ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : สารภาพรัก
ดวงตาสีเขียวมรกตส่ายไปมา สับสนในตัวเองว่าควรพูดออกไปอย่างไร ให้แม่เข้าใจในสิ่งที่เขาเป็นอยู่ ในเมื่อแม่เปิดโอกาสขนาดนี้ เขาก็อยากอธิบาย
"สรุปว่ายังไงละลูก มีคนรอฟังอยู่นะ"แอนว่า เธอรู้ว่าไม่ใช่เธอคนเดียวที่รอคำตอบแฮร์รี่อยู่
"ผมบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง รักเขาหรือเปล่า แต่ทุกครั้งที่เราอยู่ด้วยกัน ผมรู้สึกดีครับ บางทีก็เป็นห่วง และแคร์เขามากขึ้น ทั้งๆที่แต่ก่อนไม่เคยเลย"
แฮร์รี่นั่งลงข้างๆแอนก่อนจะพูดต่อ
"เขาดีกับผมมาก ดีแบบไม่เคยมีใครดีกับผมขนาดนี้นอกจากแม่แล้วน่ะ ยิ่งเขาดีกับผม ผมก็รู้สึกหวั่นไหว"
"แต่แม่อย่าเพิ่งสรุปว่าผมเป็นเกย์นะ มันอาจเป็นอารมณ์สักอย่างอ้ะ"
แฮร์รี่โบกมือเป็นพัลวันเมื่อแม่เธอยิ้มรู้ทัน
"ถ้าเป็นอย่างนั้น งั้นแม่ก็อยากให้ลูกออกมาจากบ้านเซน ลูกจะโอเคไหม แม่อยากให้ออกมาอยู่ด้วยกัน"
แอนพูดเสียงเรียบและจับมือแฮร์รี่ไว้
"เอ่อ แม่ครับ คงไม่ได้หรอก ผมเป็นหนี้เขานะ มันคงดูไม่ดีถ้าเกิดว่าออกมา "
แฮร์รี่รีบตอบกระอักกระอวน
"แค่นี้แม่ว่าเซนก็พอรู้บ้างแล้วเนอะ ว่าเจ้าแฮซมันรู้สึกยังไง ขอบใจที่ดีกับลูกแม่นะเซน ออกมาได้ล่ะ"
แอนยิ้มกว้าง แต่แฮร์รี่นั้นกลับเบิกตาโต เมื่อรู้ว่าแม่ตนเองหลอกถามเข้าให้
"แม่อย่าบอกนะว่าที่ถาม....จงใจให้เซนรู้ โถ่ แม่ ผมจะทำยังไง"
แฮร์รี่กุมขมับ ทั้งเขิน ทั้งอาย
เพราะป่านนี้เซนคงยิ้มกว้างฉีกเท่าใบหู และรู้เรื่องทั้งหมด
"ก็ดีแล้วนี่ เขารักลูกไม่ใช่หรอ ลูกเองก็มีใจให้เขา จะเก็บเอาไว้ทำไม ใช่ไหมเซน?"
แอนถามเซนที่เดินยิ้มออกมา
"ใช่ครับ"เซนตอบ
"แต่แม่ก็ต้องบอกตามตรงนะเซน แม่รักแฮซมาก ฝากดูแลเขาดีๆด้วยนะ แฮซต้องอยู่กับเซนอีกนานนี่"
แอนพูด
"ผมรับปากครับว่าจะดูแลเขาให้ดีที่สุด ผมกล้าบอกตรงนี้ว่า ผมไม่คิดเลยว่าจะรักใครได้เท่านี้ ผมไม่เคยรักผู้ชายมาก่อนเหมือนกัน"
แฮร์รี่หันมามองเซนที่พูดจริงจังอย่างกับคนละคน แต่เขาต้องเบิกตาโตกว่าเดิมเมื่อได้ยินประโยคนี้
"รู้เพียงว่าถ้าไม่ใช่ผู้ชายคนนี้ ลูกของแม่แอน ผมก็รักใครไม่ได้เหมือนกัน"
"เซน"
แอนพูดขึ้นมา เธอรับรู้ว่าเซนพูดจริงๆ เธอพยักหน้าและยิ้มกว้าง
"ต่อจากนี้ก็ช่วยดูแลเจ้าแฮซด้วยละกัน มันไม่เคยมีแฟนมาก่อนหรอก เลยไม่รู้ว่าจะแสดงความรักยังไง "
แอนพูดติดตลก
"แม่ กล้าเผาลูกแล้วฝากกันง่ายๆเลยหรอ เจอกันไม่ข้ามวันเลย"
แฮร์รี่บ่น
"ถ้าเซนเป็นคนไม่ดี ลูกจะชอบและยอมอยู่กับเขาหรอ แม่แค่ไว้ใจลูกไง"
แอนย้อน
"แม่"
แฮร์รี่สู้ไม่ได้
"ฮ่าๆๆ แม่นายพูดถูก ฉันเนื้อหอมนะ ไม่รักฉันนายจะเสียใจ"
เซนแซว
"หลงตัวเอง"
แฮร์รี่รีบลุกขึ้น แต่ทว่า...
