คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter :1 การกลับมา (hobbit)
“ เธอบอกให้ฉันรอ สักวันจะย้อนมา
ยังเชื่อในสัญญา ว่าคงไม่นาน จะพบกันใหม่ “
ผมกำลังนั่งมองช่อดอกกุหลาบในมือ มันเคยเป็นดอกกุหลาบสีแดงที่งดงามแต่เมื่อเวลาผ่านไปมันก็ค่อยๆแห้งเหี่ยวตามกาลเวลา ผมนั่งมองมันพร้อมกับคิดถึงคนที่ให้มันมาก่อนที่เขาจะจากไปเขาบอกให้ผมรอ เขาสัญญาว่าเขาจะกลับมาหาผม...
5 ปีก่อน
“เฮ้ย! คุณเป็นไรอ่ะไหวรึเปล่า” ผมพูดพร้อมกับช่วยพยุงผู้ชายที่ล้มลงไปกองกับพื้นต่อหน้าต่อตาผม
“คุณๆ เฮ้ย คุณ” สลบแบบสนิทเลย ทำไงดีเนี่ยสงสัยต้องพากลับบ้านซะแล้ว นี่มันวันอะไรเนี่ย อุส่าจะออกมานั่งเล่นแถวนี้ให้สบายใจเพราะพึ่งทะเลาะกับที่บ้านมา แต่กลับต้องมาแบกใครก็ไม่รู้กลับบ้านตัวเอง ให้ตายเถอะ
“ม๊าๆ พี่เบียร์ๆ เปิดประตูให้แบมหน่อยยย” ตอนนี้ผมกำลังตะโกนเรียกคนในบ้านมาเปิดประตูให้ รีบๆออกมาสิครับแบมหนักจะตายอยู่แล้ว ตัวหนักอย่างกะควายสงสารแบมหน่อยเถอะ
“เฮ้ย แบมพาใครมาเนี่ย” พี่ชายตัวดีตะโกนพลางจ้องหน้าคนที่ผมแบกมาอย่างสงสัยแต่ก็ยังไม่ช่วยเปิดประตูให้ ดีจ้ะดี
“เลิกสงสัยแล้วมาเปิดประตูบ้านเดี๋ยวนี้เลยพี่เบียร์ แบมหนักจะตายแล้ว”
“เออๆ มาๆเดี๋ยวช่วย”
“เล่ามาเลยแบม เกิดอะไรขึ้นทำไมแบมต้องพาเขามาที่บ้าน”
"ก็แบมทะเลาะกับม๊า แบมก็เลยหนีออกไปนั่งเล่นที่สวนมาแต่พอแบมไปถึงอ่ะ คุณคนนี้เขาก็เดินสวนกับแบมแล้วก็ล้มลงไปเลย แบมตกใจอ่ะพี่เบียร์ไม่รู้จะยังไงเลยพาเขามาที่บ้าน” ผมตอบพร้อมกับหัวเราะแฮะๆไป2-3ที โห่จะให้ผมทำไงล่ะครับจะปล่อยให้นอนอยู่ที่นั่นคงจะไม่ดีเท่าไหร่พอดีว่าเป็นคนดีมากๆเลย ต้องลำบากพามาถึงบ้านไง
"เอาเถอะๆ ไหนๆก็พามาถึงนี่แล้วก็ช่วยดูแลจนเขาฟื้นแล้วกัน แล้วจะเอายังไงค่อยว่าต่อแบมไปตามม๊ามาดิ๊”
"จะว่าไปก็หน้าคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหนว่ะ” พอเจ้าน้องชายตัวแสบเดินออกไปจากห้องรับแขกคนเป็นพี่ก็บ่นออกมาเบาๆพลางจ้องหน้าคนแปลกหน้าที่นอนอยู่บนโซฟา
