ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] Love Shuffle (SHINee)

    ลำดับตอนที่ #16 : Love Shuffle : Chapter 16

    • อัปเดตล่าสุด 22 ธ.ค. 54


    Chapter 16

     

                วันนี้ก็เป็นวันเปิดเรียนอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อวานหยุดในวันคริสมาสต์ไปหนึ่งวัน บางคนก็สลบไสลเพราะความง่วงจากเมื่อวาน ส่วนใหญ่ก็มักจะนั่งคุยกันถึงเรื่องต่างๆที่ไปทำมาเมื่อวาน

     

                คีย์ก็มาโรงเรียนแต่เช้าตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือ..

     

                บนโต๊ะเรียนของคีย์ มีของขวัญวางอยู่สี่กล่อง

     

                คีย์เดินเข้ามาในห้องเรียนก็สงสัยว่าตรงนี้มีใครมานั่งแทน หรือมีการเปลี่ยนที่หรือเปล่า แต่พอดูในห้องแล้วแต่ละคนก็ยังนั่งที่เดิม คีย์ก็เลยวางกระเป๋าตรงโต๊ะเรียนของตัวเอง

     

                คีย์หยิบของขวัญขึ้นมาดูกล่องหนึ่งที่ติดการ์ดเอาไว้

     

              ของขวัญกล่องแรกที่ให้คีย์.. คุณชื่อคีย์ใช่ไหม? สุขสันต์วันคริสมาสต์!

              จาก.. บุคคลปริศนา (ไว้วันปีใหม่จะให้ใหม่นะ :D)

     

                คีย์อ่านจบก็แปลกใจว่าใครมาแกล้งตัวเอง คีย์ลองหยิบกล่องอื่นขึ้นมาดูเผื่อว่าจะไม่ใช่ของตัวเอง แต่สามกล่องที่เหลือก็เขียนการ์ดเอาไว้ว่าให้คีย์ทั้งหมด

     

              หรือว่าจินกิ จงฮยอน มินโฮ แล้วก็แทมินจะให้เรานะ..

     

                คีย์คิดในใจว่าทั้งสี่คนจะเป็นคนให้ตัวเองหรือเปล่า เพราะมีสี่กล่องพอดี แถมตัวเองก็สนิทอยู่แค่สี่คนนี้ด้วย

     

                “เฮ้อ เมื่อคืนฉันนอนดึกมากเลย ง่วง!” มินโฮเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับบ่นให้คีย์ฟัง

     

                “มินโฮเพิ่งมาหรอ” คีย์ถามมินโฮที่นอนฟุบอยู่กับโต๊ะทันที มินโฮเคลื่อนหน้าขึ้นลงเพื่อตอบคีย์

     

                “ก็เห็นนี่นาว่าฉันเพิ่งเดินเข้ามาน่ะ นั่นของขวัญของใครน่ะคีย์ เอามาให้ฉันบ้างหรือเปล่า เมื่อวานคีย์ยังไม่ได้ให้ฉันเลยนะ” มินโฮเห็นของขวัญที่วางอยู่บนโต๊ะคีย์ก็เลยนึกว่าคีย์จะเอามาให้ตัวเอง

     

                “อย่าล้อเราเล่นน่ามินโฮ.. นายให้กล่องไหนกับเราหรอ” คีย์นึกว่ามินโฮพูดแกล้งตัวเองเล่นๆ คีย์เลยถามมินโฮว่าเป็นคนให้กล่องไหนกับตัวเอง

     

                “กล่องไหน? หมายความว่าไงคีย์” มินโฮไม่เข้าใจว่าคีย์หมายถึงอะไร

     

                “ก็ของขวัญสี่กล่องนี้ กล่องไหนที่นายให้เราหรอ”

     

                “ฉันไม่ได้ให้นะคีย์ ฉันพูดจริงๆว่าฉันไม่ได้ซื้อของขวัญพวกนี้เลย” มินโฮปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้ซื้อของขวัญให้กับคีย์ คีย์ก้มมองกล่องของขวัญอย่างแปลกใจ

     

                “ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม”

     

                “พูดจริงๆคีย์ จะล้อเล่นทำไม”

     

                “อ่า งั้นหรอ สงสัยว่าใครให้จัง เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าก็ไม่รู้” คีย์บ่นให้มินโฮฟัง มินโฮเลยหยิบกล่องของขวัญที่มีการ์ดมาอ่าน

     

                “คนให้ก็เขียนว่าให้คีย์นี่นะ.. อาจจะเป็นบัดดี้คีย์หรือเปล่า หรือว่าอาจจะเป็น.. ใครสักคนที่แอบชอบคีย์!” มินโฮพูดให้คีย์ดีใจ คีย์ก็ขำออกมากับที่มินโฮพูด

     

                “ใครจะชอบเราล่ะ ไม่เห็นน่าชอบตรงไหนเลย” ถึงคีย์ว่าตัวเองจะเลิกใส่แว่น เลิกทำผมปิดหน้าปิดตา พูดคุยกับคนอื่นมากขึ้น แต่คีย์ว่าตัวเองก็ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจถึงขนาดมีใครมาชอบ

     

                “ตรงไหนล่ะคีย์ ที่ไม่น่าชอบน่ะ ไม่เห็นคีย์จะแย่อะไรเลย เรียนก็เก่ง หุ่นก็โอเค หน้าตาก็ไม่ขี้เหร่ นิสัยก็ดี”

     

                มินโฮว่าคีย์เป็นคนที่น่าอิจฉามากสำหรับตัวเอง คีย์เป็นคนขยัน ฉลาด ใจเย็น แถมแทมินก็ชอบเข้าข้างคีย์มากซะด้วย ถึงจะไม่รู้ว่าทำไม เพราะอะไรแทมินถึงชอบเข้าข้างคีย์ และเห็นว่าคีย์ดีและสำคัญกว่าตัวเองเสมอ

     

                “จะว่าไปเราก็ยังไม่ได้ให้ของขวัญบัดดี้เลยนะเนี่ย จะให้ยังไงดีล่ะเนี่ย..”

     

                “ถ้าเป็นฉันละก็ ฉันจะไปเข้าห้องน้ำตอนนี้ แล้วคีย์ก็ค่อยให้ฉันนะ 55” มินโฮเปิดโอกาสให้คีย์เอาของขวัญมาให้ถ้าคีย์เป็นบัดดี้ตัวเอง คีย์ก็ยิ้มตอบแล้วก็นั่งลงจ้องที่กล่องของขวัญสี่กล่องต่อด้วยความสงสัย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                “จงฮยอน จินกิ นายได้ให้ของขวัญกับเราหรือเปล่าหรอ ที่วางอยู่บนโต๊ะเรียนเราน่ะ” คีย์ไม่ลืมที่จะถามจงฮยอนกับจินกิเรื่องของขวัญ จงฮยอนกับจินกิก็ทำหน้างงๆกับสิ่งที่คีย์พูด

     

                “ของขวัญหรอ? ไม่ได้ให้นะคีย์ ของฉันต้องพิเศษ ฉันต้องให้กับมือคีย์เท่านั้นล่ะ ให้พร้อมหัวใจของฉันด้วยน้า~” จงฮยอนตอบคีย์พูดกับทำท่าเป็นรูปหัวใจ จินกิหมั่นไส้เลยใช้มือผลักหัวจงฮยอนไปหนึ่งที

     

                “อ๋อ อย่างนั้นหรอจงฮยอน” คีย์ล่ะหนักใจกับที่จงฮยอนพูดจริงๆ พอคีย์ได้คำตอบจากจงฮยอนแล้วก็ขอตัวไปซื้อข้าว ไม่ได้เอาคำตอบจากจินกิ จินกิก็ไม่ได้บอกอะไรคีย์ด้วย

     

     

                ตอนคีย์กำลังจะเดินกลับไปที่โต๊ะ คีย์ก็รู้สึกว่ารอบๆตัวคีย์ยิ้มกันเกือบทุกคน ซึ่งมันแปลกมาก และดูเหมือนทุกคนจะยิ้มเมื่อคีย์เดินผ่าน

     

                “พี่..คีย์ใช่ไหมคะ?” อยู่ๆก็มีรุ่นน้องม.4 ผู้หญิงสองสามคนเดินเข้ามาหาคีย์ แล้วถามว่าใช่คีย์หรือเปล่า

     

                “ครับ? น้อง..” คีย์ตอบอย่างงงๆ และเหมือนจะถามว่ารู้จักกันด้วยหรอ เพราะเท่าที่จำได้ คีย์ไม่สนิทกับรุ่นน้อง และก็ไม่รู้จักรุ่นน้องคนไหนเลยด้วย

     

                “พี่คีย์คงไม่รู้จักหนูหรอกค่ะ แต่ว่า.. ช่างมันเถอะค่ะ หนูซื้อน้ำมาให้พี่คีย์ ช่วยรับไว้ด้วยนะคะ” รุ่นน้องผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มยื่นน้ำขวดนึงมาให้คีย์ คีย์ก็ยิ้มแล้วรับมา

     

                “ขอบคุณนะครับสำหรับน้ำ” คีย์ตอบรับด้วยคำพูดขอบคุณอย่างสุภาพพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนจะเดินจากรุ่นน้องกลุ่มนั้นมาอย่างงงๆ

     

     

                มันเกิดอะไรขึ้นกับคีย์เนี่ย?

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

                วันนี้ดงเฮ จินกิ และแทมินกลับบ้านพร้อมกัน หลังจากเพิ่งออกไปกินข้าวเย็น เพราะดงเฮเลี้ยงย้อนหลังวันคริสมาสต์เมื่อวาน พอกลับบ้านมาก็เห็นถุงใหญ่ๆแขวนอยู่หน้าบ้าน

     

                “เฮ้ย นี่มันอะไรเนี่ย 55” ดงเฮถึงกับขำออกมากับเมื่อดูของในถุง ซึ่งข้างในเป็นตุ๊กตาน่องไก่ชิ้นใหญ่

     

                “ของพี่จินกิแน่เลยเนี่ย” แทมินบอกจินกิที่ยืนอยู่ด้วยกัน ถึงแม้จะไม่บอกว่าให้ใคร แต่เห็นอย่างนี้เป็นใครก็รู้ว่าให้จินกิโดยเฉพาะ

     

                “มันน่าจะกินได้อ่ะ ชิ้นใหญ่ๆๆๆ อยากกินไก่ชิ้นเท่านี้อ่ะ” จินกิแอบโวยวายเล็กน้อยที่น่องไก่เป็นแค่ตุ๊กตา ไม่ใช่ของจริงที่สามารถกินได้

     

                “ใครแอบชอบจินกิกันอยู่น้า~ หรือว่ามีแฟนแล้วไม่ยอมบอกพี่” ดงเฮพูดแซวจินกิถึงเรื่องของขวัญ

     

                “บัดดี้ละมั้ง” จินกิเดาว่าคงเป็นบัดดี้ที่เล่นกันให้ของขวัญตัวเองมา

     

                “เล่นบัดดี้กับเพื่อนหรอ?” ดงเฮถามด้วยความสงสัย

     

                “ก็มีผม พี่จินกิ พี่จงฮยอน พี่มินโฮ แล้วก็พี่คีย์เล่นกันห้าคน” แทมินตอบดงเฮ ดงเฮก็พยักหน้าตอบ

     

                “งั้นเข้าบ้านกันเถอะ ข้างนอกหนาวจะตายละ” ดงเฮชวนจินกิกับแทมินเข้าในบ้าน จินกิก็เดินนำเข้าไป

     

                “ทำไมไม่ไปให้พี่คิบอมกอดอ่ะ” แทมินแซวดงเฮ ดงเฮก็เลยหยิบหิมะที่พื้นมาปาใส่แทมินก่อนจะเดินเข้าบ้านไป แทมินโดนหิมะก็เลยนึกได้ว่ามีการบ้านให้มาวัดปริมาณหิมะใกล้ๆตัว เลยรีบวิ่งไปหยิบไม้บรรทัด กระดาษ แล้วก็ปากกาออกมานั่งวัดหิมะทั้งๆที่อากาศหนาวจนไม่อยากจะทำเลยด้วยซ้ำ

     

                “โอ๊ยๆๆ หนาวๆๆ หิมะสูง.. กี่เซนเนี่ย” แทมินใช้มือจุ่มไม้บรรทัดลงไปในหิมะ พอเสร็จแล้วก็รีบจดบันทึกทันที

     

                “Hi~! เด็กเห็ด” อยู่ๆก็มีเสียงทักแทมิน แทมินรู้ทันทีว่าใครเป็นคนเรียกตัวเอง จงฮุนยืนโบกมืออยู่ตรงข้ามกำแพง

     

                “อะไร พี่จงฮุน” แทมินลุกขึ้นมาจากตรงที่นั่งวัดหิมะ

     

                “อยากคุยด้วยจัง.. มานี่หน่อยสิจ๊ะ” จงฮุนกวักมือเรียกแทมินพร้อมกับพูดคำหวานๆ แทมินก็เดินไปวางสมุดที่ตรงทางเข้าบ้านแล้วเดินไปหาจงฮุน

     

                “พูดซะหวานนนนเลยนะ แสดงว่า.. มีจุดประสงค์อะไรแอบแฝงใช่ป่ะ” แทมินรู้ทันจงฮุน ก็เพราะจงฮุนกับมินโฮเหมือนกันมากเกินไป พูดๆดีอย่างนี้รู้หรอกว่ามีอะไร

     

                “อย่าพูดอย่างนั้นสิ พี่มันเป็นแค่คนที่หวังดีประสงค์รักเท่านั้นแหละ” แทมินอยากจะบ้ากับจงฮุนจริงๆ

     

                “พี่ด๊องอยู่บ้าน เดี๋ยวผมไปเรียกให้” แทมินคิดว่าจงฮุนคงถามอะไรเกี่ยวกับดงเฮอีกนั่นแหละ ถ้าอยากคุยก็ไปเรียกดงเฮมาคุยเลยดีกว่า แทมินคุยกับจงฮุนแล้วอยากจะอ้วก

     

                “ไม่ใช่ๆ อยากคุยกับแทมินนั่นแหละ”

     

                “กับผม? หรือว่าพี่จงฮุนชอบผมแทนที่พี่ด๊องแล้ว” แทมินแซวจงฮุนเล่น จงฮุนก็ใช้มือมาหยิกแก้มแทมินแล้วส่ายไปมา แทมินยกมือขึ้นมาปัดมือจงฮุนออกจากแก้มตัวเอง

     

                “น่ารักอย่างนี้ พี่ขอเก็บไว้พิจารณา! อ่ะนี่..” จงฮุนพูดพร้อมกับยื่นถุงสีดำข้ามกำแพงมาให้แทมิน แทมินก็รับมาแล้วเปิดดูว่าข้างในเป็นอะไร

     

                “พี่ซื้อนี่ให้ผมหรอ!” แทมินพูดอย่างดีใจ เพราะในถุงเป็นหูฟังแบรนด์ดังราคาเกือบสามแสนวอน

     

                “ไม่ใช่จ้ะ พี่ฝากนั่นให้พี่ดงเฮหน่อยสิ ฝากบอกด้วยว่าสุขสันต์วันคริสมาสต์” แทมินหุบยิ้มเมื่อได้รับคำตอบจากจงฮุน แทมินยื่นถุงกลับให้จงฮุนทันที

     

                “ให้เองละกัน ของแพงๆอย่างนี้ผมกลัวว่ามันจะเสียหาย” แทมินพูดประชดจงฮุนเต็มที่

     

                “แทมินจ๋า ช่วยพี่หน่อยเหอะนะ ถ้าพี่ให้พี่ดงเฮเอง พี่ดงเฮคงไม่รับของพี่แน่ๆ” จงฮุนพอจะรู้ตัวว่าดงเฮไม่รับของจากตัวเอง ถ้าผ่านแทมินอาจจะยอมรับก็ได้

     

                “แล้วพี่มีอะไรตอบแทนให้ผมไหมล่ะ ถ้ามี ผมอาจจะช่วย..” แทมินมีข้อแลกเปลี่ยนกับจงฮุน แทมินรู้ว่าถ้ามีข้อแลกเปลี่ยนกับจงฮุน จงฮุนยอมแน่ๆ ถ้าเป็นเรื่องดงเฮ

     

                “มีพี่เป็นแฟนไหมล่ะ โอเค๊?”

