ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักหน่อย Yaoi

    ลำดับตอนที่ #3 : แค่มีแฟน(ช่วงทดลอง)เป็นเดือนมหาลัย มันจะอะไรนักหนา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 446
      2
      10 พ.ค. 55

     






    สวัสดียามเช้าครับทุกท่าน  นี่ผมหลับตั้งแต่ตอนเที่ยงถึงเช้าอีกวันเลยเหรอ  เป็นการหลับที่มาราธอนจริงๆครับถึงว่าตื่นขึ้นมารู้สึกมึนๆ นอนนานไปนี่เอง 

    นั่งอยู่บนเตียงสักราวสิบนาทีสมองจูนกลับมาเกือบเต็มร้อย

    ผมลึกขึ้นจากเตียงแบบเบลอๆ ใครใช้ให้ตอนเช้าผมความตันต่ำ ลุกขึ้นจากเตียงทีโลกงี้หมุนได้สามร้อยหกสิบองศา เดินทีแทบชนตู้

    “เดย์ ตื่นแล้วเหรอ” หืม  ใครอ่ะ ไอ้หมอนี่เป็นใคร หน้าตาคุ้นๆเนอะ แล้วมายืนหน้าประตูได้ไงอ่ะ

    “ไม่ตื่นแล้วจะเห็นเหรอ”  คนตรงหน้าผมดูตกใจนิดๆที่ผมตอบ ทำไมอ่ะก็ถามไม่ใช่เหรอ

    “เดย์ อาบน้ำก่อนนะ” ผมคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำอาการปวดหนึบๆด้านหลังเริ่มดีขึ้นแหะ ค่อยยังชั่วมันนี้ต้องไปมหาลัย ผมถอดเสื้อผ้าแล้วเปิดฝักบัว ส่วนประตู ไม่ปิดอ่ะ อยู่คนเดียวปิดทำไม

    พอน้ำกระทบร่างกายมันช่วยทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นหน่อย

    หือ  อยู่คนเดียว

    เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ผมบอกว่าอยู่คนเดียว แล้วเมื่อกี้ใครวะครับ

    หน้ามันก็คุ้นๆเนอะ เหมือนไอ้พี่เยียร์เลย  เอ๊ะ  ไอ้พี่เยียร์

    ไอ้พี่เยียร์

    พี่เยียร์

    เยียร์

    “เฮ้ย!! ไอ้พี่เยียร์!!” ผมกระแทกประตูห้องน้ำ (ที่ยังไม่ได้ปิด) มองซ้ายมองขวาทั่วห้องแล้วไม่เจอมันต้องอยู่ข้างล่าง

    “ไอ้พี่เยียร์!!” ผมยืนตะคอกอยู่บนชั้นสองส่วนไอ้คนที่ผมเรียกมันก็ตาลีตาลานออกมาจากส่วนครัวมองซ้ายขวาก่อนมองขึ้นมาด้านบนตาค้าง

    “ดะ เดย์ ” มันพูดเสียงสั่นหน้าขาวๆเริ่มแดงเถือก

    “ทำไมนายมาอยู่ที่นี่!!” ผมตะโกนถามมันพลางกวักมือเรียกให้มันมาด้านบนผมจะได้ไม่ต้องตะโกนให้เจ็บคอ

    “อ่า พี่แค่จะมารับเดย์ไปมหาลัยน่ะครับ” มันตอบเสียงอ่อยเดินขึ้นบันไดช้าๆ

    “มารับทำไม” ผมยืนกอดอก มองหน้ามันแบบหาเรื่อง

    “ก็พี่มีเรื่องอยากคุย” พอมายืนตรงหน้ากันแบบนี้แล้วมันสูงโคตรเลยแหะ ผมต้องกินนมหมดกี่ถังยัดแคลเซียมกี่กระสอบวะถึงจะสูงแบบนี้มั่ง ผมเชิดหน้า (ความจริงเงยเพราะมองไม่เห็นหน้ามัน) “คุยอะไร”

