คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Love Shuffle : Chapter 9
Chapter 9
“นี่ๆทุกคนมานี่หน่อย”
วันนี้คีย์จะทำงานในผับเป็นวันแรกก็เลยมาเร็วเพราะไม่รู้เวลา หลังจากคีย์เข้ามาในผับก็พบแต่ผู้หญิงและผู้ชายหน้าตาดีๆนั่งและเดินกันอยู่เต็มผับ ซึ่งน่าจะเป็นพนักงานในร้านเพราะตอนนี้ผับยังไม่เปิด พอคีย์เดินเข้าไปก็เจอกับผู้หญิงที่ดูเหมือนจะเป็นผู้จัดการร้านนี้เดินเข้ามาถามคีย์ เลยบอกว่ามาเริ่มงานวันแรก ผู้จัดการร้านจึงเรียกรวมพนักงานในร้านให้มาอยู่ที่เดียวกัน
“นี่เป็นเด็กใหม่ของเรานะ ชื่อคิมคีย์” ผู้จัดการร้านแนะนำคีย์กับพนักงานในร้าน คีย์ก็ก้มตัวลงเพื่อทำความเคารพ แล้วพนักงานก็ต่างแยกย้ายกันไป
“ฉันคิมฮโยจิน เป็นผู้จัดการร้านนี้นะ ในร้านก็เรียกฉันว่ามาดามคิม ป้าฮโย เจ๊จิน อยากเรียกอะไรก็แล้วแต่เลยนะ มีปัญหาอะไรก็ปรึกษาฉันได้ ที่นี่ทุกคนก็เหมือนครอบครัวของฉัน ยิ่งเธออายุเท่าลูกชายฉันด้วย” ผู้จัดการร้านพูดอย่างเป็นกันเองกับคีย์
“ขอบคุณครับ” คีย์พูดขอบคุณผู้จัดการอย่างจริงใจ
“จ้ะ วิคซงจ๋า ฉันฝากคีย์หน่อยนะ ดูแลให้ดีๆด้วยล่ะ” ผู้จัดการเรียกหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งในร้านให้มาหาคีย์พร้อมกับฝากให้ดูแลคีย์ ก่อนจะเดินเข้าไปที่ห้องๆหนึ่งในผับ
“สวัสดีจ้ะคีย์ พี่ชื่อวิคตอเรีย ซงนะ แต่ที่นี่จะเรียกพี่ว่าวิคกี้กัน ยกเว้นแต่มาดามคิมจะเรียกพี่ว่าวิคซง ไปกันเถอะจ้ะ เดี๋ยวพี่พาไปแต่งตัว”
คีย์ก้มศีรษะเมื่อวิคตอเรียแนะนำตัวเสร็จ พร้อมกับพาคีย์เดินเข้าไปที่หลังร้าน ซึ่งมีห้องอยู่หลายห้อง แต่ที่วิคตอเรียพาเดินเข้ามาจนสุดทางก็มีอยู่สองห้องอยู่ตรงข้ามกัน วิคตอเรียมองสลับไปสลับมาระหว่างสองห้องแต่สุดท้ายก็พาคีย์เข้าไปยังห้องทางขวามือ ซึ่งเมื่อเข้าไปก็เจอแต่กระจกและเครื่องสำอางวางเต็มไปหมด
“นี่มัน...”
“ห้องนี้ความจริงเป็นห้องแต่งตัวของพวกผู้หญิงที่นี่ล่ะ ส่วนห้องตรงข้ามน่ะห้องของพวกผู้ชายเขา แต่พี่ว่า..หน้าคีย์น่ะ ใส แล้วก็หวานดูจะเหมาะกับห้องนี้มากกว่า นั่งลงก่อนนะ เดี๋ยวพี่แต่งตัวให้” วิคตอเรียพูดถึงห้องต่างๆ แล้วก็บอกให้คีย์นั่งลงตรงหน้ากระจก คีย์ก็ค่อยๆนั่งลง วิคตอเรียก็เดินหยิบนู่นหยิบนี่แล้วเดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆคีย์
“พี่วิคตอเรียจะ..” คีย์สงสัยว่าวิคตอเรียจะทำอะไรกับตัวเอง เพราะดูเหมือนกำลังจะ..แต่งหน้าให้ตัวเอง?
“คีย์ดูเรียบร้อย หน้าก็หวาน แล้วก็ยังใสอีกด้วย พี่ว่าแต่งเป็นผู้หญิงนะ รับรองรุ่ง เชื่อพี่สิ แล้ววันหลังเรียกพี่ว่า วิคกี้นะ ของคีย์ก็เป็น.. คินี่~ ดีไหม น่ารักดี 55 นั่งนิ่งๆสักพักนะ คินี่~~~” วิคตอเรียพูดกับคีย์ แถมยังตั้งชื่อหรือฉายาให้คีย์ใหม่อีกด้วย.. คินี่~ คีย์นั่งนิ่งๆ วิคตอเรียก็จัดการหยิบนู่นหยิบนี่เพื่อจะแต่งหน้าคีย์
“แต่งหน้าเสร็จแล้ว ว๊าวว เหมือนผู้หญิงจริงๆเลยนะเนี่ย” วิคตอเรียพูดหลังจากวางลิปสติกที่เพิ่งทาที่ริมฝีปากคีย์เสร็จลง คีย์หันไปมองกระจกก็ต้องตกใจ เพราะหน้าตัวเองเต็มไปด้วยเครื่องสำอางสีสันของผู้หญิง เห็นแล้วก็เหมือนไม่ใช่ตัวเองยังไงก็ไม่รู้
“จะดีหรอครับ พี่วิค”
“นี่ๆ แต่งหน้าเป็นผู้หญิงขนาดนี้แล้วต้องพูด คะ สิ ให้มันสมบทบาทหน่อยสิ คีย์” วิคตอเรียดุคีย์เล็กน้อย แล้วหยิบวิกผมที่ยาวเป็นลอนใส่ลงบนศีรษะของคีย์ ก่อนจะเดินไปหยิบอะไรบางอย่างที่อยู่หลังกระจก
“อันนี้เป็นเสื้อผ้านะคีย์ ใส่เสร็จแล้วก็เอามาคืนนะ” วิคตอเรียยื่นชุดกระโปรงสีน้ำเงินเข้มที่ดูมีราคาให้กับคีย์ คีย์มองทำหน้าประมาณว่าจะต้องใส่จริงๆหรอ วิคตอเรียจึงจับมือคีย์แล้วเอาชุดกระโปรงใส่มือคีย์
“รีบๆเปลี่ยนนะจ๊ะ” วิคตอเรียพูดจบก็ดึงคีย์ขึ้นมาจากเก้าอี้ แล้วดันคีย์ให้เข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อ
“เอ้า ชน!!”
ดูจะเป็นพนักงานบริษัทผู้ชายจะมาฉลองกัน ซึ่งตอนนี้คีย์ที่แต่งตัวเป็นผู้หญิงก็นั่งอยู่ข้างๆพนักงานบริษัทชายคนหนึ่งอยู่เงียบๆ คีย์ถึงกับสะดุ้งเมื่อมือของพนักงานชายข้างๆโอบมาที่ไหล่อีกข้างของคีย์
“เด็กใหม่สินะจ๊ะเนี่ย หน้าตาน่ารักจริงๆ ชื่ออะไรเอ่ย” ชายที่กำลังโอบไหล่คีย์อยู่ถามคีย์พร้อมกับใช้มือบีบมาที่แก้มของคีย์ คีย์ก็ไม่ได้เต็มใจอะไร แถมยังรู้สึกแปลกๆอีกด้วย แต่ก็ได้แต่ฝืนยิ้มให้
“คะ..ค่ะ ชื่อ.. คินี่ค่ะ” คีย์บอกชื่อที่วิคตอเรียตั้งให้กับชายข้างๆ พร้อมกับพยายามจะแกะมือออกจากไหล่ แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะจะแกะทีไรก็เลื่อนมาโอบอยู่ทุกที
“ดื่มสักแก้วสิจ๊ะ คินี่~” ชายข้างๆพูดพร้อมกับหยิบแก้วที่มีเหล้าอยู่ให้กับคีย์ คีย์ยกมือขึ้นมาปฏิเสธพร้อมกับฝืนยิ้มให้อีกครั้ง
“คือ.. พรุ่งนี้คินี่มีเรียนน่ะค่ะ” คีย์หายใจแทบไม่ทัน มันรู้สึกอึดอัดไปซะหมด
“คินี่น่ารักจริงๆ นอกจากจะน่ารัก เรียบร้อยแล้ว ยังรักเรียนอีกด้วย อ่ะๆไว้เดี๋ยวสุดสัปดาห์ผมจะมาใหม่แล้ว คินี่ต้องดื่มกับผมด้วยนะ เพราะคงไม่มีเรียนหรอกเนอะ” ชายคนข้างๆพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา บวกกับหอมแก้มคีย์อย่างไม่ทันตั้งตัวอีกด้วย พอชายคนข้างๆเผลอเมื่อไหร่ก็เอามือขึ้นมาปาดแก้มตัวเองทันที
‘ไม่ใช่แค่มานั่งเป็นเพื่อนหรอกหรอ ต้องดื่ม แล้วต้องให้คนที่มาดื่มเขาทำอย่างนี้ด้วยหรอเนี่ย.. แต่ถ้าทำอย่างนี้แล้วจะได้เงินมาชดใช้ให้คุณเจ้าของโน้ตบุ๊คก็ต้องอดทนแล้วล่ะ’
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ระหว่างนั่งเรียนวิชาภาษาเกาหลีคาบสุดท้าย มินโฮก็บังเอิญหันไปมองคีย์ ซึ่งก็เห็นคีย์นั่งหลับอีกแล้ว ปกติคีย์จะไม่เคยหลับในห้องเรียนเลย แถมยังตั้งใจซะด้วยซ้ำ แต่ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา มินโฮเห็นคีย์นั่งสัปหงกบ้าง นั่งหลับไปเลยบ้างอยู่บ่อยๆ ไม่ใช่แค่ตอนคาบบ่าย แต่คาบเช้าคีย์ก็หลับเหมือนกัน แถมคีย์ยังรีบกลับบ้านอีกด้วย จนทำให้มินโฮแปลกใจ
‘ช่วงนี้คีย์น่ะแปลกๆไปนะ’
มินโฮเป็นห่วงคีย์ที่นั่งหลับอยู่ แล้วดูท่าทางว่าครูจะกวาดสายตามองไปรอบๆห้องแล้วเรียกให้คนไม่ตั้งใจตอบคำถาม มินโฮจึงเอื้อมมือไปสะกิดคีย์ คีย์รู้สึกตัวก็ค่อยๆลืมตาหันไปมองมินโฮช้าๆ มินโฮจึงชี้นิ้วไปที่ครู คีย์ก็เข้าใจ แล้วนั่งฟังครูพูดต่อ
พอหมดคาบเรียนซึ่งก็เลิกเรียนพอดี ต่างคนต่างเก็บของใส่กระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไป คีย์ก็รีบเก็บของแล้วจะเดินออกจากห้องไปเหมือนกัน แต่มินโฮก็ชวนคุยซะก่อน
“คีย์ ช่วงนี้คีย์รีบกลับบ้านจังนะ ที่บ้านมีปัญหาอะไรหรือเปล่า” มินโฮถามคีย์
“ไม่มีนี่ มินโฮ”
“แถมช่วงนี้คีย์ยังหลับในห้องเรียนบ่อยอีกด้วย ปกติคีย์ไม่เป็นอย่างนี้นี่นา”
“เรา..นอนดึกน่ะ ช่วงนี้เรานอนดึกเกินไปหน่อย ถ้าไม่มีอะไรแล้ว.. เราไปก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกัน” คีย์รีบตอบมินโฮแล้วลา แล้วเดินออกจากห้องไป ทำให้มินโฮยิ่งสงสัยในตัวคีย์มากขึ้นไปอีก แต่ก็เก็บความสงสัยเอาไว้ก่อน มินโฮกำลังจะเดินออกไปจากห้องก็เหลือบไปเห็นขวดอะไรบางอย่างใต้โต๊ะคล้ายๆขวดยา มินโฮจึงหยิบมาดู
‘ขวดนี้ที่ช่วงนี้คีย์หยิบมาดื่มบ่อยๆนี่ มัน..ยาหรอ?’