     

                “น่าสนใจ แต่ว่าผมไม่เอา!” ใครที่ไหนสนชเวจงฮุนสุดหล่อก็สนไป ยกเว้นซะแต่พี่น้องบ้านลีข้างๆนี่ละที่จะไม่ชอบ

     

                “พี่ยอมให้หมดทั้งตัวแล้วก็หัวใจเลยนะเนี่ย ไม่เอาหรอ..”

     

                “ไม่! พี่จงฮุนยังมีค่าไม่เท่าทองแท่งนึงเลยอ่ะ”

     

                “เด็กเห็ด!” จงฮุนเผลอเรียกชื่อที่ชอบเรียกแทมินออกมา ซึ่งแทมินไม่ค่อยจะชอบมัน

     

                “งั้นไม่ช่วยแล้ว! อยากให้ก็รอพี่ด๊องพรุ่งนี้ละกันนะ” แทมินหันหลังกลับจะเดินเข้าบ้านแต่ก็ถูกมือของจงฮุนจับเสื้อไว้ซะก่อน

     

                “โอเคๆ อยากได้อะไรจ๊ะ แทมิน” จงฮุนยอมแทมินแล้ว แทมินก็ทำท่าคิดแล้วชะโงกหน้ามองข้ามผ่านกำแพงไป เห็นว่าในมือของจงฮุนก็มีถุงแบบเดียวกันอยู่ในมืออีกถุง

     

                “ในมือพี่อ่ะ ถุงอะไร”

     

                “ก็เหมือนของพี่ดงเฮอ่ะแต่ของพี่สีดำ ของพี่ดงเฮสีขาว ซื้อมาเป็นคู่ Couple! Couple!” จงฮุนยิ้มหน้าบานออกมา แทมินคิดอะไรดีๆออกมาได้

     

                “งั้นผมอยากได้ไอ้นั่นอ่ะ ในมือพี่อ่ะ” แทมินอยากจะแกล้งจงฮุนเลยขอของที่ซื้อมาตั้งใจจะใช้กับดงเฮเป็นคู่

     

                “เอ่อ..”

     

                “ไม่ให้ผม งั้นผมก็ไม่เอาของๆพี่ไปให้พี่ด๊องหรอก เอาคืนไปเหอะ พี่ด๊องก็ไม่อยากได้ของพี่หรอก”

     

                “โอเคๆ เอาไปก็ได้ พี่ยกให้ก็ได้” จงฮุนยื่นถุงในมือให้แทมินอย่างเซ็งๆ แต่แทมินกลับมีสีหน้าที่แตกต่างกับจงฮุนอย่างสิ้นเชิง แทมินเปิดถุงออกมาดูก็พบว่าเป็นอย่างที่จงฮุนบอกว่าเป็นหูฟังแบบเดียวกันแต่คนละสี

     

                “ขอบใจนะ พี่จงฮุน ของขวัญพี่ผมจะเอาไปให้ถึงมือพี่ด๊องเลย ผมจะช่วยพี่เต็มที่เลย!” แทมินก็พูดไปอย่างนั้นแหละ เพราะแทมินสนับสนุนคิเฮ ไม่ใช่จงเฮ

     

                “ให้สำเร็จด้วยนะจ๊ะแทมิน Merry Christmas ย้อนหลังนะจ๊ะ” จงฮุนพูดหวานๆกับแทมิน

     

                “เช่นกันนะ พี่จงฮุน” แทมินยิ้มแล้วรีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันทีเพราะขี้เกียจคุยกับจงฮุนต่อ

     

     

              รักพี่ดงเฮก็ต้องรักน้องของพี่ดงเฮด้วย ถ้าอยากจะจีบพี่ดงเฮติด จะให้ผมช่วย ก็ต้องเอาใจผมด้วยนะ 55’

     

     

     

     

     

     

     

               

     

                “ออกไปทำอะไรมาน่ะแทมิน แล้วนั่นถุงอะไรอ่ะ” ดงเฮถามแทมินที่เพิ่งเข้ามาในบ้านหลังจากออกไปนาน แถมยังมาพร้อมกับถุงอะไรในมืออีกด้วย

     

                “อ๋อ ออกไปทำการบ้านมา แล้วก็ได้ของดีมาด้วยล่ะ” แทมินวางถุงลงบนโต๊ะ แล้วให้ดงเฮ

     

                “หือ? ให้พี่หรอ?” ดงเฮถามแทมิน

     

                “ใช่อ่ะดิ ของขวัญวันคริสมาสต์ไง”

     

                “ขอบใจนะแทมินน้องรัก ไหนดูหน่อยสิว่าให้อะไร” ดงเฮพูดพร้อมกับยิ้มให้แทมิน แล้วใช้มือหยิบถุงบนโต๊ะมาดู แล้วหยิบกล่องหูฟังในถุงออกมา

     

                “แพงนะเนี่ยแทมิน มีเงินซื้อให้พี่ขนาดนี้เลยหรอ ซึ้งใจจัง”

     

                “ของพี่จงฮุนฝากมาให้พี่อ่ะ เขาฝากบอกมาด้วยว่า สุขสันต์คริสมาสต์ย้อนหลังด้วยนะ” แทมินบอกความจริงกับดงเฮ ดงเฮฟังแล้วก็ถอนหายใจออกมาแบบหน่ายๆ แล้วเอาหูฟังใส่กลับในถุง

     

                “นี่มันยังจีบพี่อยู่อีกหรอเนี่ย ไม่รู้หรือไงเนี่ยว่าพี่มีแฟนแล้วเนี่ย!” ดงเฮอดบ่นไม่ได้

     

                “เอาๆไปเหอะพี่ด๊อง แพงจะตาย เขาอุตส่าห์ซื้อมาให้นะ”

     

                “แทมินเอาไปเหอะ ไอ้พี่บวมมันเพิ่งซื้อให้พี่เมื่อวานนี้เอง แบบนี้ สีนี้เลยอ่ะ” ดูเหมือนว่าจงฮุนจะช้าไป แถมยังพลาดอย่างร้ายแรงอีกด้วย

     

                “ผมก็เพิ่งหลอกเอาของเขามาได้นี่อ่ะ แต่ของผมสีดำ ต้องขอบใจพี่ด๊องเลยนะเนี่ย ผมไปอ้างว่าถ้าไม่ให้ไอ้นี่กับผม ผมก็ไม่เอาของให้พี่ด๊อง เขาก็เลยให้มาอีกอัน 55” แทมินเล่าถึงความแสบของตัวเอง ดงเฮก็หัวเราะออกมากับความซื่อบื้อของจงฮุน

     

                “งั้นอันนี้ให้จินกิก็แล้วกัน ไม่งั้นแทมินก็เอาไปเถอะ พี่ไม่อยากได้ของจากหมอนั่นหรอก รู้สึกผิดกับพี่บอมน่ะ” สุดท้ายแล้วแทมินก็เอาของของดงเฮมาอีกอัน แทมินก็กะจะเอาไปให้จินกิ แต่พอคิดไปคิดมา..

     

     

                เอาไปให้ใครบางคนดีกว่า

     

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

     

     

                คีย์เดินเข้ามาในโรงเรียนวันนี้ ก็รู้สึกว่าเป็นเป้าสายตาของใครหลายคนอีกครั้งเหมือนเมื่อวาน พอเดินเข้ามาในห้องก็มีขนมปัง นม ขนมวางอยู่เต็มโต๊ะของตัวเอง

     

                คีย์อยากจะรู้จริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง?

     

                คีย์เก็บของที่อยู่บนโต๊ะตัวเองลงในกระเป๋า แล้วจะเดินไปห้องสมุดเพราะไม่มีอะไรทำ แต่ระหว่างทางที่จะไปก็มีผู้หญิงสองคนที่คาดว่าน่าจะเป็นรุ่นพี่เดินเข้ามาหาคีย์

     

                “อรุณสวัสดิ์ค่ะคีย์” ผู้หญิงสองคนทักทายคีย์ด้วยคำสุภาพ

     

                “เอ่อ.. อรุณสวัสดิ์ครับ” คีย์โน้มตัวเพื่อทักทายตอบ

     

                “ขอถ่ายรูปด้วยหน่อยได้ไหมคะ”

     

                “ครับ? ถ่าย..ถ่ายรูป?” คีย์ถามกลับด้วยความงง

     

                “ค่ะ ขอถ่ายรูปด้วยหน่อยนะคะ” พอพูดจบผู้หญิงที่ขอถ่ายรูปก็ยื่นมือถือให้เพื่อนที่เดินมาด้วย แล้วชูสองนิ้วเก๊กท่าถ่ายรูป คีย์ก็ยิ้มแบบปกติให้กล้อง

     

                “ขอตัวก่อนนะครับ” คีย์รีบขอตัวจากรุ่นพี่ผู้หญิงทั้งสองคนเพราะรู้สึกว่ามันมีอะไรผิดปกติ คีย์โน้มตัวให้รุ่นพี่ทั้งสองคนแล้วเดินไปห้องสมุดตามความตั้งใจต่อ

     

     

                “คีย์น่ารักเนอะแก สุภาพมากเลยอ่ะ”

     

                “นั่นดิ นึกว่าจะเป็นคนแรงๆซะอีก ตอนกีฬาสีอ่ะ เห็นตัวจริงใกล้ๆแล้วแทบคลั่งอ่ะ”

     

     

     

     

     

     

     

                คีย์เดินมาถึงห้องสมุด วันนี้คีย์ก็นั่งอ่านหนังสือที่มุมเดิม..

     

                “เอ่อ.. ขอโทษนะคะ พี่คีย์ใช่ไหมคะ” ตอนที่คีย์อ่านหนังสืออยู่ ก็มีรุ่นน้องคนหนึ่งเดินเข้ามาหาคีย์ คีย์หันหน้าไปตามเสียง

     

                “ครับ” คีย์ตอบรับสั้นๆ

     

                “ขอถ่ายรูปพี่คีย์หน่อยสิคะ” รุ่นน้องคนนี้ก็ขอถ่ายรูปคีย์เหมือนรุ่นพี่เมื่อเช้าอีกแล้ว คีย์ก็ยิ้มให้กล้องมือถือ จนรุ่นน้องเอามือถือเข้าใกล้ๆตัวเพื่อดูภาพแล้วยิ้มออกมา คีย์ก็ก้มศีรษะให้

     

                “พี่คีย์น่ารักจังเลยค่ะ เห็นใกล้ๆแล้วหน้าใสมากเลย” รุ่นน้องชมคีย์หลังจากดูรูปเสร็จแล้วกำลังจะเดินจากไป

     

                “ขอโทษนะครับ ขอคุยด้วยแปปนึงได้ไหมครับ” คีย์เรียกรุ่นน้องก่อนที่จะเดินไป

     

                “คะ?”

     

                “คือ.. น้องรู้จักพี่ได้ไงหรอครับ” คีย์ถามเพราะจะได้รู้สักทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง

     

                “ก็วันกีฬาสีไงคะ ที่พี่คีย์เป็นพ่อมดของสีน้ำเงินใช่ไหมล่ะคะ” คีย์อ้าปากหวอ

     

                เขารู้ได้ยังไงว่าเป็นคีย์?

     

                “รู้.. รู้ได้ยังไงครับ”

     

                “พี่คีย์ไม่ได้เล่นเว็บบอร์ดของโรงเรียนหรอคะ พี่คีย์น่ะเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดเลยตอนนี้ ใครๆก็รู้จักพี่คีย์กันทั้งนั้นแหละค่ะ” พอได้ฟังที่รุ่นน้องพูดคีย์ก็ช็อกอย่างบอกไม่ถูก ถ้าคีย์ไม่ถามว่ารู้จักคีย์ได้ยังไง คีย์คงไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นยังไงบ้าง

     

                คีย์เพิ่งจะรู้ว่าตอนนี้ตัวเองน่ะป๊อปมาก!

     

                “จริงหรอครับ”

     

                “จริงสิคะ พี่คีย์ลองเข้าเว็บบอร์ดโรงเรียนเราก็ได้ ไม่ใช่แค่ผู้หญิงนะคะที่ชอบพี่คีย์ ตอนนี้ผู้ชายยังสนใจพี่คีย์มากกว่าพี่ฮโยยอนดาวโรงเรียนอีกนะคะ”

     

                ยิ่งรู้ว่าเป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้ชาย แถมยังดังกว่าฮโยยอน ดาวโรงเรียนที่สวยที่สุดอีกด้วย

                แล้วคีย์จะได้มีชีวิตที่สงบสุขเป็นส่วนตัวไหมเนี่ย

     

     

     

     

     

     

     

     

                คีย์รีบกลับมาจากห้องสมุดมาที่ห้องเรียน แล้วเดินมาที่โต๊ะนานะ ที่นั่งลอกการบ้านเพื่อนอยู่

     

                “ซอฮยอน ขอโทษนะ ขอคุยกับนานะสองคนได้หรือเปล่า” คีย์เห็นว่าซอฮยอน เพื่อนสนิทของนานะนั่งอยู่เลยอยากคุยกับนานะแค่สองคน ซอฮยอนก็พยักหน้าตอบแล้วเดินไปนั่งกับเพื่อนกลุ่มอื่น

     

                “อ้าวคีย์ ว่าไง อยากคุยกับเราหรอ” นานะเงยหน้าจากการลอกการบ้าน

     

                “นานะ เรื่องวันกีฬาสีน่ะ..”

