ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สะกิดรักหัวใจ ยัยไฮโซตกกระป๋อง

    ลำดับตอนที่ #19 : ตอนที่ 19

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.พ. 51



     

                    ก้องกับพิมพ์ดาราทำงานด้วยกันร่วมเดือน เขาทำงานเสร็จไปหลายงาน และรายได้ก็ดี จนก้องยิ้มหน้าบาน กำลังจดบัญชีคิดรายรับรายจ่าย อยู่บนโต๊ะกินข้าว โดยมีพิมพ์ดารานั่งอยู่ตรงโซฟาดูทีวีอยู่

    วันนี้เป็นวันสิ้นเดือน และไม่มีงานเข้า ก้องสัญญาว่าจะจ่ายเงินเดือนให้เธอ  พิมพ์ดารารู้สึกตื่นเต้น ที่เธอจะได้เงินจากน้ำพักน้ำแรงเป็นครั้งแรก แต่ก็พยายามไม่แสดงออก แกล้งทำเป็นไม่สนใจดูทีวีอยู่เฉยๆ แต่ก็ยังเหลือบมองไปทางก้องอยู่บ่อยๆ

     

    อีตานี้คิดช้าจังเธอบ่นอุบอิบเบาๆ เมื่อเห็นก้องยังคิดไม่เสร็จซะที

    พิมพ์ดารา !” เสียงก้องเรียกทำเธอสะดุ้ง นึกว่าเขาได้ยินที่เธอบ่น แต่พอดูแล้วไม่ใช่เหมือนเขาเรียกเธอเข้าไปรับเงิน

    พิมพ์ดาราจึงลุกขึ้นอย่างอ้อยอิ่ง วางท่าไม่รีบร้อน เดินเข้าไป

                    มีอะไร

    น้ำเสียงถามเหมือนไม่รู้จะเรียกเธอทำไม แต่ในใจนั่นรอรับเงินอยู่แล้ว คิดไปถึงว่าเตรียมจะไปซื้ออะไรไว้แล้วด้วย มีทั้งเสื้อผ้าใหม่แทนเสื้อผ้าเก่าที่แสนเชย ครีมบำรุงผิวที่หมดไปแล้ว รวมถึงเครื่องสำอาง ที่เธอห่างเหินมาร่วมเดือน

     

    อ่ะ นี่เงินของเธอเดือนนี้ สี่พัน

     

    ป๊อก!     ป๊อก!     ป๊อก!

    เสียงความฝันของพิมพ์ดารา ค่อยๆ แตกออกไปทีล่ะอย่าง พร้อมกับสีหน้า เอ๋อๆ ของเธอ

    อะไรนะ นายให้ฉันแค่สี่พันเธอเริ่มจะโวยขึ้น ฉันทำงานแทบตาย นายให้ฉันแค่เนี้ยเหรอ ก็ไหนนายบอกว่าจะให้ฉันทำงานวันล่ะ สี่ร้อยไง ฉันคิดดูแล้วฉันต้องได้ หมื่นสองสิ

     

    โอ้โฮ..ก้องอุทาน เธอคิดได้หมื่นสอง  นี่ร่วมวันหยุดด้วยหรือไงนะ ฉันคิดให้เธอวันล่ะสี่ร้อยแต่วันหยุดไม่นับ แล้วก็หักค่าที่เธอเอาเงินฉันไปใช้ก่อน กับที่เป็นหนี้ฉันออกบางส่วน มันก็เหลือให้เธอแค่นั้น เอ้า..เอาบิลไปดูจะได้หายข้องใจ ผู้หญิงอะไรคิดเอาแต่ได้ชะมัด

    พิมพ์ดารากระชากบิลมาดู และเห็นรายการหักเงินของเธอยาวเหยียด หักยิบหักย่อย แม้แต่ผ้าอนามัยที่เธอเอาเงินเขาไปซื้อตอนแรกก็ยังหัก แต่มันเป็นรายการที่เธอเถียงไม่ออกสักข้อเดียว ได้แต่เม้มปากน้อยใจปนผิดหวัง สะบัดตัวเดินออกไป ไม่พูดไม่จา

