ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] Love Shuffle (SHINee)

    ลำดับตอนที่ #15 : Love Shuffle : Chapter 15

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 358
      0
      12 ธ.ค. 54

    Chapter 15

     

                แทมินก็เดินคุยเรื่อยเปื่อยกับคีย์กันสองคน แต่พอเดินๆไปก็รู้สึกว่าเหมือนมีใครกำลังเดินตามหลังอยู่ จะหันไปมองเดี๋ยวคนที่แอบตามจะรู้ตัว แทมินเลยแกล้งทำเป็นเดินคุยกับคีย์ต่อ และตอนนี้ก็มั่นใจแล้วว่ามีคนเดินตามอยู่แน่ๆ แทมินเริ่มกำหมัดเตรียมพร้อม

     

                จนกระทั่งมีมือปริศนามาจับเข้าที่ไหล่ของแทมินกับคีย์ แทมินเลยหันกลับไปต่อยหน้าเจ้าของมือปริศนาซะเต็มแรง

     

                “เห้ย!!” แทมินอุทานออกมาด้วยความตกใจ

     

                “โอ๊ยยย” คนที่แทมินต่อยร้องออกมาแล้วใช้มือกุมหน้าตัวเอง ถุงของที่อยู่ในมือตกลงไปอยู่กับพื้น

     

                “มินโฮ” คีย์พูดชื่อมินโฮที่ถูกต่อยออกมา

     

                “ต่อยพี่ทำไมเนี่ย แทมิน”

     

                “ใครใช้ให้เล่นอะไรบ้าๆอย่างนี้ล่ะ ก็นึกว่าพวกมิจฉาชีพ ยังไงก็ต้องป้องกันตัวเอาไว้ก่อน มันก็ถูกต้องแล้วนี่” ก็จริงของแทมิน สัญชาตญาณคนเรารู้สึกไม่ดีอะไรยังไงก็ต้องป้องกันตัวไว้ก่อน

               

                “ก็หันกลับมามองซะก่อนสิวันหลังน่ะ แรงเยอะชะมัดเลย” มินโฮพูดพร้อมกับใช้มือถูไปมาตรงที่โดนต่อย คีย์ก็ก้มลงไปหยิบถุงที่มินโฮทำตกแล้วยื่นให้มินโฮถือส่วนนึง

     

                “เป็นอะไรมากไหม มินโฮ”

     

                “ไม่เท่าไหร่แล้วล่ะคีย์ ไม่น่าล่ะ ไอ้คนที่โดนลูกบาสแทมินเหวี่ยงเข้าให้ลูกนั้น หมอถึงได้ให้สแกนสมองเพราะกลัวว่าจะได้รับการกระทบกระเทือน” มินโฮพูดกับแทมินที่ยืนมองตัวเองอยู่

     

                “ผมแรงเยอะขนาดนั้นเลยจริงดิ รู้สึกผิดเลย..”

     

                “เพราะงั้นถ้ารู้สึกผิดก็ขอโทษพี่ด้วย แทมิน” มินโฮรีบทวงคำขอโทษจากแทมินทันที เมื่อแทมินบอกว่ารู้สึกผิด

     

                “ไม่ได้รู้สึกผิดต่อพี่โว้ย! ผมรู้สึกผิดต่อคนที่โดนลูกบาสผมต่างหาก เพื่อนพี่ใช่ป่ะคนนั้น ขอเบอร์หน่อยดิ”

     

                “แหมๆ ขอเบอร์พี่คิดอะไรหรือเปล่า แทมิน” มินโฮก็ตีความไปอีกแบบ แล้วแกล้งแซวแทมินเล่น

     

                “อยากโดนอีกสักหมัดป่ะ คราวนี้จะชกให้สมองกลับเลย” แทมินพูดจบก็ชูหมัดขึ้นมาทำท่าจะเหวี่ยงใส่มินโฮ แต่มินโฮวิ่งไปหลบหลังคีย์

     

                “คีย์ดูสิ แทมินซาดิสม์อ่ะ คีย์อย่าไปยุ่งนะ คีย์ช่วยฉันด้วย” มินโฮทำเป็นอ้อนคีย์ใหญ่ คราวนี้แทมินเลยจะเหวี่ยงหมัดใส่มินโฮจริงๆ แต่มินโฮก็วิ่งหลบหลังคีย์ตลอด คีย์จึงช่วยห้ามแทมิน

     

                “อ่าๆ หยุดเถอะนะ อย่าใช้กำลังกันเลย รีบกลับบ้านกันเถอะ ข้างนอกหนาวจะแย่อยู่แล้ว” คีย์ชวนทั้งสองคนกลับบ้านกันแทน จะได้เลิกทะเลาะกัน โดยที่คีย์ยืนขั้นกลางระหว่างสองคน ไม่งั้นคงได้ทะเลาะกันอีกแน่ๆ

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

               

     

     

                “ไปนานมากอ่ะมึง.. ว๊าวว คีย์มาแล้ว” จงฮยอนไม่ทันได้มองว่าใครเดินเข้ามา เลยบ่นถึงมินโฮที่ออกไปข้างนอกซะนาน แต่พอเห็นว่าเป็นคีย์ จงฮยอนเลยเปลี่ยนเป็นคนละคน

     

                “ไม่พูดถึงผมเลยนะ พี่จงฮยอน” แทมินจิกจงฮยอนเล็กน้อย ที่ตัวเองก็เดินเข้ามาด้วย แต่กลับทักแต่คีย์

     

                “ก็แทมินเล่นพาพี่คีย์ไปทั้งวันแล้วนี่ แล้วนี่เป็นอะไรไปเนี่ยวันนี้ ทำคนอื่นเขาเป็นห่วงหมด โดยเฉพาะ..” จงฮยอนกำลังจะพูดว่าโดยเฉพาะใครเพราะจะแกล้งมินโฮ แต่ก็ถูกสายตาพ่นไฟของมินโฮส่งมาซะก่อน จงฮยอนเลยหยุด

     

                “โดยเฉพาะใคร พี่จงฮยอน พูดมาให้มันจบๆ ใครฝากความคิดถึงห่วงใยมาถึงผมหรอ” แต่แทมินก็ยังค้างคาใจกับประโยคที่ยังไม่จบของจงฮยอน

     

                “ก็โดยเฉพาะ... ไอ้หู้ไง พี่ชายแทมินนู่นอ่ะ นั่งกดโทรศัพท์ทั้งวันเลย” จงฮยอนโยนไปให้จินกิที่ไม่รู้เรื่องอะไร โชคดีที่จินกิไปเข้าห้องน้ำพอดี และก็กลับมาจากห้องน้ำพอดีหลังจากจงฮยอนพูดจบ

     

                “อ้าวคีย์กับแทมินกลับมาแล้วหรอ แทมินเป็นยังไงบ้าง รู้ไหมทำอย่างนั้นคนอื่นเขาเป็นห่วงนะ” จินกิถามไถ่และสอนแทมินทันทีเมื่อเห็นแทมิน

     

                “ก็สบายดีนี่ ขอบคุณที่เป็นห่วงผมนะครับ คุณพี่ๆทั้งหลาย” แทมินพูดขอบคุณพี่ๆทั้งสี่คนที่ทำท่าจะเป็นห่วงตัวเองจริงๆ

     

                “แล้วนี่.. ยังไม่ได้ฉลองกันอีกหรอ บอกแล้วไงว่าไม่ต้องรอ” คีย์สงสัยที่เห็นว่าบ้านยังดูสะอาดเหมือนเดิม

     

                “ก็รอคีย์กับแทมินกลับมาแต่งต้นคริสมาสต์ด้วยกันนี่ไง ถ้าไม่ครบเราจะฉลองก่อนได้ไง” มินโฮพูดตอบคีย์

     

                “นั่นสินะ ถ้างั้นเราก็มาแต่งต้นคริสมาสต์กันเถอะ!!” จงฮยอนชวนทุกคน มินโฮก็เดินไปวางของที่ซื้อมาในห้องครัวก่อน ส่วนคนอื่นก็เริ่มลงมือแต่งต้นคริสมาสต์กัน

     

     

     

     

     

                พอแต่งต้นคริสมาสต์เสร็จ ก็เหลือแต่เปิดไฟต้นคริสมาสต์เป็นอย่างสุดท้าย มินโฮเดินไปปิดไฟในห้องโถง แล้วเสียบปลั๊กเพื่อให้ไฟต้นคริสมาสต์ทำงาน

     

                และสีสันสวยงามของไฟบนต้นคริสมาสต์ก็สว่างขึ้น

     

                “วู๊ววว” ทุกคนต่างส่งเสียงดีปรบมือดีใจกันใหญ่ แล้วค่อยๆเดินไปนั่งกันที่ห้องนั่งเล่นแทน และก็นั่งย่างเนื้อและกินขนมกันอย่างสนุกสนาน

     

                “งานกีฬาสีปีนี้กูว่าไม่ค่อยสนุกเลยว่ะ” มินโฮพูดเข้าเรื่องกีฬาสีของปีนี้

     

                “ใช่ดิ ก็มึงไม่สนุกเพราะมึงไม่ได้เล่นบอลไง” จงฮยอนรู้หรอก เหตุผลที่มินโฮบอกว่ามันไม่สนุก เพราะฟุตบอลต้องยกเลิกเพราะอากาศหนาวเกินไป ลำบากคนดูกับคนเล่น

     

                “แต่ปีนี้แข่งขันหลีดสนุกดีนะ อลังการดี” จินกิพูดถึงการแข่งขันเชียร์ลีดเดอร์ ที่ปีนี้รู้สึกว่าสวยและยิ่งใหญ่กว่าปีที่แล้ว

     

                “เออกูว่าก็ใช่อ่ะ ปีนี้สีเหลืองน่าจะทำหลีดแก๊กแมนอีกว่ะ กูว่าฮาดี เสียดายปีนี้ไม่มี” มินโฮก็แสดงความเห็นด้วย