     

                “อ้อใช่ ได้เข้าบอร์ดโรงเรียนหรือเปล่า คีย์น่ะป๊อปมากเลยนะ ใครๆก็อยากรู้จักคีย์กันทั้งนั้นแหละ เขาสงสัยกันมากเลยว่าเป็นใคร เราเลยไปตอบว่าเป็นคีย์ ช่วงนี้ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนถามเรื่องคีย์กับเราเยอะแยะเลยอ่ะ” นานะเล่าให้คีย์ฟัง

     

                “ที่แท้คนที่บอกว่าเป็นเราก็คือนานะหรอกหรอ” นานะพยักหน้าตอบคีย์ช้าๆ

     

                “นี่ทำไมถึงไปบอกคนอื่นล่ะว่าเป็นเรา นานะก็รู้ว่าเราชอบอยู่เป็นคนธรรมดาๆ ไม่อยากยุ่งกับใครนะ” คีย์บ่นนานะที่เป็นไปบอกว่าใครต่อใครว่าคนนั้นคือคีย์

     

                “เป็นคนดังมีคนสนใจน่ะดีออก เทศกาลก็ได้ของขวัญ ไปไหนมาไหนก็มีคนยิ้ม คนมองมีแต่คนสนใจ” นานะพูดอย่างอิจฉาคีย์ ถึงแม้ว่ามันจะแค่เริ่มต้น แต่นานะก็รู้ว่าอนาคตคีย์เป็นอย่างนั้นแน่นอน

     

                “เราไม่ชอบนี่นา! ทำไงล่ะ กลับมาเป็นแบบเดิมไม่ได้แล้วด้วย เดินไปไหนก็มีแต่คนมอง แย่มากเลย” คีย์ไม่ชอบให้ใครมามองตัวเองสักเท่าไหร่ รู้สึกเหมือนว่ามันเด่นมากเกินไป

     

                “เดี๋ยวก็ชินเองแหละน่าคีย์ ไม่ต้องกังวลหรอก เออนี่ ขอเบอร์หน่อยสิคีย์ ฉันยังไม่มีเบอร์คีย์เลยอ่ะ” นานะขอเบอร์คีย์หลังจากนึกได้ว่ายังไม่มีเบอร์ คีย์ก็เลยให้ไปแบบไม่คิดอะไร

     

                แต่พอพูดถึงเบอร์โทรศัพท์ นานะก็คงจะมีเพื่อนผู้หญิงสวยๆเยอะสินะ

     

                “เอ่อ.. นานะ มีเบอร์ผู้หญิงสวยๆ น่ารักๆหรือเปล่าหรอ” คีย์รวบรวมความกล้าถามนานะที่นั่งกดมือถืออยู่

     

                “สนใจใครหรอ บอกเราได้นะ เรามีเยอะมากกก ผู้ชายหล่อๆ หลากหลายสไตล์ฉันก็มีนะ ผู้หญิงสวยๆ น่ารักๆ เพอร์เฟคอะไรงี้ฉันมีหมดแหละ” คีย์คิดถูกจริงๆที่ถามนานะ

     

                “เราขอสักสิบเบอร์ได้ไหม”

     

                “เอาไปร้อยเบอร์เลยคีย์ เดี๋ยวฉันส่งไปให้ทางเมลละกันนะ มันเยอะจัดอ่ะ ต้องทำการบ้านต่อด้วย” คีย์เห็นว่านานะยังทำการบ้านไม่เสร็จก็เลยไม่กวนต่อ แล้วกลับไปนั่งคุยกับมินโฮที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง

     

     

                เพื่อนของนานะแต่ละคนคงจะมีที่ถูกใจบ้างสักคนแหละนะ...

               

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

               

                “คีย์ รู้สึกว่ามีคนกำลังมองเราอยู่หรือเปล่า” มินโฮถามคีย์ระหว่างนั่งกินข้าว คีย์ก็มองไปรอบ ความจริงแล้วมันก็ใช่ของมินโฮ แต่คีย์ทำเป็นเหมือนว่าไม่มีอะไร

     

                “ทำไมหรอ เราสองคนน่ะ”

     

                “ฉันรู้สึกว่า.. รู้สึกเหมือนถูกคนมองอยู่” มินโฮยังรู้สึกแม้กระทั่งตอนที่พูด

     

                “คิดมากไปแล้วล่ะมินโฮ ทำไมเขาจะต้องมองเราสองคนด้วยล่ะ” คีย์พูดจบก็นั่งกินข้าวต่อ แต่มินโฮก็ยังไม่เลิกรู้สึกว่ามีคนมองตัวเองอยู่

     

                ครืด... ครืด..

     

                โทรศัพท์ของคีย์สั่นเพราะข้อความเข้า คีย์จึงหยุดทานข้าวแล้วหยิบขึ้นมาดู

     

                (สวัสดีครับคีย์ ผมโจจินโฮ ม.5 ห้อง D ทานข้าวเที่ยงหรือยังครับ?)

     

                คีย์นั่งจ้องข้อความในมือถืออยู่สักพักเพราะความสงสัยว่าส่งมาได้ยังไง แต่ก็ไม่สนใจแล้วเก็บโทรศัพท์ทานข้าวต่อ

     

                ครืด... ครืด..

     

                เมื่อโทรศัพท์สั่นอีกครั้ง คีย์ก็หยุดทานข้าวแล้วหยิบมือถือขึ้นมาดูข้อความที่ส่งเข้ามา

     

                (ในที่สุดก็มีเบอร์ของคีย์แล้ว! ชื่อลีมินฮยอน ม.5 ครับ ผมก็เป็นหลีดสีน้ำเงินนะ! ตอนนี้ผมก็กินข้าวอยู่ที่โรงอาหารหน้าร้านน้ำ หันมายิ้มให้ผมหน่อยสิ :D)

     

                คีย์อ่านข้อความจบก็เกาหัวแล้วมองไปรอบๆ แล้วลองมองไปที่ร้านน้ำดูก็เห็นมีผู้ชายกลุ่มหนึ่งโบกมือให้คีย์ คีย์ก็ยิ้มแห้งๆพร้อมกับก้มศีรษะให้

     

                “คีย์คุยกับใครอยู่หรอ” มินโฮที่เห็นท่าทางแปลกๆของคีย์ก็เกิดสงสัยขึ้นมา คีย์ก็รีบส่ายหัวแล้วเก็บโทรศัพท์แล้วกำลังจะตักข้าวเข้าปากต่อ

     

                ครืด.. ครืด..

     

                คีย์ถอนหายใจออกมาเพราะข้อความเข้ามาเป็นรอบที่สาม คีย์เพิ่งจะเก็บโทรศัพท์ไปไม่ทันไรก็ต้องหยิบมันออกมาอีกครั้ง

     

                (กินข้าวเที่ยงอร่อยไหมคะ คีย์)

     

                คีย์กดปุ่มในโทรศัพท์อยู่หลายทีเพื่อตอบข้อความที่ส่งมา แล้ววางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะเพื่อตัดปัญหาที่ต้องหยิบ ต้องเก็บโทรศัพท์ไปมา ไม่ว่าโทรศัพท์จะสั่นกี่ครั้งคีย์ก็ไม่สนใจแล้วนั่งกินข้าวต่อ มินโฮเห็นโทรศัพท์สั่นอยู่เรื่อยๆ ก็แปลกใจ

     

                “ทำไมไม่รับโทรศัพท์ล่ะคีย์ สั่นหลายรอบแล้วนะ” มินโฮถามคีย์ที่ไม่สนใจโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า

     

                “มันเป็นข้อความเข้าน่ะ ไม่รู้ใครส่งมาให้เยอะแยะ”

     

                “โรคจิตหรอ แจ้งตำรวจไหม”

     

                “ไม่ใช่หรอก อย่าไปสนใจเลย เขาไม่มีพิษมีภัยอะไรหรอก กินข้าวต่อเถอะ” คีย์บอกให้มินโฮไม่ต้องห่วงเพราะรู้ว่าที่ส่งมาก็บอกชื่อตัวเองกันทุกคน ยังไงคีย์ก็รู้อยู่แล้วว่าใคร

     

                อย่างน้อยคีย์ก็ดีใจที่มินโฮยังไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นยังไง คีย์จะได้สบายใจที่มีคนๆนึงยังทำตัวปกติกับคีย์

                แถมไม่รู้ด้วยว่าคีย์ไปเป็นหลีดวันนั้นจริงๆ

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

               

                “บัดดี้กูให้เบอร์สาวๆตั้งร้อยกว่าเบอร์อ่ะ แหล่มมาก!” จงฮยอนพูดอย่างดีใจ หลังจากที่เมื่อวานได้เบอร์ของผู้หญิงที่มีทั้งสวย น่ารัก หุ่นดี เซ็กซี่ บลาๆๆ จากบัดดี้ของตัวเอง

     

                “โทษที พอดีกูไม่อิจฉามึง” มินโฮบอกกับจงฮยอนที่มาอวดกับตัวเอง

     

                “ใช่ดิ มึงสนใจอยู่คนเดียวนี่” จงฮยอนพูดเชิงประชดมินโฮกลับ มินโฮถลึงตาใส่จงฮยอนแทบจะหลุดออกมาจากเบ้าตาก็ว่าได้

     

                “ใครวะ ที่ไอ้โฮสนใจ?” จินกิฟังก็อดสงสัยไม่ได้ จงฮยอนก็ทำยักคิ้วหลิ่วตาว่าจะบอกหรือไม่บอกดี

     

                “พี่วิคตอเรียมั้ง หรือพี่แอมเบอร์แฟนพี่วิคตอเรียก็ไม่รู้” จงฮยอนพูดมั่วๆไป เพราะจำได้แค่ว่าคนที่มินโฮชมว่าสวยก็มีอยู่ไม่กี่คน หนึ่งในนั้นก็อย่างเช่นวิคตอเรียที่เป็นคนสนิทของแม่จินกิ แล้วก็ที่ชอบนั่งคุยกันบ่อยๆก็แฟนของวิคตอเรียชื่อแอมเบอร์

     

                “ใฝ่สูงมากอ่ะพี่มินโฮ” แทมินอดจะว่ามินโฮไม่ได้ ที่ไปชอบวิคตอเรีย พี่สาวคนสวย

     

                “มันก็เหมาะกับความสูงของพี่ป่ะล่ะ” มินโฮก็เถียงแทมินกลับ

     

                “มึงชอบพี่วิคตอเรียหรอ ไอ้โฮ” จินกิถามอย่างซื่อๆเพราะไปเชื่อคำพูดจงฮยอน

     

                “ไม่อ่ะ สวยก็จริงแต่ว่ากูชอบแค่แบบ..เป็นไอดอลกูมากกว่า ส่วนไอ้พี่แอมเบอร์นั่นอย่าพูดเลย” มินโฮว่าวิคตอเรียสวยก็จริง แต่มินโฮก็คิดว่าตัวเป็นเหมือนกับพวกแฟนคลับอะไรอย่างนั้นมากกว่า

     

                “แล้วนี่ได้ของขวัญจากบัดดี้กันทุกคนยังอ่ะ” แทมินถามพี่ๆทั้งสี่คน

     

                “ได้แล้ว แหล่มมากกก” จงฮยอนยังคงพูดว่าเบอร์สาวๆที่ได้มานั้นสุดยอดอยู่ดี

     

                “ได้แล้วล่ะ แทมิน” คีย์ก็ตอบแทมิน ของขวัญที่คีย์ได้มาก็ได้มาพร้อมกับของขวัญปริศนาอีกสามกล่องที่ได้มาเมื่อสองวันก่อนนั่นแหละ

     

                “ได้แล้ว ของแพงมากกกกด้วย ใครซื้อให้นะรักตายเลย อยากได้อยู่พอดี” มินโฮพูดให้ทุกคนได้ฟัง เพราะไม่รู้ว่าใครกันที่ให้ตัวเอง พูดไว้ตรงนี้เลยละกัน

     

                มีคนนึงที่ฟังแล้วแอบยิ้มแล้วก็หัวเราะออกมาในใจ

     

                “เออใช่ คีย์ได้เข้าเว็บบอร์ดโรงเรียนหรือยัง” อยู่ๆจินกิก็นึกอะไรขึ้นมาได้เลยไปพูดกับคีย์ คีย์ก็ส่ายหัวช้าๆ

     

                “ทำไมอ่ะมึง” มินโฮถามจินกิ

     

                “อยากรู้มึงก็ไปเข้าดิวันนี้อ่ะ เข้าไปแล้วมึงจะรู้เอง” จินกิไม่ยอมบอกกับมินโฮว่ามีอะไร อยากแกล้งให้มินโฮรู้

     

                “ตอนนี้คีย์น่ะดังใหญ่แล้วน้า~” จงฮยอนรู้เรื่องที่จินกิพูดก็แซวคีย์ คีย์ยังคงทำเป็นไม่รู้เรื่องต่อไป

     

                “สรุปแล้วคีย์น่ะใช่หลีดคนนั้นจริงๆด้วย ฉันไม่เชื่อเลยนะว่าเป็นคีย์จริงๆน่ะ”

     

                “พี่คีย์เป็นเหมือนเดือนโรงเรียนไปแล้วอ่ะ พี่คีย์อ่า ไปเป็นหลีดไม่บอกผมมั่งเลย ผมจะได้ตั้งใจดูกว่านี้ จะได้ถ่ายรูปด้วย” แทมินก็รู้เรื่องของคีย์เช่นกัน

     

                “เล่าให้เคลียร์หน่อยดิ๊ อะไรวะ” มินโฮเป็นคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องที่ทั้งสามคนพูด

     

                “คีย์.. คีย์รู้ถึงความผิดปกติของตัวเองในสองสามวันนี้หรือเปล่า” จงฮยอนถามคีย์ว่ารู้เรื่องหรือยัง คีย์ก็นิ่งแล้วพยักหน้าตอบช้าๆ

     

                “ก็.. รู้แล้วล่ะ จงฮยอน” คีย์ก้มหน้าก้มตาตอบจงฮยอน อุตส่าห์เก็บความลับมาได้ แต่ตอนนี้กลับรู้เรื่องกันหมดแล้วได้ยังไงกัน

     

                “งั้นคีย์ก็บอกความจริงกับไอ้โฮเองนะ มันคงอยากให้คีย์เล่าให้มันฟังเองมากกว่า” จงฮยอนพูดอย่างนั้นคีย์ก็เลยตัดสินใจจะเล่าเรื่องวันกีฬาสีให้มินโฮฟัง

     

                “คือ.. ความจริงแล้ว.. ตอนวันกีฬาสีน่ะ มินฮยอกไม่มา.. นานะเลยขอให้เราไปเป็นหลีดแทนมินฮยอก.. หลีดสีน้ำเงิน.. เอ่อ.. ก็.. หลีดคนสุดท้าย.. ดอกกุหลาบนั่นน่ะ” คีย์เล่าติดๆขัดๆเพราะความอาย มินโฮได้ฟังก็นั่งคิดแปปนึงก่อนจะอ้าปากออกมาเพราะเข้าใจกับสิ่งที่คีย์พูดแล้ว

