คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : รวมประวัติตัวละครและรูปภาพ เรื่อง Bakuman วัยซนคนการ์ตูน
Bakuman วัยซนคนการ์ตูน
“ปกติ คนทั่วไปก็จะเริ่มจากลอกลายเส้นการ์ตูนที่ตัวเองชอบกันตอนอายุราวๆ 10 กว่าขวบ พอวาดรูปได้ระดับหนึ่งก็จะเริ่มคิดเป็นนักเขียนการ์ตูน”ประโยค ข้างต้นคือบทสนทนาตอนหนึ่งจากการ์ตูน Bakuman วัยซน คนการ์ตูน ผลงานการจับคู่เรื่องล่าสุดของ อ.ทซึกุมิ โอบะ (วาดลัคกี้แมนและแต่งเรื่อง Death Note) กับ อ.ทาเคชิ โอบาตะ (วาด Death Note ฮิคารุเซียนโกะ และบลูดราก้อน) ซึ่งสำหรับผมแล้วมันช่างเป็นประโยคที่สอดคล้อง และพ้องตรงกับชีวิตของผม ราวกับ อ.โอบะ มาหยิบเอาเรื่องของผมไปเขียนก็ไม่ปาน แต่จริงๆแล้วนั่นเป็นประโยคที่สรุปชีวิตของผู้ที่เป็น (และอยากจะเป็น) นักเขียนการ์ตูนได้ “จริง” ที่สุด ชนิดที่ผู้เสพการ์ตูนทั้งหลายคงรู้สึกเหมือนกำลังได้อ่านชีวิตของตัวเองกัน เลยทีเดียว
Bakuman เป็นเรื่องราวของมาชิโระ โมริทากะ และทาคากิ อาคิโตะ นักเรียนม.ปลายที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักเขียนการ์ตูน โดยทาคากิรับหน้าที่ในการเขียนเรื่อง และมาชิโระเป็นคนวาดภาพ นอกเหนือจากการตีแผ่ (จนเกือบๆจะเป็นการเปิดโปง) ชีวิตของนักเขียนการ์ตูน อาชีพในฝันของใครหลายๆคนแล้ว อ.โอบะยังแจกแจงที่มาที่ไปและเส้นทางของการ์ตูนสุดฮิตทั้งหลายที่ลงใน Shonen Jump นิตยสารการ์ตูนยอดนิยมของญี่ปุ่น ผู้ให้กำเนิดการ์ตูนดังๆอย่าง One Piece, Naruto, Bleach, Reborn, Hunter x Hunter และอื่นๆอีกมากมาย โดยเลือกที่จะถ่ายทอดเรื่องราวพวกนี้อย่างสมจริงและเข้มข้นไปด้วยรายละเอียด ตั้งแต่การนำผลงานไปเสนอสนพ. ความยากลำบากในการเขียนต้นฉบับ การคุยงานกับกองบรรณาธิการ ขั้นตอนการคัดเลือกการ์ตูนที่จะได้ตีพิมพ์ และการใช้ไปรษณียบัตรจากผู้อ่านเป็นตัวตัดสินว่าการ์ตูนเรื่องไหนจะอยู่หรือ ไป ถ้าวัดจากผลงานที่ผ่านๆมา นี่อาจจะเป็นงานที่มีความเป็นแฟนตาซีน้อยที่สุดของ อ.ทั้งสองท่าน แต่ในแง่ของความสนุกสนานแล้ว มันไม่ได้ด้อยไปกว่าฮิคารุหรือ Death Note เลย
ถึง จะพูดอย่างนั้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนที่อ่านเล่มหนึ่งจบผมแทบจะปาหนังสือทิ้ง เพราะดำเนินเรื่องได้ราบเรียบน่าเบื่อชวนหลับเป็นที่สุด นี่ถ้าไม่ติดว่าชอบในลายเส้นของอ.โอบาตะอาจจะเลิกอ่านกันไปแล้ว ความสนุกของเรื่องมาเริ่มเข้มข้นขึ้นในเล่มที่สองตอนท้ายๆ (ทำไมวอร์มนานจังวะ) หลังจากที่เปิดตัวนักเขียนการ์ตูนอัจฉริยะม.ปลาย นีซึมะ เอย์จิ (ที่สร้างบุคลิกได้แปลกและโดดเด่นพอๆกับแอลเลยทีเดียว) และยิ่งสนุกสนานมากขึ้นในเล่มที่สามและสี่ หลังจากที่เปิดตัวนักเขียนคู่แข่งออกมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จุดที่น่าชื่นชม อ.