คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Hi! High School ( part 1)
ตอนที่ 1 Hi !!! High School
หลังจากเกริ่นนำไปเมื่อหลายวันที่แล้ว วันนี้โปรเจ็คท์ปิดเทอมก็เริ่มมีหน้าตาเป็นรูปเป็นร่าง ช่วงหลังๆเกิดอาการขี้เกียจเขียน เกิดอาการขยันอ่านขึ้นมาแทนที่ แต่ไม่ได้เว่ย มันเป็นสิ่งที่สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะต้องทำ เราจะต้องดันทุรังทำมันให้จบ!!!
ตอนแรกกะจะเริ่มเรื่องแบบที่ค้างไว้แต่อืมม์ ไม่เอาดีกว่า
เขียนเนียนๆกันไปเป็นวันๆ จะกระโดดข้ามนู้นนี้ไปมาสนุกสนาน ไม่เรียงตามวันเวลาแล้วกัน เอาตามที่นึกออก ( ตามใจคนเขียน---เจริญหล่ะ )
อย่างวันนี้ก็จะมาพูดถึงเรื่องโรงเรียน ถ้ามันไม่น่าสนใจคงไม่เอามาพิมพ์ให้เมื่อยแน่ๆ แหงล่ะ ขึ้นชื่อว่าโรงเรียนมันเป็นอีกทีนึงที่เราจะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตตอนนี้ให้กับมันอ่ะนะ
ลืมไป!!ต้องแนะนำตัวนิดนึงดีกว่าเราเป็นอดีตนักเรียนแลกเปลี่ยน (เป็นอดีตไปเรียบร้อยแล้วแต่ความทรงจำสีจาง...ก็ยังอยู่...แอบเน่า )โครงการหนึ่งปี ขององค์กรใหญ่เบิ้มที่ใครเค้าก็ไปกับโครงการนี้ สมมติว่าชื่อ เอเอฟเอฟ ก็แล้วกัน ไปเมื่อปี2003แล้วก็อยู่ที่นั่นเฉียดปี ด้วยโชคชะตาฟ้าลิขิต เราได้โดนเอาไปแปะไว้ที่เมืองที่ชื่อว่า อนาไฮม์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ( ชื่อไม่คุ้นใช่มะ แต่ถ้าบอกว่ามันคือที่อยู่ของดิสนีย์แลนด์แล้วฟังดูเป็นไง ...จี๊ดส์มะ) แล้วก็ไปอยู่กับโฮสต์แฟมิลี่ครอบครัวอเมริกันเชื้อสายเม็กซิกัน แล้วก็มั่วนิ่มหน้ามึนทำเนียนเป็นลูกเค้า กินข้าวบ้านเค้าตั้งปี
ตอนเราไปก็อยู่เกรดสิบเอ็ดพอดี ( ม.ห้า ) จะไปอยู่เฉยๆก็ไม่ได้ นักเรียนแลกเปลี่ยนก็ต้องไปเรียน แล้วก็ต้องไปโรงเรียน เป็นโรงเรียนแถวบ้านซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการศึกษาของที่นั่นน่ะเอง
เลือกเรียน
ก่อนจะเข้าเรียนเราก็ต้องไปเลือกวิชาว่าเราอยากเรียนอะไร แล้วก็ดูว่าเค้าบังคับเราเรียนอะไรมั่ง ( ดีใจโคตรๆ ได้เลือกวิชาเองด้วยวุ้ย...