ตอนที่ 15 : [Rewrite] ก็ฉันเป็นห่วง 100%
“หาว ง่วงนอนเป็นบ้า”
ยองแจเดินบิดขี้เกียจมาจากห้องนอนตัวเอง ท่าทางอิดโรยของเขามันก็มาจากอาการคนท้องนั่นแหละ นอนไม่หลับบ้างแพ้ท้องบ้าง
“ตาเถร! หิมะตกหน้าร้อนป่ะเนี่ยคุณ นี่มันจะสิบโมงแล้วไม่ไปทำงานเหรอ?”
ยองแจเบิกตาโตเป็นไข่ห่านเมื่อเห็นแจ็คสันนั่งกินข้าวที่คาดว่าน่าจะจ้างแม่บ้านขึ้นมาทำและไปแล้วมากกว่า ตารีหรี่มองเหมือนคนไม่เชื่อสายตาตัวเอง ป่านนี้แจ็คสันต้องไปทำงานแล้วสิ
“หรือเมื่อวานเขาพูดเอาจริงวะเนี่ย?”
ยองแจคิดไปถึงตอนที่กลับมาในห้องแล้วแจ็คสันบอกจะไม่ไปทำงานเพราะจะพาเขาไปซื้อของ แต่ท้องไม่ถึงเดือนลูกเป็นวุ้นอยู่เนี่ยนะ บ้าไปแล้วแน่ๆ
“ยืนพึมพำอะไรมากินข้าวสิ ป่านนี้ลูกหิวหมดแล้วเดี๋ยวก็พาลป่วยหรอก”
“จู่ๆ ก็มาอะไรของคุณเนี่ย ไม่ไปทำงานก็นึกว่าผีเข้าคุณซะอีก”
“เมื่อวานฉันก็บอกแล้วนี่ว่าจะพาไปซื้อของ”
พอยองแจเดินมานั่งที่โต๊ะอาหารแจ็คสันก็บอกว่าทำไมตัวเองถึงไม่ไปทำงาน ทำเอาคนที่กำลังจะหยิบช้อนมาตักซุปข้างหน้างงไปไม่เป็น
“คุณ ผมนึกว่าคุณล้อเล่น จะบ้าเหรอไงครับ เด็กแค่ไม่ถึงเดือน”
“อย่างน้อยก็ของบำรุงที่นายต้องกิน”
ยองแจไม่ได้เถียงอะไรเพราะมันเป็นเรื่องจริง เขาไม่ใช่ผู้หญิงที่สามารถมีลูกได้ปกติ การกินของบำรุงดีๆ น่าจะเป็นวิธีที่ทำให้ลูกปลอดภัย
“งั้นไปซื้อแค่ของบำรุงพอนะครับ ผมไม่อยากสิ้นเปลืองตอนนี้และก็ไม่อยากซื้อของมาไว้เยอะด้วย”
“อืม ตามนั้น”
ตามนั้น?
ตามนั้นบ้าอะไรกันล่ะ
ยองแจเดินทำหน้าเหมือนคนเบื่อโลกเข้าไปทุกทีเมื่อแจ็คสันพาเขามาเดินห้าง แรกๆ ก็ดีอยู่หรอกที่พาเขาไปถามเรื่องอาหารคนท้องและบอกว่าซื้อให้เพื่อนนั่นนี่ แต่ตอนนี้ลากยองแจมาร้านเสื้อผ้าครอบครัวคืออะไรกัน
“เดี๋ยวนะครับคุณแจ็คสัน ผมว่ามันไม่ใช่ตามที่เราคุยกันไว้นะครับ คุณบอกว่าจะพามาซื้อของบำรุงและนี่อะไร เสื้อผ้าเด็ก เสื้อผ้าผู้ใหญ่เข้าชุด?”
