ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักหน่อย Yaoi

    ลำดับตอนที่ #13 : Special II part 1

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ค. 56




    Special


     

    สวัสดีครับคุณผู้อ่านทีเคารพทุกท่าน กระผมนายเดย์พระเอก(?)สุดหล่อ(?)กิ๊วก๊าวใจครับ ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ที่คุณเรเขาไม่สามารถมาอัพได้เป็นระยะหนึ่งปี นั่นเพราะมันขี้เกียจ คิดพล็อตไม่ออก เลยดอดไปเล่นดอทเอ(?) แล้วหาเกย์(?)มาเป็นคู่ แล้วก็ชูวี้ชูวับกันไป


     


    ..


     

    คือ ผมล้อเล่นครับ อย่าคิดจริงจัง คือแบบ มันเป็นผู้หญิงอ่ะครับ แถมขี้เกียจสุดๆเรียนม.ปลายจะรอดหรือเปล่ายังไม่รู้ชะตาชีวิตตัวเองเลย  หลังจากที่ผมกับพี่เยียร์สุดที่รัก(?)ของผมไปตบ(?) ไปตี(?)ไปฉุด(?) ไปกระชาก(?) ลากถูมันมาก็กินเวลาไปนานพอสมควร และแน่นอนว่าหลังจากที่กลับมาแฟนคลับที่คอยติดตามก็แทบลืมเลือนหรือหายวับไปเรียบร้อยโรงเรียนวายครับ เพราะงั้นเพื่อเป็นการเรียกเรตติ้ง(มีด้วยเหรอ?)ให้กลับคืนมา พวกเราชาวรักหน่อย เลยรวมหัวกันสร้างบทละครเล็กๆแต่อลังการงานสร้าง(?)มาให้ทุกท่านได้ติดตามกันครับ อาจจะตอนเดียวจบ หรือหลายพาทจบอันนี้ก็ไม่แน่ใจ แต่ผมจะพยายามกรอกหูให้มันให้เขียนให้จบแล้วกันนะครับ


     


    ซินเดอร์เรลล่า ฉบับ “รักหน่อย”


    เดย์เรลล่า Dayrella ver.Romantic


     

    ณ ดินแดนแห่งหนึ่ง ซึ่งอ้างว้างเดียวดายและแสนไกลโพ้น เรื่องเล่ามากมายก่อกำเนิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้และลับลาจางหายไปกับกาลเวลาที่ผันเปลี่ยนไปไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งความสุข ความทุกข์ เกิดขึ้นและดับสูญไป หนึ่งในเรื่องราวที่เราจะนำมาบรรยายให้ท่านได้รับชมต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวความรักแสนโรแมนติก ความรัก ที่เปรียบดังความหอมหวานยามแรกแย้ม ความรัก ที่เปรียบดังความฝันของหญิงสาว และเปรียบเรื่องราวที่จะตราตรึงอยู่ในใจของผู้ใดที่ได้พบเห็น ถึงเรื่องราวเหล่านั้นจะหลั่งไหลไปกับสายน้ำแห่งกาลเวลาหากแต่มันจะติดตรึงอยู่ในห้วงแห่งความทรงจำของผู้คนได้ไม่ยากเลย

     


    “เดย์เรลล่า  มาดูนี่สิ พ่อปักเสื้อให้ลูกใหม่น่ะ” เสียงทุ้มหวานดังขึ้นพร้อมเสียงเคาะประตูห้อง เรียกให้ร่างบางที่นั่งเขียนอะไรบางอย่างเงยหน้าขึ้นมา ริมฝีปากบางแย้มรอยยิ้มสดใส ก่อนตอบกลับไปด้วยเสียงที่น่ารักสมวัย


    “ครับ เดี๋ยวเดย์ออกไปนะฮะ ท่านพ่อ” เดย์เรลล่าหรือเดย์เก็บพู่กันและกระดาษบางสีน้ำตาลอ่อนลงใต้ลิ้นชักก่อนลุกขึ้นไปเปิดประตู


    ร่างที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่ใคร ท่านพ่อ ญาติที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของเขา คนที่รักเขา ห่วงใยเขา และเขาก็รักท่านอย่างสุดหัวใจ


    “ดูนี่สิ”  วิกส์ หมุ่นพ่อหม้ายหน้าตาละอ่อนกว่าวัย ยกเสื้อสีชมพูอ่อนลายลูกไม้สีแดงให้ลูกชายคนเดียวดู


    คนเป็นลูกยู่ปากเล็กน้อยก่อนมองค้อนบิดาตนเอง


    “ท่านพ่อ เดย์เป็นผู้ชายนะฮะ ไม่ชอบเสื้อสีชมพูลายลูกไม้เสียหน่อย” ถึงจะบอกอย่างนั้นเขาก็รับเสื้อตัวนั้นมาอยู่ดี ดวงตาสีสดมองผู้

    เป็นพ่อสักพักก่อนนึกอะไรได้


    “อ้าา ท่านพ่อ เดย์มีของจะให้ แป๊บนึงนะฮะ” ว่าแล้วเจ้าตัวก็พลุนพลันเข้าไปด้านในค้นตู้เสื้อผ้าอยู่สักพักก่อนกึ่งวิ่งกึ่งเดินออกมา


