คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : อู๋ อี้ฟาน
อู๋ อี้ฟาน
“ปล่อย....ปล่อยสิ...อึก..ปล่อยผม...ใครก็ได้ช่วยผมด้วย!!” เด็กหนุ่มตะโกนสุดเสียง และพยายามขัดขืนอย่างถึงที่สุด เพื่อให้ชายหนุ่มตรงหน้าปล่อยเขา
พยายามส่งเสียงและสายตาอ้อนวอนให้ใครหลายคนที่กำลังยืนอยู่ ณ ที่แห่งนี้ด้วย แต่ความพยายามของเด็กหนุ่มคงน้อยเกินไปหรือไม่เขาก็คงเป็นบุคคลที่ไร้ค่าจนไม่มีใครคิดจะสนใจ เมื่อคนเหล่านั้นไม่คิดจะเข้ามาช่วย หรือแม้แต่จะชายตามองเขาด้วยซ้ำ เด็กหนุ่มได้แต่สะอื้นไห้และออกแรงขัดขืนต่อไป จนสุดท้ายก็ถูกลางขึ้นรถสีดำขลับคันหรูและถูกขับแล่นออกไปในที่สุด
ทิ้งให้ใครหลายคนในสุสานมองตามด้วยความเป็นห่วง ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากช่วย....หลายคนอยากเข้าไปช่วยตั้งแต่เด็กหนุ่มตะโกนเรียกครั้งแรกแล้ว แต่ติดที่ไม่มีความกล้ามากพอ ถ้าเป็นคนอื่นที่พาเด็กหนุ่มไปพวกเขาจะเข้าไปช่วยอย่างไม่ลังเล
แต่เพราะคนนั้นเป็น อู๋ อี่ฟาน พวกเขาเลยทำไม่ได้
เขาคนที่อยากได้อะไรแล้วต้องได้...
ใครกล้าขัดขวางเขามีแต่....ตาย...กับตายเท่านั้น!!
.
.
.
.
“........”
หลังจากรถออกมาจากสุสาน เด็กหนุ่มก็ไม่พูดไม่จากหรือขัดขืนใดๆอีก เด็กหนุ่มเอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่างบานกระจกรถ มองท้องถนนที่เต็มแน่นไปด้วยรถราต่างๆ ทั้งที่ฝนตกหนักขนาดนี้ แต่การจราจรก็ไม่มีวี่แววว่าจะคล่องตัวขึ้นเลยซักนิด เขาสนใจสิ่งที่อยู่ข้างนอกนั้นมากกว่าชายอีกคนที่นั่งมากับเขาด้วย
พยายามทำให้เหมือนกับอีกคนเป็นแค่อากาศธาตุที่ไร้ตัวตน
“ข้างนอกนั้นมีอะไรดีนักหนาถึงได้สนใจขนาดนั้น..” คริสเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาสามารถสงบสติอารมณ์ตัวเองได้ นับเป็นประโยคแรกที่เขาเอ่ยกับเด็กหนุ่มตั้งแต่ขึ้นรถออกมาจากสุสาน
“..........”
เด็กหนุ่มไม่ตอบอะไรกับมา....แถมยังคงมองออกไปข้างนอกเช่นเดิม ซึ่งการกระทำเช่นนั้นของเด็กหนุ่มเป็นเหมือนการท้าทายอำนาจของเขาเป็นอย่างยิ่ง
“หมับ..”
“โอ๊ย..!!”
“ฉันถามทำไมไม่ตอบ....หรือต้องให้เจ็บตัวก่อนถึงจะพูดได้ หา!!!” คริสกระชากเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างตนเข้ามาหาอย่างแรง
จากที่คิดว่าสามารตนสามารถสงบสติอารมณ์ตัวเองไม่ให้โกรธจนเผลอทำร้ายเด็กหนุ่มได้แล้ว แต่ตอนนี้คงไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว เด็กหนุ่มดื้อกับเขาเกินไป จนไม่สามารถเก็บอาการโกรธไว้ได้อีก
เด็กดื้อต้องโดนทำโทษ จะได้รูว่า
การเมินคนอย่าง อู๋ อี่ฟาน จะต้องเจอกับอะไร
“อื้อ...ออ.....”
เขาจัดการยกคนที่ตัวเล็กกว่ามานั่งบนตักในท่าครอบตน หลังจากนั้นก็ใช้แขนซ้ายโอบรอบเอวเด็กหนุ่มให้แผ่นอกเล็กแนบชิดกับตัวเองมากขึ้น แล้วใช้อีกข้างที่เหลืออยู่ตวัดรอบคอเด็กหนุ่มให้ก้มลงมารับบทลงโทษจากตน
“อือ..อ...”