“ก็ซื้อเตรียมไว้ไง ชอบสีไหนล่ะอย่าถามมาก”
ยองแจไม่ได้ตอบอะไรนอกจากถอนหายใจแรงๆ ใส่หน้าแจ็คสันก็เท่านั้น เขาไม่ได้ทำตามที่พูดสักนิด อย่างที่บอกว่าเด็กเพิ่งจะเป็นวุ้น จะให้เขาหอบของพวกนี้ไปทำอะไร
“อ่ะเงียบ งั้นพนักงานครับเอาแบบนี้ทุกสีที่มีในร้านเลยนะครับ”
“เห้ยเดี๋ยวคุณ จะบ้าหรือไงซื้อไปทำไรขนาดนั้น”
“เห็นไม่ตอบก็ซื้อไปเยอะๆ นั่นแหละ วันไหนอยากใส่สีไหนก็ไม่ต้องเลือกมาก”
จะบ้าตาย วันนี้ยองแจชักจะหงุดหงิดแต่ก็หงุดหงิดไม่ลงเพราะจะบ่นก็โดนลากไปที่อื่นอีก จนมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านขายของเด็กครบวงจร
“คุณแจ็คสัน เด็กยังไม่ทันจะเกิดเลย ซื้อบ้านเด็ก เปลเด็ก ตุ๊กตาเสื้อผ้า คุณครับเด็กเพิ่งเดือนเดียวเผื่อคุณลืม”
“ก็จะทำห้องให้สักห้อง เอาของไปไว้เลย นายนี่ไม่ได้จ่ายเงินอย่าพูดมากได้ไหมและก็เดินจับแขนฉันไว้ก็ได้ ลื่นล้มมาแท้งไปทำไง เอามือมา”
ยองแจเริ่มออกฤทธิ์บ่นอีกครั้งแต่ยังไม่ทันไรแจ็คสันก็ตัดบทด้วยการคว้ามือของยองแจมารวบเอาไว้ข้างๆ ตัวเองทำเอาดวงตารีเบิกกว้างจ้องมองมือที่เกี่ยวคล้องกันเอาไว้ด้วยความรู้สึกแปลกๆ จะว่าตกใจก็ไม่ใช่เขินก็ไม่เชิง
“คุณ...!”
“อย่าคิดว่าพิศวาสล่ะ แค่ห่วงลูก เดินตามมาอย่าพูดมาก”
จะให้ยองแจค้านอะไรได้อีกก็เจ้าของฝ่ามือหนาเล่นจูงมือเขาเข้าไปในร้านโดยไม่ถามอะไรสักคำ พนักงานในร้านมองมาที่เขาสองคนและยิ้มให้กัน พอยองแจหันไปเห็นท่าทีของพวกเธอก็รีบสะบัดมือปล่อยจากแจ็คสันทันที
“เอ่อ คุณแจ็คสัน คนมองหมดแล้วผมเดินเองได้ปล่อยมือผมเถอะครับ”
“นายว่าลูกจะเป็นผู้ชายผู้หญิงล่ะ หรือเอาไปสองแบบเลย”
ไอ้ที่สองแบบคือเปลเด็กสินะเพราะมันมีทั้งหวานแหววและแบบผู้ชาย ไม่ได้สนใจที่ยองแจพูดสักนิด คนก็เริ่มมองยองแจก็ยิ่งกระอักกระอ่วนใจไปอีก จนตาเรียวหันไปเห็นคนที่อยู่นอกร้าน
“คุณแจ็คสันมีคนถ่ายรูปเรา!”
“ห้ะ นายว่าไงนะ?”
“ยืนอยู่ได้คุณ มันถ่ายรูปคุณไปกี่รูปแล้วก็ไม่รู้รีบตามไปเร็วสิ”
ยองแจท้วงแจ็คสันที่เอาแต่เลือกเปลเด็กแถมยังกุมมือเขาไม่ปล่อยให้มีสติสักทีว่าตอนนี้มีคนไม่หวังดีกำลังเล่นงานแจ็คสันอยู่นะ แจ็คสันเป็นถึงรองประธานใหญ่โตจะมีเรื่องเสียหายแบบนี้ไม่ได้
“นายรอฉันอยู่นี่นะห้ามวิ่งตามมาเดี๋ยวลื่น”
แจ็คสันหันมาพูดกับยองแจพักนึงก่อนจะวิ่งตามคนถ่ายรูปคนนั้นไป แต่ไม่ทันที่จะพ้นหน้าร้านได้ไกลสักนิดแจ็คสันก็ค้างอยู่กับที่จนยองแจอดเดินไปดูไม่ได้
“นี่มันอะไรกันวะเนี่ย”
ยองแจถอยหลังออกมาก้าวหนึ่งเพื่อสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดและกวาดสายตาไปยังบรรดาไมค์ กล้องถ่ายรูป และหญิงชายที่พร้อมจ่อเอาเครื่องอัดเสียงเข้าใกล้แจ็คสัน ในขณะที่ยองแจยืนตัวเกร็งไปทั้งร่าง
เขารับมือไม่ทัน เขาตั้งตัวไม่ถูก
“ไม่ทราบว่าคุณแจ็คสันกับคุณผู้ชายท่านนี้มีความสัมพันธ์กันถึงขั้นไหนคะ ใช่คู่รักของคุณแจ็คสันหรือเปล่า?”