    “เอ่อ เดย์ครับ ก่อนเดย์จะคุยกัยพี่ไปหาอะไรใส่ก่อนดีไหมครับ” ออ นี่เองสาเหตุที่พี่เค้าหน้าแดง

    “อ๊ะ



    “อะ อ๊ากกกก”

     

     

     

     

     

    “ฮะ ฮะ”

    “หยุดหัวเราะนะ!!” น่าอาย น่าอายชะมัด ไม่มีอะไรน่าอายกว่านี้อีกแล้ว เผลอล่อนจ้อนไปคุยกับมันตั้งนาน ฮือ หมดกันร่างอันบริสุทธิ์(??)ของผม

    “ก็นะ เมื่อเช้านี้เดย์น่ารักมากๆเลย ฮะๆ”

    “ก็บอกว่าอย่าหัวเราะไงเล่า!! ฮึ่ย” ผมมองค้อนเจ้าของใบหน้าเรียวที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานขับรถจำเป็นเมื่อเช้าผมกับพี่เขาเคลียร์กับเรียบร้อยแล้วล่ะ พี่เขาบอกว่าขอเวลาให้พี่เขาอาทิตย์หนึ่ง ภายในอาทิตย์นั้นถ้าเขาทำให้ผมยอมรับเขาได้ผมก็ต้องเป็นแฟนพี่เขาแต่ถ้าหากทำไม่ได้ภายในอาทิตย์นั้นก็ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกันอีก

    “ครับๆ เลิกหัวเราะแล้วๆ” ไหนปากบอกว่าเลิกแล้วไงวะ แล้วทำไมยังไม้ยืนเสียงคิกๆคักๆจากปากอยู่เลย เฮอะ ไอ้ผู้ชายตอแหล

    “ถึงแล้วครับเดย์ ตอนเย็นเดี๋ยวพี่มารับนะครับ อย่าไปไหนล่ะอยู่ให้พี่ทำคะแนนก่อน” ยิ้มอีกแล้ว ยิ้มๆๆๆอยู่นั่นแหละมีอะไรให้ดีใจรึไงถึงได้ยิ้มอยู่ทุกวี่ทุกวัน เชอะ

    ผมเปิดประตูลงจากรถแต่ก่อนที่จะปิดประตูกลับก็ชงักกับเสียงเรียก  “เดี๋ยวตอนเที่ยงพี่มารับไปทานข้าวนะครับ ตั้งใจเรียนนะ” ชิ ไอ้ผู้ชายปากหวาน เทคแคร์สาวๆมาเยอะล่ะสิ น่าหมั่นไส้  ถึงในหัวจะคิดอย่างนั้นแต่การกระทำของผมช่างไม่สามัคคีกันเสียเลย ปากยิ้ม โบกมือไล่ให้เขาไปเร็วๆ

    และถึงแม้ว่าพี่เขาจะขับรถไปแล้ว ปากผมก็ยังไม่หุบยิ้มอยู่ดี 

     

    เอาเถอะ ช่างมันเหลืออีกตั้งหลายวัน ลองเปิดใจให้พี่เขาหน่อยละกันไม่เสียหาย

    ผมยืนยันกับตัวเองก่อนมุ่งหน้าเข้าห้องเรียน

    “เดย์   เดย์  เดย์ มึงมากับใครวะบีเอ็มเปิดประทุนซะด้วยยยย”  มาแล้วครับเสียงแรกที่ผมต้องเจอในห้อง ไอ้ปลาย!! เมื่อคืนสามีมันทำไมไม่ปล้ำให้มันหมดแรงเลยวะ  ผมมองค้อน  เลื่อนเก้าอี้วางของไว้บนโต๊ะแล้วนั่งซบลงบนกระเป๋าหันหน้าหนีพวกมัน

