คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 14
____________________________________________________________________________________________
๑
เช้าวันสดใส ของวันรุ่งขึ้น ในวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปของพิมพ์ดารา เธอตื่นขึ้นมาบนฟูกที่วางนอนบนพื้น ภายในห้องแคบๆ ที่มีราวแขวนผ้าแสตนเลส อยู่หนึ่งอัน เธอนอนลืมตาดูเพดาน คิดยากจะให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอเป็นเพียงแค่ฝันไป แต่มันก็ไม่ได้เป็นความฝัน กว่าจะทำใจให้ลุกขึ้นจากที่นอน มันก็ยากลำบาก
เธอลงมาเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตาทำธุระส่วนตัว และดูเหมือนว่าบ้านจะเงียบเชียบเหมือนอยู่คนเดียว เธอเดินดูจนรอบบ้านแต่ก็ไม่เห็นก้อง ไม่รู้ว่าเขาไปไหน
“นายนั่นไปไหนนะ” พิมพ์ดาราพึมพำ ก่อนจะเอาโทรศัพท์มาโทรตาม ทันทีที่สายติด ก้องกลับถามออกมาก่อนว่า “มีอะไร”
“นายอยู่ที่ไหนหน่ะ ทำไมไม่เตรียมอาหารเช้าไว้ให้ฉัน”พิมพ์ดาราบอก
“จะบ้าหรือไง! ฉันไปเป็นคนใช้เธอตั้งแต่เมื่อไหร่” เสียงของก้องดูจะหงุดหงิด “ฉันทิ้งเงินไว้บนโต๊ะกินข้าว เธออยากกินอะไรก็ไปหากินเอาเองก่อนก็แล้วกัน ” ก้องบอกก่อนจะตัดสาย
ความจริงพิมพ์ดาราก็ไม่ได้คิดว่าก้องเป็นคนใช้หรอก เพียงแต่เธอเคยชิน กับการมีคนคอยทำทุกอย่างให้ คำพูดของก้องทำให้เธอพอจะรู้สึกตัวเองว่าเธออยู่ในฐานะอะไร
“ฉันหากินเองก็ได้ -- เชอะ..”พิมพ์ดาราแสยะหน้าใส่โทรศัพท์อย่างหยิ่งๆ หลังจากก้องวางสายไปแล้ว
เธอไปที่โต๊ะกินข้าว หวังจะเอาเงินที่ก้องทิ้งไว้ให้ ออกไปซื้อของใช้จำเป็นและกินข้าว คิดว่าจะมีเงินสักสองสามพันวางอยู่ แต่เงินที่วางไว้คือแบ็งค์ร้อย ใบเดียว
“อะไรกัน ร้อยเดียว!” พิมพ์ดาราอุทาน เมื่อเห็นเงิน “แล้วมันจะพอให้ฉันใช้ได้ยังไง กินข้าวยังไม่พอเลย”
เธอรีบโทรศัพท์ไปหาก้อง พร้อมกับโวยวาย
“นี่ นายทิ้งเงินให้ฉันแค่ร้อยเดียวเนี่ยนะ ฉันจะไปพอใช้อะไร”
“โอ้ย.. คุณนาย จะใช้อะไรกันหนักกันหนา ฉันมีให้เธอแค่นั้นแหละ จะเอาไม่เอา ไม่เอาก็วางไว้ที่เดิม เรื่องมากจริง” ก้องบอกอย่างอารมณ์เสีย พร้อมกับตัดสายโทรศัพท์อีกครั้ง
