ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Don’t Forgot me boy ถ้าลืมฉันจะบอกรักให้ตายเลย!!!

    ลำดับตอนที่ #5 : กินหญ้า!!!???

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 55


    ตอนที่ 5

    ในที่สุดวันเปิดเทอมก็มาถึงซึ่งในขณะที่รุ่นเดียวกันของฉันนั้นเรียนม.6แต่ฉันสาวน้อยน่ารัก(??)คนนี้ต้องไปเรียนม.5ซึ่งเหตุเกิดมาจากฉันนั้นดันอยากเข้าวิทย์-คณิตซึ่งคงไม่มีใครเข้าใจว่าฉันจะไปเรียนต่างประเทศทำไมและด้วยคะแนนสอบเทียบวิชาคณิตของฉันนั้นไม่ดีเท่าที่ควรหรือในหลักความเป็นจริงเรียกว่าทุเรศเลยก็ได้ อาจารย์ใหญ่จึง(จำใจ)เสนอทางเลือกให้ฉันสองทางเลือกทางที่หนึ่งคือเรียนศิลป์-ภาษากับรุ่นเดียวกันและทางเลือกที่สองคือเรียนวิทย์-คณิตกับรุ่นน้อง ซึ่งฉันตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว(3วัน?)คือวิทย์-คณิตกับรุ่นน้อง เพราะด้วยความที่ฉันอยากเป็นหมอฟัน เหตุผลที่อยากเป็นก็เพราะตอนที่ฉันอายุได้ 6 ขวบครึ่งซึ่งเป็นช่วงที่ฉันอ้วนสุดๆเพราะฉันทานขนมทุกชนิดยิ่งช็อกโกแลตยิ่งปลื้มและคุณก็คงรู้ว่าเด็กๆนั้นไม่ชอบแปรงฟันมันจึงให้เด็กน้อยๆฟันผุกันเต็มบ้านเต็มเมือง วันหนึ่งฉันปวดฟันมากพ่อและแม่จึงพาฉันไปคลีนิครักษาฟันแถวบ้าน ซึ่งฉันในตอนนั้นกลัวหมอฟันมากๆหมอท่านจึงเอาของที่ฉันโปรดปรานมาล่อฉันจึงยอมตกลงพอเสร็จหมอท่านก็ให้ยาสีฟันรสโคล่ามาแทน= =* และพอหลังจากนั้นฉันเลยติดยาสีฟันรสโคล่าจนต้องให้คุณพ่อไปเหมาลังยาสีฟันรสโคล่ามาใช้กันทั้งบ้าน ซึ่งบ้านอาจเป็นเรื่องดีก็ได้เพราะฉันแปรงฟันบ่อยขึ้นวันหนึ่งแปรงมันเข้าไปห้าครั้ง โอเคมาเข้าเรื่องวันเปิดเทอมที่หรรษาของฉันและรุ่นน้องดีกว่า แต่ก่อนที่จะเริ่มเรื่องจู่ๆก็มีเสียง.....

    “ขอให้นักเรียนทุกคนมาเข้าแถวที่สนามเดี๋ยวนี้ค่ะ”เสียงอาจารย์ฝึกสอนสาวถูกกรอกลงในไมค์กระจายเสียงทั่วโรงเรียน โอ้สงสัยฉันต้องไปเข้าแถวกับเหล่าน้องสาวน้องชายห้องม.5/1แล้วล่ะ ในขณะกำลังจะเดินไปรวมตัวประท้วงน้ำท่วมเอ๊ยเข้าแถวอย่างสงบนั้นแขนอันเรียวยาวของฉันก็ถูกกระฉากด้วยความแรงเหมือนรถสิบล้อพุ่งชนถังขยะก็ไม่ปานซึ่งแรงนั้นมาจากผู้หญิงตัวเล็กกว่าฉันนิดหน่อยแต่สูงกว่ายัยโคแคระหน้าตานางเอ๊กนางเอกที่กำลังส่งยิ้มพราวเสน่ห์มาให้ฉันพร้อมน้ำตาที่เริ่มคลอเบ้าบนตาของเจ้าหล่อนผู้หญิงคนนี้จะเป็นใครไปไม่ได้หล่อนคือเพื่อนรักเพื่อนเลิฟเพื่อนหักเหลียมโหดของฉันนั้นเองที่มีนามว่าแสนนาน