จำได้ว่าวิชาเลือก"เสรี"ที่เมืองไทย มันก็เสรีแต่ชื่อซะจริงๆ ) อันนี้เราก็ไปหาที่ปรึกษาเค้าก็จะมีคลาสมาให้ดูว่ามีอะไรเรียนมั่ง ทั่วๆไปก็เหมือนบ้านเราตรงที่ต้องเรียนวิทย์ คณิต สังคม ภาษา วิทย์เค้าก็แยกเป็นตัวๆ ไป bio chem physics ปีนึงเรียนตัวเดียวไปเลย เรียนให้โปรไปเลย เลขก็คล้ายๆกัน คือมี algebra trigonomy calculus pre-calculus อะไรทำนองนี้ สังคมก็ย่อยๆเป็น civil world history us history มันจะแบ่งระดับความยากง่ายกันไป เป็น แบบปรกติ แล้วก็ hp ap ยากขึ้นไปเรื่อยๆใครใคร่เรียนก็เรียนไป ที่นี้เรามาว่ากันคลาสแปลกๆมั่งดีกว่า เป็น อิเล็กทีฟคลาส ก็เช่น คลาสจิตวิทยา คลาสทำอาหาร ( ต้องใส่ชุดกุ๊กเรียนกันเลย ) คลาสทำละคร คลาสทำหนังสือพิมพ์ คลาสทำหนังสือรุ่น คลาสเรียนร้องเพลง choir คลาสฝึกทหาร!!! คลาสเป็น ta คือ ไม่ต้องเรียน แค่ไปช่วยอาจารย์ทำงาน เป็น teacher assistant คลาสช่างไม้ คลาสdrafting ( เรียนเป็นสถาปนิก แล้วก็พิเศษมากๆก็คือ ได้ใช้ auto-cad ด้วย ว้าว! ) คลาสไปดูแลเด็กอนุบาลที่โรงเรียนข้างๆ(ไม่รักเด็ก อันนี้ขอข้าม )คลาสพลศึกษาเหมือนบ้านเราอ่ะแหละ แต่พละที่โรงเรียนเราเรียนกอล์ฟ ( ไฮโซไหม )
คือมันมีวิชาที่น่าเรียนเยอะแยกมากมายเลย เห็นแล้วทุรนทุรายอยากได้ความรู้มากๆ แต่ก็เลือกได้แค่ หก วิชาเท่านั้นเอง เท่านั้นเอง อันนี้คือเป็นมาตรฐานอยู่ที่หก แต่ถ้าเกิดขยัน( โคตร ) แบบเรา ก็จะมีแปดเลย
ที่เราเลือกไปมันก็คือ เอาเป็นตารางเทอมสองแล้วกันนะ
1. pre-calculus ที่ปรึกษาเห็นแล้วแบบ ไอ้เด็กต่างด้าวนี่จะไหวไม่ว้า ต้องไปคุยกะเค้า คุยสมการเอ็กซ์โปเนนเชียลกับเค้าว่าพอจะแก้เป็นป่าว ( ภาษาก็โคตรเก่ง ให้ไปอธิบาย exponential ) ก็โหยมั่น ไอแกได้ ยูเชื่อไอเหอะ
2. us-history โดนบังคับให้ต้องเรียนในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน แต่ว่าชอบมากที่สุดเดี๋ยวค่อยเล่าในรายละเอียดครั้งต่อๆไป ( ถ้ายังเขียนอยู่อ่ะนะ ...เหอเหอ) อาจารย์ฮาประมาณโน้ต อุดมเดี่ยวไมโครโฟนเลยทีเดียว อาจารย์ที่สอนเป็นโค้ชมวยปล้ำที่โรงเรียนแหละ น่าสนใจมะ
3. PE พลศึกษา เหมือนจำได้ว่าที่เมืองไทยบังคับมา ว่าต้องเรียนสุขศึกษา...อะไรเทือกนั้นก็เอาซะเลย ( เหตุผลลึกๆคืออยากสัมผัสห้องล็อกเกอร์ แก้ผ้ากันจริงป่าววะ ) แต่ทนอยู่ไม่กี่น้ำก็ขอบายพอลาออกมาจากพละก็มาเรียน
drafting เรียนไปก็น้ำตาจะเล็ดเป็นคลาสที่มีผู้หญิงแค่สามคน นอกนั้นเป็นชายชาติทหาร โหวววว ทำคอมพ์ก็ไม่ค่อยเป็นอ่ะ แล้วมันก็ต้องใช้ เขียนแบบสถาปนิกอ่ะ หูยยยย ยาก ship-hai