โอบาตะเป็นอย่างมากก็คือการเขียนลายเส้นการ์ตูนหลายๆแบบสำหรับนักเขียน หลายๆคนในเรื่อง เพราะนักเขียนการ์ตูนแต่ละคนย่อมมีเอกลักษณ์ลายเส้นที่แตกต่างกัน การสร้างลายเส้นเฉพาะให้กับนักเขียนการ์ตูน (ที่เป็นการ์ตูนอีกที) ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ อ.โอบาตะก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ด้วยการดำเนินเรื่องที่ยึดแนวทางของความสมจริง ย่อมเป็นการยากที่จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกสนุกสนาน (ดังที่ผมเบื่อแบบสุดๆตอนที่อ่านเล่มหนึ่ง) แต่ อ.ทั้งสองท่านก็แก้ไขและสามารถทำให้ฉากธรรมดาๆอย่างการคุยงาน การประชุม หรือการปั่นต้นฉบับ เกิดความตื่นเต้นขึ้นมาได้
ถึง แม้จะดำเนินเรื่องโดยยึดแนวทางสมจริง แต่ก็ยังมีจุดที่เหลือเชื่อเกินจริงอยู่บ้าง (และเป็นจุดที่ทำให้ผมรู้สึกเบื่อหน่ายที่สุด) นั่นคือประเด็นความรักของมาชิโระและอาซึกิ คู่พระนางของเรื่อง ที่สัญญากันไว้ว่าจะแต่งงานกันหลังจากที่ต่างฝ่ายต่างทำตามความฝันของตน สำเร็จ (ความฝันของอาซึกิคือการได้เป็นนักพากษ์) ฟังดูเผินๆก็โรแมนติคดี แต่อ่านๆไปก็จะเริ่มรำคาญ เพราะอีสองคนนี่มันเล่นไม่ยอมนัดพบหรือแม้แต่จะโทรศัพท์คุยกันเลย อย่างดีก็ส่งเมลล์คุยกัน ไม่รู้จะบริสุทธิ์อุดมคติกันไปถึงไหน เวิ่นเว้อวึ่นวือหาใดปาน เหลือเชื่อเหนือจริงซะยิ่งกว่าผีโกะหรือยมฑูตซะอีก
Bakuman อาจจะเป็นการ์ตูนที่สร้างขึ้นมาจากชีวิตจริงของตัวผู้เขียน แน่นอนว่าทั้ง อ. โอบะ และ อ. โอบาตะต้องเคยผ่านการต่อสู้ฟันฝ่าแบบนี้มาแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจก็คือการที่มันทำหน้าที่เป็นเสมือนภาพสะท้อนของ ผู้ที่รักการ์ตูนทั้งหมดมั้งมวลในโลกใบนี้ ตัวละครหลายๆตัวในเรื่องดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยความรักในการ์ตูน ไม่เฉพาะแต่ผู้ที่เป็นนักเขียน แม้กับกองบรรณาธิการก็ไม่ต่างกัน สิ่งที่การ์ตูนเรื่องนี้แสดงให้เราเห็นก็คือการยอมรับและให้คุณค่าของ การ์ตูน ที่ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นแค่เรื่องสำหรับเด็ก แต่มันคือชีวิต คืองานที่เป็นเกียรติยศและความภาคภูมิใจ และการประสบความสำเร็จของการ์ตูนซักเรื่องก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะโชคช่วย หากเกิดจากความมานะพยายามและการเครี่ยวกรำตนเอง ทั้งจากตัวของนักเขียนและกองบรรณาธิการ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้การ์ตูนญี่ปุ่นยิ่งใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้
ตัวละครหลัก
-
เนื้อเรื่องของเรื่องนี้น่าสนใจแค่ใหน?
