ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สะกิดรักหัวใจ ยัยไฮโซตกกระป๋อง

    ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 11

    • อัปเดตล่าสุด 16 ธ.ค. 50



     

    ในงานศพของธนากร  สัน ก้อง แพรและน้าใหม่มาด้วยกัน สันดูจะเสียใจในช่วงแรกๆ ธนากรเป็นลุงของเขา และเป็นคนบอกพ่อของเขาให้ส่งเสริมเขาเรียนทนายความ เพื่อโตขึ้นมาจะได้ช่วยงานของลุง  เขาไม่คิดว่าลุงของเขาจะจากไปเร็วอย่างนี้ ทั้งทีไปเยี่ยมในตอนนั้นอาการก็ดูดีขึ้น

     

    แต่ไม่นานสันก็พอจะทำใจได้ ก้องและแพรแม้จะพูดคุยกับสันเป็นปกติ แต่ก็จะหลีกเลี่ยงที่จะพูดกันเองตรงๆ เหมือนจะพูดคุยผ่านสัน ระหว่างพวกเขาเหมือนมีกำแพงกั้นไว้

     

    หลังเลิกงานศพกลับถึงบ้าน ก้องปลีกตัวไปคุยกับน้าใหม่ พยายามบอกในสิ่งที่เขาคิดมาหลายวัน เขาคิดจะย้ายออกจากบ้านพักของน้าใหม่ และน่าใหม่ก็ดูจะตกใจ ที่ได้ยินเรื่องนี้จากเขา และพยายามถามถึงสาเหตุ แต่ก้องอ้างถึงเรื่องงานที่เขาทำอยู่ ทำให้ไปมาไม่สะดวก น้าใหม่เลยต้องยอมตามใจ สันรู้เรื่องนี้มานานแล้ว และเห็นด้วยที่ก้องจะย้ายออกไป เพราะถ้าไม่อย่างนั้นก้องคงต้องอกแตกตายเข้าสักวัน

                และเขาก็ย้ายออกไปโดยเก็บของส่วนตัวเขากระเป๋า เพียงไม่กี่ใบ ออกจากบ้านพักโดยที่แพรมารู้หลังจากที่เขาย้ายไปแล้ว และมันทำให้เธอเสียใจ ที่ก้องจากไปในลักษณะนี้

                   

                   

     

                    ชัชวาล โทรนัดพิมพ์ดารามาทานอาหารนอกบ้าน เมื่อเขารู้สึกว่าพร้อมที่จะจัดการกับเธอ เขาเลือกร้านอาหารหรู ที่ห้อง VIP ดูเป็นส่วนตัว เพื่อจะคุยกับเธอสองต่อสอง และพิมพ์ดาราก็มาตามนัด ทั้งสองคนทานอาหารเที่ยงร่วมกัน

     

                     คุณลุงมีอะไรจะคุยกับหนูหรือค่ะ พิมพ์ดาราถามขึ้นหลังจากทานอาหารกันเรียบร้อย

                    เรื่องตานุ เธอรู้ไหมว่าตานุไม่กลับบ้านมาหลายวันแล้วชัชวาลเริ่มที่จะเข้าเรื่องเมื่อเธอถามถึง

                    คงอยู่ตามบ้านเพื่อนมั่งค่ะ หนูก็อยากรู้ว่าพี่นุจะทนได้นานขนาดไหน...

                นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะพิมพ์ดารา ชั้นไม่คิดว่าการที่จะให้ตานุแต่งงานกับเธอ กลับจะทำให้ตานุต้องหนีออกจากบ้าน ตอนนี้แม่เขาเป็นห่วงมาก และโมโหมากด้วย เพราะความคิดของเธอ และดูเธอก็ไม่ห่วงตานุเลย ลุงคิดว่า.. ลุงต้องพิจารณาการแต่งงานของพวกเธอใหม่  ชัชวาลพูดมีสีหน้าจริงจังและขึงขัง จนพิมพ์ดาราแปลกใจ

                    พิจารณาใหม่?.. ยังไงค่ะ?”