“ม๊าๆ พอดีแบมไปช่วยแบกคนเป็นลมมา ม๊าช่วยไปดูเขาหน่อยดิเหมือนจะไม่สบายเลยตัวร้อนๆด้วยอ่ะ” ผมเข้าไปหาคุณม๊าที่นั่งอยู่ในห้องทำงานพร้อมกับหอมแก้มไปหนึ่งที ก็แหมเมื่อกี้ผมยังทะเลาะกับม๊าอยู่เลยอยู่ดีๆก็เดินเข้ามาบอกให้ม๊าไปดูใครก็ไม่รู้ให้
“งั้นแบมไปหยิบกะละมังกับผ้ามาเช็ดตัวให้เขาน่ะครับคนเก่งเดี๋ยวม๊าหายาให้เขาก่อน”
“รับทราบครับม๊า”
“ไงเจ้าเบียร์เป็นไงบ้าง”
“ก็ตัวร้อนครับม๊า ปากดูซีดๆด้วยม๊าท่าจะหนักอยู่เอาเรื่อง” คนเป็นพี่ตอบพลางมองหน้าคนแปลกหน้าที่น้องชายตัวเองแบกมาถึงบ้านไปด้วย
“งั้นเบียร์ไปหาชุดมาให้ม๊าหน่อยล่ะกันเอาชุดเบียร์ได้มั้ย เดี๋ยวม๊าจะให้แบมเช็ดตัวให้เขาซะหน่อย”
“ได้ครับม๊า งั้นเดี๋ยวเบียร์ไปหาชุดมาให้เขาก่อนนะ”
“จ้ะๆ”
“มาแล้วครับม๊าาา” ผมตะโกนบอกม๊าเสียงดังด้วยความเคยชินพร้อมกับวางของที่ม๊าให้เตรียมมาลงบนโต๊ะ ก่อนจะโดนมะเหงกจากคุณม๊าสุดที่รักไปหนึ่งที
“เสียงดังจริงเจ้าแบม เดี๋ยวเขาก็ตื่นหรอก” ม๊าพูดเสร็จก็หันไปดูคนไข้ที่กำลังนอนอยู่บนโซฟา
“ตายแล้วเจ้าแบม!”
“ห้ะ! ม๊าอะไรเขาตายแล้วหรอม๊าเฮ้ยมาตายในบ้านเราด้วยอ่ะม๊าทำไงดี” พูดพลางเขย่าคนเป็นแม่ไปด้วย กระโตกกระตากเป็นงานของแบมแบมนะครับบอกไว้ก่อนเลย จะเกิดอะไรขึ้นจะได้กินอะไรมาเราต้องเล่นใหญ่ไว้ก่อน
“จะบ้าหรอเจ้าแบม แบมช่วยม๊าดูหน่อยสิม๊าว่าหน้าเขาเหมือนดาราเลย”
“เหมือนหรอม๊า แบมว่าแบมหล่อกว่าเยอะเลยน่ะ”
“แบม! ใช่ 'อี๋เอิ้น ต้วน' รึเปล่า ดาราไต้หวันที่แสดงซีรีย์ที่ม๊าดูอยู่ไง” พอม๊าพูดอย่างงั้นผมเลยลองหันไปดูหน้าคนที่นอนอยู่บนโซฟา
อืมมม หน้าเรียวๆ จมูกโด่งๆ ดวงตาเรียวที่แม้ว่าตอนนี้จะปิดอยู่ยังรับรู้ได้ถึงความหล่อ ผิวขาวเนียนใสแม้จะไม่มีเครื่องสำอางอยู่บนหน้า แล้วก็ไฝที่อยู่ใต้ตาข้างซ้าย หล่อจริงๆแฮะ ..