คิดในใจว่า ยัยบ้านั้นคิดว่าเขาเป็นอะไรนะ เป็นธนาคารส่วนตัวของเธอหรือไง ตอนนี้เขาก็กลุ้มเรื่องเงินจะแย่อยู่แล้ว เงินที่เก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการเรียนก็เอาไปช่วยเธอจนหมด จนตอนนี้ไม่มีเงินไปลงทะเบียนเรียนในมหาลัยปี2 ต้องมาที่มหาลัยเพื่อขอพักการเรียนเอาไว้ จนกว่าจะพร้อมเข้ามาเรียนใหม่
ความจริงก้องคิดจะไปขอยืมเงินจากสัน มาลงทะเบียน แต่คิดๆดูแล้ว ต่อให้มีเงินลงทะเบียนเรียน แต่ก็ไม่มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน มันก็ไปไม่รอดอยู่ดี แถมยังมีพิมพ์ดารามาอยู่กับเขาอีกค่าใช้จ่ายก็ต้องเพิ่มขึ้น เลยคิดจะทำงานสักปี เก็บเงินใหม่แล้วค่อยกลับไปเรียนต่อ แต่จะทำงานอะไร เก็บเงินยังไงให้มากพอนั้น เขายังนึกไม่ออก แถมยังนึกไปว่าเขาไปช่วยเธอไว้ทำไมจนตัวเองต้องเดือดร้อนขนาดนี้
หลังจากทำเรื่องพักการเรียนที่มหาลัยเสร็จแล้ว ก้องเดินคอตกเหมือนคนตกงาน และคิดเรื่อยเปื่อย ว่าจะทำยังไงต่อไป ก่อนที่เขาจะคิดอะไรได้ โทรศัพท์เขาก็ดังขึ้นอีก
“ยัยนั่น มีเรื่องอะไรอีกนะ” ก้องหงุดหงิด คิดว่าพิมพ์ดาราโทรมาอีก เขากดรับ ตะเบ่งเสียงใส่โดยไม่ได้ดูว่าเป็นเบอร์ของใคร
“มีอะไรอีกล่ะ”
“เฮ้ย !อะไรว่ะ? ก้อง” เสียงที่ตอบกับมา เป็นเสียงของผู้ชาย กลับเป็นเสียงของพี่ป๋อง
“อุย..โทษทีพี่ นึกว่าเพื่อนโทรมา พี่ป๋องมีอะไรเหรอครับ?”
“อ๋อ .. ก็เรื่องงานที่คุยไว้ไง ตกลงแกจะทำต่อหรือเปล่า”
ก้องเพิ่งนึกได้ ใช่แล้ว!งานของพี่ป๋อง ถ้าขยันทำสักปีคงมีเงินเก็บได้มากพอ เขานิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมา เหมือนนึกอะไรได้
“ทำครับ”
“เออ .. แล้วแกหาลูกมือได้แล้วเหรอ”
“ผมหาได้แล้วครับ”ก้องตอบแบบนึกยิ้มอยู่ในใจ เขารู้แล้วเขาจะเอาใครเป็นลูกมือ
“งั้นก็ดี มาหาพี่ที่บ้านนะ มาเอารถกับเครื่องมือไป แล้วเจอกัน” พี่ป๋องบอก และก้องก็ตอบรับ นั่งรถเมล์ไปหาพี่ป๋องที่บ้าน
พี่ป๋องพอรู้ว่าก้องพักการเรียน ก็ต้องประหลาดใจ พยายามถามถึงสาเหตุ ก้องก็บอกตรงๆ ว่าต้องการหาเงินเป็นทุนเรียนก่อน เพียงแต่ไม่ได้บอกเรื่องของพิมพ์ดารา พี่ป๋องออกปากให้ก้องยืมเงินไปใช้ก่อนแล้วค่อยผ่อนใช้ทีหลัง แต่ก้องปฏิเสธ เพราะเงินที่เขาจะใช้เป็นเงินไม่ใช่น้อย และไม่อยากรบกวนพี่ป๋องมากไปกว่านี้ เขาเอารถตู้จากพี่ป๋อง และเครื่องมือทำงานต่างๆ มา และขับกลับบ้าน
ที่บ้าน พิมพ์ดารา เดินหงุดหงิดง่าน ไปตรงโน้นทีไปตรงนี้ที ไม่รู้จะทำอะไรสุดท้ายก็ต้องล้มตัวนอนบนโซฟาอย่างซักกระตาย จะออกไปไหนก็ไม่ได้
