ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] Love Shuffle (SHINee)

    ลำดับตอนที่ #13 : Love Shuffle : Chapter 13

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 345
      0
      24 พ.ย. 54

    Chapter 13

     

                “มึง..พูดเรื่องอะไร ไอ้จง” มินโฮอึ้งและตกใจกับคำถามของจงฮยอนที่ถามตัวเอง

     

                “กูถามมึงว่า มึงชอบแทมินใช่ไหม” จงฮยอนถามมินโฮซ้ำอีกครั้ง

     

                “ถะ..ถามบ้าอะไรของมึง กู..กูจะไปชอบแทมินได้ยังไง” มินโฮตอบแบบตะกุกตะกักนิดหน่อย ซึ่งแน่นอนว่าทำให้คนอย่างจงฮยอนจับได้อยู่แล้ว

     

                “ถ้ามึงไม่ได้ชอบแทมิน กูอยากรู้ว่าทำไมมือถือของมึงมีแต่รูปแทมิน แล้วกูว่ามันก็เป็นรูปที่แอบถ่ายด้วย ถ้ามึงไม่ได้ชอบ มึงจะมีรูปแทมินไว้เยอะขนาดนี้ทำไม” ถ้ามินโฮจะปฏิเสธ จงฮยอนก็ต้องรู้เหตุผลที่มินโฮต้องมีรูปแทมินในโทรศัพท์ไว้เยอะมากผิดปกติ

     

                ความลับที่มินโฮอยากจะเก็บไว้คนเดียว ที่มีมินโฮรู้แค่คนเดียว.. มันถึงเวลาที่จะมีคนอื่นรู้แล้วหรอ

     

                “มึงคิดถูกแล้วไอ้จง กูชอบแทมิน” มินโฮหนีจงฮยอนไม่พ้นอีกแล้ว จะโกหกไปยังไงก็คงไม่รอด จะโกหกใครก็ทำได้ทั้งนั้น ยกเว้นก็แต่จงฮยอนเท่านั้นที่มินโฮไม่เคยโกหกสำเร็จ เมื่อจงฮยอนได้ฟังคำตอบของมินโฮ ถึงจะคิดไปแล้วว่ามินโฮชอบ แต่พอมินโฮพูดออกมาตรงๆก็รู้สึกตกใจอยู่

     

                “ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ทำไม..มึงถึงไม่เคยบอกกู หรือว่าไอ้หู้เลย” ถึงมินโฮจะไม่ค่อยมีเรื่องส่วนตัว แต่ยังไงมินโฮก็ไม่เคยมีความลับกับเพื่อน โดยเฉพาะกับเพื่อนสนิทอย่างจินกิและจงฮยอนแล้วด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่มินโฮไม่เคยพูด ไม่เคยแสดงออกอย่างชัดเจน

     

                “กูก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่กูชอบ อยู่ๆวันนึงกูก็รู้ว่ากูชอบ แล้วมึงจะให้กูบอก กูพูด หรือให้กูรู้สึกยังไง กูกับแทมินเราโตมาด้วยกัน แล้วแทมินเป็นน้องชายของไอ้หู้ มันเป็นเพื่อนสนิทกูนะ”

     

                เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ มินโฮกับแทมินเลยเป็นเหมือนพี่น้องกัน แต่เพราะอยู่ๆวันนึงมินโฮก็รู้ว่าตัวเองไม่คิดกับแทมินแค่พี่ชายและน้องชาย ถ้าความสัมพันธ์ระหว่างคำว่า พี่กับน้องเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น.. มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

     

                “แทมินเป็นน้องไอ้หู้แล้วไง มึงไม่คิดว่ามันอาจจะสนับสนุนให้เพื่อนสนิทอย่างมึงเป็นแฟนกับน้องชายมันหรือไง”ความคิดของทั้งสองคนแตกต่างกัน

     

                สำหรับจงฮยอนคิดว่าเพื่อนสนับสนุนเพื่อน ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว

                แต่สำหรับมินโฮมันไม่ได้อย่างนั้น

                มินโฮคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าหนักใจสำหรับมิตรภาพระหว่างของจินกิกับตัวเอง

     

                “แล้วถ้าเกิดมันรับไม่ได้ ถ้ามันห้ามแทมิน ถ้ามันบอกแทมิน ถ้าแทมินรู้ ถ้าแทมินเกลียดกู จะให้กลับไปเป็นแบบเดิมมันไม่ได้แล้วนะเว้ย ถ้ามันไม่ดีขึ้น มันก็มีแต่จะแย่ลงทุกวัน” จงฮยอนฟังสิ่งความคิดของมินโฮที่มี ก็พอจะเริ่มเข้าใจความคิดและความรู้สึกของมินโฮ มันก็จริงอย่างที่มินโฮว่า

     

                ความสัมพันธ์จะก้าวหน้าว่ายากแล้ว แต่จะให้ย้อนถอยหลังกลับมา กลับยากกว่า

     

                “แล้วมึงจะทำไงต่อ” จงฮยอนถามมินโฮ

     

                “ถือว่ากูขอร้องละกัน มึงช่วยเก็บเรื่องนี้ให้เป็นความลับ แค่มึงกับกูรู้แค่สองคน” มินโฮถึงกับขอร้องให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะไม่อยากให้ใครรู้

     

                “เออๆ กูสัญญา” จงฮยอนรับปากว่าจะเก็บเรื่องนี้ของมินโฮให้เป็นความลับ จงฮยอนรู้ความลับของมินโฮก็ทั้งหนักใจ สงสาร และสับสนแทนมินโฮอย่างบอกไม่ถูก

     

                จงฮยอนควรจะอยู่เฉยๆเก็บเรื่องนี้ให้เป็นความลับ หรือว่า ควรจะช่วยมินโฮได้สมหวังกับความรักที่เจ้าตัวคิดว่าเป็นไปไม่ได้ดี

