คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4
ที่ห้องชุดคอนโดหรูกลางกรุงเทพ คนงานตกแต่งภายในเจ็ดแปดคน กำลังง้วนอยู่กับการทำงาน หนึ่งในคนงานเหล่านั้นก็คือก้อง และมีพี่ป๋องเป็นผู้ดูแลงาน คนงานทั้งหมดก็คือนักศึกษาวิชาสถาปัตย์รุ่นพี่ของก้อง พี่ป๋องแม้จะยังไม่จบ แต่คลุกคลีอยู่กับวงการรับตกแต่งภายในมานาน เนื่องด้วยที่บ้านมีธุรกิจประเภทนี้ ตอนนี้เขาได้งานตกแต่งห้องชุดนี้มาจากเพื่อนในวงการเดียวกัน คนงานก็เอาจากน้องๆในคณะ เป็นการสอนให้เรียนรู้งานจริงไปในตัว รุ่นพี่ที่มาทำงานกับพี่ป๋องล้วนเป็นคนเก่ง แม้จะเป็นมือสมัครเล่นที่ต้องทำงานและเรียนไปด้วย แต่ก็มีฝีมือขั้นมืออาชีพ เพราะพวกเขาสนใจอย่างจริงจังที่จะเป็นนักออกแบบตกแต่งภายในในอนาคต ทุกคนลงมือทำงานตกแตงด้วยตัวเอง ร่วมทั้งพี่ป๋องด้วย โดยไม่จ้างช่างคนอื่น ส่วนก้องก็ชอบงานประเภทนี้เป็นทุนเดิม ถึงได้เลือกเรียนสถาปัตย์ ก้องยังคิดว่าตัวเองโชคดีที่ได้มาทำงานกับพี่ป๋อง เพราะทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง ที่ในมหาลัยไม่มีสอน
“เอ้า ทุกคนพักกินข้าวก่อน” พี่ป๋องบอก พร้อมวางข้าวกล่องและน้ำขวดทีไปซื้อมาไว้ตรงกลาง ตบมือเป็นสัญญาณเรียก
ทั้งหมดพากันหยุดมือ หันมารวมกลุ่มกันตรงกลางพักกินข้าว แต่ก้องยังกรีดตัดพรมด้านหนึ่ง ที่จะถูกลื้อขึ้นมาปูใหม่ จนรุ่นพี่บางคนต้องเรียกซ้ำ
“เฮ้ย ก้องมากินก่อนเว้ย เดี๋ยวค่อยทำทีหลัง”
“ครับ พวกพี่กินก่อนเลย เดี๋ยวผมทำตรงนี้ให้เสร็จก่อน”ก้องตอบรับโดยไม่เงยหน้าขึ้นจากการทำงาน จนรุ่นพี่คนนั้นรู้สึกเคืองนิดๆ
“เออ ปล่อยแม่งเหอะ ไฟมันกำลังแรง”รุ่นพี่อีกคนยิ้มบอกแบบนึกชอบนิสัยก้อง
“พี่ป๋องงานนี้หินฉิบหายเลย รื้อทำใหม่เกือบหมด จริงๆ ของเดิมที่เขาแต่งไว้ก็ดีอยู่แล้ว ไม่รู้จะเปลี่ยนใหม่ทำไม”รุ่นพี่ของก้องอีกคนหนึ่งกลับบ่นขณะคว้าข้าวกล่องมาเปิดกิน จนพี่ป๋องต้องเหล่ตามองมันอย่าง งงๆ ก่อนพูดว่า
“ไอ้นี่ก็พูดไม่คิด ถ้าเขาไม่เปลี่ยนใหม่จะมีงานให้พวกมึงทำเหรอว่ะ เออแล้วอีกอย่างงานนี้เพื่อนพี่เน้นมา ทำให้สุดฝีมือล่ะ เพราะเจ้าของห้องนี้ ค่อนข้างเรื่องมาก เห็นว่าเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก เป็นคนสวยซะด้วย แต่หยิ่งฉิบหาย”
พอรู้ว่าเป็นผู้หญิงสวย หลายคนมีท่าทีสนใจ ซักไซ้ถามพี่ป๋องกันใหญ่ ว่าอายุเท่าไหร่ สวยแค่ไหน จนพี่ป๋องรำคาญตัดบท
”กูจะไปรู้เหรอว่ะ กูก็ฟังมาอีกที พวกมึงรีบๆกินเหอะ จะได้รีบทำงาน เออ.. ก้อง พรุ่งนี้มีสอบไม่ใช่เหรอกลับไปก่อนก็ได้”
“ครับ ผมว่าผมจะทำตรงนี้ให้เสร็จก่อน แล้วค่อยกลับ”ก้องหันมาตอบยิ้มรับ
