คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Special II part 1
Special
สวัสดีครับคุณผู้อ่านทีเคารพทุกท่าน กระผมนายเดย์พระเอก(?)สุดหล่อ(?)กิ๊วก๊าวใจครับ ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ที่คุณเรเขาไม่สามารถมาอัพได้เป็นระยะหนึ่งปี นั่นเพราะมันขี้เกียจ คิดพล็อตไม่ออก เลยดอดไปเล่นดอทเอ(?) แล้วหาเกย์(?)มาเป็นคู่ แล้วก็ชูวี้ชูวับกันไป
…
..
คือ ผมล้อเล่นครับ อย่าคิดจริงจัง คือแบบ มันเป็นผู้หญิงอ่ะครับ แถมขี้เกียจสุดๆเรียนม.ปลายจะรอดหรือเปล่ายังไม่รู้ชะตาชีวิตตัวเองเลย หลังจากที่ผมกับพี่เยียร์สุดที่รัก(?)ของผมไปตบ(?) ไปตี(?)ไปฉุด(?) ไปกระชาก(?) ลากถูมันมาก็กินเวลาไปนานพอสมควร และแน่นอนว่าหลังจากที่กลับมาแฟนคลับที่คอยติดตามก็แทบลืมเลือนหรือหายวับไปเรียบร้อยโรงเรียนวายครับ เพราะงั้นเพื่อเป็นการเรียกเรตติ้ง(มีด้วยเหรอ?)ให้กลับคืนมา พวกเราชาวรักหน่อย เลยรวมหัวกันสร้างบทละครเล็กๆแต่อลังการงานสร้าง(?)มาให้ทุกท่านได้ติดตามกันครับ อาจจะตอนเดียวจบ หรือหลายพาทจบอันนี้ก็ไม่แน่ใจ แต่ผมจะพยายามกรอกหูให้มันให้เขียนให้จบแล้วกันนะครับ
ซินเดอร์เรลล่า ฉบับ “รักหน่อย”
เดย์เรลล่า Dayrella ver.Romantic
ณ ดินแดนแห่งหนึ่ง ซึ่งอ้างว้างเดียวดายและแสนไกลโพ้น เรื่องเล่ามากมายก่อกำเนิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้และลับลาจางหายไปกับกาลเวลาที่ผันเปลี่ยนไปไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งความสุข ความทุกข์ เกิดขึ้นและดับสูญไป หนึ่งในเรื่องราวที่เราจะนำมาบรรยายให้ท่านได้รับชมต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวความรักแสนโรแมนติก ความรัก ที่เปรียบดังความหอมหวานยามแรกแย้ม ความรัก ที่เปรียบดังความฝันของหญิงสาว และเปรียบเรื่องราวที่จะตราตรึงอยู่ในใจของผู้ใดที่ได้พบเห็น ถึงเรื่องราวเหล่านั้นจะหลั่งไหลไปกับสายน้ำแห่งกาลเวลาหากแต่มันจะติดตรึงอยู่ในห้วงแห่งความทรงจำของผู้คนได้ไม่ยากเลย
“เดย์เรลล่า มาดูนี่สิ พ่อปักเสื้อให้ลูกใหม่น่ะ” เสียงทุ้มหวานดังขึ้นพร้อมเสียงเคาะประตูห้อง เรียกให้ร่างบางที่นั่งเขียนอะไรบางอย่างเงยหน้าขึ้นมา ริมฝีปากบางแย้มรอยยิ้มสดใส ก่อนตอบกลับไปด้วยเสียงที่น่ารักสมวัย
“ครับ เดี๋ยวเดย์ออกไปนะฮะ ท่านพ่อ” เดย์เรลล่าหรือเดย์เก็บพู่กันและกระดาษบางสีน้ำตาลอ่อนลงใต้ลิ้นชักก่อนลุกขึ้นไปเปิดประตู
ร่างที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่ใคร ท่านพ่อ ญาติที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของเขา คนที่รักเขา ห่วงใยเขา และเขาก็รักท่านอย่างสุดหัวใจ
“ดูนี่สิ” วิกส์ หมุ่นพ่อหม้ายหน้าตาละอ่อนกว่าวัย ยกเสื้อสีชมพูอ่อนลายลูกไม้สีแดงให้ลูกชายคนเดียวดู
คนเป็นลูกยู่ปากเล็กน้อยก่อนมองค้อนบิดาตนเอง