    “อะไรวะ เพื่องฝูงถามไม่ยอมตอบ เชอะ”  งอนเลยมึง งอนไปเล๊ยยย ยังไงกูก็ไม่ง้อ ชิ

    ไอ้ปลายหน้างอกว่าเดิม เลื่อเก้าอี้ตัวข้างๆผมก่อนกระแทกก้นลงนั่งจากนั้นก็ร้องซี๊ด  เมื่อคืนมันก็ยังสนุกสนานกันสินะ

    “เป็นอะไรไปครับคุณเมีย อ้าวไอ้เดย์มาแล้วเรอะมึง” เสียงมันมาก่อนตัวสักพักก่อนตามมาด้วยเจ้าของเสียงและไอ้เพื่อนนิ่งติดหนังสือที่เดินตามหลังต้อยๆ ช่วงนี้มันอ่านหนังสือบ่อยขึ้นแหะ เล่นใหม่เกือบทุกวันเลยด้วย สงสัยแฟนมันซื้อให้มั้ง

    “ยังไม่มา” ผมกวนกลับ เงยหน้าไปยักคิ้วหลิ่วตาให้

    “ไอ้เวร” มันปล่อยสัตว์เลี้ยงประจำตัวมันมากัดผมก่อนหันไปบอกคนที่เดินตามมาว่าอาจารย์มาแล้ว แต่ขอโทษ ไอ้แบล็คมันนั่งที่ก่อนมึงอีกและแน่นอนว่า

    “นายนนทการณ์ ยืนทำอะไอยู่ นั่งที่ได้แล้ว!!” เสียงอาจารย์ท่านลอยมากระทบประสาตหูมันเรียบร้อย

     

    ผมจดเนื้อหาที่เรียนอย่างคร่าวๆเอาเฉพาะจุดสำคัญจริงๆส่วนไอ้นนท์ที่นั่งถัดจากไอ้ปลายทางด้านซ้ายของผมก็กำลังพับเครื่องบินกระดาษปล่อยร่อนในห้อง ช่างเป็นพฤติกรรมที่แย่มากอย่าเอาอย่างนะครับ ต้องเอาอย่างผมกับไอ้แบล็คนี่ นั่งจดกันตาตั้ง ฮ่าๆๆ

     

    จบคาบเรียนช่วงเช้าตอนบ่ายผมมีเรียนอีกแค่ชั่วโมงเดียว ไปหาอะไรใส่ท้องก่อนดีกว่า

    “เฮ้ ไปหาไรกินกัน” เสียงไอ้นนท์ดังแทรกเข้ามาในห้วงความคิด พวกเราทยอยออกจากห้องกันเป็นขบวนเพื่อไปหาอะไรประทังชีวิต เมื่อเช้าผมกินอาหารอเมริกันของไอ้พี่เยียร์มันช่างไม่อิ่มท้องซะจริง

    อา พูดถึงไอ้พี่เยียร์ผมเกือบลืมแน่ะว่ามันจะมาทานข้าวด้วย

     

    Rrrrrrr

     

    เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าผมส่งเสียงเรียกผมรีบค้นมันออกมาคงเป็นพี่เยียร์มั้งและก็ใช่จริงๆซะด้วย

    “ครับ”  รับโทรศัพท์มันครั้งแรกต้องเพราะๆเข้าไว้ แล้วนี่ผมจะเกร็งทำห่าอาร้ายยยย

    “เดย์ พี่รออยู่ด้านล่างนะครับเลิกแล้วใช่ไหม”  ข้างล่างเหรอ ผมมองลงไปเจอะเข้ากับรอยยิ้มเตะตารัศมีเปล่งประกายแถมด้วยแบล็กกราวผู้คนชายหญิงมองกันให้พรึ่บ โอเค มันหล่อครับ ผมยอมรับ

     

    “แต่เดย์อยากไปกินกับเพื่อน พี่ไปด้วยกันไหม” ผมเงยหน้าขึ้นมาเดินตามหลังไปสหายเพื่อนซี้ น้องปิ่นน้อยหายไปแล้วสงสัยแฟนมันมารับ สองสามีภรรยาก็เดินกระหนุกกระหนิงไม่เกรงสายตาชาวบ้านชาวช่องเขา ส่วนไอ้แบล็คยังคงตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือ มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ประถมครับ สกิลการเดินโดยไม่ต้องมองทางของมันเลยพัฒนาถึงขั้นเทพเทวะ