"โอ้ย!"
เพราะเท้าของแฮร์รี่ยังไม่หายดี ตอนเวลาที่เขาลุกขึ้นอย่างลืมตัวทำให้เจ็บแผล
"แฮซ เป็นอะไร?"
เซนตกใจมาก รีบพยุงร่างแฮร์รี่แนบข้าง แอนเองก็กระเด้งตัวขึ้นจากเตียง
"ทำไมทำอะไรไม่ระวัง ถ้าแผลฉีกจะทำยังไง มาดูแผลสิ แล้วนั่งลงดีๆด้วย"
เซนว่าเเฮร์รี่ยาว จนทำให้แอนนั้นนอนลงและยิ้มออกมา
'เซนเขารักลูกเรามากจริงๆ เป็นห่วงขนาดนี้ ฉันก็วางใจแล้วละ'
แอนคิด
2ชั่วโมงต่อมา.....
รถของเซนขับช้าๆในถนนที่ค่อนข้างโล่ง เพราะมันดึกแล้ว รถจึงไม่ค่อยวิ่งเท่าไรนัก
เซนผิวปากอย่างอารมณ์ดีตลอดทาง เมื่อคนที่นั่งข้างๆคนขับ ทำให้เขารู้สึกดีมากจริงๆ
"จะอารมณ์ดีอะไรนักหนา บ่นฉันต่อหน้าหมอที่ตรวจเท้าฉันเนี่ย"
แฮร์รี่โวย เพราะตอนที่เขาเจ็บก็รีบนำไปหาหมอ แล้วบ่นเขายกใหญ่
"ถ้าไม่ห่วง ฉันจะบ่นไหมละ?"
เซนว่า
"เพราะว่าฉันห่วงนายมากไงแฮซ"
เซนคว้ามือเขามากุมที่ตักแน่น ซึ่งแฮร์รี่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
"ขอบใจนะ ที่นาย เอ่อ รักฉัน ฉันเองต้องขอโทษที่ยังตอบนายไม่ได้ว่าฉันรู้สึกยังไง แม้ว่าจะอยู่ด้วยกันเกือบเดือนก็ตาม"
เเฮร์รี่ก้มหน้าพูด
"ไม่เป็นไร แค่รู้ว่านายพอมีใจให้ฉันบ้าง ก็ดีใจมากแล้ว"
เซนยิ้มไปขับรถไป
"อะไรใครบอก? ฉันเนี่ยนะมีใจให้นาย หลงตัวเอง ฮ่าๆๆ"
แฮร์รี่สะบัดมือออกแล้วหัวเราะ
"คงปฏิเสธไม่ทันแล้วล่ะมั้ง"
เซนเอามืออีกข้างยีผมหยิกของเเฮร์รี่ไปมา
Harry's part
เอาตรงๆเลยนะครับว่า ตอนที่เซนยีหัวผมนั้น ผมไม่ได้โกรธเขาเลย ตรงกันข้าม เขาทำให้ผมใจเต้นแรงสุดๆ ทำให้ผมยิ้มได้
ตอนนี้เขาก็จับมือผมวางบนตักแกร่งเหมือนเดิม ความอุ่นที่มือผมมันลงตัวมากจริงๆ
คำว่า 'เกย์'
ฮ่าๆๆๆ ผมคงต้องยอมรับมันแล้วสินะ
แต่ผมก็ยังไม่อยากจะตกลงปลงใจกับเซนง่ายๆหรอก เพราะ....
กลัว...
กลัวว่าเขาจะไม่เห็นค่าของผม เหมือนกับที่เขาทำกับผู้หญิงหลายๆคนที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าที่ผ่านมา เขาจะทำให้ผมมั่นใจระดับนึงก็ตามที
ผมก้าวลงจากรถเมื่อมาถึงคอนโดเซนแล้ว เขาเองก็เดินตามผมลงมา หลังจากให้กุญแจกับพนักงานไปเก็บรถ
"เห้ย!"