เป็นอีกการ์ตูนหนึ่งที่เรียกได้ว่า”เปิดโปงจัมป์”อย่างเผยห้องบรรณาธิการ พาไปดูสำนักพิมพ์ อีกทั้งยังล้อเลียน หรือกล่าวถึงการ์ตูนอื่นๆทั้งในจัมป์และไม่อยู่ในจัมป์ไม่แพ้การ์ตูนกินทามะ เช่น TO-LOVE-RU นารุโตะ โคนัน(โผล่มาจากโชกัก) I”s อิจิโกะ 100% ฯลฯ
ผู้วาด ทาเคชิ โอบาตะ : ผู้วาดการ์ตูนเรื่องเดธโน๊ต ฮิคารุเซียนโกะ และ บลูดราก้อน
ผู้เขียน โอะบะ ทสึกูมิ : ผู้ที่แต่งเรื่องเดธโน๊ต หรือชื่อจริงของผู้แต่งเรื่อง Lucky Man
รูปแบบของเนื้อเรื่อง : ตลก / ดราม่า / โรแมนติก / ชีวิตในโรงเรียน / วัยรุ่น / ชีวิตประจำวันตัวละครในเรื่อง
โมริทากะ มาชิโระ (ไซโค)ตัวเอกของเรื่อง มีความถนัดด้านการวาดภาพ ชอบมิโฮะ อาของไซโคเป็นนักวาดการ์ตูนให้กับจัมป์ ต้องการเป็นนักเขียนการ์ตูนกับชูจิน และต้องการให้การ์ตูนที่ทั้งคู่นั้น กลายเป็นอนิเมให้ได้ ส่วนใหญ่ในตอนปัจจุบันการ์ตูนที่ไซโคกับชูจินจะเกี่ยวกับต่อสู้และความลึก ลับ
อากิโตะ ทาคากิ (ชูจิน)
ตัวเอกอีกคนในเรื่อง เป็นนักเรียนที่สอบได้ที่1ของชั้น ชูจินชื่นชอบการ์ตูนมาตั้งแต่เด็ก รวมถึงการ์ตูนของอาที่ไซโควาดด้วย และมีความถนัดด้านการแต่งเนื้อเรื่อง แต่ไม่ได้วาดภาพเก่งจึงต้องการให้ไซโคเป็นคนวาดภาพ ชูจินเริ่มคบกับมิโยชิ และคบกันในที่สุด
มิโฮะ อาซูกิ
ลูกคุณหนู ชอบไซโค และมีความฝันว่าตอนโตจะเป็นนักพากย์ สัญญาจะแต่งงานกับไซโคถ้าหากทั้ง2คนทำงานตามที่ฝันไว้เป็นจริงเท่านั้น
นีซูมะ เอย์จิ
เด็กหนุ่มอายุ15ปี มาจากต่างจังหวัด มีพรสวรรค์ด้านการวาดการ์ตูนทั้งภาพและเรื่อง เข้าขั้นอัจฉริยะ ส่งเข้าประกวดเท็ตซูกะได้รางวัลชนะเลิศหลายครั้ง จนได้ทำงานในจัมป์ตั้งแต่อยู่มัธยม
ตัวประกอบอื่นๆ มากมาย (_ _'')
- ฟุคุดะ ชินตะ
- ฮิรามารุ คาซึยะ
- คายะ มิโยชิ
- อากิระ ฮัตโตริ
ภาพแถมสวย ๆ
- มาชิโระ โมริทากะ
- (ญี่ปุ่น: 真城 最高 Mashiro Moritaka ?)
