ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สะกิดรักหัวใจ ยัยไฮโซตกกระป๋อง

    ลำดับตอนที่ #22 : ตอนที่ 22

    • อัปเดตล่าสุด 3 มี.ค. 51



    เช้าวันรุ่งขึ้น พิมพ์ดาราตื่นสายโด่ง แต่แปลกที่วันนี้ ก้องไม่ได้มาปลุกเธอ เธองัวเงียขึ้นมาดูนาฬิกา  พบว่าเป็นเวลาเกือบสิบโมงกว่าแล้ว

    แย่แล้ว นายก้องต้องว่าฉันอีกแน่ๆพิมพ์ดารา ครวญตกใจ เมื่อรู้เวลา รีบลุกขึ้น ลงบันไดลงมา แต่บ้านดูจะเงียบ เหมือนเธออยู่คนเดียว หรือเขาออกไปทำงานโดยไม่รอเธอเพราะเธอตื่นสาย 

    พิมพ์ดาราใจเสียเล็กน้อย เปิดประตูไปดูหน้าบ้าน แต่รถตู้ก็ยังจอดอยู่ที่เดิม ทำให้เธอรู้ว่าก้องไม่ได้ออกไปทำงาน หรือเขายังอยู่ในห้อง เธอไปที่หน้าห้องของก้อง ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเคาะประตูเรียก

    นี่ นายก้อง นายอยู่ในนั่นใช่มั๊ย ทำไมวันนี้ไม่ไปทำงานเธอเรียกถามเสียง ห้วนๆ แต่น้ำเสียงยังเกรงๆ กลัวว่า ที่ไม่ไปทำงานวันนี้ อาจเป็นเพราะความผิดของเธอ ที่เธอตื่นสาย

    เสียงก้องคราง ตอบรับออกมา เหมือนคนนอนที่โดนปลุก แล้วก็เงียบไป ทำให้พิมพ์ดารานึกยิ้มเยาะ

    โธ่.. ที่แท้นายก็ตื่นสายเหมือนกัน

    เธอเลยไปอาบน้ำแต่งตัวรอ แต่แปลกที่ก้องไม่ออกมาสักที ทำให้เธอต้องไปปลุกเขาอีกรอบ

    นี่ ตกลงวันนี้ไม่ไปทำงานใช่มั๊ยพิมพ์ดาราเคาะประตูถามหยั่งเชิง

    เสียงก้องครางตอบรับ ดัง อืมห์ แล้วก็เงียบไปอีก พิมพ์ดารานึกสงสัย ปกตินายก้องไม่ใช่คนนอนขี้เซาขนาดนี้นี่นา ต่อให้เขานอนดึกขนาดไหน เช้ามาก็เห็นตื่นก่อนทุกที เลยตัดสินใจค่อยๆเปิดประตู แง้มเข้าไปดู เห็นก้องนอน ขดตัวนิ่งอยู่ในผ้าห่ม และหอบหายใจหนักๆ เหมือนคนหายใจไม่สะดวก และไม่สบาย

    เธอเลยค่อยๆ ก้าวเข้าไปใกล้ๆ ใช้นิ้ว จิ้มดันไปที่หัวไหล่ของเขา เพื่อจะปลุก อย่างกลัวๆกล้าๆ เหมือนเขาเป็นตัวอะไรสักอย่าง ที่เธอไม่ค่อยอยากจะถูกเนื้อต้องตัว เพราะกลัวความรู้สึกแบบเมื่อคืนจะกลับมา

    นี่ นายเป็นอะไร

    ก้องสะดุ้งตกใจ เมื่อถูกนิ้วเธอปลุกจิ้มที่หัวไหล่ เปิดเปลือกตาขึ้นมา พอเห็นเป็นพิมพ์ดารา เลยคลายอาการตกใจ พูดเสียงงัวเงีย แหบๆขึ้นจมูก

    จะเข้าห้องฉัน ทำไมไม่เคาะประตูก่อน ปลุกแบบนี้ตกใจหมด

    ฉันเคาะไปสองรอบแล้ว นายไม่ได้ยินหรือไงพิมพ์ดาราเถียง ก่อนจะห่อปากเชิดบ่นมุบมิบกับตัวเอง ที่นายเข้าห้องฉัน บางทียังไม่เห็นเคาะประตูเลย

    ก้องได้ยินที่เธอบ่น แต่ปวดหัวอย่างหนัก เลยไม่อยากต่อปากต่อคำ ทำท่าจะหลับต่อ

     