    “นี่เป็นผ้าพันคอที่เดย์ถักเองฮะ สวยไหมเอ่ย เวลาท่านพ่อหนาวๆก็หยิบขึ้นมาใช้นะฮะ” ผ้าพันคอสีเทาอ่ะสลับลายไม้สีเทาเข้มดูดีที

    เดียวในสายตาของวิกส์ เขาแย้มรอยยิ้มก่อนจุมพิตลงบนหน้าผากมนของผู้เป็นลูก

    “ขอบคุณนะ พ่อจะดูแลให้เป็นอย่างดีเลย”

     

    วันคืนที่แสนสุขดำเนินไปเช่นนี้ และเขาทั้งสองก็หวังแต่เพียงว่าความสงบสุขจะยังคงดำเนินต่อไปไร้ที่สิ้นสุด

     

    หากแต่ พวกเขาคงไม่อาจรู้ว่าอีกไม่กี่วันทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกทำลายลงในชั่วพริบตา

     

    “มินะ เธอจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะ” เสียงทุ้มที่เคยอ่อนโยนอบอุ่นตวาดขึ้นเสียงดัง ดวงหน้าออกหวานฉายแววตื่นตระหนก


    “อะไร ฉันทำอะไรคะท่านพี่” หญิงสาวที่มาพร้อมกับความวุ่นวายทั้งมวลเอ่ยถาม ดวงหน้าน่ารักอ่อนช้อยแต่หากมีแววตาที่แสนเย่อ

    หยิ่ง ลำคอเฉิดตรงมองพี่ชายต่างมารดาตรงหน้าราวกับสิ่งของไร้ค่า


    “นี่มันคฤหาสน์ของฉัน เธอจะมาทำอย่างนี้ไม่ได้นะ”


    “ทำไมคะ ลูกเมียน้อยอย่างพี่ไม่มีสิทธิ์อยู่แล้วสักนิดนี่คะ”  เสียงแหลมกรีดร้อง ผู้ชายตรงหน้าหล่อน พูดราวกับว่าหล่อนไม่มีสิทธิ์ในที่แห่งนี้


    “พี่สร้างที่นี่ขึ้นมา พี่ย่อมมีสิทธิ์เด็ดขาด มินะ ออกไปจากที่นี่ซะ” วิกส์กล่าวเสียงเย็นแต่ท่าทางที่แสดงออกก็บ่งบอกได้ว่าเขามีอารมณ์ที่

    ไม่คงที่นัก


    “ไม่ พี่กับลูกนั่นแหละที่ต้องออกไป เอาพวกมันออกไป” มินะหันไปสั่งคนของเธอให้พาสองพ่อลูกไร้ประโยชน์ออกไป แต่หากเธอกลับคิด

    อะไรดีๆขึ้นมาได้เสียก่อน



    “พี่คะ ฉันมีทางเลือกให้พี่สองทาง อยากลองฟังไหมคะ” เสียงหวานเอ่ย เธอแย้มรอยยิ้มอาบยาพิษ


    “ทางเลือกอะไร” วิกส์ก่อนเดย์เรลล่าแน่น กวาดสายตามองคนที่ย่างเข้ามาหา


    “ก็ทางเลือกที่หนึ่ง หาเงินมาให้ฉันสามสิบล้านภายในหนึ่งเดือนเพื่อแลกคฤหาสน์คืน กับ


    ดวงตาราวนางอสรพิษกรีดตามองคนที่อยู่ในอ้อมแขนของพี่ชายที่เธอเกลียดนักเกลียดหนา


    “ทิ้งใครสักคนไว้ที่นี่แล้วออกไปหาเงินมาให้ฉันล้านหนึ่งภายในหนึ่งเดือน เอาทางไหนคะ”


    “หึ ฉันไม่เลือกทางไหนทั้งนั้น” ชายหนุ่มประกาศเสียงกร้าว


    “งั้นก็อย่าหวังว่าจะออกไปจากที่นี่ได้โดยยังมีชีวิต ฆ่าพวกมัน” 


    “ไม่ ท่านอาข้าขอเลือกได้ไหม” เดย์เรลล่าที่เงียบอยู่นานเอ่ยปากขึ้น


    “ได้สิ หลานอา” มินะยิ้มเย้ยหยัน


    “เดย์..


    “ท่านพ่อ” เสียงหวานของลูกชายเอ่ยค้าน สีหน้าและแววตาที่จริงจังอย่างไม่เคยเป็นของคนเป็นลูกทำให้คนเป็นพ่ออย่างเขาหยุดฟัง


    “ผมขอเลือกทางที่สอง”


    “เดย์..