     

                “ถ้าผมเป็นกรรมการคงตัดสินใจยากน่าดู แล้วตกลงสีอะไรชนะอ่ะ” แทมินถามถึงผลการแข่งขัน

     

                “จากเสียงกรี๊ดก็รู้แล้ว สีน้ำเงินไง” จินกิตอบแทมิน

     

                “โหยสีน้ำเงินสุดๆเลยอ่ะ ตอนสุดท้ายที่ไอ้คนข้างหลังม่านอ่ะ” แทมินพูดถึงการแสดงของเชียร์ลีดเดอร์สีน้ำเงิน คีย์ที่นั่งฟังอยู่ก็เริ่มกังวลว่าจงฮยอนจะหลุดพูดออกมาหรือเปล่า เลยยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อปิดบังความน่าสงสัย

     

                “ไม่น่าเชื่อเลยว่ามินฮยอกจะทำได้ขนาดนั้น ดูออกจะใสๆ กลับมาเรียกเลือดได้” จินกิพูดกับมินโฮและจงฮยอน เพราะจินกิไปดูลิสต์คนแสดงมา ปรากฏว่าคนนั้นคือคังมินฮยอก เพื่อนที่เคยอยู่ด้วยกันเมื่อปีที่แล้ว

     

                “ไม่ใช่มินฮยอกนะเว้ยไอ้หู้ วันนี้มินฮยอกมันป่วย ไม่ได้มาโรงเรียน” มินโฮแย้งจินกิที่บอกว่าเป็นมินฮยอก เพราะวันนี้มินโฮรู้มาว่ามินฮยอกไม่สบาย ทำให้แสดงไม่ได้

     

                “อ้าว แล้วนั่นใครอ่ะ ในลิสต์มันบอกว่ามินฮยอก แต่กูว่า.. ตอนกูดูก็ว่าไม่ใช่มินฮยอกเหมือนกัน”

     

                “หุ่นกับส่วนสูงคล้ายพี่คีย์จังเลยนะ” อยู่ๆแทมินก็พูดออกมา คีย์ที่นั่งดื่มน้ำอยู่ก็สำลักน้ำทันทีที่ได้ยิน จินกิที่นั่งอยู่ข้างๆเลยหยิบทิชชู่ให้เช็ดปาก

     

                “จะใช่ได้ไงแทมิน เห็นก็รู้ว่าพี่คีย์ทำอะไรอย่างนั้นไม่ได้หรอก” จงฮยอนแย้งกับแทมินเพื่อช่วยคีย์ตามที่สัญญาไว้ว่าจะไม่บอกใคร

     

                “จะว่าไปวันนี้คีย์ไปไหนหรอตอนเช้า” แล้วมินโฮก็ดันมาถามเข้าจังหวะพอดี

     

                “อะ..อ๋อ นานะมีเรื่องให้ช่วยน่ะ เลยไปช่วย” คีย์ทำใจนิ่งๆตอบมินโฮ จะได้ไม่มีพิรุธ

     

                “นานะให้ช่วยหรอ.. ช่วยไปเป็นหลีดแทนมินฮยอกหรือเปล่าคีย์ 555” เพราะมินโฮรู้ว่านานะเป็นหลีดสีน้ำเงินที่โชว์ชุดนั้น แถมมินฮยอกที่รูปร่างคล้ายคีย์ที่แสดงก็ดันมาป่วย มินโฮเลยสันนิษฐานเอาเล่นๆที่คีย์บอกว่านานะให้ช่วย

     

                เล่นเอาคีย์ทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว

     

                “แน่ใจเหอะว่ามึงใช้สมองคิดไอ้โฮ มึงก็สนิทกับคีย์ ก็น่าจะรู้ว่าคีย์ทำอย่างนั้นไม่ได้ แล้วก็ไม่มีทางทำได้ด้วยล่ะ” จงฮยอนต้องช่วยคีย์อีกแล้ว แต่รู้สึกยิ่งพูด คำพูดก็ยิ่งรัดคอตัวเองกับคีย์

     

                “ทำไมมึงพูดอย่างนี้สองรอบแล้ววะ ที่บอกว่าคีย์ทำไม่ได้ หรือว่า.. มีอะไรที่มึงยังปิดบังกูอยู่หรือเปล่า” มินโฮกลับสงสัยในคำพูดของจงฮยอนมากขึ้นซะอีก ว่าทำไมรู้สึกจะพูดแก้ให้คีย์ซะทุกรอบ

     

                “ใครว่าพี่คีย์ทำไม่ได้อ่ะพี่จงฮยอน” แทมินเหมือนมาช่วยจงฮยอนที่คิดข้อแก้ตัวไม่ออก ด้วยการเบี่ยงเบนประเด็น

     

                “หมายความว่าไง แทมิน” จินกิสงสัยกับคำพูดของแทมิน

     

                “ก็.. พี่คีย์อาจจะทำได้ก็ได้ละมั้ง” แทมินก็เกือบจะหลุดปากพูดออกไปเรื่องที่คีย์เคยแต่งตัวเป็นผู้หญิง แต่เพราะแทมินสังเกตเห็นคีย์นั่งเหงื่อเต็มหน้าทั้งๆที่อากาศหนาวอย่างนี้ แทมินเลยยั้งปากทัน

     

                “เอ่อ.. ช่วยเลิกพูดเรื่องเราจะไปทำอย่างนั้นอย่างนี้เถอะนะ คิดแล้วเหนื่อยเลย” คีย์พูดพร้อมกับยิ้มแห้งๆออกมา ฟังแล้วรู้สึกลุ้น รู้สึกเหนื่อย หายใจไม่ทัน คีย์จะตายก็เพราะคำพูดของสามคนที่พูดเล่นเถียงกันไปมานี่ล่ะ

     

                “งั้นก็เปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นดีกว่า พรุ่งนี้ทำอะไรกันดี” จงฮยอนรีบดึงพาออกจากเรื่องเดิมทันทีตามคำขอของคีย์

     

                “เล่นบัดดี้กันดีป่ะ” จินกิเสนอกิจกรรม

     

                “ยังไงอ่ะ พี่จินกิ” แทมินไม่ค่อยเข้าใจไอ้ที่เรียกว่าเล่นบัดดี้

     

                “ก็ให้แต่ละคนจับฉลากว่าจะได้คู่กับใคร โดยที่ต้องเก็บไว้เป็นความลับห้ามให้บัดดี้รู้ ช่วงนี้ก็คริสมาสต์กับปีใหม่.. ก็ให้มอบของขวัญให้บัดดี้ละกัน แล้วก็เฉลยตอนวันปีใหม่” จินกิอธิบายกติกาให้ทั้งแทมินและคนอื่นฟัง

     

                “เอาดิ น่าหนุกดี” มินโฮเห็นด้วยกับที่จินกิเสนอ

     

                “ผมก็เห็นด้วย งั้นเล่นบัดดี้นี่ล่ะ” หลังจากที่ทุกคนเห็นด้วย จินกิก็เลยไปหยิบกระดาษมาทำฉลาก แต่ละคนก็นั่งลุ้นกันว่าจะจับได้ชื่อของใคร ใครจะเป็นบัดดี้ตัวเอง พอทำเสร็จจินกิก็เอาฉลากม้วนๆ แล้วเขย่าวางลงบนโต๊ะให้ทุกคนหยิบพร้อมกัน

     

                “เปิดได้เลย”

     

                หลังจากสิ้นสุดเสียงของจินกิ ทุกคนก็ก้มลงดูชื่อที่อยู่ในกระดาษของตัวเองว่าจะเป็นใคร ซึ่งก็มีทั้งคนที่ดีใจและไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ต้องทำหน้านิ่งเข้าไว้

     

                “มีใครจับได้ชื่อตัวเองบ้างไหม” จินกิเงยหน้ามาถาม ทุกคนก็ส่ายหน้าตอบ

     

                “งั้นก็เริ่มเล่นตั้งแต่พรุ่งนี้จนถึงวันปีใหม่ วันที่ 31 นะ”

     

                “แล้วถ้าสมมุติว่าคนที่เราจับได้รู้ว่าเราเป็นใคร จะทำไมวะ” มินโฮสงสัยเลยถามจินกิ จินกิก็ทำหน้านั่งคิดอยู่สักพักก็ตอบมินโฮ

     

                “เป็นแฟนกันดีไหมวะ 555

     

                “อยากไปอยู่ในหม้อกับซุปเต้าหู้ไหมล่ะมึง คิดได้ไง” มินโฮพูดกับจินกิกับคำตอบที่ตอบ

     

                “เห้ยๆอย่าแสดงอาการมากนะเว้ยว่าไม่พอใจกับบัดดี้อ่ะ เดี๋ยวจะรู้หมดว่ามึงคู่กับใคร” จินกิบอกกับมินโฮ

     

                “แล้วสรุปว่าบทลงโทษอ่ะ”

     

                “ก็.. ไม่รู้ดิ ยังไม่ได้คิด ไว้คิดออกจะบอกละกัน”

     

     

     

                จะเอายังไงกับของขวัญดีน้า~’

     

              ‘อยู่ด้วยกันตลอดเวลาจะทำยังไงไม่ให้จับได้เนี่ย

     

              ‘ถ้าบทลงโทษอย่างนั้นละก็..

