ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    I LIKE MUSIC! ( เจอะรัก นักดนตรี )

    ลำดับตอนที่ #8 : จุ๊บ >///

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 55


    จุ๊บ >///<

    เมื่อวานสรุปว่าสองคนนั้นสั่งข้าวมากินแล้ววันนั้นเลยไม่โดนต่อว่าใดๆทั้งสิ้น ส่วนวันนี้ก็ไปโรงเรียนตามปกติแค่มีคนมาเพิ่มหนึ่งคนคือพาสต้าที่ย้ายมาอยู่ใหม่ วันนี้ช่างเป็นวันที่สงบเช่นเคยไม่มีอะไรมารบกวนในการเรียนหรือเรื่องใดๆ นี่แหละคือส่งที่รอคอยมานาน

    “ นี่สโนว์อย่าลืมแต่งเพลงด้วยล่ะ แล้วก็ไปซ้อมท่ห้องชมรมด้วยล่ะ ”

    “ โอเค จะลองแต่งดูละกัน ”

                    เอ่อ ฉันว่ามันไม่สงบแล้วล่ะ -_-; ก็ฉันน่ะไม่เคยได้รางวัลอะไรเลยอย่างมากฉันก็ได้แค่รางวัลชมเชยเองนะ แล้วนี่ฉันจะเริ่มแต่งได้ไงในเมื่อฉันเป็นยังงี้ส่วนใหญ่ฉันก็แค่ฟังพลงที่เขาแต่งไว้ พอคิดว่าถ้าแต่งเองฉันก็ยังไม่รู้ว่าจะแต่งแนวไหนเลย

                และแล้วคาบชมรมที่ต้องสอบก็มาถึงแน่นอนว่าฉันเล่นได้หมดแล้วเลยไม่มีปัญหาในการสอบครั้งนี้สักเท่าไหร่ ผ่านแบบไม่ต้องคิดอะไรมากเลย ฉันคนนี้ก็เก่งเหมือนกันนะเนี่ย โฮะๆๆ^0^ ขออภัยในความหลงตัวเองเนื่องความที่แทบจะไม่เคยทำอะไรสำเร็จมาก่อนในชีวิต

    กริ๊งงงงงงงง(เสียงออด)

    “ หมดเวลาแล้ว เชิญกลับบ้านได้เลยจ้า ^0^

    เสียงหวานๆของพี่สมายและเสียงออดที่หมายถึงหมดเวลาแล้ว ทำให้ทุกคนพากันสลายตัวกลับบ้านตามที่พี่สมายบอก แต่ไหงฉันถึงไม่ได้กลับบ้านเหมือนคนอื่นเขาล่ะ

                    คนที่พอได้ยินพี่สมายบอกหมดเวลาก็พาฉันไปที่บ้านแต่บ้านที่ไปน่ะมันไม่ใช่บ้านฉันมันเป็นบ้านที่อยู่ข้างๆหรือก็คือบ้านของนียนั่นเอง แล้วเขาจะพาฉันคนนี้มาทำไม่มิทราบ ฉันอยากกลับบ้านไปกินข้าวเล่นเกมกับน้องชายแค่นั้นจริงๆแล้วจะลากฉันมาทำอะไรที่นี่กันT^T

    “ เธอคงยังไม่ลืมหน้าที่ของเธอในฐานะคนของวงไลค์หรอกนะ ”

    “ ใครมันจะไปลืมกัน แต่ที่ฉันอยากรู้คือนายพาฉันมาทำอะไรที่บ้านของนาย ”

    “ ยังไม่รู้จริงๆเหรอ ”

    “ อะไร ”

    “ ก็บ้านของฉันจะกลายเป็นบ้านพักของคนในวงไลค์น่ะสิเพื่อความสะดวกในการทำงาน ”

    “ มันก็เลยกลายมาเป็นที่ซ้อมและที่พักแทนที่เก่าที่พาไปคราวก่อนใช่มั้ย ”