ดูแล้วท่าทางจะว่าเป็นขวดยาหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะไม่มีฉลากอะไรอยู่เลย เหมือนว่าความจริงจะมีฉลากอยู่แต่ถูกแกะออก มินโฮยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ จึงถือขวดเอาไว้ แล้วเดินออกจากห้องไป
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
มินโฮนั่งลงตรงข้ามจงฮยอนกับจินกิที่นั่งรออยู่ที่โรงอาหาร พร้อมกับวางขวดที่เก็บมาจากใต้โต๊ะคีย์แล้ววางลง
“ช่วงนี้กูว่าคีย์แปลกๆว่ะ” มินโฮพูดหลังจากนั่งลง
“แปลกยังไงวะ กูว่าคีย์ก็เหมือนเดิมนี่หว่า ก็มีแต่จะน่ารักขึ้นทุกวันๆ ^O^” จงฮยอนพูดพร้อมกับทำท่าเขินคีย์
“แปลกยังไงวะ เล่าให้กูฟังดิ” จินกิสงสัยเลยถามมินโฮ
“ช่วงนี้คีย์รีบกลับบ้าน แถมยังนั่งหลับในห้องบ่อยๆอีกด้วย ปกติไม่เห็นจะเป็น วันนี้กูถาม คีย์บอกช่วงนี้นอนดึก แต่กูว่า.. ไม่รู้ดิ มันแปลกๆ” มินโฮเล่าให้จินกิฟัง จินกินั่งฟังก็คิดว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่คีย์ไปทำงานพิเศษ
“อ๋อ ช่วงนี้คีย์ทำงานพิเศษอ่ะ”
“ทำงานพิเศษ? ทำไมกูไม่เห็นรู้เรื่องเลยวะ บ้านคีย์มีปัญหาเรื่องเงินหรอ” มินโฮพูดกับจินกิ ทำไมจินกิถึงรู้แต่ว่าตัวเองไม่รู้
“คีย์ทำงานพิเศษที่ภัตตาคารอาหารจีนใหม่ของพ่อกูเอง วันนั้นคีย์มาปรึกษากับกู เห็นคีย์บอกไปทำโน้ตบุ๊คใครพังก็ไม่รู้ ไปทำน้ำหกใส่อะไรนี่ล่ะมั้ง เลยจะหาเงินซื้อคืนชดใช้ให้” จินกิเล่าให้ฟัง มินโฮก็พยักหน้าเข้าใจ ตอนนี้ก็หายข้องใจแล้ว
“เห้ยๆแปปๆ ทำน้ำหกใส่โน้ตบุ๊ค? ทำน้ำหกใส่โน้ตบุ๊คที่ห้องสมุดป่าววะ” จงฮยอนนั่งฟังรู้สึกว่ามันจะคล้ายๆกับเหตุการณ์ของตัวเองที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเอาโน้ตบุ๊คไปวางชาร์ตแบตที่ห้องสมุด พอกลับมาก็พบโน้ตบุ๊คเปียกน้ำ
“ไม่รู้ว่ะ รู้แต่ทำโน้ตบุ๊คพังเพราะเปียกน้ำ”
“งั้นกูว่าคงใช่โน้ตบุ๊คกูแหละ สัปดาห์ที่แล้วกูไปวางชาร์ตแบตทิ้งไว้ที่ห้องสมุด กลับมาอีกทีเปียกน้ำซะงั้นอ่ะ แล้วก็ไม่รับผิดชอบอีก หายไปเลยเหอะ ที่แท้ก็คีย์นี่เอง งั้นมึงก็บอกคีย์ด้วยละกันว่ากูเอาไปซ่อมแล้ว ไม่เป็นอะไร ไม่ถึงกับต้องซื้อใหม่หรอก” จงฮยอนเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เพราะคิดว่าคงจะใช่เรื่องเดียวกัน
“อื้ม เดี๋ยวพรุ่งนี้กูบอกคีย์ให้ จะได้ไม่ต้องไปทำงานอีก กูเห็นคีย์นั่งหลับในห้องเรียนแล้วกูสงสารคีย์จริงๆ” มินโฮบอกกับจงฮยอน
“ขวดอะไรวะ ยามึงหรอ” จงฮยอนถามมินโฮเพราะขวดที่วางอยู่บนโต๊ะมาสักพักแล้ว เพราะเป็นขวดสีน้ำตาลเปล่าๆ ไม่มีอะไรอยู่ข้างใน
“เออ กูก็อยากรู้ว่าขวดอะไร เห็นช่วงนี้คีย์หยิบมาดื่มบ่อยๆ” มินโฮตอบจงฮยอน ระหว่างนั้นจินกิก็หยิบขวดขึ้นมาจ้องดู แล้วลองเปิดฝาดมกลิ่นดู
“เครื่องดื่มแก้แฮงก์นี่” จินกิพูดขึ้นมาระหว่างที่มินโฮกับจงฮยอนกำลังคุยกัน
“เครื่องดื่มแก้แฮงก์? แน่ใจ? คีย์จะดื่มอะไรอย่างนี้ทำไมวะ” มินโฮแย้งจินกิ
“แน่ใจดิวะ กูลูกเจ้าของผับนะเว้ย” จินกิพูดพร้อมกับปิดฝาขวดแล้ววางลง มินโฮหยิบขึ้นมาแล้วลองเปิดฝาดมดูมั่ง แต่ก็เท่านั้นแหละ เพราะมินโฮไม่รู้ว่ามันคืออะไร
“แน่ใจหรอวะ ว่าของคีย์” จงฮยอนถามมินโฮ เพราะไม่เชื่อว่าคีย์จะดื่มเครื่องดื่มอะไรอย่างนี้
“กูว่าใช่นะ กูจำได้ว่ากูเห็นกับตาเลยว่าคีย์เคยหยิบขึ้นมาดื่ม” มินโฮมั่นใจว่าคีย์ดื่มมันจริงๆ เพราะเคยเห็นกับตาตัวเอง ทำให้ข้อสงสัยที่เมื่อกี๊เพิ่งจะหมดไป กลับมาใหม่อีกจนได้
‘เครื่องดื่มแก้แฮงก์.. คนที่ดื่มมันก็แสดงว่า.. คีย์ดื่มอะไรที่มันเมาๆ?’