     

                ชั้นคิดว่า.. ชั้นจะไม่ให้เธอแต่งงานกับตานุแล้วชัชวาลพูดเน้นชัดถ้อยชัดคำ พิมพ์ดาราต้องรีบสวนขึ้น

                    ไม่ได้นะค่ะ จู่จู่คุณลุงจะมาบอกอย่างงี้ได้ยังไง

                ทำไมจะไม่ได้ ฉันเป็นคนเลี้ยงเธอมานะ เธออย่ามาขึ้นเสียงอย่างนี้กับชั้น

    ชัชวาลตวาดใส่สีหน้าเอาจริง จนพิมพ์ดาราตกใจหน้าค้างนิ่ง เธอไม่เคยเห็นชัชวาลกล้าทำกิริยาแบบนี้กับเธอมาก่อน ชัชวาลกลับรีบพูดต่อ

                    ชั้นทนเธอมามากแล้ว แล้วก็จะไม่ทนอีกต่อไป เธอกำลังทำให้บ้านโชติการณ์ของชั้น บ้านแตกสาแหลกขาด ลูกไปทาง เมียกำลังจะไปอีกทาง แต่เรื่องนี้จะโทษเธอคนเดียวก็ไม่ได้ ชั้นเองก็ถือว่ามีส่วนผิด ที่คิดว่าเธอมีดีพร้อมที่จะแต่งงานกับตานุ แต่ตอนนี้ชั้นตาสว่างแล้ว ฉันว่าเธอควรกลับไปอังกฤษซะ

                    พร้อมกับพูด ชัชวาลดึงเช็คจากกระเป๋าเสื้อที่เตรียมไว้ เลื่อนส่งถึงหน้าเธอ

                    เอ้านี่.. รับไว้

     

    พิมพ์ดารามองดูเช็คตรงหน้า มันเป็นเช็คจำนวนเงิน 250000 ปอนด์ หรือราวๆ 20 ล้านบาทสั่งเบิกจ่ายที่ธนาคารในประเทศอังกฤษ  เธอมองมันอย่างงงๆก่อนจะถาม

    นี่มันอะไรกันค่ะ

    ชัชวาลสูดลมหายใจก่อนตัดสินใจบอก

    ชั้นคิดว่า ชั้นไม่สามารถเลี้ยงดูเธอได้อีกแล้ว ความจริงเธอก็ไม่ใช่หลานแท้ๆของชั้น ที่ชั้นอุปการะเธอ เพราะว่าเธอเป็นลูกของเพื่อนชั้น แต่ว่าตอนนี้ ชั้นคิดว่าชั้นทำมามากพอแล้ว เธอควรไปใช้ชีวิตของเธอได้แล้ว เงินจำนวนนี้ชั้นให้เธอไปตั้งตัวที่อังกฤษ เธอไปรับมันได้ที่โน้น และก็อย่ากลับมาที่ประเทศไทยอีก จะมีหนังสือสัญญาให้เธอเซ็นหลังจากที่รับเงิน อ้อ.. แล้วต่อไปนี้เธอไม่เกี่ยวข้องกับโชติการณ์อีกแล้ว

    พิมพ์ดาราเหมือนถูกฟ้าฝ่ากลางกระหม่อม คำพูดนี้ช็อกยิ่งกว่า การยกเลิกการแต่งงานของเธอ เธอนั่งนิ่งพูดอะไรไม่ออก ชัชวาลคิดว่าตัวเองพูดหมดแล้ว จึงลุกขึ้นจะเดินออกไป

     

    เดี๋ยวค่ะ .. คุณลุง  จู่จู่ทำไมคุณลุงทำอย่างนี้กับหนูค่ะ คุณลุงจะทำอย่างนี้กับหนูไม่ได้นะเธอร้องเรียกเสียงเหมือนออกคำสั่งรีบวิ่งตามทันทีที่ตั้งสติได้ แต่ถูกบอดี้การ์ดสองคนของชัชวาลขวางเอาไว้ ทำให้เธอตามไม่ทัน นายชัชวาลขึ้นรถออกไปแล้ว

    พิมพ์ดาราโมโหสุดขีดเตะรองเท้าสนสูงไปที่หน้าแข้งของบอดี้การ์ดที่ขวางเธอคนหนึ่งจนทรุดตัวลง พร้อมกับฟาดกระเป๋าถือใส่หน้าอกอีกคนจนร้อง อุ๊บ ดีที่บอดี้การ์ดสองคนรู้ว่าเธอเป็นหลานสาวของนายชัชวาล และได้รับคำสั่งเพียงขวางเธอไว้ จึงไม่กล้าตอบโต้ทำอะไรรุนแรงกลับไป ยอมให้เธอใช้เป็นที่ระบายอารมณ์ ก่อนที่เธอจะขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เชิดหน้าสะบัดเดินไปขึ้นรถตัวเอง ขับตามออกไป

    ทำไม พวกเขาทำกับฉันอย่างนี้นะ คอยดูเถอะ แม่จะอาละวาดให้บ้านพังพิมพ์ดาราสบถบ่นอยู่ในรถ อย่างหงุดหงิดโมโห พร้อมกับต่อสายมือถือหานายชัชวาลเพื่อจะคุยให้รู้เรื่อง แต่สายกลับโทรไม่ติดสักที เพราะนายชัชวาลปิดเครื่องเอาไว้