เขาจูบเด็กหนุ่มอยู่อย่างนั้น เพิ่มความร้อนแรงของจูบลงไปเรื่อยๆตามอารมณ์โกรธของตน ไม่สนใจการขัดขืนของเด็กหนุ่ม ยิ่งขัดขืนมากเท่าไหร่เขายิ่งเบียดชิดและเพิ่มแรงจูบมากขึ้นเท่านั้น
จูบที่แสนเนินนาน.....นานจนเด็กหนุ่มที่ไม่เคยผ่านเรื่องแบบนี้มาแทบจะหายใจไม่ทัน จนต้องส่งเสียงอู้อิ้อยู่ในลำคอและออกแรงทุบกำปั้นเล็กของตนเข้ากับแผ่นอกกว้างของอีกฝ่ายเพื่อบอกให้พอ แต่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจการประท้วงนี้เลย มิหนัมซ้ำยังเพิ่มแรงกอดรัดและแรงจูบมากขึ้นไปอีก
เขากำลังติดใจความหวานจากริมฝีปากบางของเด็กหนุ่มจนไม่อยากจะถอยห่างเลยซักแม้วินาที
จนเด็กหนุ่มทนความร้อนแรงนี้ไม่ไหว.....
สลบไปในที่สุด..
“เจ้านายรุนแรงเกินไปหรือเปล่าครับ....คุณหนูคยองซูถึงกับสลบไปเลย” เสียงคนขับรถที่นั่งมองเหตุการณ์ผ่านกระจกมองหลังอยู่นานเอ่ยถามขึ้น
“แล้วแกยุ่งอะไรด้วย....มีหน้าที่ขับรถก็ขับไปอย่างยุ่งเรื่องของเจ้านายถ้าไม้จำเป็น” คริสเอ่ยตอบเสียงเรียบ เขากำลังหงุดหงิดไม่น้อยที่คยองซูเด็กน้อยของเขาหนีสลบไปซะก่อน ทั้งที่เขายังไม่เต็มอิ่มกับรสจูบลงโทษนั้น
แต่อีกใจหนึ่งก็อดนึกดีใจไม่ได้ที่รสจูบของเขาสามารถทำให้เด็กหนุ่มถึงกับสลบได้หรือไม่ก็ดีใจที่ริมฝีปากบางนี้ยังไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน ....แล้วเขาเป็นคนแรกที่ได้สัมผัสมัน
“คร๊าบบบ......เจ้านาย ผมจะไม่ยุ่งเรื่องของท่านอีกแล้วคร๊าบบบ..” ถ้อยคำเอ่ยอย่างล้อเลียนถูกส่งอออกมาจากปากของคนขับรถอีกครั้ง
ซึ่งเรียกสายตาพิฆาตจากเจ้านายสุดโหดอย่างคริสได้เป็นอย่างดี แต่เจ้าตัวก็ยังไม่สะทกสะท้านอะไร ยังคงยิ้มหน้าระรื่นได้อีกเหมือนเดิม
ถ้าเป็นคนอื่นที่มาพูดแบบนี้กับคริส อาจจะได้กลายเป็นศพไปแล้ว
แต่เพราะเป็น....ปาร์ค ชานยอล คนที่เป็นทั้งลูกน้องและเพื่อนสนิท
ของ....คริส....เขาถึงได้ไม่เป็นอะไร
“เดี๋ยวเถอะแก....ลามปามใหญ่แล้วนะ แกเอาเวลามายุ่งเรื่องของฉันไปสนใจหมาน้อยของแกดีกว่านะ สงสัยแกไม่อยู่ป่านนี้หาแฟนใหม่ไปแล้วม้างง....” คริสเอ่ยขู่ออกไป หวังให้ลูกน้องคนสนิทของเขากลัวขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรนัก พร้อมกับยกร่างของคยองซูที่สลบคาตักของตัวเองออกมาวางข้างๆแล้วกดหัวคนตัวเล็กให้วางบนตักของตน
“อ่าว.....อย่าแช่งกันอย่างนี้สิครับ ว่าแต่...เรื่องนั้นจะให้จัดการยังไงต่อครับ” ชานยอลเอ่ยอย่างติดตลก ก่อนจะเข้าสู่โหมดเครียดเอ่ยถามเรื่องสำคัญออกไป
“เอาไว้กลับถึงเกาหลีก่อนค่อยจัดการ .........ตอนนี้ส่งคนของเราให้จับตาดูไว้ให้ดีๆก่อน” เอ่ยตอบกลับไปเสียงเครียด พลางลูบผมนุ่มนิ่มของคนตัวเล็กที่นอนไม่รู้เรื่องรู้ราวไปด้วย
“รับทราบครับ....”
.
.
.
.
“ไม่ต้องห่วงนะคยองซู.....พ่อแม่นายไม่ตายฟรีแน่”
.
.
.
.
“อืม.....ออ...” เสียงส่งออกมาจากเด็กหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงกว้าง พลางพลิกตัวไปมา แสดงให้เห็นว่าคนตัวเล็กกำลังจะตื่นแล้ว เป็นภาพที่หน้ามองอย่างยิ่งสำหรับคนอย่างเขา
ถ้านายไม่เกลียดฉัน.....หรือฉันไม่เคยทำเรื่องเลวๆ
เราสองคน....คงจะรักกันได้......