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Everybody Go!! Let’s Go!! Jump Jump! La la la~~…
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นขณะที่มินโฮกำลังนอนหลับอยู่ มินโฮได้ยินก็มองไปที่นาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าๆแล้ว ก็ถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
(สายเข้า : คีย์)
“ฮัลโหลคีย์ โทรมาตอนนี้.. มีอะไรหรือเปล่า” มินโฮพูดอย่างงัวเงีย
(“มินโฮ นี่พี่คิบอมนะ พี่ชายคีย์”) มินโฮตาโตขึ้นมานิดหน่อยเมื่อปลายสายที่พูดเป็นพี่ชายของคีย์ ไม่ใช่คีย์
“สวัสดีครับพี่คิบอม มีอะไรหรือเปล่าครับ” มินโฮทักทายอีกครั้ง พร้อมกับลุกขึ้นมานั่งคุยแทน
(“คีย์ค้างที่บ้านมินโฮหรือเปล่า”) คำถามของคิบอมก็ทำให้มินโฮแปลกใจ
“ไม่นี่ครับ คีย์ไม่ได้มาค้าง.. คีย์ยังไม่กลับหรอครับ”
(“ใช่ พอดีพี่กลับมาช้าน่ะ เลยจะมาดูว่าคีย์นอนหรือยัง แต่เข้าไปในห้องนอนก็ไม่เห็นอยู่ เดินหาในบ้านแล้วก็ไม่เจอ มือถือก็ไม่ได้เอาไป พี่นึกว่าคีย์ไปค้างที่บ้านมินโฮซะอีก ขอโทษด้วยนะ ที่โทรมาตอนดึกๆ”) คิบอมพูดขอโทษมินโฮพร้อมกับกำลังจะวางสาย มินโฮฟังแล้วก็เป็นห่วงเหมือนกันว่าคีย์หายไปไหน เลยรีบพูดขึ้นมากับคิบอมซะก่อน
“พี่คิบอมครับ คือ.. เดี๋ยวผมโทรกลับไปอีกรอบนะครับ ผมจะลองถามแทมินดูว่าไปนอนค้างที่บ้านหรือเปล่านะครับ” มินโฮพูดจบก็รีบวางสายจากคิบอมแล้วโทรเข้ามือถือจินกิทันที แต่ก็ไม่รับสาย จึงเลือกจะโทรเข้าหามือถือแทมินแทน
(“จะบ้าหรือไงว้า~ โทรมาทำไมตอนนี้!”) ถึงแม้เสียงแทมินจะดูงัวเงีย แต่ก็ยังไม่วายจะว่ามินโฮ
“แทมิน พี่คีย์นอนค้างบ้านแทมินหรือเปล่า” มินโฮรีบถามแทมินทันที
(“ไม่ได้มานี่.. ทำไมอ่ะ มีเรื่องอะไร”)
“ถ้าไม่ได้ไปก็ไม่มีอะไร แค่นี้ล่ะ ขอโทษที่โทรมารบกวน”
(“เห้ยๆๆ อย่าเพิ่งวางดิ ทำไมถามอย่างงั้นอ่ะ พี่คีย์.. พี่คีย์ทำไมอ่ะพี่มินโฮ”) แทมินตั้งสติแล้วรีบถามมินโฮทันทีที่คิดได้ว่าทำไมถึงถามว่าคีย์มานอนค้างที่บ้านตัวเองหรือเปล่า
“ก็เมื่อกี๊พี่คิบอม พี่ชายพี่คีย์โทรมาถามว่าพี่คีย์มานอนค้างบ้านพี่หรือเปล่า พี่คีย์เขายังไม่กลับบ้านเลย”
(“พี่คีย์..พี่คีย์ยังไม่กลับบ้าน.. พี่มินโฮ ออกไปเจอผมหน้าบ้านหน่อย ผมจะไปหาพี่คีย์”) แทมินพูดอย่างกระวนกระวายใจ พูดจบก็ตัดสายทิ้งแล้วรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที แทมินกำลังจะวิ่งลงไปหามินโฮ แต่ก็นึกได้ว่าควรจะให้จินกิไปช่วยหาด้วยดีกว่า จะได้เจอไวๆ แทมินจึงเคาะประตูห้องจินกิรัวหลายที เคาะอยู่นานกว่าจะเปิดประตู
“พี่จินกิ.. พี่จินกิๆๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วๆ จะออกไปข้างนอกกัน” แทมินรีบพูดอย่างเหนื่อยหอบกับจินกิ ในขณะที่จินกิกำลังหลับตาอยู่เลย
“ทำไม.. จะออกไปไหน..ตอนนี้” จินกิพูดอย่างสะลึมสลือ
“หาพี่คีย์.. พี่คีย์...พี่คีย์ยังไม่กลับบ้าน ไปตามหาพี่คีย์ ผมเป็นห่วงพี่คีย์” แทมินพูดจบจินกิก็ตั้งสติอยู่พักใหญ่ๆ ก็รีบวิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกจากบ้านไปกับแทมินทันที ก็พบมินโฮยืนรออยู่หน้าบ้านแล้ว
“พี่คีย์จะไปที่ไหนอ่ะ ผมคิดไม่ออกเลย” แทมินพูดอย่างร้อนใจกับมินโฮ
“นั่นสิ นอกจากโรงเรียนกับร้านหนังสือ คิดไม่ออกจริงๆ”
“ภัตตาคารอาหารจีนไง คีย์อาจจะอยู่ที่นั่นก็ได้” อยู่ๆจินกิก็เสนอขึ้นมาให้ไปภัตตาคารอาหารจีนเพราะคิดว่าคีย์ทำงานอยู่ที่นั่น ทั้งสามคนจึงรีบวิ่งออกไปหน้าหมู่บ้านแล้วเรียกแท็กซี่เพื่อไปยังภัตตาคารอาหารจีนทันที
เมื่อลงจากแท็กซี่ ทั้งสามคนก็รีบวิ่งจะเข้าไปยังตึกซึ่งเป็นที่ตั้งของภัตตาคารอาหารจีนทันที
“น้อง มาทำอะไรที่นี่ตอนนี้เนี่ย” รปภ.หน้าตึกขวางไว้ซะก่อน
“ลุง..ลุง..ลุงยองมิน ผมจินกิไง ลูกเฮียลีอ่ะ” จินกินึกชื่อของรปภ.ที่คุ้นเคย พอนึกออกก็บอกว่าเป็นลูกของเฮียลี ซึ่งก็คือพ่อจินกิกับแทมินที่เป็นเจ้าของตึกนี้นั่นแหละ
“อ๋อ จินกินี่เอง แต่มาทำอะไรตอนนี้เนี่ย เที่ยงคืนตีหนึ่งแล้วไม่นอนกันหรือไง”
“เหอะน่าลุง ผมมีธุระที่นี่ ผมจะมาภัตตาคารจีนของพ่ออ่ะ” จินกิพูดดังนั้นรปภ.ก็เลยอนุญาตให้ทั้งสามคนเข้าไป ทั้งสามคนรีบวิ่งตรงไปยังลิฟท์แล้วกดไปชั้น 29 ที่เป็นที่ตั้งของภัตตาคารอาหารจีนทันที พอถึงก็รีบวิ่งออกมาจากลิฟท์ แต่ก็พบแต่ความมืด ทำให้ทั้งสามคนสงสัย
“ภัตตาคารอยู่ชั้นนี้หรอ พี่จินกิ” แทมินถามอย่างงงๆ จินกิก็ทำหน้าคิดอยู่สักพัก
“อ๋อ ไม่ใช่ ชั้น 32 นี่หว่า” จินกิพูดพร้อมกับขำออกมาในความซังเทของตัวเอง แทมินกับมินโฮถึงกับถอนหายใจออกมา พร้อมกับกดลิฟท์ไปชั้น 32 อีกที ก็พบภัตตาคารสุดหรูจริงๆ แทมินรีบวิ่งไปหาแคชเชียร์เพื่อถามถึงคีย์ทันที
“ขอโทษนะครับ คิมคีย์ทำงานอยู่ที่นี่หรือเปล่าครับ ตอนนี้อยู่หรือเปล่าครับ” แทมินรีบถามแคชเชียร์ที่ยืนอยู่ทันที แคชเชียร์ดูทำท่าคิดอยู่สักพักก็พูดออกมา
“ที่นี่..ไม่มีพนักงานชื่อคิมคีย์นะคะ” แคชเชียร์ตอบออกมา ทำให้แทมิน จินกิ และมินโฮที่ยืนฟังอยู่ถึงกับงง
“แน่ใจใช่ไหมครับ ลองคิดดีๆนะครับ” มินโฮพยายามถามอีกครั้ง แคชเชียร์เลยเดินไปถามพนักงานคนอื่นๆ
“ไม่มีจริงๆค่ะ ถามทุกคนแล้ว ไม่มีใครรู้จักคนชื่อคิมคีย์เลยค่ะ” แคชเชียร์เดินกลับมาบอกอีกครั้ง ทั้งสามคนจึงขอบคุณแล้วเดินออกมานอกภัตตาคาร
“ไหนมึงบอกว่าคีย์ทำงานที่นี่ไง” มินโฮหันไปถามจินกิที่ยังคงแปลกใจ
“ก็กูแนะนำคีย์เองเลยนะเว้ย ว่าให้มาสมัครที่นี่อ่ะ” จินกิพูดอย่างมั่นใจ แต่ไหงกลับเป็นงี้ไปได้ ส่วนแทมินก็เดินไปเดินมาคิดว่าคีย์จะอยู่ที่ไหน
“พี่คีย์จะอยู่ที่ไหนนะเนี่ย” แทมินพูดออกมาอย่างกังวลใจ มินโฮเห็นแทมินเป็นห่วงคีย์มากก็ได้แต่คิดอะไรคนเดียวในใจ
‘ทำไมแทมินต้องห่วงพี่คีย์ขนาดนี้ด้วย ถ้าพี่หายไป แทมินจะตามหาพี่บ้างหรือเปล่า’
“งั้นเดี๋ยวกูจะลองไปตามหาแถวๆนี้ดูละกัน” มินโฮพูดจบก็กดลิฟท์ลงไป ส่วนจินกิก็เอาแต่คิด แทมินก็เดินไปมาพร้อมกับคิดว่าควรจะทำยังไงดี ด้วยความร้อนใจจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาใครบางคน
“สวัสดีครับ น้ายองอุน ผมแทมินนะขอโทษที่โทรมาตอนนี้นะฮะ” แทมินพูดโทรศัพท์กับปลายสาย
(“อ้อๆ แทมินหรอ มีอะไรให้น้าช่วยหรือเปล่า หรือว่าพ่อเราเป็นอะไรไป”)
“น้ายองอุนเป็นพนักงานฝ่ายบุคคลใช่ไหม”
(“ใช่แทมิน ทำไมหรอ”)
“คือเมื่อหลายวันก่อนน่ะ มีคนที่ชื่อคิมคีย์มาสมัครงานที่ภัตตาคารอาหารจีนของพ่อหรือเปล่า” แทมินลองโทรไปถามยองอุน ซึ่งเป็นน้าของตัวเอง รวมถึงเป็นหัวหน้าฝ่ายบุคคลด้วย
(“คิมคีย์.. ที่จินกิแนะนำมาใช่ไหม ถ้าใช่คนนั้นก็มาสมัครแหละ แต่ว่านะแทมิน เขาไม่ได้ทำงานที่ภัตตาคารหรอกนะ เขาทำที่ผับพ่อแทมินต่างหาก”)
“หา!! อะไรนะน้า ทำไมอ่ะ” แทมินตะโกนออกมาเสียงดัง จินกิที่นั่งพักด้วยความเหนื่อยอยู่ก็มองแทมินอย่างตกใจ
(“ก็วันนั้นเขามาสมัครกับน้า เขาก็ไม่ได้อะไรนี่ น้าก็นึกว่าเขาจะมาทำงานที่ผับซะอีก แทมินไม่รู้หรอกหรอว่าถ้ามาสมัครกับน้าที่ชั้น 29 น่ะ คือคนจะทำงานที่ผับ แต่ถ้าจะทำงานที่ภัตตาคารก็ต้องไปสมัครที่ภัตตาคารชั้น 32 นะ น้าไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยหรอก”)
หลังจากฟังจบแทมินก็แทบจะร้องออกมาดังๆ แทมินหันไปมองตาเขียวใส่จินกิพี่ชายของตัวเองเพราะรู้ว่าเป็นคนแนะนำให้คีย์ไปสมัครงานกับน้ายองอุน ทำให้ต้องไปทำงานที่ผับ แต่ก่อนที่แทมินจะจัดการจินกิ แทมินก็รีบวิ่งไปกดลิฟท์อย่างรีบๆ แล้วพอลิฟท์มาก็รีบเข้าไปทันที จินกิที่นั่งพักอยู่เมื่อกี๊ไม่ทันจะได้ถามอะไรก็ถูกทิ้งเอาไว้คนเดียวเพราะแทมินไปไม่รอ
พอลิฟท์ลงมาถึงชั้นหนึ่งแทมินก็รีบวิ่งออกจากลิฟท์แล้วไปเรียกแท็กซี่ทันที มินโฮที่วิ่งถามร้านสะดวกซื้อหรือร้านอาหารที่ตั้งอยู่แถวนั้นเห็นแทมินกำลังโบกมือเรียกแท็กซี่ก็รีบวิ่งเข้าไปหาทันที แทมินรีบขึ้นรถแท็กซี่กำลังจะปิดประตูมินโฮก็เอาตัดแทรกเข้ามาซะก่อน
“จะไปไหน แทมิน” มินโฮถามแทมินที่ดูเร่งรีบ
“ปิดประตูแล้วขึ้นมาเหอะน่า.. พี่ฮะ ไปผับลีลิสซึ่ม ถนนอับกูจอง เร็วที่สุดเลยฮะ” แทมินพูดเร่งคนขับรถ หลังจากบอกจบรถก็ออกตัวด้วยความเร็ว
“ผับลีลิสซึ่ม? แทมินไปผับทำไม”
“พี่คีย์ทำงานอยู่ที่นั่น!”
“หา!!”
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เมื่อรถแท็กซี่จอดหน้าผับที่เต็มไปด้วยสีสันของหลอดไฟที่ประดับอยู่อย่างหรูหราและไฮโซมีระดับพอสมควร แทมินก็รีบลงจากรถทิ้งให้มินโฮต้องจ่ายค่ารถแล้วรีบวิ่งตามแทมินไป
“น้องๆ ขอดูบัตรด้วยนะ” พนักงานที่ยืนอยู่หน้าผับกันแทมินเพื่อขอดูบัตร
“พี่ไม่รู้หรือไงผมลูกใคร ผมลูกเจ้าของผับ!” แทมินพูดเพราะอารมณ์ร้อน
“พี่จะเชื่อน้องได้ยังไง แล้วน้องจะมาทำอะไร กลับไปนอนเถอะ”
“พ่อผมชื่อลีดงมิน แม่ชื่อคิมฮโยจิน พี่ชายผมลีดงเฮที่เสน่ห์แรงที่สุดเมื่อเดินเข้าที่นี่เมื่อไหร่พนักงานรวมถึงแขกทุกคนต้องเหลียวตามอง คุ้นมั่งไหมฮะ?” แทมินถึงกับพูดชื่อพ่อกับแม่ของตัวเองที่เป็นเจ้าของผับเพื่อยืนยันว่าเป็นลูกชายเจ้าของผับ รวมถึงพูดถึงพี่ชายตัวเองที่เป็นที่เลื่องชื่อในเรื่องหน้าตาที่ทำให้พนักงานที่นี่หลงใหลกันซะหมด แต่ก็ไม่มีใครกล้าจีบ ไม่รู้เพราะอะไร
“งั้นก็.. เชิญครับ คุณหนู” พนักงานเปลี่ยนสรรพนามเรียกแทมินทันทีเมื่อรู้ว่าเป็นลูกเจ้าของผับ แทมินจึงรีบวิ่งเข้าไปในผับทันที ส่วนมินโฮก็ถือโอกาสตามเข้าไปโดยไม่แสดงบัตร
“พี่มินโฮช่วยหาพี่คีย์อยู่ข้างนอกนะ เดี๋ยวผมจะลองไปหาข้างในดู” มินโฮพยักหน้าให้แทมินแล้วเดินไปหาที่ส่วนลานที่เป็นที่นั่งรวมถึงฟลอสำหรับเต้นรำกัน
“เอ๊ะ..นั่น แทมิน!” หญิงสาวสวยกำลังเดินอยู่ในทางแคบๆซึ่งเป็นทางสำหรับแขกวีไอพีอยู่ก็เห็นเด็กชายวัยรุ่นดูว่าจะเป็นคนที่ตัวเองรู้จักจึงรีบเรียก แทมินได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นเคยก็รีบวิ่งเข้าไปหาทันที
“พี่วิคตอเรีย!”
“หนีเที่ยวหรอจ๊ะเนี่ย แล้วมาดามคิมรู้เรื่องหรือเปล่าเนี่ย” วิคตอเรียแซวแทมิน
“พี่วิค คือผมมาหาคนชื่อคิมคีย์ เขาทำงานที่นี่หรือเปล่า” แทมินรีบถามทันที เพราะวิคตอเรียน่าจะรู้
“อ๋อ มาหาคีย์หรอ แหมๆแทมินมาที่นี่เพื่อมาหาเด็กใหม่มาแรงนี่เอง ตอนนี้เขากำลังรับแขกอยู่นะ ต้องรอหน่อยล่ะแทมิน” วิคตอเรียนึกว่าแทมินมาหาคีย์ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่ติดใจของแขกที่มาดื่มที่นี่กันใหญ่
“รับแขก? หมายความว่าไง พี่วิค.. อย่าบอกนะว่า.. เขานั่งดริงก์อ่ะ!! เขาอยู่ไหนพี่วิค บอกผมเร็วๆ”
“ไม่ได้นะแทมิน ตอนนี้เขากำลังทำงานอยู่”
“พี่วิค มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดที่เขามาทำงานที่นี่! บอกผมเร็วๆสิฮะพี่วิค”
แทมินรีบเร่งวิคตอเรียที่ห้ามตัวเองไม่ให้เจอคีย์ วิคตอเรียจึงชี้ไปทางห้องข้างในที่คีย์อยู่ ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อแทมินก็รีบวิ่งตรงเข้าไปในห้องนั้นทันที แทมินเปิดประตูพรวดพราดเข้าไป ทำให้บุคคลที่กำลังนั่งอยู่ในห้องทุกคนจับจ้องมาที่แทมินเป็นสายตาเดียว ส่วนแทมินก็กวาดสายตาหาคีย์ เมื่อแทมินกวาดสายตาไปมาก็เจอ..คนคล้ายคีย์แต่แต่งตัวเป็นผู้หญิงสวย โดยที่ถูกชายค่อนข้างมีอายุกำลังโอบไหล่อยู่
“พะ..พี่คีย์” แทมินเดินตรงเข้าไปยังคีย์ที่ถูกโอบไหล่อยู่
“แท..มิน” คีย์ตกใจเมื่อเห็นแทมินอยู่ตรงหน้าตัวเอง
“เฮ้ยไอ้หนูเป็นใครเนี่ย เข้าผิดห้องอะไรยังไงก็ขอโทษมา แล้วก็ออกไปได้แล้ว” ชายที่กำลังโอบไหล่คีย์พูดต่อว่าแทมินเสร็จก็หันไปนั่งเล่นที่แก้มคีย์ แทมินถึงกับขึ้นทันทีแล้วเดินไปจับมือคีย์ดึงเพื่อกำลังจะพาเดินออกมาจากห้อง แต่ก็ถูกชายอีกคนมาดึงแขนอีกข้างของคีย์เอาไว้
“ไอ้เด็กนี่วอนซะแล้ว คืนนี้คินี่เป็นของฉัน แกอยากได้ก็รอวันอื่นสิวะ” ชายคนที่มารั้งแขนคีย์ไว้พูดกับแทมิน
“ของลุง? ปล่อยมือคนๆนี้ซะ แล้วลุงกับพวกคุณทุกคนก็อย่าหวังว่าจะได้เจอคนๆนี้อีก เขาไม่ใช่คนที่ให้ความสุขกับคุณเพราะคุณจ่ายเงินให้เขาหรอกนะ ฟังแล้วจำเอาไว้เลย เขาเป็นของผม!”