     

    พิมพ์ดาราขับตามไปถึงคฤหาสน์ แต่ยามหน้าประตูถูกสั่งไว้แล้วไม่ให้พิมพ์ดาราเข้ามา เธอจึงทำอะไรไม่ได้ ได้แต่จอดรถหน้าประตูรั่วและโมโหจับใจ

    ก็ได้ เธอลากเสียงสูงอย่างนึกแค้นใจ ถ้าคุณลุงต้องการอย่างนี้..หนูไม่ง้อคุณลุงก็ได้เธอตะโกนบอกผ่านประตูรั่วต่อหน้ายาม ก่อนจะสะบัดตัวกลับไปขึ้นรถขับออกไป ชัชวาลมองตามรถของเธอจากหน้าต่างของคฤหาสน์ ก่อนจะต่อสายถึงคนสนิท

    ช่วยไปจัดการเอาคอนโด และรถของเธอคืนมาให้ที่ ชั้นต้องการให้ยัยนั่นกลับไปอังกฤษให้เร็วที่สุดชัชวาลสั่งความลงไปในโทรศัพท์

     

                แต่พิมพ์ดารายังไม่กลับไปอังกฤษ  แม้ว่าคอนโดและรถของเธอจะถูกคนของชัชวาลเอากลับคืนไปแล้ว เธอกลับไปพักโรงแรม และพยายามที่จะติดต่อหาชัชวาล แต่พวกเขาตัดขาดจากเธอ เบอร์ที่เธอเคยติดต่อคนสนิท หรือเลขาของชัชวาลล้วนโทรไม่ติดสักเบอร์ ทั้งที่เมื่อก่อนต้องมีคนคอยรับสายเธอตลอกยี่สิบสี่ชั่วโมง ตอนนี้เธอเหมือนรู้สึกว่ากำลังถูกลอยแพ ทั้งที่ตัวเธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีเรื่องแบบนี้ขึ้น

     

                   

     

                    ในผับแถวย่านแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของกรุงเทพ พิมพ์ดารานั่งอยู่หน้าเค้าเตอร์บาร์ สั่ง มาตินี่ ดื่มจนเมาแอ๋ แต่เธอยังคงนั่งหลังตรงไหล่เชิด รักษาภาพพจน์ความเป็นผู้ดีไฮโซเอาไว้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอดัดจริตแกล้งทำ แต่มันเป็นบุคลิกติดตัวมาจากการถูกเลี้ยงดูแบบคุณหนูลูกผู้ดีตั้งแต่เล็ก สิ่งที่บอกให้รู้ว่าเธอเมาขนาดไหนก็คือ ดวงตาอันหรี่ปรือและเลือนลอยของเธอ พร้อมกับปากที่บ่นขมุบขมิบ ชักสีหน้าคนเดียว

     

                        นี่พวกเขาจะตัดขาดจากชั้นจริงๆแหรอเนี่ย...มันเกิดอะไรกันขึ้น .. ทำไมเขาทำอย่างนี้กับชั้นนะเธอพึมพำอย่างอารมณ์เสีย เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับยก มาตินี่ ดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว

                ในขณะที่เธอมีความทุกข์กลุ่มใจ คนอีกกลุ่มหนึ่งในผับกลับกำลังสนุกสนานและร่าเริง พวกเขากำลังเลี้ยงฉลองการรับปริญญาของคนในกลุ่ม และคนที่รับปริญญาก็คือพี่ป๋อง และก้องก็อยู่ที่นี่

                เอ้า.. ยกแก้วให้บัณฑิตใหม่ ที่เกือบได้เกียรตินิยมพี่นกเรียกเพื่อนในกลุ่มยกแก้วแสดงความยินดีกับพี่ป๋อง แต่ก็ยังมีแซวตามท้าย ทุกคนต่างหัวเราะยกแก้วขึ้นดื่ม พี่ป๋องดื่มเสร็จก็วางแก้ว ทำท่าเหมือนมีเรื่องจะปราศรัย ตั้งท่าทางดูเป็นผู้ใหญ่ เต็มตัว

                    เอาล่ะ ปีนี้ชันก็จบแล้ว ที่เหลือก็เป็นพวกแกที่ต้องจบตามชั้นออกไป ส่วนงานจ๊อบที่พวกเราทำกันอยู่ ชั้นคิดว่าชั้นจะวางมือ ให้พวกแกทำแทน ชั้นจะไปทำกิจการที่บ้านเปิดเป็นบริษัทออกแบบเต็มตัว พวกแกใครจะรับช่วงต่อมั่งว่ะ

