไรที่ดูเธอจะได้รับอันตราย
เมื่อเธอไม่เป็นอะไร ก้องจึงค่อยๆ หัวเราะขึ้นเพราะตลกในสภาพของเธอ
“นายขำอะไร ฉันเกือบโดนไฟลวกหน้าแล้วนะ ยังมาหัวเราะใส่อีก” พิมพ์ดาราแห้วใส่ ก้องไม่ตอบแต่ยังขำอยู่ หันไปจัดการกับเตาแก๊ส ปรับไฟให้อ่อนลง พิมพ์ดาราไปหาส่องกระจก ว่าหน้าของเธอเป็นอะไรหรือป่าว แล้วก็ต้องร้องออกมาสุดเสียง
“ตายแล้ว คิ้ว.. คิ้วฉัน อ๊ะ ..ผมฉันด้วย”เสียงเธอเหมือนจะร้องไห้ แต่ก้องกลับปล่อยก๊าก ออกมาหัวเราะไม่หยุด
กับข่าวถูกอุ่นเสร็จ ทั้งสองคนมานั่งอยู่ตรงโต๊ะกินข้าว พิมพ์ดารา หน้ามู่ทู่ ไม่เป็นอันจะกิน เพราะ ห่วงแต่คิ้วกับผมของเธอ เธอเอามือข้างหนึ่งปิดคิ้วที่แหว่งหายไป ใช้มือข้างหนึ่งถือช้อนกินข้าว จนก้องมองดูแล้ว ทั้งขำทั้งรำคาญ บอกยิ้มๆ
“เธออย่าไปวิตกให้มากนักเลย เดี๋ยวมันก็ขึ้นใหม่น่า”
“แล้วเมื่อไหร่ล่ะ แล้วอย่างนี้ใครเห็นฉันไม่หัวเราะฉันตายเหรอ .. แล้วนายก็หยุดหัวเราะเยาะฉันซะที” เธอบอกพร้อมกับเอาช้อนกระแทกสับข้าวอย่างอารมณ์เสีย
“แล้วเธอจะเอามือปิดไว้อย่างนั้นตลอดเลยหรือไง .. ประสาท.. เธอทำยังงี้ยังดูตลกกว่าอีก ..มา เอามือออกเถอะ เห็นแล้วมันรำคาญลูกตา”
ก้องเอื้อมมือไป จะดึงมือเธอให้เอาออกจากการปิดคิ้ว พิมพ์ดารา ร้องไม่ เอนตัวหลบไม่ยอม ยื้อยุดดึงมือกันพักหนึ่ง จนก้องต้องยอมแพ้
“อ้า .. ก็ได้ ก็ได้” ก้องบอกอย่างอ่อนใจ เขาลุกขึ้นไป เข้าไปในห้อง ออกมาพร้อมแว่นกันแดดขนาดใหญ่ ที่ใช่สวมขับรถ
“เอ้า..ถ้าเธอไม่อยากให้ใครเห็นก็สวมไอ้นี่ไว้ดีกว่า ดีกว่าใช้มือปิดไว้อย่างนั้น.. ฉันล่ะเชื่อเธอจริงๆ”
พิมพ์ดารานึกดีใจ รีบเอาแว่นมาสวม รีบไปส่องกระจกดู แล้วมันก็ครอบตาบังคิ้วของเธอจนหมด เธอยิ้มอย่างมั่นใจขึ้น แล้วก็กลับมาก้มหน้าก้มตากินข้าว ทั้งที่สวมแว่นตากันแดดทั้งอย่างนั้น
ก้องมองดูเธออย่างแปลกใจ คิดว่าพิมพ์ดาราเป็นผู้หญิงที่แปลกที่สุดที่เขาเคยเจอ บางทีเธอดูหยิ่งและจองหองจนน่าโมโห แต่บางทีเธอก็ดูตลกแบบไม่ตั้งใจ และดูน่ารัก คิดไม่ออกว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกันนะ
๑
@@@@@@@@@@@@@@
ความคิดเห็น