ผมตกใจหันขวับเมื่อเซนเดินมาคว้ามือของผมมาจับไว้เพื่อจูงให้ไปพร้อมกัน
"อะไรกัน คนรักกันจับมือกันผิดตรงไหน?"
เซนพูดทะเล้น
"อย่าเลยเซนมันดูไม่ดีนะ ใครเห็นเข้าจะคิดยังไง นายเองมีชื่อเสียงนะ ปล่อยเถอะ"
ผมเป็นห่วงเขาเลยพยายามสะบัดมือออก
"ไม่เห็นต้องแคร์เลยนะ ฉันจริงใจกับนาย ไม่อยากให้นายเป็นคนลับๆ"
เซนหันมาพูดจริงจัง
"แคร์สิ เราต้องแคร์ อีกอย่างฉันไม่ได้บอกว่ารักนายเลยนะ ไม่ต้องแคร์ฉันขนาดนั้น เป็นห่วงชื่อเสียงตัวเองก่อนเถอะ"
"นั่นสินะ บางทีฉันอาจคิดไปเองว่าที่นายคุยกับแม่ นายอาจชอบฉัน มีใจให้ฉัน ขอโทษด้วยละกัน"
เซนปล่อยมือผมลงง่ายๆแล้วเดินนำหน้าไปไกล ทำเอาใจผมหายวูบ
ให้ตายเถอะ ผมไม่น่าพูดออกไปเลย แต่ผมแค่เป็นห่วงเขาจริงๆ
แคร์ครับ ผมแคร์เขาจริงๆนะ ตอนนี้ผมต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่เซนจะรู้สึกไม่ดีไปกว่านี้
กริก..
ผมเปิดประตูเข้าไปในห้อง แล้วก้าวขาเดินช้าๆพร้อมกับมองไปทั่วๆว่าเซนที่ฟังผมพูดไม่ดีใส่ เขานั้นหายไปไหนแล้ว
ว่างเปล่า ไม่มีวี่แววเขาเลย
"เซน นายอยู่ที่ไหน เมื่อกี้ฉันพูดออกไปเพราะเป็นห่วงนายนะ ไม่ได้ตั้งใจทำให้นายเสียใจ"
ผมก้มหน้าพูดเบาๆกับตัวเอง มันรู้สึกผิดจริงๆ
ทั้งๆที่เขารักผม อยากให้คนอื่นรู้ว่าผมคือคนพิเศษสำหรับเขา
เซน..ไม่กลัวเลยที่คนอื่นจะมองเขาเป็นยังไง
ผมนับถือใจของเซนจริงๆ
ตุ้บๆๆ
เสียงหัวใจผมเต้นแรงถี่มากขึ้นทุกทีเมื่อคิดถึงเขา
คิดถึงสิ่งดีๆที่เขามอบให้ตลอดมา
ในเมื่อมันชัดเจนนักว่าผมคิดยังไงกับเขา
แฮร์รี่นายจะเก็บมันไว้ทำไมอีกล่ะ?
รักก็บอกรัก
ชอบก็บอกชอบ
แต่ก่อนจะทำแบบนั้น คงต้องหาตัวเซนให้เจอก่อน
ผมเดินหาเขาไปทั่วห้อง ทั้งห้องรับแขก ห้องครัว ห้องน้ำ
เอ้ะ? ระเบียง
ผมยังไม่ได้หาเขาที่ระเบียงเลยนี่
เมื่อผมคิดได้อย่างนั้นก็รีบเดินตรงไปทันที
"เห้อ อยู่ตรงนี้นี่เอง"
ผมพูดออกมาเมื่อเห็นแผ่นหลังหนายืนเอาเเขนพาดขอบระเบียง สายตามองออกไปยังวิวสะท้อนภูมิทัศน์ตึกที่มีแสงไฟยามกลางคืนตั้งติดเรียงกันไปทั่วใจกลางเมือง
"ทำไม? นายเดินหาฉันอยู่เหรอไง? จะมาพูดอะไรอีกล่ะ จะบอกคำว่า
ไม่รักอีกใช่ไหม?"