“ท่านพ่อ เดย์เป็นผู้ชายนะฮะ ไม่ชอบเสื้อสีชมพูลายลูกไม้เสียหน่อย” ถึงจะบอกอย่างนั้นเขาก็รับเสื้อตัวนั้นมาอยู่ดี ดวงตาสีสดมองผู้
เป็นพ่อสักพักก่อนนึกอะไรได้
“อ้าา ท่านพ่อ เดย์มีของจะให้ แป๊บนึงนะฮะ” ว่าแล้วเจ้าตัวก็พลุนพลันเข้าไปด้านในค้นตู้เสื้อผ้าอยู่สักพักก่อนกึ่งวิ่งกึ่งเดินออกมา
“นี่เป็นผ้าพันคอที่เดย์ถักเองฮะ สวยไหมเอ่ย เวลาท่านพ่อหนาวๆก็หยิบขึ้นมาใช้นะฮะ” ผ้าพันคอสีเทาอ่ะสลับลายไม้สีเทาเข้มดูดีที
เดียวในสายตาของวิกส์ เขาแย้มรอยยิ้มก่อนจุมพิตลงบนหน้าผากมนของผู้เป็นลูก
“ขอบคุณนะ พ่อจะดูแลให้เป็นอย่างดีเลย”
วันคืนที่แสนสุขดำเนินไปเช่นนี้ และเขาทั้งสองก็หวังแต่เพียงว่าความสงบสุขจะยังคงดำเนินต่อไปไร้ที่สิ้นสุด
หากแต่ พวกเขาคงไม่อาจรู้ว่าอีกไม่กี่วันทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกทำลายลงในชั่วพริบตา
“มินะ เธอจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะ” เสียงทุ้มที่เคยอ่อนโยนอบอุ่นตวาดขึ้นเสียงดัง ดวงหน้าออกหวานฉายแววตื่นตระหนก
“อะไร ฉันทำอะไรคะท่านพี่” หญิงสาวที่มาพร้อมกับความวุ่นวายทั้งมวลเอ่ยถาม ดวงหน้าน่ารักอ่อนช้อยแต่หากมีแววตาที่แสนเย่อ
หยิ่ง ลำคอเฉิดตรงมองพี่ชายต่างมารดาตรงหน้าราวกับสิ่งของไร้ค่า
“นี่มันคฤหาสน์ของฉัน เธอจะมาทำอย่างนี้ไม่ได้นะ”
“ทำไมคะ ลูกเมียน้อยอย่างพี่ไม่มีสิทธิ์อยู่แล้วสักนิดนี่คะ” เสียงแหลมกรีดร้อง ผู้ชายตรงหน้าหล่อน พูดราวกับว่าหล่อนไม่มีสิทธิ์ในที่แห่งนี้
“พี่สร้างที่นี่ขึ้นมา พี่ย่อมมีสิทธิ์เด็ดขาด มินะ ออกไปจากที่นี่ซะ” วิกส์กล่าวเสียงเย็นแต่ท่าทางที่แสดงออกก็บ่งบอกได้ว่าเขามีอารมณ์ที่
ไม่คงที่นัก
“ไม่ พี่กับลูกนั่นแหละที่ต้องออกไป เอาพวกมันออกไป” มินะหันไปสั่งคนของเธอให้พาสองพ่อลูกไร้ประโยชน์ออกไป แต่หากเธอกลับคิด
อะไรดีๆขึ้นมาได้เสียก่อน
“พี่คะ ฉันมีทางเลือกให้พี่สองทาง อยากลองฟังไหมคะ” เสียงหวานเอ่ย เธอแย้มรอยยิ้มอาบยาพิษ
“ทางเลือกอะไร” วิกส์ก่อนเดย์เรลล่าแน่น กวาดสายตามองคนที่ย่างเข้ามาหา
“ก็ทางเลือกที่หนึ่ง หาเงินมาให้ฉันสามสิบล้านภายในหนึ่งเดือนเพื่อแลกคฤหาสน์คืน กับ…”
ดวงตาราวนางอสรพิษกรีดตามองคนที่อยู่ในอ้อมแขนของพี่ชายที่เธอเกลียดนักเกลียดหนา
“ทิ้งใครสักคนไว้ที่นี่แล้วออกไปหาเงินมาให้ฉันล้านหนึ่งภายในหนึ่งเดือน เอาทางไหนคะ”
“หึ ฉันไม่เลือกทางไหนทั้งนั้น” ชายหนุ่มประกาศเสียงกร้าว
“งั้นก็อย่าหวังว่าจะออกไปจากที่นี่ได้โดยยังมีชีวิต ฆ่าพวกมัน”
“ไม่ ท่านอาข้าขอเลือกได้ไหม” เดย์เรลล่าที่เงียบอยู่นานเอ่ยปากขึ้น
“ได้สิ หลานอา” มินะยิ้มเย้ยหยัน
“เดย์..”
“ท่านพ่อ” เสียงหวานของลูกชายเอ่ยค้าน สีหน้าและแววตาที่จริงจังอย่างไม่เคยเป็นของคนเป็นลูกทำให้คนเป็นพ่ออย่างเขาหยุดฟัง
“ผมขอเลือกทางที่สอง”
“เดย์..”
