ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -My Sweetheart..You're Everything -KiHae HanHyuk SJ-

    ลำดับตอนที่ #9 : :: Chapter 5 : Camp II ::

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 53


     

     

     

    5

    Camp  II

     

     

     

     

    “....ในระหว่างสี่วันนี้จะมีช่างภาพอย่างแจจินตามเก็บรูปพวกนายตลอดเวลาเลยนะ   ความประพฤติ   การวางตัว   ทุกๆ อย่างที่นายแสดงออกจะมีผลกับคะแนนจากคณะกรรมการ   ดังนั้นจึงอยากให้ทำให้เต็มที่   ให้พวกเราเห็นตัวตนของพวกนายจริงๆ”

     

    จงฮุนกล่าวในฐานะประธาน   หลังจากทุกคนทานอาหารเที่ยงกันเรียบร้อย   กิจกรรมแรกก็เริ่มขึ้น

     

    “เดี๋ยวครับพี่จงฮุน   แล้วเวลาส่วนตัวในห้องล่ะครับ   จะตามไปถ่ายด้วยหรือเปล่า”  ดงเฮเอียงหน้าถาม   แม้จะเรียนอยู่ชั้นปีเดียวกัน   แต่ดงเฮอยากให้เกียรติคนๆ นี้ด้วยสรรพนามนำหน้าว่าพี่

     

    “ก็มีนะ   แต่ถ้าถ่ายอะไรส่วนตัวพี่จะไม่ละลาบละล้วงเท่าไหร่หรอก   ดงเฮสบายใจได้ครับ”

     

    “อ่า  ครับ”

     

    “เอาละนะ   เรามาเริ่มกิจกรรมแรกกันดีกว่า   กิจกรรมนี้ขอตั้งชื่อให้ว่า  กิจกรรมผูกสัมพันธ์นะครับ   ให้ทุกคนจับคู่ตามรูมเมทเลยนะ   แล้วก็ไปยืนประจำจุดที่สีต่างๆ”

     

    จงฮุนอธิบาย   คิบอมกับดงเฮสบตากันนิดหน่อย   หน้าหวานนำไปที่พื้นที่เล็กๆ ที่มีธงสีฟ้าเหลืองปักไว้บนพื้นทราย   น้ำทะเลซัดขึ้นมาพอสนุกเท้า   ดงเฮชอบกิจกรรมนี้ขึ้นมาทันที

     

    “ทุกคนถอดรองเท้านะ”   จงฮุนพูดต่อ   คิบอมกับดงเฮยืนข้างกัน   คู่ถัดไปเป็นซังอากับนิชคุณ   โซลกิกับมินโฮ   และฮงกิกับเจบอม

     

    “คิกๆ  จั๊กกะจี๋เท้าจัง”   ดงเฮหัวเราะชอบใจเบาๆ     คิบอมหันไปมองหน้าหวานเล็กน้อย   ก่อนทำไม่สนใจอะไร

     

    “เกมนี้เล่นกันขำๆ นะ  อย่าคิดมาก   ทุกคู่เอาบอลไปคนละลูก   แนบที่หน้าผากของตัวเองแล้วประคองลูกบอลมาให้ถึงเส้นที่ขีดไว้ตรงนี้   ถ้าคู่ที่สามเข้าเส้นไปแล้ว  คู่ที่สี่ที่เป็นคู่สุดท้ายจะต้องถูกทำโทษ”

     

    ดงเฮหันขวับมามองคิบอมอย่างตกใจ   ก่อนแกล้งเบือนหน้าหนีอย่างไม่รู้สึกอะไร   ทำให้คิบอมยิ้มนิดๆ กับท่าทางกังวลนั่น   จะมายั่วเค้าแท้ๆ แต่แค่ใกล้ชิดกันแค่นี้ยังระแวง  แล้วอย่างนี้หน้าหวานจะไปทำอะไรได้

     

    “พร้อม!