“ขอโทษนะครับคบเพศเดียวกันแบบนี้ไม่กลัวราคาหุ้นตกหรือครับ ธุรกิจจะได้ผลกระทบนะครับ”
แต่ละคำถาม แต่ละน้ำเสียงกำลังถาโถมมาที่แจ็คสันอย่างหนัก แต่โลกทั้งใบของยองแจกำลังมืดดำเพราะกล้องซูมมาที่เขาสองคน และมันคงจะถ่ายทอดออกไปไกลอย่างแน่นอน ยองแจไม่คิดเลยว่าตัวเองต้องมาเจออะไรอย่างนี้ด้วยซ้ำ
“ช่วยอธิบายด้วยครับคุณแจ็คสันว่าคุณกับคุณผู้ชายท่านนี้เป็นคู่รักกันตามข่าวลือใช่ไหมครับ?”
ข่าวลืออะไรกันที่ทำให้บรรดานักข่าวแห่กันมาถึงที่นี่ แถมยังรู้ด้วยว่าแจ็คสันอยู่ที่ไหนเมื่อไหร่ ใช่ ยองแจคิดว่ามันไม่ธรรมดาเหมือนอย่างที่แจ็คสันกำลังคิดอยู่ตอนนี้
แต่ที่สำคัญคือเหตุการณ์เบื้องหน้ามันคงเดือดร้อนแจ็คสันมากเกินไป และมันคงเดือดร้อนมาหาตัวยองแจเองด้วย เรื่องของพวกเขาสองคนไม่ควรแพร่กระจายไปขนาดนี้
“โอเคครับเลิกถามก่อนจะได้ไหมครับ ผมกับเขา...”
เสียงของแจ็คสันขาดห้วงไปด้วยมือของยองแจที่จับมายังแขนของแจ็คสันและเดินมาอยู่ข้างกัน เขาเผชิญหน้าต่อกล้องนับสิบด้วยความกลัวในใจ
“ผมเป็นเลขาของคุณแจ็คสัน และที่เรามาที่ร้านขายของเด็กเพราะภรรยาของผมกำลังท้อง เจ้านายดีๆ แบบนี้จะทำให้หุ้นตกเหรอครับ?”
“ยองแจ นายพูดอะไรเนี่ย?”
แจ็คสันโน้มใบหน้ามาพูดกับยองแจให้เสียงมันดังแค่พอได้ยินกันสองคนเท่านั้น เพราะแจ็คสันรู้ดีว่าข้ออ้างแบบนี้มันใช้ไม่ได้หรอก มันไม่สามารถหลอกนักข่าวที่เหมือนได้รับสารมาอย่างดีไม่อย่างนั้นไม่บุกมาถึงที่นี่ได้ถูกแน่นอน
“จะให้ผมบอกว่าอะไรครับคุณ”
“นายก็รู้ว่านี่ไม่ธรรมดาหรอกนะ”
ทั้งสองพูดซุบซิบกันจนกระทั่งลูกน้องของแจ็คสันวิ่งเข้ามายังทั้งสองอยู่ทันท่วงที แจ็คสันฉลาดพอที่จะส่งข้อความไปหาลูกน้องที่ติดตามเขาห่างๆ ให้มาทันเหตุการณ์ ชายชุดดำนับสิบล้อมนักข่าวและกั้นทั้งสองให้เดินออกมายังลานจอดรถอย่างปลอดภัย
มือของแจ็คสันคว้ามือเรียวของยองแจมากุมเอาไว้ตลอดทาง ดังนั้นมันเลยมีเวลามากพอที่แจ็คสันจะรับรู้ว่ายองแจกำลังสั่นกลัวแค่ไหนจนมือไม้เย็นไปหมด
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่า ข่าวมันจะเงียบไปไม่มีปล่อยออกมาแน่นอน แล้วก็คนที่ปล่อยข่าวให้พวกนั้น ฉันก็ต้องรู้ด้วย”
“ใครว่าผมกลัว ไม่มีอ่ะใครจะมากลัวเรื่องพวกนี้ อื้อ อุก...”