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

               

                มาถึงคาบเรียนคาบสุดท้ายที่นักเรียนทุกคนต่างรอคอย(?) เพราะเป็นคาบโฮมรูมที่ครูประจำชั้นจะพบกับนักเรียน เพื่อแจกผลสอบของภาคเรียนที่ผ่านมา

     

                “เดี๋ยวครูจะแจกผลสอบให้นะ แล้วก็เอาไปบันทึกลงในใบกิจกรรมที่แจกให้เมื่อภาคเรียนที่แล้ว ส่งครูภายในวันศุกร์นี้ ห้าม!! อย่าคิดแม้แต่จะโกหก บอกแล้วนะว่าวิชาการมีหลักฐานผลการเรียนเทอมที่แล้วพวกเธออยู่”

     

                หลังจากที่ครูพูดจบก็เรียกชื่อนักเรียนแต่ละคนออกมารับผลการเรียน ซึ่งแต่ละคนก็สีหน้าไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ยกเว้นก็แต่คีย์คนนึงละ ที่ผลจะออกมาเป็นยังไงก็รับได้อยู่แล้ว จนกระทั่งครูเรียกชื่อของมินโฮ ถึงคีย์ ไปจนถึงเลขที่สุดท้าย

     

                “เอาล่ะ วันนี้เลิกเรียนได้” ครูพูดกับนักเรียน ถึงแม้จะไม่ค่อยมีใครสนใจมาก เพราะมัวแต่นั่งดูผลสอบ ซึ่งมีทั้งคนยิ้มและหน้าตาเครียด

     

                “ผลสอบเป็นยังไงบ้างคีย์” มินโฮดูผลสอบตัวเองเสร็จก็หันไปถามคีย์ที่นั่งอยู่ข้างๆ

     

                “ก็ 4.00 เท่าเดิมน่ะมินโฮ แล้วของมินโฮล่ะเป็นยังไงบ้าง” คีย์ตอบสีหน้าเรียบๆ แต่แอบกังวลกับผลสอบมินโฮว่ามันจะตกลงหรือเปล่า

     

                “มันต้องดีขึ้นอยู่แล้วคีย์ คราวนี้ได้ 3.78 ไม่เคยได้ดีขนาดนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย ต้องขอบใจคีย์มากเลยนะ” มินโฮพูดพร้อมกับสีหน้ามีความสุข ก็ตั้งแต่เรียนมาคราวนี้ได้มากที่สุด ถ้าโรงเรียนไม่บังคับ ถ้าคีย์ไม่ช่วย แล้วก็.. ถ้าไม่มีพนันของแทมินคงทำไม่ได้ถึงขนาดนี้..

     

                แต่จะว่าไป 3.78 พอจะสู้ของแทมินได้ไหมเนี่ย?

     

                “พี่คีย์~~~” พอมินโฮคิดถึงปุ๊ป เจ้าตัวก็มาหาปั๊ป แต่เป็นมาหาคีย์นะ แทมินมายืนเรียกคีย์อยู่ที่ประตูหลังห้องเพราะคงเห็นว่ายังมีนักเรียนอยู่ คีย์ก็เก็บกระเป๋าแล้วเดินออกไปหาแทมินพร้อมกับกระเป๋า โดยมินโฮก็ตามไปด้วย

     

                “ผลสอบเป็นยังไงบ้าง แทมิน” คีย์ถามแทมินระหว่างเดินลงจากอาคารเรียน โดยมีมินโฮเดินตามอยู่ข้างหลัง

     

                “เยี่ยมเลยพี่คีย์ เพราะพี่คีย์เลยทำให้ผมฮึดมากเลย” แทมินตอบคีย์ว่ามันดีขึ้น แต่ไม่ได้บอกว่าเท่าไหร่ เพราะต้องรู้ของมินโฮซะก่อน ซึ่งแทมินก็ยังไม่พูดอะไรกับมินโฮ ก็คุยเรื่องนั้นเรื่องนี้กับคีย์ไปก่อน จนกระทั่งเดินมาถึงป้ายรถเมล์ คีย์คุยโทรศัพท์พอดี

     

                “ว่าไงพี่มินโฮ ได้เท่าไหร่” แทมินถามมินโฮหลังจากหยุดคุยกับคีย์

     

                จะได้รู้กันสักทีว่าใครจะชนะ

     

                “พูดพร้อมกันไหมล่ะ” มินโฮเสนอให้พูดพร้อมกับ เพราะถ้าเกิดบอกไปแล้วได้น้อยกว่า แทมินจะหัวเราะตัวเองซะก่อน

     

                “โอเค เอางั้นก็ได้ 1… 2… 3!

     

                “3.78 / 3.78” เสียงของทั้งสองคนประสานเป็นเสียงเดียวเพราะเป็นคำตอบที่เหมือนกัน แถมตอนนี้ในใจทั้งสองคนก็ยังรู้เหมือนกันอีกด้วย ว่าควรจะรู้สึกดีใจหรือเสียใจดี

     

                “หึหึ ได้เท่ากัน เพราะงั้นเราเสมอกัน ที่พนันกันไว้ก็โมฆะ” มินโฮพูดออกมาอย่างสบายใจ ถึงไม่ชนะยังไง อย่างน้อยก็ไม่แพ้

     

                “ถ้าผมพยายามมากกว่านี้ก็คงดี ที่ทำไปทั้งหมด.. เฮ้ออ” จะว่าไปก็เสียดาย อุตส่าห์ทิ้งเวลาที่ทำอะไรไร้สาระทั้งหมดไปอ่านหนังสือสอบ แต่ผลออกมาเป็นอย่างนี้ แต่จะว่าไปก็ดี ยังไงผลการเรียนก็ดีขึ้นมากกว่าเทอมก่อน

     