“เฮ้ย! ใช่จริงๆด้วยม๊า” ตอนนี้ผมทั้งตกใจ แล้วก็อึ้งไปพร้อมกันจะไม่ให้ตกใจได้ยังไงเล่า” ผมแบกดาราไต้หวันมาถึงบ้านเลยนะ
“ตัวจริงหล่อมากเลยแบม” ม๊าพูดพร้อมท่าเขินสุดพลัง
“แล้วจะเอาไงอ่ะม๊า” นั่นสิจะท่าหมา ท่ายืน หรือออนท็อปดี เฮ้ย! ไม่ช่ายยยย
“รอเขาตื่นก่อนล่ะกัน ตอนนี้แบมก็เช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาก่อนล่ะกัน เสร็จแล้วเดี๋ยวให้เขาใส่ชุดพี่เบียร์ไปก่อน”
ม๊าสั่งแล้วก็ต้องทำครับเรื่องการเช็ดตัวเนี่ยรู้รึเปล่าว่าผมนะโปรสุดๆ เวลาใครในบ้านไม่สบายผมนี่แหละที่ต้องเป็นคนเช็ดตัวให้ แต่การที่ต้องมาเช็ดตัวให้แปลกหน้านี่มันก็ยังไงๆอยู่แถมยังเป็นดาราดังของไต้หวันอีก โอ้ยย ถ้าแฟนคลับเขารู้ผมคงไม่โดนฆ่าหมกป่าใช่มั้ยเนี่ย
“คุณๆทดลองตื่นขึ้นมามั้ยอ่ะ? คือถ้าคุณไม่ตื่นผมต้องเช็ดตัวให้คุณนะคุณตื่นขึ้นมาเช็ดเองดีกว่านะคุณ” ผมพูดเบาๆกับคนที่นอนอยู่บนโซฟา แหมก็เพื่อเขาจะตื่นไงครับผมจะได้ไม่ต้องเช็ดตัวให้เขา
“ไม่ตื่นจริงๆอ่ะ?” เฮ้อ ผมคงต้องเช็ดเองแล้วล่ะ
มือบางแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตของอีกคนออกพร้อมกับถอดออกไปวางไว้ที่ข้างๆโซฟา มือบางเริ่มไล่ลงมาเช็ดตามเนื้อตัวของอีกคนอย่างเบามือ คุณดารานี่ขาวจังแฮะ หุ่นที่แม้จะไม่มีกล้ามเนื้อมากมายแต่กลับสมส่วนอย่างดูดี อ่า เขาอิจฉาจริงๆ
Mark’s part
หลังจากที่แบมแบมเดินออกไปจากห้อง ร่างของคนที่กำลังนอนอยู่บนโซฟาก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา ที่จริงผมตื่นตั้งแต่เด็กผู้ชายที่แบกผมมาตะโกนอยู่หน้าบ้านหลังนี้แล้วแหละแต่ร่างกายที่อ่อนแรงของผมสั่งให้ผมหลับตาต่อไปอย่างงั้น
อ่า บ่นมาตั้งนานผมลืมแนะนำตัวเลย ผม ‘อี๋เอิ้น ต้วน’ หรือจะเรียกสั้นๆว่า ‘มาร์ค’ ส่วนใหญ่ก็รู้จักผมในชื่อ อี๋เอิ้น ต้วนทั้งนั้น รวมถึงผู้หญิงคนเมื่อกี้เขาน่าจะรู้จักผมในคราบดาราดังของไต้หวัน แต่ผมไม่ได้เป็นแค่ดาราหนิครับ ผมยังเป็นถึงเจ้าของธุรกิจมืดหลายๆอย่างในไต้หวันอีกและนั่นล่ะครับเหตุผลที่ผมต้องหนีจนสภาพเป็นอย่างงี้แต่สภาพผมก็ไม่ได้แย่ซะหน่อย เพราะผมไม่ได้มีบาดแผลตรงไหนมากมายก็แค่เป็นลมไปเพราะร่างกายไม่ได้พักผ่อนและไม่มีอะไรตกถึงท้องแค่นั้นเอง
Bambam’s part
หลังจากเก็บกะละมังเสร็จร่างเล็กก็เดินกลับมาที่ห้องนั่งเล่นที่ตอนแรกมีคุณดารานอนอยู่ แต่ตอนนี้กลับลุกขึ้นมานั่งนิ่งๆ อ่า แล้วผมควรทำอะไรต่อล่ะ ต้องคุยกับเขาภาษาอะไร แต่ที่แน่ๆคงไม่ใช่ภาษาไทยหรือภาษาตากาล็อกแน่นอนอยู่แล้ว