    “กรี๊ด พิณ สายพิณจริงๆด้วย พิณกลับมาแล้วไม่เจอกันปีนึงสวยขึ้นเยอะแถบจำไม่ได้ ฉันเห็นตอนแรกนึกว่าเป็นนางแบบซะอีก”แสนนานร่ายยาวพร้อมกับมือที่มาถูๆคลำๆแขนฉันเหมือนไม่แน่ใจว่าฉันเป็นคนหรือเป็นผี ก่อนจึงดึงฉันไปสวมกอด

    “เว่อร์น่ะ ฮ่าๆฉันก็เหมือนเดิมแหละ”ฉันพูดพร้อมกับดันกอดของยัยแสนนานออกพร้อมสำรวจตัวเพื่อนสาวว่ามีอะไรเปลี่ยนไปมั่ง ผลสรุปคือแสนนานเริ่มอวบกำลังนุ่มนิ่มและน่าถนุถนอมมากขึ้นนิดนึง

    “แล้วสายพิณเรียนห้องไหน?”แสนนานถามเพราะฝูงชนรอบๆเริ่มก่อตัวเป็นแถวแล้ว

    “อ่อ เค้าเรียนห้องม.5/1น่ะ แสนนานพอรู้ไหมว่าแถวอยู่ไหน”ฉันพูด

    “อ่อ แถวนั้นน่ะ”แสนนานตอบพร้อมชี้ไปยังแถวที่สั้นกว่าแถวอื่นเขา

    “ขอบใจนะ เดี๋ยวค่อยคุยกันอีกทีนะ”ฉันพูดพร้อมโบกมือลาและเดินไปเข้าแถว

    พอเดินมาเข้าแถวเรียบร้อยฉันก็หันไปมองทางที่ฉันแยกจากแสนนานซึ่งฉันเห็นเธอเดินกลับไปที่แถวพร้อมเพื่อนผู้หญิงอีกคนที่ฉันรู้ว่าเธอคือเมลลีน ว้าวเมลลีนดูคล้ำขึ้นนิดหน่อยแหะ*o* พอสำรวจเมลลีนเสร็จฉันก็หันมาสำรวจเหล่าน้องสาวน้องชายที่ตั้งแต่วันนี้ไปเราต้องเป็นเพื่อนกัน ผลสำรวจคร่าวโดยประมาณอย่างรวดเร็วของฉันได้สรุปว่าตอนนี้ไม่มีใครสวยเกินหน้าเกินตาฉัน(??)ห้องนี้ผู้หญิงค่อนข้างหน้าตาธรรมดาหรือไม่ก็ออกไปทางคงแก่เรียนกันหมดส่วนผู้ชายยังพอมีหล่อบ้างธรรมดาบ้างและห้องนี้มีผู้หญิง(รวมฉันแล้ว) 16 คน ผู้ชาย 14 คน เอ๊ะ แปลกๆนะเท่าที่ฉันจำได้พอช่วงม.ปลายห้องทุกห้องจะถูกจัดให้มีผู้หญิงและผู้ชายในสัดส่วนที่เท่ากันพอดีเป๊ะเพื่อให้สะดวกในงานเต้นตอนเรียนจบและคลาสสอนเต้นรำในช่วงม.6แต่พอฉันเข้ามาเพิ่มผู้หญิงต้องมากกว่าผู้ชายแค่คนเดียวสิไม่ใช่สองคน และไม่นานฉันก็ได้คำตอบพร้อมแรงกระแทกจากด้านหลังที่รุนแรงเหมือนโดนกระบืออาจารย์อรวราขวิดเข้าอย่างเต็มรักจนทำให้ฉันหน้าคว่ำไปพร้อมกับร่างหนักๆบนหลัง กรี๊ด ตอนนี้หญ้าบนสนามพยายามชอนไชอยู่บนริมฝีปากเรียวบางของฉัน ฉันขอเปลี่ยนชื่อจากวันเปิดเทอมสุดหรรษาเป็นวันเปิดเทอมที่น่าสลดแทนได้ไหม แง ตอนนี้ร่างหนักๆบนหลังฉันพึ่งพยุงตัวขึ้นไปทรงตัว เยี่ยม ไม่รอให้ฉันกินหญ้าจนอิ่มก่อนแล้วค่อยลุกล่ะ แงT^T