    “ ถูกต้อง เข้าใจไวดีเหมือนกันนี่ งั้นเข้าไปเลยละกัน ” แน่นอนอยู่แล้วย่ะ ฉันเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายอยู่แล้วแต่ที่ไม่เข้าใจคือนายจะดึงฉันมาทำอะไรในที่แห่งนี้

    “ โอโห จูงมือกันมาซะด้วย ” นายโซโล่ที่เห็นฉันกับเนียเป็นคนแรกและพูดเป็นคนแรกตั้งแต่เข้ามาเมื่อไม่กี่วาทีนี้ พอได้ยินอย่างนั้นแน่นอนใครจะทำแบบนั้นต่อให้เข้าใจผิดล่ะฉันก็สะบัดมือออกทันทีที่นายโซโล่พูดจบประโยคน่ะสิ

    “ แล้วนายพาฉันมาทำอะไรที่นี่ไม่ทราบ ”

    “ ก็พามาซ้อมเล่นเพลงสุดท้ายในอัลบั้มนี้ไงล่ะเพื่อเปิดตัวเธอที่เป็นนักร้องนำคนใหม่ด้วย ”

    “ เข้าใจล่ะ งั้นขอดูเนื้อเพลงก่อนละกัน ” ว่าเสร็จโซโล่ก็ยื่นกระดาษที่เขียนเนื้อเพลงมาให้ฉัน และฉันก็อ่านข้อความในกระดาษคราวๆแล้วพยักหน้าเพื่อแสดงให้เห็นว่าฉันพอจะเข้าใจเนื้อเพลงแล้ว

    “ นี่ไหนๆสโนว์ก็มาที่นี่แล้วช่วยทำอะไรให้กินหน่อยได้มั้ย เพราะตั้งแต่พวกเราเข้ามาที่นี่ก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ” โซนี่ที่ไม่ได้พูดมาพักใหญ่ก็ประโยคนั้นขึ้นมา

    “ งั้นฉันไปช่วยละกัน ” นายเปโตรที่กำลังนั่งนิ่งเป็นอันไม่มีอะไรจะทำอาสามาช่วยฉัน ฉันก็ไม่ปฏิเสธอยู่แล้วเพราะจะได้มีคนช่วยแบ่งเบาภาระ ในตู้เย็นมีของสดอีกเพียบและอาหารสำเร็จรูปอยู่นิดหน่อย ฉันก็หยิบของสดที่ต้องใช้ทำเต้าหู้ทรงเครื่องมาและเริ่มทำและให้เปโตรช่วยมาล้าง หั่นผักให้ส่วนฉันก็ทอดเต้าหู้แลทำน้ำราดเทใส่เต้าหู้ และฉันทำแบ่งไว้อีกส่วนหนึ่งแช่ตู้เย็นไว้กินในคราวหน้า และนำส่วนที่พึ่งทำเสร็จไปวางบนโต๊ะและเรียกคนในวงไลค์ทั้งหมดให้มากินอาหารที่พึ่งทำเสร็จ

    “ โห น่ากินมากเลยแฮะ ไม่นึกว่าจะทำเก่งขนาดนี้ ”

    “ ขอบใจ แต่ชมให้มันดีกว่านี้ไม่ได้รึไง ”

    “ ฉันก็ชมได้แค่นี้แหละ งั้นก็ทานเลยนะครับ ” ทุกคนกินกันโดยไม่ปริปากตั้งแต่เริ่มรวมถึงฉันด้วยเพราะฉันหิวจริงๆ

                    สุดท้ายฉันก็ต้องมาซ้อมอยู่ดีนั่งดูเนื้อแล้วก็ดีดกีตาร์ไปแต่เพลงนี้ฉันได้ร้องแค่กี่ท่อนเองมันดูเหมือนว่าฉันเป็นคนที่มาร้องเสริมให้เชยๆเท่านั้นเอง