     

                “หมายความว่าคนนั้นที่สงสัยว่าไม่ใช่มินฮยอก แต่คนนั้นคือคีย์ใช่ไหม” คีย์พยักหน้าตอบมินโฮ

     

                “เออ แล้วหลังจากกีฬาสีจบเว้ย ในบอร์ดก็สงสัยกันว่าคนนั้นเป็นใคร จนมีคนมาตอบว่าเป็นคีย์ แล้วคีย์แม่งก็ดังเลยอ่ะ ในบอร์ดใครก็พูดถึงแต่คีย์ พยายามหาเบอร์คีย์กันอีกด้วย ในห้องกูนะแม่งมาตื๊อขอเบอร์คีย์กันใหญ่เลยว่ะ” จงฮยอนเล่าต่อให้มินโฮฟังถึงความป๊อปของคีย์ในตอนนี้

     

                “จงฮยอน.. ให้เบอร์เขาไปหรือเปล่า” คีย์ถามจงฮยอนเพราะอยากรู้ว่าคนที่ส่งข้อความมาให้คีย์บ่อยๆนี่ได้เบอร์มาจากจงฮยอนหรือเปล่า

     

                “ไม่หรอก ฉันจะให้ทำไมล่ะ ให้ฉันก็มีคู่แข่งเยอะน่ะสิ ฮี่ฮี่”

     

                “พี่คีย์อย่าเปลี่ยนไปนะ พี่คีย์ต้องเป็นพี่คีย์คนเดิมนะ” แทมินกลัวว่าถ้ามีคนรู้จักคีย์เยอะๆ คีย์จะเปลี่ยนไป แทมินไม่อยากให้คีย์เปลี่ยนไป แทมินที่ชอบคีย์เป็นอยู่ในตอนนี้

     

                “พี่ไม่ใช่ดารานะแทมิน ไม่ถึงกับขนาดนั้นหรอก”

     

                “ไม่ใช่ก็เหมือนใช่เลยล่ะคีย์ตอนนี้น่ะ” จินกิคิดว่ามันเป็นอย่างนั้น ซึ่งจงฮยอนกับแทมินก็เห็นด้วยกับที่จินกิพูด

     

     

                ตอนนี้คีย์จะรู้สึกยังไงดีเนี่ย...

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

                ปกติแล้วหนึ่งวันคีย์ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่านหนังสือและการนั่งคุยกับมินโฮ จินกิ และจงฮยอน แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาคีย์ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนั่งกดโทรศัพท์และการคุยโทรศัพท์ไปซะส่วนใหญ่

     

                ตอนเช้าจะมีข้อความเข้ามาอรุณสวัสดิ์ตอนเช้า คีย์ต้องนั่งกดข้อความตอบ

                จะมีข้อความมาถามว่าถึงโรงเรียนหรือยัง ให้ไปรับดีหรือเปล่า คีย์ก็ต้องนั่งกดข้อความตอบ

                จะมีข้อความมาถามว่ากินข้าวเช้าหรือยัง คีย์ก็ต้องนั่งกดข้อความตอบ

                จะมีข้อความมาถามว่ากินข้าวเที่ยงหรือยัง ไปกินข้าวด้วยกันไหม คีย์ก็ต้องนั่งกดข้อความตอบ

                จะมีข้อความมาถามว่ากลับถึงบ้านหรือยัง คีย์ก็ต้องนั่งกดข้อความตอบ

                จะมีข้อความมาถามว่ากินข้าวเย็นหรือยัง คีย์ก็ต้องนั่งกดข้อความตอบ

                จะมีข้อความมาราตรีสวัสดิ์ คีย์ก็ต้องนั่งกดข้อความตอบ..

     

                หรือว่าถ้าโทรมาแล้ว คีย์ก็ต้องรับ ถ้าชวนคุยก็ต้องคุยด้วย..

     

                เพราะคีย์กลัวว่ามันจะเสียมารยาท

     

                “คีย์ช่วยคุยกับฉันมั่งสิ ฉันก็เบื่อนะ” มินโฮอดจะบ่นกับคีย์ที่นั่งกดโทรศัพท์ตอบข้อความคนที่ส่งมาอยู่ไม่ได้ มินโฮรอจะคุยกับคีย์อยู่ตั้งนานแล้ว แต่คีย์ก็ยังทำธุระตัวเองไม่เสร็จสักที

     

                “ขอโทษนะมินโฮ ข้อความสุดท้ายแล้วล่ะ” มินโฮเอาตัวไถลไปกับโต๊ะเพราะนั่งรอคีย์จนเบื่อ และแล้วคีย์ก็เก็บโทรศัพท์ลงแล้วยิ้มให้มินโฮ

     

                “เสร็จแล้วมินโฮ อยากคุยอะไรกับเราหรอ คุยมาสิ” คีย์ชวนมินโฮคุยหลังจากที่ให้รออยู่นาน

     

                “คีย์ไม่ต้องตอบข้อความหมดหรอกนะ ไม่ต้องรับโทรศัพท์ทุกคนก็ได้ เขาจะส่งมา จะโทรมาก็ปล่อยเขาเถอะ ไม่งั้นเขาจะยิ่งได้ใจส่งมา คีย์ก็ต้องนั่งตอบไม่มีวันหมดหรอก” มินโฮแนะนำคีย์ เพราะรู้สึกเบื่อแทนคีย์ที่ต้องมานั่งทำอะไรอย่างนี้ทั้งวัน

     

                “มัน.. จะไม่เสียมารยาทหรอ มินโฮ”

     

                “ไม่งั้นคีย์ก็เปลี่ยนเบอร์เถอะ ฉันแนะนำ ฉันรู้ว่าคีย์ก็ไม่ชอบทำอย่างนี้หรอกใช่ไหมล่ะ” คีย์ฟังแล้วก็พยักหน้าตอบมินโฮ สิ่งที่มินโฮพูดมันก็จริงว่าคีย์เบื่อที่จะต้องมานั่งทำอย่างนี้มาก

     

                “พรุ่งนี้มินโฮจะไปเที่ยวไหนหรอ” คีย์ลืมถามมินโฮว่าจะไปไหนในวันปีใหม่ เพราะพรุ่งนี้ก็วันปีใหม่แล้ว

     

                “ฉันยังไม่ได้บอกคีย์หรอกหรอ ว่าพรุ่งนี้เราจะไปเคาท์ดาวน์กันที่แม่น้ำฮันน่ะ” มินโฮถามคีย์ด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างตกใจว่าคีย์ยังไม่รู้เรื่อง คีย์ส่ายหน้าให้มินโฮ

     

                “พรุ่งนี้ตรงแถวๆแม่น้ำฮันมีจัดงานเคาท์ดาวน์ปีใหม่ ฉัน แทมิน ไอ้หู้ แล้วก็ไอ้จงจะไปกัน คีย์ก็ต้องไปด้วยนะ เพราะฉันรู้ว่าพรุ่งนี้คีย์ว่าง แล้วพรุ่งนี้เราก็จะเฉลยบัดดี้กันด้วย ไม่ลืมใช่ไหม” พรุ่งนี้จะเฉลยบัดดี้กัน มินโฮเลยอยากให้คีย์ไปให้ได้

     

                “อื้ม” คีย์ตอบรับมินโฮสั้นๆ

     

                “เออใช่ แล้วก็ต้องซื้อของขวัญให้บัดดี้ก่อนจากลา แล้วก็มีของขวัญตอบแทนบัดดี้ที่ให้ของขวัญเราด้วยนะ ไอ้หู้มันบอกมา อะไรก็ไม่รู้ ฉันไม่มีเงินเลยยย!!” มินโฮอดบ่นกับการเล่นบัดดี้ของจินกิไม่ได้ เพราะให้ของขวัญเยอะแยะจริงๆ ช่วงนี้มินโฮยิ่งไม่ค่อยมีเงินอยู่ด้วย

     

                “มินโฮรู้หรือยังว่าใครเป็นบัดดี้” คีย์ลองถามมินโฮเล่นๆว่ารู้หรือยังว่าใครเป็นบัดดี้ตัวเอง

     

                “ไม่รู้หรอก ให้ของฉันมาชิ้นเดียวทำฉันจนปัญญาคิดเลย ไม่คิดว่าจะให้ของแพงมากกกกกับฉันน่ะ ไอ้หู้มันก็ไม่น่าซื้อได้ ไอ้จงก็ขี้งก ส่วนแทมิน.. ก็ไม่น่าซื้อของอย่างนี้ให้ฉันที่ดูไม่มีค่า คีย์.. ฉันไม่อยากเดาว่าเป็นคีย์หรอกนะ เพราะดูท่าทางแล้วคีย์คงไม่ใช่บัดดี้ของฉันละมั้ง” มินโฮก็คิดไปเรื่อยเปื่อย

     

                “ไม่แน่หรอกนะ คนที่คิดไม่ถึงอาจจะเป็นคนให้ก็ได้.. งั้นเราไปก่อนนะ ไว้มีอะไรยังไงตอนเย็นค่อยโทรมาบอกเรานะ” คีย์รีบกลับบ้านก่อนเพราะกลัวว่าจะต้องเจอใครมาทักอีก คีย์ขี้เกียจคุยด้วย

     

                เพราะวันนี้คีย์ก็คุยตอบปฏิเสธคนที่มาชวนคีย์ไปเที่ยวปีใหม่ไปเกือบยี่สิบคนแล้ว

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

     

                “แทมิน เดี๋ยวเค้ามานะ ไปหาซื้อของกินก่อน” เพื่อนแทมินที่มาด้วยกันขอแยกตัวไปหาอะไรกินเพราะความหิว

     

                วันนี้แทมินมาห้างกับเพื่อนเพราะจะซื้อของวันปีใหม่ในวันพรุ่งนี้ ระหว่างรอแทมินก็เลยไปเดินเล่นที่ร้าน Ustudio เพราะคิดว่าจะหาของขวัญปีใหม่ให้กับตัวเอง ถึงแม้จะไม่ได้เอาเงินมาด้วยก็เถอะ

     

                แทมินเดินเข้าไปในร้านก็สนใจของในร้านอยู่หลายอย่าง แต่เพราะมีเงินไม่มากเท่าไหร่เลยได้แค่ดู

     

                “ยินดีด้วยนะคะคุณลูกค้า คุณลูกค้าเป็นคนที่ 1995 ของร้าน Ustudio สาขาเรา คุณลูกค้าได้รับสิทธิพิเศษซื้อไอพอดในราคาลด 70% ค่ะ”

     

                พนักงานที่ยืนเฝ้าหน้าร้านบอกกับแทมิน เพราะเลข 1995 มีความสำคัญกับทางร้าน เมื่อมีลูกค้าคนที่ 1995 จะได้รับสิทธิพิเศษ ซึ่งแทมินก็บังเอิญเป็นผู้โชคดีอย่างไม่น่าเชื่อ

     

                “ลด 70% อะไรก็ได้หรอครับ”แทมินไม่ค่อยเข้าใจกติกาของทางร้านเท่าไหร่ พนักงานเลยอธิบายให้แทมินฟัง

     

                “สนใจไหมคะ” แทมินตกลงใช้สิทธิ์ลด 70% ซื้อไอพอดทันที โอกาสอย่างนี้ไม่ได้มาบ่อยๆซะด้วย พอแทมินซื้อเสร็จก็โทรหาเพื่อนที่แยกกันแล้วเดินดูของกันต่อ..

     

                ความจริงแทมินก็มีอยู่แล้วเครื่องนึง ไม่รู้ว่าอีกเครื่องจะเอาไปทำอะไร..

                หรือว่ามันจะมีประโยชน์ในวันพรุ่งนี้?

     

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

               

     

                “น้องโฮ!!!

     

                “อย่าเรียกงี้ดิ ไอ้พี่บ้า” มินโฮว่าพี่ชายตัวเองที่เรียกตัวเองซะน่ารัก รู้ก็รู้ว่าไม่ชอบ.. แถมก็ไม่ได้เรียกบ่อยๆซะด้วย

     

                “ไอ้เด็กอ๊อด! ว่าใครบ้า อุตส่าห์จะให้ของขวัญพูดงี้แม่งไม่ให้ดีกว่า” จงฮุนทำท่าจะเดินกลับหลังให้มินโฮ ความจริงแล้วตั้งใจจะเอาของขวัญปีใหม่มาให้

     

                “ตามใจ ไม่ง้อ ผมไม่ใช่สาวๆที่ไหนของพี่นี่ถึงต้องสนใจ” จงฮุนก็นึกว่ามินโฮจะสนใจของที่จะให้ซะอีก แต่เปล่าเลย มินโฮไม่สนใจว่าจงฮุนจะให้หรือเปล่า ไม่ให้ก็ไม่ให้ มินโฮไม่ได้อยากได้อะไรจากจงฮุนอยู่แล้ว

     

                “เออๆ ให้ก็ได้วะ ไอ้เด็กไร้ความรู้สึก พี่ชายแม่งก็ไม่สนใจเลย แกเป็นน้องฉัน ฉันพี่แกนะเว้ย”

     

                “สนใจด้วยไง๊? นึกว่ามีแต่ความหื่นอยู่อย่างเดียวซะอีก”

     

                “แม่งกูไม่น่าซื้อของแพงมาให้เลยว่ะ ปากเงี้ยอ่ะ” ถึงจงฮุนจะบ่นก็เถอะ แต่ยังไงตัวเองก็อุตส่าห์ซื้อมาให้มินโฮโดยเฉพาะแล้ว เลยวางถุงของขวัญให้มินโฮ

     

                “เอาไป เห็นบอกอยากได้ เลยซื้อมาให้” มินโฮเปิดถุงดูก็พบว่าเป็นไอพอดที่ตัวเองบ่นว่าอยากได้

     

                “มีปัญญาซื้อด้วย? ขโมยเงินพ่อไปซื้อป่าวเนี่ย” มินโฮไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ชายตัวเองจะเป็นคนซื้อมันมาด้วยตัวเอง

     

                “ดูถูกฉันมากไอ้อ๊อด ถ้าไปขโมยเงินพ่อป่านนี้ฉันไม่กลับมาบ้านหรอก อุตส่าห์รู้ว่าแกอยากได้เลยซื้อมาให้ ควรจะขอบใจที่ฉันสนใจแกสิโว้ย”

     

                “ขอบคุณที่สนใจว่าผมอยากได้อะไร แต่กรุณาสนใจให้มากกว่านี้หน่อย.. จะบ้าไง๊! แม่เพิ่งจะซื้อให้ผมเมื่อวันก่อนนี่เองไม่รู้ไง แล้วพี่ก็มาซื้อให้ผมซ้ำกับแม่เนี่ยนะ” มินโฮบ่นจงฮุนที่บอกว่าสนใจตัวเอง แต่ไหงกลับไม่รู้ว่าตัวเองได้ไอพอดจากแม่ หลังจากขอตื๊อมานาน

     

                “จริงดิ ทำไมฉันไม่รู้เลยวะ แล้วทำไมแม่ไม่ซื้อให้ฉันบ้างวะ” จงฮุนพูดพร้อมกับกระพริบตาปริบๆ

     

                “แม่ไม่รักพี่ไง! ชัด!

