ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Don’t Forgot me boy ถ้าลืมฉันจะบอกรักให้ตายเลย!!!

    ลำดับตอนที่ #4 : ใจเธอมีแต่เขา ใจฉันมีแต่เธอ

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 55


    ตอนที่ 4

    “นี่ก็ 5 ทุ่มแล้วนะ ไหนเครื่องลูกจะมาถึง 4 ทุ่มครึ่งไง”ผู้หญิงวัยกลางคนที่ความสวยเริ่มโรยราเนื่องจากความสาวเริ่มหายไปบ้าง แต่แสดงให้เห็นว่าเมื่อตอนสาวนั้นต้องสวยมาก ตาที่ดูมีเสน่ห์สีดำสนิทคู่สวยที่แสดงถึงความวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด หันไปมองหน้าผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี ที่เริ่มโรยราเพราะความแก่ชราที่ย่างใกล้เข้ามาแต่ก็กล่าวได้เหมือนกันว่าเมื่อทั้งสองยังหนุ่มยังสาวนั้นต่างเป็นคู่ที่เหมาะสมและสวยหล่อเข้ากันได้ดีทีเดียว

    “น่าเดี๋ยวอีกสักพักก็คงมาแล้ว ใจเย็นๆ”ผู้เป็นสามีได้แต่กอดประโลมไหล่เล็กข้างกายเบาๆและพูดให้กำลังใจทั้งผู้เป็นภรรยาและตนเอง ในขณะที่กอดกันอยู่นั้นสายตาของผู้เป็นสามีก็ได้เหลือบไปเห็นร่างคุ้นตาที่อาจบางขึ้นมากและขาวขึ้นมากทีเดียว

    “สายพิณ! สายพิณ! พิณ! พ่อแม่อยู่ทางนี้ลูก!”ผู้เป็นพ่อตะโกนแข่งกับเสียงจ้อกแจ้กของเหล่าญาติที่ห่างกันไปนานคุยกันเพื่อถามสารทุกข์สุขดิบของกันและกัน ผู้เป็นลูกที่ได้ยินเสียงผู้เป็นพ่อจึงรีบสาวเท้าก้าวยาวพร้อมลากกระเป๋าใบงามสุดหรูไปหาผู้เป็นพ่อเป็นแม่พร้อมโอบกอดทั้งสองอย่างรักใคร่

    “ลูกดูผอมไปมากเลย สายพิณ”ผู้เป็นแม่เอ่ยหลังจากปล่อยลูกสาวออกจากอ้อมกอด

    “อาหารที่นู่นไม่ค่อยถูกปากหรอ พิณ”ผู้เป็นพ่อก็เอ่ยถามมาติดๆด้วยความเป็นห่วง

    “อาหารที่นู่นไม่อร่อยเท่าอาหารฝีมือแม่ของสายพิณก็เลยทานได้น้อยน่ะค่ะ”ลูกสาวร่างบางและความสวยที่เพิ่มพูนขึ้นพูดอ้อนแม่และพ่อของตนอย่างคิดถึง

    “ปากหวานจริงนะเราน่ะ มาถึงก็อ้อนเลยนะ ลูกคนนี้นิ”ผู้เป็นแม่พูดโอบกอดลูกสาวแสนรักอีกครั้ง

    “ไปได้แล้วละ นี่ก็ดึกแล้วลูกคงเหนื่อยกลับไปพักผ่อนที่บ้านเถอะ”พ่อพูดชวนทั้งแม่และลูกสาว

    ทั้งสามเดินออกจากสนามบินไปที่ลานจอดรถเพื่อไปขึ้นรถเชฟโวเลจ ครูซ ป้ายแดงคันงามที่พึ่งถอยมาจากศูนย์