เซนหันมามองผมด้วยสายตาเศร้า
"ถ้าจะมาพูดแบบนั้น พอเถอะ ฉันเจ็บเป็น แต่..ฉันไม่เลิกรักนายหรอกนะ
ถ้านายอึดอัดที่ฉันแคร์นายมาก ทีหลังฉันจะไม่ทำอีก ขอเพียงแค่ได้รักนายก็พอ"
เซนพูดยาวเหยียด จนร่างกายผมจู่ๆก็อยากหยุดคำพูดพวกนั้นทิ้งซะ ผมไม่อยากฟัง ไม่อยากให้เขาเจ็บอีก
..และไม่อยากให้เขาคิดว่าผมไม่ชอบเขา
"ได้ไหม? ขอแค่ให้ได้รักนายก็พอ ขอให้นายอยู่กับ ฉะ..อื้ม!"
เซนเบิกตากว้าง คำสุดท้ายที่เขาคงจะอยากพูดออกมาก็หายไปกับริมฝีปากที่ถูกทาบสนิทโดยริมฝีปากผม
ผมปิดตาแน่นข่มใจที่เต้นแรง มันเหมือนกับมีใครมาตีกลองในหัวใจผม มือไม้ก็สั่นไปหมด
ครั้งเเรกจริงๆที่ผมจูบคนอื่นก่อน
"หยุดพูดได้แล้ว ไม่ต้องขอรักฉัน แต่นายต้องรักฉัน แล้วฉันก็จะรักนาย อย่างที่ฉันรู้สึก"
ผมผละริมฝีปากออกช้าๆก่อนจะพูดกับเขาด้วยการจ้องตาไปยังดวงตาสีน้ำตาลเข้ม เซนนั้นฟังผมพูดอย่างอึ้งๆ เขาคงไม่คิดว่าจะได้ยินแบบนี้
"แฮซ"
ฟุบ...
เสียงเข้มที่ถูกปล่อยอย่างแผ่วเบานั้นได้ออกมาจากปากของเซน มันแหบแห้งปนความดีใจ พร้อมๆกับอ้อมกอดหนาที่ดึงตัวผมเข้าไปกอด
"นายรู้ไหมว่าฉันดีใจมากแค่ไหนที่ได้ยินแบบนี้ และสิ่งที่นายแสดงออกมันมีความหมายสำหรับฉันมากนะ"
เซนสวมกอดผมแล้วพูด
"ขอบคุณครับที่คิดเหมือนกัน"
เซนคลายอ้อมกอดผม แล้วใช้มือทั้งสองจับต้นแขนผมไว้เบาๆ ก่อนจะเงยหน้าจุมพิตผมที่หน้าผากอย่างอ้อยอิ่ง ผมมองการกระทำนั้นด้วยความสุข
ใครจะไปคิดละครับว่า ในค่ำคืนที่ท้องถนนเต็มไปด้วยรถวิ่งแน่นขนัด ตึกก็เต็มไปหมดไม่มีช่องว่าง มันจะเป็นวิวที่ผสานกันอย่างลงตัวกับดาวแสงสีขาวทอแสงแข่งกันได้ดีอย่างนี้
เอ้ะ?? หรือว่าทิวทัศน์ภายนอกแบบนั้นดูสวยขึ้นมาเพราะว่า คนที่สวมกอดผมอยู่ตรงระเบียงคอนโดหรูจะคือ
.
.
.
.
.....เซน มาลิค ผู้ชายที่ผมเพิ่งจะสารภาพความในใจไปเมื่อกี้
END Harry'part
เช้ารุ่งขึ้น
'ตื่นมาทำอาหารเช้ารอแล้วนะ เจ้านาย'
ข้อความบนโพสอิทถูกแปะเอาไว้บนนาฬิกาปลุก ที่เซนต้องเอามือมาปัดไปมาเพื่อกดปุ่มปิดเสียง ทุกครั้งเขาจะหงุดหงิดกับเสียงนี้มาก แต่เพียงคราวนี้มีสิ่งที่เปลี่ยนไป
เซนดึงโพสอิทนั้นมาอ่านด้วยรอยยิ้มที่ฉีกกว้าง
"รับทราบครับ คนรับใช้(หัวใจ)ของฉัน"
เซนพูดขึ้นมาแล้วรีบกระเด้งตัวขึ้นจากเตียงนอน ตรงเข้าห้องน้ำทันที
"หอม"
เซนเดินเข้ามาในครัวหลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ เขาทำจมูกสูดไปมาดังๆไปยังคนที่ยืนทำอาหารอยู่อย่างแฮร์รี่
"เบคอนรมควันหอมใช่ไหมล่ะ? ฉันทำมันด้วยสูตร..หึ้!"
แฮร์รี่ตกใจ เมื่อแก้มขวาของเขาถูกรุกรานจากเซน
ฟอด..