     

                “เออๆ ถ้าแกมีแล้วก็เอาคืนมา เอาไปให้พี่น้องบ้านลีก็ได้วะ” จงฮุนพูดอย่างเซ็งๆแล้วหยิบถุงที่วางอยู่บนโต๊ะมาจะเอาไปเก็บ มินโฮรู้ว่าจงฮุนจะเอาไปให้คนบ้านข้างๆเลยสงสัย

     

                “จะเอาไปให้ใครอ่ะ คนโต คนกลาง หรือว่าคนเล็ก” มินโฮอยากรู้ว่าจงฮุนจะเอาให้ดงเฮ จินกิ หรือว่าแทมิน

     

                “คนโตก็น่ารักได้ใจ คนเล็กก็ปากไวใจกล้าใช่เล่น ส่วนคนกลางก็.. สเปคฉันเหมือนกันนะ ว่าแต่แกจะรู้ไปทำไม กลัวว่าฉันจะไปให้ซัมติงเด็กหู้เพื่อนแกหรือไง” จงฮุนยังไม่เลิกคิดว่ามินโฮจะแอบคิดอะไรกับจินกิ

     

                “สเปคพี่แม่งไม่ได้เรื่องอ่ะ ชอบไอ้หู้”

     

                “มั่วนิ่ม! ฉันก็พูดไปงั้นแหละ สเปคอันดับหนึ่งฉันต้องดงเฮกับแทมินเว้ย! ส่วนเด็กหู้เพื่อนแก.. สเปคอันดับสอง” มินโฮตาโตกับคำพูดของจงฮุน

     

                บอกว่าแทมินเป็นสเปคอันดับหนึ่ง!

     

                “คิดไปคิดมาก็เก็บไว้ดีกว่า เอาไปขายต่อก็ยังได้เงินเอาไปทำอย่างอื่น” มินโฮตัดสินใจเอาไอพอดที่จงฮุนให้ไว้ เพราะกลัวว่าจงฮุนจะเอาไปจีบแทมิน แล้วถ้าแทมินเกิดชอบจงฮุนขึ้นมามินโฮจะทำยังไงล่ะ!

     

                คนที่จะให้มันกับแทมินต้องไม่ใช่ชเวจงฮุน แต่ต้องเป็นชเวมินโฮต่างหาก

     

     

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

     

     

                “ไหนบอกว่ามีจัดงานไง พี่จงฮยอน”

     

                หลังจากที่ทั้งห้าคนมาที่ริมแม่น้ำฮัน เพื่อจะมาร่วมงานในวันปีใหม่ที่ทางสวนสาธารณะมีประกาศว่าจะมีงาน แต่กลับกลายเป็นว่าแทบจะไม่มีคนเลยก็ว่าได้ ไม่เห็นจะมีอะไรที่บอกว่าจัดงานด้วยซ้ำ

     

                “มันต้องมีดิ ก็ดูประกาศเมื่อวันก่อนอ่ะ” เพื่อความแน่นอน จงฮยอนเลยหยิบโทรศัพท์เข้าเน็ตดูว่ามีจัดงานจริงๆ มินโฮเดินไปรอบๆเผื่อว่าจะเจออะไรบ้าง

     

                “ไอ้จง มึงอ่านประกาศนี้ใช่ไหม” มินโฮตะโกนเรียกจงฮยอนหลังจากเจอป้ายประกาศบางอย่าง จงฮยอน จินกิ คีย์และแทมินเดินไปตามเสียงเรียกของมินโฮ

     

                “เออใช่ อันนี้แหละ”

     

                “มึงอ่านดีๆดิ๊ไอ้จง” มินโฮให้จงฮยอนอ่านประกาศในป้ายอีกรอบ

     

                “วันที่ 31 ธันวาคมนี้ ขอประกาศยกเลิกงานปีใหม่ เนื่องจากปีที่แล้วเกิดปัญหา.. อ้าว ประกาศยกเลิก” จงฮยอนอ่านไปถึงสาเหตุที่ยกเลิกจัดงานก็อึ้งว่าอ่านประกาศผิด นึกว่าเป็นประกาศจัดงาน แต่ความจริงแล้วคือประกาศยกเลิกงาน จงฮยอนเลยโดนรุมจากจินกิและมินโฮ

     

                “ไปทงแดมุนกันไหม” คีย์ถามทั้งสี่คน

     

                “มันไกลมากเลยนะคีย์” จินกิพูดกับคีย์ว่าจากที่นี่ไปถึงนั่นมันไกลเกินไป

     

                “แล้วถนน xxx ล่ะ” คีย์ลองเสนออีก

     

                “ที่นั่นคนเยอะเดินไม่ได้เลย ฉันเคยไปอยู่ปีนึง” จงฮยอนแสดงความเห็นกับสถานที่ที่คีย์บอก

     

                “แถวๆห้างดงยงซอล่ะ” คีย์ก็ลองเสนอตัวเลือกให้ทั้งสี่คนอีก

     

                “หนักกว่าที่ถนน xxx อีกคีย์” มินโฮบอกกับคีย์

     

                “หรือว่าเราจะไปงานคอนเสิร์ตปีใหม่ที่สวนสาธารณะยุนจงกันดี” คีย์เสนออีกสถานที่หนึ่งที่น่าจะใช้ได้

     

                “มันอยู่ที่ไหนหรอคีย์” จินกิ จงฮยอนและมินโฮรวมใจกันถามคำถามเดียวกันกับคีย์ คีย์ก็ส่ายหัวตอบเพราะตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

     

                “แล้วทำไมถึงถามล่ะฮะพี่คีย์” แทมินสงสัยว่าแล้วคีย์ไปรู้ได้ยังไงว่าที่นั่นมีจัดงาน

     

                “ก็.. ความจริงแล้วมีคนมาชวนไปเที่ยวน่ะวันนี้ แต่ว่าพี่ปฏิเสธไปน่ะ”

     

                 คีย์หันไปพูดกับแทมิน ความจริงสถานที่ที่คีย์เสนอกับทั้งสี่คนไปเมื่อกี๊ เป็นส่วนหนึ่งที่มีคนมาชวนคีย์ไปเที่ยวในวันนี้ แต่คีย์เลือกที่จะมากับทั้งสี่คนเลยปฏิเสธทุกคนไป

     

                “มีคนมาชวนคีย์ไปกี่คน ไปกี่ที่บ้างเนี่ย” จงฮยอนถามอย่างสงสัย คีย์หยิบมือถือมาไล่ข้อความดู

     

                “สามสิบได้ละมั้งจงฮยอน” คีย์ตอบจงฮยอนไปตามตรง สี่คนที่ได้ฟังก็ถึงกับอึ้งว่ามีคนมาชวนคีย์ไปเที่ยวมากมายขนาดนี้ ในขณะที่ตัวเองแทบจะไม่มีใครมาชวนไปไหนเลยด้วยซ้ำ

     

                “แต่คีย์ปฏิเสธทุกคนเพราะว่าจะได้มากับฉันใช่ไหมล่ะ” จงฮยอนเข้าข้างตัวเองว่าที่คีย์เลือกจะมากับจินกิ มินโฮ แทมินและตัวเอง ก็เพราะว่ามีตัวเองมา

     

                “เพราะว่ามินโฮชวนมาน่ะ” คีย์ตอบไปตามความจริง อีกสามคนที่ฟังอยู่ก็ถึงกับหัวเราะออกมาเมื่อคำตอบที่คีย์บอกตรงมาก

     

                “เอาไงต่อกันดีวะ” จงฮยอนเปลี่ยนเรื่องพูดเมื่อตัวเองหน้าแตก

     

                “นั่งปิกนิกกันที่นี่ป่ะล่ะ ซื้อของมานั่งกิน แล้วก็เฉลยบัดดี้ เล่นไฟอะไรกันเงี้ย” จินกิเสนอ ในเมื่อไม่รู้จะไปไหนแล้ว อีกอย่างตรงนี้บรรยากาศก็ดีด้วย

     

                “เอางั้นละกัน” พอได้ข้อสรุปกันแล้วทุกคนก็เดินไปซื้อของที่ซูเปอร์มาเก็ตใกล้ๆกัน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                “เฉลยบัดดี้กันเหอะ!” จงฮยอนอดใจไม่ไหวแล้ว อยากรู้ว่าบัดดี้ตัวเองจะเป็นใคร

     

                “ใครจะเฉลยก่อนดีอ่ะ” มินโฮถาม ทุกคนก็เลยใช้วิธีโอนอยออกว่าใครจะได้เฉลยก่อน ผลออกมาก็เป็นมินโฮ ใช้วิธีว่ามินโฮเป็นบัดดี้คู่ใคร พอเฉลยแล้วก็ให้คนนั้นเฉลยบัดดี้ตัวเองต่อไปเรื่อยๆ

     

                “ไอ้โฮมึงเฉลยเลยว่าจับได้ใคร” จินกิบอกมินโฮ

     

                “ให้เลยใช่ไหม” มินโฮถามเพื่อความแน่ใจ

     

                “มายืนเรียงกันดีกว่า แล้วก็ให้ของขวัญ” จงฮยอนเสนอว่าให้ทำเหมือนรายการจับคู่ที่ให้ยืนแล้วเลือกเดินเอาของไปให้ ทุกคนเลยไปยืนเรียงกันแล้วรอให้มินโฮให้ของขวัญ

     

                “เอาเลยมึง” จินกินบอกให้มินโฮเริ่ม มินโฮตัดสินใจอยู่สักพักนึงก็เดินเข้าไปหาจินกิ

     

                “เอานี่ของขวัญวันปีใหม่ของมึง กูให้” มินโฮหยิบซองสีเหลืองออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วให้จินกิ

     

                “บัดดี้กูคือมึงหรอ..” จินกิพูดออกจะผิดหวังอยู่หน่อยๆ แล้วเปิดซองออกมา ก็พบว่าเป็นกิฟท์วอยเชอร์บัตรร้านไก่ทอด 30,000 วอน ซึ่งก็ถูกใจจินกิมาก

     

                “ถูกใจกูมากอ่ะ ขอบใจมาก” จินกิไม่ผิดหวังกับของขวัญที่ได้ แล้วรีบเก็บซองเข้ากระเป๋าเพราะกลัวว่าจะหาย

     

                “เฉลยต่อเลยพี่จินกิ” แทมินบอกให้จินกิรีบๆเฉลยต่อ จินกิเลยไปหยิบของขวัญในถุง แล้วเดินไปหยุดตรงหน้าคีย์

     

                “สุขสันต์วันปีใหม่นะคีย์” จินกิยื่นกล่องชุดของขวัญปีใหม่ให้คีย์ คีย์ก็รับมาจากจินกิ

     

                “ขอบใจนะจินกิ มันคงแพงน่าดูเลย” คีย์ดูจากกล่องก็พอจะรู้ว่ามันค่อนข้างแพง

     

                “ไม่เท่าไหร่หรอกคีย์ อยากให้ของดีๆน่ะ” จินกิพูดจบก็ยิ้มให้คีย์ คีย์ก็ยิ้มตอบ แล้วเอาของไปวางไว้ข้างๆถุงของขวัญบัดดี้ตัวเอง

     

                “คีย์เฉลยเลยว่าจับได้ใคร” จินกิบอกคีย์ คีย์หยิบของในถุงออกมาซึ่งเป็นเหมือนช่อดอกไม้แต่ถูกเปลี่ยนเป็นดาวกระดาษพับเอาไว้เยอะแยะ ซึ่งสวยมาก

     

                “ให้เลยใช่ไหม” คีย์ถามเพื่อความแน่ใจ

     

                “เอาเลยพี่คีย์” แทมินบอกให้คีย์เริ่ม คีย์ก็ยิ้มแล้วก็เดินตัดสินใจอยู่สักพักนึง แล้วเดินหยุดที่หน้าจงฮยอน

     

                “เอ๋ คีย์เป็นบัดดี้ฉันหรอ” จงฮยอนยิ้มอย่างดีใจ คีย์ก็พยักหน้าตอบ จงฮยอนรีบเอาช่อดาวกระดาษมาจากมือคีย์แล้วกอดคีย์เพื่อขอบคุณ = =’

     

                จงฮยอนไม่เคยพลาดเรื่องสกินชิพจริงๆ

     

                “พี่จงฮยอน มากไปละ” แทมินที่ยืนอยู่ข้างๆบอกจงฮยอน จงฮยอนเลยคลายกอดออก คีย์ก้มหน้าเพราะสิ่งที่จงฮยอนทำแล้วหยิบของอีกชิ้นออกมาจากแจ๊กเก็ตเสื้อกันหนาว เป็นกระปุกอะไรบางอย่างให้จงฮยอน

     

                “อันนี้เป็นของขวัญอีกชิ้นนะ เราคิดว่าดาวกระดาษมันไม่มีประโยชน์ ไอ้นี่น่าจะมีประโยชน์มากกว่า” คีย์พูดกับจงฮยอน จงฮยอนเลยหมุนกระปุกดูว่าเป็นอะไร

     

                “แคลเซียม? คีย์ว่าฉันหรอ!” จงฮยอนตกใจกับสิ่งที่คีย์ให้ เพราะสิ่งที่คีย์ให้อีกอย่างคือแคลเซียมเพิ่มความสูง จงฮยอนไม่คิดว่าคีย์จะตรงได้ขนาดนี้เลย

     

                “กินจะได้กระดูกแข็งแรงนะ ไม่ได้เพิ่มความสูงอย่างเดียวสักหน่อยจงฮยอน” คีย์อธิบายว่าไม่ได้หลอกว่าจงฮยอนว่าไม่สูง แต่ให้กินเพราะสุขภาพจะได้แข็งแรงต่างหาก จงฮยอนก็ยิ้มหน้าบานให้คีย์ เอาเป็นว่าคนให้เป็นคีย์ จงฮยอนก็ชอบแล้ว

     

                “เหลือไอ้โฮกับแทมินใช่ป่ะ” จงฮยอนพูดถามออกมา จงฮยอนเดินไปหยิบถุงที่วางอยู่ตรงเสื่อปิกนิกแล้วเดินไปยื่นให้แทมิน แทมินเปิดถุงออกมาก็เห็นว่าเป็น..