                “ผลออกมาเป็นงี้ก็ดีแล้ว  ทำดีที่สุดแล้วนี่” มินโฮพูดให้กำลังใจแทมินอยู่หน่อยๆ

     

                “เออๆ คราวนี้เสมอ แต่คราวหน้าผมต้องไม่แพ้แน่ๆ”

     

     

                แทมินอยากให้มีคราวหน้า แต่มินโฮไม่อยากให้มีแล้ว มินโฮไม่อยากแข่งอะไรกับแทมินเลยจริงๆ จะแพ้ก็ไม่อยากแพ้ แต่ถ้าจะให้ชนะก็สงสารแทมิน

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

                วันนี้เป็นวันที่อากาศเริ่มหนาวแล้ว ไม่ว่าจะหันมองไปทางไหนผู้คนก็เริ่มใส่เสื้อแขนยาว รวมถึงมีเสื้อโค้ท และผ้าพันคอกันแล้ว ตอนนี้ชุดยูนิฟอร์มแขนยาวของโรงเรียนก็พอจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมาได้หน่อย ตอนนี้ทั้งคีย์และมินโฮเลยยังไม่ใส่เสื้อกันหนาว

     

                “อากาศนี่บ้าจริงๆ อยู่ๆก็หนาว” มินโฮบ่นคนเดียว แต่คีย์ก็ได้ยิน

     

                “โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ต้องทำใจหน่อยนะ มินโฮ” คีย์นั่งคุยอยู่กับมินโฮสักพัก หัวหน้าห้องพร้อมกับทีมงานหัวหน้านัมก็มายืนหน้าห้อง

     

                “เอาละสมาชิกมัธยมปลายปี 2 ห้อง B ฟังกระผมหัวหน้าห้องนัม อูฮยอนของทุกคนหน่อยนะครับ ทุกคนก็รู้ว่าในเทอมสองนั้นมักจะมีกิจกรรมสนุกสนานมากมายและหลากหลาย...”

     

                “เข้าเรื่องสักทีโว้ยไอ้หัวหน้า!!” มีเสียงจากสมาชิกนักเรียนชายในห้องตะโกนมาบอกหัวหน้าห้องที่พูดร่ายยาว

     

                “โอเคๆ เพราะว่าตอนช่วงฤดูร้อนโรงเรียนไม่ได้จัดกีฬาสี ทำให้ในวันที่ 24 ธันวาคมที่จะถึงนี้ จะมีกีฬาสี ปีนี้ห้อง B ของเราได้อยู่สีน้ำเงิน วันนี้จะให้เลือกลงกีฬากัน ทีมงานหัวหน้านัมพร้อมแล้วลุยหาคนลงกีฬาได้!” พอพูดจบ ก็มีกลุ่มเพื่อนของหัวหน้าห้องเขียนกีฬาที่มีให้ลงสมัคร สมาชิกในห้องก็ต่างเดินมาเลือกลงกีฬาต่างๆกัน

     

                “คีย์จะลงอะไรอ่ะ” มินโฮหันไปถามคีย์ที่นั่งมองสมาชิกในห้องเดินไปเลือกลงกีฬากัน

     

                “เราว่าเราคงไม่ลงน่ะ เราเล่นกีฬาไม่เป็นเลย” คีย์ส่ายหัวปฏิเสธมินโฮ

     

                “ปีที่แล้วคีย์ก็ไม่ลงหรอ ปีนี้ลองลงดูสิ เดี๋ยวฉันช่วยฝึกให้” มินโฮอยากให้คีย์มีกิจกรรมทำ เลยชวนให้คีย์ลงสมัคร แล้วเดี๋ยวจะช่วยฝึกให้ แต่คีย์ก็ยังคงส่ายหัวปฏิเสธอยู่ดี

     

                “ไม่เอาดีกว่า ไว้เราจะไปเชียร์มินโฮแข่งกีฬาแทนก็แล้วกันนะ” คีย์ไม่ถนัดเรื่องอย่างนี้ ถึงจะลงไปก็มีแต่จะแพ้ ให้มินโฮช่วยสอนก็เสียเวลาเปล่า คีย์ว่าอย่างนั้น มินโฮก็เลยเดินไปลงกีฬาที่หน้าห้อง โดยเลือกลงกีฬาที่ถนัดอย่างฟุตบอลและบาสเกตบอล

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

                “ยู่สีอะไรกันอ่ะ” มินโฮถามจินกิกับจงฮยอนที่เดินกลับบ้านด้วยกัน รวมไปถึงมีคีย์กับแทมินด้วย

     

                “ผมอยู่สีแดง” แทมินตอบก่อนคนแรก

     

                “สีแดงแรงเริ่ดเว้ย มึงลงบาสกับฟุตบอลอีกอ่ะดิ” จงฮยอนตอบอย่างรู้ทัน

     

                “ของแน่ของกูอยู่แล้ว แล้วลงกีฬาอะไรกันบ้างป่าววะ” มินโฮถามต่อ

     

                “กูจะลงกินวิบากแต่ปีนี้มันไม่มีอ่ะ = =’ ของกูไม่มีไม่เท่าไหร่ ของไอ้จงนี่ดิ 555” แชมป์เก่ากินวิบากปีที่แล้วอย่างจินกิถึงกับเซ็ง เมื่อปีนี้ไม่มีการแข่งขันนี้ สรุปก็เลยไม่ได้ลงอะไร แต่ของตัวเองไม่มี แล้วของจงฮยอนมัน...? จินกิยังพูดไม่จบก็ขำออกมาไม่หยุด

     

                “ของพี่จงฮยอนทำไมอ่ะพี่จินกิ” แทมินที่ฟังอยู่ก็อยากรู้ว่าทำไมจินกิถึงพูดแล้วขำ

     

                “ก็.. ก็.. 555” จินกิจะตอบแต่ก็เอาแต่ขำ

     

