ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    I LIKE MUSIC! ( เจอะรัก นักดนตรี )

    ลำดับตอนที่ #3 : สนทนา

    • อัปเดตล่าสุด 12 มี.ค. 55


     สนทนา


    “ ฉันไปกินข้าวที่บ้านเธอได้มั้ย ”

    “ ก็ได้ แต่นายต้องเล่นกับน้องชายฉันแทนมิสเพราะวันนี้มิสมีงานพิเศษต้องทำ ”

    “ ตกลงตามที่ขอ ฉันจะทำให้ ”

    “ งั้นก็ไปที่บ้านฉันเลยละกัน  อ๊ะ!O0O!

    ว่าแล้วเนียก็จับมือฉันจูงไปที่บ้านตลอดทางฉันเงียบกริบด้วยความงงและรู้สึกแปลกๆหัวใจเต้นแรง ส่วนเนียก็จูงมือฉันไปเรื่อยและทำหน้ายิ้มแย้มสดใสร่าเริงตลอดทาง มันทำให้ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเขาทำแบบนี้พอถึงบ้านเมาส์น้องชายที่เรียนอยู่ม.1ยังไม่กลับมาเนียเลยทำเหมือนที่นี่เป็นบ้านของตัวเองโดยการไปนั่งบนโซฟาแล้วเปิดทีวีเปลี่ยนช่องไปเรื่อยและหยุดอยู่ช่องที่เกี่ยวกับเพลง K-POP ฉันลืมไปได้ไงเนี่ยว่าวันนี้เป็นวันที่จะได้ดูชีวิตประจำวันของวงชื่อดังของเกาหลี ฉันเลยรีบขึ้นไปอาบน้ำด้วยความเร็วแสงและรีบลงมาทำกำข้าวแล้ววางถึงไว้ให้เนียกับเมาส์และตัวเองก็มานั่งกินคนเดียวพอกินเสร็จก็หยิบจานตัวเองไปล้างเก็บเข้าที่แล้วรีบวิ่งออกมาจากห้องครัว แต่พอออกมาก็ต้องสลดเพราะเนียเปลี่ยนเป็นช่องเกี่ยวกับANIMEที่เมาส์มักจะดูบ่อยๆฉันเลยได้บ้างเวลามาดูทีวีเป็นเพื่อน แต่เดี๋ยวก่อนทำไมเนียถึงเปลี่ยนช่องล่ะฉันอุตสาห์ไปทำหน้าที่ของตัวเองจนหมดแล้ว แต่เขากลับเปลี่ยนช่องที่ฉันอยากดูแทน ด้วยความที่ตอนนี้มีแต่คำถามประมาณนี้ปากของฉันก็เลยพูดไปเพราะสงสัยว่าเปลี่ยนทำไม

    “ นายเปลี่ยนช่องทำไม นายรู้มั้ยว่าฉันอยากดูช่องที่นายหยุดดูตอนแรก ”

    “ ฉันไม่รู้ก็เธอไม่ได้บอกฉันว่าไม่ให้เปลี่ยนนี่นา ว่าแต่อาหารเย็นเสร็จยัง ^_^

    “ เสร็จแล้วงั้นเชิญนายไปทานข้าวได้เลยส่วนฉันจะดูทีวีแทนนายเอง ”

    “ ไม่ได้นะ เรื่องนี้เป็นการ์ตูนตอนพิเศษที่ฉายแค่รอบเดียวถ้าอยากดูอีกก็ต้องรอดูปีหน้าฉันก็เลยจะมากินข้าวตรงที่ที่เธอนั่งอยู่ ”

    นายก็ดูปีหน้าเอาไม่รึไงรายการของฉันมันฉายแค่รอบเดียวแล้วจะไม่ฉายซ้ำด้วย(ขี้เกียจดูในเน็ต) นี่คือสิ่งที่ฉันพูดต่อในบทสนทนาของฉันกับเนียในใจที่พูดไม่ได้ก็เพราะมันเป็นเหตุผลที่ไม่ดีพอและฉันมั่นใจว่าเขาคงมีข้ออ้างที่น่าจะมีเหตุผลมากกว่าฉัน ฉันก็เลยไม่กล้าพูด แต่ขณะที่เขาไปหยิบจานมาฉันก็แอบเปลี่ยนช่องไปดูรายการที่ฉันอยากดูและเปลี่ยนกลับเป็นช่องเดิมก่อนที่เนียจะกลับมาที่ห้องนั่งเล่นและนั่งลงที่โซฟาพร้อมกับดูทีวีและกินข้าวไปพร้อมกันจนข้าวในจานหมด ฉันหันหน้าไปก่อนจะเก็บจานแต่สายตาของฉันก็สะดุดเข้ากับที่ริมฝีปากของเขาที่ผู้หญิงทุกคนอยากได้มาครอบครองนี่เป็นสิ่งที่คนในห้องพูดกันและอย่าคิดว่าฉันจะทำอะไรเขาเพราะฉันแค่อยากขำที่เขากินข้าวแล้วยังมีข้าวติดอยู่ที่ปลายริมฝีปาก เขาอายุตั้งขนาดนี้แล้วเขายังกินข้าวแล้วเลอะติดปากอยู่เลยเขาไม่ใช่เด็กแล้วนะ แล้วฉันก็กลั้นหัวเราะไว้และเดินไปที่ห้องครัว