4. newspaper มีช่วงนึงรู้สึกชีวิตไร้ค่า ไร้ผลงานใดๆไว้เป็นอนุสรณ์ ก็เลยลงเรียนมันซะ จะได้มีความหนุกหนานในชีวิตบ้าง ก็คลาสนี้ก็อยู่ในห้องคอม มีกันยี่สิบคน ได้คอมพ์กันไปคนละเครื่อง แล้วก็ทำหน้าที่เป็นนักเขียนกันไป สมใจอยาก แต่ตื่นโคตรเช้า เพราะ class เริ่ม เจ็ดโมง
5. ศิลปะ ก็วาดรูปอย่างทีหลักการครั้งแรก แล้วก็เจออะไรแปลกๆมากมายที่คลาสนี้ เช่น พังก์ชวนไปออกเดท โอ้วววววว์
6. ฟิสิกส์ อันนี้ก็ชอบแหละ คือ อยู่ที่นี้ เรียนแล้วตก อยู่ที่นู้นได้เป็นที่หนึ้งของห้อง ก็เลยชอบซะยังงั้น ( โอ๊ย คันปากอยากโม้ แต่เก็บไว้ก่อน )
7. ภาษาอังกฤษ เรียนแกรมมาร์ เรียนวรรณกรรม พวกเชคสเปียร์อะไรยังงั้นเลย รู้สึกภูมิใจกับคลาสนี้เป็นพิเศษ คือรู้สึกว่าไม่น่าจะเรียนจบเลย ยาก ship-hai
8. แบดมินตัน ลงคลาสนี้เพราะอยากหาเพื่อน แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ได้ไปแข่งกะโรงเรียนอื่นมันมาก ได้กลับบ้านมืดๆ ได้รู้ว่าเหนื่อยสาดๆมันเป็นยังไง
ทุกอันเนี่ยเป็นเดินเรียน ก็จะเหมือนในหนังเลย ออดปุ๊ป เลิกปั๊ป เปิดตูดออกจากห้องได้ทันที เค้าตรงเวลากันมากๆ คลาสละห้าสิบนาทีไม่มีขาดเกิน แล้วก็วิ่งวุ่นวายให้ไปเรียนให้ทัน บางคลาสก็ห่างกันประมาณเชียงใหม่-สุไหงโกลก แต่ก็ต้องไปให้ทันภายใน หกนาที ปวดฉี่ก็ต้องทนเป็นนิ่วกันไป หรือไม่ก็ต้องไปให้ถึงห้องก่อน แล้วขอใบอนุญาตพร้อมลายเซ็นออกมา ( โหดจัง ) ไปสายก็จะมีสายตาประณามหยามเหยียดจากเพื่อนร่วมชั้น แล้วก็ต้องโดนอาจารย์ถามว่าทำไมมาสาย ถ้าตอบว่าไปฉี่มา นี่ก็อย่านึกว่าจะรอด...ทำไมคนอื่นเค้าฉี่ทัน อะไรทำนองนั้น พอใกล้หมดหกนาทีมันจะมีออดมรณะคอยเตือนอีกหนึ่งที แถมมีอาจารย์ไล่ ให้ RUN!!!! แล้วก็วิ่งกันเป็นหนังสงครามผู้อพยพเลยทีเดียว ภาพที่เห็นก็ประมาณว่า มีมดออกมาเดินยั้วเยี้ยไปหมด พอออดปุ๊เหลือแต่ความว่างเปล่า ...ไม่มีคนเลยจริงๆ เป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก ...
ทุกคลาสที่ว่ามานี้ก็คือสามารถเปลี่ยนวิชา ย้ายเวลาได้ แต่ต้องคุยกับที่ปรึกษาแล้วก็ต้องได้รับความยินยอมจากอาจารย์ประจำวิชาก่อน เราก็เปลี่ยนตารางบ่อยจนที่ปรึกษาเคือง แต่ก็น้านแหละ อะไรก็ได้ที่จะทำให้เราเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดและมีความสุขที่สุด เค้าก็ยอม มีเหตุผลให้เค้า เค้าก็ยอม
อ่า วันนี้ก็มาแบบ น้ำจิ้มก่อน เดี๋ยวค่อยมาต่อกันวันหลัง อ่านแล้วก็คอมเมนต์มาหน่อยก็จะดีมากๆเลยอ่ะ เป็นกำลังใจให้เรา ...เหอเหอ
ความคิดเห็น