                “ไอ้หู้นะมึง.. ก็กูเว้ยจะลงสมัครบาส ไอ้หัวหน้าห้องบอกกูเตี้ยเกิน พอกูจะลงวิ่ง ไอ้หัวหน้าห้องกูแม่งก็บอกกูขาสั้นเกิน อย่างสุดท้ายกูว่าความสูงกูแม่งคงไม่เกี่ยวเท่าไหร่ คือกูจะไปลงแชร์บอล กูจะไปถือตะกร้าก็ยังดี ไอ้หัวหน้าห้องกูบอกว่า ถ้าเป็นผู้หญิงก็ลงมา เพราะปีนี้มีแต่แชร์บอลหญิง สรุปกูเลยได้ไปเป็นเด็กเสิร์ฟน้ำ ทำไมกูต้องมาหยุดสูงก่อนด้วยวะ”

     

                จงฮยอนพูดสีหน้าค่อนข้างเครียด แต่คนฟังทุกคนหัวเราะกันจะเป็นจะตาย ถึงแม้คีย์จะไม่ได้หัวเราะแบบแสดงออกมาก แต่ก็รู้ว่าคีย์ขำอยู่นั่นแหละ

     

                “แล้ว.. แล้วคีย์กับแทมินล่ะ ลงอะไรมั่ง” จินกิถามสองคนที่ยังไม่ได้ตอบ

     

                “เราไม่ได้ลงอะไรหรอก เราไม่ถนัดกีฬา” คีย์ตอบ

     

                “ของผมเขาให้เป็นตัวสำรองทุกอย่างอ่ะ ใครเล่นไม่ได้ก็ส่งผมไปเล่นแทน บ้าหรือเปล่าก็ไม่รู้” แทมินบ่น ก็เล่นให้เป็นตัวสำรองกีฬาทุกอย่าง ตัวเองก็ไม่ได้เล่นกีฬาเก่ง แถมถ้าเกิดตัวจริงเล่นไม่ได้ทุกเกม แทมินไม่ตายเลยเร๊อะ

               

                “ไอ้มินโฮก็เคยเป็นอย่างนั้นเมื่อปีที่แล้ว กลับบ้านเกือบตาย ได้ไปลงว่ายน้ำเสร็จ ต้องลากสังขารไปเล่นบอล สุดท้ายมันมาจบที่วิ่งร้อยเมตร 55 แต่มันสุดยอดตรงที่มันได้เหรียญทองทุกอย่างเลยนี่ดิ อิจฉาว่ะ” จงฮยอนเล่าให้คีย์กับแทมินฟัง เพราะคิดว่าคงยังไม่รู้เรื่องนี้ แน่นอนว่าคีย์กับแทมินที่ฟังก็ย่อมอึ้งอยู่แล้ว

     

                “มินโฮเก่งมากเลยนะ” คีย์เอ่ยปากชม

     

                “คนหรืออะไรเนี่ย ถึกเกินไปหรือเปล่า” จะว่าแทมินชมก็ไม่ใช่ จะว่าหลอกด่ามันก็..

     

                “อยากชมก็ชมมาเถอะน่า ไม่ต้องกลัวเสียฟอร์มหรอก แค่ชมพี่นิดหน่อยมันแย่มากไหม” มินโฮเริ่มอาการนี้อีกแล้ว อาการอยากให้ ชม หรือว่าสนใจ

     

                “พี่คีย์ชมไปแล้วก็น่าจะพอใจแล้วนี่” แทมินพูดกับมินโฮ

     

              แค่คำชมจากพี่คีย์ที่พี่ชอบมันก็พอแล้วนี่ แต่พี่คีย์ไม่น่าไปชมพี่มินโฮเลยอ่ะ! ผมไม่อยากให้พี่คีย์ชมไอ้พี่มินโฮที่สุดอ่ะ!’

     

                “นั่นสินะ แค่คีย์ชมก็พอแล้ว” มินโฮพูดจบก็กอดคอคีย์แล้วยิ้มหวานให้ จินกิกับจงฮยอนคงไม่ได้สังเกตอะไร แต่คนที่ยืนอยู่อีกข้างของคีย์อย่างแทมินเห็นแล้ว.. ไม่พอใจเอาซะเลย

     

              ‘ยิ้มอย่างนั้นให้พี่คีย์.. บ้าหรือไงเนี่ย พี่คีย์อย่ามองนะ! ไอ้พี่มินโฮมันต้องคิดจะทำให้พี่คีย์หวั่นไหวแน่ๆ!’

     

                “เอามือออกไปจากพี่คีย์เลย” แทมินเอามือของมินโฮออกจากคอของคีย์ ซึ่งมันก็แรงมากจนทำคีย์เอามือมากดตรงคอที่ถูกแรงของแทมินโดนเข้าให้

     

                “เห้ยๆแทมิน รุนแรงกับไอ้โฮไม่เท่าไหร่ แต่มันไปโดนพี่คีย์นะ” จงฮยอนเห็นที่แทมินทำเลยรีบวิ่งไปด้านแทมินแล้วเขกหัวแทมินเข้าให้ทีนึง

     

                “แรงเยอะจังเลย.. แทมิน” คีย์ใช้มือจับที่คอ แล้วพูดพร้อมกับยิ้มให้แทมิน เหมือนเป็นเรื่องสนุกๆ

     

                “พี่คีย์เจ็บหรอ ขอโทษนะฮะ” แทมินพูดอย่างรู้สึกผิด แล้วก็นึกอะไรได้บางอย่าง เลยเปิดกระเป๋าช่องหน้าตัวเอง แล้วหยิบกระปุกแซมบัคขึ้นมา แล้วก็หมุนฝาเปิด ใช้นิ้วถูๆที่แซมบัค

     

                “พี่คีย์ เอามือออกหน่อยนะ” แทมินบอกให้คีย์เอามือออกจากที่ถูๆอยู่ คีย์ก็เลยเอาออกตามที่แทมินบอก แทมินเลยใช้นิ้วข้างที่ถูแซมบัคทาให้ตรงที่คีย์เจ็บ แล้วหน้าของแทมินกับคีย์ก็ใกล้กันอีกครั้ง...