“เห้ย ยองแจจะอ้วกเหรอ?”
ยองแจไม่ได้ตอบอะไรนอกจากพยักหน้ากับแจ็คสันรัวๆ ว่าตัวเองน่าจะเมาหัวตอนเจอนักข่าวและไหนจะต้องวิ่งหนีเดินหนีมาอีก
“นายใจเย็นก่อนนะ พวกนายสองคนตามฉันมานี่ เห้ยไม่ได้หมายความให้มาพยุงยองแจ ฉันทำเองได้แค่พาไปห้องน้ำในห้างหน่อย”
แจ็คสันเอามือหนาปัดมือของบอดี้การ์ดที่จับแขนยองแจทิ้งอย่างแรงและจ้องหน้าเขม็ง เขาไม่ได้ให้พวกนั้นมาแตะตัวยองแจสักนิด
“อย่าเพิ่งอ้วกมานะใกล้ถึงแล้ว พวกนายเฝ้าหน้าห้องน้ำเนี่ยล่ะอย่าให้ใครเข้ามา”
“ครับท่าน”
หลังจากสั่งงานเสร็จแจ็คสันก็พายองแจเข้าห้องน้ำไปจนความอัดอั้นที่ยองแจฝืนเก็บมาก็ถูกปล่อยลงชักโครกทั้งหมดโดยมีแจ็คสันคอยลูบหลังให้
“อุก อื้อ”
“ค่อยๆ นะ ตัวเล็กอย่าแกล้งแม่เขาสิลูก”
ถ้อยคำที่แจ็คสันปล่อยออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจระหว่างที่ลูบแผ่นหลังของยองแจเขาคงไม่รู้ว่าคนที่ก้มหน้าอาเจียนอยู่จิตใจสั่นไหวแค่ไหนกับท่าทีอ่อนโยนนี้
“พอแล้วคุณ ผมโอเคแล้วครับ”
“อืม งั้นก็ค่อยๆ ลุกแล้วไปเช็ดหน้าสักหน่อย”
ยองแจยอมให้แจ็คสันเดินประคองไปที่อ่างล้างหน้าดีๆ และปล่อยให้มือหนาคว้าทิชชู่แผ่นใหญ่ชุบน้ำมาซับใบหน้าหวานอย่างแผ่วเบา ดวงตาเข้มจ้องมองใบหน้าของยองแจและเช็ดด้วยความตั้งใจในขณะที่ยองแจไม่สามารถละใบหน้าจากแจ็คสันได้เช่นกัน
“เป็นไงบ้างรู้สึกดีบ้างไหม? ไปหาหมอไหมเดี๋ยวโทร.หามิโนให้”
“ไม่เป็นไรแล้วคุณเจ้าตัวเล็กสงบแล้ว น่าจะกังวลมากไปเรื่องนักข่าว”
“อืม ยังไงฉันก็จะใช้เงินปิดปากพวกนั้น แต่ก็รู้ดีแหละว่าเรื่องของเรามันต้องแพร่ไปไกลแน่ๆ”
ก็เพราะนักข่าวแห่กันมาที่นี่ได้เหมือนจับวางมันไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้วไงล่ะ แจ็คสันเชื่อว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างแน่นอน บางอย่างที่เขาพอเดาออกไม่ยาก
“แล้วคุณจะทำไงเมื่อข่าวไปไกลอ่ะ ผมไม่ใช่ผู้หญิงนะถ้าพวกนั้นมาขนาดนี้แล้วเรื่องที่ผมท้องต้องรู้แน่ๆ ทำไมไม่ทำให้เรื่องมันง่ายแค่ยกเลิกสัญญาจ้างผมและไล่ไปไกลๆ คุณจะเดือดร้อนเอานะ”
“ที่นายมาพูดๆ ให้ฉันเลิกจ้างนายนั่นนี่ทั้งๆ ที่เราจะมีลูกด้วยกันเป็นเพราะห่วงฉันหรือว่าอยากไปจากฉันกันแน่ ฉันดูแลนายกับลูกไม่ดีหรือไง?”