     

              ‘เฮ้อ~~ ’

     

              ‘… (ไร้ซึ่งคำบรรยายใดๆ)

     

     

     

                “จะเที่ยงคืนแล้วนี่นา” คีย์เหลือบไปมองนาฬิกาที่จะชี้ไปที่เลข 12

     

                “มานับถอยหลังกันดีกว่า” แทมินชวนทุกคน

     

                “ห้า.. สี่.. สาม... สอง.. หนึ่ง.. Merry Christmas!!”  ทุกคนช่วยกันนับถอยหลังแล้วส่งเสียงต้อนรับเช้าวันใหม่ซึ่งเป็นวันคริสมาสต์

     

                “ทุกคนก็มีความสุขกับคริสมาสต์ปีนี้กันนะ” คีย์พูดอวยพร

     

                “คีย์ก็เหมือนกันนะ”

     

                “ใช่แล้ว! พี่ๆทุกคน ในฐานะที่ผมเป็นน้องเล็ก ขอของขวัญวันคริสมาสต์ด้วยนะครับ” แทมินพูดพร้อมกับหัวแล้วแบมือขอของขวัญกับจินกิ จงฮยอน คีย์ และมินโฮ ทุกคนก็ต่างหัวเราะกับคำพูดและท่าทางของแทมิน และนั่งกระซิบกัน

     

                พอแทมินรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ในมือก็เงยหน้าขึ้นมาดู ก็เห็นเป็นถุง.. ขยะใหญ่พอสมควรอยู่ในมือ

     

                “เห้ย นี่ใครให้ผมเนี่ย ผมไม่เอาขยะอ่ะ จะเอาของขวัญ” แทมินเริ่มโวยวายแล้วเอาถุงขยะไปวางไว้ที่พื้น

     

                “ทำความดีโดยการไปทิ้งขยะซะเถอะ แทมิน เป็นของขวัญกับตัวเองและพระเจ้า 555” จงฮยอนพูดแกล้งแทมิน

     

                “ว่าแต่ผม พี่จงฮยอนก็เหอะทำความดีไว้เยอะๆละกัน ชาติหน้าจะได้เกิดมาตัวสูงๆ” แทมินตอกจงฮยอนกลับ เล่นเอาจงฮยอนไปไม่ถูกเลย ทุกคนก็ต่างหัวเราะกับความจริงที่แทมินพูด

     

                พอนั่งคุยกันไปคุยกันมาก็ชักเริ่มง่วงกันซะแล้ว

     

                “หาววว เก็บของแล้วนอนกันดีกว่า ง่วงแล้วอ่ะ” จงฮยอนชวนทุกคนนอน เพราะรู้สึกง่วงมากกกก

     

                “งั้นก็เก็บขยะแล้วก็เอาจานไปวางแล้วค่อยล้างพรุ่งนี้ก็แล้วกันนะ” คีย์พูดจบ ทุกคนก็ช่วยกันเก็บขยะแล้วก็เก็บจาน โดยที่คีย์กับจินกิเอาจานไปวางในห้องครัว ส่วนจงฮยอน มินโฮ และแทมินก็นั่งเก็บขยะเก็บโตะกัน ระหว่างนั้นจงฮยอนก็คิดอะไรดีๆขึ้นมาได้

     

                จงฮยอนเห็นว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาดีๆที่จะช่วยมินโฮให้อยู่กับแทมินสองคนแล้ว

     

                “เก็บเสร็จแล้วนะเว้ย งั้นเดี๋ยวไปอาบน้ำก่อนละกัน” จงฮยอนบิดขี้เกียจไปมาแล้วรีบเดินออกจากห้องนั่งเล่นไปเข้าห้องน้ำทันที

     

                “อ้าวเห้ยไอ้จง!” มินโฮเรียกจงฮยอนที่จากไปซะดื้อๆ

     

                “เก็บๆต่อไปเลยอย่ามาอู้เว้ยพี่มินโฮ” แทมินก็คิดแต่ว่ามินโฮจะอู้งานนั่นแหละ มินโฮเลยเก็บๆต่อไป แล้วทั้งห้องก็มีแต่ความเงียบ

     

                “วันนี้แทมินเป็นอะไรอ่ะ” มินโฮหาเรื่องชวนคุย โดยการถามว่าแทมินเป็นอะไรกันแน่

     

                ถามเพราะไม่มีอะไรคุย แล้วก็ถามเพราะความอยากรู้และเป็นห่วง

     

                “เป็นอะไร? ถามเพราะเป็นห่วงผมหรือไง”

     

                “ถ้าใช่แล้วถามได้ไหมล่ะ” อยู่ๆมินโฮก็พูดไปอย่างนั้น

     

                “ความจริงอยากรู้ว่าผมกับพี่คีย์ไปไหนมาใช่ไหมล่ะ กลัวว่าผมจะทำอะไรพี่คีย์หรือไง” แทมินถามมินโฮอย่างรู้ทัน

     

                “ก็..ก็ใช่ดิ เล่นหายไปทั้งวัน พี่ก็ต้องกังวลอยู่แล้ว”

     

                ไม่ใช่แค่กังวลแค่คีย์คนเดียว และกังวลเรื่องแทมินด้วย

     

                “ถึงพี่อยากรู้ ผมก็ไม่บอกหรอก รู้แค่ว่าเราสองคนมีช่วงเวลาดีๆด้วยกันก็พอ” แทมินพูดแล้วยิ้มอย่างมีความสุข พอคิดถึงวันนี้แล้ว แทมินมีความสุขที่สุด วันที่ได้อยู่กับคีย์ทั้งวัน แล้วคีย์ก็ตามใจทั้งวัน

     

                ใช่ พี่กลัวว่าแทมินกับพี่คีย์จะ.. มีช่วงเวลาดีๆ.. ด้วยกัน?

     

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

                หลังจากจัดการอะไรกันเสร็จ ทุกคนก็แยกย้ายไปอาบน้ำทำภารกิจส่วนตัวกัน แล้วก็กลับลงมานั่งรวมกันที่ห้องนั่งเล่นเพราะเรื่องห้องนอน

     

                “แล้วนี่จะนอนกันยังไงล่ะคีย์จ๋า~” จงฮยอนถามอย่างลัลล้า ดูท่าจะว่าจงฮยอนคงจะคิดอะไรอยู่

     

                “ก็..ไม่รู้สิ แล้วแต่ทุกคนก็แล้วกัน” เพราะบ้านคีย์สามารถนอนได้ทุกห้อง ไม่ว่าจะห้องนอนข้างบน ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก ห้องอ่านหนังสือ หรือห้องโถงทางเข้าบ้านก็ยังนอนได้เลย

     

                “จับคู่กันนอนดีไหม” แทมินเสนอ เพราะดูท่าทางว่าแทมินก็คงจะคิดอะไรอยู่เหมือนจงฮยอน

     

                “ถ้างั้นก็เหลือเศษอ่ะดิ” จินกิพูดท้วงแทมิน

     

                “ในฐานะที่มึงรู้ว่าจะมีเศษ เพราะงั้นมึงนอนคนเดียว” จงฮยอนโบ้ยความเป็นส่วนเกินให้จินกิ

     

                “คีย์เป็นเจ้าของบ้าน ให้คีย์นอนคนเดียวสบายๆดีกว่ามั้ง” มินโฮแย้งจงฮยอน

     

                “คืนดีๆอย่างนี้ จะให้พี่คีย์นอนคนเดียวได้ยังไง” แทมินก็เถียงมินโฮต่อ

     

                คืนนี้จะได้นอนกันไหมเนี่ย..

     

                “ถ้างั้นนอนรวมกันที่ห้องนั่งเล่นละกัน จะได้ไม่ต้องเถียงเรื่องแบ่งห้องนอน” จินกิตัดปัญหาของทั้งสามคนที่เถียงกัน

     

                “ก็ดีนะจินกิ งั้นเราก็นอนรวมกันที่นี่ละกัน เดี๋ยวเราไปเอาที่นอนมาให้นะ” คีย์พูดจบก็เดินขึ้นไปชั้นสอง เพื่อไปเอาที่นอนมา โดยมีจงฮยอนเดินตามไปช่วย

     

     

     

     

     

     

     

                ถึงแม้เรื่องห้องนอนจะเรียบร้อยไปแล้ว แต่มันก็ยังมีปัญหาอีกคือ..

     

     

                เรื่องที่นอน

     

     

     

                “มึงถอยไปไอ้หู้ กูจะนอนตรงนี้” จงฮยอนเตะจินกิที่นอนอยู่ข้างๆคีย์ แล้วลงไปนอนแทรก จินกิขี้เกียจจะเถียงด้วยเลยยอมหลีกไปนอนข้างๆ มินโฮเห็นว่าข้างๆคีย์ยังว่างก็เลยเลือกนอนตรงนั้น

     

                ตอนนี้ก็จะเป็น มินโฮ คีย์ จงฮยอน จินกิ นอนเรียงกันตามลำดับ

     

                “พี่มินโฮถอยไปหน่อย จะนอนตรงนี้อ่ะ” แทมินที่ยังไม่ได้เลือกที่นอน ก็เลือกที่จะไปนอนคั่นระหว่างมินโฮกับคีย์ เพราะกลัวว่ามินโฮจะทำอะไรคีย์และแถมได้นอนข้างกัน ซึ่งแน่นอนว่าแทมินไม่ยอม

     

                แต่จะให้แทมินไปนอนข้างคีย์ มินโฮก็ไม่ยอมเหมือนกัน

     

                “ไม่เอาอ่ะแทมิน พี่เลือกก่อนแล้วนี่ว่าจะนอนตรงนี้ แทมินก็.. ไปนอนข้างๆพี่จินกินู่นดิ ยังว่าง” ความจริงแล้วข้างๆตัวเองก็ว่าง แต่มินโฮไม่อยากให้แทมินนอนข้างๆ ไม่อย่างนั้น.. มินโฮอาจจะนอนไม่หลับก็ได้

     

                “ผมอยากนอนตรงนี้อ่ะ ให้ผมนอนเหอะน้า~” แทมินทำเป็นอ้อนมินโฮ แต่มินโฮก็พยายามห้ามไม่ให้ใจอ่อนกับแทมิน

     

                “ไม่เอาแทมิน พี่จะนอนแล้ว อย่ากวน” เพื่อตัดบทสนทนา มินโฮเลยนอนหลับตาไปเลย เหลือก็แต่แทมิน แทมินเลยเดินไปปิดไฟแล้วนอนลงตรงที่ว่างข้างๆมินโฮ

     