    อ่าว .. แล้ววันนี้ไม่ไปทำงานเหรอพิมพ์ดาราถาม เมื่อไม่เห็นก้องมีท่าทีจะลุกขึ้น

    ไม่ไปหรอก ฉันไม่ค่อยสบาย วันนี้หยุดก็แล้วกัน

      ก้องบอกท่าทางเหนื่อยๆ พร้อมหายใจยาวๆ พริ้มตาหลับลงไป พิมพ์ดารานึกสงสัย ที่เขาไม่สบาย ใช่เพราะไปตากฝนตามหาเธอเมื่อคืนหรือป่าว ถ้าเป็นอย่างนั้น เธอก็เป็นตนเหตุที่ทำให้เขาไม่สบาย

    ยืนเก้ๆกังๆ ดูอยู่พักหนึ่ง ยังไม่ได้ออกไป

    นี่... แล้ว..จะให้ฉันทำยังไงพิมพ์ดาราถามห้วนๆ แบบไม่ค่อยเต็มเสียง เพราะเธอรู้สึกกระดากอายหน่อยๆ ที่จะทำดีกับเขา ความหมายของเธอก็คือว่า จะให้เธอช่วยทำอะไร ถ้าเขาไม่สบาย

    ก้องปวดหัวจะหลับก็ไม่ได้หลับ ถูกถามเหมือนกวนประสาท ดันเข้าใจว่า เธอไม่รู้จะไปทำอะไร ถ้าเขาไม่ไปทำงาน เลยตอบเสียงเขียว หงุดหงิด

    จะทำอะไรก็ทำไปเหอะ อย่ามากวนฉันเลย ฉันปวดหัวอยากจะนอน

    พลางดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวจนมิด ตัดรำคาญ พิมพ์ดาราหน้าเสียหน่อยๆ เลยต้องออกจากห้อง เธอนึกถึงตอนที่เธอไม่สบาย ป้านวลแม่บ้านที่เคยดูแลเธอตอนเด็กๆ จะให้เธอกินยา และต้มข้าวต้มให้กิน และให้เธอห่มผ้าห่มหนาๆ

    พิมพ์ดาราเลยขึ้นไปห้องของตัวเอง เอาผ้าห่มของเธอลงมา เปิดประตูเข้าไปห้องของก้อง เอาผ้าห่มของเธอห่มทับผ้าห่มของเขาไปอีกผืนหนึ่ง

    ก้องดูจะหลับไม่รู้เรื่อง และถูกผ้าห่มนวมทับหน้าเตอะ จนเป็นตัวดักแด จากนั้นเธอก็ออกไปซื้อยาที่ร้านขายยา

    ก่อนจะกลับบ้าน พิมพ์ดารายังแวะตลาดสดใกล้ๆ เพื่อจะซื้อของไปทำข้าวต้ม แต่ของที่จะทำข้าวต้มไม่รู้ต้องซื้ออะไรบ้าง เลยไปถามเอากับแม่ค้าในตลาด และซื้อตามที่แม่ค้าบอก จากนั้นค่อยเดินตรงกลับบ้าน

    ที่หน้าบ้าน พิมพ์ดารากำลังจะถึง รถแท็กซี่ คันหนึ่งกลับวิ่งเลยตัวเธอ เข้าไปจอด สันและแพร ลงรถมาด้วยกัน พิมพ์ดาราหยุดมองคนทั้งสองคน ไม่รู้ว่าธุระอะไร สันยิ้มโบกมือทักพิมพ์ดาราอย่างเป็นกันเอง แต่แพรยิ้มเจือๆให้พิมพ์ดาราเล็กน้อย

    พิมพ์ดาราเห็นทั้งคู่มาด้วยกัน คิดว่าเรื่องที่ก้องโกหกว่าเป็นแฟนกัน แพรคงรู้จากสันแล้ว เพราะสันรู้เรื่องของเธอดี ที่ต้องมาอยู่กับก้องเพราะอะไร แพรคงนึกหัวเราะเยาะเธออยู่ในใจ เลยพยายามปั้นหน้าสู้ วางท่าเรียบๆ เย็นชา เดินเข้าไปหา