“เอ่อออ คุณโอเคน่ะครับ? ” ภาษาอังกฤษอย่างง่ายๆถูกเปล่งออกไปเป็นประโยคแรกในการสนทนานี้
“อืม” คนอุส่ารวบรวมความกล้าแทบตายตอบมาแค่เนี่ย ให้ตายเถอะคนอะไรเนี่ย
“หิวมั้ยครับ ถ้าหิวเดี๋ยวผมจะไปเอา เอ่อออ..อาหารมาให้” ใครก็ได้ช่วยผมทีข้าวต้มภาษาอังกฤษคือไรว่ะครับ โอ้ยยย จะบ้าตายกันต์พิมุกต์จะบ้าตาย
“อืม” เฮ้ยเป็นใบ้ป่ะว่ะเนี่ยพูดเป็นอยู่คำเดียว แต่ถ้าเป็นใบ้ก็เป็นดาราไม่ได้ดิชั่งแม่ง ผมว่าตอนนี้ผมควรลุกไปเอาข้าวต้มมาให้ก่อนที่เขาจะกินหัวผมแทนข้าวต้ม
หลังจากวางชามข้าวต้มลงบนโต๊ะตัวเล็กที่ตั้งอยู่ข้างหน้าโซฟาเสร็จผมก็กะจะออกไปหาม๊ากับพี่เบียร์ว่าคุณดาราตื่นเรียบร้อยแล้วแต่ทว่ากลับมีแรงดึงเกิดขึ้นที่ข้อมือของผมเลยกลับหันไปดู พบว่าคุณดาราได้ดึงข้อมือผมไว้
“มีอะไรรึเปล่าครับ?” คนตัวเล็กถามพร้อมส่งสีหน้าสงสัยไปให้ร่างสูงที่ดึงข้อมือตนไว้
“ป้อน” ห้ะ อะไรว่ะอะไรฟีดๆ แข็งหรอ เอ๊ะหรือเขาหนาวว่ะ
ร่างสูงไม่สนใจคนตัวเล็กที่ยืนทำหน้างงๆมาให้แต่กลับดึงให้มานั่งข้างๆบนโซฟาพร้อมกับดึงมือให้อีกคนหยิบช้อนพร้อมเอาเข้าปากของตน
“ป้อน?” หลังจากพยายามทบทวนคำศัพท์ในสมองแล้วก็นึกออกมาได้ ต่อไปคงต้องพกโทรศัพท์ไว้เปิดหาคำศัพท์แล้วสินะ
“อื้อ” ขนาดนี้แล้วก็คงต้องป้อนสินะ
ตอนนี้ก็ผ่านมา 4 วันแล้วที่ผมดูแลคุณดารามาถึงจะบอกว่าเป็นคนดูแลมาแต่เอาจริงๆแล้วผมกับเขาแทบไม่ได้คุยกันเลยเขามักจะเงียบๆถามอะไรก็ไม่ค่อยตอบ ส่วนมากจะเป็นขานรับง่ายๆมากกว่าอย่างเช่น
“คุณหิวรึเปล่า?”
“อื้อ”
หรืออย่างเมื่อวาน
“คุณไม่สบายตัวตรงไหนมั้ย”
“หึ”
หรืออย่างเมื่อกี้
“ผมจะออกไป...เอ่อไปซื้อของ อยากได้อะไรมั้ยครับ”
“หึ”
ถึงบอกว่าจะไม่อยากได้อะไรแต่ตอนนี้เขากำลังยืนรอรถอยู่ข้างๆผม โดยที่ใส่ฮู้ตปิดหน้าปิดตามาซะเต็มยศอยากถามจริงๆว่าไม่ร้อนหรอครับเมืองไทยนี่โคตรๆร้อนเลยนะ แต่ก็พอเข้าใจว่าเป็นดาราดังก็ต้องหลบซ่อนคนอื่นเป็นธรรมดา
“แบม” ใครเรียกวะ แต่เดี๋ยวคนขับไม่รู้ชื่อผมนี่หว่า งั้นก็มีแค่คนที่นั่งอยู่ข้างๆผมล่ะสิแต่เขารู้ชื่อผมหรอ
“นี่ ฉันเรียกไม่ได้ยินหรอ”
“ค....ครับ” ตกลงนี่เรียกจริงๆหรอวะ รู้ชื่อผมอีก
“ขอบใจมากนะที่ช่วยดูแลฉัน อีกไม่กี่วันก็จะกลับแล้ว” อ่า อย่างงี้นี่เองจะกลับแล้วงั้นหรอ รีบไปรึเปล่าอยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้หรอ แต่นั่นล่ะครับก็คงได้แต่คิดในใจพูดออกไปไม่ได้หรอก