                ตอนนี้ก็จะเป็น แทมิน มินโฮ คีย์ จงฮยอน จินกิ นอนเรียงกัน

     

                “บอกให้ไปนอนข้างๆพี่จินกิ มานอนตรงนี้ทำไม” มินโฮหันไปกระซิบกับแทมิน

     

                “ก็..อยากนอนอ่ะ มีอะไรป่ะ ตรงนี้ก็ว่างเหมือนกัน” ที่แทมินไม่ยอมไปนอนข้างๆจินกิ ก็เพราะต้องคอยจับตาดูว่ามินโฮจะทำอะไรคีย์หรือเปล่า

     

                “หรือว่า.. ความจริงแล้วอยากนอนใกล้พี่กันแน่”

     

                “หลงตัวเองชะมัด” แทมินพูดกับมินโฮแล้วหลับตาลง เพราะขี้เกียจเถียงด้วยต่อ มินโฮเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มแล้วหลับตาลงนอน

     

                คืนนี้ให้มินโฮเข้าใจไปเองว่าแทมินอยากนอนใกล้ตัวเองได้ไหม ให้คืนนี้มินโฮมีความสุขหน่อยละกัน

     

     

     

     

                แต่พอนอนๆไปสักพัก มินโฮก็รู้สึกว่าคนที่นอนข้างๆตัวเองสั่น แล้วก็พลิกตัวไปมาซะเหลือเกิน มินโฮสงสัยว่าแทมินเป็นอะไรเลยหันไปถาม

     

                “แทมิน.. เป็นอะไร” มินโฮหันไปถามเพราะสงสัย

     

                “พะ..พี่มินโฮ เปลี่ยน..เปลี่ยนที่กันเหอะ” แทมินพูดสั่นๆ

     

                “เป็นอะไรแทมิน” มินโฮลุกขึ้นมา เพราะนอนไม่คุยคงไม่ค่อยถนัด เห็นแทมินตัวสั่นๆอีกด้วย

     

                “เอ่อ.. เอาเป็นว่าเปลี่ยนที่กันเหอะ”

     

                “บอกก่อนสิว่าเป็นอะไร แทมิน”

     

                “คะ..คือ จำวันที่ไปสวนสนุกได้ป่ะ” แทมินไม่ได้บอกตรงๆว่าเพราะอะไร มินโฮก็พยายามคิดว่าเกิดอะไรขึ้น..

     

                ท่ามกลางความมืด...

     

                “กลัวผีใช่ไหมแทมิน” มินโฮพอจะนึกออกแล้ว ว่าในที่มืดๆอย่างนี้ มีเหตุผลเดียว

     

                “คือ.. คือ..” แทมินไม่ได้ยอมรับมาตรงๆ เพราะพูดไปก็เสียฟอร์มน่ะสิ

     

                “โอเคๆ เข้าใจแล้ว เปลี่ยนที่กันก็ได้” มินโฮลุกขึ้น แทมินก็เลื่อนไปนอนตรงที่ของมินโฮ มินโฮก็ล้มตัวนอนลงแทนที่แทมิน แล้วแทมินก็หยุดสั่น

     

                “โอเคยัง ไม่ต้องกลัวแล้วนะ ผีอ่ะ” มินโฮพูดจบก็หลับตาลงนอน แทมินก็แอบยิ้มออกมา เพราะแค่เหตุผลเดียวก็ได้สองต่อ

     

     

                ต่อแรกคือไม่ได้นอนริม เพราะกลัวผี

     

                อีกอย่าง.. แทมินได้นอนใกล้คีย์สมใจแล้ว

     

     

               

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

               

     

     

               

     

                คีย์ลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกตัว และก็ตื่นก่อนคนอื่นด้วย เพราะความชินที่ตื่นเช้าเป็นปกติ พอลุกขึ้นมาก็หันไปมองคนข้างๆว่านอนหลับกันอยู่หรือเปล่า ก็เห็นจินกินอนคลุมโปง ส่วนจงฮยอนก็นอนแอบมีน้ำลายไหลเล็กน้อย หันไปอีกข้างก็ทำให้คีย์ตกใจ เมื่อคนที่นอนข้างๆตัวเองตอนเช้ากลับเป็นแทมินไม่ใช่มินโฮ

     

                ข้างขวาเป็นแทมิน ส่วนข้างซ้ายเป็นจงฮยอน.. ถ้าเมื่อคืนคีย์รู้คงนอนไม่ค่อยหลับแน่ๆ

     

                คีย์ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องนั่งเล่นแล้วเดินไปปิดไฟต้นคริสมาสต์ที่เปิดทิ้งไว้ทั้งคืน แล้วเดินขึ้นไปชั้นสองเพื่อจะอาบน้ำ

     

     

     

                คีย์เดินลงมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ ก็เดินเข้าไปในห้องครัว แล้วเปิดตู้เย็นหยิบเนย แยม ไส้กรอกแล้วก็ไข่ออกมาเพื่อจะทำอาหารเช้าอย่างที่เคยทำให้กับแทมินและมินโฮ

     

                ระหว่างที่คีย์กำลังทอดไข่ดาวอยู่ โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น

     

                (สายเข้า : ออมม่าของคีย์)

     

                “สวัสดีครับ แม่” คีย์ทักทายด้วยคำง่ายๆที่ใช้บ่อยๆ

               

                (“สวัสดีจ้ะคีย์ เมอร์รี่คริสมาสต์นะจ๊ะ”)

     

                “เมอร์รี่คริสมาสต์ครับแม่ แม่โทรมาเช้าจังเลยนะครับ ไม่นอนต่ออีกหน่อยหรอครับ” คีย์คิดว่าวันพักผ่อนอย่างนี้ อยากจะให้แม่นอนพักผ่อนให้มากกว่านี้ ไม่ต้องโทรมาแต่เช้าก็ได้

     

                (“ก็อยากโทรมาหาคีย์ของแม่คนแรกนี่จ๊ะ ขนาดพี่บอมแม่ยังไม่ได้โทรไปเลยนะ ว่าแต่นี่ พี่บอมกลับบ้านหรือเปล่าเนี่ย หรือว่าพาเพื่อนมาฉลองเละเทะจนถึงเช้าเหมือนปีที่แล้ว”)

     

                “พี่บอมไม่ได้กลับบ้านหรอกครับ บอกว่าจะไปฉลองกับเพื่อน น่าจะกลับอีกทีหลังปีใหม่เลย”

     

                (“แย่จริงๆ รู้งี้แม่ส่งตั๋วเครื่องบินให้คีย์มาหาแม่ดีกว่า ถ้าคีย์ต้องอยู่บ้านคนเดียว”)

     

                “ปีนี้ผมมีเพื่อนฉลองด้วยแล้วล่ะครับแม่ ไม่ต้องเป็นห่วงผมนะครับ” ถึงแม้ว่าแม่จะไม่ได้ฉลองกับคีย์มาหลายปี แต่แม่ก็โทรมาหาคีย์ก่อนเป็นคนแรกทุกปีเพราะห่วงว่าคีย์จะต้องอยู่คนเดียว แต่ปีนี้คีย์มีเพื่อนอยู่ด้วยแล้ว

     

                (“จ้าๆ เที่ยวให้สนุกนะ ตอนนี้แม่อยู่อิตาลี คีย์อยากได้อะไรหรือเปล่า”)

     

                “อยากให้แม่กลับมาอยู่บ้านกับผมในวันปีใหม่จัง” คีย์รู้ว่าขออะไรยากเกินไปที่แม่จะให้ได้

     

                (“คีย์หัดอ้อนแม่แล้วหรอเนี่ย น่ารักจริงๆเลย ไว้แม่จะพยายามทำตามคำขอของคีย์ให้นะ ถ้าทำไม่ได้ก็จะกลับไปหาคีย์ให้เร็วที่สุดเลย”)

     

                “ผมล้อเล่นน่ะครับ ถ้าแม่ยุ่งก็ไม่ต้องพยายามหรอกครับ”

     

                (“คีย์อยากคุยกับพ่อไหม เดี๋ยวแม่ปลุกให้”)

     

                “ไม่เป็นไรครับแม่ พ่อคงจะอยากนอนต่อมากกว่า”

     

                (“จ้าคีย์ แม่คิดถึงคีย์นะ”)

     

                “ครับแม่ ผมก็คิดถึงแม่นะครับ แล้วก็คิดถึงพ่อด้วย แม่รีบวางเถอะครับ ค่าโทรศัพท์มันแพง” พอพูดลากันจบ คีย์ก็วางสายลง หันไปเห็นจินกิยืนอยู่หน้าประตูห้องครัวพอดี

     

                “อ้าวจินกิ เราทำให้ตื่นหรือเปล่า” คีย์นึกว่าที่จินกิตื่นเพราะตัวเองคุยโทรศัพท์เสียงดัง

     

                “ได้ยินเสียงลูกที่น่ารักคุยกับคุณแม่ฉันก็เลยตื่นน่ะ แล้วก็.. ได้กลิ่น.. ไหม้ๆ” จินกิทำจมูกฟุดฟิด คีย์ก็นึกได้ว่าทอดไข่ดาวเอาไว้ เลยรีบวิ่งไปปิดแก๊ส

     

                “ขอโทษทีนะ ที่ทำให้ตื่น”

     

                “ตื่นเช้าจังนะคีย์ เดี๋ยวฉันช่วยทำอาหารเช้าดีกว่า มีกระทะอีกไหมคีย์ ฉันจะช่วยทอดไส้กรอกให้” จินกิอาสาจะช่วยคีย์ทำอาหารเช้า เพราะไม่งั้นคีย์ก็ต้องทำทั้งหมดนี่ระหว่างที่ทุกคนกำลังนอนอยู่ ซึ่งมันเยอะมาก

     