    อ่าว แล้วนั้นเธอจะไปไหนหนะ ก้องทัก

    ฉันก็จะไปใช้เงินนะสิ จะใช้ให้หมดเลยด้วยพิมพ์ดาราบอกประชด พร้อมเดินออกจากบ้าน

    เออ..ถ้าใช้หมด ไม่มีให้แล้วนะก้องบอกตามหลัง ก่อนนั่งลงโธ่~ แล้วทำเป็นไม่สนใจ  ที่แท้ก็คิดไว้ในหัวหมดแล้ว พอไม่ได้ดังใจ ก็ทำมาประชด คิดจะให้ฉันใจอ่อนล่ะสิ ไม่มีทาง พิมพ์ดารา ฉันหนะรู้ไต๋เธอหมดแล้ว เขาสบถหัวเราะเธอเบาๆ

    เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ทำให้ก้องต้องคว้านหาโทรศัพท์ขึ้นมารับ สันนั่นเองที่โทรมา

    นี่ก้อง แพรจะไปหาแกวันนี้ แพรไปได้ที่อยู่จากรุ่นพี่ของแก ฉันไม่ได้บอกแพรนะ ฉันเลยโทรมาบอกแกก่อน เดี๋ยวแกจะมาโทษฉัน

    สันรายงาน ทันที่ก้องรับสาย ทำเอาเขานิ่งอึ้งไปขณะหนึ่ง ก่อนจะตอบเบาๆ

    อืมห์ .. ไม่เป็นไร ขอบใจนะ

    เออ.. งั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว แค่นี้นะสันบอกก่อนวางสาย

    ก้องกดวางโทรศัพท์ นั่งถอนหายใจคิดอย่างหนัก เขารู้สึกหนักใจที่จะเจอหน้าแพร ทั้งที่บางครั้งก็รู้สึกว่าอยากจะเจอหน้าเธออยู่เหมือนกัน แต่เวลาที่เจอมักจะรู้สึกเจ็บลึกๆในใจ มันทำให้เขาทำใจได้ลำบาก

    พิมพ์ดารา เดินมาตามถนนในซอย เพื่อไปซื้อเครื่องสำอางบำรุงผิว ที่แรกคิดจะไปซื้อที่ห้าง แต่ตอนนี้คำนวณเงินจากที่มีอยู่ คงไม่พอให้ซื้อแน่ๆ เลยต้องไปหาซื้อครีมบำรุงผิวราคาถูกๆ ตามร้านมินิมาคร์แทน

    พอถึง ที่หน้าร้านมีตู้ขายน้ำส้มอัตโนมัติ พิมพ์ดารานึกกระหายอยากจะดื่ม เลยควานหาเหรียญในตัวหยอดลงไป แต่ตู้เจ้ากรรมดูเหมือนจะไม่ทำงาน ดันรับแต่เงินไม่คืนน้ำส้มออกมา

     

    อะไรกัน นี่คิดจะโกงฉันเหรอ พิมพ์ดาราสบถตาขวางใส่ตู้ พร้อมกับทุบ ปัง ปัง ไปตามตู้ให้มันทำงานคลายน้ำส้มออกมา

    กล้าดียังไงมาอมเงินฉัน คลายออกมาเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะพังแกจริงๆด้วยเธอโวยวายเสียงดัง ด่าตู้ขายน้ำ เมื่อเริ่มหงุดหงิดโมโห

    ยี่ส์..ฝากไว้ก่อนเถอะ

    เธอเตะโครมไปที่ตู้ขายน้ำอย่างเหลืออด

    นี่พิมพ์ดารา เธอนี่ทะเลาะได้แม้กระทั้งตู้ขายน้ำหรือไงนะ

    เสียงก้องนั้นเองที่มาจากด้านหลัง พิมพ์ดาราต้องหยุดหันไปมอง และรู้สึกอายที่การกระทำของเธอตกอยู่ในสายตาเขา แต่ยังวางท่าเชิดหน้าเฉย ถามเสียงขุ่นๆ