ถ้าปกติตามนิสัย เธอจะต้องออกไป ช๊อปปิ้ง หรือ ทานอาหารมื้ออร่อย ในภัตรคารหรู แต่นี่มีเงินแค่ร้อยเดียว เธอจะไปทำอะไรได้ ค่าแท็กซี่ไปยังไม่พอ
“นายนั้น งกจริงๆ ทิ้งไว้ให้ฉันแค่ร้อยเดียว คิดจะให้ฉันอดตายหรือไง - - โอ้ย ฉันต้องตายแน่ๆ ฮื๊อ.. ฮื๊อ ” พิมพ์ดาราทำเสียงเหมือนจะร้องไห้ ดีดดิ้นสะบัดตัวอยู่บนโซฟา เมื่อนึกถึงอนาคตตัวเองไม่ออก
สักพัก เสียงประตูรั่วหน้าบ้าน ถูกเปิดออก เสียงรถเข้ามาจอดหน้าบ้าน พิมพ์ดาราประหลาดใจว่ามีใครมาหานายก้องหรือป่าว เธอลุกจากโซฟา ไปยืนมองตรงหน้าประตู พอเห็นก้องลงมาจากรถตู้ เธอตีหน้ายักษ์เข้าใส่ เดินปรี่เข้าไปหา ชูแบ็งค์ร้อยตรงหน้าเขา
“นี่นาย มีหัวคิดหรือป่าว ทิ้งเงินไว้ให้แค่ร้อยเดียว แล้วฉันจะเอาไปทำอะไรได้”
“โอโฮ.. ยัยนี่ “ก้องสบถอย่างเหลือเชื่อ “เธออาศัยฉันอยู่นะ ฉันทิ้งเงินไว้ให้ก็บุญถมแล้ว ยังจะมาเรียกร้องอีก”
“ถึง.. ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แต่ร้อยเดียวฉันไม่พอใช้หรอก “ พิมพ์ดาราเถียงข้างๆคูๆ เพราะเธอรู้ว่าเงินร้อยเดียวไม่พอให้เธอใช้แน่ๆ “เอาอย่างนี้ ฉันยืมนายวันล่ะสองพัน ถ้าฉันได้กระเป๋าคืนเมื่อไหร่ ฉันจะคืนให้นายทั้งต้นทั้งดอก”
“ฝันไปเถอะ”ก้องสวนทันควันแบบไม่ต้องคิด “เธอยังคิดถึงกระเป๋านั้นอยู่อีกหรือไง -- เงินร้อยหนึ่งถ้าเธอไม่เอา ก็เอาคืนมา”
ก้องทำที จะไปแย่งเงินในมือเธอ พิมพ์ดารารู้ว่าต่อรองไม่เป็นผล จะยังไงมีเงินร้อยหนึ่งก็ยังดีกว่าไม่มี เธอรีบเอาไปซุกไว้ด้านหลังเอาตัวบังไว้ เชิดหน้าหยิ่งๆ
“นายนี่มันงกจริงๆ -- ก็ได้ นายจะให้ฉันวันล่ะร้อย ฉันก็จะใช้วันล่ะร้อย เชอะ”
รีบสะบัดตัวเดินเข้าบ้าน กลัวก้องแย่งเงินกลับคืนไป
“จะบ้าเหรอ ใครจะให้เธอใช้วันล่ะร้อยกัน ห๊ะ “ก้องตะโกนบอกไล่หลัง พร้อมพิมพ์ดารากระแทกปิดประตูเสียงดัง ปัง!
“ยัยนี้ ถ้าจะประสาท พูดเองเออเองเฉยเลย” ก้องสบถอย่างหัวเสีย เหมือนจะขำ แต่ขำไม่ออก ก่อนจะเดินตามเข้าไปในบ้าน
“เอาล่ะ พิมพ์ดารา เราต้องมาคุยกัน”ก้องเอ่ยอย่างเป็นการเป็นงาน บอกพิมพ์ดารา
“คุยอะไร” พิมพ์ดาราตอบเสียงห้วนๆ เหมือนงอนและโมโห
“เธอ อยากมีเงินใช้ใช่ไหม”
พิมพ์ดารานึกซ่อนยิ้ม หรือเขาจะเปลี่ยนใจยอมให้เธอยืมเงินวันล่ะสองพัน แต่พยายามยังวางท่าทีนิ่งเฉย