     

                “ให้ตัวเองดื่มไม่ดีกว่าไง๊ พี่จงฮยอน” ข้างในถุงเป็นนมประมาณสี่แพคอยู่ในถุง แทมินถึงกับเซ็งและอดว่าจงฮยอนไม่ได้

     

                “โหๆ นี่อุตส่าห์หวังดีนะเนี่ย ถ้าไม่กินตอนนี้แทมินก็จะเป็นเหมือนพี่เนี่ย!” ความจริงแล้วคือจงฮยอนไม่มีเงินจะซื้อของต่างหาก เลยซื้อนมให้แทน

     

                “อ๋อหรอ” แทมินพูดเชิงประชดจงฮยอน

     

                “แสดงว่าแทมินก็เป็นบัดดี้พี่อ่ะดิ” มินโฮที่ยังไม่ได้ของจากใครก็เลยรู้แล้วว่าตอนนี้แทมินเป็นบัดดี้ของตัวเอง เพราะยังไม่ได้ให้ของกับใคร

     

                “เออ ผมเป็นบัดดี้พี่ เอาไปเลยของขวัญ” แทมินหยิบถุงที่วางอยู่แล้วยื่นให้มินโฮอย่างเซ็งๆ สืบเนื่องมาจากของขวัญที่ได้จากจงฮยอนมาเมื่อกี๊นั่นเอง มินโฮเปิดถุงออกมาก็พบว่าเป็นกล่องไอพอด

     

                “ขอบใจนะแทมิน” มินโฮยิ้มให้แทมิน แต่แทมินไม่ได้สนใจหันไปคุยกับคีย์ต่อ

     

                “ก็มาถึงตอนให้ของขวัญขอบคุณบัดดี้แล้วนะ” ทุกคนกลับมานั่งลงที่เสื่อปิกนิกเพื่อให้ของขวัญขอบคุณบัดดี้กัน จินกิหยิบกล่องไก่กล่องใหญ่ยื่นให้มินโฮ

     

                “ขอบคุณมึงมากไอ้โฮ นี่คือของขวัญตอบแทนจากกู ไก่ทอดของโปรดกูเอง” กล่องไก่ที่เพิ่งซื้อมาร้อนๆเมื่อกี๊ถูกยื่นให้มินโฮ

     

                “แหมมึง ความจริงคือมึงซื้อมาเพื่อจะกินมากกว่าอ่ะดิ” มินโฮรู้ทันว่าที่จินกิให้ก็เพราะตัวเองจะได้กินด้วย

     

                “ขอบคุณนะจินกิ เราไม่รู้จะให้อะไรดี” คีย์ยื่นเหมือนเป็นไหมพรมที่ถูกถักเป็นรูปต้นไม้และดอกไม้ให้กับจินกิ

     

                “ที่ห้อยมือถือหรอคีย์” จินกิไม่รู้ว่ามันคืออะไร

     

                “อืม.. เครื่องรางนำโชคน่ะ เห็นเขาบอกว่ามันดีมากเลยนะ แต่เราก็ยังไม่ได้พิสูจน์หรอก” คีย์ซื้อมาจากร้านที่ไปกับแทมินเมื่อวันคริสมาสต์และเห็นคนซื้อเยอะก็เลยซื้อมาชิ้นนึง

     

                “ได้จากคีย์ต้องโชคดีแน่ๆเลย” จินกิยิ้มให้คีย์แล้วนั่งดูมันต่อ

     

                “อันนี้ของพี่จงฮยอน ผมให้” แทมินหยิบกระปุกอมยิ้มกระปุกใหญ่ให้จงฮยอน

     

                “เฮือก! กินปีนึงก็ยังไม่หมดเลยอ่ะ” จงฮยอนหมุนกระปุกดู ข้างในมีแต่อมยิ้ม อมยิ้ม แล้วก็อมยิ้ม พอดูแล้วก็วางลง

     

                “คีย์จ๋า~~~” ถึงเวลาที่จงฮยอนจะให้ของขวัญขอบคุณคีย์

     

                “หือ จงฮยอน”

               

                “คือว่า... ของที่ฉันจะให้น่ะ.. ขอโทษนะ” จงฮยอนทำหน้าเศร้าๆ แล้วยื่นกระดาษที่เหมือนการ์ดยื่นให้คีย์ คีย์ยิ้มแล้วรับมาจากมือจงฮยอน

     

                “การ์ดอวยพรปีใหม่หรอ ขอบใจนะ” ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่การ์ด แต่ยังไงก็ให้คีย์ คีย์ไม่สนใจอยู่แล้วว่ามันจะต้องซื้อมาแล้วราคาแพง

     

                “คือ.. ไม่ใช่หรอกคีย์..”

     

                “แล้ว.. คังมินฮยอก 0xx-xxxxxxxxx เอ่อ..” คีย์ลองเปิดอ่านดู ปรากฏว่าเป็นเหมือนสมุดโทรศัพท์ที่มีชื่อกับเบอร์โทรศัพท์เรียงกันอยู่เกือบห้าสิบเบอร์ได้..

     

                และมันก็เป็นเบอร์ผู้ชายด้วย

     

                “ฉันขอโทษนะคีย์ ฉันนึกว่าคนที่เป็นบัดดี้ฉันคือไอ้โฮอ่ะ ใครจะไปนึกว่าคีย์จะให้เบอร์สาวๆกับฉันล่ะ ฉันนึกว่าไอ้โฮมันประชดฉันซะอีก ฉันเลยจะประชดมันตอบอ่ะ ขอโทษนะ ไม่รู้จริงๆ”

     

                จงฮยอนสารภาพถึงเรื่องของขวัญ ก็จงฮยอนไม่ได้คิดว่าคีย์จะให้เบอร์สาวๆกับตัวเอง นึกว่าเป็นคนที่รู้เรื่องตัวเองมากอย่างมินโฮซะมากกว่า

     

                “ไม่เป็นไรหรอกจงฮยอน ยังไงจงฮยอนก็ให้เรามาแล้วนี่ เราจะได้มีเพื่อนใหม่ด้วยไง”

     

                คีย์คิดในแง่ดีว่าจงฮยอนจะสร้างมิตรภาพให้กับตัวเอง แต่ถึงอย่างงั้นจงฮยอนก็รู้สึกผิดอยู่ดี คีย์เลยชวนให้จงฮยอนนั่งกินขนมด้วยกันเพื่อให้จงฮยอนอารมณ์ดีขึ้นมา จินกิก็เลยนั่งกินด้วย

     

                แทมินกำลังจะนั่งกินด้วยแต่ก็ถูกมินโฮผลักให้นั่งหันหลังออกจากทั้งสามคนมานั่งอยู่กันสองคนแทน

     

                “อะไรของพี่วะ” แทมินถามถึงสิ่งที่มินโฮทำ

     

                “อ่ะนี่ ของขวัญขอบคุณ” มินโฮยื่นถุงให้แทมิน แทมินก็รับมา พอเปิดดูก็พบว่าเป็นไอพอดเหมือนกับที่ตัวเองให้

     

                “นี่มันของที่ผมให้ไปไม่ใช่ไง๊” แทมินชูกล่องไอพอดจากถุงขึ้นมาให้ดู

     

                “ใช่ที่ไหนล่ะ” มินโฮหันไปหยิบกล่องไอพอดที่แทมินให้มากับตัวเองให้ดูว่าไม่ใช่อันเดียวกัน

     

                “ให้ของแพงกับผมมากเลยนะเนี่ย” แทมินพูดกับมินโฮถึงของที่ให้ตอบแทน

     

                “เอ๊า ก็แทมินให้ของแพงกับพี่ก่อนนี่” มินโฮพูดถึงของที่แทมินให้ไปก่อนหน้านี้ ก็คือหูฟังราคาเกือบสามแสนวอนนั่นเอง

     

                “ไอ้นั่นอ่ะนะ 555 ความจริงแล้วผมได้ฟรีมาจากพี่จงฮุนนั่นแหละ” แทมินบอกความจริงกับมินโฮที่ให้ของแพงๆอย่างนั้น ก็เพราะว่าได้ฟรีมาหรอก

     

                “ถึงยังไงก็ให้พี่แทนที่จะเก็บไว้กับตัวเองไม่ใช่หรือไงล่ะ” ถึงแทมินจะบอกว่าได้ฟรี แต่ยังไงของก็แพง แทนที่จะเก็บของดีๆเอาไว้ แต่กลับเอาให้ตัวเอง

     

                “ความจริงผมได้มาจากพี่จงฮุน 2 อัน อีกอันไม่รู้จะเอาไปทำอะไรก็เลยให้ต่างหาก.. ขอบใจสำหรับของแพงนะ” แทมินขอบคุณมินโฮสำหรับของขวัญแพงๆ

     

                “ความจริงไอ้ที่พี่ให้แทมินนั่นพี่ก็ได้ฟรีมาจากพี่จงฮุนเหมือนกัน” มินโฮก็สารภาพว่าที่ตัวเองให้ไอพอดก็เพราะได้มาฟรี

     

                “หา?”

     

                “ก็พี่มีอยู่แล้วอันนึงนี่หว่า ไอ้พี่จงฮุนดันมาให้อีก เลยเอามาขอบคุณบัดดี้ละกัน”

     

                ความจริงแล้วมินโฮไม่รู้ว่าบัดดี้ของตัวเองเป็นใคร เลยจะให้อย่างอื่นขอบคุณ แต่พอรู้ว่าแทมินเป็นบัดดี้ตัวเอง ก็เลยตัดสินใจให้ไอพอดกับแทมิน รวมถึงเป็นของขวัญปีใหม่ที่ตั้งใจจะให้กับแทมินอยู่แล้วด้วย นี่เป็นโอกาสดีเลยทีเดียว

     

                “และผมก็มีความจริงอีกอย่าง.. มันลดราคา 70% ผมเลยซื้อมันให้พี่ ผมก็มีอยู่แล้วเครื่องนึงเหมือนกัน” มินโฮรู้ความจริงก็ยิ้มออกมา

     

                ความจริงแล้วทั้งสองคนก็ให้ของที่ได้มาฟรีกับเกือบฟรีเหมือนกันนั่นแหละ

     

                “พี่ยังยืนยันคำเดิมนะ” อยู่ๆมินโฮก็พูดอะไรออกมาให้แทมินงง

     

                “คำเดิม? อะไรของพี่”

     

                “ยืนยันว่าใครเป็นคนให้รักตายเลยไง 55” มินโฮขำออกมาต่อท้ายให้มันเป็นเรื่องตลก แทมินใช้กล่องไอพอดกระแทกหัวมินโฮไปทีนึงแล้วหันกลับไปนั่งกินขนมกับคีย์ จินกิ และจงฮยอน

     

     

     

     

     

     

     

                “เร็วๆๆมานับถอยหลังกัน”

     

                “10…

     

                “9…

     

                “8…

     

                “7…

     

                “6…

     

                “5…

     

                “4…

     

                “3…

     

                “2…

     

                “1…

     

                “Happy New Year! วู๊วววว” ทุกคนนับถอยหลังก้าวเข้าสู่ปีใหม่ด้วยกันอย่างมีความสุขและเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

     

                “จุดพลุด้วยอ่ะ!” แทมินชี้ไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยสีสันของพลุที่จุดขึ้นต้อนรับปีใหม่ ทั้งห้าคนยืนมองพลุกันอยู่ริมแม่น้ำฮันท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย

     

                “ปีหน้าบาร์ซาแชมป์ฟีฟ่าโว้ยยย!!!” มินโฮตะโกนเสียงดังเพื่อขอพรสำหรับปีใหม่

     

                “ลีจินกิห้ามเป็นเกาต์!!!!” จินกิก็ตะโกนหลังจากมินโฮตะโกน ซึ่งก็ขอให้ไม่เป็นเกาต์ เพราะเดี๋ยวจะกินไก่ต่อไม่ได้

     

                “คิมจงฮยอนอยากสูง!!!!!” แน่นอนว่าจงฮยอนก็ต้องขอให้ตัวเองสูงอยู่แล้ว

     

                “ลีแทมินก็อยากมีคู่เหมือนกันนะคร้าบบ!!!” สำหรับแทมินตะโกนขอให้ตัวเองสมหวังในความรัก แทมินไม่อยากผิดหวัง คีย์ก็ยืนมองทั้งสี่คนที่ตะโกนกันไป แล้วยิ้มออกมา

     

                “พี่คีย์ก็ตะโกนมั่งสิ ผมอยากรู้นะว่าพี่คีย์อยากสมหวังกับเรื่องอะไร” แทมินที่ยืนอยู่ข้างๆคีย์หันไปคุยกับคีย์

     

                “แต่พี่ไม่อยากบอกให้ใครรู้นี่นา” คีย์อยากเก็บสิ่งที่ตัวเองจะขอไว้เป็นความลับดีกว่า

     

                “พี่คีย์อ่า...”

     

                “ขอให้ปีหน้ามีแต่เรื่องดีๆ ปีหน้าขอให้คุณพ่อกับคุณแม่แข็งแรง!! พี่คิบอมกับพี่ดงเฮรักกันนานๆ!! ขอให้จินกิ จงฮยอน มินโฮ แล้วก็คีย์สอบติดมหาลัย!! ขอให้แทมินมีความสุขมากๆ สมหวังกับความรักนะ!!!

     

                คีย์ยอมตะโกนออกมาถึงความปรารถนาของตัวเอง ซึ่งคีย์ก็ไม่อยากจะขอให้ตัวเองคนเดียว คีย์ต้องขอให้กับคนที่คีย์รักอย่างพ่อกับแม่ รวมถึงพี่ชาย แล้วก็ยังมีเพื่อนที่คอยอยู่ข้างคีย์อย่างจินกิ จงฮยอน และมินโฮ รวมไปถึงแทมิน... อีกด้วย

     

                ทุกคนฟังสิ่งที่คีย์ตะโกนออกมาก็หันมามองแล้วยิ้มให้คีย์กันใหญ่

     

                “มาตะโกนว่าขอให้พวกเราสมหวังกันดีกว่า” จงฮยอนชวนทั้งสี่คนให้ตะโกนด้วยกัน

     

                “1…2…3!!

     

                “ขอให้พวกเราสมหวังในปีใหม่นี้ด้วยนะครับ!!

     

     

               

                ถึงแม้จะไม่รู้ว่าปีใหม่นี้จะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นบ้าง จะดีหรือร้ายมากแค่ไหน

                แต่หวังว่าทุกคนก็คงจะผ่านมันไปได้ด้วยดี และมีแต่ความสุขรออยู่นะ..