นายว่าไหม.....คยองซู
“คยองซู....ลุกขึ้นมาทานอะไรหน่อยไหมนายยังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เช้า” ก้มลงกระซิบข้างหูของเด็กหนุ่ม จนคนที่กำลังนอนอยู่ลืมตาขึ้นมา แล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าคนที่เรียกตนตื่นนั้นคือใคร
“คะ...คุณ.... ออกไป...ออกไปให้ห่างๆผมนะ..!” ตะโกนออกไปสุดเสียง พร้อมกับลุกขึ้นเตรียมตัววิ่งหนีออกไปจากห้อง เมื่อรับรู้ได้ว่าตอนนี้เขากำลังอยู่ที่ไหน....
ห้องนอนของคนที่เขาเกลียดที่สุด
“หมับ..!”
“ปะ.....ปล่อยผมนะ...ปล่อย!”
“ทำไม.....กลัวฉันขนาดนั้นเลยเหรอ...เมื่อไม่กี่ชั่วโมงยังอวดเก่งอยู่เลยหนิ หึหึ” คริสเอ่ยเมื่อรับรู้ได้ถึงเสียงและร่างกายที่กำลังสั่นกลัวของคยองซู
อุตส่าคิดว่าเมื่อคนตัวเล็กตื่นขึ้นมาจะทำตัวดีๆด้วยแล้ว แต่ทำไมต้องทำเหมือนกลัวหรือรังเกียจเขาขนาดนี้ด้วย สงสัยเด็กน้อยคยองซูของเขาคงไม่เหมาะกับการอ่อนโยนสินะ?
“ไม่....ปล่อยผมนะ...คนเลวๆอย่างคุณไม่มีสิทธิมาแตะตัวผม..” เอ่ยพร้อมกับออกแรงดิ้นให้หลุดออกจากอ้อมกอดของคนตัวโต
“ไม่มีสิทธิเหรอ.....ทำไมนายถึงคิดแบบนั้นหละ คยองซูที่รัก.. อย่าลืมสิว่าพ่อแม่นายขายนายให้ฉันแล้ว..” ก้มลงกระซิบข้างหูของคนในอ้อมกอดพร้อมกับแกล้งขบใบหูน้อยนั้นด้วย
“มะ...ไม่จริง.....พ่อแม่ผมไม่มีทางทำแบบนั้นกับผมแน่....คุณโกหก ผะ...ผมไม่เชื่อคุณหรอก” ตอบกลับเช่นนั้น แต่ในใจก็แอบกลัวว่าที่ร่างสูงพูดจะเป็นเรื่องจริง
พ่อกับแม่คงไม่ทำกับผมอย่างนั้นหรอกใช่ไหม?
“ไม่เชื่อเหรอ....จะดูสัญญาซื้อขายไหมฉันเก็บไว้นะ เก็บไว้อย่างดีเลยหะในห้องทำงานของฉัน จะดูไหมหละ เดี๋ยวเรียกเด็กไปเอามาก็ได้ หึหึ” เอ่ยออกไปอย่างผู้ที่เหนือกว่า และคำตอบเขาก็ทำให้ร่างกายเล็กที่กำลังดิ้นอยู่สงบลงได้
“ไม่ดิ้นแล้วเหรอ.....เชื่อฉันแล้วหละสิ” ก้มลงไปกระซิบที่หูเล็กๆนั้นอีกครั้ง ออกแรงกอดมากขึ้นจนร่างเล็กต้องเผลอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“อย่าขัดขืนฉัน...อย่าทำสายตาหรือท่าทางรังเกียจฉันอีก....ไม่งันฉันอาจไม่ใจดีอย่างวันนี้แน่”
เอ่ยประโยคนี้ด้วยน้ำเสียงหนักแน่นให้ร่างเล็กรับรู้ว่าเขาทำมันจริงๆแน่ ถ้าร่างเล็กยังเป็นอย่างนี้อยู่อีก ก่อนที่คลอยกอดพร้อมกับหมุนตัวเด็กหนุ่มให้หันมาเผชิญหน้ากับตน ก้มลงจูบปากเล็กๆนั้นแต่ปราศจากการลุกล้ำใดๆ
ก่อนจะผละออก แล้วหลังจากนั้นก็หมุนตัวก้าวเดินออกไป หยุดยืนตรงหน้าห้องเล็กน้อยเพื่อกำชับให้ลูกน้องที่เฝ้าอยู่หน้าห้องให้ดูแลเด็กหนุ่มดีๆอย่าให้เด็กหนุ่มหนีออกไปได้
“อึก...อ...อือ.....พ่อครับ แม่ครับ ..อึก..ช่วยผมด้วย...ผมกลัว..” ทิ้งให้เด็กหนุ่มทิ้งตัวนั่งลงร้องไห้อยู่กลางห้องคนเดียว
ร้องไห้ให้กับโชคชะตาของตน....
ทำไมกันนะ..ทำไมเขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้....
พระเจ้าไม่เห็นใจเขาเลยหรือ?....
..........เฝ้าคิดแต่ว่า......
ถ้าเลือกได้....เขาจะไม่ทำอย่างวันนั้นแน่นอน!!
To be con.
FARRY
ความคิดเห็น