     

                แทมินน่ะยิ้ม ส่วนคีย์ก็ใจเต้นแรง..

     

                “แทมินทำอะไรอ่ะ! / หะ..เห้ยย!! / ทำงี้ไม่ได้นะ แทมิน!” แต่สามสหายจินกิ จงฮยอน และมินโฮเห็นที่แทมินทำก็ตกใจมาก เพราะถ้ามองจากตำแหน่งที่ยืน ก็จะทำให้เห็นในอีกแง่มุมนึง..

     

                สามสหายคิดอะไรส่อสุดๆ

     

                แน่นอนว่ามินโฮเห็นก็รีบดึงคีย์ออกห่างจากแทมิน ให้ไปยืนข้างจินกิแทน ส่วนแทมินก็ถูกจงฮยอนกอดคอให้ไปยืนริมสุดแทน ทำให้ตำแหน่งตอนนี้เป็นจินกิ คีย์ มินโฮ จงฮยอน แล้วก็แทมิน

     

                คีย์กับแทมินก็งงกับทั้งสามคน

     

                “อะไรของพวกพี่กันเนี่ย” แทมินโวยวายใส่มินโฮกับจงฮยอนที่อยู่ๆก็จับคีย์แยกออกจากตัวเอง

     

                “ก็..เปล่า อยู่ๆก็เกิดอยากแกล้งแทมินกับพี่คีย์สนุกๆเฉยๆ” จงฮยอนตอบแทมินที่ยืนอยู่ข้างๆ

     

                “สนุก? อืม.. จะว่าไปก็สนุกอ่ะ แต่ว่าพี่จงฮยอนคงยังไม่สนุกเลย เดี๋ยวผมช่วยให้พี่จงฮยอนสนุกเอง” แทมินพูดจบก็ใช้มือบีบคอจงฮยอนแล้วเขย่าไปมา มินโฮแทนที่จะช่วย ก็หัวเราะกับหน้าจงฮยอนที่ดูจะตายเอาซะให้ได้ แต่สุดท้ายเห็นหน้าจงฮยอนเหมือนปลาขาดออกซิเจนเลยตัดสินใจช่วยโดยการจับแทมินแยกออกจากจงฮยอน ทำเอาจงฮยอนถึงกับรีบหายใจเพราะกลัวตายเลย

     

                “คีย์เจ็บอะไรตรงไหนหรือเปล่า” ส่วนจินกิก็ถามคีย์ที่โดนแรงแทมินเล่นเอาที่คอ แถมยังโดนมินโฮดึงอีก

     

                “เมื่อกี๊ก็นิดหน่อย ตอนนี้หายแล้วล่ะ ขอบใจที่เป็นห่วงนะ” คีย์ยิ้มตอบจินกิสำหรับความเป็นห่วง

     

                “เออ แล้วกีฬาสีก็จะมาจัดช่วงหน้าหนาวเนี่ยนะ คนแข่งว่ายน้ำคงตายแน่ๆ โชคดีที่ไม่ได้ลงนะเนี่ย” ก็จริงของมินโฮ หน้าร้อนก็ดันไม่จัด ดันมาจัดอะไรเอาช่วงหน้าหนาว นอกจากอากาศจะหนาวแล้ว เดี๋ยวหิมะก็ตก

     

                “เล่นกีฬาหน้าหนาวจะได้อบอุ่นละมั้ง” คีย์ก็คงทำได้แต่คิดในแง่ดี

     

                “พอกีฬาสีจบวันนั้น เราไปฉลองกันดีกว่า อย่างเช่น.. ปาร์ตี้เนื้อย่างกันจนถึงวันคริสมาสต์ พอวันคริสมาสต์เราก็ไปเที่ยวรอบๆกรุงโซลกัน แล้วก็จัดปาร์ตี้กันอีกรอบ” หลังจากจงฮยอนรอดตายจากแทมินมาได้ จงฮยอนเลยเสนอความคิดที่มีไปไกลจนถึงแพลนในวันคริสมาสต์อีฟและวันคริสมาสต์แล้ว

     

                “แล้ว..ไม่อยู่กับครอบครัวกันหรอ” คีย์ถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะในวันอย่างนี้ควรจะฉลองกับครอบครัวสิ

     

                “หลังจากฉันขึ้นมัธยม พ่อกับแม่ก็ปล่อยให้ฉันไปไหนก็ได้ในวันคริสมาสต์แล้วคีย์ ส่วนพ่อกับแม่ฉันก็ไปเที่ยวกันสองคน พี่ชายฉันมันก็ไม่อยู่บ้านเป็นปกติอยู่แล้ว” มินโฮเล่าให้คีย์ฟัง

     

                “คีย์ก็รู้ว่าบ้านฉันทำงานผับใช่ไหมล่ะ ในวันเทศกาลคนก็ต้องเยอะ พ่อกับแม่ฉันก็ต้องไปดูร้านนั่นแหละ ส่วนใหญ่พอถึงช่วงปลายปี ฉันก็ต้องฉลองกับแทมิน ไอ้โฮ แล้วก็ไอ้จงเนี่ยล่ะ” จินกิก็เล่าให้คีย์ถึงช่วงเวลาปลายปี

     

                ความจริงชีวิตในช่วงเทศกาลอย่างนี้ของคีย์ก็ไม่ได้ต่างกับทุกคน ที่ไม่ได้ฉลองกับครอบครัว แต่ของมินโฮได้ฉลองกับเพื่อน ส่วนคีย์บางปีก็อยู่ฉลองกับพวกเพื่อนคิบอม ไม่ก็เลือกที่จะไปเยี่ยมพ่อกับแม่  ปีนี้คีย์คงได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้างแล้ว

