ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักหน่อย Yaoi

    ลำดับตอนที่ #7 : เป็นอะไร

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ค. 55


      






     

    ทันทีที่รถจอดสนิทผมเดินลงจากรถตรงเข้าไปในบ้านเดินขึ้นบันไดด้วยความรู้สึกใจหาย เสียงของพ่อที่ถามผมด้วยความเป็นห่วงดังขึ้นจากด้านหลังผมฝืนตอบว่าไม่เป็นไรแต่ในใจของผมกลับรู้สึกเหมือนถูกเข้มนับพันแทง ผมรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก รู้สึกเจ็บหนึบๆที่หัวใจ  รู้สึกอยากร้องไห้

     

    “เดย์ ร้องไห้ทำไม” ผมสะดุ้งตกใจ ผมเผลอร้องไห้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมรีบเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นสายแต่ยิ่งเช็ดกลับรู้สึกว่ามันยิ่งไหลออกมาราวกับสายน้ำ

     

    “เดย์ บอกพ่อได้ไหม”  พ่อวิกส์คว้าผมไปกอดไว้ อ้อมกอดอุ่นของพ่อทำให้ผมรู้สึกปลอดภัย

     

    “บอกพ่อได้ไหม คนดี ได้ไหมครับ”  น้ำเสียงอุ่นกระซิบอย่างอ่อนโยน มือนุ่มลูบศีรษะผมอย่างแผ่วเบาการกระทำที่แสนอบอุ่นแบบนั้นทำให้น้ำตาของผมยิ่งไหลอาบแก้ม

     

    “พ่อครับ” เสียงของผมสั่น มันทั้งสั่นทั้งอ่อนแรง

     

    “อะไรครับ อะไรทำให้เดย์ร้องไห้ บอกพ่อสิ”  แล้วการกระทำของพ่อก็ได้ผม น้ำตาของผมไหลราวเขื่อนแตกผมเล่าให้พ่อฟังทั้งๆที่สะอื้นผมเล่าทุกอย่าง ทุกอย่างที่ทำให้ผมร้องไห้

     

    คืนนั้น ผมหลับไปในอ้อมแขนของพ่อ

     

     

    “ไปนะครับ”  ผมตะโกนบอกพ่อในห้องครัว  วันนี้ต้องสดชื่นซะหน่อยเมื่อคืนร้องไห้ไปหลายยกแต่พอได้ระบายออกไปเนี่ยมันก็ดีเหมือนกันแฮะ

    “เดย์จะไปมหาลัยใช่ไหม”  พ่อวิกส์ในคราบพ่อบ้านกับผ้ากันเปื้อนลาย เอิ่ม คิตตี้ ดูเข้ากันแบบแปลกๆฮะ

    “พ่อไปส่งไหม” ผมยิ้มให้พ่อ  รู้สึกว่าตั้งแต่ขึ้นม.ปลายพ่อจะไม่ได้ไปส่งผมนานแล้วนะ

    “เอาสิฮะ เดี๋ยวผมไปรอที่รถนะ”

    ผมเดินออกมาจากตัวบ้าน อากาศวันนี้สดใสครับสงสัยมันยังเช้าอยู่ถ้าผ่านสองโมงไปเมื่อไหร่ร้อนตับแตกครับกรุงเทพก็เงี้ย

    “ไปกันเถอะเดย์ เดี๋ยวสายนะ”  ผมมองนาฬิกา ช้ากว่านี้อีกสิบนาทีก็สายแล้วนับว่าวันนี้ผมออกเช้าอยู่พอตัว

    “ครับ พ่อจะขับใช่ไหม” พ่อวิกส์พยักหน้าผมโยนกุญแจให้แล้วเปิดประตูรถอีกทางขึ้น

    “เอ่อ เดย์”  ผมปิดประตูรถหันหน้าไปถามพ่อว่ามีอะไร

    “คือ มหาลัยลูกไปทางไหนนะ??”

    ”                                                              

     

    -----------------------------

     

     

    “งั้นเดี๋ยวพ่อจะมารับตอนเที่ยงนะ”ผมพยักหน้าโบกมือลาพ่อวิกส์ที่นั่งยิ้มอยู่บนรถแล้วเดินขึ้นอาคาร วันนี้ผมเรียนถึงเที่ยงครับ เมื่อเช้าผมแทบหมดแรงเดิน เจ้าตัวจำทางมามหาลัยไม่ได้ทั้งๆที่ตอนสอบเข้าตัวเองเป็นคนหาให้แท้ๆ พ่อผมนี่มัน

    “เดย์ครับ” ผมชะงักขอบตาร้อนผ่าว  อะไรวะ นี่ได้ยินเสียงเองนะ!!