    “เฮ้ เธอจะนอนกินหญ้าอีกนานไหมนั่น”เสียงปริศนาแต่คุ้นๆดังขึ้นมาจากข้างบน กรี๊ด ไอ้บ้าโรคจิต แกมันชั่วร้ายที่สุด แกหาว่าฉันมานอนกินหญ้าแต่ที่จริงนายนั่นแหละทำให้ฉันมานอนตรงนี้ กรี๊ด ฉันคิดพร้อมกับพยุงตัวอย่างรวดเร็วเพื่อจะด่าเขาอย่างที่คิดเอาไว้ แต่พอเห็นหน้าเขาชัดๆ ฉันก็ได้แต่อ้าปากค้าง(เอาเข้าไปทุเรศกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว)เพราะเขาคือนายลูกครึ่งโม่งดำ กรี๊ด นรกช่างพัดพาสิ่งดีๆมาให้ฉันจริงๆ

    “เฮ้ย ยัยบ๊องโรคจิตนอกจากโรคจิตกับบ๊องไม่พอแถมยังกินหญ้าอีกหรอเนี่ย ฮ่าฮ่าๆ”เขาพูดพร้อมระเบิดหัวเราะดังลั่นโดยมีเสียงหัวเราะคอรัสเบาๆจากเหล่านักเรียนและอาจารย์ที่เห็นเหตุการณ์เอาเข้าไป ชีวิตแสนเริ่ดในม.ปลายของฉันพังยับเยินเพราะไอ้ลูกครึ่งปากปีจอนี่งั้นหรอ

    “กรี๊ด แล้วมันเพราะใครกันล่ะย่ะที่ทำให้ร่างกายอันแสนโสภีของฉันต้องไปคลุกกับดินกับหญ้าน่ะ”ฉันพูด

    “นักเรียนคู่นั่นน่ะเงียบและเข้าแถวให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้นะ”เสียงประกาศิตจากแท่นหน้าเสาธงที่อาจารย์ใหญ่กรอกเสียงใส่ไมค์เมื่อเห็นจลาจลเล็กๆของฉันกับไอ้ลูกครึ่งปากปีจอ ฉันกับนายนั่นจึงยอมสงบปากแล้วกลับไปเข้าแถวดีๆแต่ก็ไม่วายแอบแยกเขี้ยวใส่กันแบบไม่มีใครยอมแพ้

    การเข้าแถวผ่านไปอย่างทรมานและตึงเครียดเพราะฉันต้องพยายามแกล้งนายลูกครึ่งกลับและปล่อยรังศีอำมหิตทุกครั้งที่เขาแกล้งฉันขณะเข้าแถว ไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันจะต้องทนอยู่กับไอ้บ้านี้อีกตั้งสองปีฉันคิดพร้อมกับเดินไปเข้าห้องน้ำหญิงโดยไม่สนว่าจะเดินนำหน้าแถวไปหลายแล้วก็ตาม ซึ่งขนาดจ้ำอยู่นั้นสายตาของฉันก็เหลือบไปเห็นคู่ชายหญิงคู่หนึ่งที่มีใบหน้าที่ฉันคุ้นเคยเป็นอย่างดีเยี่ยมพวกเขาคือพัดลมกับยัยวัวแคระ เยี่ยม พระเจ้าช่างรักฉันยิ่ง นอกจากส่งไอ้ลูกครึ่งนั่นมายังส่งพัดลมให้มาพบฉันในสภาพน่าอับอายอีก กรี๊ด วันนี้มันวันโชคร้ายชัด Bad day TT เมื่อคิดได้อย่างนั้นฉันจึงจ้ำโดยไม่สนใจว่ายัยโคแคระจะเรียกฉันยังไงก็ตามหรือพัดลมจะมองตามฉันยังไงด้วย แง