    นายมาทำอะไร

    ฉันจะมาตามเธอนะสิ จะชวนออกไปข้างนอก

    พิมพ์ดารานึกแปลกใจ อีตานี้คิดจะใช่งานฉันวันหยุดล่ะสิท่า

    นี่วันนี้วันหยุดนะ ฉันไม่ไปไหนหรอกเธอบอกเสียงแข็ง

    ตามใจ  ฉันว่าจะพาเธอไปกินข้าวข้างนอกซะหน่อย

    ก้องบอกเรียบๆ พร้อมเดินกลับไปขึ้นรถตู้ที่จอดอยู่ข้างทาง พิมพ์ดาราชะงักนิ่ง คิดว่าผิดคาดแฮะ นานแล้วที่เธอไม่ได้กินของดีๆ นี่ถือว่าเป็นโอกาส รีบสาวเท้าเดินตามไปขึ้นรถ ก้องปลายตามองเธอขณะเธอขึ้นมานั่ง

    ไหนบอกว่าจะไม่ไปไหนไงก้องแกล้งถามแหย่

    พิมพ์ดารากลับวางท่าเชิดตอบ

    ก็ในเมื่อนายอุตส่าห์ลงทุนมาชวนฉันแล้ว ฉันก็ไม่อยากให้นายเสียใจออกรถเถอะ ไปสิ

    ก้องอดยิ้มหัวเราะในใจไม่ได้ ส่ายหัวยิ้มๆ ก่อนสตาร์ทรถ ขับออกไป

       ที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ ก้องพาพิมพ์ดารามานั่งร้านสุกี้ ข้างๆ มันไม่ใช่ร้านสุกี้ mk แต่มันเป็นร้านสุกี้เล็กๆ ที่มีโต๊ะเพียงไม่กี่โต๊ะ และที่สำคัญราคาถูกกว่าบนห้างมากนัก พิมพ์ดารามอง หม้อต้มกับอาหารที่วางอยู่ ด้วยสีหน้าขุ่นๆ ก่อนจะบอกด้วยน้ำเสียงผิดหวังและไม่พอใจ

    ฉันนึกว่านายจะพาไปกินที่ภัตรคานหรูๆ

    มันต่างกันตรงไหน นี่ก็หรูเหมือนกันก้องบอกอย่างไม่ยีหระ จัดแจงเอาเนื้อเอาผักลงหม้อ

    เอ้า.. ช่วยกันหน่อยสิ หรือว่าจะไม่กินก้องบอกเธอ เมื่อเห็นเธอนั่งเฉยๆ

    พิมพ์ดาราเลยต้องถอนหายใจคลายความผิดหวัง หยิบถาดอาหารมาช่วยเทลงหม้อ คิดว่าอย่างน้อยก็ยังดีกว่าอาหารแกงถุงที่บ้าน แต่ในใจเธอคิดถึงสเต็กสันในเนื้อนุ่มกับไวล์องุ่น ปิแองเดอชู ปี 1967

    ปกติแต่ก่อนเธอไม่ค่อยเข้าร้านอาหารประเภทนี้ ถ้าจะกินสุกี้ก็ต้องเป็นร้านที่มีชื่อ กับร้านโนเนมเธอไม่ค่อยมั่นใจว่ามันจะอร่อย แต่พอกินไปได้หน่อยหนึ่งเธอรู้สึกว่ามันก็อร่อยดี จนเธอกินได้ไม่หยุด

    เป็นไง ฉันบอกแล้ว ร้านนี้หนะอร่อยไม่แพ้ร้านสุกี้ดังๆ หรอกจะบอกให้ก้องบอกเมื่อเห็นท่าทางเธอกินอย่างเอร็ดอร่อย พิมพ์ดาราได้แต่ผงกหัวเห็นด้วย โดยไม่พูดอะไรเพราะปากไม่ว่าง พลางไปคว้าตะกร้อลวก ที่ลวกเนื้ออยู่ในหม้อ ก้องรีบโวยวายเพราะตะกร้อนี้เขาเป็นคนลวกเนื้อทิ้งเอาไว้