     

                “ปีนี้ก็จัดปาร์ตี้ที่บ้านพี่คีย์ ดีไหมฮะ” แทมินพูดอย่างตื่นเต้น

     

                “นั่นสิ บ้านคีย์มีพื้นที่พอจะจัดปาร์ตี้เล็กๆ แล้วก็มีห้องนอนให้นอนด้วย” มินโฮช่วยเห็นด้วยกับแทมิน

     

                “รบกวนหรือเปล่าคีย์” จินกิถามคีย์ เผื่อว่ารบกวนคีย์

     

                “ไม่หรอก บ้านเราได้อยู่แล้ว”  พอคีย์อนุญาตทุกคนก็เลยดีใจกันใหญ่ แถมยังคุยถึงกิจกรรมต่างๆที่จะทำในช่วงฤดูหนาวด้วย

     

     

     

                คริสมาสต์ปีนี้ จะมีอะไรสนุกๆรอทั้งห้าคนอยู่นะ..

     

     

               

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

               

     

     

                เพราะกีฬาสีใกล้เข้ามา ทำให้นักเรียนต่างสนใจกับกีฬาสีที่กำลังจะมีในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แถมปีนี้ก็จัดตรงกับวันคริสต์มาสอีฟซะด้วย ทุกคนเลยยิ่งตื่นเต้นเข้าไปอีก ทุกคนต่างทุ่มเทกับกีฬาสีมากซะจนโดดเรียนกันเยอะ ตลอดทั้งสัปดาห์ก่อนถึงกีฬาสีหนึ่งอาทิตย์ โรงเรียนเลยให้จัดการเรียนการสอนแค่ครึ่งเช้า เพื่อจะได้หมดปัญหากับเด็กโดดเรียนไม่มาทั้งวัน ถ้าอย่างนั้นก็ให้เรียนครึ่งเช้า ครึ่งบ่ายไปตามสบายก็แล้วกัน

     

                “คีย์ ฉันจะกลับก่อนนะ” มินโฮพูดหลังจากเลิกเรียนช่วงเช้า คีย์ก็สงสัยว่าทำไมมินโฮจะกลับก่อน

     

                “แต่ว่า.. ถึงโรงเรียนจะให้เรียนแค่ครึ่งเช้า แต่ครึ่งบ่าย.. จะกลับบ้านได้เลยหรอ” ถึงจะเลิกเรียนแค่ครึ่งเช้า ก็ไม่ได้หมายความว่าให้กลับบ้านไปนอนเล่นช่วงบ่ายนะ

     

                “ฉันไม่ได้จะอู้หรือจะโดดนะคีย์ แต่ว่าฉันจะไปซ้อมบาสน่ะ สนามโรงเรียนมันเต็ม เลยนัดกับทีมจะไปซ้อมกันที่สนามที่อื่น แต่ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะไปที่ไหนเนี่ย ถ้าไปที่สนามของสโมสรต้องโดนว่าแน่ๆ”

     

                มินโฮบอกเหตุผลที่บอกจะกลับก่อน แต่คีย์ก็เป็นห่วงมินโฮที่จะออกนอกโรงเรียนก่อนเวลา อาจจะถูกสารวัตรนักเรียนจับเอาก็ได้ คีย์ก็พยายามจะช่วยคิดว่าจะให้มินโฮกับทีมไปซ้อมที่ไหนดี..

     

                “อากาศหนาวอย่างนี้ ซ้อมจะดีหรอ” คีย์ถามมินโฮที่จะไปซ้อมทั้งๆที่อากาศเย็นถึงขนาดนี้

     

                “ถ้าไม่ซ้อมก็แพ้น่ะสิคีย์ แต่ว่าไปซ้อมก็ได้วิ่ง ร่างกายคงอบอุ่นขึ้นมามั่งละมั้ง” เรื่องกีฬามินโฮไม่อยากแพ้ จะให้เกิดอะไรขึ้นยังไงก็ต้องซ้อมให้ได้ คีย์เลยช่วยมินโฮคิดว่าที่ไหนพอจะว่างให้ไปซ้อมได้บ้าง

     

                “เรามีที่นึง เราว่าต้องไม่มีคนไปซ้อมแน่ๆเลย มินโฮ”

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

                แล้วคีย์ก็เดาถูก เพราะไม่มีใครเลยจริงๆ

     

                ที่ๆคีย์พามินโฮกับเพื่อนทีมบาสเกตบอลมานั่นก็คือ หลังห้องเรียนศิลปะที่เคยมากับแทมินนั่นเอง เพราะหลังจากที่แทมินพามา ตอนเช้าพอคีย์ว่างนอกจากห้องสมุดแล้วก็มักมาที่นี่ แล้วก็ไม่ค่อยเจอคนมาเพราะอยู่ไกล

     

                นอกจากจะสงบ ห่างไกลผู้คนแล้ว ที่นี่ก็ยังมีพื้นที่พอสมควรอีกด้วย ทั้งๆที่ไม่ใช่สนามกีฬา แต่กลับมีแป้นบาสเกตบอลอยู่ ซึ่งมันเหมาะและดีทีเดียว

     

                “ทำไมอยู่โรงเรียนนี้มาปีนึงแล้ว ไม่เคยมาที่นี่เลยวะ” เพื่อนในทีมบาสของมินโฮคนหนึ่งพูดขึ้นหลังจากเดินมาถึง

     

                “นั่นดิ ทั้งๆที่ออกจะเงียบสงบ บรรยากาศก็พอใช้ได้ขนาดนี้ กลับไม่มีคนเลย คีย์รู้จักที่นี่ได้ไงเนี่ย” เพื่อนอีกคนเสริม

     

                “น่านอนจัด!! วันหลังจะโดดมานอนที่นี่!” เพื่อนในทีมอีกคนก็พูดอย่างตื่นเต้นกับการจะโดดเรียนมานอนที่นี่ = =’