    ณ.ห้องน้ำหญิง

    ฉันกำลังยืนมองสภาพของฉันในกระจก โฮ นี่คือสาวสวยที่แสนนานชมเมื่อเช้าหรือเปล่านะ เพราะตอนนี้สภาพของฉันตอนนี้เปรียบเสมือนยัยเพลิ้งแถวเซเว่นก็ไม่ปาน กรี๊ดไอ้ลูกครึ่งบ้านั่นทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้ ทำให้ฉันต้องอับอายขี้หน้า แถมต้องมาตกในสภาพแบบนี้ให้พัดลมเห็นด้วย กรี๊ดๆ แงๆ แต่ร้องไปก็ไม่ช่วยอะไรสู้เอาเวลามาเด็ดหญ้าและดินออกจากผมและใบหน้าอันแสนงดงามของฉันก่อนดีกว่า แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่แค่ผมเครื่องแบบของฉันก็เป็นไปด้วย เอาเข้าไปที่รัก          

    หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วฉันก็เดินกลับขึ้นตึกเพื่อไปเรียนคาบแรกเพราะไปโฮมรูมไม่ทันแหง แต่เมื่อไปถึงฉันก็ต้องตกใจมากเมื่อเห็นอาจารย์ประจำชั้นยังไม่เข้ามาในห้องเพื่อโฮมรูมเลย เอ๊ะ วันแรกอาจารย์ไม่น่ามาสายเลยนะฉันคิดพร้อมกับเดินไปนั่งที่โต๊ะหลังห้องติดประตูหลัง บรรยากาศในห้องเงียบผิดปกติเพราะพวกเพื่อนในห้องหลังเห็นเหตุการณ์ตอนเช้าและไม่รู้ว่าทำไมถึงมีฉันเข้ามาอยู่ในห้องนี้ได้ แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าปริปากถาม จนกระทั่งเมื่อฉันเห็นว่าที่นั่งโต๊ะข้างๆฉันมีผู้ชายหน้าตาลูกครึ่งนั่งอยู่และใบหน้าฉันคิดว่าฉันจำเขาได้โดยไม่มีทางลืมแน่ เพราะมันคือไอ้ลูกครึ่งในตอนเช้า กร๊าซซ

    “นี่นายมานั่งอะไรตรงนี้ไปนั่งที่อื่นซะ”ฉันไล่เขา

    “เรื่องดิ ถ้าไม่พอใจก็ย้ายเองสิ”กรี๊ด ปากร้ายนักนะ

    “บ้านนายสิ ฉันเอาของมาจองตรงนั้นก่อน นายมานั่งตรงนี้หลังฉัน นายสิต้องย้าย”ฉันพูด เมื่อนายนั่นได้ยินก็หันหน้ามามองหน้าฉันอย่างจริงจังก่อนจะตอบอย่างยียวนว่า...

    No way” กรี๊ด ฉันเกลียดไอ้เด็กบ้านี่

    “อ่อ ฉันรู้แหละ เพราะนายรู้ว่าข้างๆเป็นที่นั่งของฉันนายเลยมานั่งสินะที่แท้ก็อยากใกล้ชิดฉันนี่เอง เหอะ”ฉันยียวนกลับ หึหึๆเล่นกับพี่ยังเร็วไป 3 โลกน้อง

    “ป้าเคยดูหนังหน้าตัวเองไหม หรือไม่มีกระจกไว้ส่อง เดี๋ยวผมช่วยบริจาคให้ก็ได้นะ”

    “กรี๊ด ไอ้เด้กบ้า แกเกิดเพื่อมาว่าฉันหรือไงกันย่ะ ทำไมปากร้ายอย่างนี้T^T”ฮือ พิณน้อยอยากร้องไห้

    “ป้าอย่าคิดไปเองสิว่าผมเกิดมาเพื่อป้าน่ะ= =^”อ๊ากก มันไม่ใช่คำถามที่ต้องการคำตอบโว้ย!!