                  ทุกคนเงียบ มองหน้ากัน เหมือนกับยากจะตันสินใจ จนพี่ป๋องต้องไล่เรียงที่ล่ะคน

                    ไอ้นก แกไม่เอาเหรอ

                ไม่ไหวอ่ะพี่ ปีนี้ผมก็ขึ้นปีสี่ ผมว่าผมจะทุ่มให้การเรียนก่อน จะได้จบไวๆ

                ไอ้ชิต แล้วแกล่ะ

                ผม ก็เหมือนมันนะแหละ ไม่ไหว ปีนี้ผมก็ว่าจะหยุดทำงานเหมือนกัน ที่บ้านก็บ่นๆอยู่เหมือนกัน ว่าผมจะไปทำงานทำไม เอาเวลาอ่านหนังสือเรียนให้จบๆดีกว่า แล้วค่อยออกมาทำเต็มตัว... ชิตทำท่าจะรายยาว จนพี่ป๋องต้องยกมือปราม

                พอๆ พูดยังกับพี่ผิดที่ดึงแกมาหารายได้พิเศษ.... อ่าวแล้วคนอื่นๆล่ะ

                ที่เหลือล้วนแต่ส่ายหน้า เพราะดูแล้ว แนวร่วมจะหายไปเยอะ ถ้าทำไปคงได้เหนื่อยตาย เพราะพวกเขาต้องเรียนด้วย และก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน พี่ป๋องไล่มาจนมาถึงก้อง

                    ว่าไงก้อง แกล่ะ จะทำต่อหรือป่าว

                ก้องคิดหนักยังไม่ได้ตอบออกไป เพราะงานจ๊อบแบบนี้เขาชอบทำแถมเงินก็ดี แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าคนที่จะทำเหลือเพียงเขาคนเดียว

                    มันจะทำได้ยังไง เหลือมันคนเดียวพี่นกตอบออกมาแทน

                    จริงๆผมก็ยากทำนะ แต่ก็อย่างพี่นกว่า ผมคนเดียวคงทำไม่ไหว ก้องบอกท่าทางเสียดาย

     

                    อืมส์.. เอางี้ ถ้าแกอยากจะทำจริงๆ แกพอจะหาลูกมือได้ไหมล่ะ ชั้นจะให้รถตูคันนั้นกับเครื่องมือให้แกยืมใช้ งานจ๊อบตกแต่งมีหลายอย่าง ชั้นจะป้อนงานที่ใช้คนไม่มากให้ อย่างงานปูพรม ทาสี  บุวอล์เปเปอร์อะไรพวกเนี้ย ชั้นไม่อยากให้งานจ๊อบที่เราเคยทำกันมา มันโดนทิ้งหายไป เฉยๆ มันน่าเสียดาย พี่ป๋องบอกอย่างคิดให้เสร็จ เขารู้ว่าก้องชอบงานนี้ และชั่วโมงบินมันก็สูงพอที่จะทำได้

                ก้องตาเป็นประกาย นี่เป็นโอกาสที่ถือว่าหาได้อยากที่เดียว เขารีบตอบรับ

                    ครับ ผมจะลองหาดูก้องรับไปก่อนทั้งที่ไม่รู้ว่าจะไปหาลูกมือจากไหน

    พี่ป๋องทำท่าจะคุยเรื่องงานกับก้องอีก พี่นกต้องทำหน้าเบ้ ร้องห้าม

                พอเหอะพี่ วันนี้มาสนุกกัน ยังจะมาคุยเรื่องงานอีก ฟังแล้วน่าปวดหัว ทั้งพี่รหัส น้องรหัสเหมือนกันเดี๊ยะๆ บ้างานด้วยกันทั้งคู่ พวกเราเมาดีกว่า

                คำหลังพี่นกบอกต่อทุกคน ชูแก้วเหล้า ทำเอาทุกคน เฮ ดื่มตาม บรรยากาศของโต๊ะนี้ดูจะแตกต่างจาก เค้าเตอร์ที่พิมพ์ดารานั่งอยู่ทั้งที่เป็นผับเดียวกัน เปิดเพลงเดียวกัน

     

                    พิมพ์ดารานั่งดื่ม คิดอยู่ค่อนคืน กับชีวิตที่ไม่รู้จะทำยังไง และมีทางเดียวที่ทำได้ก็คือต้องกลับอังกฤษ รับเงิน20ล้าน แล้วใช้ชีวิตอยู่ที่โน้น มันเป็นทางออกเดียวสำหรับเธอในตอนนี้