                “จินกิไปอาบน้ำดีกว่านะ พอจินกิอาบเสร็จเราก็คงทำเสร็จพอดี เหลืออีกไม่เยอะหรอก” คีย์บอกให้จินกิไปอาบน้ำ เพราะอาหารที่จะทำเหลืออีกไม่เยอะ แถมพอกะๆเวลาดู จินกิอาบน้ำก็คงใช้เวลาพอๆกับทำอาหารที่เหลือ จินกิก็เลยเดินขึ้นไปอาบน้ำตามคำบอกของคีย์

     

     

     

     

                “พรุ่งนี้ก็ต้องไปเรียนแล้ว แย่จัง” จินกิบ่นกับคีย์ระหว่างนั่งทานอาหารเช้ากันอยู่สองคน เพราะมินโฮ แทมิน จงฮยอนก็ยังคงหลับอยู่

     

                “เพิ่งรู้ว่าจินกิไม่ชอบไปโรงเรียนนะเนี่ย” เพราะปกติจินกิก็ดูเหมือนเด็กเรียนอยู่หน่อยๆ เลยแปลกใจที่ดูเหมือนจะบอกว่าไม่ชอบไปโรงเรียน

     

                “ก็มันหนาวนี่คีย์ อยากนอนอยู่บ้านมากกว่า” นอกจากหิมะจะตกเดินทางลำบากแล้ว อากาศหนาวก็ลำบากด้วยเหมือนกัน

     

                “นั่นสินะ พอจินกิพูดอย่างนี้เราก็ชักขี้เกียจมั่งแล้วล่ะ” เป็นครั้งแรกที่คีย์รู้สึกขี้เกียจไม่อยากไปโรงเรียนเลยนะเนี่ย

     

                “มีแค่เราสองคนนั่งกินข้าวเช้าด้วยกันตอนที่หิมะตก อ่า มีความสุขจัง ฉันจะรับบทเป็นคุณสามีลีจินกินั่งกินข้าวกับคุณภรรยาคิมคีย์ที่ตื่นมาทำอาหารเช้าให้” จินกิพูดพร้อมกับยิ้มและหัวเราะออกมา คีย์ก็ยิ้มตอบเพราะมุขที่จินกิเล่น

     

                “จินกิ จินกิว่ามันแปลกไหมที่พี่ดงเฮกับพี่คิบอมเขาเป็นแฟนกันน่ะ” พอจินกิพูดถึงเรื่องที่ผู้ชายสองคนรักกัน คีย์ก็ถามคำถามที่ค้างคาใจมาได้สักระยะนึงแล้ว

     

                “ทำไมล่ะคีย์ ไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้นหรอ”

     

                “ก็ผู้ชายกับผู้ชายเป็นแฟนกันนะจินกิ จินกิว่ามันไม่แปลกหรอ” สำหรับคีย์เรื่องอย่างนี้มันแปลกมาก

     

                “ก็.. จะว่าแปลกไหมมันก็แปลกหรอกนะคีย์ แต่ว่าถ้าคนเราจะรักกันกับเพศไหน ถ้ามันคือความรัก มันก็คงห้ามใจตัวเองไม่ได้หรอกนะคีย์”

     

                เหมือนกับที่ตอนนี้.. จินกิก็เป็นอยู่

     

                “จินกิน่ะพูดดีมากเลยนะ พูดเหมือนคนกำลังมีความรักเลย” คีย์พูดแซวจินกิ จินกิก็ได้แต่ยิ้ม

     

                “พูดเล่นๆเอง แสดงว่ามีจริงๆหรอเนี่ย กับมินโฮหรือว่าจงฮยอนล่ะ จินกิ 55” คีย์พูดเล่นกับจินกิ เห็นพูดถึงเรื่องว่ารักกับเพศไหน แค่รักก็พอ คนที่เข้าข่ายสำหรับเรื่องนี้ระหว่างจินกิ ก็คงจะเป็นเพื่อนที่คบกันมานานอย่างมินโฮหรือจงฮยอนละมั้ง

     

                “คีย์อ่า..”

     

                “ขอโทษที่ล้อเล่นอย่างนั้นนะ ว่าแต่.. จินกิสารภาพกับเขาหรือยังล่ะ” คีย์ไม่เลือกจะถามว่าเป็นใคร เพราะคงจะก้าวก่ายเกินไป แค่ถามว่าเขาคนนั้นของจินกิรู้หรือยังจะดีกว่า

     

                “ยังหรอกคีย์ ฉันไม่กล้าขนาดนั้นหรอก ฉันก็คงทำได้แค่แอบมองเขา เวลาคุยด้วยแล้วมีความสุขก็พอแล้ว”

     

                “ถ้าจินกิสารภาพกับเขา เขาคงไม่ปฏิเสธจินกิหรอก ก็จินกิบอกว่าเวลาคุยด้วยแล้วมีความสุข แสดงว่าถ้าอยู่ใกล้ๆจินกิแล้วเขาก็คงจะมีความสุข มีคนอย่างนี้อยู่ด้วยน่ะดีออก” คีย์แสดงความคิดเห็นเพื่อให้กำลังใจจินกิให้กล้า

     

                “จริงหรอคีย์”

     

                “อื้ม”

     

                “สักวันถ้าฉันกล้าพอ ฉันจะลองสารภาพกับเขาดูนะคีย์” จินกิยิ้มตอบคีย์แล้วก็นั่งทานอาหารเช้าต่อ

     

     

     

              คีย์คิดอย่างนั้นจริงๆใช่ไหม ที่คีย์บอกว่าจะไม่ปฏิเสธฉัน.. เพราะว่าคนๆนั้นของฉัน คือ คีย์

     

     

     

                           

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

     

                จงฮยอนเริ่มรู้สึกตัว เพราะรู้สึกตัวก็ลืมตาขึ้นมา พบว่าคนที่นอนอยู่ข้างๆตัวเองอย่างคีย์และจินกิตื่นแล้วก็ลุกไปแล้ว เห็นก็แต่แทมินที่นอนอยู่ในระยะสายตาตัวเอง จงฮยอนลุกขึ้นมานั่งบิดขี้เกียจก็เลยเห็นว่ามินโฮก็ยังนอนอยู่ด้วยเหมือนกัน

     

                แถมยังนอนอยู่ข้างๆแทมินอีกด้วย

     

              ถ้าเราตื่นแล้วออกไป ในห้องจะมีแค่ไอ้โฮกับแทมินนอนอยู่ด้วยกันสองคน เราควรจะเป็นเพื่อนที่ดี! เป็นกามเทพในวันคริสมาสต์!’

     

                พอคิดได้อย่างนั้นแล้ว จงฮยอนก็เลยจัดการคิดการจัดฉากเพื่อสร้างความโรแมนติกให้กับทั้งสองคน

     

                จงฮยอนเลยเอาถุงเท้าที่ซื้อมาจะเอาไปแขวนต้นคริสมาสต์แต่ไม่ได้ใช้ แล้วจัดการยัดของหวานที่แทมินชอบใส่ลงไปในถุงเท้า ให้เข้าใจว่ามีใครเอาของขวัญมาให้ตอนนอนอยู่เหมือนที่ในการ์ตูนชอบทำ ซึ่งจากฉากที่จงฮยอนจะจัดให้ ก็คงจะทำให้แทมินเข้าใจว่ามินโฮเป็นคนให้ แล้วอาจจะเกิดมีซัมติงขึ้นมาก็ได้!

     

                โอกาสนี้นอกจากจะช่วยมินโฮแล้ว ยังทำให้แทมินไม่รู้ตัวอีกด้วยว่าตัวเองเป็นบัดดี้

     

                จงฮยอนเอาถุงเท้าที่ใส่ของขวัญยัดใส่ไว้ในมือแทมิน แล้วเดินอ้อมไปทางด้านมินโฮ เพื่อจะให้เอามือมินโฮไปจับมือของแทมิน เหมือนว่าเป็นคนให้ของขวัญนั้น แต่จงฮยอนเอื้อมมากไปหน่อย..

     

                หน้าเลยคว่ำไปโดนหน้าแทมิน ส่วนตัวก็พาดอยู่บนตัวของมินโฮ

     

                แทมินและมินโฮรู้สึกตัวพร้อมๆกัน เมื่อมินโฮรู้สึกว่าอะไรหนักๆมาทับตัวเอง ส่วนแทมินก็รู้สึกว่ามีอะไรมาอยู่ใกล้ๆหน้าตัวเอง พอมินโฮลืมตาขึ้นมาหันไปมองก็เห็นหน้าจงฮยอนกับแทมินใกล้กันในระยะสุดท้าย!

     

                “อะ..ไอ้จง!!  / ไอ้พี่จงฮยอน!