     

                “ตกลงซ้อมกันที่นี่ โอเคป่าว” มินโฮถามสมาชิกในทีมที่มาด้วยกัน แน่นอนว่าทุกคนต่างเห็นด้วย แล้วพากันวางกระเป๋าแล้วไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้องศิลปะที่ไม่มีคนอยู่

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

                ระหว่างที่คีย์กำลังนั่งอ่านหนังสือ รอมินโฮเล่นบาส โทรศัพท์ของคีย์ก็สั่นขึ้น

     

                (สายเข้า : แทมิน)

     

                “สวัสดี แทมิน” คีย์ทักทายแทมินที่อยู่ปลายสาย

     

                (“พี่คีย์อยู่ไหนฮะ กลับบ้านหรือยัง”)

     

                “พี่ยังไม่กลับแทมิน อยู่ที่หลังห้องศิลปะน่ะ แทมินโทรมามีอะไรหรือเปล่า” คีย์ถามแทมินถึงเหตุผลที่โทรมา

     

                (“ก็แค่อยากรู้น่ะฮะ ว่าอยู่ที่ไหน.. อ่า มีสายเข้า เดี๋ยวผมวางก่อนนะพี่คีย์”) เพิ่งจะคุยกันแปปเดียว แทมินก็วางสายไป เพราะบอกว่ามีโทรศัพท์เข้า คีย์ก็เก็บโทรศัพท์ลงแล้วอ่านหนังสือต่อ

     

                “หนาวจะตายแล้ว บรึ๋ยยย~~~ วันนี้ซ้อมกันพอแล้วมั้ง เลิกได้” หัวหน้าทีมบาสเกตบอลพูดเลิกซ้อม หลังจากซ้อมกันมานานกว่าสามชั่วโมง ตอนนี้ก็ใกล้เวลาเลิกเรียนของจริง ทุกคนก็มีเรื่องอย่างอื่นจะไปทำกันบ้าง พอหลังจากเลิกซ้อมทุกคนก็กลับบ้านกัน ยกเว้นก็แต่มินโฮที่ยังคงเล่นอยู่คนเดียว แต่มีคีย์นั่งอ่านหนังสือรออยู่ด้วย

     

                “มินโฮไม่เหนื่อยหรอ เล่นมาตั้งนานแล้วยังไม่ได้พักเลยนะ” คีย์ถามมินโฮที่กำลังกระโดดชู้ตบาสอยู่ พอชู้ตเสร็จก็เลยหันคุยกับคีย์

     

                “ของชอบน่ะ ไม่เหนื่อยหรอก ถ้าให้อ่านหนังสือฉันคงเหนื่อยกว่านี้อีก” มินโฮพูดติดตลก แต่ก็เป็นเรื่องจริง คีย์ก็หัวเราะแล้วก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ

     

                “คีย์ มาเล่นเป็นเพื่อนหน่อยสิ ไม่มีคนเล่นด้วยแล้วเนี่ย” มินโฮบอกคีย์ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ เพราะเห็นนั่งอ่านอยู่นานแล้วน่าจะเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นบ้าง

     

                “เล่นไม่เป็นหรอก มินโฮก็รู้นี่ ในชั่วโมงยังเกือบตกเลย”

     

                “แค่เล่นสนุกๆเอง ไม่ต้องเอาจริงเอาจังหรอก อีกอย่างร่างกายจะได้อบอุ่นไง นั่งนานๆเส้นเลือดแข็งจะตายเอาได้นะ” มินโฮพูดจบก็เดินไปเก็บหนังสือคีย์ แล้วพาคีย์ไปยืนที่พื้นที่ที่ใช้ซ้อมบาสเมื่อครู่

     

                “บอกแล้วไง ว่าเล่นไม่เป็นน่ะมินโฮ ให้เรามาเล่นด้วยเดี๋ยวก็ไม่สนุกหรอก” คีย์พูดเสร็จ มินโฮก็โยนลูกบาสเข้ามา โชคดีที่รับทัน ไม่อย่างนั้นก็คงโดนหน้าเข้าให้

     

                “รับลูกนี้ได้ก็เก่งแล้วคีย์ เล่นไม่เป็นก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย บอกแล้วไงว่าแค่สนุกๆ มีเพื่อนเล่นดีกว่าเล่นคนเดียว” มินโฮพูดจบก็ทำท่าจะวิ่งไปเอาลูกที่มือคีย์ แต่คีย์ก็วิ่งหนี พยายามจะเล่นเป็นเพื่อนมินโฮ แล้วพยายามจะชู้ตใส่ห่วงที่แป้นบาส แต่ก็พลาด

     

                “น่าเสียดายจัง ไม่ลงอีกแล้ว” คีย์พูดออกมาด้วยความเสียดาย มินโฮก็ยิ้มกับท่าทางเสียดายของคีย์ แล้ววิ่งไปเอาลูกบาสที่เด้งอยู่กับพื้น

     

                “ถ้าฉันได้หนึ่งแต้มก่อน ฉันชนะนะคีย์” ว่าแล้วมินโฮพยายามจะวิ่งไปโยนลูกบาสให้เข้าแป้น แต่คีย์ก็พยายามจะขัดขวางไม่ให้มินโฮได้ชู้ต และพยายามหลอกล่อกันอย่างสนุกสนาน

     

                “คีย์ฉันจะโยนแล้วนะ” มินโฮบอกคีย์ก่อนที่กำลังจะโยนลูกบาสเข้าห่วง คีย์ไม่อยากยอม แต่ก็สู้มินโฮที่เก่งกว่าไม่ได้ เลยไปยืนอยู่ใต้ห่วงแทน

     

                “ถ้ามินโฮโยนลูกนี้ลง มันจะโดนหัวเรานะ” คีย์ยืนอยู่ตำแหน่งที่ถ้าลูกลงก็จะโดนหัวคีย์ทันที เพราะคีย์รู้ว่ามินโฮคงไม่กล้าทำ มินโฮก็ถอนหายใจพร้อมกับหัวเราะออกมา ซึ่งคีย์ก็เช่นหัวเราะเพราะกันมินโฮได้แล้วนี่เอง

     

                “อย่าคิดว่าฉันไม่ทำนะคีย์ เตือนแล้วนะ ถ้าไม่หลบละก็ ฉันไม่รู้แล้วนะคีย์” มินโฮหัวเราะพร้อมกับยืนชู้ตบาสอยู่ห่างๆห่วง คีย์ก็ไม่รู้ว่าลูกนี้จะลงหรือเปล่า เลยยังคงยืนอยู่ที่เดิม...

