ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    I LIKE MUSIC! ( เจอะรัก นักดนตรี )

    ลำดับตอนที่ #2 : แนะนำตัว

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 55


     

    แนะนำตัว




    วันนี้ก็ตามปกติออกจากบ้านหลังจากของกินเหลือจากเมื่อวานเป็นมื้อเช้า และเดินไปโรงเรียนแต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คือเราเจอผู้ชายคนหนึ่งเดินมาทักเราพร้อมกับชวนเดินไปโรงเรียนเดียวกัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเป็นใครเขาเป็นนักเรียนใหม่ของโรงเรียนฉันก็ฉันไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน แต่เขาใส่เครื่องแบบโรงเรียนของฉัน เสื้อเชิตสีขาว เนกไทสีฟ้าลายสก็อต กางเกงสีดำ ส่วนหน้าตาไม่ต้องพูดถึงหล่อ ทุกอย่างบนใบหน้าลงตัวกันหมดไม่อยากพรรณนาไม่งั้นคงจะยาวเหยียด ด้วยความที่ฉันและมิสอึ้งอยู่เขาก็เลยจับมือฉันให้กระตุกเล็กน้อยเพื่อให้ได้สติ พอฉันได้สติฉันจึงไปสะกิดมิสทำให้มิสได้สติกลับมาอีกครั้งและเดินไปเรื่อยๆ

    “ ทั้งสองคนชื่ออะไรกันเหรอครับ ”

    “ ฉันสโนว์ ส่วนคนนี้ชื่อ... ”

    “ มิสค่ะ “

    หล่อแล้วยังพูดเพราะอีก ถ้ามีผู้ชายแบบนี้หลายๆคนคงจะดีไม่น้อย ส่วนมิสเนี่ยชอบผู้ชายอยู่แล้วแต่เธอและฉันไม่เคยเห็นใครหล่อเท่าเขาเลยจริงๆก็เลยสมควรแล้วที่เธอจะทำแบบนี้

    “ แล้วคุณชื่ออะไรค่ะ ”

    “ ผมเนียร์ สะกดว่า เอ็น-อี-เอ-อาร์ ครับ ”

    “ กรี๊ดดดดดดดดดดดด เนียร์ ” อยู่ๆก็มีเสียงของพวกผู้หญิงในโรงเรียนและพวกผู้หญิงอีกกลุ่มที่วิ่งเข้ามาจากผู้หญิงในโรงเรียนที่เรียบร้อยกลายมาเป็นผู้ล่า(ผู้ชาย)ที่น่ากลัว พอเนียร์เห็นกลุ่มผู้หญิงส่วนใหญ่วิ่งมาก็ทำหน้าตกใจก็จะบอกลาเราก่อนจะใส่แว่นที่ไม่ใช่แว่นสายและตั้งท่าเตรียมตัววิ่งและเขาก็วิ่งออกไปด้วยความเร็วสูงจนผู้หญิงกลุ่มมองไม่ทันว่าเนียร์วิ่งไปไหน ฉันและมิสที่ไม่รู้ว่าทำไมจึงเป็นแบบนี้จึงงงเล็กน้อยก่อนจะเดินไปที่ห้องเรียนและนั่งประจำที่ของตัวเอง

    พอนั่งได้ไม่นานผู้หญิงที่อยู่ห้องและเหมือนจะรู้เหตุการณ์ที่อยู่ในโรงเรียนก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาฉันกับมิสและถามคำถามมาเป็นชุด ฉันกับมิสเกือบสลบเนื่องจากสมองอันมีความฉลาดไม่มากไม่น้อยของเราสองคนประมวลผลไม่ทัน แต่อย่างน้อยสมองของฉันก็สามารถจับใจความของคำถามได้ประมาณว่า เธอเจอเนียที่ไหน ทำไมเธอได้เดินมาโรงเรียนกับเนีย ได้คุยอะไรกับเนียบ้าง และอีกมากมายแต่ฉันก็จำได้แค่นี้

    “ พวกเธอไปนั่งที่ได้แล้วมันถึงเวลาเรียนแล้ว ” พอทุกคนได้ยินเสียงของคุณครูก็รีบพากันกลับไปนั่งที่ ฉันเกือบจะตายกับคำถามที่ถูกยิงมาเป็นชุดของคนพวกนี้อยู่แล้ว ต้องขอขอบพระคุณคุณครูอย่างยิ่งที่ทำให้ฉันรอดมาได้

    “ มีนักเรียนใหม่มาอยู่ห้องเรา ดูแลเขาให้ดีด้วยนะ ”

    “ กรี๊ดดดดดดดด เนียอยู่ห้องเดียวกับเราเหรอ ไม่อยากจะเชื่อ ”