     

    ดงเฮแนบหน้าผากกับคิบอมโดยมีบอลลูกเล็กกั้นกลาง  คนทั้งคู่มองไม่เห็นสายตาของอีกฝ่าย   เห็นเพียงแก้มป่องๆ และแก้มขาวๆ เท่านั้นที่อยู่ใกล้

     

    “อ๊ะ  อ๊าาา” 

     

    ลูกบอลเคลงตัวจะหลุดไม่หลุดแหล่จนดงเฮเผลอครางมือจะตะปบบอลให้หยุดอยู่กับที่   แต่เมื่อจับบอลได้   มือบางก็เท่ากับต้องสัมผัสแก้มป่องๆ ของอีกฝ่ายด้วย

     

    “แก้มอ้วนจัง”   เผลอวิจารณ์ออกไป   คิบอมไม่ได้เคืองโกรธแต่ประการใด   ไม่ได้ปัดมือเล็กๆ นั่นออกเสียด้วยซ้ำ

     

    “แก้มคุณก็ใช่ย่อย”   ว่าแล้วก็เอื้อมมือไปประคองบอลเหมือนกัน  บีบเคล้นแก้มนิ่มที่ขาวนวลเบาๆ เป็นการเอาคืน   มือหนาทับอยู่ที่มือนิ่ม

     

    “แต่มันไม่ได้ป่องแบบนายนี่   อย่างกับอมลูกชิ้นไว้ข้างละสิบลูก” 

     

    คิบอม หยิกแก้มนิ่มนั้นเบาๆ เอาคืน  ส่งผลให้ริมฝีปากบางๆ นั้นเม้มเข้าหากันอย่างขัดใจ 

     

    “นี่   อย่าบีบแก้มชั้นสิ” 

     

    “ที่คุณยังดึงแก้มผมไม่ปล่อย”

     

    “อ๊ะ” 

     

    จริงดังว่า   ดงเฮจับแก้มบวมๆ ของคิบอมไม่ปล่อยจริงๆ

     

    ก็มันเพลินนี่นา

     

    “ปล่อยแล้วนี่ไง”    คิบอมปล่อยมือบ้าง   แต่เนิบนาบเหลือเกิน  

     

    “ประคองบอลดีๆ ล่ะ   เดี๋ยวมันจะพลาด”   คิบอมพูด   เหล่สายตามองเรียวปากอิ่ม   ดงเฮยังไม่ทันได้แย้งอะไร   จงฮุนก็ประกาศให้เริ่มเกมส์

     

    ดงเฮและคิบอมเริ่มออกเดิน   คิบอมก้าวขวา   ดงเฮก้าวซ้าย   เดินในทางเอียงของทิศทางตน   มือดงเฮทำท่าจะประคองลูกบอลอยู่ตลอดเวลา  

     

    “จะตกๆๆๆ   จะตกแล้ววว”   ดงเฮโวยวาย   เป็นจริงตามปากว่า  ลูกบอลร่วงตกลงไปจริงๆ

     

    “คุณอยู่นิ่งๆ ได้บ้างมั้ยเนี่ย”  คิบอมพูดแล้วก้มเก็บบอล   พวกเขาต้องเดินกลับไปเริ่มที่จุดเดิมใหม่พร้อมกับฮงกิและเจบอมที่ทำบอลหล่นเหมือนกัน

     

    “อ้าว   เรื่องอะไรมาโทษชั้นล่ะ   บอลมันก็อยู่ระหว่างชั้นกับนายนะ”

     

    “แล้วใครที่บิดตัวไปมาล่ะ   บอลมันไม่ตกง่ายๆ หรอกน่า   คุณก็ตื่นเต้นไป” 

     

    “ชิส์”   ดงเฮส่งเสียงถูกขัดใจ

     

    “เอ้า   เร็วสิ   ยื่นหน้ามา”   คิบอมพูด   เขาต้องโน้มตัวมาเพื่อให้ระดับใบหน้ากับร่างบางตรงกัน   คนอะไรนะ  ตัวเล็กได้อีก

     

    “รู้แล้วน่า”

     

    ทั้งสองออกเดินอีกครั้ง   ดูดงเฮจะนิ่งกว่าครั้งแรกมาก  

     

    “อ๊ะๆๆ”  เผลอตัวอีกแล้ว   บอลทำท่าจะเคลงนิดหน่อย   ดงเฮก็จะเอื้อมมือไปรับลูกเดียว

     

    หมับ

     

    “จับมือชั้น   จะได้ไม่ซนอีก”   คิบอมคว้ามือเล็กๆ ทั้งสองไว้   ประคองบอลไว้ได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง

     

    “บะ  บ้า   ปล่อยสิ   ชั้นไม่จับแล้ว”

     

    “ไม่ต้องเลย   เดี๋ยวก็ต้องไปเริ่มใหม่อีก   เรารั้งท้ายอยู่นะ”   คิบอมใช้เหตุผลเข้าข่มจนดงเฮต้องจำยอม

     

    “ชิส์   ก็ได้”

     

    คนแก้มป่องลอบยิ้มกับหน้าหวาน   นิสัยตลกชะมัด

     

    “อ๊ะ”   ดงเฮอุทาน   บอลมันเลื่อนต่ำลงมาอยู่ที่ปลายจมูกของคิบอมและปากของเขา   ให้ความรู้สึกเหมือนดงเฮกำลังจูบปลายจมูกคิบอมอยู่ยังไงยังงั้น

     

    “อีกนิดนึง”  คิบอมบอกเบาๆ   ประคองบอลให้มั่นคง   ส่งผลให้ดงเฮต้องเม้มบดเบียดริมฝีปากกับบอลลูกเล็กตามไปด้วย

     

    “อื้อ...”  