                    เวลาล่วงเลยถึงตีสอง ผับได้เวลาปิดการบริการ พนักงานขอเช็คบิลกับพิมพ์ดารา เธอคว้ากระเป๋าถือ ล้วงกระเป๋าสตางค์ หยิบบัตรเครดิตส่งให้ พนักงานนำไปรูดแต่กลับพบว่าบัตรถูกระงับการใช้แล้ว

                    คุณค่ะ บัตรนี้เกรงว่าจะถูกรงับการใช้แล้ว ไม่สามารถใช่ได้ค่ะพนักงานกลับมาบอกต่อพิมพ์ดารา พิมพ์ดารามองพนักงานตาขวางๆ ตัวส่ายไปมาเล็กน้อยเพราะฤทธิ์ แอลกอฮอ

                จา.. เปน ปาย ด้าย ยางไง เมื่อตอน ..กลางวันชั้นก็ยังใช้อยู่เลย คุณลองดูดีหรือยังเสียงเธอยานคางขึ้นจมูก บอกถึงอาการเมาแป๋และเอาเรื่อง พนักงานเลยต้องกลับไปลองใหม่แต่แล้วก็ต้องกลับมาใหม่

                    ขอโทษนะค่ะ แต่มันใช่ไม่ได้จริงๆ ถ้ายังไงรบกวนคุณจ่ายเป็นเงินสดได้มั๊ยค่ะ

                    ก็ได้.. ก็ได้พิมพ์ดาราตัดบทอย่างรำคาญ  พนักงานที่นี้ ไม่ได้เรื่องจริงๆ

                เธอขมุบขมิบปากบ่นลอยๆ ก่อนจะควักธนบัตรใบล่ะพันสี่ห้าใบส่งให้ ก่อนจะเดินโซเซออกไปจากผับ ไปหาแท็กซี่กลับโรงแรม

                    พวกรุ่นพี่ของก้อง กำลังแยกย้ายกันกลับ และเหลือเขาเป็นคนสุดท้าย ที่หน้าผับเขายื่นห่างจากพิมพ์ดาราไม่กี่เมตร แต่มองไม่เห็นกัน พิมพ์ดาราจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ เพราะเมาหนัก เธอเอนตัวไปพิงเสาไฟ้ฟ้า พยุงตัวเอาไว้

                    ฉับพลัน ชายคนหนึ่ง กลับกระชากกระเป๋าเธอแล้ววิ่งออกไป เธอรู้สึกตัวและตกใจร้อง

                    นั่นกระเป๋าชั้น จะเอากระเป๋าชั้นไปไหน

                    เสียงร้องของเธอ ทำให้คนรอบข้างหันมามอง ร่วมทั้งก้อง เธอทำท่าจะวิ่งตามแต่ สภาพกลับไม่เอื้ออำนวย ก้าวได้ไม่กี่ก้าวก็ล้มแผละลงกับพื้น ก้องจำเธอได้และรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เลยตัดสินใจวิ่งตามขโมยไป พร้อมกับเรียกคนร้ายให้หยุด

    แน่ล่ะใครจะไปหยุด ก้องเองก็รู้ดีว่ามันจะต้องไม่หยุด เขาเลยต้องวิ่งไล่มันจนสุดฝีเท้า

     

    ช่วยจับคนข้างหน้าที มันขโมยกระเป๋า ก้องตะโกนบอกพร้อมกับวิ่งไล่ เพื่อจะมีใครช่วยจับไว้ให้เขาไล่ทัน แต่คนกลับพากันตื่น หลบออกเป็นทาง ทำให้คนร้ายวิ่งได้สะดวกโยทิน และมันก็วิ่งได้เร็วจริงๆ  ก่อนจะกระโดนค่อมซ้อนมอเตอร์ไซด์ ที่มีคนขี่รออยู่ ขี่ออกไปหายไปกับท้องถนน ต่อหน้าต่อตา ก้องหอบจนเหนื่อย และทำอะไรไม่ได้ เลยต้องกลับไปดูว่าเธอเป็นอะไรหรือเปล่า แต่พอมาถึงพิมพ์ดาราก็พับเพียบกับพื้นหลังพิงเสาไฟฟ้าไปแล้ว ไม่รู้ว่าหลับหรือหมดสติ

    นี่คุณ เป็นอะไรมั๊ย  ได้สติหน่อยสิ  คุณๆก้องพยายามเขย่าตัวเรียก พิมพ์ดาราปรือตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก ก่อนจะนึกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

    กระเป๋า.... มันขโมยกระเป๋าชั้น คอยดูนะ... ชั้นจะเอาตำรวจไปลากคอมัน มันไปไหนแล้ว

    เสียงเธอ อ้อแอ้ ฟังไม่ได้ศัพท์ เดินโซซัดโซเซ ทำท่าจะไปตามหากระเป๋า แล้วก็ล้มลงไปอีก