แจ็คสันวางกระดาษทิชชู่ลงที่เคาน์เตอร์ล้างหน้าและเดินไปจากห้องน้ำด้วยความโกรธระคนน้อยใจ จนยองแจใจหล่นวูบที่เขาพูดอะไรออกไปให้อีกคนรู้สึกไม่ดีทั้งๆ ที่วันนี้แจ็คสันใส่ใจเขากับลูกมากแท้ๆ
ดูเหมือนยองแจจะพยายามออกจากชีวิตแจ็คสันอยู่ฝ่ายเดียว คนที่เดือดร้อนยังไม่คิดจะไล่ไปไหนแถมยังยืนยันว่าจะดูแลลูกกับยองแจให้ดีที่สุดด้วยซ้ำ
“คุณแจ็คสัน นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ยทำไมฉันต้องใส่ใจหรือแคร์หมอนั่นด้วย”
พอจับไปที่อกซ้ายก็เหมือนมันจะเจ็บหน่อยๆ ที่เขาให้บอดี้การ์ดเดินเข้ามาหายองแจและพาออกจากห้องน้ำ แจ็คสันคงโกรธยองแจมากสินะ
“นี่พวกนาย เจ้านายของพวกนายนี่ขี้น้อยใจไหม?”
“น้อยใจหรือครับ ไม่นี่ครับท่านไม่เคยแม้แต่แสดงอาการอะไรมาเลย วันนี้ที่ลางานก็ครั้งแรกในประวัติศาสตร์แต่พอท่านพาคุณยองแจมาที่นี่ก็แปลกใจหน่อยๆ ยังไงเดินดีๆ นะครับผมพยุงคุณไม่ได้แต่รับประกันว่าลูกของคุณๆ จะไม่เป็นอันตราย”
ลูกน้องคนสนิทสาธยายยืดยาวในความเปลี่ยนไปของเจ้านายของเขา แต่พอรู้ว่ามากับแม่ของลูกก็เข้าใจอะไรมากขึ้น เพราะเมียเพราะลูกแจ็คสันเลยมีความรู้สึกขนาดนี้ ไม่แปลกที่คำพูดที่เอาแต่จะไปของ
ยองแจคงทำให้เคืองไม่น้อย
“เห้อ เป็นพ่อคนแล้วขี้น้อยใจหรือไงนะ ไม่รู้เหรอว่าฉันกับลูกจะทำให้นายเดือดร้อน”
ยองแจบ่นกระปอดกระแปดไปที่รถก่อนจะนั่งขนาบข้างแจ็คสันที่หันหน้าไปอีกทางเพื่อให้รู้ว่าโกรธยองแจจริงๆ คนอย่างยองแจน่ะเหรอจะง้อ ก็คงต้องรอให้ใจเย็นก่อนนั่นแหละจะให้ยองแจพูดท่ามกลางคนก็แปลกไป
แสงไฟจากรถยนต์ที่สาดเข้ามาผ่านกระจกห้องรับแขกในบ้านทำให้คนที่ดูรายการทีวีหันไปมองอย่างช่วยไม่ได้ เพราะตั้งแต่เมื่อวานแบมแบมก็เอาแต่มองนาฬิกาอยู่ตลอด สังเกตแม้แต่จำนวนเข็มที่กระดิกไปอีกเลขหนึ่งกี่ครั้งเพียงเพราะในบ้านหลังนี้มีเขาเพียงคนเดียว
มาร์คไม่ได้กลับมาอีกหลังจากรับสายคราวนั้น พรวดพราดออกไปและไม่ได้เข้ามาอีกเลย
“คุณมาร์ค!”