เสียงนี้เกิดขึ้นพร้อมๆกับรอยยิ้มและอ้อมกอดที่เซนมีให้แฮร์รี่ เขาอาศัยช่วงที่แฮร์รี่พูด ฉวยโอกาสหอมแก้มแล้วโอบกอดเขาไว้จากด้านหลัง
"แก้มนายต่างหากที่หอม ฮ่าๆๆ"
เซนหัวเราะลั่นแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม
"ไอ้หื่นเซน อยากตายหรือไงห้ะ? กล้าดียังไงมาหอมแก้มฉัน "
แฮร์รี่โวยขึ้น แล้วเอาตะหลิวมาตีเซน
"เห้ย! เจ็บนะ อะไรกันหอมแก้มแฟนตัวเองผิดตรงไหน?"
เซนทำเสียงอ้อนๆ พลางลูบแขนตัวเองไปมา
"แฟน?"
แฮร์รี่ทำเสียงสูง
"เราเป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไร?"
"แฮซ คนเขารักกัน ก็เรียกว่า 'แฟน' แล้วครับ"
เซนเดินไปโอบเอวแฮร์รี่หลวมๆ
"จริงเหรอ? ถ้างั้นเราก็... บ้าน่า ฉันไม่ชินอ้ะ"
แฮร์รี่เกาหัวตัวเองอย่างเขินๆ
"เดี๋ยวก็ชิน เราต้องอยู่กันไปอีกนาน นานจนกว่าฉันจะตายจากนายไป"
เซนพูดทำเอาแฮร์รี่หันหน้ามามอง
"ดูเลี่ยนๆแฮะ แต่ก็นะ ฉันจะนับ หนึ่ง ถึง สาม กรุณาปล่อยมือออกจากเอวฉันด้วย ไอ้หื่นอย่างนายนี่มัน เข้าใกล้ไม่ได้จริงๆ"
แฮซทำตาเขียวใส่ แล้วเงื้อตะหลิวในมือขึ้นสูง
"เห้ ใจเย็น ปล่อยแล้วๆ"
เซนว่าพลางยกมือยอมแพ้
"ก็แค่นั้น อ้ะ!"
แฮร์รี่ยืนนิ่งค้าง ไม่คิดว่าเซนจะเจ้าเล่ห์ได้ขนาดนี้
จู่ๆก็ยื่นหน้ามาจูบปากเขาอย่างรวดเร็ว
ทำเอาแฮร์รี่ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่เอามือแตะปากเบาๆ
"นะ นาย จูบฉัน ไอ้เซนแกตายยยยยย"
เพียงสติกลับมาเท่านั้น แฮร์รี่ก็ทิ้งเตาเอาไว้ แล้ววิ่งไล่เอาตะหลิวฟาดเซนทั่วห้อง
"ที่รักใจเย็น ฮ่าๆๆๆ"
เซนวิ่งหนีไปทำสีหน้ากวนแฮร์รี่ไป
"หยุดนะ ไอ้หื่นเซน เผลอไม่ได้สักนิดเดียว แฮ่กๆๆ"
แฮร์รี่ตะโกนอย่างเหนื่อยหอบ
ติ้งต่องๆๆๆ
ขณะที่ทั้งสองวิ่งไล่กัน ก็มีเสียงออดหน้าห้องดังขึ้น มันดังรัวราวกับว่าคนกดนั้นใจร้อนเหลือเกิน
ทั้งคู่เลยต้องหยุดวิ่งแล้วหันมาสนใจสิ่งเบื้องหน้า
"ใครมา?"
เซนพูดขึ้น
"เดี๋ยวฉันไปเปิดให้นะ"
แฮร์รี่อาสาแล้วเดินตรงไปที่ประตู
แล้วส่องตรงช่องตาแมวดูว่าผู้มาเยือนคือใคร
'ผู้หญิง??'
แฮร์รี่คิดในใจหลังส่องดูแล้วว่า คนที่มาหาเป็นผู้หญิงคนนึง
"สรุปว่าใครน่ะ?"