     

    “ระวังนะ”   คิบอมบอก   สายตาจับจ้องที่ปากบางๆ นั้นอย่างทำใจละไปไม่ได้

     

    “อ้ออะอังอู่อี้ไอเอ้า    (ก็ระวังอยู่นี่ไงเล่า)”  

     

    คิบอมจับมือบางๆ ไว้แน่นไม่ยอมปล่อย   ดงเฮก้าวเท้าไปตามที่ร่างสูงชักนำ   แต่ก็...

     

    “หมดเวลาแล้วครับ!   คู่ที่สามเข้าเส้นชัยแล้วเรียบร้อย   คิบอมกับดงเฮแพ้นะคร้าบ”   ซึงฮยอนประกาศ   ดงเฮยู่ปากอย่างขัดใจน้อยๆ พองาม   แพ้จนได้

     

    คิบอมดึงบอลออกช้าๆ  สังเกตเห็นว่าริมฝีปากแดงๆ ของดงเฮบวมเจ่อเล็กน้อย   เหมือนเพิ่งผ่านสมรภูมิ Deep Kiss มาก็ไม่ปาน

     

    “คิบอมกับด๊องต้องถูกทำโทษนะคร้าบ”  ซึงฮยอนพูดใส่โทรโข่ง   “แต่ว่า   ยังไม่ใช่ตอนนี้ครับ   ยังมีกิจกรรมตอนกลางคืนอีกนะครับสำหรับวันนี้   ทุกคนจะได้เล่นปาร์ตี้ริมหาดและเกมส์ลงโทษอีกเล็กๆ น้อยๆ ครับ   ตอนนี้พวกเราไปบำเพ็ญประโยชน์กันก่อนดีกว่านะครับ”  

     

    ดงเฮแอบสงสัยไม่ได้กับบทลงโทษนั้น   กระซิบถามจงฮุนเบาๆ

     

    “พี่จงฮุนฮะ   ลงโทษยังไงเหรอฮะ”

     

    “หืม   ฮ่าๆ   อันนี้พี่คงบอกไม่ได้หรอกนะ  เดี๋ยวไม่เซอร์ไพรส์”

     

     

     

     

    ---- My sweetheart…  You’re Everything ----

     

     

     

     

     

    “พอเถอะค่ะพี่ซีวอน   ดื่มไปก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมาเลยนะคะ”   ซอนยีห้ามปราม   ดึงแก้วใสที่บรรจุน้ำสีอำพันออกจากมือของรุ่นพี่หน้าหล่อ

     

    “ปล่อยเพ่ซอนยี   เพ่จากิน  เพ่จามาววว   เพ่มานม่ายมีคายยยต้องกานนน”   ซีวอนมึนๆ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์

     

    “โอ๊ย  ไม่ไหวแล้วนะ   จู่ๆ ก็มาที่ผับแล้วเอาแต่ดื่มๆๆๆ  ซอนยีเหนื่อย!   สาวเจ้าบ่น  เกาหัวตัวเองแกรกๆ  ไม่รู้จะจัดการยังไง

     

    “เพ่...  เพ่ฮีซอลลล  ทำมาย   เพ่ทิ้งโผมทามมายยย”  อาจเป็นเพราะแอลกอฮอล์กัดกินความเข้มแข็งของซีวอนไปเกือบครึ่ง  น้ำตาลูกชายไหลออกมาเงียบๆ  ไม่มีเสียงสะอื้น  มีเพียงคำพูดตัดพ้อถึงคนหน้าสวยอย่างเจ็บปวด

     

    ซอนยีมองอย่างสงสาร   สติของซีวอนตอนนี้หลุดลอยไปไหนไม่ทราบ   ผู้หญิงร่างเล็กๆ แบบเธอก็ไม่มีแรงพอจะแบกผู้ชายหุ่นนายแบบคนนี้กลับได้หรอก

     

    “อ๊ะ...”