“อ่า ครับ” หลังจากที่บทสนทนาของเราจบไปไม่ถึงนาทีก็ถึงจุดหมายปลายของเรียบร้อย พอจ่ายตังค์ค่าโดยสารให้คนขับเสร็จเราทั้งสองคนก็พากันลงมาจากรถและเดินเข้าไปในห้าอย่างไรบทสนทนากัน
มาร์คได้เพียงแต่มองข้างหลังของคนแบมแบมที่เดินเข็นรถเข็นอยู่ข้างหน้าเขาพลางหยิบของที่ต้องซื้อใส่ลงไปในรถด้วย แบมแบมไม่แม้แต่จะหันมามองคนที่เดินอยู่ข้างหลังตอนนี้เขากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
“นาย...อยากได้อะไรมั้ย” มาร์คอีกคนทันทีหลังจากที่เขาเดินขึ้นมาขนาบข้าง
Mark’s Part
“ห้ะ อะไรนะครับ” แบมแบมหันมาถามพร้อมกับอาการสะดุ้งเล็กน้อย อ่า คงกำลังเหม่ออยู่สินะ
“นายอยากได้อะไรรึเปล่า ฉันจะซื้อให้ตอบแทนที่นางคอยดูแลฉันมา”
“ไม่เป็นไรหรอกครับแค่นี้เล็กน้อยเอง” แบมแบมหันไปข้างหน้าพร้อมกับเข็นรถไปเรื่อยๆอีกครั้ง
“แต่ฉันอยากให้” ผมพูดพร้อมกับดึงมือแบมแบมให้เดินตามมาโดยทิ้งรถเข็นไว้ที่เดิม
“คุณจะพาผมไปไหนอ่ะ ผมยังซื้อของไม่เสร็จเลยนะ” คนตัวเล็กพูดพร้อมกับพยายามสะบัดออกจากมือที่กำลังจับมือเขาอยู่
“ตามมาเหอะน่า”
หลังจากเดินมาได้ซักพักผมก็หยุดที่หน้าร้านขายเสื้อผ้าแบรนดังแถมยังเป็นแบรนประจำของจัวเองอีกด้วยถึงแม้ราคาจะสูไปหน่อยแต่คุณภาพก็คุ้มอยู่พอตัว
“พาผมมาที่นี่ทำไมครับ”
“มาซื้อของไงนายอยากได้อะไรก็เข้าไปเลือกดู” พูดพลางดันที่กำลังยืนทำหน้างงๆเข้าไปในร้าน
“ยินดีต้อนรับค่ะ ไม่ทราบว่าสนใจแบบไหนเป็นพิเศษรึเปล่าคะ” พนักงานต้อนรับพูดเป็นภาษาไทย แต่จะให้ตอบยังไงล่ะครับผมฟังไม่ออกหรอกครับ
“ขอเดินดูก่อนนะครับ” ตอบเป็นภาษาอังกฤษง่ายพร้อมกับดึงอีกคนให้เดินตามเข้ามา
“คุณๆ ผมไม่อยากได้ของพวกนี้อ่ะ อีกอย่าง..เอ่อออ คือมันแพงเกินไปผมเกรงใจ”
“จะเกรงใจอะไร ถือว่าตอบแทนที่นายดูแลฉัน ไม่ได้ซื้อให้ฟรีๆซะหน่อย” แบมแบมยังคงพยายามปฏิเสธความหวังดีของผมอยู่ดี แต่ผมอยากซื้อให้หนิครับจะเกรงใจอะไรหนักหนา
“ถ้านายกลัวว่ามันจะแพงไป เดี๋ยวฉันจะเป็นคนเลือกตัวที่เหมาะกับนายแล้วก็เหมาะกับเงินของฉันให้เอง” พูดพร้อมกับกดคนที่พยายามขัดขืนการซื้อของตอบแทนให้นั่งลงกับโซฟาที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ลูกค้า
เด็กคนนั้นจะชอบเสื้อผ้าแนวไหนนะปกติก็เห็นใส่แต่เสื้อยืดกับกางเกงเวลาอยู่บ้าน เวลาจะออกไปข้างนอกเจ้าตัวก็แค่หาเสื้อแขนยาวใส่คลุมแค่นั้นเป็นคนที่แต่งตัวสบายๆจริงๆ