    ผมค่อยๆหันตัวกลับไปข้างหลังช้าๆ  “ครับ”  ฝืนยิ้มตอบ คนตรงหน้าก็ยังยิ้มสว่างไสวเช่นเดิมไม่มีทีท่าว่าจะเปลี่ยนไปเลยสักนิด

    “วันนี้เดย์ไม่อยู่รอพี่เลย เป็นอะไรรึเปล่าครับ” เขาเดินเข้ามาใกล้ ฮะเฮ้ย อย่าเดินเข้ามะนะพ่อกัดจริงๆด้วย ผมเดินถอยหลังช้าๆยิ้มแหยๆส่งให้ พี่เขาดูแปลกใจเล็กน้อย

    “วะ วันนี้คุณพ่อมาส่งน่ะ”  พูดจบผมก็กระโดดแผล็วเข้าห้องตะโกนออกมาว่า

    “เดี๋ยวค่อยเจอกันครับ”

     

    ผ่านไปราวๆสองสามนาที

    พี่เขาไปยังวะ

    ผมชะเง้อหน้าออกไปหน้าประตูพอไม่เห็นวี่แววคุณชายท่านก็ถอนหายใจโล่งอก ผมไม่อยากเจอหน้าพี่เขาตอนนี้เท่าไหร่ไว้ครบอาทิตย์ค่อยบอกลาพี่เขาทีเดียวเป็นการตัดใจภายในตัวด้วย

    แต่การพูดคุยแค่ประโยคสองประโยคเมื่อกี้ใจผมมันเต้นไม่เป็นส่ำเลยแฮะ

    “เป็นอะไรวะ”

    “เฮ้ย”  ราวกับขวัญผมลอยละล่องไปไกลหน้าไอ้ตัวแสบปลายอยู่ชิดหน้าผมเพียงคืบเล่นเอาใจเกือบวายตายแล้วเกิดใหม่

    อะแฮ่ม  ผมคิดอะไรอยู่เนี่ย

    “มะ ไม่มีอะไร” ผมตอบไม่ตรงคำถามยิ้มๆให้มันก่อนเดินไม่รู้ไม่ชี้มานั่งแปะลงบนโต๊ะประจำ

    มันเดินตามหลังผมมางงๆนั่งลงข้างๆแล้วจ้องหน้าผม  เอิ่ม มีอะไรวะ  ผมส่งสายตามีคำถาม

    “ไม่มีอะไร” มันหน้าบึ้งหันหน้าไปทางอาจารย์ที่เดินเข้ามาพอดี ผมทำหน้างงๆ อะไรของมันวะ

    แล้วผมก็หันไปจดสาระร่ายยาวของท่านอาจารย์ที่ยืนสวดอยู่หน้ากระดาน

     

     

     

    “เดย์ครับ” งั่ม ใครวะ เสียงคุ้นๆ  เหมือนได้ยิ้มแล้วมันรู้สึกเจ็บจี๊ด

    “เดย์”  ฮุ้ย อย่าเรียกสิ ขอนอนก่อน

    “เดย์ครับ ตื่นได้แล้ว”  ขอสิบนาทีครับ ว่าแต่ใครคือเดย์วะชื่อเพราะเชียว (-*- )

    “อือ” ผมครางอืออึง อะไรยุกยิกที่เอวเนี่ย หยุดนะ

    “หึ” หัวเราะหึมันไม่ดีนะ มันดูเหมือนตัวร้ายในการ์ตูน ไม่ดีๆ

    “เดย์ครับ” วุ้ย ตื่นก็ได้ ตื่นแล้วๆ น่ารำคาญจริงๆ ผมเงยหน้าน้ำลายยืด เงิ่ม ไม่ใช่ละ ผมเงยหน้ามึนๆจากโต๊ะที่ซบนอนหลังจากที่อาจารย์สอนเสร็จ เอ๊ะ แล้วหมู่ฝูงผมหายไปไหนหมดวะ

    “ตื่นแล้วเหรอ ปวดหัวไหม” ดีมากครับ ขอเฮาปรับตัวสักสิบนาที

     

     

    “อ้าว พี่เยียร์มาได้ไงครับ” ผมจำได้แล้วพี่เยียร์จอมเจ้าชู้นี่เอง ผมมองทั่วห้องกลับกันหมดแล้วนี่หว่าทำไมไม่ปลุกตูวะ เพื่อนผมนี่มัน

    “กลับกันเลยไหม” พี่เขายิ้มๆให้ ส่วนผมก็ยิ้มตอบเหมือนกันแต่เป็นยิ้มแหยๆนะ

    “เอ่อ คงไม่ได้หรอกฮะ” ผมบอกพี่เขาไป พ่อวิกส์สุดน่ารักของผมจะมารับครับวันนี้

    “ทำไมล่ะ เดย์เป็นอะไรเหรอ ตั้งแต่ตอนเช้าแล้วนะ” พี่เยียร์นั่งลงข้างๆทำหน้าหงอยๆถามเสียงอ้อนๆ ผมงี้หน้าแดงหลบแทบไม่ทัน