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

               

     

                วันนี้เป็นวันที่ 1 มกราคม ซึ่งก็ขึ้นปีใหม่แล้ว ความจริงแล้วมินโฮก็ชวนคีย์ไปเที่ยวด้วยกัน แต่คีย์อยากจะอยู่บ้านมากกว่า เลยเลือกที่จะอยู่บ้านกับคิบอม ซึ่งเพิ่งกลับมาจากเที่ยวปีใหม่ตามคำสั่งของแม่ให้มาอยู่กับคีย์ แถมคิบอมยังพาดงเฮมาด้วยอีกต่างหาก

     

                คีย์ก็ยังคงตื่นเช้าเหมือนทุกวัน แต่ถึงจะเช้าก็ต้องแปลกใจเมื่อคิบอมกับดงเฮนั่งกินข้าวกันที่โต๊ะอาหารแล้ว

     

                “อรุณสวัสดิ์จ้าคีย์~” ดงเฮทักทายคีย์เมื่อเห็นคีย์เดินเข้ามาในห้องอาหาร

     

                “อรุณสวัสดิ์ครับ พี่ดงเฮ”

     

                “คีย์นั่งๆๆๆ เดี๋ยวพี่ไปเอาอาหารเช้ามาให้นะ” ดงเฮเดินไปจับไหล่คีย์ แล้วพามานั่งลงที่เก้าอี้ ส่วนตัวเองก็เดินไปที่ครัวเพื่อเอาอาหารเช้าให้คีย์

     

                “เมื่อวานเป็นไงมั่งคีย์ สนุกหรือเปล่า” คิบอมถามคีย์ หลังจากรู้ว่าเมื่อวานคีย์ไปเที่ยวกับมินโฮและเพื่อนๆมา

     

                “ก็สนุกดี” คีย์ตอบคิบอมสั้นๆ

     

                “เล่าแค่นี้เอง? สั้นเกินไปไหมคีย์” คิบอมนึกว่าคีย์จะเล่าอะไรยาวกว่านี้ซะอีก

     

                “วันนี้พี่บอมก็พาพี่ดงเฮไปเที่ยวก็ได้ เดี๋ยวผมเฝ้าบ้านให้ ผมไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว พี่ดงเฮคงอยากไปเที่ยววันปีใหม่ ผมไม่ฟ้องแม่หรอก” คีย์คิดว่าที่คิบอมต้องมาอยู่บ้านก็เพราะคำสั่งแม่

     

                “ไว้เดี๋ยวถามพี่ดงเฮก่อนละกัน แต่พี่ก็ไม่อยากไปไหนเท่าไหร่หรอก ไปมาตั้งสัปดาห์แล้ว” คิบอมว่าจบดงเฮก็เดินเข้ามาพร้อมกับถาดอาหารถาดใหญ่ แล้ววางลงตรงหน้าคีย์

     

                “อ่านี่คีย์ ชุดอาหารเช้าฝีมือพี่เอง! ทานให้หมดนะ” ดงเฮนั่งลงข้างๆคิบอมแล้วยิ้มให้คีย์

     

                “ขอบคุณครับ” คีย์พูดขอบคุณดงเฮจบก็กำลังจะตักอาหารเช้าเข้าปาก

     

     

                ออดดดดดดดดดด

     

                “ใครมาแต่เช้าเนี่ย” คิบอมบ่นพร้อมกับกำลังจะลุกไปดูว่าใครมากดออดหน้าบ้าน

     

                “ไม่เป็นไรพี่บอม นั่งอยู่เป็นเพื่อนพี่ดงเฮเถอะ เดี๋ยวผมไปดูเอง” คีย์ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินออกจากห้องอาหารเพื่อจะไปดูที่หน้าบ้าน พอคีย์เดินออกมาหน้าบ้านเปิดประตูก็เจอกับของขวัญมากมายถูกห้อยไว้ที่หน้าบ้าน แต่ตอนนี้มีผู้ชายคนนึงกำลังถือกล่องของขวัญกับช่อดอกไม้อยู่ในมือ

     

                “อรุณสวัสดิ์ครับ คีย์” ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าบ้านคีย์ทักทายคีย์

     

                “อรุณสวัสดิ์ครับ.. มาหา.. ใครครับ” คีย์ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ก็ทักทายไว้ก่อนแล้วถามว่ามาหาใคร

     

                “มาหาคีย์นั่นแหละครับ สุขสันต์วันปีใหม่นะครับ ผมชื่อซนดงอุน อยู่ม.5 ห้อง C ก็.. ช่วยรับของขวัญปีใหม่ของผมด้วยนะครับ” ผู้ชายที่ชื่อ ซนดงอุนแนะนำตัว หลังจากนั้นก็เอากล่องของขวัญกับช่อดอกไม้ให้คีย์ คีย์ก็ก้มศีรษะและรับมา

     

                “ขอบคุณนะครับ ผมชื่อคิมคีย์ อยู่ม.5 ห้อง B” คีย์ก็แนะนำตัวกับดงอุนอีกทีเช่นกัน

     

                “วันนี้คีย์ว่างไหมครับ ผมอยากจะชวนคีย์ไปเที่ยว ถึงผมกับคีย์จะไม่รู้จักกัน แต่ว่าผมจริงใจกับคีย์นะครับ” ดงอุนพูดอย่างสุภาพกับคีย์ ในขณะที่คีย์กำลังคิด คีย์ก็ยิ้มให้กับดงอุน

     

                “เอ่อ.. ขอโทษนะ แต่วันนี้คงจะไปด้วยไม่ได้” คีย์คิดว่าวันนี้ควรจะปฏิเสธที่จะไปเที่ยวกับคนอื่น เพราะถ้าไม่อย่างนั้นก็ไม่ควรปฏิเสธมินโฮ

     

                “ไม่เป็นไรครับ ผมรู้ว่าคีย์คงจะไปกับผมไม่ได้..”

     

                “ไว้พรุ่งนี้เราค่อยเจอกันที่โรงเรียนแล้วกันนะครับ คุณดงอุน”

     

                “คีย์ครับ เรียกผมว่าดงอุนเฉยๆได้ไหมครับ แล้วก็ไม่ต้องพูดครับกับผม เรามาพูดกันแบบเพื่อนได้ไหมครับ” ถึงแม้ดงอุนจะบอกให้ตัวเองพูดอย่างสนิท แต่ตัวเองก็ยังพูดครับอยู่เลย

     

                “คระ.. ได้สิ คุณ.. เอ่อ.. ได้สิ ดงอุน งั้นดงอุนก็คุยกับเราแบบไม่ต้องมีครับนะ”

     

                “ผมคงไม่รบกวนคีย์แล้ว งั้นพรุ่งนี้เราค่อยเจอกันนะคีย์” ดงอุนขอตัวกลับก่อน เพราะรู้ว่ามาเช้าเกินไป

     

                “กลับดีๆนะ” แล้วดงอุนก็เดินหันหลังกลับค่อยๆออกห่างจากสายตาของคีย์ไป คีย์มองของที่อยู่ในมือกับของที่วางอยู่เต็มหน้าบ้านตัวเองไปหมด

     

                “นี่มันของใครเอามาให้ใครกันเนี่ย.. ให้พี่บอมหรือเปล่านะ..” คีย์เดินเข้าไปวางของที่ดงอุนเพิ่งให้ แล้วเดินออกมาหยิบของที่วางอยู่เต็มหน้าบ้านตัวเอง เข้าออกอยู่ประมาณสามรอบก็เอาเข้ามาได้หมด

     

     

     

     

     

     

     

     

                “คีย์ ใครมาน่ะ.. แล้วนั่นอะไรเยอะแยะน่ะ” คิบอมที่ทานอาหารเช้าเสร็จพอดี เดินออกมาจากห้องทานอาหารมาที่ห้องนั่งเล่น ถามคีย์ที่ถือของเข้ามาเต็มมือ แถมยังมีที่วางอยู่ตรงห้องโถงอีกส่วนหนึ่งด้วย

     

                “เพื่อนผมมาหาน่ะครับ นี่ก็ของขวัญพี่บอมไง มีคนเอามาให้” คีย์บอกกับคิบอม

     

                “นี่บอมแอบนอกใจด๊องไปหาสาวที่ไหน ทำไมของขวัญมันเยอะขนาดนี้บอม!” ดงเฮกัดคิบอมว่าแอบไปมีใครที่ไหนนอกจากตัวเองหรือเปล่า พอคิบอมเดินมาดูของขวัญ คีย์ก็เดินไปกินข้าวต่อ

     

     

     

     

     

                คีย์เดินกลับเข้ามาในห้องนั่งเล่น เห็นคิบอมกับดงเฮนั่งยิ้มแล้วก็หัวเราะกันอยู่ พอคีย์เดินเข้ามาก็หยุดหัวเราะกัน

     

                “ขัดจังหวะหรือเปล่า” คีย์รู้สึกว่าเหมือนตัวเองจะมาขัดจังหวะทั้งสองคน

     

                “อ้อ เปล่าๆ มานั่งนี่สิคีย์” คิบอมเรียกให้คีย์มานั่งข้างๆตัวเองที่พื้น คีย์ก็เดินไปนั่งข้างๆคิบอม

     

                “คีย์.. มีอะไรที่ยังไม่เล่าให้พี่ฟังหรือเปล่า” อยู่ๆคิบอมก็ถามอะไรแปลกๆกับคีย์

     

                “อะไรหรอ พี่บอม”

     

                “ของขวัญทั้งหมดเนี่ย ที่คีย์บอกว่าของพี่เนี่ย ทั้งหมดมันคือของคีย์ต่างหาก”  คีย์ทำหน้างงกับที่คิบอมพูด คิบอมเลยเอาการ์ดที่ใส่มากับของขวัญทั้งหมดให้คีย์อ่าน

     

                “รอดไปแล้วไหมล่ะบอมที่เป็นของคีย์ อย่าให้รู้นะว่าแอบไปมีสาวที่ไหน.. ว่าแต่คีย์น่ะ เสน่ห์แรงกว่าพี่บอมอีกนะเนี่ย” ดงเฮอดแซวคีย์ที่นั่งอ่านการ์ดอยู่ไม่ได้

     

                “ตกลงว่าคีย์น่ะไปทำอะไรมา ทำไมมีคนให้ของขวัญเยอะขนาดนี้ เล่าให้พี่ฟังมั่งสิ” คิบอมยังคงอยากรู้เรื่องของคีย์อยู่ คีย์เปิดดูของขวัญแต่ละกล่องอยู่ ทำเป็นไม่สนใจคำถามของคิบอม

     

                “พี่ดงเฮ อยากได้อะไรหรือเปล่า ในนี้ถ้าอยากได้อะไรก็เอาไปได้เลยนะครับ” เพราะของขวัญมีเยอะมาก คีย์เลยอยากแบ่งให้ดงเฮ แถมของที่ให้มาก็ดีๆทั้งนั้น

     

                “ไม่เอาหรอกคีย์ ของๆคีย์นี่นา”

     

                “เออคีย์ เดี๋ยวพี่มานะ จะพาพี่ดงเฮไปซื้อของที่ซูเปอร์หน่อย” คิบอมขอตัวพาดงเฮไปข้างนอก เพราะต้องการจะคุยอะไรบางอย่างกับดงเฮ แต่คีย์ไม่ได้สงสัยอะไรก็พยักหน้าแล้วนั่งดูของขวัญต่อ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                วันต่อมา

     

     

                “พี่บอม ผมไปโรงเรียนแล้วนะ” คีย์บอกคิบอมที่อาบน้ำอยู่ในห้องน้ำแล้วเดินออกจากบ้านมา

     

                “Hey คีย์!” เสียงทักของใครบางคนทำให้คีย์สะดุ้งเพราะตกใจ

     

                “สวัสดีครับ.. เอ่อ.. Good morning” คีย์ทักทายคนที่ทักตัวเองกลับ ไม่รู้ว่าจะพูดภาษาอังกฤษหรือเกาหลี ก็ทักมันทั้งสองภาษาเลยละกัน

     

                “ม่ายๆคีย์ ฉานพูดเกาหลีได้ คีย์รู้จากฉานม้าย” คนที่พูดเกาหลีไม่แตกฉานพยายามจะพูดคุยกับคีย์ คีย์ก็พยายามนึกว่าเป็นใคร

     

                “Are you..Jay? (คุณใช่..เจย์หรือเปล่า?)” คีย์คิดว่าคนที่ทักตัวเองคงเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่มาเมื่อต้นปีการศึกษาละมั้ง

     

                “Yes! ช่ายแล้วคีย์ ดีจายจางที่คีย์จำฉานได้”

     

                “Why did you come here,Jay? (ทำไมคุณถึงมาที่นี่ เจย์)

     

                “Because of you (เพราะคุณไง)” คีย์ล่ะปวดหัวกับตาเจย์นี่จริงๆ

     

                “ก็ฉานอยากเดินไปโรงเรียนกับคีย์” ที่แท้ก็จะมาจีบคีย์อีกคนนี่เอง

     

                “อืม.. Jay, I can speak English.You can speak English with me. No problem. (เจย์ ผมพูดภาษาอังกฤษได้ คุณสามารถพูดภาษาอังกฤษกับผมก็ได้ ไม่มีปัญหา)” คีย์สงสารเจย์ที่อยากจะคุยกับตัวเองเป็นภาษาเกาหลี แต่สำเนียงมันฟังยาก และลำบากที่เจย์จะพูด

     

                “Okay, Key. Let’s go to school! Go! Go! (โอเค คีย์ เราไปโรงเรียนกันเถอะ!)” เจย์รีบชวนคีย์ไปโรงเรียน คีย์เลยจำเป็นต้องเดินไปโรงเรียนพร้อมกับเจย์..

     

                เมื่อวานก็มีคนมาหาตอนเช้า

                วันนี้ก็มีคนมารับไปโรงเรียน..