“ตัวนี้น่าจะเหมาะ” ดึงเสื้อไหมพรมแขนยาวลายทางสีแดงดำที่ดูเหมือนจะโชว์ช่วงไหล่นิดๆด้วยความกว้างของคอเสื้อก่อนที่จะพลิกดูป้ายราคา อืมก็ไม่ได้แพงมากมายอะไร ผมหวังว่าเขาจะชอบนะถึงเมืองไทยจะร้อนแต่เสื้อตัวนี้ก็ไม่ได้หนามากมายเท่าไหร่ เขาคงหยิบออกมาใส่อยู่ใช่มั้ยถ้าผมซื้อให้
Bambam’s Part
ตอนนี้ผมกำลังนั่งตัวเกร็งอยู่บนโซฟาภายในร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ร้านแบบนี้ผมเคยเข้าซะที่ไหนล่ะปกติก็หาเอาง่ายๆตามตลาดทั่วไป ถึงบ้านผมจะไม่ได้จนอะไรมากมายแต่ก็ไม่คิดจะใส่เสื้อแพงอะไรแบบนี้เลยซักครั้ง ดูแต่ล่ะตัวสิหลักพันทุกอันแพงจะตายใครจะกล้าหยิบมาใส่
ขณะที่ร่างเล็กกำลังคิดอะไรเพลินๆมาร์คก็ได้หยิบเสื้อที่หยิบมาโยนใส่หัวของคนตัวเล็กด้วยความแม่นยำทำให้ตอนนี้หัวของร่างเล็กมีเสื้อปิดหน้าปิดตาไว้อยู่
“อะ! นี่คุณ” ผมหยิบเสื้อที่คุณดาราโยนใส่หัวออกมาดูก็พบว่ามันเป็นเสื้อไหมพรมแขนยาวลายทางสีแดงดำ โห่สวยอ่ะผมชอบจัง
“ฉันคิดว่าตัวนี้เหมาะกับนายดี ลองเข้าไปลองดูก่อน” พอคุณดาราบอกอย่างงั้นผมก็เข้าไปลองเสื้อในห้องที่ทางร้านจัดไว้ให้ หลังจากเข้าไปข้างในผมก็ถอดเสื้อยืดของตัวเองออกก่อนที่จะสวมเสื้อไหมพรมตัวที่อีกคนเลือกให้ใส่เข้าไปแทนที่มัน อ่า เสื้อราคาแพงเนื้อผ้ามันนุ่มคุ้มกับราคาจริงถึงว่าคนที่พอมีตังค์เขาถึงซื้อของแบบนี้กัน นุ่มขนาดนี้คงจะไม่พังง่ายๆใช่มั้ยอุส่าจะได้ของแพงมาฟรีๆมันจะอยู่กับผมไปนานๆใช่มั้ย
“แบมแบม ออกมาได้แล้วนายจะเข้าไปหลับในนั้นรึไง” หลังจากสำรวจตัวเองอยู่นาน ก็ได้ยินอีกคนที่ยืนคอยอยู่ข้างนอกตะโกนเร่งให้ออกไป
“ครับๆ แปปนึงครับ” ผมตะโกนออกไปให้อีกฝ่ายรับรู้พร้อมกับเก็บเสื้อที่วางอยู่ที่พื้นขึ้นมาพาดบนราวอย่างเรียบร้อยก่อนจะออกไปให้คุณดาราดูชุดที่เขาเลือกมาให้ผม
พรึ่บ!! คนตัวเล็กออกมาพร้อมกับสวมเสื้อที่อีกคนเลือกให้เสื้อลายแดงดำขับให้ผิวขาวขึ้นไปอีกทั้งยังโชว์ไหล่ขาวและไหปลาร้าที่โผล่พ้นเสื้อมา ชั่งเข้ากับกางเกงยีนรัดรูปสีดำที่มารอยขาดซึ่งเป็นที่นิยมของวัยรุ่นทั่วไป ร่างสูงมองคนที่ออกมาจากห้องลองเสื้ออย่างหลงใหลเพราะชุดนี้มันชั่งเข้ากับอีกคนจริงๆและยังทำให้ร่างเล็กดูเหมือนแมวยั่วสวาทถมยังดูเบาะบางอีกด้วย
“คุณต้วนครับ คุณๆ”
“ฮะๆอะไรมีอะไรจะเรียกทำไม”