แทมินปล่อยมือคีย์แล้วไปผลักชายคนที่มารั้งแขนคีย์ แล้วจับมือพาคีย์พาวิ่งออกไปข้างนอกทันที เพราะกลัวใครจะตามมาทำอะไร แล้วรีบขึ้นรถเมล์เที่ยวพิเศษที่ผ่านมาพอดีโดยลืมมินโฮที่มาด้วยไปเลย แทมินให้คีย์เข้าไปนั่งริมหน้าต่างส่วนตัวเองก็นั่งข้างๆคีย์
“ทำไม.. แทมินทำอย่างนี้ล่ะ” คีย์ถามแทมินหลังจากที่อยู่ๆก็พาตัวเองวิ่งออกมาจากผับ
“ผมน่าจะถามพี่คีย์มากกว่าว่าทำไมถึงทำอย่างนี้!” แทมินพูดด้วยน้ำเสียงที่ออกจะว่าคีย์และไม่พอใจ ทำให้คีย์ไม่กล้าจะตอบอะไรแทมินจึงเงียบแล้วเบือนหน้าหนีออกไปนอกหน้าต่าง
“พี่คีย์ ผมขอโทษนะ” แทมินเห็นคีย์เงียบก็กังวล
“ขอโทษเรื่องอะไร ไม่เห็นจะต้องขอโทษอะไรเลย” คีย์หันมาพูดกับแทมิน ตอนนี้แทมินก็ได้มองหน้าคีย์ที่แต่งหน้าแต่งตัวเป็นผู้หญิงใกล้ๆ แทมินไม่อยากจะมองอะไรอีกเลย เห็นคีย์ที่ดูสวยขนาดนี้แล้ว..
“พี่คีย์สวยมากเลย” อยู่ๆแทมินก็พูดออกมา คีย์ที่ได้ฟังก็ได้แต่เขินและอมยิ้มเล็กๆ
“น่าอายจะตาย.. ไม่ชอบให้ใครพูดอย่างนี้เลย” ตั้งแต่คีย์แต่งตัวเป็นผู้หญิงทำงานในผับ ใครๆที่เห็นก็ต่างชมว่าคีย์สวยหรือน่ารักกันทั้งนั้น ซึ่งคีย์ไม่ชอบเอาซะเลย ยกเว้นก็แต่แทมิน ที่ถึงแม้คีย์จะไม่ค่อยให้ใครพูดอย่างนี้ แต่ตัวเองกลับยิ้มกับคำชมของแทมิน
“พรุ่งนี้ หรือไม่ก็วันไหนๆก็ตาม พี่คีย์ไม่ต้องมาทำงานที่ผับอีกแล้วนะ ผมไม่ให้พี่คีย์มาแล้ว” แทมินสั่งคีย์ เพราะพอเห็นภาพนั้นที่มีใครก็ไม่รู้มาโอบไหล่คีย์ มาทำเป็นเล่นกับคีย์ ทำให้แทมินไม่พอใจเอาซะจริงๆ ยิ่งเห็นคีย์แต่งตัวอย่างนี้แล้ว แทมินยิ่งต้องห้าม!
ห้ามคีย์ไม่ให้ทำอีก ห้ามใจตัวเองให้เต้นเป็นปกติสักที!
“แต่พี่ต้องใช้เงินนะ”
“เงินนั่นจะทำงานอะไรก็ได้ แต่อย่ามาทำอะไรอย่างนี้เลยนะพี่คีย์ มันจะได้เงินดีแค่ไหน แต่ว่ามัน.. ช่างมันเหอะ เอาเป็นว่าอย่าทำมันก็พอ” แทมินไม่สามารถพูดเหตุผลทั้งหมดที่ห้ามคีย์มาทำงานที่นี่ได้ แค่ให้รู้ว่าอย่าทำก็พอ
“เข้าใจแล้วล่ะ พี่จะไม่มาทำอีกแล้ว” คีย์สัญญากับแทมิน แล้วถอนหายใจออกมาพร้อมกับใช้ศีรษะเอนไปทางหน้าต่างแล้วพิงก่อนจะค่อยๆหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า
‘สักวันไหล่ของผมจะให้พี่คีย์ได้พิง ตอนนี้ผมไม่กล้าจะทำอย่างนั้น ถ้าผมทำพี่คีย์จะสงสัยว่าผมชอบพี่คีย์ใช่ไหม ผมยังไม่อยากให้พี่คีย์รู้ตอนนี้’
‘แทมิน.. เป็นห่วงพี่หรือเปล่า แทมินเป็นห่วงพี่ใช่หรือเปล่า อยากรู้จัง ที่แทมินบอกว่าพี่เป็นของแทมินน่ะ พูดไปเพราะจะปกป้องพี่ใช่ไหม’
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
พอรถเมล์ใกล้ถึงป้ายของบ้านคีย์ แทมินก็ปลุกคีย์ พอถึงป้ายที่จะต้องลง แทมินก็ลงไปกับคีย์ แล้วเดินเข้าไปยังซอยบ้านที่มีเพียงแค่แสงไฟจากเสาไฟฟ้าส่องกันแค่สองคน แล้วเดินกันอย่างเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไรต่อกัน จนกระทั่งถึงหน้าบ้านของคีย์
“แทมิน กลับบ้านดีๆนะ” ถึงแม้ว่ามันจะดึกแล้ว คีย์ก็อยากจะให้แทมินค้างที่บ้าน แต่เพราะพรุ่งนี้เป็นวันต้องไปโรงเรียน จะยุ่งยากไปสักหน่อยถ้าค้างที่นี่
“เข้าใจแล้ว คินี่~~” แทมินพูดพร้อมกับหัวเราะ เพราะนึกได้ว่าตอนอยู่ในผับอีตาลุงในนั้นเรียกคีย์ว่าคินี่ แทมินว่ามันน่ารักดีก็เลยเรียกมั่ง
“อย่าเรียกพี่อย่างนั้นสิ พี่เข้าบ้านก่อนนะ อย่าลืมกลับบ้านดีๆด้วย ถ้าแท็กซี่ไม่มีก็มานอนบ้านพี่นะ” คีย์พูดจบก็เดินเข้าบ้านไป ส่วนแทมินก็อยากจะบอกคีย์ซะจริงๆว่าแท็กซี่ไม่มี แต่ก็ยอมกลับบ้านไปโดยดี
คีย์ค่อยๆเปิดประตูบ้านเข้าไป เพราะกลัวว่าคิบอมที่อาจจะอยู่ในบ้านจะตื่น แต่ก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ๆไฟในบ้านก็เปิดขึ้น คีย์หันไปมองคิบอมที่ยืนอยู่ที่สวิตซ์เปิดปิดไฟในบ้าน แล้วคอตกค่อยๆเดินไปนั่งที่โซฟา ส่วนคิบอมก็เดินเข้ามานั่งลงตรงข้ามคีย์
“คีย์ ไปไหนมา แล้วทำไมแต่งตัวอย่างนี้” คิบอมเริ่มถามคีย์ทันทีเมื่อเห็นคีย์แต่งตัวเป็นผู้หญิง แถมยังแต่งหน้าอีก คีย์ไม่กล้าตอบคิบอม จึงเอาแต่นั่งก้มหน้า คิบอมใช้มือจับที่ไหล่คีย์ ทำให้คีย์ยิ่งกลัวคิบอมเข้าไปอีก
“พี่ไม่ว่าอะไรคีย์หรอก แค่คีย์บอกพี่มาว่าคีย์ไปไหนมา ไปทำอะไรมา” คิบอมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง เพื่อให้คีย์สบายใจ คีย์จึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาคุยกับคิบอม
“ผม..ขอโทษ ผม..ไปทำงานพิเศษ..ที่ผับ” คีย์ตอบคิบอมอย่างกล้าๆกลัวๆ
“ทำไมต้องไปทำด้วยคีย์ คีย์มีปัญหาเรื่องเงินหรืออะไรทำไมไม่บอกพี่”
“ผมไม่อยากรบกวนพี่บอม มันไม่ได้เป็นเงินอะไรมากมาย ผมคิดว่า..หาเองจะดีกว่า”
“คีย์ ฟังพี่นะ เราเป็นพี่น้องกัน แต่คีย์ทำอย่างนี้รู้ไหมว่าคีย์ทำให้พี่เสียใจนะ เหมือนคีย์คิดว่าคีย์อยู่คนเดียว ไม่มีครอบครัว ทั้งๆที่คีย์ ยังมีพ่อกับแม่ที่ถึงแม้ท่านจะไม่ได้อยู่กับเราบ่อยๆก็เถอะ แล้วที่สำคัญคือคีย์ยังมีพี่อยู่ทั้งคน แต่คีย์มีอะไรกลับไม่เคยบอกพี่เลย ไม่เคยปรึกษาอะไรกับพี่เลย โดยเฉพาะเรื่องเงิน บ้านเราไม่ได้ยากจนเลยนะคีย์ ถึงขั้นมีฐานะด้วยซ้ำ เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับเราเลย ถ้าคีย์ต้องการ ก็บอกพี่หรือไม่ก็พ่อหรือแม่ก็ได้ คีย์ไม่จำเป็นต้องไปหามันด้วยตัวเอง แค่คีย์เรียนแล้วก็ใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นคนอื่นๆก็พอ”