    แต่ก่อนที่ฉันจะได้ตอบโต้อะไรอย่างใจคิด อาจารย์ประจำชั้นสาวสวยก็เดินเข้ามา ซึ่งเมื่อเห็นแบบนั้น ฉันก็รีบไปนั่งข้างไอ้เด็กบ้านั่นโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆทันที

    “สวัสดีจร๊ะ นักเรียนทุกคน อาจารย์มีชื่อว่า อาจารย์นิจนิรันด์  สานภักดี นะคะ ในคาบโฮมรูมนี้อาจารย์จะให้เป็นคาบที่เราได้รู้จักกันถึงแม้นักเรียนบางคนหรือส่วนมากรู้จักกันดีแล้วแต่อาจารย์ยังไม่รู้จักพวกเธอโดยทุกคนต้องแนะนำตัวเองตามลำดับเลขที่นะ เริ่มจากเลขที่หนึ่งเลยจร๊ะ”อาจารย์พูดพร้อมกับมีผู้หญิงที่ใส่แว่นหนาเตอะลุกขึ้นมาเริ่มแนะนำตัวและตามด้วยคนต่อๆไป จนมาถึงเลขที่ 30 อยู่ๆนายลูกครึ่งโม่งดำก็ลุกขึ้นและเริ่มแนะนำตัวเหมือนเลขที่ก่อนหน้าเอ๊ะ นี่เขาเลขที่ 30 หรอเนี่ย กรี๊ด นี่นอกจากต้องอยู่ห้องเดียวกัน นั่งใกล้กันแล้วยังต้องเลขที่ใกล้กันด้วยหรอเนี่ยนี่มันยิ่งกว่าแบดเดย์มันต้องเรียกว่าหายนะเดย์ต่างหาก แง

    “ผมเซฟฟีรัส ไซคีนัส เซฟีรุส ครับ สาวๆเรียกผม ทริปเปิล ซี แต่เพื่อนๆเรียกเซฟครับ”เขาพูดพร้อมหันไปขยิบตานิดๆให้อาจารย์สาวประจำชั้นหน้าห้อง กรี๊ด หลงตัวเองเป็นที่สุด แต่ก็ไม่แปลกอะไรที่นอกจากฉันและผู้ชายบางคนในห้องจะทำท่ารังเกียจแต่พวกสาวๆเปล่าเปรียวต่างพากันส่งสายตาเป็นรูปหัวใจให้นายโม่งดำ หลังจากนายนั่นเรียกเรตติ้งได้พอสมควรแล้วเขาก็นั่งลงพร้อมส่งสายแห่งชัยชนะมาที่ฉัน กรี๊ด นายจะเล่นอย่างนี้ใช่ไหมย่ะ

    “คนสุดท้ายต่อเลยจร๊ะ ถ้าจำไม่ผิดเธอพึ่งกลับมาจากอเมริกาใช่ไหมจร๊ะ”อาจารย์สาวสวยพูดพร้อมกับหันมาถามฉัน

    “ค่ะอาจารย์ หนูพึ่งกลับมาจากอเมริกาหลังจากได้รับทุนได้ไปศึกษาที่นั่นหนึ่งปีเต็ม ขอแนะนำตัวนะค่ะ ชื่อ พิชญา รณิษาวงษ์ ชื่อเล่น สายพิณ ค่ะ แต่เรียกว่าพิณอย่างเดียวก็ได้ค่ะ ยินดีที่ได้รู้ทุกคนนะค่ะ”ฉันพูดพร้อมกับหมุนตัวสี่สิบห้าองศาแล้วก้มหัวลงเล็กน้อยพร้อมส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจอย่างที่ฝึกทำหน้ากระจก เพื่อเรียกเรตติ้งความคลั่งไคล้จากเพื่อนชาย และสร้างความน่ารักน่าเชื่อถือให้ประจักษ์แก่สายตาเพื่อนสาว ฉันนั่งพร้อมหันไปยักคิ้วให้กับนายโม่งดำเป็นเชิง หึ จะแข่งกับฉันยังเร็วไปย่ะ

    “จบการแนะนำตัวได้อย่างน่ารักมากจร่ะ หลังจากเราแนะนำตัวกันเสร็จแล้ว มาต่อด้วยการเลือกหัวหน้าห้อง รองหัวหน้า เหรัญญิก และกรรมการ กันเลยดีกว่านะ เริ่มที่หัวหน้าห้องนะ มีใครอยากเสนอชื่อใครมาชิงตำแหน่งหัวหน้าห้องไหม?”อาจารย์สาวพูด

    ....................เงียบกริบ................