     

    ซอนยีอุทานเบาๆ เพียงเท่านั้น   ก่อนเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์   คว้าโทรศัพท์ของซีวอนที่อยู่บนโต๊ะมากดค้นหาอะไรซักอย่าง   ไม่นานนักซอนยีก็ระบายยิ้มที่ดูร้ายๆ พิกล   เมื่อเห็นชื่อบางชื่อปรากฏ

     

    Cinderella’s

     

    “สวัสดีค่ะพี่ฮีซอล”   ซอนยีแม่หญิงจอมจุ้นกรอกเสียงใส่โทรศัพท์  

     

    [ใครน่ะ?]

     

    “ซอนยีเองค่ะ   รุ่นน้องที่คณะของพี่ซีวอนไงคะ”

     

    [งั้นเหรอ   โทรมามีอะไร]

     

    “พอดีว่าซอนยีมีเรื่องจะรบกวนนิดหน่อยน่ะค่ะ”   ซอนยีพูดเสียงหวาน

     

    [เรื่อง]   ฮีซอลถามเสียงแข็ง

     

    “พี่ซีวอนน่ะค่ะ   คือตอนนี้พี่เค้าออกมาเที่ยวกับซอนยีน่ะค่ะ”   สาวเจ้าโหมไฟหึง   ผู้หญิงสวยย่อมดูผู้หญิง(?)สวยกว่าได้ออก

     

    [แล้วไง]   ฮีซอลถามเสียงไร้อารมณ์   ข่มความรู้สึกโกรธที่ปะทุขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้

     

    “ก็ซอนยีไม่รู้จักบ้านพี่เค้าน่ะค่ะ    ซอนยีเลยไม่รู้จะไปส่งพี่เค้ายังไง”

     

    [ก็พาไปนอนกับเธอซะสิ]   ฮีซอลประชดใส่   ซอนยียิ้มอย่างนึกขัน

     

    “วันนี้คุณพ่อซอนยีอยู่บ้านน่ะค่ะ”

     

    [นี่เธอ!]   ผู้หญิงคนนี้สะกดคำว่ายางอายเป็นมั้ยวะเนี่ย

     

    “พี่ฮีซอลมาช่วยซอนยีทีสินะ   นะคะ   อ๊ะ...”   เสียงหายไปแค่นั้น   ฮีซอลได้ยินเสียงเหมือนคนจูบกับจ๊วบจ๊าบเข้ามาแทรกแทน   “อื้มมม....”

     

    […..]

     

    “อุ๊ย   ขอโทษค่ะพี่    ตอนนี้ซอนยีอยู่ที่ผับดาร์คเฮิร์ทข้างๆ มหาลัยนะคะ   สวัสดีค่ะ”

     

    ซอนยีวางสายไปแล้ว   ทิ้งให้ฮีซอลกระวนกระวายคว้ากุญแจรถแล้วมุ่งไปที่ผับดังกล่าวทันที  เสียงที่เค้าเพิ่งได้ยินผ่านสายโทรศัพท์   คงไม่ใช่...  

     

    ไอ้ซิมบ้า!   ถ้าแกไปทำอะไรกับแม่นั่นจริงๆนะ   ชาตินี้ทั้งชาติชั้นจะไม่ยุ่งกับแกเลย!   คอยดู!

     

     

     

     

    “สนใจไปดริ๊งค์กับผมมั้ยครับ?”   ฮีซอลถูกชายแปลกหน้าขวางไว้ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาภายในผับ   เสียงดนตรีดังกระหึ่ม   แสงไฟวาววับตัดกับพื้นที่มืดสลัว    แต่ตอนนี้เค้าไม่มีอารมณ์สุนทรีย์กับสถานที่คาวโลกีย์หรอกนะ   รีบผลักผู้ชายที่ขวางให้พ้นทางโดยไม่สนใจเสียงไล่หลัง

     

    “เฮ้!   คนสวย   ไปกับผมหน่อย”

     

    “ชั้นเป็นผู้ชาย!