    “นี่ รถเราหรอค่ะ”ฉันหันไปถามพ่อแม่ที่กำลังทำหน้ากรุ่มกริ่มใส่กันอย่างมีลับลมคมใน

    “ใช่จร๊ะ รถใหม่ของลูกไง”แม่พูดพร้อม เดินเข้ามากอดฉัน

    ”ของขวัญต้อนรับกลับไทยนะ ลูกรัก”พ่อพูดพร้อมเข้ามากอดฉันกับแม่ นี่สินะความรักที่ไม่มีทางจากเราไป ครอบครัวของฉัน พ่อยอมให้ฉันขับรถพาท่านทั้งสองกลับบ้านไปด้วยกัน พอกลับถึงบ้านเราก็แยกย้ายกันไปนอนในห้องของตนเอง ห้องของฉันไม่มีอะไรที่เปลี่ยนไปเลย แม่คงมาทำความสะอาดทุกวันสินะ ผนังสีส้มอ่อน เตียงขนาดนอนคนเดียวลายสนูปปี้ โปสเตอร์ที่มีหน้าหล่อๆของJustin Bieber  ยังยิ้มให้ฉันเหมือนเดิม ฉันทิ้งร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการเดินลงบนเตียงหนานุ่มอย่างสบายใจ แล้วนายจะเป็นเหมือนเดิมแบบตอนนั้นไหม ตอนที่นายรักฉัน ไม่ใช่ตอนที่รักผู้หญิงคนอื่น นายจะรักฉันเหมือนเดิมไหม....พัดลม ZZzzZZz.....

    วันต่อมา

    ณ.โรงเรียนนานาชาติพาเรียล

    วันนี้เป็นวันที่ฉันต้องสอบเทียบชั้นเพื่อจะเข้าศึกษาต่อในระดับชั้น ม.6และพ่อกับแม่ก็พึ่งไปเยี่ยมคุณยายที่ป่วยที่ต่างจังหวัดด้วย และในการสอบเทียบถ้าฉันไม่ได้ฉันมีหวังได้ระเห็จไปเรียนกับรุ่นน้องแน่นอน แต่จะว่าไปข้อสอบภาษาไทยกับวิทยาศาสตร์เมื้อกี้ยากจัง+_+ ฉันมีสิทธิ์เกินร้อยที่จะได้ไปเรียนกับรุ่นน้องY-Y

    แต่ไม่เป็นไรฉันจะพยายามทำสอบวิชาที่เหลือให้ดีแล้วกัน จะว่าไปทำไมโรงเรียนเงียบจังนะ อ่อ จริงสินะวันนี้มันวันเสาร์นี่นะ จะมีเด็กบ้าที่ไหนมาเรียนกัน เฮ้อ ฉันนี่มันบ้าจริงๆ

    “นั่นสายพิณหรือเปล่าจร๊ะ”เสียงใสปริศนาที่ล่องลอยมาจากทางโรงอาหารที่ฉันพึ่งเดินออกมา พอหันกลับไปดูก็ได้รู้ว่าเสียงนั่นเป็นของยัยวัวแคระ ที่ดูไม่เปลี่ยนไปเลย และข้างๆก็คือผู้ชายคุ้นตาที่มีนามว่า พัดลม เหอะ ยังไม่เลิกกันอีกหรอ

    “ค่ะ นินิวหรอ?”ฉันถามแม้ว่าจะรู้อยู่แล้วอ่ะนะ

    “จร้า สายพิณจริงๆด้วย สวยขึ้นซะฉันจำแทบไม่ได้แน่ะ ถ้าพัดลมไม่บอกฉันจำไม่ได้แน่เลย”ยัยวัวแคระพูดพร้อมยิ้มอย่างสดใสแล้วหันไปทางสามี เอ๊ย แฟน ของตัวเอง ก็นะใครจะไปเหมือนวัวอย่างเธอล่ะ จืดได้อีกจริง มีแค่หน้าอกเท่านั้นแหละ แถมตอนนี้ก็เริ่มอ้วนด้วยนะย่ะ

    “อ่อจ๊ะ ดีจัง ขอบใจนะพัดลมที่ยังจำกันได้”ฉันหันไปพูดกับพัดลมพร้อมยิ้มหวานให้แต่เขากลับพยักหน้าและตีหน้าบึ้งเหมือนกินนมหมดอายุเข้าไปซะงั้น

    “เอ่อ คือฉันต้องไปสอบแล้วล่ะ ไว้เจอกันนะ”ฉันบอกลาพร้อมกับเดินไปที่ห้องสอบเทียบชั้นอย่างเร็ว ก่อนที่ฉันจะสำลักหน้าบึ้งๆของพัดลมและหน้าอกใหญ่ๆของยัยวัวแคระนั่นซะก่อน นายทำได้ดีนิพัดลม ลืมฉันได้เก่งจริงๆ ได้คิดว่าฉันจะจมปรักแบบนี้ไปเรื่อยๆหรอ อย่าหวังเลยฉันไม่ใช่ของใครหน้าไหนทั้งนั้น ฉันสายพิณสวยเลือกได้ย่ะ เชอะ ผลั๊ก