    คุณพิมพ์ ก้องอยู่บ้านมั๊ย พอดีพวกเรามีธุระจะคุยกับเขาสันบอก น้ำเสียงแบบกันเอง

    อยู่แต่เขาไม่สบายนอนอยู่ในห้องพิมพ์ดาราตอบเรียบๆ ห้วนๆ

    แพรกลับตกใจถาม

    ไม่สบาย เป็นอะไรมากหรือเปล่า

    ฉันก็ไม่รู้ พวกคุณก็เข้าไปดูเองก็แล้วกัน

    พิมพ์ดาราบอกห้วนๆ อีก พร้อมเปิดประตูรั่วเดินเข้าไป สันและแพรจึงตามเธอเข้าไปในบ้าน แพรค่อยๆเปิดประตูห้องของก้องเข้าไปดูโดยมีสันตามเข้าไป และพิมพ์ดารายืนมองอยู่ข้างนอกห่างๆ เห็นบนตัวของก้องคลุมทับด้วยผ้าห่มนวมหนาเตอะ สองชั้น เกือบต้องนึกว่าก้องเป็นไข้จับสั่น

    มันจะอบตัวตายหรือไง คลุมผ้าซะหนาขนาดนั้นสันบอกแพร หัวเราะแห้งๆ

    แพรรีบเข้าไปจับหน้าผากกับซอกคอก้องดู ถึงรู้ว่าเป็นไข้ตัวร้อนสูง เธอดูผ้าห่มทับบนตัวเขา จนต้องขมวดคิ้ว มีสีหน้ากึ่งฉุน ที่ใครไม่รู้เรื่องเอาผ้าห่มมาห่มให้เขาหนาขนาดนี้

    ค่อยๆดึงผ้าห่มบนตัวเขาออก จนเหลือผืนเดียว จากนั้นไปเปิดหน้าต่างให้อากาศระบายโล่งให้หายใจได้สะดวก แล้วกระซิบบอกให้สัน ไปเอาน้ำใส่กะละมังเล็กๆมา แล้วเธอก็ใช้ผ้าขนหนูซับน้ำ เช็ดหน้าระบายความร้อนให้กับก้อง พร้อมกับวางผ้าลงบนหน้าผาก ให้ดูดซับระบายความร้อนในตัว ก้องดูจะหลับสนิทไม่รู้สึกตัว คงเพราะฤทธิ์ไข้หวัด

    พิมพ์ดารามองดูแพรทำอยู่ทุกอย่าง และพอจะรู้ว่าตัวเธอทำไมถูก ก็แหง ตอนที่เธอไม่สบาย ป้านวลเอาผ้ามาห่มให้เธอหนาๆ ตอนนั้นเธออยู่อังกฤษ เมืองประเทศอากาศหนาว แต่นี่เมืองไทย ถ้าไม่สบายแล้วห่มผ้าหนาขนานนั้น ได้ร้อนในไม่หายกันพอดี เธอรู้สึกน้อยใจและผิดหวังกับตัวเอง ที่ทำอะไรไม่เป็น แต่ก็ยังวางท่าเรียบเฉย เหลือบมองดูอยู่ห่างๆ ก่อนจะเดินไปที่ครัวเตรียมจะทำข้าวต้ม

    อ่าว..แล้วข้าวต้มมันทำยังไงละ พิมพ์ดาราคิด มองซ้ายมองขวา เหมือนจะหาวิธีทำ พอดีแพรออกมา เห็นเธออยู่ตรงครัว ก็รู้ว่าพิมพ์ดาราจะทำอะไร แต่ดูท่าทางของเธอ คิดว่าคงจะทำไม่เป็น

    จะทำข้าวต้มใช่มั๊ย เดี๋ยวฉันทำเองแพรเดินเข้ามาบอก

    พิมพ์ดารามองเธออย่างไม่ค่อยพอใจ สันออกมาสมทบพอดี เลยบอกสนับสนุน

    แพรทำกับข้าวเก่งนะ ผมว่าคุณพิมพ์ ให้แพรทำดีกว่า แล้วเรามานั่งรอกินกัน อ้อ แพร ทำเผื่อพวกเราด้วยนะ

    ฉันรู้หรอกน่าแพรบอก ก่อนถือวิสาสะใช้ครัว จัดการเตรียมหม้อต้มน้ำจะทำข้าวต้ม แทนพิมพ์ดารา

    พิมพ์ดาราเลยต้องให้แพรทำ ส่วนเธอไปนั่งดูทีวี โดยมีสันนั่งคุยเป็นเพื่อน ซึ่งส่วนใหญ่สันก็คุยอยู่คนเดียว เพราะพิมพ์ดาราไม่ค่อยจะคุย แม้สันพยายามจะตีสนิท ยิงมุกเด็ดๆให้เธอขำ แต่ใช้กับพิมพ์ดารารู้สึกว่ามุกของสันจะแป๊ก พิมพ์ดาราไม่ขำแม้แต่เรื่องเดียว เพราะเธอกำลังอารมณ์ไม่ดี