    “ ฉันไปช่วยนะ ”

    ฉันจึงพยักหน้าตอบแล้วเขาก็เดินตามฉันมาจนถึงห้องครัวและเก็บจานของเมาส์ที่ตอนนี้เย็นหมดแล้วเก็บเข้าตู้กับข้าวแล้วเอาจานของเมื่อเช้ากับเย็นนี้มาล้างขณะล้างอยู่ฉันก็แอบหัวเราะเบาๆไม่ไห้เนียได้ยินเขาก็ทำหน้างงอยู่บ้างที่ฉันทำท่าทางเหมือนหัวเราะและเขาก็ไม่รู้ว่าฉันขำเรื่องอะไร พอล้างเสร็จเราก็เดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่นเหมือนเดิมและฉันก็หันหาเขาเพื่อจะบอกให้เขาปัดข้าวให้ออกจากริมฝีปากของเขาแต่เขาก็หันมาทางฉันก่อนจะทำท่าตกใจเล็กน้อยที่ฉันหันมาทางเขา

    “ เธอมองหาอะไรที่หน้าฉันเหรอ ”

    “ มีข้าวติดอยู่ตรงนี้บนหน้าของนาย ” ฉันชี้ที่ริมฝีปากของตัวเองเพื่อให้เขารู้ว่ามันอยู่ตรงไหนแต่เขากลับไปแตะที่ตรงกันข้ามกับที่ฉันชี้และถูไปมาเบาๆริมฝีปากของเขาแต่เขาก็ถูไม่ถูกที่สักที มันเลยทำให้ฉันขำกับสิ่งที่เขาทำ

    “ เธอทำอะไรน่ะ สโนว์ ”

    “ ก็เอาข้าวที่ติดอยู่ออกจากหน้านายน่ะสิ ”

    “ ขอบใจนะ _///_

    “ ไม่เป็นไรหรอก ^^ ” เนียหน้าแดงเลยแต่ฉันไม่รู้ว่าทำไม เขาอาจจะไม่เคยโดนผู้หญิงแตะต้องตัวก็ได้ยกเว้นแม่ของเขา

    “ กลับมาแล้วครับ เฮ้ย! พี่ครับนั้นแฟนพี่เหรอเพิ่งเปิดเทอมวันแรกก็มีแฟนแล้วเหรอครับ ”

    “ มะ...ไม่ใช่นะ เขาแค่เป็นเพื่อนบ้านของเราที่อยู่โรงเรียนเดียวกันกับพี่เท่านั้นเอง แล้วเขาก็ขอมากินข้าวที่บ้านเราพี่เลยตกลงเท่านั้นแหละ ”

    “ นั้นมันเนียนี่นา สวัสดีครับ ^/\^

    “เช่นกันครับ ขอบคุณสำหรับข้าวเย็น ฉันขอกลับบ้านนะแล้วเจอกันพรุ่งนี้ จุ๊บ~ ” เขาจุ๊บที่แก้มฉันแล้วก็ออกไปจากบ้านโดยที่ฉันยังอึ้งอยู่ทำไมเขาทำแบบนี้ ฉันก็เขินเป็นเหมือนกันนะ

    “ หน้าพี่แดงมากเลยคงไม่ได้ชอบเขาหรอกนะครับพี่สาวแต่ผมขอทำนายว่าอีกไม่ช้าไม่เร็วพี่ทั้งสองคนจะเป็นแฟนกัน ”

    วันต่อมา...