    “ท่านพ่อครับ ผมขอร้อง การที่เราจะหาเงินมากขนาดนั้นในเวลาแค่หนึ่งเดือนมันไม่ง่ายหรอกนะครับ สำหรับทางเลือกแรก แต่ทางเลือก

    ที่สองอาจเป็นไปได้” เดย์เรลล่าเม้มปากจนห่อเลือด ตัดสินใจเอ่ยกระซิบประโยคที่เขาไตร่ตรองให้คนที่เขารักรับรู้


    “ผมรู้ แต่ท่านพ่อรู้ไหม การที่ท่านอาให้พวกเราแยกจากกันนั่นก็เพราะอยากจะเหลือใครสักคนไว้เป็นที่ระบายอารมณ์เพราะงั้น ท่านพ่อ

    ผมจะเป็นคนอยู่เอง นะครับ” สายตาเว้าวอนถูกส่งออกมา


    “แต่ว่า..


    “ถ้าท่านพ่ออยู่ ท่านอาอาจจะทำร้ายท่านพ่อมากกว่าเดิมนะครับ แต่ถ้าเป็นผมก็คงพ่อทนได้ นะครับ”


    “พ่อ..” วิกส์กลืนน้ำลาย สายตามองดวงหน้าอ่อนเยาว์ของลูกชายเพียงคนเดียวที่เขาทั้งรักและคอยทนุถนอม

    มาตลอดสิบเก้าปี


    “สัญญาได้ไหม ว่าถ้าหากทนไม่ไหวเดย์จะหนีออกไป”


    คำขอร้องที่ราวกับคำสาบาน เดย์เรลล่าแย้มรอยยิ้มที่งดงามราวกับเจ้าหญิงรับ เขากุมมือบิดาเบาๆ ลูบไล้ราวปลอบประโลม


    “ผมสัญญาครับ สัญญา”


    “แล้วพ่อจะกลับมา”


     


    เดย์เรลล่ามองตามร่างของบิดาไปจนลิบก่อนหันกลับมาเผชิญหน้ากับหญิงสาวที่มีศักดิ์เป็นอาของเขา


    มินะมองสายตาอวดดีของหลานที่ใบหน้าสายงดงามราวเจ้าหญิงอย่างไม่สบอารมณ์ เจ้าหล่อนเอ่ยปากสั่งงานชิ้นแรก


    “กวาดหิมะด้านนอกให้หมด”

     


    ไม่ง่ายเลยกับการที่จะกวาดกองหิมะในฤดูหิมะเช่นนี้ เดย์เรลล่าถอดหายใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากย้อมรับชะตากรรมที่ไม่รู้ว่า

    พระเจ้าจะทรงกลั่นแกล้งเขากับพ่อไปอีกนานเท่าไหร่

     

    “ซักผ้าทุกชิ้นในคฤหาสน์ซะ”


    “เช็ดกระจกให้สะอาดทุกบาน ไม่เช่นนั้นไม่ต้องกินข้าว”


    “ไปทำความสะอาดชั้นใต้หลังคา”


    “ไปทำอาหารซิ”


    “ไปกวาดปล่องไฟ”


     

    สารพัดงานที่สั่งออกมาราวกับคนปฏิบัติไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เดยเรลล่าที่เคยอยู่ในชุดสะอาดสดใสแต่เพราะต้องทำงานที่เขาทำจนหัว

    หมุนแทบไม่ได้พักจึงต้องมีสภาพเช่นนี้


    หากแต่เขายังทนต่อไป เพราะรู้ว่าท่านพ่อจะต้องกลับมา

     

    วันเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่าในที่สุดก็ผ่านไปสองอาทิตย์ เดย์เรลล่านอนดูดาวอยู่บนห้องใต้หลังคาที่กลายเป๋นที่อยู่ใหม่ของเขา ที่มีเวลานั่นพักก็เพราะคนด้านล่างกำลังตื่นเต้นกับงานเต้นรำหาคู่ของเจ้าของอาณาจักรที่จะจัดขึ้นในอีกหกวันข้างหน้า



    เสียงดังวีดว๊ายดังลอดเข้ามาให้ได้ยินเป็นระยะ แต่เขาเหนื่อยเกินที่จะอยู่ทนฟัง เปลือกตาบางหลับลงช้าๆก่อนจะพาสติเข้าสู่ห้วงนิทราหวาน

     


    ที่นี่ที่ไหน ร่างเล็กในชุดอกงานสีกรมทาอ่อนยืนอยู่สถานที่ที่เต็มไปด้วยสีขาว


    ใครน่ะ  เสียงฝีเท้าดังมาจากทางด้านหลัง พร้อมๆกับเสียงทุ้มนุ่มราวกับกระซิบอยู่ข้างใบหู


    เดย์เรลล่าหันกลับไปมองก่อนจะพบกับบุรุษผู้หนึ่งยืนอยู่ก่อนแล้ว


    ท่านเป็นใคร ราวกับไม่ใช่เขาเป็นผู้กล่าว ปาดของเขาไม้ได้ขยับแม้สักนิด หากแต่เสียงก็ยังกระซิบข้างหู


    ข้า เดย์เรลล่า แล้วท่านล่ะ เขาถามกลับ และคำตอบที่ได้รับกลับมาพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจก็ทำเอาเขาใจเต้นแรง


    เดเฟอร์เยียร์



    เดเฟอร์เยียร์ ท่านทำอันใดกับข้ากัน ทำไมหัวใจของข้าถึงได้เต้นแรงถึงเพียงนี้


     

    TBC…





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×