คิบอมพูดกับคีย์ด้วยความรู้สึกของตัวเองทั้งหมด เพื่อจะให้คีย์วางใจและสบายใจได้ว่าไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อจะหาเงินเลย รวมถึงสอนคีย์และบอกคีย์อีกด้วย เพราะคีย์ทำให้ตัวเองรู้สึกน้อยใจจริงๆ ว่าคีย์ไม่เคยเล่าอะไร หรือปรึกษาอะไรกับตัวเองเลย ทั้งๆที่ตัวเองเป็นพี่แท้ๆซะด้วยซ้ำ
“ผมขอโทษ ผมจะไม่ทำให้พี่บอมลำบากใจหรือว่าเสียใจอีกแล้ว” คีย์ได้แต่พูดเพียงคำว่าขอโทษให้คิบอมเท่านั้น จากใจของคีย์มีเพียงแค่ความรู้สึกผิดที่ทำให้คิบอมต้องเสียใจ
“เพราะฉะนั้นก็ต้องทำตัวให้เหมือนว่าพี่เป็นพี่จริงๆด้วยเข้าใจไหม แล้วนี่คีย์จะเอาเงินไปทำอะไรล่ะ”
“ผมทำโน้ตบุ๊คคนๆนึงพัง เลยต้องหาเงินมาซื้อคืนให้เขา”
“เรื่องแค่นี้เอง เดี๋ยวพรุ่งนี้เลิกเรียนแล้วโทรมาบอกพี่ เดี๋ยวพี่พาไปซื้อเอง”
“ขอบคุณมากครับ พี่บอม” คีย์พูดขอบคุณคิบอมแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย เพราะคีย์รู้ว่าคิบอมคงอยากจะให้ตัวเองยิ้ม
“อื้ม.. ว่าแต่แต่งตัวเป็นผู้หญิงอย่างนี้แล้วสวยจริงๆเลยนะเนี่ย คีย์ วันหลังต้องให้พี่ดงเฮจับแต่งบ่อยๆซะแล้ว 555 แล้วนี่อย่าไปทำงานที่ผับอีกล่ะ เด็กอย่างเราน่ะไม่ควรไป เข้าใจไหม” คิบอมพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา แล้วสั่งคีย์อย่าไปทำงานที่ผับอีกเพราะเป็นห่วง
“งั้นผมไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้ต้องไปเรียน” คีย์ขอตัวไปนอน คิบอมก็พยักหน้า คีย์จึงเดินขึ้นบันไดไป
“ถ้าแต่งตัวเป็นผู้หญิงแล้วสวยอย่างนี้ ความจริงน่าจะเกิดมาเป็นผู้หญิงซะมากกว่า ผู้ชายคงรีบกันตรึม.. ถ้าเป็นผู้หญิงจริงๆล่ะก็ ลองจับคู่กับมินโฮเพื่อนคีย์ดู ดีไหมนะ 55”
ก็เพราะก่อนหน้าที่คีย์จะกลับมา มินโฮเป็นคนเดียวที่แวะมาที่นี่แล้วถามว่าคีย์กลับมาหรือยัง
คิบอมเลยคิดไปแล้วน่ะสิ ว่าอยากเชียร์ให้มินโฮเป็นแฟนกับคีย์ ถ้าคีย์เป็นผู้หญิง
แต่ตอนนี้.. คิบอมก็แอบคิดอยู่เหมือนกันนะ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ถึงแม้เมื่อคืนคีย์จะนอนดึกแค่ไหนก็ตาม แต่คีย์ก็ยังมาโรงเรียนแต่เช้าตามปกติ แถมวันนี้ก็เช้ากว่าวันอื่นๆซะด้วย ตอนมาโรงเรียนก็มีนักเรียนบางตา คีย์วางกระเป๋าสำรองที่ใส่หนังสือมาไม่กี่เล่มเพราะกระเป๋านักเรียนที่เอามาปกติยังอยู่ที่ผับ เพราะแทมินพาวิ่งออกมาโดยไม่ได้เอาอะไรมาด้วยเลย โชคดีที่เมื่อวานลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน คีย์กำลังจะนั่งลงแล้วหลับตาเพราะยังคงง่วงอยู่ แต่อยู่ๆโทรศัพท์ก็สั่นขึ้นมา ทำให้คีย์ต้องรับโทรศัพท์ซะก่อน
(สายเข้า : จินกิ)
“สวัสดีจินกิ” คีย์รับสายและทักทายอย่างปกติ แต่ก็แปลกใจที่โทรมาแต่เช้า
(“คีย์มาโรงเรียนหรือยัง”)
“มาแล้ว ตอนนี้เราอยู่ที่ห้องเรียนน่ะ”
(“ลงมาที่โรงอาหารหน่อยสิ ฉันนั่งรออยู่ที่เดิมนะ”) พูดจบจินกิก็วางสายลง คีย์จึงเดินออกจากห้องเรียน แล้วลงไปยังโรงอาหารที่จินกินัดไว้
คีย์นั่งลงตรงข้ามจินกิที่นั่งอยู่คนเดียว ทำให้คีย์แปลกใจว่าจงฮยอนกับแทมินหายไปไหน
“นั่งคนเดียวหรอ” คีย์ถามจินกิด้วยความสงสัย
“นี่มันยังเช้าอยู่เลยคีย์ ไอ้จงมันยังไม่มาหรอก ส่วนไอ้โฮคีย์ไปถึงห้องก็น่าจะเห็นอยู่แล้วว่ามันมาหรือยัง”
“แล้ว..แทมินล่ะ” จินกิไม่พูดถึงแทมิน แต่คีย์อยากรู้ว่าแล้วแทมินล่ะ
“แทมินยังไม่ตื่นเลย เมื่อคืนนอนดึก คีย์ก็รู้นี่นะ” จินกิพูดจบก็หยิบกระเป๋านักเรียนที่แม่ฝากมาคืนให้ ยื่นให้คีย์
“นี่มัน..กระเป๋านักเรียนเรานี่ ขอบใจนะ จินกิ” คีย์แปลกใจอยู่หน่อยๆว่าทำไมกระเป๋านักเรียนตัวเองถึงไปอยู่กับจินกิได้
“แม่ฉันฝากมาคืนน่ะ”
“แม่นายหรอ จินกิ.. พี่วิคกี้เป็นแม่ของนายหรอ” คีย์ยังไม่รู้ว่าแม่จินกิคือใคร
“มาดามคิม ป้าฮโย เจ๊จิน คิมฮโยจิน ผู้จัดการผับน่ะ แม่ฉันเอง ส่วนลีดงมิน เจ้าของผับน่ะพ่อฉัน นายไม่รู้หรอคีย์” จินกินึกว่าแทมินเล่าให้คีย์ฟังแล้วซะอีก ว่าผับที่คีย์ทำงานเป็นธุรกิจของครอบครัวตัวเอง
“อ๋อ.. ที่มินโฮเคยเล่าให้ฟังนี่เอง” คีย์นึกได้ว่ามินโฮเคยเล่าอยู่ว่าครอบครัวจินกิกับแทมินทำงานเกี่ยวกับผับ แต่ไม่ยักกะรู้ว่าผับที่ทำงานน่ะ ของบ้านจินกิ
“คือ.. คีย์ ฉันรู้สึกผิดจริงๆนะ ฉันขอโทษจริงๆ ฉันไม่รู้ว่าคีย์น่ะไปสมัครงานแล้วได้ไปทำที่ผับ ฉันนึกว่าคีย์ไปทำงานที่ภัตตาคารซะอีก คีย์ไม่เคยบอกฉันเลย แล้วคีย์ก็ยังทำต่ออีกด้วย ฉันน่ะโดนแทมินเล่นงานหนักเลยเมื่อคืน ฉันก็เพิ่งรู้ว่าฉัน 29 ที่ไปสมัครน่ะต้องคนจะทำงานผับ ส่วนถ้าจะทำภัตตาคารก็ต้องไปสมัครที่นั่น ฉันเพิ่งรู้เมื่อวานนี้เอง” จินกิพูดขอโทษคีย์ยกใหญ่ เพราะความผิดเต็มๆมันมาจากจินกินี่ล่ะ