    “เหรอครับ งั้นพี่ขอไปด้วยคนนะ” พี่เขาตอบกลับมา

    “ครับ” พอผมวางสายก็เจอเข้ากับลูกตาสองคู่ที่มองผมอย่างจับผิด ผมถามเสียงแข็ง “อะไร”

    “ใครโทรมาอ่ะ” อีกแล้ว ไปสองผัวเมียคู่นี้นี่ ช่างเสือกซะจริง

    “พี่เขาจะไปกินข้าวด้วย เดี๋ยวก็รู้”  ผมตอบก่อนซัดมะเหงกให้ไอ้พวกบ้าไปคนละที

    “แฟนเหรอเดย์”  เสียงไอ้แบล็คถาม แปลกแฮะ มันสนใจเรื่องอื่นตอนอ่านหนังสือด้วย

    “เปล่า ก็ ไม่เชิง น่าจะเป็นแฟนช่วงทดลองน่ะ” ผมบอก มันพยักหน้าก่อนกลับไปจมอยู่ในวังวนหนังสือต่อ

    “แฟนช่วงทดลอง  ผู้ชายไช่มะ”  แต่ไอ้สองตัวนี่ยังไม่เลิก ผมค้อนเป็นเชิงไม่รับแต่ก็ไม่ปฏิเสธให้มันอีกรอบก่อนตรงดิ่งลงบันได เดี๋ยวพี่เขารอนาน

     

    “ไปกันเหอะพี่” พอลงมาจากตัวอาคารผมก็เจอเข้ากับร่างสูงโปร่งของคนรอ พี่เขาพยักหน้าก่อนเดินตามผมกับไอ้แบล็คที่ขนาดลงบันไดยังไม่เลิกอ่านหนังสือ

    แต่ไอ้สองตัวยังไม่เดินตามมาทำหน้าตะลึงอยู่ตรงทางขึ้นบันได ผมหันไปถามพวกมัน

    “ไปได้แล้ว เดี๋ยวกูอธิบายให้ฟัง” ผมกวักมือเรียก มันเดินตามมาที่ยังคงทำหน้าตาตะลึงไม่หาย ตะลึงทำไมวะ

     

    พอเดินไปได้สักพักไอ้ปลายก็กระดึ๊บเข้ามากระซิบข้างหูผม  “เดย์ แฟนมึงเป็นเดือนมหาลัยเหรอวะ”

    “อื้อ”  ผมตอบส่งๆก่อนรีบลากมันให้เดินเร็วขึ้น เดี๋ยวร้านประจำก็โต๊ะเต็มก่อน ชักช้า

     

    “พี่จะเอาอะไร”  ผมถามทันทีที่นั่งลงบนโต๊ะชุดสุดท้ายอย่างเฉียดฉิว พี่เยียร์มองร้านอย่างสนอกสนใจ สงสัยคงไม่เคยมาร้านแบบนี้มั้ง

    “พี่ไม่รู้สิ เดย์เลือกให้พี่ได้ไหม” พี่เขาหันมาตอบผมพยักหน้าให้ก่อนหันไปถามสามตัวด้านข้าง

    “พวกมึงจะ” เอาอะไร

    “อธิบายมาเลยนะมึง!!”  เอาแล้วไงล่ะ มันทำหน้าเครียดอีกจนได้ ไอ้สองตัวมันจ้องผมอย่างจะกินผมเป็นมื้อเที่ยง เอ่อ ยอกเว้นไว้คน ไอ้น้องแบล็คมันยังคงตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสืออยู่

     

    ทำไมวะ กูป็นแฟน(ช่วงทดลอง)ของเดือนแค่เนี้ยย มันมีอะไรมากมายวะ

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×