    ก้องดูจนรู้สึกสังข์เวท จากสภาพของเธอ ก็รู้ว่าเมาไม่รู้เรื่อง ไปพยุงหิ้วตัวลุกขึ้น ความจริงกะจะพาไปแจ้งความ แต่ดูแล้วสภาพนี้คงให้การกับตำรวจไม่ได้

                    เฮ้อ.. แล้วชั้นจะทำไงดีเนี่ยก้องถอนหายใจบ่นกับตัวเอง ก่อนจะดึงเธอให้ลุกขึ้น พาขึ้นรถแท็กซี่ คิดพาไปส่งที่คอนโดของเธอ

    เกือบตีสามกว่าๆ เกือบตีสี่ กว่าก้องจะมาถึงคอนโดที่เคยตกแต่งให้เธอ แต่ทางคอนโดกลับบอกว่าเธอไม่ได้พักที่นี่แล้ว ก้องแปลกใจและพยายามสอบถามหลายครั้ง แต่ก็ได้รับการยืนยันคำเดิม

                    อ้าว.. แล้วยัยนี่พักที่ไหนกันล่ะเนี่ยนึกปวดขมับขึ้นมาถนัดใจ

                ต้องค้นของในกระเป๋าเสื้อนอกของเธอ เพื่อมีอะไรบอกว่าเธอพักอยู่ที่ไหนได้บ้าง แล้วก็เจอกุนแจ ที่พวงกุนแจมีชื่อโรงแรมติดอยู่ จึงนั่งแท็กซี่ต่อไปโรงแรมนั้น  

    มันออกจะยากสักหน่อย ที่จะพาผู้เมาไม่ได้สติเขาโรงแรมหรูๆ อย่างนี้ และเขาก็พยุงเธอได้ลำบาก เพราะเธอหลับ เลยต้องเอาเธอขึ้นขี่หลังแบกไปทั้งอย่างนั้น ท่ามกลางสายตาพนักงานของโรงแรม ที่มองเขาอย่างประหลาด

     

    คุณค่ะ ไม่ทราบว่าพักอยู่ห้องไหนค่ะพนักงานดูแลความเรียบร้อย เข้ามาทัก เมื่อเห็นเหตุการณ์ไม่ค่อยหน้าไว้วางใจ และไม่รู้ว่าเป็นแขกของโรงแรมหรือป่าว

    เออ.. คือ ผมไม่ได้พักหรอกครับ แต่คิดว่าเธอพักอยู่ที่นี่ กุนแจดอกนี้หนะครับก้องชูกุนแจให้ดู ทั้งที่ยังแบกพิมพ์ดาราอยู่ พนักงานรีบนำเบอร์ห้องไปเช็ค

    อ๋อ ค่ะคุณพิมพ์ดารา แต่เธอพักคนเดียวนี่ค่ะ

    ครับ ผมแค่มาส่ง

    ถ้ายังงั้น รบกวนคุณเซ็นชื่อ และก็เบอร์โทรด้วยนะค่ะ

    ก้องรู้ว่าเป็นระเบียบการของโรงแรม ทางด้านความปลอดภัย แต่เขาก็เซ็นได้อย่างทุลักทุเล เพราะพิมพ์ดาราหลับอุตุอยู่บนหลังเขา แล้วขณะนั้นเองพิมพ์ดาราก็เหมือนรู้สึกตัวขึ้นมานิดหน่อย พร้อมกับ

    อ๊อก! แหวะ!

    สิ่งที่เธอกินเข้าไป ถูกสำรอกออกมา ไหลผ่านหัวไหล่ของก้องราดไปตามเสื้อ อย่างกับธารน้ำตก พนักงานที่ดูอยู่อดยี้หน้าอย่างขยะแขยงไม่ได้  พิมพ์ดารายังอุตสาห์มีสติพอที่จะดึงเสื้อตรงหัวไหล่ของก้องมาป้ายเช็ดคราบรอบปาก ก่อนจะฟุบหน้าหลับต่อ

    ซวยฉิบหาย ยัยนี่ จะอ้วก ก็ไม่มีปี่มีขลุ่ยก้องแยกเขี้ยวบ่น สีหน้าเซ็งจิต

               