    “ กี่โมงแล้ว ”

    “ มีนาฬิกาอยู่ก็ดูสิที่ผนังนั่นไง ”

    ฉันพยักหน้าตอบและหมุนคอหันไปทางที่โซโล่บอก ก็พบกับเข็มยาวชี้ไปที่เลขที่สิบเอ็ด เข็มสั้นชี้ไปที่เลขแปด นั่นหมายถึงเวลายี่สิบนาฬิกาห้าสิบห้านาที เห็นแบบนั้นฉันก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วเก็บของทุกอย่างที่เป็นของที่เป็นของของตัวเองและเดินไปที่ประตูและบิดลูกบิดประตู ที่รีบเพราะคนในบ้านของฉันมีกฎว่าต้องเข้าบ้านก่อนสามทุ่ม ถ้ามาสายกว่านั้นไม่กี่นาทีบ้านจะล็อคเลย และฉันก็จะเข้าบ้านไม่ได้เพราะมันไม่มีกุญแจสำรองอยู่กับตัวเพราะต้องมีเหตุจำเป็นจริงๆคนในบ้านถึงให้เอากุญแจสำรองไปได้ แต่ฉันไม่ได้บอกอะไรคนที่อยู่ในบ้านเลย

    “ ขอกลับก่อนล่ะไม่งั้นฉันไม่ได้เข้าบ้านแน่เลย ”

    “ เดี๋ยว ”

    “ อะไรฉันไม่มีวลาแล้วนะอีกห้านาทีเอง ฉันต้องรีบไปแล้วนะ ”

    “ ฉันจะไปส่ง ”

    “ ไม่เป็นไรใกล้ๆเองและตอนนี้นายก็กำลังทำให้ฉันช้าลงอีก ”

    “ งั้นไปเลยละกัน ” เนียจูงมือฉันไปซะงั้นและไม่วิ่งเลยแม้แต่น้อยเนียเดินช้าๆอย่างสบายใจ ส่วนคนที่โดนจูงน่ะรีบมากแต่ก็วิ่งออกจากที่ที่กำลังเดินอยู่ไม่ได้เพราะเนียกำมือฉันไว้แน่นมากจนฉันสะบัดไม่ออกเลย ลองหลายรอบแล้วก็ไม่ออก

    “ ...อุ๊บ OxO

    “ ฝันดีนะครับคุณผู้หญิง ^^

    พอเดินมาถึงที่บ้านเขาที่หยุดแล้วจูบเบาๆที่ริมฝีปากของฉัน ริมฝีปากของเราแตะกัน ถึงจะเป็นจูบไม่สิต้องพูดว่าจุ๊บเพราะมันสั้นๆไม่นานสุดๆ แต่มันก็ทำให้ฉันหน้าร้อนผ่าวโดยไม่มีสาเหตุ จูบแรกของฉันกลายเป็นของนายเนียไปแล้วริมฝีปากที่ใครก็อยากได้มาครอบครองมันกลายเป็นของฉันไปแล้วโดยที่เขาให้สิ่งนั้นด้วยตัวเองด้วย ฉันทำอะไรไม่ถูกแล้วนะ สิ่งที่เขาทำหมายถึงการบอกราตรีสวัสดิ์งั้นเหรอ แล้วไอ้อาการแบบี้มันหมายความว่ายังไง

    ฉันถอยออกจากเนียมาสองสามก้าวเนียแสดงอาการขำนิดๆ ฉันที่หน้าคงจะแดงเป็นลูกมะเขือเทศไปแล้วก็ได้แต่หันหน้าหนีและก้มลงไปข้างล่าง

    “ อือ ราตรีสวัสดิ์นะ (   _///_)

    “ เจอกันใหม่พรุ่งนี้นะ ” แล้วเขาก็เดินจากไปโดยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่สิ่งที่เขานะ มันทำให้ฉันรู้สึกร้อนไปทั้งตัวและหัวใจแล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×