เซนถามเเล้วเดินมาที่ประตู
"ผู้หญิงอ้ะเซน"
"ใครว่ะ มาแต่เช้า แล้วมาได้ไง"
เซนสงสัย แต่ก็ไม่อยากจะยื้อเวลา เขารีบเปิดประตูออกไป
"เซน หายไปเลยนะคะ นี่ถ้าเจดไม่มีเส้น คงไม่รู้ว่าเซนอยู่ที่นี่ ทำไมขาดการติดต่อไปเลย"
หญิงสาวผู้มาเยือนยืนท้าวสะเอว มืออีกข้างก็ถือกระเป๋าแบรนด์เนม ซึ่งจากการแต่งตัวของเธอแล้ว แฮร์รี่เดาได้ไม่ยากว่าเธอคงรวยมากแน่ๆ
"นี่ใจคอจะไม่ชวนว่าที่คู่หมั้นเข้าไปข้างในห้องหน่อยหรือค่ะ ? "
เจดพูดไปหาเซน แต่สายตายังคงจ้องแฮร์รี่ไม่วางตา
"ว่าที่คู่หมั้น... เหรอ"
แฮร์รี่พูดออกมาเบาๆ จนเซนต้องเอื้อมมือมากุมมือบางของแฮร์รี่ไว้
"แฮซคือ..."
"ก็ใช่น่ะสิ นายเป็นเพื่อนเขาไม่รู้เหรอ ก็น่าจะไม่รู้นะ เพราะขนาดสหายสามคนนั้นยังไม่รู้เลย เซนนี่ปิดเรื่องเก่งดีจัง"
เซนที่กำลังจะอธิบายให้แฮร์รี่เข้าใจก็ถูกเสียงเจดขัดขึ้น แล้วถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องเซน แต่ทว่า...
"ก้าวเท้ากลับไป อย่าได้เข้ามาเด็ดขาด เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาที่นี่ ออกไป!"
เซนทำเสียงดุ ทั้งๆที่มือยังประสานมือแฮร์รี่แน่น
"เซนค่ะ เจดคือว่าที่คู่หมั้นของคุณนะ ทำไมจะเข้าไปไม่ได้ ทีเพื่อนของเซนยังอยู่ห้องเซนได้เลย"
เจดเริ่มทำเสียงเหวี่ยงๆ
"เขาไม่ใช่เพื่อนฉัน เธออย่ามาอ้างเขา เขามีสิทธิ์ เขาคือคนเดียวที่ฉันสามารถพามานอนหรืออยู่ที่ห้องนี้ได้ แต่เธอไม่มี ดังนั้นออกไป!"
เซนชี้นิ้วไล่เจดอย่างไม่ใยดี
"ทำไมค่ะเซน หมอนี่เป็นใคร สำคัญขนาดไหนกัน?"
เจดพูดเสียงดังเเล้วชี้นิ้วมาที่หน้าแฮร์รี่
"เจด อย่ามาชี้นิ้วใส่ แฟ..."
"พอเซน เธอมีสิทธิ์ที่จะเข้ามา เพราะเธอคือว่าที่คู่หมั้นนาย ฉันต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์ ดังนั้นฉันต้องเป็นคนไป!"
แฮร์รี่หันไปมองเซนด้วยสายตาผิดหวัง แล้วสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมของเซนทันที
"แฮซ !"
เซนตะโกนเรียกชายผมหยิกที่เห็นเพียงแผ่นหลังเท่านั้น เพราะเขาออกไปจากห้องได้ไวเหลือเกิน
แต่ใครจะรู้ล่ะว่า
ภายใต้การเดินที่ว่องไว มันแฝงไปด้วยน้ำตาที่ค่อยๆไหลมาช้าๆจากดวงตาสีเขียวมรกตคู่นี้
+++++++++++++++++++
ซอรี่~~~~~
นุ๊กไม่ได้ตั้งจายยยยยยย
นุ๊กไม่ได้ดองฟิคคคคคคคค
นุ๊กทำงานอยู่วววววววววว
นุ๊กขอโทษษษษษษษษษ
เอาเป็นว่าคนที่มาทวงเค้าบ่อยๆอย่าโกรธกันนะที่ชอบผลัดไปเรื่อย
เค้าต้องรวมเล่มเรื่อง
My Black bodyguard &killer heart mafia อ่า
คือนุ๊กจะตีพิมพ์เป็นบล็อกเซต คือเรื่องข้างบนกับเรื่องนี้
โอเคกันไหมอ้ะ?
ใครจะซื้อบ้างงงงงงง อยากถามก่อน ฮ่าๆๆๆๆ
ติดตามตอนต่อไปกันนะ
สามารถติดแทกแสดงความเห็นได้ทางทวิตเตอร์โดยติดแทก #myboymaid กันได้เลยนะคะ
เม้นท์/แชร์/โหวต
กันด้วยน้าาาาาาา
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น