     

                แล้วมันก็แจ๊กพอตลงห่วง... แล้วก็ลงเข้าที่ศีรษะคีย์เข้าด้วย

     

     

     

               

     

     

     

              พี่คีย์จะชอบผ้าพันคอสีนี้ไหมเนี่ย

     

                ความจริงแทมินกะจะให้ผ้าพันคอเป็นของขวัญวันคริสมาสต์กับคีย์ แต่เพราะอากาศมันหนาวมากจนแทมินเป็นห่วง เลยตั้งใจจะก่อน แล้วค่อยให้อย่างอื่นในวันคริสมาสต์

     

                หลังจากที่แทมินโทรไปถาม รู้แล้วว่าคีย์อยู่ที่ไหน แทมินก็รีบเดินไปที่หลังห้องศิลปะที่คีย์อยู่เพื่อจะได้เอาไปให้คีย์ พอเดินมาในระยะที่ห่างจากด้านหลังห้องศิลปอยู่นิดหน่อย แทมินก็เห็นคีย์กับมินโฮกำลังเล่นบาสกันอยู่ โดยที่คีย์ไปยืนอยู่ใต้แป้นบาส สักพักมินโฮก็โยนลูกบาส แล้วก็ไปโดนหัวคีย์เข้าพอดี  แทมินกำลังจะวิ่งเข้าไปดูอาการคีย์

     

                “มินโฮนะ ทำได้กับเราได้ลง อ่า.. เจ็บจัง” คีย์พูดพร้อมกับเอามือกุมหัวที่ลูกบาส มินโฮก็ตกใจที่คีย์ไม่หลบจริงๆ เลยรีบวิ่งเข้าไปหาคีย์ที่ทำท่าเจ็บอยู่

     

                “เตือนแล้วก็ไม่เชื่อนะคีย์ ดื้อจริงๆ” มินโฮเอามือคีย์ออกจากศีรษะ แล้วใช้มือเกลี่ยๆลูบๆผมของคีย์ เพื่อจะดูว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ดูอย่างเดียวไม่พอ ยังจะมาเป่าลมใส่หัวคีย์อีก

     

                แต่พอแทมินเห็นภาพนั้น ขาก็เกิดหยุดชะงักขึ้นมา.. ทำอะไรไม่ถูก ไม่ใช่เป็นเพราะอากาศที่หนาวเย็น

     

                เหมือนรู้สึกว่าตัวเองกำลังหึง แล้วก็กำลังโกรธ

     

                แทมินจึงเลือกที่จะแค่มองทั้งสองคน ว่าจะทำอะไรกันต่อไป

     

                “มาเป่าลมใส่ผมเราทำไม มินโฮ ไม่ใช่เด็กสักหน่อย อีกอย่างมันก็ไม่ได้ช่วยให้หายนะ” คีย์แอบโวยวายใส่มินโฮ

     

                “เดี๋ยวนี้คีย์โวยวายใส่ฉันแล้วหรอเนี่ย”

     

                “ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย.. ถ้าเข้าใจว่าอย่างนั้นเราก็ขอโทษที่พูดไม่ดีใส่ละกันนะ”

     

                “โอ๋ๆเด็กน้อย อย่าเป็นอะไรไปนะ แค่ล้อเล่นเอง 55” มินโฮพูดจบก็เอามือลูบหัวคีย์เหมือนคีย์เป็นเด็กๆ ซึ่งก็ทำให้ทั้งสองคนยิ้มและหัวเราะที่ล้อกันเล่นไปมา

     

     

                ดูแล้วน่าจะมีความสุข แต่ทำไมแทมินกลับไม่เห็นรู้สึกอย่างนั้นเลย..

                แทมินเห็นภาพของทั้งสองคนตรงหน้าแล้ว แทมินทำได้แค่กอดถุงผ้าพันคอที่ตั้งใจจะให้คีย์ ก็ตัดสินใจเดินกลับออกไป เพื่อจะกลับบ้านแทน

     

     

                ผมไม่ชอบที่พี่คีย์อยู่กับพี่มินโฮสองคนในที่แบบนี้เลย ไม่รู้ว่าทำไมเวลาที่พี่คีย์เล่นกับพี่มินโฮสองคน ผมถึงไม่ชอบ แล้วก็อารมณ์ไม่ดีทุกทีเลย ผมไม่ชอบที่มันเป็นอย่างนี้เลยพี่คีย์

     

              พี่มินโฮกับพี่คีย์.. เป็นแค่เพื่อนกันใช่ไหม พี่คีย์จะไม่หวั่นไหวกับพี่มินโฮใช่ไหม

     

     

     

                แทมินเริ่มกลัวกับคำพูดที่มินโฮเคยพูดเอาไว้แล้ว ว่าคีย์อาจจะหวั่นไหวกับตัวเองที่อยู่ใกล้กันมากกว่า





               To be continued...


                - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
          
                คราวหน้ามาสนุกสนานกับกีฬาสีกันดีกว่า.. (ทีเด็ด!!)
                ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์นะคะ

                11.11.24 - Lighteli

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×