      เฮ้ย นี่ มันตะกร้อเนื้อฉันลวกไว้นะ อยากกินก็ลวกเองสิพร้อมกันมือเธอให้ถอยออกไป พิมพ์ดาราเค้นเสียงดัง ชิ คิดในใจ แค่นี้ก็ทำเป็นขี้เหนียว ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลย ฉันลวกเองก็ได้ เลยไปเอาตะกร้ออีกอัน และกวาดเนื้อในถาดจนหมดลงในตะกร้อของเธอเอาลงไปลวก จนตะกร้อของเธอพูนไปด้วยเนื้อ

    ก้องมองอย่าง พูดไม่ออก ยัยนี่ ไม่เกรงใจใครเลยหรือไง ไม่คิดจะเหลือให้คนอื่นเลยหรือไงนะ

    ระหว่างที่กำลังกินอาหาร พิมพ์ดารามักจะเห็นก้องมองดูนาฬิกาข้อมือบ่อยๆ เหมือนเขากำลังคำนวณเวลาอะไรสักอย่าง จนพิมพ์ดารานึกสงสัย

    นายมีนัดเหรอเธอถาม

    ปะ ..เปล่า ไม่มี กินเหอะ เดี๋ยวไปดูหนังต่อ

    พิมพ์ดาราไม่ค่อยจะเชื่อหู คิดไม่ออกว่านายก้องวันนี้ใจดี ผิดปกติ

    งานใหม่ที่รับมา นี่เป็นงานหนักใช่มั๊ยเธอค่อยๆลองเชิงถาม

    แต่ก้องกลับมีสีหน้างงๆ ตอบแล้วถามกลับ

    ก็เหมือนทุกทีที่ทำมา-- ทำไม

     พิมพ์ดารา นึกสงสัยถามต่อ

    แล้วค่าดูหนัง กับค่าอาหารนายจะหักเงินฉันมั๊ย

    ก้องขมวดคิ้ว ฉงน ก่อนจะตอบ

    ถามอะไรแปลกๆ ฉันว่าฉันเลี้ยง ฉันจะหักเงินเธอทำไม ประสาทหรือป่าว

    นายสิประสาท จู่จู่ คนขี้เหนียวอย่างนาย พามาเลี้ยงข้าวแล้วจะพาไปดูหนัง จะไม่ให้ฉันคิดได้ไงพิมพ์ดาราสวนทันควัน

    โอ้โฮ ยัยนี่..ก้องอุทานอย่างพูดไม่ออก ว่าฉันขี้เหนียวเหรอ เอาเนื้อมานี่เลยฉันไม่ให้กินแล้ว

    ก้องเอื้อมมือไปคว้าตะกร้อลวกเนื้อของเธอ จะเอามาเทใส่ชามตัวเอง  พิมพ์ดาราตกใจ รีบจับข้อมือของเขาไว้ไม่ให้ก้องเอาเนื้อเธอไป ร้องบอก

    นั่นมันของฉันนะ

    เธอเอาไปคนเดียวหมด ไม่คิดจะแบ่งคนอื่นหรือไงก้องพูดกัดฟันใส่

    เกิดสงครามแย่งตระกร้อเนื้อบนหม้อสุกี้ แต่ก้องแรงเยอะกว่า พิมพ์ดาราสู้แรงไม่ไหว เลยก้มลงไปกัดแขนของเขา

    โอ้ย.. .ก้องร้องเสียงหลง ชักมือกลับนี่เธอถึงกับกัดฉันเลยเหรอ ก็ได้ก็ได้ อยากกินเอาไปเลย ผู้หญิงอะไรตะกละชะมัด ขอแบ่งหน่อยก็ไม่ได้