วันนี้เขาจึงได้เลิกเร็วกว่าปกติ แต่มันก็สามทุ่มกว่าๆ เกือบสี่ทุ่ม ก้องเดินไปที่ถนนใหญ่ เพื่อรอรถประจำทาง และแวะดูร้านโทรศัพท์มือถือตรงป้ายรถเมล์ ที่เขามาดูเป็นประจำ ก้องหมายตาโทรศัพท์มือถือรูปทรงสวยราคาหมื่นกว่าๆ ที่นอนสงบนิ่งรออยู่ในตูกระจก มองมันด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความสุขอารมณ์ เพราะพรุ่งนี้ เขาจะได้เงินจากพี่ป๋องจากงานครั้งที่แล้ว และมากพอที่จะซื้อมันให้เป็นของขวัญในวันเกิดของแพร
กว่าก้องกลับถึงบ้านก็เกือบห้าทุ่ม แต่วันนี้แปลกกว่าทุกวัน เพราะที่ห้องรับแขกข้างล่างยังเปิดไฟอยู่ พร้อมกับเสียงทีวี ที่แรกก้องคิดว่าเป็นน้าใหม่ แต่ว่ากลับเป็นแพร เธอนอนอ่านหนังสือบนโซฟาพร้อมดูรายการโทรทัศน์ ไปด้วย
“อ้าว . ยังไม่นอนเหรอ”ก้องทักเมื่อเปิดประตูบ้านเข้ามา แพรไม่ตอบเหลือบมองเขาด้วยสีหน้าขุ่นๆ ก่อนจะพลิกตัวไปอีกด้านหนึ่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ก้องเอียงคอหัวเราะหน่อยๆไม่ได้ใส่ใจต่ออาการของแพร เดินไปรินน้ำจากตูเย็นมาดื่มดับกระหาย บอกต่อว่า
“พรุ่งนี้ มีสอบนี่ ไม่รีบนอนเดี๋ยวจะตื่นสายนะ”
“เธอก็รู้นี่ ว่ามีสอบ ทำไมยังกลับดึก”แพรสวน น้ำเสียงห้วนขุ่นๆ
ก้องสำลักน้ำ รู้สึกแปลกใจ ที่เธอตอบมาในลักษณะนี้ เหมือนว่าจะมีโมโหอะไรบางอย่าง
“เป็นอะไรเหรอ อารมณ์เสียเรื่องอะไร”ก้องลองเชิงถาม แพรกลับตบหนังสือเข้าหากันดังพรึบ ลุกขึ้นนั่ง ก่อนระบายลมหายใจ ตัดสินใจถามก้องตรงๆ
“นี่ ถามจริงๆ เธอไปทำงานพิเศษ ทำไมไม่ยอมบอกฉัน”
ก้องหน้าเสีย หุบยิ้มลง ก่อนจะแยกเขี้ยว มองขึ้นไปบนเพดานตำแหน่งห้องของสัน
“ไอ้สันเป็นคนบอกใช่ไหมเนี่ย”
“ไม่ต้องโทษคนอื่นเลย โทษตัวเธอนั่นแหละ แล้วทำไมถึงไม่บอก เรื่องแค่นี้ก็ไม่เห็นต้องปิดกันนี่น่า”แพรสวนตัดพ้อมายาวเหยียด “หรือว่าเธอร้อนเงิน?” เธอถามต่ออย่างเพิ่งนึกขึ้นได้
ก้องรีบโบกมือปฏิเสธ
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่อยากหารายได้ เห็นงานพี่ป๋องเข้าน่าสนใจแถมเป็นงานเกี่ยวกับที่ฉันเรียนด้วย ก็เลยอยากไปทำ แค่นั้นเอง”
“จริงๆ”ก้องย้ำ เมื่อเห็นสายตาแพรจ้องมาเหมือนจะจับผิด แพรเงียบไปพักหนึ่ง ค่อยคลายอารมณ์ฉุน บ่นอุบอิบ
“ก็แค่เนี่ย ทำเป็นปิดซะมีลับลมคมนัยน์ อีตาสันก็ชอบพูดให้คิดอยู่เรื่อย เล่นเอาซะนอนไม่หลับ ฉันไปนอนล่ะ ปิดโทรทัศน์ให้ด้วย” พร้อมเดินกระแทกเท้าไปขึ้นบันได ก้องรู้สึกว่าเธอกำลังเป็นห่วงเขา รีบถามตามไปว่า
“นี่ ที่เธอยังไม่นอน เธอรอฉันเหรอ”
“ก็คิดว่าฉันมานั่งตากยุงทำไมกันเล่า”เสียงแพรตอบลงมาจากบันไดโดยไม่เห็นตัว ทำเอาก้องยิ้มเคลิ้มหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปห้องของตัวเอง ด้วยความอิ่มใจ
“อุย! ลืมปิดทีวี”ก้องอุทาน วิ่งลงมาใหม่
๑