    “ไม่เป็นอะไรครับ วันนี้คุณพ่อจะมารับน่ะ” พี่เยียร์พยักหน้าหงึกหงักเข้าใจแต่หน้าหงอยๆยังไม่หายไปอยู่ดี

    “แล้ว โกรธอะไรพี่รึเปล่าครับ”  ผมไม่อยากเจอหน้าพี่อ่ะครับ  ประโยคนี้คิดในใจครับพูดออกไปไม่ได้

    “เปล่าครับ” ผมตอบเสียงอ่อย โกหกไม่เต็มเสียงแบบนี้พี่เขาจะเชื่อไหมหน๋อ ปกติผมโกหกใครไม่เป็นหรอกครับโดยเฉพาะพ่อวิกส์กับเพื่อนๆรายหลังนี่พอพวกมันรู้ว่าผมโกหกมันจะยกขบวนเค้นคอผมทันทีครับ

    “จริงเหรอครับ” พี่เยียร์เปลี่ยนจากหน้าหงอยๆเป็นหน้ายิ้มแบบสว่างไสวแทน เอ่อ เขาเรียกกันว่ากดดันทางอ้อมใช่ไหม

    “จริงครับ” ผมกลืนน้ำลายเอื้อก มองหน้าพี่เยียร์ที่เริ่มย่นระยะห่างใกล้เข้ามาเรื่อยๆ พี่ครับรู้ไหม มันทำให้ผมใจเต้นตุ้มต่อมนะ  “อะ เอาหน้าออกไปเซ่” ฮือ เอาหน้าออกไปนะ มันใกล้เกินไปแล้ว

     

    พี่เขาหัวเราะเบาๆก่อนยอมเอาหน้าออกไปดีๆ  “งั้นเดย์ก็บอกพี่สิ เดย์เป็นอะไรครับ”

    ยังไม่เลิกซักผมอีกเหรอครับท่าน  หรือว่าต้องใช้ไม้แข็ง เอาวะ เอาก็เอา

    “ผมกลับก่อนนะ” นี่แหละไม้แข็งผม แหม ยังไงๆผมก็ใจร้ายกับใครไม่เป็นหรอกครับแม้ว่าคนๆนั้นจะเคยทำให้ผมร้องไห้ก็ตามที

     

    ผมเก็บหนังสือใส่กระเป๋าแล้วรีบๆเดินออกมาจากห้อง คนด้านหลังเดินตามผมมาเรื่อยๆผมเลยวิ่ง ส่วนคนข้างหลังก็วิ่งตาม ให้ตาย ผมลืมไปได้ยังไงนะที่ว่าผมเตี้ยกว่าพี่เขา!! (เป็นความจริงที่ตอกย้ำผมมาก)

    “เดย์ครับ โกรธอะไรพี่เหรอ” พี่เยียร์คว้าแขนผมไว้ได้ ผมหอบแฮ่กๆ พยายามสะบัดมือที่กุมต้นแขนผมไว้ออกสุดแรง

    “ปล่อยผมนะ” เป็นตะโกนลั่นลืมไปว่ายังอยู่ในมหาลัยผมหันซ้ายขวาคนในมหาลัยมองเราพรึ่บเลยครับ โอย ไม่นะผมไม่อยากดังตอนนี้ปล่อยๆผมไปเถอะครับพี่

    “ไม่ เดย์บอกพี่มาสิครับว่าโกรธอะไร” ละ แล้วทำไมต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบนั้นด้วยล่ะ ผมเกือบใจอ่อนแล้วนะ ผมนับหนึ่งถึงสิบในใจก่อนผลักพี่เยียร์เต็มแรงหลับตาปี๋แล้วออกวิ่งแต่ไม่วายตะโกนเสียงดัง

    “ผมขอโทษนะ”  ฮุ้ย แล้วผมจะตะโกนขอโทษให้มันเป็นจุดเด่นทำไมล่ะครับ ผมโทษตัวเองในใจแล้ววิ่งสุดแรงเกิด

    “เดย์เดี๋ยวก่อนสิ”  ยิ่งได้ยินเสียงคนด้านหลังที่วิ่งตามมายิ่งทำให้ผมเร่งสปีดเร็วขึ้น

    แต่อนิจจา ผมลืมไปรึเปล่าว่าพี่เขาขายาวกว่า

     

    “รอก่อน” แขนผมถูกกระชากอีกรอบ แต่คราวนี้ตัวผมปลิวเข้าอกของพี่เยียร์กลิ่นน้ำหอมลอยจางๆปะทะจมูกเล่นเอาผมเคลิ้ม อะ ฮะ เฮ้ย อย่าเพิ่งเคลิ้ม ผมสะบัดหัวเรียกสติ