- ให้เสียงโดย จุน ฟุกุยามะ [2]
- พระเอกของเรื่อง อายุ 14 ปี (ตอนแรกของเรื่อง ปัจจุบันอายุ 18 ปี) วาดรูปเก่งได้รับรางวัลมากมายในสมัยเด็ก เป็นเด็กมัธยมธรรมดาๆ ที่ยังไม่ได้วางแผนถึงเรื่องอนาคต วันหนึ่งเขาได้ลืมสมุดโน้ตไว้ที่โรงเรียนซึ่งในนั้นเขาได้วาดรูปขออง อาซึกิ มิโฮะ ที่แอบชอบลงไปและกลัวว่าใครจะมาเปิดดูจึงรีบกลับมาเอา และก็ได้พบกับ อาคิโตะ ทาคากิ นั่งถือสมุดโน้ตเล่มนั้นไว้อยู่ในมือ ทำให้เขาตกใจกลัวว่า ทาคากิ จะรู้ว่าเขาแอบชอบ อาซึกิ อยู่ ทาคากิจึงได้ต่อลองกับเขาให้มาจับมือเขียนการ์ตูนกัน โดยให้มาชิโระวาดภาพ และทาคากิจะเป็นคนแต่งเรื่อง ตอนแรกมาชิโระไม่ยอมตกลง เย็นวันนั้นทาคากิได้เรียกมาชิโระให้ไปที่บ้านของอาซึกิ โดยบอกว่าตนมีเรื่องจะสารภาพกับอาซึกิ ทำให้มาชิโระคิดว่าทาคากิจะสารภาพรักกับอาซึกิ และก็สงสัยว่าทำไมต้องเรียกตนไปด้วย เมื่อไปถึง เรื่องที่จะสารภาพกลับไม่ใช่สารภาพรัก แต่เป็นการบอกว่า จะเป็นนักเขียนการ์ตูน มาชิโระจึงได้ตามน้ำไป และมาชิโระจึงได้รู้อีกว่า อาซึกิตั้งใจจะเป็นนักพากย์อะนิเมะ ทำให้มาชิโระสับสนระหว่างเรื่องของตัวเอง กับเรื่องของคุณอาที่เป็นนักเขียนการ์ตูน ที่ได้แอบชอบเพื่อนร่วมชั้น แต่ไม่กล้าสารภาพรัก มาชิโระเลยบอกกับอาซึกิไปว่า "ถ้าฝันเป็นจริงแล้ว ขอให้มาแต่งงานกันนะครับ" อาซึกิที่เขินอายได้วิ่งเข้าบ้านไป และตอบตกลงกลับมา
- ตัวคันจิคำว่า โมริทากะ ยังอ่านได้ว่า ไซโค ที่แปลว่า สุดยอด ซึ่ง มาชิโระนั้นไม่ชอบชื่อนี้เพราะเวลาเรียกเหมือนกับการกลั่นแกล้งเขานั่นเอง
- ทาคากิ อาคิโตะ
- (ญี่ปุ่น: 高木 秋人 Takagi Akito ?)
- ให้เสียงโดย ชินโนสึเกะ ทาจิบานะ [2]
- เด็กหนุ่มอัจริยะอายุเท่ากับมาชิโระ ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักเขียนการ์ตูนแต่วาดภาพไม่เก่ง จึงได้ชวนมาชิโระมาวาดภาพให้ แต่ก็ไม่สำเร็จ เลยเรียกมาชิโระให้ไปที่บ้านของอาซึกิ แล้วก็ทำให้มาชิโระรู้ว่าอาซึกิอยากจะเป็นนักพากย์การ์ตูน และได้บอกกับอาซึกิว่าจะเป็นนักเขียนการ์ตูน โดยจะมีมาชิโระวาดภาพให้ ทาคากิ คบอยู่กับ มิโยชิ คายะ เพื่อนของ อาซึกิ มิโฮะ เพราะความเข้าใจผิด เรื่องที่ว่าทาคากิไปถามเรื่องความฝันของอาซึกิ เพราะทาคากิชอบเธอ และทาคากิยังบอกว่า อยากคุยด้วย อีก หลังจากที่เรื่องสั้นได้ลงใน อากามารุ จัมป์ ทำให้เพื่อนในโรงเรียนรู้ว่าพวกเขาได้จับมือกันเขียนการ์ตูน และอิชิซาว่าก็ได้เข้ามาโยะเย้ยว่า ภาพห่วยมาก ทำให้ทาคากิเกิดไม่พอใจเลยชกหน้าเข้าไปหนึ่งที และได้ถูกพักการเรียนเมื่อมาชิโระไปหาทาคากิที่บ้าน ก็ได้พบว่า มีคนอื่นอยู่ด้วย นั่นคือ มิโยชิ คายะ และ อิวาเสะ ไอโกะ ซึ่งทั้งสองคนนี้ชอบทาคากิ เลยมาถามให้แน่ใจว่า จะเลือกใครระหว่างสองคนนี่ แต่ทาคากิเลือกไม่ได้เลยถามว่า อยากให้ความฝันมาก่อน แล้วเรื่องคบกันไว้ที่หลังใครรับได้บ้าง มิโยชิบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่ว่า ไอโกะไม่ยอมรับ เลยกลับบ้านไปสุดท้าย ทาคากิ ก็เลยคบกับมิโยชิ
- มาชิโระจะเรียกทาคากิว่า ชูจิน (ญี่ปุ่น: シュージン Shūjin ?) ที่แปลว่า นักโทษ เพราะว่ามาชิโระไม่พอใจที่ทาคากิเรียกชื่อ ของมาชิโระ ว่า ไซโค
- อาซึกิ มิโฮะ
- (ญี่ปุ่น: 亜豆 美保 Azuki Miho ?)