ดวงตากลมโตมองไปที่ภาพข้างหน้า เรียกว่าภาพคงไม่ถูกต้องเรียกว่าสภาพมากกว่าเพราะตอนนี้มาร์คแทบดูไม่ได้ ร่างกายถูกพยุงโดยบอดี้การ์ดคุ้นหน้าคุ้นตาก่อนที่แบมแบมจะรุดร่างตัวเองเข้าไปช่วยพยุงต่อ
“มันเกิดอะไรขึ้นครับเนี่ย? ทำไมคุณมาร์คกลับมาสภาพแบบนี้ครับ?”
“คุณมาร์คดื่มตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ วันนี้พวกผมเลยพาท่านกลับมาได้เพราะแทบไม่มีสติ ยังไงต้องให้คุณดูแลคุณมาร์คต่อทีนะครับ”
“เอ่อ ครับ”
แบมแบมรับปากอย่างเสียไม่ได้และสอดตัวเขาไปใต้วงแขนของมาร์คเพื่อจะได้พยุงได้ถนัดๆ ตอนนี้แบมแบมรู้เลยว่าตัวเองตัวเล็กแค่ไหนถึงแบกมาร์คได้ทุลักทุเลเกินทน
...พรึ่บ...
แบมแบมทิ้งร่างของมาร์คลงกับเตียงนอนขนาดใหญ่ก่อนจะคว้าท่อนขายาวจัดท่านอนให้เหยียดตรงบนเตียง รองเท้าที่สวมใส่อยู่ร่างบางก็ถอดออกให้
“เห้อ ทำไมไปเมาขนาดนี้กันนะ”
แบมแบมก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าตอนนั้นก็รีบลุกออกไปจากบ้านทันทีที่รับโทรศัพท์ วันนี้ก็กลับมาในสภาพนี้ ไม่ใช่ว่าไปเสียใจ...จริงสิเสียใจเรื่องอะไรมาถ้าไม่ใช่เรื่องของพี่ยองแจ
“พี่ยองแจไปทำอะไรเขาอีกนะ แต่ช่างเถอะพามานอนแล้วก็จบๆ”
“ยองแจ ฉันไม่มีหวังแล้วใช่ไหมวะ ทำไมวะทำไมต้องใจร้ายกันขนาดนี้ด้วย”
เสียงละเมอของมาร์คดังขึ้นจากด้านหลังแบมแบมทำเอาเจ้าของร่างผอมบางเอี้ยวตัวไปดู เปลือกตาที่ปิดสนิทบ่งบอกให้รู้ว่าฤทธิ์เหล้าออกอาการเข้าแล้ว
“นายกับมัน อึก ทำแบบนี้ได้ไง ทำไมวะทำไม”
“นี่คุณ เลิกเพ้อก่อนเถอะนะพี่ผมเขาไม่รักคุณก็ควรพอได้แล้วสิ เห้อ อย่าบอกนะว่าผมต้องเช็ดตัวให้”
เขาว่ากันว่าเช็ดตัวให้ก็น่าจะนอนสบายนี่นะ พอเห็นอาการของมาร์คก็อดสงสารไม่ได้แม้ว่าเขาจะทำร้ายตัวเองแค่ไหน แต่ความเป็นมนุษย์มันก็มีอยู่เต็มอกเลยเดินไปหยิบกะละมังกับผ้าเช็ดตัวมาไว้ข้างเตียง
“อื้อ”
ความเย็นจากน้ำทำให้คนเมามีกิริยาตอบโต้มาบ้างและเริ่มหนีจากความหนาว เขาขยับตัวซ้ายทีขวาทีจนแบมแบมทนไม่ไหวจับกรอบหน้าคมหนุนตักและยึดเอาไว้และเช็ดไปตามใบหน้าแดงก่ำเบาๆ
“อยู่นิ่งๆ สิคุณ”
“บะ แบมเหรอ นายน้องชายยองแจสินะ น้องชายคนที่ทำให้ฉันเจ็บเจียนตาย ฉันทำร้ายนายสารพัด สะใจไหมล่ะที่เห็น อึก ฉันสภาพนี้”
มาร์คพูดเสียงยานๆ ออกมาแต่ก็ใช่ว่าแบมแบมจะฟังไม่เข้าใจ มือขาวหยุดชะงักไม่ได้เช็ดกรอบหน้าของมาร์คต่อ แต่กลับอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมาทันที
“เห็นผมร้ายกาจเหมือนคุณเหรอไงกัน ต่อให้คุณทำร้ายผมมาเยอะแต่ผมมีความเป็นคนพอไม่ให้มาตายต่อหน้าหรอก”
คนตัวเล็กเช็ดหน้าและลำคอมาร์คลวกๆ ก่อนจะยกกะละมังว่าจะไปเก็บที่ ทำคุณได้โทษแท้ๆ ทำดีด้วยก็หาว่ามาสมน้ำหน้าหรือยังไงกัน
“แบมเดี๋ยว อย่าไปเลยอย่าไปไหนนะ ฉันไม่เหลือใครแล้ว จะมองว่าน่าสมเพช ฮึก ยังไงก็ได้แต่ฉันทนไม่ไหวแล้ว พี่ชายของนายฉันต้องถอดใจแล้ว ฮึก”
แต่พอแบมแบมจะเอี้ยวตัวลุกขึ้นมือหยาบก็คว้ามือเล็กเอาไว้ก่อน และตามด้วยน้ำเสียงรวดร้าวที่คั้นมาจากข้างในใจของมาร์คจนแบมแบมเศร้าตามอย่างบอกไม่ถูก ดวงตากลมหรี่มองน้ำตาที่ไหลออกจากดวงตาทั้งสองข้างของมาร์คและทรุดกายนั่งข้างเตียงเช่นเดิม
“นี่คุณรักพี่ผมขนาดนี้เลยเหรอ คุณเจ็บปวดคุณร้องไห้ขนาดนี้ไม่เผื่อใจรักตัวเองบ้างหรือไง?”
แปลกนะที่มันดูเหมือนจะเป็นคำถามธรรมดาแต่ว่าทุกคำกลับบาดลึกเข้าไปในใจของแบมแบมอย่างช่วยไม่ได้ ดวงใจดวงน้อยๆ สั่นไหวและเจ็บราวกับเข็มเล็กๆ แทงตามขั้วหัวใจ ถึงอย่างนั้นก็ยังจะถามต่อ
“รักเขาขนาดนี้มามีอะไรกับผมเพื่ออะไร อ๋อ ตัวตายตัวแทนสินะ ไม่ได้พี่ก็เอาน้อง”
น้ำตาซึมกรอบตาสวยจนเจ้าตัวต้องเอามือมาเช็ดเพื่อปัดความอ่อนแอออกไป ความจริงมันเจ็บปวดขนาดนี้ได้ยังไงถ้าเกิดว่าในใจของแบมแบมไม่ได้คิดอะไรกับคนที่นอนอยู่บนเตียง
“นอนเถอะนะครับแล้วค่อยมาร้ายกับผมต่อ เชื่อเถอะว่าเจ็บจากพี่ชายผมมาคงไม่พ้นผมเป็นที่ระบายอีก”
แบมแบมว่าแค่นั้นและเดินออกมาจากห้องนอนของมาร์คทันที ยิ่งอยู่ยิ่งรู้สึกว่าน้ำตาชักจะไหลเปื้อนแก้มมากขึ้นทุกที
นักอ่านสามารถซื้อเป็นหนังสือแบบ E-Book อ่านได้แล้ววันนี้
ในราคาเพียง 200 บาทให้อ่านกันจุใจ
E-Book ประกอบด้วย เนื้อหาตั้งแต่แรกจนจบและตอนพิเศษในเล่มโดยเฉพาะ
ลิ้งค์ซื้อ #แฟนกำมะลอจจ คลิกที่นี่
ลิ้งค์วิธีซื้อ #แฟนกำมะลอจจ คลิกที่นี่
สามารถแสดงความคิดเห็นผ่านทวิต #แฟนกำมะลอจจ
AUTHOR: SNOOKY
FANS PAGE : SECRET SNOOKY FICTION
TWITTER @SKadsakul
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สาวน้อยอะไรแรงเยอะและรุนแรงอย่างนี้ ยองแจคนแมน น้องจะแมนหรือจะยั่ว เออชอบคำนี้มาก ครั้งแรกของน้อง แจ็คนายได้ไปแล้ว nc ฉากนี้แซ่บมาก ชอบอะ อะคึๆๆ ถ้ายองแจตื่นขึ้นมาจะเป็นแบบไหนน้อ?