     

    ข้าวต้มถูกทำเสร็จ แพรจัดเตรียมไว้ให้ก้องถ้วยหนึ่ง พอดีเห็นถุงใส่ยาที่พิมพ์ดาราซื้อมาอยู่บนโต๊ะ เลยเอาติดไปด้วย และเอาไปให้ก้องในห้องนอน

    แพรเขย่าตัวก้องเรียกปลุกลุกขึ้น

    ก้องสะลึมสะลือรู้สึกตัว แต่เปลือกตายังหนักอึ้ง พอค่อยๆลืมตา เห็นแพรนั่งยิ้มอยู่ข้างเตียง ยังนึกว่าตัวเองฝันไป

    เธอ.. เธอ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ก้องถามเสียง แหบแห้ง ไม่เชื่อสายตา ยันตัวลุกขึ้นนั่ง

    มานานแล้ว เธอนี่เวลาไม่สบาย นี่หมดสภาพเลยนะ เอานี้ ฉันทำข้าวต้มมาให้ กินก่อนสิ แล้วค่อยกินยา

    แพรบอกยิ้มๆ ยกชาม ตักข้าวต้มมาเป่า ค่อยๆส่งป้อนให้

    ก้องรู้สึกกระดาก วางตัวไม่ค่อยถูก หากเป็นแต่ก่อนเขาคงจะไม่คิดอะไร แต่ตอนนี้ความสัมพันธ์มันไม่เหมือนเดิม เลยยกมือกันเบาๆ บอกเรียบๆ

    ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันกินเอง

     ไม่ได้ ฉันจะป้อนให้กิน นายก็ต้องกิน ถ้าฉันทิ้งเอาไว้นายก็ไม่กินนะแหละ.. มาอ้าปากซะดีๆ

      แพรทำหน้างอน สั่งเสียงเขียว แต่กลับแฝงไปด้วยรอยยิ้ม ยกช้อนไปจอที่ปากของก้อง แกล้งทำตาดุๆ บังคับให้ก้องกิน

    มันเหมือนกับคราวก่อนๆ ตอนที่สองคนรู้จักกัน เวลาก้องงอน หรือน้อยใจอะไร แพรก็จะมาง้อในลักษณะนี้ ท่าทางของแพรน่ารัก จนก้องใจอ่อน และนึกถึงวันเก่าๆ เขาเผลอที่จะยิ้มออกมา

    นั่นไง เธอยิ้มแล้ว ที่นี้เธอต้องกินละนะ มะ.. อ้า.. อ้ำแพรทำเสียงเล็กเสียงน้อยหยอกล้อ จนก้องมองเธอนิ่ง แม้พยายามจะทำใจให้แข็ง แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะละลายแล้ว สุดท้ายก็ถอนหายใจ แพ้ใจตัวเอง ยอมให้แพรป้อนแต่โดยดี

      นั่น ..ดีมากยังงี้สิ ถึงจะได้หายไวไวแพรบอก ยิ้มดีใจที่ก้องยอมทำตาม

      

    ประตูห้องไม่ได้ถูกปิด เปิดค้างอยู่ พิมพ์ดารากับสันนั่งกินข้าวต้มอยู่ตรงโต๊ะกินข้าว มุมที่พิมพ์ดารานั่ง เห็นภายในห้องของก้องอย่างชัดเจน เธอรู้สึกหงุดหงิดโดยไม่มีสาเหตุ เหลือบตาไปดูแพรป้อนข้าวให้ก้องอยู่บ่อยๆ

     

    ข้าวต้มไม่อร่อยเหรอครับสันถามแทรกขึ้น เมื่อเห็นพิมพ์ดาราไม่ค่อยกินข้าว เอาแต่คนช้อนไปมาอยู่ในชาม คำถามของสันทำพิมพ์ดารารู้สึกตัว หันกลับมา ตอบห้วนๆ

    ธรรมดา ไม่เห็นอร่อยเลย

    หึงแพร ละสิ

    สันเดาเล่นๆ จากอาการของเธอ แต่พิมพ์ดาราที่กำลังตักข้าวต้มเข้าปากถึงกับสำลัก

    ใครบอก.. ฉันจะไปหึงทำไม ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับนายก้องซะหน่อยพิมพ์ดาราร้อนรนตอบเสียงฉุน