“ไม่เป็นไรหรอกจินกิ เราก็เต็มใจไปทำที่นั่นเอง ถ้าไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้น เราคงไม่รู้ว่าโลกนี้มันยังมีอะไรอีกเยอะแยะเลยล่ะ” คีย์ยังนึกขอบคุณจินกิอยู่เลย ว่าถ้าจินกิไม่บอกผิดล่ะก็ ตัวเองคงไม่ได้เจอกับอะไรที่ตัวเองไม่เคยเจอ ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน
“อย่างนั้นหรอคีย์ คีย์พูดเพราะจะได้ทำให้ฉันไม่รู้สึกผิดใช่ไหม” จินกิรู้ว่าคีย์ขี้เกรงใจ พูดไปคงเพราะจะได้ทำให้ตัวเองไม่รู้สึกผิดกับความผิดพลาด
“เราได้เข้าผับเป็นครั้งแรกเลยจินกิ ได้รู้ว่าผับมันมีอะไร มีคนแบบไหนอยู่ในนั้น ได้ทำในสิ่งที่เราไม่เคยคิดจะทำ อย่างเช่นแต่งตัวเป็นผู้หญิงน่ะ ไม่ว่าจะเป็นคนที่มาดื่ม หรือว่าพนักงานที่นั่นน่ะ ใครๆต่างก็สนใจเรา รักแล้วก็เอ็นดูเรามากเลย รู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำจริงๆนะ โดยเฉพาะแม่ของจินกิกับพี่วิคตอเรียน่ะ รู้สึกเหมือนว่าแม่เราอยู่ใกล้ๆ แถมยังมีพี่สาวที่ใจดีเป็นพี่แท้ๆของเราอีก ความจริงแล้วมันไม่ได้เลวร้ายอะไรสักเท่าไหร่เลย”
คีย์พูดด้วยจากความรู้สึกจริงๆของคีย์ รู้สึกว่ามันเหมือนโลกที่เป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ สามสี่คืนกับเวลาไม่กี่ชั่วโมง คีย์เหมือนเป็นคนใหม่ ที่ชื่อคินี่ เป็นผู้หญิงที่ใครๆก็ต่างสนใจและเอ็นดู มีคนที่เหมือนแม่อยู่ใกล้ๆ มีพี่สาวคอยห่วงใย ทั้งๆที่ในช่วงเวลาที่ยาวนานในแต่ละวัน คีย์เป็นแค่คิมคีย์ธรรมดาๆ เป็นแค่ผู้ชายที่ใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ แต่มันก็เริ่มดีขึ้นเมื่อมีเพื่อน และพี่ชายแท้ๆของคีย์อย่างคิบอมรักและเป็นห่วงคีย์
“นั่นสินะ.. ถ้าหากว่าเมื่อคืนฉันไม่ออกไปตามหาคีย์ ฉันก็คงไม่ได้ฟังแม่บ่นยาวเลย 55 แม่ฉันฝากมาบอกนะว่าอยากเจอคีย์อีก วันหลังถ้าไปที่บ้านก็ให้บอกแม่ฉันด้วยล่ะ ส่วนเงินที่คีย์ไปทำงานเย็นนี้คีย์ก็แวะไปเอาที่ผับแหละนะ แต่เดี๋ยวฉันกะจะไปด้วย เฮ้อ~ รู้สึกว่าแม่ฉันจะรักคีย์มากกว่าฉันซะแล้ว” จินกิพูดติดตลกตอนท้าย ก็ทำให้คีย์ยิ้มออกได้ในตอนเช้าๆอย่างนี้
“เย็นนี้เดี๋ยวเราจะไปซื้อโน้ตบุ๊คกับพี่ชายเราน่ะ คงไม่ได้ไปกับจินกิหรอกนะ ถ้าจินกิจะไปก็ไปกับมินโฮ จงฮยอน แล้วก็แทมินละกัน” คีย์นึกได้ว่าตอนเย็นคิบอมจะพาไปซื้อโน้ตบุ๊คที่ทำของใครก็ไม่รู้พัง
“โน้ตบุ๊คที่คีย์ทำพังน่ะ.. น้ำหกใส่โน้ตบุ๊คลายคิตตี้ที่วางชาร์ตแบตไว้ในห้องสมุดใช่ไหม” จินกิถาม ซึ่งคีย์ก็พยักหน้าตอบ
“โน้ตบุ๊คนั่นน่ะ ของไอ้จงมัน คีย์ไม่ต้องซื้อคืนให้มันหรอก มันเอาไปซ่อม ตอนนี้ใช้ได้แล้ว” คีย์แอบอึ้งอยู่นิดหน่อยว่าโน้ตบุ๊คที่ทำน้ำหกใส่เป็นของจงฮยอน ซึ่งนึกว่ามันพังแบบต้องซื้อใหม่ให้ แต่ตอนนี้มันกลับใช้ได้แล้ว
“งะ..งั้นหรอ งั้นเย็นนี้เดี๋ยวเราเลี้ยงข้าวเย็นจินกิ มินโฮ จงฮยอนแล้วก็แทมินละกันนะ” คีย์คิดว่าจะเอาที่ทำงานได้มาไปเลี้ยงขอบคุณจินกิกับแทมินที่ช่วยตัวเองทั้งหมด แล้วก็ขอโทษจงฮยอนเรื่องโน้ตบุ๊คด้วย ส่วนมินโฮ.. ก็ไหนๆไปกันแล้วก็ชวนไปด้วย
“งั้น...กินไก่นะคีย์!” จินกิผู้โหยหาไก่ขอให้คีย์เลี้ยงไก่ทอดที่ตัวเองชอบ ซึ่งแน่นอนว่าคีย์ก็เห็นด้วยอยู่แล้ว
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
มินโฮเดินเข้ามาในโรงเรียนพร้อมกับตบๆหน้าตัวเองและทำตาโตๆเพื่อทำให้รู้สึกตื่น เพราะเมื่อคืนนอนไปได้แปปเดียวก็ต้องตื่นไปหาคีย์ วิ่งไปวิ่งมาซะเหนื่อย กว่าจะกลับถึงบ้านก็ตีสองตีสาม โชคดีที่แม่กับพ่อของมินโฮไม่อยู่บ้าน ไม่งั้นคงต้องนั่งฟังบ่นอีกชั่วโมง คงไม่ได้นอน
ระหว่างจะขึ้นตึกเรียนก็บังเอิญเจอกับแทมินพอดี
“แทมิน เมื่อคืนนะ.. ทิ้งพี่ไว้ที่ผับ ออกมาก็ไม่บอก” มินโฮสะสางกับแทมินทันทีเมื่อเจอหน้า แทมินก็ยักคิ้วหลิ่วตาใส่
“ก็หาพี่คีย์เจอแล้วนี่ ผมไม่อยากจะอยู่ที่นั่นนานๆซะด้วย” ที่รีบวิ่งออกมาโดยที่ลืมมินโฮ ก็เพราะกลัวคนจะตามมาทำร้ายที่อยู่ๆไปเอาคีย์ออกมาซะเฉยๆอย่างนั้นน่ะสิ
“ใจร้ายว่ะ มีพี่คีย์แล้วลืมพี่” มินโฮทำท่าจะงอนแทมินอีกแล้ว
“แล้วถ้าเป็นพี่มินโฮ ระหว่างผมกับพี่คีย์ พี่มินโฮจะเลือกช่วยใครอ่ะ” ระหว่างคนข้างบ้านกับเพื่อนสนิท ยังไงมินโฮก็ต้องเลือกเพื่อนสนิทอยู่แล้ว.. หมายถึงว่ายังไงซะมินโฮก็ไม่เลือกแทมิน ต้องเลือกคีย์อยู่แล้ว
“ทั้งสองคนนั่นแหละ เลือกทั้งสองคน” แต่แทมินน่ะคิดผิดซะแล้ว เพราะมินโฮไม่ขอจะเลือกใครสักคน ถ้าจะเลือกก็เลือกทั้งสองคนนั่นแหละ
“หลายใจ เลือกคนเดียวดิ!” แทมินโวยวายเพราะไม่พอใจกับคำตอบ
“ก็จะเลือกทั้งสองคนอ่ะ!”
“จะเลือกพี่คีย์ก็บอกมาเหอะน่า ผมไม่น้อยใจหรอก เพราะผมไม่ได้แคร์กับคำตอบของพี่หรอก ยังไงซะพี่ก็ต้องเลือกพี่คีย์เหมือนผมอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ” ไม่ว่ามินโฮจะบอกยังไงแทมินก็ไม่เชื่อหรอกว่ามินโฮจะเลือกช่วยทั้งสองคน อย่างน้อยก็ไม่เลือกตัวเอง
แต่จะให้มินโฮเถียงยังไง จะให้พูดยังไง ถ้าตอบเพียงแค่คีย์ มินโฮกลัวว่าแทมินจะน้อยใจ มินโฮน่ะแคร์แทมินมากกว่าที่แทมินคิดซะอีก แต่ที่สำคัญคือถ้าตอบว่าเลือกแทมิน.. เหตุผลที่เลือกคือ? แล้วเหตุผลจะต้องทิ้งคีย์คือ?