- ให้เสียงโดย มินาโกะ โคโตบุกิ [2]
- นางเอกของเรื่อง อายุเท่ากับ มาชิโระ แอบชอบมาชิโระตั้งแต่ชั้นประถม และมาชิโระก็แอบชอบเธอตั้งแต่ชั้นประถมเหมือนกัน แต่ไม่เคยจะบอกรักกันเลยสักครั้ง กว่าจะรู้ว่าชอบกันก็อยู่ชั้น ม.3 กันแล้ว โดยรู้ในวันที่มาชิโระมาสารภาพว่าจะเป็นนักเขียนการ์ตูน และได้ขอเธอแต่งงานโดยสัญญาว่าถ้าฝันเป็นจริง (โดยการที่การ์ตูนของมาชิโระได้เป็นอะนิเมะและอาซึกิพากย์ตัวนางเอก) จะมาแต่งงานกัน ทำให้อาซึกิเขินได้วิ่งเข้าบ้านและตอบตกลงกลับมาทางอินเตอร์โฟน โดยมีข้อแม้ว่า จะไม่พบหน้ากันอีกจนกว่าฝันจะเป็นจริง จะคุยกันแค่ทางเมล์ ซึ่งไปซ้ำรอยกับที่ แม่ของอาซึกิ กับอาของมาชิโระเคยทำไว้
- ทาคากิ คายะ
- (ญี่ปุ่น: 高木 香耶 Takagi Kaya ?)
- เดิมชื่อ มิโยชิ คายะ (ญี่ปุ่น: 見吉 香耶 Miyoshi Kaya ?) หลังจากแต่งงานกับอาคิโตะแล้วจึงเปลี่ยนมาใช้นามสกุลทาคากิ เธอเป็นเพื่อนของอาซึกิ และแฟนของทาคากิ อายุเท่ากันอาซึกิ โดยที่คบกับทาคากิเพราะว่าเข้าใจผิดคิดว่าทาคากิชอบ และได้มาหาทาคากิหลังจากที่โดนพักการเรียน เพื่อมาถามว่า จะเลือกใครระหว่างเธอกับอิวาเสะ สุดท้ายทาคากิก็เลือกเธอ เพราะว่าเธอยอมให้ทาคากิไล่ตามความฝันที่อยากจะเป็นนักเขียนการ์ตูน มิโยชิได้รับอนุญาตให้เข้าที่ทำงานของ มาชิโระ และ ทาคากิ เพื่อไปทำความสะอาด ในบางครั้งก็ให้ช่วยถมดำในการเขียนการ์ตูนบ้างบางครั้ง
เบื้องหลังของวงการการ์ตูนในแต่ละขั้นตอนแล้ว
กองบรรณาธิการ โชเน็นจั๊มพ์ ล่ะ แต่ละคนมีตัวตนจริงๆ อ๊ะป่าว ??
ดับเบิ้ลฮัตโตริ ดูคล้ายอย่างแรงนิ (แต่ฮัตโตริ อากิระ ในรูปหล่อแฮะ)
ความคิดเห็น