    โอย นี่ฉันโดนกระบือเผือกของอาจารย์อรวรา(อาจารย์สอนการงานที่ชอบเลี้ยงกระบือไทยเป็นชีวิตจิตใจ)ชนหรอเนี่ยพอกะจะเงยหน้าขึ้นด่าซะหน่อยที่ชนคนแล้วไม่ขอโทษไปก็ได้ประสบกับโม่งสีดำที่ใช้ปกปิดใบหน้าที่พวกโจรในละครหลังข่าวชอบใช้กัน

    “กรี๊ด!! นายเป็นโจรหรอฉัน ไม่มีของมีค่าหรอกนะ แต่ถ้าจะจับฉันไปเรียกค่าไถ่นายก็คงไม่ได้เงินหรอกนะเพราะพ่อแม่ของฉันเขาพึ่งไปต่างจังหวัดเพื่อไปเยี่ยมคุณยายและที่บ้านคุณยายของฉันก็ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ด้วย”ฉันแร๊พอย่างเร็วเพื่อพยายามไม่ให้โจรนี่ทำร้ายฉันแต่อยู่ๆโจรคนนั้นก็หัวเราะและค่อยๆถอดโม่งคลุมหัวออก พร้อมกับพูดว่า

    “ถ้าโจรบ้านเธอจะหล่อขนาดนั้นฉันนะ ยัยบ๊อง”นายโม่งดำเอ่ยไม่สิไม่โม่งดำแล้วแต่กลายเป็นผู้ชายหน้าตาลูกครึ่ง เอ๊ะ จะว่าไปก็คุ้นๆนะ เหมือนเคยเจอเหตุการณ์นี้และนายคนนี้นะ เอ๋ คุ้นๆแหะ นึกสิ นึก...อ่อ นายลูกครึ่งที่ฉันเผลอสบถคำหยาบคายเพราะเดินชนฉันที่หน้าห้องพักอาจารย์กนกวรรณนี่นา

    “เฮ้ ยัยบ๊องตะลึงในความหล่อของฉันอยู่รึไง ถ้ามองหน้าฉันนานกว่านี้จะเก็บนาทีละร้อยเลยนะ”นายนี่พล่ามบ้าอะไรฟ่ะเนี่ย คนยิ่งปวดหัวอยู่(พึ่งปวดตอนล้ม)

    “นายบ้าหรือเปล่าเนี่ย น่าเสียดายหน้าหล่อๆนะ เฮ้อ”ฉันพูดยั่วโทสะก่อนที่จะเดินผ่านไปในเมื่อนายนั่นไม่ขอโทษก็ช่างเพราะฉันต้องรีบไปสอบแล้ว

    “นี่ ยัยบ้าไม่ขอโทษ แถมมายืนมองหน้าหล่อๆของฉันฟรี และยังมาหาว่าฉันบ้าอีกหรอฮ่ะ”นายโม่งดำเริ่มมีน้ำโหแล้วสิ แต่ฉันไม่ว่างนี่นาต้องไปสอบแล้ว อีกห้านาทีก็จะเริ่มสอบแล้วนะ ว่าแล้วก็

    “เฮ้ย นั่นมันเลดี้จีนิ!!!”ฉันพูดพร้อมกับชี้โบ้ชี้เบ๊ไปทางบ่อน้ำเล็กๆในโรงเรียน

    “ฮ่ะ!!ไหนๆๆ”ตาบื้อแถมโง่แต่ดันหน้าหล่อหันไปทางทิศที่ฉันชี้แล้วตะโกนโว้กเวกเมื่อเห็นเลดี้จีได้กลายเป็นแค่สุนัขเพศเมียนามจีจี้ของท่านอาจารย์อรวรา(นอกจากเลี้ยงควายแล้วยังเลี้ยงหมาให้เลี้ยงควายอีก= =)แล้วฉันคนนี้จะยืนอธิบายยาวยืดอยู่อันใด รีบใส่เกียร์หมาโกยไปถึงห้องสอบอย่างรวดเร็ว อาจารย์คุมสอบเมื่อเห็นฉันมาสายไปแล้ว 30 นาทีก็ตีหน้ามุ่ยเหมือนฉันแอบไปปาอึเจ้าจีจี้ที่บ้านอาจารย์งั้นแหละ แต่ก็ยอมให้ฉันสอบแต่ไม่ให้เวลาเพิ่ม อนาถกว่านี้ไม่มีอีกแล้วจร้าTT^TT

    3 ชั่วโมงผ่านไป

    เฮ้ออ ฉันมั่นใจว่าภาษาอังกฤษฉันมีสิทธิได้เกือบเต็ม แต่คณิตกับสังคมนี่ตัดสินใจไม่ถูกเลยว่าอันไหนยากน้อยกว่ากัน= =^ สงสัยฉันมีสิทธิ์ได้ระเห็จไปเรียนกัยรุ่นน้องอย่างแน่นอนจ๊ะ