     

                แทมินเอาหัวโขกจงฮยอนให้เอาหน้าออกไปไกลๆจากหน้าตัวเอง ส่วนมินโฮก็ผลักตัวจงฮยอนที่นอนทับตัวเองอยู่ให้ออกไป

     

                “พี่จงฮยอน.. จะทำอะไรผมเนี่ย!” แทมินโวยวายใส่จงฮยอนถึงเรื่องเมื่อกี๊ใหญ่

     

                “พี่เนี่ยนะจะทำอะไรแทมิน” จงฮยอนชี้มาที่ตัวเองแล้วขำกับคำพูดของแทมิน

     

                “แสดงว่า.. พี่จงฮยอนจะทำพี่มินโฮอ่ะดิ ทำไมทำตอนเช้าๆล่ะ” ถ้าไม่ทำตัวเอง ก็คงจะทำมินโฮที่เมื่อกี๊ออนท๊อปอยู่ละมั้ง

     

                “บ้าหรือเปล่าแทมิน คิดแต่ละอย่าง พี่เนี่ยนะจะทำอะไรไอ้โฮ? ถ้าพี่จะทำคงทำมันมาหลายปีแล้วล่ะ”

     

                “เห้ย เรื่องจริงดิเนี่ย คิดมาหลายปีแล้วหรอ” แทมินทำเป็นตกใจกับคำพูดของจงฮยอนที่สื่อไปว่า...กับมินโฮ

     

                “ถ้างั้นเมื่อกี๊มึงจะทำอะไรอ่ะ หรือว่า.. มึงจะทำอะไรแทมินจริงๆ” มินโฮถามถึงสิ่งที่จงฮยอนทำ

     

                “กู? ไม่ใช่ว่า...” จงฮยอนไม่ออกเสียงประโยคสุดท้าย แต่ขยับปากให้มินโฮรู้เรื่องแทน

     

              ไม่ใช่ว่ามึงหรอกหรอ ที่จะทำอ่ะ

     

                มินโฮเลยใช้หมอนของตัวเองหยิบขึ้นมาเหวี่ยงไปที่หัวของจงฮยอน แต่ตอนเหวี่ยงดันไปโดนหน้าแทมินเข้าให้นี่สิ

     

                “อ้าวไอ้โฮ” จงฮยอนไม่ยอมเลยใช้หมอนที่อยู่ใกล้ๆอีกใบเหวี่ยงกลับ.. แต่มินโฮเอนหัวหลบไปอยู่ใกล้ๆแทมิน ทำให้แทมินโดนหมอนจากจงฮยอนอีกหนึ่งที แทมินเลยใช้หมอนของตัวเองฟาดเข้าที่หัวของมินโฮที่อยู่ใกล้กว่าไปหนึ่งที แล้วลุกไปฟาดใส่จงฮยอนอีกหนึ่งที

     

                “อะไรอ่า แทมิน”

     

                “หมอนมันมาโดนผมอ่ะ!

     

                จงฮยอนไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวว่าไปโดนแทมินอะไรตอนไหน คิดว่าแค่อยากแกล้งเล่นๆ เลยใช้หมอนในมือตัวเองตีแทมินกลับ ส่วนมินโฮก็เห็นจงฮยอนตีแทมิน ยอมไม่ได้เลยใช้หมอนในมือตัวเองตีจงฮยอน แต่ก็ดันไปโดนแทมินเข้าอีกจนได้

     

                คราวนี้เลยกลายเป็นสงครามหมอนของสามคนที่ดูจะฆ่ากันตายซะให้ได้ เพียงเพราะแค่จงฮยอนคนเดียว

     

                ตอนนั้นเองจงฮยอนก็บังเอิญคิดอะไรดีๆขึ้นมาได้อีก จึงอาศัยตอนที่มินโฮกับแทมินกำลังตีกันอยู่ ผลักมินโฮ ทำให้มินโฮที่ไม่ได้ตั้งตัวล้มเซไปทับแทมิน..

     

               

                จงฮยอนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้มองออกไปนอกหน้าต่าง ก็เห็นว่าคีย์กับจินกิกำลังเล่นปาหิมะกันอยู่ เลยรีบทิ้งหมอนแล้ววิ่งออกไปจากห้องนั่งเล่น ปล่อยให้มินโฮอยู่กับแทมินสองคน.. อีกแล้ว

     

                “ตกลงว่าพี่คิดอะไรกับผมเนี่ยพี่มินโฮ!” แทมินโวยวายใส่มินโฮที่นอนทับตัวเองอยู่ มินโฮรีบลุกขึ้นมาทันที

     

                “ไอ้จงมันผลักพี่ คิดว่าพี่ตั้งใจล้มหรือไง”

     

                “พี่จงฮยอนเนี่ยนะจะผลักพี่มินโฮ? ทำไมต้องทำอย่างนั้นด้วย เขาจะให้ผมกับพี่กดกันหรือไง” แทมินก็คิดไปนู่น จงฮยอนอาจจะคิดอย่างนั้นก็ได้มั้ง..

     

                “พูดอย่างนี้อยากโดนพี่กดหรอจ๊ะ แทมิน” มินโฮถามแทมินแก้เขินที่แทมินพูดเมื่อครู่ 

     

                แทมินฟังแล้วควรจะเขินหรือควรจะฆ่ามินโฮดี?

     

                “ถ้าเกิดพี่ทำให้ผมชอบพี่ขึ้นมาได้ ผมอาจจะยอมพี่ก็ได้” แทมินก็พูดไปอย่างนั้นแหละ

     

              ชาตินี้อย่าได้หวังว่าผมจะชอบพี่เลย ไม่มีทาง!!’

     

                “พูดแล้วนะ ห้ามคืนคำนะ” เพราะคำพูดของแทมิน ดูเหมือนว่าจะให้ความหวังมินโฮอยู่ไม่น้อย.. ไม่ใช่ความหวังที่จะได้กดแทมิน แต่ความหวังที่แทมินยอมเปิดโอกาสให้ตัวเองจีบต่างหาก

     

                “คนอย่างผมพูดแล้วไม่คืนคำแน่นอน”

     

                “จำเอาไว้ให้ดีล่ะ แล้วสักวันพี่จะกลับมาทวงสัญญา 555” ถึงมินโฮจะพูดเหมือนกับว่าจะทำให้แทมินชอบตัวเองให้ได้ แต่ในใจกลับคิดว่าตัวเองคงจะไม่ทำ เพราะคงไม่กล้าพอ

     

              ‘ผมมั่นใจในคำพูดของผม เพราะผมไม่ได้ชอบพี่แบบนั้นแน่นอน!!’

     

              แทมินพูดไปก็คงเพราะพูดเล่นๆไม่ได้คิดอะไร

     

                “ผมจะบอกพี่คีย์ ที่พี่พูด ถ้าพี่คีย์ฟังเขาไม่ชอบพี่แน่ๆ” แทมินหลอกให้มินโฮพูด เพราะจะได้ใช้เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการกำจัดมินโฮ

     

                “คิดว่าคนไกลตัวอย่างแทมิน กับเพื่อนใกล้ตัวอย่างพี่ พี่คีย์จะเชื่อใครมากกว่ากัน”

     

                “ผมไม่ใช่คนไกลตัวนะ! ผมเป็น...” แทมินจะเถียงมินโฮว่าไม่ใช่คนไกลตัว แต่จะเถียงว่าเป็นอะไรกับคีย์ แทมินก็ไม่รู้จะเถียงว่ายังไง

     

                “เป็น..”

     

                “เป็นน้องชาย ซึ่งมันสำคัญกว่าเพื่อน!” ตอนนี้เป็นน้องชายไปก่อนก็ได้ ยังไงมันก็สำคัญกว่าเพื่อน

     

                “น้องชายของเพื่อน.. ซึ่งมันสำคัญน้อยกว่าเพื่อนต่างหาก” มินโฮแก้ไขข้อความของแทมินซะใหม่

     

                “เออๆ จะเป็นอะไรก็ไม่สำคัญแล้วก็ได้วะ เอาเป็นว่าต้องเชื่อผมมากกว่าพี่แน่ๆก็พอ”

     

                “แทมินกล้าบอกพี่คีย์หรือไง ว่าแทมินสัญญากับพี่ว่าถ้าพี่ทำให้แทมินชอบได้ แทมินจะให้พี่...” มินโฮไม่พูดต่อว่าคำนั้นคืออะไร เพราะพูดไปตัวเองก็คงเขินอยู่ แทมินฟังก็นึกได้ว่ามันก็จริง แทมินจะเล่าให้คีย์ฟังได้ยังไง เพื่อจะเปลี่ยนเรื่องคุย แทมินบังเอิญหันไปเห็นถุงเท้าที่ใส่ลูกอมกับของหวานไว้เต็ม แทมินจึงรีบหยิบมันขึ้นมาดูแล้วยิ้มดีใจทันที

     

                “ว๊าวว สุดยอดเลย ใครเอามาวางไว้เนี่ย” แทมินหยิบของหวานในถุงเท้าออกมา แล้วชูขึ้นมามองเหมือนเด็กๆ

     

                “เขาให้แทมินหรือไง ไปหยิบมาดูได้ไง” มินโฮพูดกับแทมินที่ไม่รู้ไปหยิบของใครมาหรือเปล่า

     

                “ให้ผมดิ เพราะว่า.. มันเหมือนกับที่ซื้อมาให้ตอนวันเกิดผมเลยอ่ะ” แทมินเพิ่งจะสังเกตว่าของหวานในถุงเท้า มันเหมือนกับที่มีคนเอามาให้ตอนวันเกิดเลย ต่างกันก็ตรงที่ไม่มีเค้กนี่ล่ะ

     

                มินโฮรีบถุงเท้าออกมาจากมือแทมิน เลยเอาของที่อยู่ในถุงเท้าออกมาดูว่าที่แทมินพูดมันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ซึ่งมันก็ใช่จริงๆ

     

                “อะไรๆพี่ อย่ามาอิจฉาผม เอาของผมคืนมาเลย” แทมินรีบฉกถุงเท้าที่อยู่ในมือมินโฮกลับมาที่อยู่ๆก็เอาไปจากมือตัวเอง

     

                “ให้ของขวัญคริสมาสต์ ให้แค่เนี้ย?” มินโฮแอบบ่นกับคำให้ ที่จริงแล้วไม่พอใจที่ใครมาให้ของขวัญเหมือนตอนที่ตัวเองเคยให้แทมินต่างหาก

     

                “สำหรับผมมันไม่ใช่แค่เนี้ย แต่มันเป็นสุดยอดของขวัญเลย! อยากรู้จังใครเป็นคนให้เมื่อตอนวันเกิด” พอแทมินพูดจบก็แกะช็อกโกแลตกินทันที มินโฮได้ฟังก็อมยิ้ม

     

     

              แสดงว่าที่เราให้ไปตอนวันเกิด มันก็คือสุดยอดของขวัญเลยสินะ สุดยอดของขวัญคือของขวัญของพี่ใช่ไหม?