“ก็คุณเหม่อหนิครับผมเรียกตั้งหลายรอบก็ไม่ฟัง” ก่อนจะคุยกันต่อเสียงริงโทนโทรศัพท์ที่ใส่อยู่ในกางเกงยีนของคนตัวเล็กก็ดังขึ้น
“ครับม๊า”
“อยู่ที่ห้างXXX ครับม๊า”
“มาซื้อของเข้าบ้านครับพอดีของในตู้เย็นหมดแล้วครับ”
“อ่า..จะไปตอนไหนครับ”
“งั้นแบมก็กลับไปไม่ทันส่งม๊าอ่ะดิ ทำไมรีบแบบนี้ล่ะครับม๊า”
“พี่เบียร์ไปด้วยอ๋อม๊า เอ้าแล้วทำไมทิ้งแบมไว้คนเดียวอ่ะ”
“ก็ได้ครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ รักม๊านะเจอกันครับ”
“คุณ แม่ผมกับพี่เบียร์ไปต่างจังหวัดอ่ะตอนนี้ไม่มีใครอยู่บ้านเลยรีบไปเอาของแล้วกลับบ้านกันเถอะ”
“อื้อ ไปถอดเสื้อสิเดี๋ยวฉันรอคิดตังค์ก่อนนายก็ไปเอารถเข็นแล้วไปจ่ายตังค์เดี๋ยวฉันตามไป”
หลังจากที่คนตัวเล็กออกไปนอกร้านแล้วร่างสูงก็เดินตรงไปที่มุมของเครื่องประดับซึ่งมีแหวนที่เขาจ้องมาตั้งแต่เข้าร้านและตั้งใจจะซื้อให้คนตัวเล็กที่คอยดูแลเขาตลอดที่เขาไม่สบายก่อนจะออกไปคิดตังค์และตามอีกคนออกไปที่เคาท์เตอร์จ่ายตังค์
“คุณจะเอาอะไรเพิ่มมั้ย” ผมถามร่างสูงที่กำลังเดินอยู่ข้างๆระหว่างที่กำลังเดินออกไปประตูหน้าห้างเพื่อที่จะเรียกรถแท็กซี่กลับบ้าน
“ไม่มีแล้ว รีบกลับบ้านเถอะเดี๋ยวจะมืดไปกว่านี้”
แกร๊ก เสียงประตูบ้านเปิดขึ้นพร้อมกับคนสองคนที่ช่วยกันถือถุงที่ใส่ของเดินเข้าไปวางไว้ในห้องครัวก่อนที่จะช่วยกันจัดของใส่ไว้ในตู้เย็นและเตรียมตัวทำข้าวมื้อเย็น เพราะแม่และพี่ชายรีบไปต่างจังหวัดเลยม่ได้ทำข้าวเย็นเตรียมไว้ให้ลูกชายกับแขกคนดังไว้ทานกัน
“คุณ! ม๊าไม่ได้ทำอาหารไว้ให้อ่ะคุณอยากกินไรป่าวหรือจะสั่งมา”
“เอาอะไรก็ได้ที่ฉันกินแล้วไม่ตายก็พอ” ย๊าาาาาา ใครสั่งใครสอนให้พูดแบบนี้ถึงเห็นผมเป็นเด็กผู้ชายแก่นๆปากเก่งก็เหอะ แต่ผมทำกับข้าวเป็นนะเฟ้ย ปากแบบนี้มันน่าวางยาเบื่อหนูให้ตายๆไปเลย
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
กราบสวัสดีทุกคนค่ะะะ กว่าจะลงได้ยากลำบากมากเพราะโง่มากๆนั่นเองค่ะ ;________; ฟิคเรื่องนี้เป็น sf น่ะคะแต่ล่ะตอนจะมีพล็อตเรื่องเป็นเพลงแต่ล่ะเพลงส่วนใหญ่คงดราม่าแหงมๆเพราะเป็นคนชอบฟังเพลงเศร้าๆ คนแต่งเรื่องนี้กากมากบอกไว้เลยเพราะใช้ภาษาไม่เป็น เรียงประโยคไม่เป็นทำไม่เป็นซักอย่างกว่าจะลงแจ่ละตอนได้ต้องลบๆทำใหม่หลายรอบมาก ใครหลงเข้ามาก็ฝากไว้ด้วยน่ะคะ ;____;
27/03/58
อยากให้ว่านางคุยกันเป็นอิ้งนะ อยากให้พยายามมโนว่าเป็นอิ้งเอาเนอะ5555
CR.SHL
ความคิดเห็น