    พอดีแพรออกมา พิมพ์ดารากับสันเลยเงียบ ไม่ได้คุยเรื่องนี้ต่อ สันหันไปถามแพร

    ไอ้ก้องเป็นไงมั่ง

    ดีขึ้นแล้ว นายก็เข้าไปดูสิ

    ช่างเหอะ ปล่อยให้มันนอนไปก่อนละกัน

    สันบอกพร้อมก้มหน้ากินข้าวต้มต่อ แพรเลยเดินเข้ามานั่งด้วย

    เธอเข้ามานั่งฝั่งตรงข้ามกับพิมพ์ดาราและเผอิญสายตาประสบกัน ดวงตาทั้งสองคู่เหมือนถูกตรึง ทั้งพิมพ์ดาราและแพรพรรณต่างไม่มีใครยอมหลบสายตา ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทั้งสองคนถึงมีความรู้สึกไม่อยากจะยอมกัน ถ้าเธอจ้องมาฉันก็จะจ้องไป เลยจ้องมองกันนิ่ง

    บรรยากาศบนโต๊ะกินข้าว กลับเริ่มดูแปลกๆ จนสันรู้สึกได้ เหมือนถูกดูดเข้าสู่บรรยากาศ มาคุ ในหนังการ์ตูนเกียบัน รังสีอำมหิต ถูกแผ่กระจายไปโดยรอบ

    ในความคิดของสัน จู่จู่สภาพรอบข้างก็ถูกเปลี่ยนไป ที่โต๊ะกินข้าวภายในบ้าน กลับกลายเป็นโต๊ะอาหารในโรงเตี้ยมหนังจีน

    พอหันไปทางพิมพ์ดารา กลับเห็นสวมอยู่ในชุด จอมยุทธหญิงจีนโบราญสีขาวนวล เรือนผมถักเปียสองข้างยาวพาดบ่า ครอบสร้อยระย้าอัญมณีที่ศีรษะ ดูสวยเริ่ดเชิดหยิ่ง

    จิวอวงยี้ ธิดาจอมโจรสันอุทานเมื่อได้เห็น นึกถึงตัวละครบางตัวที่รู้จักในนิยายที่เคยอ่าน แต่ เมื่อหันไปทางแพร ก็ต้องสะดุ้ง

    เธออยู่ในชุดจอมยุทธหญิงเช่นเดียวกัน แต่สีแดงเพลิง ผ้าคลุมสีดำตัดกับสีชุดสวมใส่ มวยผมปักปิ่นทอง ริมฝีปากสีแดงสด ดุจฉาดแต้ม

    กระบี่เลือด เสื้อแดง ฮวยฮุ่นแชสันอุทานตาโตอีกครั้ง  สองสตรีคู่อาฆาต ในเรื่องจิวอวงยี้ ตีนแมวเทวดา อย่างนั้นไอ้ก้องก็ต้องเป็น พยัคฆ์ร้ายยอดมือปราบ ลู่ซุน แล้ว

    ฟ้าร้องเสียงดังกึกก้อง ฝนซาดซัดเทที่เบื้องนอก สายฟ้าแลบแปลบปลาบ เป็นระยะ สองสาวประสานสายตาคมกริบเชือดเฉือนแทนกระบี่ ก่อนที่ทั้งคู่จะ ส่งพลังวัตรประหัตประหารกันด้วยวรยุทธสูงส่ง สันรีบตักข้ามต้ม ส่งให้แพร พูดทำลายบรรยากาศที่อึมครึม

    แพร เธอก็ยังไม่ได้กินข้าวไม่ใช่เหรอ.. กินด้วยกันสิ

    ภาพโรงเตี้ยม จอมยุทธหญิงล้วนหายไปสิ้น กลับคืนสู่สภาพปกติ แต่ฝนฟ้าข้างนอกยังตกคะนองอยู่

    แพรเลื่อนสายตาจากพิมพ์ดารามาที่สัน รับชามข้าวต้ม พิมพ์ดารากลับลุกขึ้นเก็บชามของตัวเอง เหมือนว่าจะกินอิ่มแล้ว ทั้งที่ในชามยังเหลืออีกตั้งครึ่ง