“ใช่ --แล้วยังไง”
“ใช่ ใครๆก็อยากมีเงินใช้” ก้องบอกทวน “เพียงแต่ว่าการที่จะได้เงินมา มันก็ต้องทำงาน เพราะฉะนั้น ถ้าเธอไม่ทำงาน เธอก็จะไม่มีเงินใช้ เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม”
พิมพ์ดารารู้สึกแปลกๆ ในคำพูดของก้อง เหมือนเขาพยายามจะบอกอะไรเธอ
“หมายความว่ายังไง”
“หมายความว่า เธอก็ต้องทำงานสิ เธอถึงจะมีเงินใช้ แล้วก็มาทำงานกับฉัน ฉันจะให้ค่าจ้างเธอ ”ก้องบอกปนยิ้มเล็กๆ
พิมพ์ดารารู้สึกหวั่นๆ เธอไม่เคยทำงานเลย และที่สำคัญ เธอไม่เคยเป็นลูกจ้างใคร
“ทำไม ฉันต้องทำงาน ฉันมีเงิน อยู่ตั้งยี่สิบล้าน”พิมพ์ดาราบอก
“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ๊ะ “ก้องทำเสียงหัวเราะเยาะ “ไหนล่ะเงิน ยี่สิบล้าน เธอยังไม่เลิกฝันถึงกระเป๋ากับเช็คใบนั้นอีกเหรอ นี่พิมพ์ดารา ถ้าเธอไม่ทำงานเธอก็จะไม่มีเงินใช้ เธอจะอยู่ยังไง”
พิมพ์ดารานิ่ง เถียงไม่ออก แต่ก็ยังยืนกรานคำเดิม
“ก็ได้ ถ้าเธอจะไม่ทำงาน”ก้องบอกแบบยิ้มๆ มีเลศนัย
แต่พิมพ์ดารากลับนึกยิ้มเยาะเขา ที่เธอเป็นผู้ชนะ เขาจะมาบังคับเธอได้ยังไง ให้มันรู้ซะมั่ง
ก้องไม่ได้พูดอะไรต่อแต่เดินขึ้นไปข้างบนห้องของพิมพ์ดารา รวบเอาเสื้อผ้าของเธอ ที่แขวนบนราวผ้า ยัดใส่กระเป๋าเดินทางของเธอ
พิมพ์ดาราต้องตามขึ้นไปดู และตกใจเมื่อได้เห็น
“นี่นายจะทำอะไรหน่ะ”
ก้องไม่ตอบแต่เก็บของของเธอยัดใส่กระเป๋า
“นี่ .. นายจะทำอะไร” พิมพ์ดาราร้องห้าม พร้อมกับไปแย่งกระเป๋าเอาตัวบังไว้
“เธอรู้ตัวไหม พิมพ์ดาราว่าเธออยู่ในฐานะอะไร ถ้าเธอไม่ทำงานตามที่ฉันบอก ฉันก็ไม่มีเงินจะให้เธอใช้ เพราะฉะนั้น เธอก็เลยต้องไปอยู่ที่อื่น”ก้องบอกพร้อมกับดันเธอออกไป เอาเสื้อผ้าเธอยัดใส่กระเป๋าอีก พิมพ์ดาราหน้าตื่น
“นี่ เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อนซี่” เธอร้องห้ามเข้าไปแย่งเสื้อผ้าคืน แต่ก้องไม่ยอมเอาตัวกันเธอเอาไว้
“ก็ได้.. ก็ได้” พิมพ์ดาราร้องยอมจำนน “ฉันจะทำงานก็ได้”
“ดีมาก” ก้องยิ้มกว้าง “อย่างนี้สิถึงจะอยู่ด้วยกันได้”
“แต่ว่า” ก้องบอกต่อ “เสื้อผ้าพวกนี้ฉันก็ต้องเอาไปอยู่ดี”
“ทำไมล่ะ? ก็ฉันยอมทำงานแล้วไง” พิมพ์ดาราตกใจถาม
“ก็เรา กำลังจะทำธุรกิจ จำเป็นต้องมีเงินทุน และเราก็ไม่มีเงินทุน แล้วเราจะทำได้ยังไง ของๆเธอจะเป็นทุนให้กับเรา เข้าใจ๋ ?”