ในวันเกิดของแพร ตรงกับวันสอบเก็บคะแนนของคณะบริหาร กว่าจะสอบเสร็จก็เที่ยงแถมภาคบ่ายยังมีเรียนต่ออีก แต่หลังสอบเสร็จในตอนเที่ยง ธานุพันธ์กลับตรงมาที่ห้องของแพรด้วยท่าทีรีบร้อน ฉุดดึงแพรให้ตามมา
“นี่..อะไร.. เดี๋ยวก่อนสิ”เสียงแพรร้องตกใจ
“ไม่มีเวลาแล้ว ตามฉันมาก่อน”ธานุพันธ์บอกเสียงตื่นๆ
เขาพาเธอขึ้นรถขับออกจากมหาลัยไปธนาคารที่ใกล้ที่สุด พาเธอเข้าไปยังข้างใน แพรเริ่มจะงง รีบหันไปถามเขา
“คุณ
“อย่าถามมากเลย เอาเบอร์บัญชีมา”
“เอ๊า แล้วมันเรื่องอะไร บอกก่อนสิ”แพรขึ้นเสียงสูง มองดูเขาอย่างประหลาดๆ ธานุพันธ์ขี้เกลียดอธิบาย รู้ว่าเธอคงไม่ยอมให้ จึงคว้ากระเป๋าสะพายของเธอมา รื้อเอากระเป๋าสตางค์ ดึงบัตรประชาชนออกไป
“นี่คุณจะทำอะไรนะ เอาของฉันคืนมานะ”แพรร้องอย่างตกใจ ธานุพันธ์ไม่ฟัง ตรงไปที่เค้าเตอร์ บอกต่อเจ้าหน้าที่ธนาคาร
“เปิดบัญชีชื่อผู้หญิงในบัตรนี้ แล้วก็โอนเงินจากเลขที่บัญชีนี้ของผม เข้าบัญชีของเธอสามแสนครับ”
แพรหน้าเหวอ พอจะรู้แล้วเป็นเรื่องอะไร รีบบอกเขา
“นี่เรื่องนั้น ฉันยังไม่ตกลงนะ”
“ไม่ตกลงก็ต้องตกลงแล้ว พรุ่งนี้พิมพ์ดารากำลังจะมา ถือว่าช่วยกันหน่อยก็แล้วกัน”
พิมพ์ดาราคนนี้ คงจะเป็นคู่หมั่นของเขา แพรคิดในใจ ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ยืนงงสับสนจนพูดไม่ออก เพียงไม่กี่นาที บัญชีใหม่ของแพรก็เรียบร้อย เขาส่งสมุดบัญชีให้แพร ยักคิ้ว ยิ้มบอก
“ตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้วนะ รับไปสิ”
แพรมีสีหน้าเหมือนจะหัวเราะไม่ออกในคำสัพยอกของเขา บ่นได้แต่คำว่าประสาท ได้คำเดียว เดินหนีไปดื้อๆ ธานุพันธ์เห็นเธอไม่ยอมรับสมุดบัญชี เลยวางเอาไว้ตรงโต๊ะที่ลูกค้าไว้กรอกรายละเอียดของลูกค้า บอกตามหลังเธอว่า
“คุณจะไม่รับไว้ก็ได้ ผมจะวางไว้ตรงนี้ แต่ชื่อบัญชีเป็นของคุณ ถ้าใครมาเอาไปทำอะไร เงินในบัญชีเกิดสูญหาย คุณก็รับผิดชอบใช้ผมด้วยก็แล้วกัน”
แพรหันกลับมาด้วยความโมโห ตรงมาคว้าสมุดบัญชี้ ยกขึ้นสะบัดตรงหน้าเขา พร้อมบอกเสียงเฉียบขาด
“ฉันจะเอามันไปโอนคืน”
พลางตรงไปที่เค้าเตอร์คนเดิม ขอโอนเงินคืนไปยังบัญชีที่โอนมา แต่ได้รับคำตอบกลับมาว่า
“ขอโทษค่ะ บัญชีนี้เปิดแบบฝากประจำมีกำหนด ถ้ายังไม่ครบกำหนดหกเดือน จะไม่สามารถทำธุระกรรมใดๆกับเงินในบัญชีเล่มนี้ได้ค่ะ”
แพรอ้าปากตาค้าง หันไปมองธานุพันธ์ที่ยืนเอามือปิดปากกลั้นหัวเราะอยู่ด้านหลัง อย่างเคืองใจสุดๆ คิดในใจว่าหมอนี่มันร้ายกาจจริงๆ
ที่ร้านกาแฟใกล้ๆ ทั้งสองมานั่งตกลงทำความเข้าใจกัน ธานุพันธ์เกลี่ยกล่อมอยู่นานกว่าแพรจะตอบตกลง
“แล้วฉันต้องทำยังไงมั่ง”แพรถามขึ้นระหว่างนั่งอยู่ในร้านกาแฟ
“ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ทำให้พิมพ์ดาราเห็นว่าเธอคบกับฉันอยู่ ฉันจะทำให้ยายนั้นเกลียดฉัน แล้วจะเป็นฝ่ายที่ไม่ยอมแต่งงานกับฉันเอง เท่านี้ฉันก็รอดตัว ไม่ต้องทะเลาะกับพ่อด้วย”
แพรนั่งฟังมองเขานิ่งเหมือนเข้าผะวัง คล้ายจะมองให้ทะลุว่าธานุพันธ์นั้นเป็นคนยังไง มารู้สึกตัวก็ตอนที่ธานุพันธ์มองกลับมา ถามว่า
“เข้าใจที่ผมอธิบายหรือป่าว”
“อะ..อ๋อ เข้าใจ” แพรรีบตอบ “ว่าแต่คู่หมั่นคุณเป็นคนไม่สวยเหรอ คุณถึงไม่ชอบเธอ” แพรถามกลับแบบไม่ใครเต็มเสียง เพราะความอยากรู้
“สวย”
“อ้าว แล้วทำไมคุณถึงไม่ชอบเธอล่ะ”
“เอาไว้เธอเจอยัยนั่น เธอจะรู้เอง”ธานุพันธ์ตอบทิ้งท้าย ก่อนจะบอกว่า”เรื่องนี้ไว้คุยกันตอนหลัง ตอนนี้ฉันต้องพาเธอไปอีกหลายที่ ไปเถอะ”
ธานุพันธ์พาแพรไปที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่เลือกซื้อเสื้อผ้าหลายชุด แต่ล่ะชุดมีราคาแพงและสวย ธานุพันธ์ให้เธอลองเสื้อหลายชุด เพื่อดูว่าชุดไหนจะเหมาะสมกับเธอ ที่แรกแพรไม่กล้าที่จะให้เขาซื้อให้ แต่ธานุพันธ์บอกว่า
“ฉันไม่อยากให้พิมพ์ดาราเห็นเธอด้อยกว่า คูปรับของพิมพ์ดาราต้องสมน้ำสมเนื้อ อีกอย่างวันนี้วันเกิดเธอไม่ใช่เหรอ ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดก็แล้วกัน”
“คุณรู้ได้ไง”แพรทำหน้างงๆถาม
“ก็บัตรประชาชนไง”ธานุพันธ์ตอบสั้นๆ
แล้วเขาก็เลือกเสื้อผ้าอีกหลายชุดให้เธอไปลอง แพรประหม่าในทีแรก แต่ก็เริ่มสนุกไปกับการเปลี่ยนเสื้อผ้า และธานุพันธ์ก็เริ่มจะสนุกด้วย พวกเขาบางทีถกเถียงกันเรื่องชุด บางทีก็ปรึกษากันความสนิทสนมเริ่มเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ต่อจากเสื้อผ้า ก็เป็นเครื่องสำอาง และเครื่องประดับ หลังจากคิดว่าซื้อพอแล้ว ธานุพันธ์ถามถึงเบอร์ของแพร เพื่อจะใช้ติดต่อ แต่ว่าแพรไม่มีโทรศัพท์มือถือ
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะไม่มี” เขาบ่น พร้อมกับพาเธอไปที่ร้านมือถือภายในห้าง “ใช้เหมือนของฉันล่ะกันนะ มันง่ายดี”ธานุพันธ์ตัดสินใจโดยไม่รอฟังความเห็นของเธอ เขาบอกพนักงานให้จัดใส่กล่องมา รุ่นของธานุพันธ์เป็นรุ่นที่ทันสมัยที่สุดในตลาดยุคนี้ มันทำให้แพรทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจ แต่เมื่อเธอคิดอีกทีว่ามันจะดีเหรอที่จะให้เขาซื้อให้ เลยต้องบอกไปว่า
“ฉันว่ามันไม่เหมาะหรอก คุณอย่าซื้อให้ฉันเลย มันแพงเกินไป”
“อย่าคิดมากน่า แฟนซื้อของให้แฟน มันผิดตรงไหน รับๆไปเถอะ”ธานุพันธ์บอกยิ้มสัพยอก พร้อมกับยัดลงในมือของเธอ ทุกครั้งที่ธานุพันธ์ที่บอกว่าเป็นแฟน ไม่รู้ว่าทำไมแพรต้องรู้สึกใจเต้นแรงผิดปกติ และหน้าแดง จิตใจหวั่นไหว อ้ำอึ้งจนพูดไม่ออก เธอไม่รู้ว่าอาการเหล่านี้มันเกิดขึ้นกับเธอได้ยังไง
๑
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ความคิดเห็น