“ท่านพ่อครับ ผมขอร้อง การที่เราจะหาเงินมากขนาดนั้นในเวลาแค่หนึ่งเดือนมันไม่ง่ายหรอกนะครับ สำหรับทางเลือกแรก แต่ทางเลือก
ที่สองอาจเป็นไปได้” เดย์เรลล่าเม้มปากจนห่อเลือด ตัดสินใจเอ่ยกระซิบประโยคที่เขาไตร่ตรองให้คนที่เขารักรับรู้
“ผมรู้ แต่ท่านพ่อรู้ไหม การที่ท่านอาให้พวกเราแยกจากกันนั่นก็เพราะอยากจะเหลือใครสักคนไว้เป็นที่ระบายอารมณ์เพราะงั้น ท่านพ่อ
ผมจะเป็นคนอยู่เอง นะครับ” สายตาเว้าวอนถูกส่งออกมา
“แต่ว่า..”
“ถ้าท่านพ่ออยู่ ท่านอาอาจจะทำร้ายท่านพ่อมากกว่าเดิมนะครับ แต่ถ้าเป็นผมก็คงพ่อทนได้ นะครับ”
“พ่อ..” วิกส์กลืนน้ำลาย สายตามองดวงหน้าอ่อนเยาว์ของลูกชายเพียงคนเดียวที่เขาทั้งรักและคอยทนุถนอม
มาตลอดสิบเก้าปี
“สัญญาได้ไหม ว่าถ้าหากทนไม่ไหวเดย์จะหนีออกไป”
คำขอร้องที่ราวกับคำสาบาน เดย์เรลล่าแย้มรอยยิ้มที่งดงามราวกับเจ้าหญิงรับ เขากุมมือบิดาเบาๆ ลูบไล้ราวปลอบประโลม
“ผมสัญญาครับ สัญญา”
“แล้วพ่อจะกลับมา”
เดย์เรลล่ามองตามร่างของบิดาไปจนลิบก่อนหันกลับมาเผชิญหน้ากับหญิงสาวที่มีศักดิ์เป็นอาของเขา
มินะมองสายตาอวดดีของหลานที่ใบหน้าสายงดงามราวเจ้าหญิงอย่างไม่สบอารมณ์ เจ้าหล่อนเอ่ยปากสั่งงานชิ้นแรก
“กวาดหิมะด้านนอกให้หมด”
ไม่ง่ายเลยกับการที่จะกวาดกองหิมะในฤดูหิมะเช่นนี้ เดย์เรลล่าถอดหายใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากย้อมรับชะตากรรมที่ไม่รู้ว่า
พระเจ้าจะทรงกลั่นแกล้งเขากับพ่อไปอีกนานเท่าไหร่
“ซักผ้าทุกชิ้นในคฤหาสน์ซะ”
“เช็ดกระจกให้สะอาดทุกบาน ไม่เช่นนั้นไม่ต้องกินข้าว”
“ไปทำความสะอาดชั้นใต้หลังคา”
“ไปทำอาหารซิ”
“ไปกวาดปล่องไฟ”
สารพัดงานที่สั่งออกมาราวกับคนปฏิบัติไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เดยเรลล่าที่เคยอยู่ในชุดสะอาดสดใสแต่เพราะต้องทำงานที่เขาทำจนหัว
หมุนแทบไม่ได้พักจึงต้องมีสภาพเช่นนี้
หากแต่เขายังทนต่อไป เพราะรู้ว่าท่านพ่อจะต้องกลับมา
วันเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่าในที่สุดก็ผ่านไปสองอาทิตย์ เดย์เรลล่านอนดูดาวอยู่บนห้องใต้หลังคาที่กลายเป๋นที่อยู่ใหม่ของเขา ที่มีเวลานั่นพักก็เพราะคนด้านล่างกำลังตื่นเต้นกับงานเต้นรำหาคู่ของเจ้าของอาณาจักรที่จะจัดขึ้นในอีกหกวันข้างหน้า
เสียงดังวีดว๊ายดังลอดเข้ามาให้ได้ยินเป็นระยะ แต่เขาเหนื่อยเกินที่จะอยู่ทนฟัง เปลือกตาบางหลับลงช้าๆก่อนจะพาสติเข้าสู่ห้วงนิทราหวาน
ที่นี่ที่ไหน ร่างเล็กในชุดอกงานสีกรมทาอ่อนยืนอยู่สถานที่ที่เต็มไปด้วยสีขาว
ใครน่ะ เสียงฝีเท้าดังมาจากทางด้านหลัง พร้อมๆกับเสียงทุ้มนุ่มราวกับกระซิบอยู่ข้างใบหู
เดย์เรลล่าหันกลับไปมองก่อนจะพบกับบุรุษผู้หนึ่งยืนอยู่ก่อนแล้ว
ท่านเป็นใคร ราวกับไม่ใช่เขาเป็นผู้กล่าว ปาดของเขาไม้ได้ขยับแม้สักนิด หากแต่เสียงก็ยังกระซิบข้างหู
ข้า เดย์เรลล่า แล้วท่านล่ะ เขาถามกลับ และคำตอบที่ได้รับกลับมาพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจก็ทำเอาเขาใจเต้นแรง
เดเฟอร์เยียร์
เดเฟอร์เยียร์ ท่านทำอันใดกับข้ากัน ทำไมหัวใจของข้าถึงได้เต้นแรงถึงเพียงนี้
TBC…
ความคิดเห็น