      ผมขอทำนายว่าอีกไม่ช้าไม่เร็วพี่ทั้งสองคนจะเป็นแฟนกัน

    ผมขอทำนายว่าอีกไม่ช้าไม่เร็วพี่ทั้งสองคนจะเป็นแฟนกัน

    ผมขอทำนายว่าอีกไม่ช้าไม่เร็วพี่ทั้งสองคนจะเป็นแฟนกัน

    ทำไมเมาส์ถึงทำนายว่ามันจะเป็นอย่างนั้น ฉันไม่ได้ชอบเนียซะหน่อยหรืออาจจะชอบนิดหน่อย ไม่ฉันต้องสลัดความคิดพวกนี้ออกไปให้หมดแต่เจ้าเมาส์มักทำนายมักจะถูกหรือเป็นจริงเสมอ ทำให้ฉันได้นอนแค่สองชั่วโมงเพราะฉันนอนไม่หลับติดต่อกันหลายชั่วโมงสาเหตุมาจากเรื่องที่เมาส์บอกกับฉัน ฉันว่าฉันควรจะโกรธน้องตัวเองนะเนี่ยที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ ตอนนี้ก็อยู่ที่โรงเรียนด้วยง่วงชะมัดเลยวันนี้มีแต่หาว หาวและหาว

    “ สวัสดี วันนี้เป็นอะไรไปมีแต่หาวทั้งวันเลย ”

    “ เพราะเมาส์น่ะสิทำให้ฉันเป็นแบบนี้ วันนี้เนียไปไหนซะล่ะ ”

    “ ก็หนีแฟนคลับไปที่ห้องชมรมก่อนแล้วไง เราก็ไปกันบ้างเถอะ ”

    “ อือ -__-

    ฉันกับมิสเดินมาถึงห้องชมรมเราทั้งสองคนเดินเข้าไปในห้องและพบกับสมาชิกทุกคน พอทุกคนเห็นว่าคนในชมรมมาครบแล้วก็เริ่มซ้อมกันฉันต้องมานั่งระหว่างเนียและพี่เลนส์ซึ่งได้เครื่องดนตรีเครื่องเดียวกัน ฉันจะอธิบายว่าใครอยู่กับใคร       มิสอยู่กับพี่สมายที่เล่นอูคูเลเล่เหมือนกัน แบร์อยู่กับพี่เจซึ่งเล่นเบส ฉันต้องเริ่มเล่นคอร์ดพื้นฐานก่อนและฉันคิดว่าฉันจำและเล่นได้ทั้งหมดแล้วไม่ว่าจะเป็นคอร์ด C,Am,Dm และG7 ภายในครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา เมื่อซ้อมครั้งสุดท้ายเสร็จทุกคนในชมรมก็ไปสอบกับคุณครูที่ปรึกษาชมรมแน่นอนทุกคนผ่าน การสอบครั้งนี้ให้คะแนนเป็นกลุ่ม สอบก็ต้องสอบพร้อมกันและเมื่อทุกคนเล่นได้ก็หมายถึงผ่านกันทุกคนนั้นแหละ

    “ สวัสดี วันนี้ไม่เจอกันทั้งวันเลยนะ ” เนียที่ตอนนี้ไม่ได้ใส่แว่นแล้วเพราะทุกคนรู้หมดแล้วว่าคือเนีย แว่นเลยไม่จำเป็นอีกต่อไปสำหรับเขา เนียถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเช่นเคย ฉันได้แต่หลบหน้าเพราะรู้ว่าตัวเองหน้าแดงเลยหันไปทางพี่เลนส์ที่กำลังตั้งใจฝึกเล่นคอร์ดต่างๆอีกเล็กน้อยในบทที่ 2

    “ อือ (    -///-) ”

    “ เป็นไรไป หันมาหน่อยสิ ”

    “ ซ้อมต่อเถอะน่าเดี๋ยวคุยตอนกลับก็ได้ ”

    “ สองคนนี้ดูสนิทกันจัง กลับบ้านด้วยกันด้วยเป็นแฟนกันรึเปล่าเนี่ย ^^

    “ เปล่านะคะ พี่เลนส์พวกหนูบ้านอยู่ใกล้กันก็เลยเดินกลับด้วยกันเฉยๆก็เท่านั้นเอง อีกอย่างเราเป็นเพื่อนที่สนิทกันก็เลยอาจจะดูเหมือนอย่างนั้นแต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย ”

    “ ผู้หญิงกับผู้ชายก็เป็นเพื่อนกันได้นะแต่มันมีน้อยก็เพราะเพื่อนจะถูกพัฒนาจนเป็นแฟนกันยกเว้นแต่จะเป็นชายสองหญิงหนึ่งที่เป็นเพื่อนกันหรือไม่ก็หญิงสองชายหนึ่ง ”

    ที่พี่พูดหมายถึงรักสามเศร้ารึเปล่าทำไมพูดเหมือนกับจะบอกฉันว่าเราสองคนเป็นเพื่อนกันไม่ได้เรื่องนี้มีคนรับรองสองคนแล้วนะแถมเป็นคนที่น่าเชื่อถือทั้งสองคนด้วยคิดแล้วก็ไม่เข้าใจว่าพวกเขาคิดแบบนั้น ฉันก็จะเลิกคิดถึงมันเพราะยิ่งทำให้ฉันปวดหัวเปล่าๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×