                ห้องของเธอเป็นห้องเดี่ยวชั้นเดอะลุกค์ มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน กว่าก้องจะแบกเธอขึ้นมาถึงห้องได้ ก็เหนื่อยเอาการ เขาทิ้งเธอลงบนที่นอน ก่อนจะดูคราบอ้วก ที่เสื้อตัวเอง มันเหม็นเปรี้ยวแล้วก็เลอะไปหมด เขากลับบ้านในสภาพนี้ไม่ได้แน่ เลยเข้าไปในห้องน้ำ ถือวิสาสะ อาบน้ำและซักเสื้อซะเลย กะไว้ว่ารอจนเสื้อแห้งหมาดพอ แล้วค่อยกลับ

     

    ในขณะที่ก้องอาบน้ำ พิมพ์ดาราเหมือนจะสร่างเมา มารู้สึกตัวเมื่อได้ยินเสียง น้ำจากฝักบัวกระทบอ่างอาบน้ำ วินาทีแรกเธอไม่ได้คิดอะไร และรู้ว่ากำลังนอนอยู่ในห้องของตัวเอง ส่วนมาได้ยังไงนั้นเธอไม่รู้ และทำท่าจะหลับต่อ แต่เสียงน้ำในห้องน้ำทำให้เธอ ฉุกคิด และดีดตัวผึงขึ้นมา

     

    ใครอยู่ในห้องน้ำเธอบอกกับตัวเองหน้าตื่น แล้วความจำตอนเมาอันรางเลือน ค่อยๆถูกเรียบเรียงขึ้นมา แล้วก็รู้ว่าใครพาเธอมาส่ง         แต่สิ่งที่เธอนึกมันไม่ใช่ด้านดีเลยแม้แต่น้อย ผู้หญิงเมาไม่ได้สติ ผู้ชายพามาขึ้นห้อง แถมตอนนี้อยู่ในห้องน้ำ เขาทำอะไรกับชั้นเนี่ย

    เธอรีบตะเกียดตะกายลงจากเตียง และเห็นกางเกงยีนส์ ของก้อง กองอยู่บนโซฟาตัวหนึ่ง พร้อมกับกางเกงในบ๊อกเซอร์ ซุกอยู่ในกางเกงยีนส์ เธอทั้งโมโหทั้งร้อนใจที่เสียท่า รวบกางเกงขึ้น เปิดหน้าต่างแล้วโยนมันออกไปจากห้อง

    ชั้นฆ่าแกแน่ๆ เธอนึก พร้อมกับไปคว้า ถาดแสตนเลส ใกล้มือ ไปดักรอหน้าห้องน้ำ

     

    ทันที ที่ก้องออกมาจากห้องน้ำโดยไม่รู้อิโหนิอิเหน่ ถาดแสตนเลส ปะทะหน้าเขาอย่างแรงจน ดัง ป้อง ง่อง ง่อง สะท้อน จากนั้นทั้งถาดทั้งเท้า ระดมใส่เขาไม่ได้ยั้ง

    แก ไอ้คนชั่ว เอาเปรียบชั้นเหรอ นายกล้าทำได้ยังไง นายเอาเปรียบผู้หญิงที่เมาอย่างนั้นเหรอ? ชั้นจะเอานายเข้าคุก

    พิมพ์ดาราทั้งทุบทั้งตี ทั้งทีบ ทั้งด่าทอตะโกน จนก้องตั้งหลักไม่ทัน แถมผ้าขนหนูก็จะหลุด เขาต้องใช้มือกุมไว้มือหนึ่ง อีกมือหนึ่งคอยป้องกัน

    เดี๋ยว .. เดี๋ยวก่อนสิ... ปัดโธ่โว้ยก้องที่แรกจะอธิบาย แต่เธอไม่หยุด จนเขาเจ็บจนโมโห ผลักพิมพ์ดาราเซออกไป พิมพ์ดารากลับไม่ยอม พยายามจะหาอะไรที่ใหญ่กว่าถาดมาจัดการเขา ท่าทางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

    เดี๋ยว คุณฟังผมอธิบายก่อนก้องรีบตวาดยกมือห้าม ตั้งท่าระวังตัว เมื่อเห็นเธอคว้า เสาไม้แขวนเสื้อนอก ซึ่งมันเป็นดุ้นใหญ่ ถ้าเขายอมให้เธอตีด้วยไอ้นี่ เขาตายแน่

     อะไร ยังต้องอธิบายอะไรอีกพิมพ์ดาราตะคอกใส่ ถือเสาไม้ปรี่เข้ามา ก้องต้องวิ่งวนหลบไปอีกด้านหนึ่ง

    นี่ถ้าเธอไม่ยอมหยุดชั้นเอาจริงแล้วนะก้องบอกอย่างโมโห

    ชั้นจะฆ่านายพิมพ์ดาราตอบกลับมา พร้อมกับหวดไม้ใส่ก้อง ก้องหลบไม่ทัน ได้แต่ใช้มือสองข้างคว้ารับไว้ แต่แล้ว