     

                พรุ่งนี้ใครจะมาหาคีย์ตอนเช้าอีก คีย์จะทำยังไงดีเนี่ย

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

                กว่าคีย์จะรอดพ้นจากคนที่ขอมาส่งคีย์ได้ก็เล่นเอาคีย์ปฏิเสธกันคอแห้งเลยทีเดียว โชคดีที่มินโฮมาช่วยไล่ คีย์เลยได้กลับบ้าน

                วันนี้มินโฮมาส่งคีย์ที่บ้าน เพราะหลังจากปิดปีใหม่เปิดมา คีย์ก็ได้ของขวัญเยอะมากจนขนกลับบ้านไม่ไหว มินโฮเลยอาสาช่วยขนกลับบ้าน

     

                “อิจฉาคีย์อ่ะ! ทำไมได้ของขวัญเยอะขนาดนี้” มินโฮบ่นหลังจากวางของลงในห้องนอนของคีย์

     

                “มินโฮอยากได้ไหม อยากได้อันไหนก็หยิบไปเลยนะ” ของขวัญมีมากซะจนคีย์อยากแบ่งให้คนอื่น

     

                “เมื่อเช้าคีย์มากับเจย์หรอ ทำไมมาด้วยกันได้ล่ะ” มินโฮได้ยินข่าวมาจากเพื่อนในห้องว่าเจย์มาโรงเรียนกับคีย์

     

                “เจย์.. อ๋อ มารับเราที่บ้านน่ะ”

     

                “จริงดิคีย์ หมอนั่นมาบ้านคีย์ถูกได้ไงอ่ะ” มินโฮไม่อยากจะเชื่อว่าเจย์ถึงขนาดมาที่บ้านคีย์

     

                “ความจริงเมื่อวานซนดงอุนห้อง A ก็มาหาเราเหมือนกันนะ ของขวัญในห้องนี่ก็มีคนเอามาให้เราที่บ้านเมื่อวาน” คีย์ชี้ของขวัญที่อยู่อีกมุมของห้องให้ดู

     

                “ตอนเช้าก็มีคนมารับ ตอนเย็นก็มีคนจะมาส่ง..  ทำไมฉันไม่มีคนคอยทำอย่างนี้ด้วยเนี่ย” มินโฮอิจฉาคีย์อีกหลายๆรอบ

     

                “น่าเบื่อจะตาย ตอนเช้าเราจะเดินเงียบๆก็ไม่ได้ จะกลับบ้านก็ต้องเสียเวลา” คีย์ไม่ชอบให้ใครมาเดินกลับบ้านด้วย ยกเว้นก็แต่มินโฮ จินกิ จงฮยอน แล้วก็แทมิน

     

               

                ปรี๊นนนนนน

     

     

                “พี่บอมบีบแตรหรอ มีอะไรหรือเปล่า” คีย์รีบเดินออกจากห้องไปเพราะได้ยินเสียงแตรรถคิบอม มินโฮก็เลยเดินตามคีย์ลงไปข้างล่าง แต่พอเดินลงมาก็เห็นคิบอมเดินเข้ามาในบ้านแล้ว

     

                “สวัสดีครับพี่คิบอม พี่ดงเฮ” มินโฮทักทายคิบอมที่เดินเข้ามาพร้อมกับดงเฮ

     

                “อ้าว มินโฮไม่ได้กลับบ้านกับจินกิหรอ” ดงเฮถามมินโฮ

     

                “ไม่อ่ะพี่ด๊อง ผมช่วยขนของขวัญคีย์กลับมาที่บ้าน คนให้ของขวัญคีย์เยอะมากอ่ะ ปีใหม่”

     

                “ได้มาอีกแล้วหรอคีย์ เมื่อวานก็เยอะแล้วนะ” คิบอมพูดอย่างตกใจ

     

                “ก็.. เขามาวางเอาไว้ให้ผม..”

     

                “เออนี่ มีคนมาด้อมๆมองๆหน้าบ้านเมื่อกี๊ พี่บีบแตรใส่ไป เขาเอาขนมมาให้คีย์” คิบอมยื่นกล่องขนมที่มีคนเอามาให้คีย์ คีย์ก็รับมา

     

                “พี่อิจฉาคีย์จัง ได้ของขวัญเยอะแยะ ตั้งแต่พี่คบกับพี่บอมนะ ของขวัญพี่ลดลงครึ่งนึงของๆขวัญทั้งหมดเลย ไม่น่ามีแฟนเลยอ่ะ” ดงเฮพูดเล่นๆกับคีย์ แต่มันก็เป็นเรื่องจริง เมื่อก่อนได้ของขวัญทุกวัน เทศกาลจะได้เยอะแยะ พอคบกับคิบอม ของเริ่มหายไปเรื่อยๆ

     

                “เดี๋ยวคืนนี้ไม่ต้องนอนนะด๊อง” คิบอมพูดหน้านิ่งๆกับดงเฮ ดงเฮใช้นิ้วผลักแก้มคิบอมให้ออกจากโหมดดราม่าและหื่น คิบอมเลยเปลี่ยนมายิ้มเหมือนเดิม

     

                “พี่คิบอมครับ คีย์เสน่ห์แรงมากเลย ตอนเช้าก็มีคนมารับ ตอนเย็นก็มีแต่คนอาสามาส่ง มีคนคอยถามทั้งวันเลยว่าทำอะไรอยู่ กินข้าวหรือยัง” มินโฮเล่าให้ถึงเรื่องคีย์ที่โรงเรียนให้ฟัง คีย์ส่งสายตาดุมินโฮว่าจะเล่าให้กับคิบอมฟังทำไม

     

                คิบอมฟังที่มินโฮเล่าเลยหันไปส่งซิกบางอย่างให้ดงเฮ

     

                “เออนี่มินโฮ เห็นคีย์เล่าให้ฟังว่าจะเรียนบริหารหรอ มาคุยกับพี่สิ เดี๋ยวแนะนำให้” คิบอมพูดจบก็ชวนมินโฮเข้าไปในห้องอ่านหนังสือเพื่อคุยปรึกษากัน มินโฮเลยเดินตามคิบอมไป ส่วนดงเฮก็อยู่กับคีย์

     

                “อ่าใช่คีย์ เรามาคุยกันดีกว่า พี่อยากคุยกับคีย์มากเลย” ดงเฮก็พาคีย์ไปนั่งคุยกันในห้องนั่งเล่น

     

                “อะไรหรอครับ พี่ดงเฮ” คีย์ถามหลังจากนั่งที่โซฟา

     

                “พี่รู้ว่าคีย์น่ะเบื่อใช่ไหมล่ะ ที่ตอนนี้มีแต่คนเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตคีย์น่ะ แต่คีย์ไม่ได้เล่าให้พี่บอมฟัง” ดงเฮเริ่มชวนคีย์คุย

     

                “ก็ใช่ครับพี่ดงเฮ ผมไม่ค่อยชอบให้ใครมายุ่งกับผมเท่าไหร่..”

     

                “แต่ว่าพี่ว่าคีย์ทำตัวให้ชินกับมันก็ดีนะ ชีวิตจะได้มีสีสัน” ดงเฮแนะนำให้คีย์ปรับเปลี่ยนมุมมองการใช้ชีวิตซะใหม่

     

                “ก็..จะพยายามครับ”

     

                “แต่พี่มีอีกวิธีนะ จะแนะนำ ถ้าคีย์ไม่ชอบให้ใครมายุ่ง วิธีนี้พี่ใช้แล้วได้ผลสุดยอดเลยคีย์” ดงเฮพูดขึ้นมาเพื่อให้คีย์ฟัง เผื่อคีย์อยากจะนำมันไปใช้

     

                เข้าทางดงเฮล่ะ

     

                “ยังไงหรอครับพี่ดงเฮ” แน่นอนว่าคีย์สนใจที่สุด

     

                “มีแฟนสิคีย์” คำตอบของดงเฮทำเอาคีย์ตาโตขึ้นมาเพราะความตกใจ ไม่นึกว่าดงเฮจะแนะนำคีย์อย่างนี้

     

                “เกี่ยวหรอครับ พี่ดงเฮ”

     

                “เกี่ยวสิคีย์ อย่างพี่เนี่ย เมื่อก่อนได้ของขวัญเยอะมากกกก เหมือนคีย์เลย แต่พอพี่เป็นแฟนกับพี่บอมแล้วคนอื่นรู้เนี่ยนะ ของขวัญมันลดลงไปครึ่งนึงเลย น้อยกว่าครึ่งด้วยซ้ำ แต่พี่ได้ของขวัญจากพี่บอมแทนมันก็คุ้มดีนะคีย์ แถมตอนก่อนไม่มีแฟนเนี่ย พี่มีคนมาคอยรับที่บ้าน คอยจะมาส่ง แต่พอมีแฟนก็เลิกมีคนมาตามเลย พี่บอมจะต่อยเข้าให้น่ะสิใครมายุ่งกับพี่น่ะ”

     

                ดงเฮขุดเรื่องตัวเองมาพูดเพื่อให้คีย์ลองตัดสินใจ แถมจะได้โน้มน้าวคีย์ได้ด้วย

     

                “เอ่อ.. แต่ผม...”

     

                “คีย์จะบอกว่ายังไม่สนใจใครเป็นพิเศษหรือว่าไม่มีใครน่าสนใจพอที่จะมาเป็นแฟนกับคีย์ หรือจะไปหาคนที่เรียกว่าแฟนจากไหนใช่ไหมละ” ดงเฮรู้ว่าจะเป็นแฟนกับใครสักคนไม่ใช่เรื่องง่าย อาจจะไม่ถูกใจคีย์ก็ได้

     

                ไม่ใช่ว่าคีย์ไม่มีคนที่สนใจเป็นพิเศษ คีย์น่ะมี แล้วก็รู้สึกว่าชอบเขาด้วย

                แต่คีย์ไม่กล้าจะบอกเขาหรอก.. คนๆนั้นน่ะ

     

                “ก็.. อะไรอย่างนั้นละมั้งครับ” คีย์ก็บอกไปอย่างนั้นตามที่ดงเฮว่า

     

                “พี่แนะนำให้ไหมล่ะ คนนี้พี่รู้จักดี แล้วคีย์ก็รู้จักเขาด้วยนะ” คีย์เอียงคอกับคำพูดของดงเฮที่ว่าตัวเองก็รู้จัก

     

                “มินโฮไงคีย์”

     

               

     

                ระหว่างกลับบ้าน

     

              “ด๊อง ด๊องว่ามินโฮเป็นไงบ้าง” คิบอมถามดงเฮขณะขับรถกลับบ้าน

     

              “ทำไมอ่ะ หมายความว่ายังไง”

     

              “นิสัยอ่ะ บ้านด๊องอยู่ข้างๆมินโฮไม่ใช่หรอ”

     

              “วางแผนไรอยู่ป่าวเนี่ยบอม” ดงเฮเดาออกว่าคิบอมกำลังคิดจะทำอะไรอยู่แน่ๆ

     

              “ก็.. อยากให้มินโฮกับคีย์เป็นแฟนกัน ด๊องว่าไง”

     

              “คิดไงเนี่ยบอม มินโฮกับคีย์เนี่ยนะ”

     

              “ก็ช่วงนี้มีคนมายุ่งกับคีย์บ่อย แถมบอมว่ามินโฮก็ดีนะ ดูห่วงคีย์ดี เขาคงดูแลคีย์ได้” คิบอมอยากให้คีย์มีแฟนสักทีเพราะรู้สึกหวงน้องชายที่มีคนมายุ่งด้วยบ่อยๆ ยกเว้นก็แต่มินโฮคนเดียว ที่คิบอมเชียร์อยากให้เป็นแฟนกัน เพราะถือว่าตัวเองรู้จักมินโฮอยู่พอสมควร

     

              “มินโฮอ่ะ ก็นิสัยดี ไม่มีพิษมีภัยอะไรหรอก หล่อด้วยล่ะ แต่ว่า..คีย์กับมินโฮเขา.. ไม่ได้คิดแค่เพื่อนกันหรอ” ดงเฮไม่ได้คิดว่าสองคนนั้นจะคิดนอกจากเพื่อน มินโฮไม่รู้ แต่ดงเฮว่าคีย์น่ะไม่ได้คิดมากกว่านั้น

     

              “ก็บอมอยากให้มินโฮเป็นแฟนกับคีย์ ด๊องช่วยบอมหน่อยสิ”

     

              “เอาจริงดิบอม จะดีหรอ ถ้าไม่สำเร็จอ่ะ”

     

              “ลองดูก่อนสิด๊อง ช่วยหน่อยนะ”

     

     

     

               

     

     

                มินโฮเดินตามคิบอมมาที่ห้องอ่านหนังสือ หลังจากคิบอมบอกว่าจะช่วยให้คำปรึกษาเรื่องคณะที่จะเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยปีหน้า คิบอมกับมินโฮก็คุยกันอยู่สักพักถึงเรื่องการเรียน พอคุยจบคิบอมก็เลยเริ่มเข้าเรื่อง

     

                “เออนี่มินโฮ มีคนมายุ่งกับคีย์เยอะไหม.. ผู้ชายน่ะ” คิบอมลองถามมินโฮดู

     

                “เยอะมากเลยครับ เยอะพอๆกับผู้หญิงเลย มีคนอาสาจะมาส่งคีย์ตั้งเยอะแหนะครับ โชคดีที่ผมช่วยไล่เลยกลับบ้านมาได้”

     

                “อย่างนี้คงลำบากมินโฮเลยสิเนี่ย”

     

                “ไม่หรอกครับ คีย์ลำบากกว่าอีก คนมายุ่งทั้งวัน แถมทั้งโทรเข้ามา ทั้งส่ง SMS เข้ามาตลอด ถ้าเป็นผม ผมคงบ้าตายก่อนล่ะครับ” มินโฮรู้ว่าคีย์ลำบากกว่าเยอะ ลำบากใจที่สุด

     

              ห่วงคีย์มากกว่าตัวเองซะอีก.. เราคงเลือกถูกแล้วละมั้ง

     

                “นี่ พี่เชียร์จริงๆนะมินโฮ ถ้าจะจีบคีย์น่ะ 555 ว่าไงล่ะ” คิบอมเริ่มเข้าเรื่อง มินโฮก็ยิ้มแล้วก็หัวเราะออกมากับความคิดของคิบอม

     

                “ไม่ดีมั้งครับพี่บอม ผมเป็นเพื่อนกับคีย์นะครับ คีย์คงไม่ชอบผมด้วย”

     

                “แต่ว่าถ้ามินโฮชอบ พี่จะช่วยนะ” มินโฮรู้สึกลำบากใจกับคำพูดของคิบอม ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดี

     

                “ครับ ขอบคุณนะครับพี่บอม คือ..”

     

                “พี่น่ะเป็นห่วงคีย์ที่มีคนมายุ่งด้วย ไม่รู้ว่าคนพวกนั้นน่ะคิดยังไงกับคีย์ พี่ว่าถ้ามีคนคอยดูแลแล้วก็ปกป้องคีย์ พี่ก็หายห่วง พี่รู้ว่ามินโฮน่ะห่วงคีย์ แล้วก็คอยช่วยคีย์อยู่ตลอด พี่อยากให้มินโฮเป็นแฟนกับคีย์นะ” คิบอมพูดตรงๆกับมินโฮไปเลย ไม่งั้นคงไม่ได้บอกตรงๆ

     

                “ผม.. จะลองคุยกับคีย์ดูนะครับ” มินโฮก็คงต้องตอบรับคิบอมไปก่อนนั่นแหละ

     

     

     

     

     

                มินโฮเดินออกมาจากห้องหนังสือก่อนเพราะจะกลับบ้านแล้ว เดินออกมาก็เจอคีย์เดินออกมาจากห้องนั่งเล่นพอดี ต่างคนต่างก็ตกใจกันทั้งสองคน

     

                “จะกลับแล้วหรอ” คีย์ถามมินโฮ

     

                “อื้ม งั้นฉันกลับก่อนนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้” มินโฮลาคีย์แล้วก็กลับบ้านไป

     

     

              ทำไมถึงเป็นเราที่พี่คิบอมเชียร์เนี่ย

              ‘ทำไมพี่ดงเฮถึงแนะนำให้เราคบกับมินโฮนะ





                    

                  

                To be continued…

     

                - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

                มินโฮกับคีย์จะว่าไงละเนี่ย?

                พบกันใหม่ตอนหน้านะคะ :D

                    ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์นะคะ

     

                11.12.22 - Lighteli


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×