    เอ๊ะ หัวหน้าห้องงั้นหรอน่าสน เอ๊ย ไม่ได้ถึงฉันนะแต่ฉันหมายถึง....ฉันยกมือขึ้น และอาจารย์สาวประจำชั้นก็พยักหน้าเพื่อเป็นการให้สัญญาณให้ฉันพูดได้ ฉันลุกขึ้นยืนพร้อมพูดในสิ่งที่ฉันต้องการ

    “หนูขอเสนอ คุณเซฟฟีรัส ไซคีนัส เซฟีรุสเป็นหัวหน้าห้องค่ะ”ฉันพูดอย่างชัดถ่อยชัดคำด้วยเสียงที่มั่นใจในตัวเองเหนือสิ่งอื่นใด แต่ก่อนที่ฉันจะได้ย่อนสะโพกและบรรท้ายอันงามงอนของฉันนั่งลง ก็มีอะไรกระตุกชายเสื้อนักเรียนที่มีรอยคราบดินของฉันซึ่งจะมาจากใครเป็นไม่ได้นอกจากเจ้าของโต๊ะข้างๆฉัน= =^

    “เฮ้ ยัยบ้า เธอเล่นบ้าๆอะไรเนี่ย ฉันไม่เป็นนะโว้ย”นายนั่นกัดฟันกระซิบเบาๆแต่ก็พอรู้ว่านายนี่กำลังโกรธาอย่างรุนแรง “เหอะ ถือเป็นการแก้แค้นที่เมื่อเช้านายทำลายชื่อเสียงของฉันสิย่ะ ทีนี้รู้หรือยังล่ะว่าใครกันที่แน่ หึ”ฉันนั่งพร้อมหันไปกระซิบตอบกลับ ทีนี้นายก็ต้องหวังให้พวกเพื่อนของนายที่เหลือเลือกใครเพิ่มหรือไม่ก็ไม่โหวตนายให้เป็นหัวหน้าห้อง แต่ฉันรู้เดี๋ยวยังไงนายก็ต้องยกมือปฏิเสธ เพราะว่านั่นเป็นสิ่งที่ฉันต้องการจะเห็นมากกว่าการที่นายยอมเป็นหัวหน้าห้อง นายต้องเสียใจแน่ที่บังอาจมาแข่งกับฉัน เพราะการที่นายปฏิเสธเรื่องนี้มันหมายความว่านายจะถูกให้ความเชื่อใจและเชื่อมั่นจากเพื่อนในห้องและอาจารย์ประจำชั้นที่นายปล่อยเสน่หาไว้น้อยลง หึหึๆ แล้วนายจะทำยังไงล่ะ แต่ก่อนที่ฉันจะได้เห็นใบหน้าง่อยรับประทานของนายโม่งดำก็มีเสียงมารดังขึ้นมาตัดบทแผนทุกสิ่งอย่างที่ฉันวางไว้