“แทมินไม่แคร์คำตอบพี่ แต่พี่น่ะแคร์คำตอบแทมินนะ ว่าถ้าเป็นพี่กับพี่คีย์ แทมินจะเลือกใคร” คราวนี้มินโฮลองถามแทมินกลับดูบ้าง แทมินจะตอบว่ายังไง
“ยังไงซะผมก็ต้องเลือก..” ดูเหมือนความจริงแทมินจะมีคำตอบอยู่ในใจ และมั่นใจกับคำตอบที่ตัวเองจะตอบ แต่พอถึงตอนจะบอกว่าเลือกใคร แทมินกลับเงียบไม่ตอบ
“ยังไงซะแทมินก็ต้องเลือกพี่คีย์อยู่แล้วใช่ไหมล่ะ” มินโฮรู้อยู่แล้วว่ายังไงก็ต้องเป็นคีย์ที่แทมินเลือกอยู่แล้ว มินโฮรู้ตั้งแต่เมื่อวานที่แทมินทิ้งให้ตัวเองหาคีย์ต่อที่ผับแล้ว พอมินโฮพูดอย่างนั้นแทมินเลยไม่รู้จะพูดอะไรต่อ รู้สึกเหมือนว่าน้ำเสียงและความรู้สึกที่พูดออกมา มันบ่งบอกว่าแคร์กับคำตอบที่ตัวเองจะบอกจริงๆอย่างที่ว่า
“ไม่ต้องมาทำเป็นไม่ตอบหรอกนะจ๊ะ แทมิน” มินโฮบีบแก้มแทมินแล้วส่ายหน้าไปมาเพื่อล้อเล่นกับแทมิน แล้วเดินไปขึ้นตึกเรียนเพราะไม่อยากจะเถียงกับแทมินต่อ มินโฮไม่อยากจะรู้สึกผิดหวังอะไรในตอนนี้
นับวันยิ่งมินโฮรู้ว่าคนที่แทมินเลือกคือคีย์ ไม่ใช่ตัวเอง มินโฮทำได้เพียงแค่ยอมรับเท่านั้น
แต่บางทีมินโฮอาจจะแค่คิดเอาเองว่าแทมินเลือกคีย์ ทั้งๆที่ความจริงอาจจะไม่ใช่ก็ได้
‘ถ้าสมมุติว่าผมเลือกพี่คีย์ แล้วเหตุผลที่จะไม่เลือกพี่มินโฮคืออะไร? ผมก็ต้องเลือกทั้งสองคนอย่างที่พี่เลือกนั่นแหละ พี่มินโฮก็เป็นพี่ชายที่ผมรักเหมือนกันนั่นแหละ แต่ว่ามัน.. ไม่ใช่ความรู้สึกแบบที่รู้สึกกับพี่คีย์’
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
มินโฮเดินขึ้นมาถึงชั้นเรียน ก็เจอจินกิโบกมือลาคีย์อยู่หน้าห้องเรียน แล้วต่อจากนั้นคาดว่าจินกิคงจะเดินกลับไปที่ห้องเรียน ส่วนคีย์ก็เดินเข้าไปในห้อง
“เดินมากับไอ้หู้หรอ เมื่อกี๊เห็นมันโบกมือบ๊ายบายคีย์อยู่” หลังจากเดินเข้ามาในห้อง มินโฮวางกระเป๋าลงพร้อมกับชวนคีย์คุย
“ไปเอากระเป๋านักเรียนที่จินกิน่ะ แล้วก็กินเช้าด้วยกัน เลยเดินกลับมาห้องด้วยกัน” คีย์อธิบายให้มินโฮฟัง
“จินกิบอกหรือยังว่าไม่ต้องไปทำงานแล้วน่ะ”
“บอกแล้วล่ะ ยังไงก็ขอบคุณนะที่บอกอีกที” คีย์ขอบใจมินโฮ ถึงแม้ตัวเองจะรู้จากจินกิแล้ว แต่มินโฮก็ยังอุตส่าห์บอกอีก
“ฉันไม่คิดเลยนะ ว่าคีย์จะทำงานในที่อย่างนั้นจริงๆน่ะ” มินโฮพูดพร้อมกับยิ้ม
“เราไม่รู้นี่นาว่ามันจะเป็นยังไง แค่ทำแล้วได้เงินก็พอแล้วนี่นา ความจริงมันก็ไม่ได้แย่อะไรมากมายหรอก ไว้ถ้าเราลำบากอีกอาจจะไปทำอีกก็ได้นะ” คีย์พูดล้อเล่นกับมินโฮตอนท้าย
“ถ้าคีย์ไปทำอีกหรือว่าหายไปอีก คราวหน้าฉันจะไม่ไปตามหาแล้วนะ จะบอกให้”
“ขอบคุณนะ ที่เป็นห่วงน่ะ” คีย์เพิ่งจะรู้ว่ามินโฮก็ไปกับแทมินด้วย เพราะแทมินไม่ได้พูดถึงมินโฮเลย แถมเมื่อคืนก็ยังไม่เห็นมินโฮอีกด้วย ความจริงคีย์เกือบจะพูดไปแล้วว่าไม่รู้ว่ามินโฮก็ตามหาด้วยเหมือนกัน แต่เพราะถ้าพูดไปบางทีมินโฮอาจจะน้อยใจที่อุตส่าห์ตามหาตัวเอง แต่ตัวเองกลับไม่รู้เรื่อง
“ว่าแต่เมื่อคืน.. กลับมากับแทมินหรอ” มินโฮพอจะรู้ว่าแทมินพากลับมา แต่ว่าเรื่องมันเป็นยังไง
“อื้ม แทมินพาออกมาจากที่นั่นน่ะ แล้วก็เลยกลับบ้านด้วยกัน”
“คีย์น่ะ น่าอิจฉาจังเลยนะ..” มินโฮเผลอพูดออกมาเบาๆ แต่ว่าคีย์ก็ได้ยินที่มินโฮพูด
“เพราะอะไรหรอ มินโฮ”
“อะไรหรอคีย์” มินโฮถามเพราะไม่รู้ว่าคีย์หมายถึงเรื่องอะไร เพราะไม่รู้ว่าคีย์ได้ยินที่ตัวเองพูดเมื่อกี๊ แต่คีย์ก็เลือกที่จะไม่อยากรู้ดีกว่า
“มินโฮ เย็นนี้เราจะเลี้ยงอะไรอร่อยๆนะ ไปกินกัน” คีย์นึกได้จึงชวนมินโฮ มินโฮก็ทำหน้าดีใจใหญ่เพราะเป็นครั้งแรกที่คีย์ชวนไปที่อื่น
“ไปแน่นอนอยู่แล้ว ว่าแต่.. ใครไปมั่ง”
“ก็ชวนจินกิแล้ว มินโฮแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้ชวนจงฮยอนกับแทมินเลย ว่าจะเลี้ยงขอบคุณที่เราน่ะ แล้วก็ขอโทษจงฮยอนเรื่องโน้ตบุ๊คด้วย”
“อ่าหะ เดี๋ยวนะคีย์ คีย์ชวนไอ้หู้แล้ว แสดงว่าตอนเย็นนี้เราจะไปกิน..”
“ไก่ทอดนะ มินโฮ” คำตอบของคีย์ตรงกับคำตอบที่มินโฮคิดเอาไว้ มินโฮถึงกับนั่งเท้าคางทำหน้าเซ็งเลยทีเดียว คีย์เห็นก็ได้แต่หัวเราะเบาๆ
แต่ก็นะ ก็คีย์ไปชวนจินกิก่อนนี่นา คราวนี้ก็ตามใจจินกิละกัน คราวหน้าไว้ตามใจคนอื่นมั่ง
“เอ่อ..คีย์ ฉันมีคำถามอะไรอยากจะถามคีย์หน่อย” มินโฮที่นั่งเซ็งๆเมื่อกี๊ เกิดนึกถึงคำถามที่ถามที่เถียงกับแทมินเมื่อเช้าขึ้นมา
“อื้ม ถามมาสิ”
“ระหว่างฉันกับแทมิน ถ้าจะต้องเลือกใครสักคนให้มีชีวิตอยู่ คีย์จะเลือกใคร” มินโฮถามอะไรดูจะจริงจังเกินไปหน่อย ความจริงก็ว่าจะถามอะไรที่ดูอ้อมค้อมกว่านี้ แต่ว่าถามอย่างนี้มันก็ได้คำตอบชัดดี
“ทำไมถามอย่างนั้นล่ะ” คีย์สงสัยว่าทำไมมินโฮถึงถามอะไรอย่างนี้
“ก็แค่อยากรู้เฉยๆ ว่าคีย์จะเลือกใคร”
“อย่าถามอะไรอย่างนี้เลย เราไม่รู้หรอก” คีย์ไม่รู้จะตอบยังไง คำถามที่มินโฮถามมันค่อนข้างจะ..
“แค่ตอบมาเอง คีย์คิดยังไงก็ตอบอย่างนั้น” คีย์ไม่ตอบ มินโฮก็อยากให้คีย์ตอบ คีย์นิ่งเงียบแล้วกรอกตาไปมาเพื่อคิดอยู่พักหนึ่ง
“คือ.. จะให้ใครมีชีวิตอยู่ต่อเราเลือกไม่ได้หรอก ใครก็เลือกไม่ได้ พระเจ้ายังเลือกไม่ได้เลยนะมินโฮ ว่าจะให้ใครมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต คนเราจะอยู่ก็ต้องอยู่ จะตายก็ต้องตาย”
ในหัวคีย์มีแค่คำตอบนี้คำตอบเดียวเป็นคำตอบสุดท้ายให้มินโฮ พอคีย์พูดจบออดเข้าเรียนก็ดังพอดี ทำให้มินโฮถามอะไรต่อไม่ได้
‘แค่แทมินเลือกคีย์คนเดียวก็พอแล้ว คีย์อย่าเลือกแทมินด้วยเลยนะ
ฉันขอโทษนะคีย์.. ฉันอาจจะไม่ใช่เพื่อนที่ดีสำหรับคีย์ก็ได้’
To be continue…
- - - - - - -- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ชิชะลีจินกิ! ที่แท้ก็ไม่รู้เรื่องอะไรแล้วไปบอกคีย์ให้คนอื่นเขาเดือดร้อนเล่นๆ 55 แซวเล่นๆหรอกน่า
จบไปแล้วอีกตอน (ความจริงบอกว่าเมื่อไหร่จะถึงตอนจบต่างหาก 55) เดี๋ยวอีกไม่นานนี้ ทุกคนก็จะรู้ใจตัวเองจริงๆจังๆสักที เฮ้อ~ รู้ว่าคนอ่านเหนื่อย คนแต่งก็แอบเหนื่อยเหมือนกันนะ บางทีรู้สึกตัวเองแต่งยืดยาดไปหน่อย แต่มันจบแน่นอนค่ะ และอีกไม่นานเกินรอสิ่งที่ทุกคนหวังมันจะมาถึงค่ะ!
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์นะคะ
11.10.04 - Lighteli
ความคิดเห็น