     

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

               

     

                “คีย์รุนแรง! ฉันหนาวนะ” จินกิพูดกับคีย์ที่เพิ่งปาหิมะมาใส่ แถมด้วยการเอาหิมะไปป้ายหน้าคีย์กลับ

     

                “ก็จินกิแกล้งเราก่อนนี่ เราก็หนาวเหมือนกันนะ” คีย์ไม่ทำอะไรใครก่อน ถ้าไม่มีใครมาทำ.. แต่ปกติคีย์ก็ไม่ได้โต้ตอบใครนะ จินกิแค่คนเดียว

     

                “ถ้างั้นคีย์จะโกรธฉันไหมล่ะ”

     

                “อยากโกรธอยู่หรอกนะ จินกิ..”

     

                “งั้นเรามาโกรธกันดีกว่า เผื่อว่าเราจะอบอุ่นขึ้น” ต่างคนก็ต่างหนาว ถ้าโกรธก็จะทำให้ร้อน และอบอุ่นขึ้น

     

                “ก็สัญญาไว้แล้วนี่นา ว่าจะไม่โกรธจินกิน่ะ” พอคีย์พูดจบ ทั้งสองคนก็จัดการกวาดหิมะกันต่อ

     

     

                พอยืนๆกวาดอยู่ หิมะจากใครสักคนก็ถูกโปะเข้าที่แก้มคีย์จากด้านหลัง

     

                “อ๋า~ เย็น!” คีย์เผลอพูดเสียงน่ารักๆออกมา ทำเอาคนแกล้งได้ใจทำอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ก็ทำให้คีย์หันหลังกลับมามอง

     

                “เมื่อกี๊น่ารักมากเลยคีย์!” จงฮยอนพูดแล้วยิ้มกับคีย์

     

                “อย่าพูดกับเราว่าน่ารักนะ เราไม่ชอบให้ใครชมอย่างนี้”

     

                “ถ้างั้น.. คีย์เซ็กซี่ อ่า~” จงฮยอนพูดพร้อมกับทำท่าเซ็กซี่ที่คีย์ทำเมื่อวาน ทำให้คีย์เผลอใช้มือไปตีจงฮยอน ทำให้จงฮยอนที่พยายามจะหลบลื่นหิมะล้มลงไปนอน ทำให้คีย์หัวเราะจงฮยอนที่นอนล้มอยู่

     

                “เป็นงี้ได้ยังไงกันคีย์” จงฮยอนไม่ค่อยพอใจที่ทำไมตัวเองถึงดันมาล้มได้

     

                “เราผิดหรอเนี่ยจงฮยอน” ไม่รู้ว่าสรุปแล้วตัวเองผิดจริงๆหรือเปล่า

     

                “คีย์ไม่ผิดหรอก.. ช่วยดึงฉันหน่อยสิคีย์ ลุกไม่ไหว” จงฮยอนบอกให้คีย์ช่วยดึงตัวเองออกจากกองหิมะตรงพื้น คีย์ก็ยื่นมือไปให้จงฮยอนจับจะได้ดึงขึ้นมา..

     

                แต่กลับกลายเป็นว่าคีย์ถูกจงฮยอนดึงให้ล้มลงไปนอนด้วยต่างหาก

     

                “จงฮยอน!” คีย์พูดชื่อจงฮยอนออกมาพร้อมกับหัวเราะที่หลงกลจงฮยอน

     

                “อ้าวไอ้จง คีย์ ลงไปนอนทำอะไรที่หิมะอ่ะ ไม่หนาวกันหรือไง” จินกิที่เพิ่งหันมาจากการกวาดหิมะอีกด้านหันมาเห็นจงฮยอนกับคีย์นอนอยู่บนหิมะ

     

                “ตอนนี้กูค่อนข้างอบอุ่นมากเลยมึง เพราะว่ากูนอนอยู่ใกล้ๆคีย์ แอร๊ยยย” จงฮยอนตะโกนบอกจินกิ พร้อมกับเอามือไปกอดคีย์ที่นอนอยู่ข้างๆเพราะความหนาว

     

                จงฮยอนน่ะอบอุ่น แต่คีย์ร้อน.. ร้อนมาก!!

     

                “เห้ยๆไอ้จง แกจะกอดคีย์ไม่ได้นะเว้ย!!” จินกิเห็นจงฮยอนกอดคีย์เลยรีบวิ่งไปที่ทั้งสองคน แต่ดันมาลื่นล้มกับหิมะเอาซะก่อน จงฮยอนเห็นก็เลยหัวเราะออกมา แล้วก็คลายกอดคีย์ ดันตัวขึ้นมายืน

     

                คีย์กำลังช็อกกับที่จงฮยอนทำ ตอนนี้คีย์เลยขยับตัวไม่ได้เลย

     

                “คีย์ ลุกขึ้นมาเถอะ นอนนานๆเดี๋ยวจะเป็นหวัด” จงฮยอนยื่นมือไปให้คีย์จับ แต่คีย์กลับไม่ตอบ

     

                “คีย์งอนที่ฉันแกล้งให้คีย์ล้มหรอ” จงฮยอนคิดว่าที่คีย์ไม่ตอบ เพราะคีย์โกรธตัวเองที่ไปดึงให้ล้มลงมานอนที่หิมะด้วย

     

                “หรือว่าคีย์แข็งตายแล้ว Oh! My God!” จงฮยอนพูดพร้อมกับหัวเราะออกมาดังๆ จินกิเลยรีบลุกขึ้นมาแล้วผลักคีย์ให้ขึ้นมานั่งแล้วค่อยๆยืน

     

                “ขอบใจนะจินกิ จงฮยอนอ่า..” คีย์เรียกชื่อจงฮยอนอย่างไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ เพราะจงฮยอนทำให้คีย์เขิน!!

     

                “โอ๋ๆคีย์อย่างอนฉันนะ.. อ๊ากก ไอ้หู้ กูเย็น!!” เพื่อจะง้อคีย์ จงฮยอนเลยไปกอดคีย์อีกที = =’ จินกิหมั่นไส้จงฮยอนมากเลยใช้พลั่วตักหิมะสาดใส่จงฮยอนเต็มๆ

     

                “สมน้ำหน้า มึงมั่วเกินไปแล้ว!

     

                “คิดว่ากูจะยอมมึงหรือไง ไอ้หู้” จงฮยอนเอาเอาพลั่วตักหิมะมาแล้วสาดหิมะใส่คืน สงครามหิมะก็เลยเริ่มขึ้นกับทั้งสองคน

     

                “คีย์ช่วยฉันด้วย!!” จินกิขอให้คีย์ช่วยอีกแรง คีย์ก็ได้แต่เกาหัวแล้วยิ้มให้

     

                “ฝันไปมึงไอ้หู้ คีย์ต้องช่วยกูต่างหาก” จงฮยอนก็ไม่ยอมจินกิเหมือนกัน คีย์ต้องเป็นพวกตัวเองต่างหาก

     

                “เอ่อ..” คีย์ไม่รู้จะอยู่ฝ่ายไหนก็เลยตักหิมะใส่ทั้งจินกิและจงฮยอน อยู่ๆจินกิกับจงฮยอนก็นิ่งและมองหน้ากัน แล้วพยักหน้าให้กัน แล้วหันไปแกล้งสาดหิมะใส่คีย์แทน

     

                “ได้ไงกัน จินกิ จงฮยอน” คีย์พยายามสาดหิมะใส่คืนทั้งสองคน แต่ทั้งสองคนก็ยังไม่ยอม และยังคงแกล้งกันต่อไป

     

     

                เช้าวันคริสมาสต์วันนี้ของทั้งห้าคน เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุขจริงๆ

                วันนี้คงมีอะไรดีๆรอทั้งห้าคนอยู่

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

     

                วันนี้ทั้งวันทั้งห้าคนก็เที่ยวกันที่ถนนคนเดินอย่างสนุกสนาน แต่ละคนต่างก็แอบซื้อของขวัญให้บัดดี้ของตัวเองกัน โดยที่แต่ละคนก็แอบซื้อกันสุดๆ

     

                จนกระทั่งที่ถึงเวลาค่ำก็ไปกินอาหารเย็นกันที่ร้านอาหารที่มีส่วนลดสำหรับวันคริสมาสต์ และฉลองกันอย่างมีความสุข พอกินกันเสร็จก็ไปเดินเล่นกันต่อ โดยที่มินโฮ จินกิ และจงฮยอนแวะเล่นเกมด้วยกัน ส่วนแทมินก็เลือกจะไปเดินเล่นกับคีย์ เพราะคีย์ไม่ค่อยชอบเล่นเกม

     

                “แทมินไม่อยากเล่นเกมกับสามคนนั้นหรอ” คีย์ถามแทมินที่มาเดินเล่นกับตัวเอง

     

                “ก็.. ไม่งั้นพี่คีย์ก็เบื่อน่ะสิ ถ้ามาเดินคนเดียว” ความจริงแล้วที่แทมินไม่เล่นเกมกับมินโฮ จินกิ และจงฮยอน เพราะทั้งสามคนเล่นเกมเกี่ยวกับผีต่างหาก แทมินก็เกลียดไอ้ความกลัวผีของตัวเองซะจริงๆ

     

                “วันนี้คล้ายๆเมื่อวานเลย ที่เราสองคนมาเดินด้วยกัน” เพราะมาเดินด้วยกันสองคน ทำให้คีย์คิดถึงเมื่อวาน

     

                “วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวานแน่ๆพี่คีย์” เมื่อวานแทมินรู้สึกผิดที่ทำให้คีย์เหนื่อย เพราะฉะนั้นวันนี้แทมินต้องทำให้คีย์มีความสุขให้ได้

     

                “แทมิน เข้าร้านนี้ดีกว่า” พอเดินๆกันไปเรื่อยๆ คีย์กับแทมินก็มาถึงร้านขายของสารพัดอย่างที่ค่อนข้างจะมีแบรนด์และมีสไตล์สำหรับวัยรุ่นอยู่ พอเดินเข้าไปก็เจอของที่ถูกใจแทมินกับคีย์เยอะแยะมากมาย

     