     

    “เดย์เป็นอะไร” ผมอึกอัก ทำไงดีหว่า คนมองเต็มเลย งือ

     

    “บอกพี่ได้ไหม” 

     

    “หยุดนะ!!” แรงกระชากจากด้านหลัง ดึงผมให้ปลิวจากแรงกอดรัดของพี่เยียร์ และทันทีที่ผมเห็นหน้าคนกระทำ

     

    พ่อวิกส์!! ทำไมพ่อมาอยู่นี่ได้อ่ะ ผมมองนาฬิกา อ๋อ เที่ยงแล้วน่ะเอง

     

    “นายจะทำอะไรเดย์”  พ่อวิกส์ทำหน้าขู่คว้าผมหลบไว้ข้างหลัง เอ่อ พ่อครับ ผมเข้าใจนะที่ว่าพ่อเป็นห่วงผมแต่ว่าตัวพ่อกับตัวพี่เขาคนละไซต์กันเลยเหอะ

     

    พี่เยียร์ทำหน้าแปลกใจหน่อยๆแต่ก็ไม่เดินมาคว้าผมออกไป มองหน้าพ่อวิกส์ที่ทำหน้าแง่งๆใส่

     

    “คุณเป็นใคร” พี่เยียร์ถามเสียงเรียบมองผมสลับกับพ่ออยู่พักหนึ่ง พ่อวิกส์สะบัดหน้าหนีไม่ตอบแต่ลากตัวผมเดินไปที่รถแทน “ไปกันเถอะ เดย์”

     

    “เดี๋ยว คุณจะพาเดย์ไปไหน” อย่าเพิ่งลืมบ่วงมาร พี่เยียร์เดินมาคว้าแขนซ้ายผมในขณะที่แขนขวาครอบครองโดยพ่อวิกส์ที่เริ่มมีแถบทมึนขึ้นเต็มหน้า

     

    “อย่ายุ่งน่ะ เรื่องของครอบครัวนายไม่เกี่ยว” ครับเรื่องของครอบครัวพี่เยียร์เขาไม่เกี่ยว ก็เป็นพ่อลูกกันนี่นา แต่ดูท่าทางว่าพี่เยียร์เขาจะเข้าใจผิดออะไรร้ายแรงกระตุกแขนผมเข้าหาตัวเองส่วนพ่อวิกส์ก็ไม่น้อยหน้ากระตุกกึกเข้าหาตัวเองเหมือนกัน

     

    นี่ผมกลายเป็นเชือกชักกะเย่อตั้งแต่เมื่อไหร่

     

    ผมมองทางซ้ายก็เจอพี่เยียร์ทำหน้าทมึนมองขวาก็เจอพ่อวิกส์ทำหน้าขัดใจ

     

    ผมควรทำยังไงดีหน๋อ

     

    “ปล่อยนะ ปล่อยๆๆๆๆ” พ่อวิกส์เริ่มเอาแต่ใจแบบไม่สมอายุปล่อยแขนผมแล้ววิ่งไปผลักอกพี่เยียร์จนล้มกองกับพื้น เชิดคอใส่หันกลับมาลากผมขึ้นรถแล้วขับออกมาทันที

     

    “พ่อครับ” ผมเรียก แต่ต้องชะงักปากกึกเพราะคุณพ่อที่รักหันมาทำหน้าดุที่ดูเหมือนจะน่ากลัว

     

    “ไม่ต้องพูด ไม่ต้องไปไหนกับไอ้คนไร้ความรับผิดชอบแบบนั้น ชิ เปิดซิงลูกชาวบ้านแล้วไม่รับผิดชอบ” แต่พี่เขาก็บอกว่าจะรับผิดชอบอยู่นะฮะ ผมเลิกต่อปากต่อคำ กลับมานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถดีๆ ว่าแต่นะ

     

    พ่อผมรู้จักแยกแยะว่าใครเป็นใครแล้วเหรอ ปกติถ้าไม่บอกต่อให้เป็นศัตรูคู่อาฆาตพ่อเขาก็ไม่มีทางรู้นี่นา

     

    พ่อวิกส์ของผมพัฒนาไปอีกขั้นแล้วสิ 

     

    อีกอย่าง

     

    ตกลงผมต้องโกรธพี่เขาไม่ใช่เหรอ ไหงพ่อวิกส์กลับโกรธแทนล่ะ???

     

     







    --------------------------

    ป.ล. เรอยากจะบอกว่าเรแต่งดราม่าไม่เป็นนะคะ (งั้นเขียนพล็อตให้มีดราม่าเพื่อ??)


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×