    “เอาล่ะ จะมีใครเสนอใครอีกไหม ถ้าไม่ก็ดีเพราะครูก็คิดว่าคุณพิชญาคิดไม่ผิดหรอกที่เลือกคุณเซฟฟีรัส งั้นต่อด้วยตำแหน่งรองหัวหน้าห้องเลยนะจร๊ะ^o^”อาจารย์สาวสวยพูดพร้อมกับส่งยิ้มอย่างมีความนัยบางอย่างมาทางฉันเอ๊ยไม่ใช่มาทางไอ้โม่งดำ อาจารย์แกกลัวไม่มีใครรู้หรอว่าเธอปลื้มผลการเลือกหัวหน้าห้องหรือตัวนายโม่งดำพูดอย่างออกนอกหน้าขนาดนี้ แต่แบบนี้นายโม่งดำก็มาเป็นนายฉันงั้นหรอ(แค่หัวหน้าห้องย่ะ เท่านั้นย่ะ=อาจารย์สาวสวยหรืออาจารย์นิจนิรันด์) กรี๊ด แต่ถ้านายนี่มาเป็นหัวหน้าห้องฉันก็สามารถใช้งานเขาได้เหมือนกันเพราะหัวหน้าห้องมีหน้าที่บอกทำความเคารพอาจารย์ รวบรวมและส่งการบ้านของเพื่อนและตนเองให้อาจารย์ ควบคุมดูแลเพื่อนในห้อง ให้ความสะดวก และอีกมากมายก่ายกอง หึๆ แผนบี เริ่มดำเนินการ

    “อาจารย์ครับ ผมคิดว่าตำแหน่งรองหัวหน้าห้องน่าจะให้เป็นความรับผิดชอบของพิชญานะครับ”นายโม่งดำพูด หา เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อกี้เขาเสนอชื่อฉันงั้นหรอ ไม่ได้นะ กรี๊ดT^T  มันไม่มีเหตุผลอะไรอาจารย์นิจไม่ฟังหรอก แง“เพราะเธอดูมีความรับผิดชอบที่ดีเลยและเธอก็นั่งใกล้ๆผมด้วยถือเป็นความสะดวกในการทำงานร่วมกันนะครับ”เขาพูดต่อ กรี๊ด ฉันเกลียดนาย

    “โอ้ เป็นความคิดที่ดีมากๆเลยคุณเซฟฟีรัสค่ะ*o*”อาจารย์นิจพูด กรี๊ด ฉันจะเกลียดหล่อนด้วยถ้าหล่อนไม่เป็นอาจารย์ แงๆ

    “สรุปเราได้หัวหน้าและรองหัวหน้าห้องเรียบร้อยแล้ว ต่อไปจะเป็นเหรัญญิกและคณะกรรมการห้องนะ เสนอชื่อเลยจร๊ะ”อาจารย์สาวยังคงพูดไปเรื่อยๆ และฉันคงต้องขอเสียมารยาทที่จะไม่ฟังและหันมาต่อปากต่อคำกับมนุษย์ข้างๆแทน

    “นายคิดว่านายเป็นใคร หา”ฉันกระซิบ

    “ฉันหรอ หัวหน้าห้องไง เอ๊ะ แล้วเธอไม่รู้หรอก็เธอเป็นคนเสนอชื่อฉันให้เป็นหัวหน้าห้องนี่ ^^+”เขากระซิบ

    “แหม่ ฉันเกือบลืมแน่ะ นี่ถ้านายไม่เสนอชื่อฉันเพื่อเป็นการแก้แค้นล่ะก็นะ อีกอย่างที่ฉันเสนอชื่อนายก็เพราะนายทำให้ฉันอับอายก่อนนี่ แล้วฉันก็คิดว่านายจะตอบปฏิเสธไปไม่ใช่ตอบตกลงรับคำง่ายๆไปแบบนั้น มันคือความผิดนายทั้งหมด”ฉันกระซิบตอบกลับยาวเป็นปืดแบบไม่คิดหยุดหายใจเลย

    “หึ แล้วสรุปฉันผิดหรอ แต่ฉันคิดว่าไม่นะ อ่อ เกือบลืม”เค้าเว้นวรรคก่อนที่จะพูดอะไรบางอย่างที่ฉันแทบจะกรีดเสียงร้องออกมาให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้”เหอะ ทีนี้รู้หรือยังล่ะว่าใครกันที่แน่ หึ”กรี๊ดไอ้บ้านี่แกบังอาจใช้ประโยคของฉันด้วยเสียงที่ดัดๆทุเรศๆของนายงั้นหรอ กร๊าซซซซ ดีแล้วนายจะได้รู้แน่ๆว่าใครที่แน่ กรอดๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×