    “เฮ้ ยัยบ๊องโรคจิต เฮ้!! “เสียงตะโกนสุดคุ้นหูและกระดากหูสุดๆ ไม่ต้องหันไปมองก็เดาได้ว่าอาจจะเป็นนายโม่งดำสุดหลงตัวเองแน่เลย คิดได้เช่นนั้นฉันก็ไม่โง่หันไปคานรับว่าสวัสดีจร้าแน่นอน= =จ้ำอ่าวต่อสิค่ะจะอยู่ต่อทำไมล่าาา แต่ขณะจ้ำอย่างเมามันส์(??)อยู่นั้น ก็มีมือปริศนาจากมุมมืดของตึกคว้าตัวฉันเข้าไป

    “กร๊ะ! “ฉันที่เตรียมจะกรี๊ดเพื่อให้ใครมาช่วย นายนี่ต้องเป็นโจรแน่เลย แต่พอเห็นหน้าชัดๆ นอยากจะเป็นลมสลบไปหลับในอ้อมกอดของพัดลมสุดหล่อของฉัน(??)

    “พะ พัดลม ทำไมถึง...”ฉันที่กำลังจะถามว่าทำไมพัดลมถึงมาช่วยฉันได้แล้วทำไมถึงรู้ว่าฉันกำลังมีปัญหา ก็ได้ทำเสียงชู่ๆชี่ๆใส่ประมาณให้เงียบ ฉันก็ยอมเงียบอย่างว่าง่ายสิค่ะ อะโฮะๆ นายโม่งดำที่ทำหน้างงๆแล้วก็เดินตามหาฉันต่อไปในทิศทางตรงกันข้ามกันอย่างเห็นได้ชัด พัดลมที่เห็นนายนั่นไปแล้วก็ทำท่าจะเดินหนีออกไปโดยปล่อยฉันไว้อย่างนั้นแต่ใครจะยอมย่ะ ตอนนี้ยัยโคก็ไม่ได้อยู่ด้วยฉันต้องใช้โอกาสนี้แหละ ฉันใช้ส่วนสูงที่เพิ่มขึ้น(170ซม.)พร้อมกับแขนยาวเรียวที่ได้จากการกระชับสัดส่วนตามสูตรของโฮสต์แม่ที่เมกา กระตุกที่ปลายเสื้อของพัดลมเบาๆแต่ก็พอทำให้เขาไม่สามารถหนีไปไหนได้ เขาจะมองว่าฉันsixty-six a boat baby หรือไวไฟไหมนะ พัดลมที่หันหลังให้ฉันสะดุ้งนิดหน่อยแต่ก็ไม่นานเขาก็หันมามองเหมือนถามว่า”ต้องการอะไร”แต่มันก็ดูเฉยชาซะจนเหมือน”บอกให้ปล่อยเดี๋ยวเสนียดติด”แต่ฉันนางเอกนะย่ะไม่มีเสนียดหรอกนะ(หรือมี?)T^T

    “ทำไมถึงรู้ว่าฉันหลบไอ่โม่งดำเอ๊ยเขา”ฉันถามพร้อมพยักเพยิดไปทางทิศที่เห็นหลังของนายโม่งดำไปไกลลิบ

    “หน้าเธอมันบอก”เขาตอบพร้อมทำท่าเหมือนจะเดินออกแต่คงลืมไปว่ามือฉันไม่ปล่อยง่ายๆหรอกย่ะ เอ๊ะ แต่หน้าฉันฟ้องขนาดนั้นเลยหรอT^T เอ๊ะ มันแสดงว่าเขามองฉันตลอดเวลาเลยหรอ><

    “นายเป็นไงมั่ง?”ฉันถามแม้จะอยากถามว่านายคิดถึงฉันมั่งไหมก็เถอะ

    “ก็ดี”...ถ้าตอบแค่นี้ล่ะก็= =^”ฉันไปก่อนนะต้องไปส่งนินิว”ถ้าประโยคต่อจะเป็นอย่างนี้ก็อย่าได้พูดเลย เหอะใช่สิใครจะดีเท่ายัยโคแคระนั่นกัน เชอะ แล้วนั่นพูดเสร็จก็เดินไปเลยหรอ สรุปนายไม่เคยสนใจฉันเลยใช่ม้ายยยT-T ได้ฉันจะหาหนุ่มใหม่ควงเย้ยนาย นายพัดลมบ้าๆๆๆที่สุด แง้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×