    อ่าว อิ่มแล้วเหรอสันเรียกทัก พยายามชวนคุยกับทั้งสองคน

    พิมพ์ดารา พยักหน้าหน่อยหนึ่ง แทนคำตอบ แพรกลับส่งยิ้มให้แล้วพูดขึ้น

     นั่งคุยกันก่อนสิ

    หืมส์พิมพ์ดาราทำเสียงสงสัย เหมือนแพรมีอะไรจะพูดด้วย

    เธอคงไม่ถือ นะแพรบอกต่อ

    ถือ.. ถือเรื่องอะไรพิมพ์ดาราขมวดคิ้วอย่าง งงๆ

    ก็คือ.. ฉันกับก้องเราเป็นเพื่อนสนิทกัน ฉันเห็นเขาไม่สบาย แล้วพอดีเห็นว่าเธอคงไม่เคยดูแลพยาบาลคนป่วย ก็เลยช่วยพยาบาลให้แทน เธอเป็นแฟนของก้อง.. คงจะไม่หึงนะ

    แพรค่อยๆ อธิบาย แม้ท่าทีจะยิ้มเป็นมิตร แต่คำพูดกลับแฝงความรู้สึกถือดีบางอย่าง คล้ายจะบอกว่าตัวเธอเองเป็นคนสำคัญสำหรับก้อง

     

    พิมพ์ดารา ฟังคำพูดของแพร เหมือนจะยังไม่รู้ว่า ก้องโกหกเรื่องที่ว่าเธอเป็นแฟน  กรอกตานึกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเค้นลมหายใจออกทางจมูกเบาๆ ตัดสินใจบอกออกไปตรงๆ

    ฉันว่าเธอกำลังเข้าใจผิด ฉันจะหึงเธอทำไม ฉันกับนายก้องไม่ได้เป็นอะไรกัน เราเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน  --  ส่วนที่ว่าทำไมฉันมาอยู่ที่นี่  ฉันว่าเพื่อนเธอที่นั่งข้างๆ ก็คงจะรู้ดี ทำไมเธอไม่ถามดูหละ

    เธอไว้เชิงพูดอย่างไว้ตัว พร้อมกับเหล่ตาไปทางสัน ในประโยคสุดท้าย

     

     

    แพรสะอึกเล็กน้อย หยุดนึก พอจะรู้แล้วทำไมก้องถึงโกหก คงต้องการให้เธอนั้นหึง เลยหันไปมองสันตาเขียวปัด ที่รู้ความจริง แต่ไม่ยอมบอกเธอแต่แรก ตอนที่เธอถาม แถม เออออ ห่อหมก บอกว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกัน ทำให้เธอต้องเข้าใจผิด

    สันแทบสำลักข้าวต้ม รีบเฉไฉลุกขึ้น

    ฉันว่าฉันจะเข้าไปดูไอ้ก้องหน่อยนะ

    พลางเดินหนีจากโต๊ะกินข้าวไปห้องของก้อง เอาตัวรอด เพราะขี้เกลียด ตอบคำถาม โดยมีสายตาของแพรมองค้อนอยู่ตลอด

    ถ้าอย่างนั้น ฉันขอโทษด้วยนะแพรหันมายิ้มให้พิมพ์ดารา แบบเต็มใจ แม้นึกโมโหก้องที่โกหกเธอ แต่ก็รู้สึกโล่งใจ

    แต่พิมพ์ดาราปลายตาเหยียดๆ พูดต่อตรงๆ ว่า

    ฉันว่าเธอต่างหากที่หึงก้อง เธอเองตอนนี้ก็เป็นแฟนกับพี่นุ ไม่ใช่เหรอ แล้วยังจะมาหวงนายก้องไว้ทำไม

    เออ. ฉัน ฉันแพรตะกุกตะกัก ไม่รู้จะตอบยังไง เธอเองก็ยังไม่เข้าใจตัวเอง หรือเกิดอาการ รักพี่เสียดายน้องขึ้นมา ถึงจะเลิกกับก้องไปแล้ว แต่เมื่อเห็นก้องอยู่กับผู้หญิงคนอื่น ก็อดหวงไม่ได้

    คำถามนี้ถือว่า จี้ตรงใจแพร จนอ้ำอึ้ง พิมพ์ดาราไม่รอให้แพรตอบ ลุกขึ้น ขอตัวขึ้นบนห้อง ทิ้งแพรให้อึดอัด คับข้องใจอยู่คนเดียว

    ยี้ส์.  ร้ายจริงๆผู้หญิงคนนี้แพรคิดมองตามหลังพิมพ์ดารา
    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
    มาต่อแล้วครับ พอดีงานยุ่ง เลยนานหน่อย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×