พิมพ์ดารารู้ได้ในทันที เขากำลังจะเอาของๆเธอไปขาย เธอตะลึงหน้าตื่น รีบกางแขนบังกระเป๋า ขวางกั้นสุดชีวิต
“ไม่นะ ฉันไม่ยอม นายจะเอาของฉันไปขายไม่ได้นะ”
“ฮ่า ฮ่ะ ฮ่า”ก้องหัวเราะอย่างกับตัวโกงในหนังละคร “ทำไมจะไม่ได้ เธอเป็นหนี้ฉันอยู่สองแสนกว่า ของพวกนี้ฉันจะเอาไปขายเป็นทุน ถ้าเธอไม่ยอมเธอก็ต้องไปนอนข้างถนน หรือไม่ก็ไม่มีข้าวกิน จะเอาอย่างนั้นไหมล่ะ”
ก้องบอกจบก็ดันตัวเธอออก หิ้วกระเป๋าเธอลงข้างล่าง เอาไปไว้ที่หลังรถตู้ ยังเอาราวแสตนเลสไปด้วย พิมพ์ดาราตะลึงค้างพูดไม่ออก ดูเขาหยิบของๆเธอขึ้นรถไป คิดในใจว่า ‘หมดสิ้นแล้วฉัน’
ก้องยังพาเธอขึ้นรถไปด้วย ขับไปที่ ย่านตลาดเปิดท้ายรถขายของถูก ใจกลางกรุง พิมพ์ดารานั่งหน้าบอกบุญไม่รับมาตลอดทาง แต่ก้องกลับยิ้มระรื่น เขาหาทำเลจอดรถในย่านตลาด เอาราวแสตนเลสมาตั้ง หยิบเสื้อผ้าของพิมพ์ดารามาแขวน และปูผ้าใบ เอารองเท้าและกระเป๋าสะพายของพิมพ์ดาราที่มีอยู่หลายใบมาวาง แล้วปักป้าย ทุกอย่าง 499
พิมพ์ดาราเห็นแล้วอยากจะเป็นลม ของๆเธอแต่ล่ะชิ้น เสื้อผ้าแต่ล่ะตัวของเธอ ซื้อมาราคาหลายพัน บางชิ้นบางตัวราคาเป็นหมื่น แต่นายนี่เอามาขายแค่ 499
พอก้องหยิบเสื้อโค้ดตัวสีแดงขึ้นมาจะแขวน พิมพ์ดารา ร้อง อ๊ะ! รีบเข้ามาแย่งไปจากมือ
“ตัวนี้ไม่ได้ตัวนี้ยังไงก็ขายไม่ได้”
“ทำไมจะไม่ได้ เราตกลงกันแล้วนะ เอาคืนมาเลย”
พิมพ์ดาราดื้อแพ่ง ไม่ยอมทำตาม เอาไปซุกข้างหลัง
“ไม่ได้ “เธอขึ้นเสียง “ยังไงก็ตามฉันก็ไม่ให้ขายเสื้อตัวนี้ นายรู้ไหมเสื้อตัวนี้เป็นของใคร เป็นของมาดอนน่าเชียวนะ ฉันประมูลมาหมดไปหลายหมื่นเหรียญ ฉันไม่ยอมให้นายขายหรอก”
ก้องหยุดคิด มองเสื้อโค้ด และจำได้ว่าเสื้อโค้ดตัวนี้ เป็นเสื้อที่เธอใส่ในวันแรกที่เขาเจอเธอ และดูท่าทางเธอตอนนี้ก็คงจะหวงแหนเอามากๆ เขาเลยต้องใจอ่อน
“ก็ได้ๆ ฉัน ยอมให้เธอก็แล้วกัน ตัวนั้นไม่ขายก็ได้”
พิมพ์ดารายิ้มออกมา เห็นได้ที รีบชี้นิ้วไปที่เสื้อกับกระเป๋าและรองเท้า
“อันนี้ด้วย อันโน้นด้วย อันนั้นก็ใช่” รีบไปหยิบเอาของที่เธออยากได้คืนกลับมา จนก้องนึกโมโห
“นี่พิมพ์ดารา เธอนี่ยังไงกันนะ ตกลงจะเอายังไงจะให้ขายหรือไม่ให้ขาย บอกไว้ก่อนเลยนะ ...ถ้าฉันหาเงินมาเป็นทุนไม่ได้สักสองสามหมื่นล่ะก็ เธอกับฉันได้นอนข้างถนนแน่ เพราะว่าเราจะไม่มีแม้กระทั้งค่าเช่าบ้าน”
พิมพ์ดาราเลยต้องเงียบ วางของหลายอย่างในมือลง หอบแต่เสื้อโค้ดสีแดงไปนั่งหน้ามุ่ยอยู่ท้ายรถ นึกเคืองอยู่ในใจ ‘นี่ฉันตกอับถึงขั้นเอาเสื้อผ้ามาขายกินแล้วเหรอเนี่ย แล้วต่อจากนี้ฉันจะเอาอะไรใส่ล่ะ’
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ความคิดเห็น