    ตามคำพูดของพวกผู้หญิงในห้องก็รู้ว่าพวกเธอดีใจที่ได้อยู่ห้องเดียวกับเนียแต่พวกชายกลับหน้าบึ้งเพราะผู้หญิงทุกคนต่างสนใจแต่เนีย และคุณครูของเราก็บอกให้จับฉลากเลือกที่นั่งใหม่เพราะเมื่อวานเราได้นั่งตามใจชอบหนึ่งวันแล้วจึงต้องเปลี่ยนที่นั่งตามสิ่งที่ครูต้องการ ครูประจำชั้นห้องเราจึงให้จับฉลากกันและฉันจับได้ที่นั่งริมหน้าต่างแถวสอง ส่วนมิสนั่งข้างฉัน และเนียได้นั่งข้างหลังฉัน ส่วนคนที่นั่งข้างๆเนียก็ถึงกับขั้นเพ้อเจ้อกันเลยทีเดียว และสิ่งที่ฉันคาดไว้ไม่ผิดก็คือคนที่ไม่ได้นั่งข้างเนียในห้องก็มองผู้ที่ได้ตำแหน่งที่ตนอย่างได้ด้วยสายตาอิจฉาริษยาจนฉันรู้สึกเย็นสันหลังวาบเลย

    พักเที่ยง...

    “ ไปกินข้าวด้วยกันมั้ย ”

    “ ฉันไม่มีปัญหา เดี๋ยวฉันถามมิสให้พอถามเสร็จเดี๋ยวตามไป ”

    “ ไม่ต้องหรอกฉันได้ยินหมดแล้ว คำตอบคือได้ แต่จะไม่เป็นไรเหรอผู้หญิงทุกคนก็อยากนั่งกับนายเหมือนกันนะ ”

    “ ไม่เป็นไรหรอก เพราะเธอสองคนเป็นคนที่ฉันเลือกจากผู้หญิงทั้งหมด ^^

    ขณะที่เดินไปที่โรงอาหารฉันกับมิสที่ไม่รู้ว่าทำไมผู้หญิงทั้งโรงเรียนจึงกลายเป็นอย่างนี้เพราะแค่เนียคนเดียว

    เนียที่ตอนนี้ใส่แว่นอยู่และทำให้บางคนจำไม่ได้ก็ตอบคำถามของฉันและมิส ฉันจับใจความได้ว่า

    เขาเป็นนักดนตรีชื่อดังที่เล่นกีตาร์และย้ายออกมาจากบ้านเพราะเบื่อที่จะอยู่ที่บ้านที่มีคนใช้อำนวยความสะดวกให้ มันทำให้เขารู้สึกไม่เป็นอิสระ จึงขอให้พ่อกับแม่ซื้อบ้านให้ และพอซื้อบ้านหลังที่อยู่ข้างบ้านฉันได้แล้วก็ย้ายมาอยู่นี่และเขายังขอย้ายโรงเรียนมาอยู่ที่นี่ และใช้เงินที่พ่อแม่ส่งมาให้ทุกเดือน

    ก็ประมาณนี้แหละประวัติความเป็นมาของเขา แต่ตอนนี้ฉันเพิ่งรู้สึกว่าโรงเรียนนี้มันน่ากลัวกว่าในห้องซะอีกเพราะฉันรู้สึกถึงสายตาอิจฉาริษยาที่มาจากผู้หญิงทั้งโรงเรียนและทุกคนที่ได้เดินผ่านมันทำให้รู้สึกเย็นสันหลังมากกว่าในห้องมากเลย โอ๊ย คนพวกนี้เมื่อไหร่จะหยุดทำหน้าตาแบบนี้ และส่งสายตาแบบนั้นตอนไหนเนี่ย ฉันกลัวนะ ขอร้องล่ะ T_T

    “ สโนว์กับมิสเข้าชมรมไหนกันเหรอ ”

    ชมรมดนตรีประเภทเครื่องสาย แล้วเนียล่ะ ”

    “ ก็ชมรมเดียวกันกับพวกเธอไง ”

    ก็สมแล้วล่ะที่เนียจะเข้าชมรมนี้ก็เป็นคนที่เล่นกีตาร์อยู่แล้ว แต่ทำไมฉันรู้สึกว่าเหตุที่เข้ามันต่างกันกับฉันที่เข้าเพราะฉันไม่อยากเข้าชมรมที่มันยุ่งยากก็เลยเลือกชมรมนี้แล้วเห็นคนเล่นเยอะก็เลยอยากเล่นเหมือนกัน ฉันอิจฉาคนมีความสามารถจังเพราะฉันไม่มีสิ่งที่เก่งที่สุดเลย โลกมันช่างไม่ยุติธรรมกับคนอย่างฉันจริงๆ ฉันเรื่องเรียนก็ถือว่าปานกลาง กีฬาก็พอเอาตัวรอดได้ อย่างอื่นฉันก็อยู่กลางๆเกือบทุกอย่าง ฉันอยากมีความสามารถเหมือนคนอื่น แต่ฉันอาจจะยังหามันไม่เจอก็ได้ แต่นี้มันเป็นแค่ความคิดส่วนตัวของฉันแค่นั้นนะ