    พิมพ์ดาราไม่สนใจเชิดหน้าใส่ เทเนื้อในตะกร้อลงในชามของเธอจนหมด

    ชัยชนะครั้งนี้ตกเป็นของเธอ แม้จะโดนตราหน้าว่าตะกละ แต่เนื้อมันอร่อยจริงๆนะ แล้วเธอก็คีบกินอย่างสบายอารมณ์

     

    ในโรงหนัง พิมพ์ดาราตาปรือ เพียงแค่หนังฉายไปได้สิบห้านาที อาจเป็นเพราะเธอกินมากไปหน่อย หนังท้องตึงหนังตาก็เลยหย่อน จากนั้นก็เริ่มจะสัปหงก และคอพับหงายหลังหลับไป ก้องพอหันไปเห็น ต้องนึกหัวเราะ เพราะเธอหลับแบบหมดสภาพจริงๆ แถมคอยังพับเอียงแทบจะหัก ขดไปกับหัวไหล่ตัวเอง น้อยครั้งที่จะมีใครเห็นพิมพ์ดาราอยู่ในสภาพนี้

    ก้องนั่งขำไม่เป็นอันดูหนัง ไฮโซผู้ดีบางครั้งเวลาหลับ ก็ดูไม่ได้เหมือนกันแฮะ ก้องคิด แต่ผู้หญิงที่นั่งม้านั่งตัวข้างติดกับพิมพ์ดารา กลับสะกิดข้ามตัวพิมพ์ดาราไปบอกก้อง

    นี่คุณ แฟนคุณหลับคอพับขนาดนี้ คุณไม่คิดจะให้เธอพิงไหล่หน่อยเหรอไง ยังมานั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขำแฟนตัวเองอยู่ได้ เป็นสุภาพบุรุษหรือป่าวเนี่ย

    ก้องหุบยิ้มแทบไม่ทัน หน้าเสียหน่อยๆ คิดจะอธิบายว่าไม่ได้เป็นแฟนกันก็ไม่สะดวก เพราะอยู่ในโรงหนัง ใครจะมาฟัง เลยต้องช้อนคอพิมพ์ดาราให้เอนพิงเบาะดีๆ แต่พิมพ์ดาราดันเอนคอพับมาทางหัวไหล่ก้องพอดี ก้องจะผลักออกก็ใช่ที่ เพราะผู้หญิงที่นั่งข้างๆ ก็ยังชำเลืองมองมา เขาเลยต้องปล่อยเลยตามเลย ให้พิมพ์ดาราอิงกับหัวไหล่ของเขา

    จวบจนหนังจบ คนอื่นพากันทยอยออกจากโรงหนัง พิมพ์ดาราจึงรู้สึกตัวตื่น เธอพบว่าเธอซุกหน้าซบกับหัวไหล่ของก้อง ไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่ตอนไหน รีบเด้งตัวขึ้น รู้สึกทั้งงงทั้งอายจนหน้าแดงเล็กน้อย รีบลุกขึ้นเดินออกตามคนออกจากโรงหนัง ก้องกลับดึงเสื้อตรงหน้าอกมาดู เห็นเป็นลอยคราบเปียกเป็นทาง

    ยัยนี้น้ำลายไหลด้วยเหรอเนี่ย โอ้โฮ เป็นคราบเลย

    ก้องบ่นพึมพำ ก่อนจะลุกขึ้นเดินตามออกไป

     

    กว่าพวกเขาจะกลับถึงบ้าน ก็เกือบหนึ่งทุ่ม รถเมือเข้ามาจอด แสงไฟหน้ารถส่องไปที่ประตูบ้าน ก้องกับพิมพ์ดาราเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งรออยู่ที่หน้าประตูบ้าน เธอก็คือแพรนั่นเอง 

    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
    ต้องขออภัยที่หายไปนานนะครับ พอดีติดงาน ช่วงนี้พอว่างหน่อยเลยเอามาลงต่อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×