                “ของมันแพงมากเลยนะเนี่ย” คีย์อดจะบ่นไม่ได้ถึงราคาของที่ค่อนข้างจะแพง ถึงแม้คีย์จะมีเงินพอที่จะซื้อ แต่มันก็ยังแพงอยู่ดี

     

                “นั่นสินะพี่คีย์” แทมินเห็นด้วยกับคีย์ แทมินลองหยิบสมุดขึ้นมาดูเล่นๆเล่มนึง เห็นราคาเกือบสามหมื่นวอน เลยวางลงอย่างเหนื่อยใจกับราคาที่เห็น

     

                “ถ้าแทมินอยากได้อะไรก็ลองบอกนะ ถ้าพี่ซื้อให้ได้ก็จะซื้อให้” คีย์ไม่อยากบอกว่าอยากได้อะไรก็จะซื้อให้ เพราะของบางอย่างมันแพงเกินกว่าที่คีย์จะซื้อได้จริงๆ

     

                “งั้นเดินดูเล่นๆก็แล้วกันนะ พี่คีย์” แทมินกับคีย์แยกย้ายกันเดิน เพราะส่วนใหญ่คีย์จะเดินดูของอะไรที่มันเป็นสีชมพู ส่วนแทมินอยากเดินดูของทั่วๆไปในร้านมากกว่า

     

                “จะซื้ออะไรให้พี่คีย์ดีนะ..” แทมินบ่นพึมพำระหว่างเดินดูของในร้าน ทั้งๆที่ในร้านมีของเยอะแยะหลายประเภทและก็สวยๆทั้งนั้น แต่แทมินไม่รู้ว่าซื้ออะไรให้ถึงจะประทับใจคีย์ แทมินก็ไม่รู้ว่าของขวัญที่เคยซื้อให้คีย์ตอนวันเกิด คีย์ชอบมันหรือเปล่า แทมินก็ไม่ได้ถาม จนแทมินเดินมาถึงมุมๆนึงที่เป็นมุมที่มีของประเภทนึงวางเรียงอยู่เต็มไปหมด ความจริงแทมินไม่เคยสนใจมันเลย แต่สำหรับในตอนนี้..

     

                แทมินคิดว่ามันเป็นสิ่งที่แทมินอยากจะให้คีย์ในวันคริสมาสต์ปีนี้ซะแล้ว

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

     

                “จะให้เดินกลับไปหาไหม.. อืม.. งั้นเจอกันที่ป้ายรถเมล์ละกันนะ”

     

                คีย์วางสายจากมินโฮที่โทรมาถามว่าอยู่ที่ไหนหลังจากแยกกันระหว่างรอแทมินออกมาจากร้าน สักพักแทมินก็เดินออกมาจากร้านพร้อมกับถุงเล็กๆ

     

                “ซื้ออะไรมาหรอแทมิน ถ้าอยากได้ก็น่าจะบอก พี่จะได้ซื้อให้เป็นของขวัญวันคริสมาสต์ไง”

     

                “พี่คีย์ซื้อมันให้ผมไม่ได้หรอก มันเป็นความลับ” เพราะของที่แทมินซื้อมา ตั้งใจจะให้คีย์ เพราะฉะนั้นคีย์จะซื้อให้ตัวเองไม่ได้

     

                “ไปรอสามคนนั้นที่ป้ายรถเมล์กันเถอะ เดี๋ยวไปเจอกันที่นั่น”

     

     

     

     

                คีย์กับแทมินเดินมาถึงป้ายรถเมล์ก่อน เลยนั่งรอทั้งสามคนที่ป้าย แทมินคิดว่าตอนนี้ได้โอกาสที่จะให้ของขวัญวันคริสมาสต์กับคีย์แล้ว

     

                “พี่คีย์ ผมให้” แทมินยื่นถึงที่เพิ่งซื้อมาให้กับคีย์

     

                “ให้พี่หรอ?”

     

                “ใช่ ผมให้พี่คีย์ สุขสันต์วันคริสมาสต์นะครับ” แทมินให้พร้อมกับอวยพรคริสมาสต์อีกครั้ง คีย์ก็ยิ้มและรับมา

     

                “ขอบใจนะแทมิน” พอรับมาคีย์ก็เปิดถุงดูว่าแทมินให้อะไร คีย์หยิบของออกมาจากถุงก็ต้องแปลกใจ เพราะข้างในถุงมีแต่ที่คั่นหนังสือลายต่างๆเยอะแยะเต็มไปหมด

     

                “ที่คั่นหนังสือหรอ เยอะมากเลยนะเนี่ย” คีย์ดูที่คั่นหนังสือลายต่างๆในมือที่มีเยอะจนคีย์นับไม่ไหว

     

                “พี่คีย์รู้ไหมว่าผมซื้อมาทั้งหมดกี่อัน” แทมินให้คีย์ทายเล่นๆ เพราะคีย์คงทายไม่ถูกแน่ๆ

     

                “อืม.. หนึ่งพันหรือเปล่า” คีย์เห็นมันเยอะขนาดนี้ เลยทายจำนวนมากๆไว้เลย แทมินส่ายหัวกับคำตอบของคีย์ คีย์ทำท่านึกแล้วก็ตอบออกมาอีก

     

                “เก้าร้อยเก้าสิบเก้า” เลขนี้สวยคีย์เลยทาย แต่มันก็ยังไม่ถูกอยู่ดี

     

                “ผมซื้อมาสามร้อยหกสิบห้าอัน” แทมินบอกคำตอบที่ถูกให้กับคีย์

     

                “ให้พี่ใช้มันทุกวันเลยหรอเนี่ย สามร้อยหกสิบห้าวันพอดี” คีย์สันนิษฐานว่าคงเป็นเพราะหนึ่งปีมีสามร้อยหกสิบห้าวัน คีย์อ่านหนังสือทุกวัน แทมินเลยซื้อมันให้กับคีย์

     

                “พี่คีย์ ผมมีอะไรจะบอกพี่คีย์ด้วยนะ”

     

                “บอกมาสิแทมิน” คีย์ตั้งตารอสิ่งที่แทมินจะบอกกับตัวเอง ไม่รู้ว่าแทมินจะบอกอะไรกับตัวเองกันนะ..

     

                “อยากรู้หรอพี่คีย์” แทมินอยากรู้ว่าคีย์อยากรู้หรือเปล่าว่าตัวเองจะบอกอะไร

     

                “อืม.. อยากสิ ก็แทมินบอกว่ามีอะไรจะบอกนี่นา”

     

                “ถ้าอยากรู้.. พี่คีย์ต้องรอนะ” แทมินจะยังไม่บอกสิ่งที่ตัวเองอยากบอกกับคีย์ในตอนนี้

     

                “ต้องรอด้วยหรอแทมิน นึกว่าจะบอกตอนนี้ซะอีก” คีย์ทำหน้าผิดหวังกับคำตอบของแทมิน

     

                “สามร้อยหกสิบห้าวัน พี่คีย์จะรอไหม”

     

                “สามร้อยหกสิบห้าวัน.. หนึ่งปีเลยหรอแทมิน” คีย์ตกใจกับจำนวนวันที่ต้องรอกับสิ่งที่แทมินจะบอก

     

                “ผมถึงได้ให้ที่คั่นหนังสือสามร้อยหกสิบห้าอันไงฮะ ก่อนพี่คีย์จะนอน ให้พี่คีย์ทิ้งที่คั่นหนังสือของผมวันละหนึ่งอัน พอพี่คีย์ทิ้งอันที่สามร้อยหกสิบห้าเมื่อไหร่ มันก็ถึงวันที่ผมจะบอกกับพี่คีย์”

     

                “น่าเสียดายจัง ต้องทิ้งของที่แทมินให้” คีย์หยิบที่คั่นหนังสือที่จะต้องทิ้งด้วยความเสียดาย

     

                “เพราะงั้นวันคริสมาสต์ปีหน้า เรามาเจอกันอีกนะ ถ้าพี่คีย์อยากฟังสิ่งที่ผมจะบอก”

     

                “ถ้างั้น.. วันคริสมาสต์ปีหน้า วันที่สามร้อยหกสิบห้า พี่จะมาฟังสิ่งที่แทมินจะบอกพี่นะ แทมินก็อย่าลืมก่อนนะ ว่าจะบอกอะไรน่ะ” คีย์เก็บที่คั่นหนังสือเข้าใส่ถุงอย่างเดิม

     

                “ไม่ลืมแน่ๆพี่คีย์ พี่คีย์ก็อย่าลืมสัญญาว่าปีหน้าเราจะมาด้วยกันอีกนะ” แทมินย้ำคีย์ถึงสัญญา คีย์ก็ยิ้มและพยักหน้าตอบแทมิน

     

     

     

     

               ‘มันต้องเป็นอะไรที่สำคัญมากเลยสินะ ถึงต้องให้พี่รอตั้งสามร้อยหกสิบห้าวัน เพราะงั้นพี่จะรอก็ได้ อยากรู้จังว่าแทมินจะบอกอะไร

     

              ‘ให้เวลาผมอีกหน่อยนะพี่คีย์ ผมสัญญาว่าสามร้อยหกสิบห้าวันข้างหน้า ผมจะทำให้พี่คีย์มั่นใจกับสิ่งที่ผมจะบอกพี่คีย์ให้ได้ พี่คีย์จะต้องมั่นใจในตัวผม ในหัวใจของผม





               
    To be continued...




                 - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

                 ตอนนี้อัพช้าเนอะ(ถ้าเทียบกับตอนอื่นๆ แต่ก็ไม่ช้ามากเนอะ)
                 อีกสามร้อยหกสิบห้าวันข้างหน้า ขอเชิญแฟนฟิคของไรเตอร์ทุกคนมาอ่านกันนะคะ ว่าแทมินจะบอกอะไรคีย์(อีกหนึ่งปีข้างหน้านี่จริงๆนะ! 555 ล้อเล่นค่ะ)

                 ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์นะคะ

                 11.12.12 - Lighteli

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×