     “ อิ่มแล้ว ”

    “ ไปที่ห้องกันเถอะ ”

    “ ตกลง ไหนๆก็กินเสร็จแล้ว ”

    กริ๊งงงงงงงงงงง (เสียงออด)

    เราได้คุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ในห้องท่ามกลางสายตาอิจฉาริษยาของพวกผู้หญิงบางคนแต่ก็ไม่หนักเท่าครั้งแรก มันทำให้ฉันรู้สึกโล่งอกที่ได้รู้สึกเป็นปกติเหมือนเดิม

    เมื่อได้ยินเสียงออดทุกคนในห้องต่างแยกย้ายกันไปเรียนคาบชุมนุมและไปชมรมของตัวเอง ฉันและเพื่อนทั้งสองคนจึงเดินไปที่ห้องชมรมดนตรีประเภทเครื่องสายซึ่งเป็นชมรมของพวกเรา และเมื่อเปิดประตูเข้าไปเราก็ได้พบคนสี่คนกำลัง มีคนหนึ่งกำลังจนอะไรบางอยู่อีกสามคนก็พูดอะไรบางอย่าง พอก้าวเข้าไปในห้องได้ไม่กี่ก้าวผู้หญิงผมสั้นหันมามองพวกเราที่พึ่งเข้ามาพร้อมกับคนอีกสามคน คนแรกที่มีผมสั้นสีน้ำตาลเข้มและมีหน้าตาที่น่ารักมาก อีกคนคือคนที่นั่งข้างๆมีผมสีน้ำตาลแดงมัดผมรวดและใส่แว่นเธอดูเป็นคนเรียบร้อยมาก อีกคนคือผู้ชายผมสีน้ำตาลทองหน้าตาน่ารัก และคนสุดท้ายคนที่กำลังจดอะไรบางอย่างอยู่มีผมสีดำดูเงียบขรึมและเท่ในเวลาเดียวกัน  ทุกคนล้วนหน้าตาดีหมดทุกคนผู้หญิงก็สวย ผู้ชายก็หล่อ

    “ ว้าว แม้แต่เนียก็เข้าชมรมนี้เหรอเนี่ย  อ๊ะ ขอโทษที่ไม่ได้แนะนำตัวฉันสมาย ผู้หญิงที่ใส่แว่นคือแบร์ ผู้ชายคนนี้คือเลนส์ ส่วนคนที่จดอยู่เป็นหัวหน้าชมรมชื่อเจ ”

    “ กำลังทำอะไรกันเหรอครับ พี่สมาย ”

    “ ก็กำลังสั่งเครื่องดนตรีที่จะใช้ในชมรมไง ”

    “ งั้นผมคงไม่ต้องสินะครับ ”

    พี่สมายพยักหน้าพร้อมกับหันมาถามฉันและมิส ฉันเลือกกีตาร์ มิสเลือกอูคูเลเล่ คนในชมรมของเรามีรุ่นพี่สองคนก็คือพี่สมาย และพี่เจที่ใส่เนกไทสีแดงลายสก็อต โรงเรียนของฉันแยกเป็นหนึ่งตึกต่อหนึ่งช่วงชั้นฉันอยู่ที่ตึก ม.4-ม.6 มีเนกไทสามสีคือ ม.4 สีเขียว ม.5 สีฟ้า ม.6 สีแดง ทำให้รู้ว่าใครเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องของเรา ช่วงชั้นอื่นก็จะมีสีที่ต่างกันออกไป

    หลังจากเลือกเครื่องดนตรีเสร็จ พี่สมายก็อธิบายถึงวิธีฝึกเล่นและการสอบเล่นเครื่องดนตรีของตัวเองในแต่บทที่มีในหนังสือฝึก ส่วนคนประเมินในการสอบแต่ละครั้งก็คือครูประจำชั้นของห้องฉันเอง ฉันเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าคุณครูเล่นเครื่องดนตรีพวกนี้เป็น และพี่สมายก็บอกกฎในการอยู่ในห้องชมรมให้ฟังต่ออีกนิดหน่อยพอพูดเสร็จก็ปล่อยให้ทุกคนกลับบ้าน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×