    แป่ว~ แวว~ แว่ว ผ้าขนหนูเจ้ากรรมดันหลุดลงมา

     มันเต็มๆตาของพิมพ์ดารา จนเธอชะงักค้าง เป็นครั้งแรกที่เธอเห็น ผู้ชายเปลือยต่อหน้าต่อตา หน้าเธอแดงเล็กๆ ทำอะไรไม่ถูก และพยายามเบืองสายตาหลบ

    ก้องทั้งตะลึง ทั้งอาย ทั้งโมโห แต่ความอายมีมากกว่า เขากระชากเสาไม้ออกจากมือเธอ แล้วก้มลงเก็บผ้าขนหนูขึ้นมาห่ม อย่างยากจะรักษาฟอร์ม ก่อนจะฉุดดึงเธอไปหน้าห้องน้ำ เอาเสื้อที่ซักของเขาออกมา เขวี้ยงใส่เธอ

    เธอคิดว่าชั้น ข่มขื่นเธอเหรอไง เอ้า นี้ดูซะว่าเมื่อคืนเธอทำอะไรไว้ ชั้นอุตสาห์ใจดีพาเธอมาส่ง แต่เธอกลับอ้วกใส่ชั้น จนชั้นเลอะไปหมด ชั้นเลยต้องมาล้างตัวในห้องน้ำ ซักเสื้อที่มีแต่กลิ่นเหม็นอ้วก ตอนนี้เธอยังมากล่าวหาว่าชั้นข่มขื่นเธออีก... วุ้ย ชั้นจะบ้าตายก้องอธิบายยาว ตวาดใส่หน้าเธอ ทั้งนึกอาย นึกโมโห กลับเรื่องที่เกิดขึ้น จนพิมพ์ดารานิ่งนึกเรื่องเมื่อคืนตามที่เขาพูด

     

    นี่ เธอลองสำรวจตัวเธอซิ มันมีส่วนไหนสึกหลอมั่ง ห๊ะ เรื่องแค่นี้เธอแยกมันไม่ออกหรือไงนะก้องบอกอย่างหงุดหงิดรำคาญ เมื่อเห็นเธอยังมองเขาด้วยสายตาที่ไม่ค่อยเชื่อ

    พิมพ์ดาราจึงได้คิด สำรวจตัวเองในใจ จึงรู้ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และพอจะนึกเรื่องที่ตัวเองอ้วกออกได้ลางๆ และเริ่มรู้ว่าเธอกำลังเข้าใจผิด

     

    อ้า.. แย่จัง เสื้อชั้นก็เปื้อน อ้วกด้วยเหรอเนี่ย มิน่าถึงได้กลิ่นแปลกๆเธอบอกเรียบๆเหมือนบอกกับตัวเอง ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้  เฉไฉไปเรื่องอื่น ราวกับว่าเรื่องที่เธอเข้าใจผิดไล่ทุบตีเขาเมื่อกี้ไม่เคยเกิดขึ้น เดินไปที่ตูเย็น ไปรินน้ำดื่มหน้าตาเฉย แต่ภาพที่เขาเปลือยต่อหน้ายังผลุดขึ้นในหัวเธอ

     โฮ๊ะ! ..เชื่อเค๊าเลย ยัยนี่ก้องสบถอย่างไม่อยากจะเชื่อนิสัยเธอ จะขอโทษสักคำก็ไม่มี พอรู้ตัวว่าทำผิด ก็เปลี่ยนเรื่องเอาเสียดื้อๆ

    อ้าว... แล้วกางเกงชั้นหายไปไหนก้องถามขึ้นเมื่อเขาคิดจะใส่กางเกงแทนนุ่งผ้าขนหนู เพื่อมันเกิดอุตริหลุดขึ้นมาอีก

    นี่คุณ คุณเอากางเกงผมไปไหน

    พิมพ์ดาราสะดุ้งเมื่อถูกถาม

    ชั้น.. ชั้นโยนออกไปนอกหน้าต่าง

    อะไรนะ?” ก้องถามเสียงระโหยสุดๆ รีบมองไปนอกหน้าต่างบานเลื่อน แล้วก็เห็นกางเกงเขาห้อยอยู่ตรงลานระเบียง เธอนี่มัน บ้าที่สุดก้องสบถโหยหวนแบบอยากจะฆ่าเธอให้ตาย

      


    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
    ขอบคุณ คุณ ๐||penquin||๐ ที่ตามอ่าน และโพสให้กำลังใจนะครับ จะพยายามอัพให้ได้เร็วๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×