     

    “ก็นั่นแหละ”

     

    ฮีซอลส่ายหัวกับความปัญญาอ่อนของคนที่เพิ่งมาจีบเค้า   เดินหนีไปทางห้องวีไอพี   เสียงตอนคุยโทรศัพท์เงียบเหลือเกิน  

     

    ซีวอนกึ่งนั่งกึ่งนอนอย่างหมดสภาพบนโซฟาภายในห้องวีไอพีห้องที่สอง   ฮีซอลเปิดประตูเข้าไปแล้วปราดไปหาคนที่ไม่ได้สติอยู่ทันที   ไม่ได้สังเกตเลยว่าซอนยีไม่ได้อยู่ในห้อง  

     

    “ไอ้ซิมบ้า   ไอ้สิงโต   ...ซีวอน  ซีวอนๆ”   ฮีซอลตบแก้มซีวอนเบาๆ

     

    “อืม...   เพ่   ฮีซอนนนของงงผมมม    เพ่ทิ้งงง   เพ่ทิ้งงง   ทิ้งงง”   ซีวอนพร่ำเพ้อเมื่อเห็นหน้าสวยอยู่ใกล้ๆ  

     

    “ทิ้งบ้าอะไร   นายเมาแล้วนะ”

     

    “ผมมมเมา    ช่าย   เพราะเพ่    เพ่อีกแล้ววว”   ใช่   เป็นฮีซอลอีกแล้วที่มีอิทธิพลกับเขามากมาย

     

    “เพราะชั้นอะไร   ชั้นไปทำอะไรให้นายอีก   ฮะ”   ถามคนเมา   ฮีซอลคุกเข่าลงกับพื้นแล้วคุยกับซีวอน   เห็นเด็กบ้าสิ้นฤทธิ์แล้วก็ด่าไม่ออก

     

    “เพ่เห็นมาน    สำคัญ   มันสำคัญ...  กว่าผมม”   พูดชัดกว่าครั้งก่อนเป็นไหนๆ  ความรู้สึกอัดอั้นระบายออกมาให้ฮีซอลรับรู้บ้าง   ในบางเวลาที่ฮีซอลอยู่ตรงกลางระหว่างเค้ากับใครต่อใคร   ซีวอนเองนั้น    ก็อยากให้คนที่ฮีซอลเลือกใส่ใจ   เป็นตัวเองบ้าง...

     

    หน้าสวยเริ่มเข้าใจ   คงเป็นเรื่องเมื่อตอนบ่าย   แต่เค้าเอง   ก็ไม่คิดว่าซีวอนจะเก็บไปคิดจนฟุ้งซ่านเมามายแบบนี้  

     

    คำพูดของชั้นมันสำคัญกับนายมากนักรึไง   ซีวอน...

     

    “พอๆๆ  เพ้อเจ้อน่า” 

     

    “ม่าย   ผมม่ายด้ายเพ้อเจ้อ”   ซีวอนยังเถียง

     

    “ไม่เรียกเพ้อเจ้อแล้วเรียกอะไร”   แน้   กับคนเมาฮีซอลยังเอาเรื่อง

     

    “เห็นเค้าเรียก...  งืม   ว่าไรน้า   อ้า   ช้ายยแล้ววว   เค้าเรียก   หึงอ่าค้าบบบ”   ซีวอนอ้อนตามประสาคนเมาไม่รู้เรื่อง   สงสัยเก็บกดมานาน   คงจะอยากทำแบบนี้มานานแล้วสิท่า

     

    “อะ   ไอ้บ้า”   ฮีซอลหน้าแดง   ด่ากลบเขิน

     

    “ม่ายบ้า   ผมม่ายบ้า   แต่...  ถ้าผมมมยอมบ้าาา   เพ่จาอยู่กับผมมั้ยยย”

     

    ฮีซอลนิ่งอึ้งกับคำถามนั้น   เค้า...  ควรจะตอบว่ายังไงดี

     

    “เพ่บอกผมหน่อยยย”   ซีวอนขัดจังหวะการคิดของฮีซอลทั้งๆ ที่ตนยังคงหลับตา  ซ่อนความเจ็บปวด

     

    “บอกอะไร”

     

    “เมื่อคืน...  เพ่ปายทำอะไรกับมาน” 

     

    เมื่อคืน?   เท่าที่จำได้ก็นั่งคุยกับด๊องนี่นา   แล้วก็ไปนอน   แล้วเค้าไปทำอะไรกับใครที่ไหน...   อ้อ   จริงสิ  

     

    ฮีซอลนึกได้ถึงบทสนทนาที่ล่อแหลมในห้องอาหารของมหาวิทยาลัย    ประมาณว่าเมื่อคืนนี้เค้ากับเจย์ไปถึงไหนต่อไหนกัน      ก็คิดไม่ถึงอีกนั่นละ   ว่าซีวอนจะเก็บมาคิดมากขนาดนี้

     

    “เปล่าหรอก   เมื่อคืนชั้นอยู่บ้าน   ไม่ได้ออกไปไหน”

     

    “จริงๆ นะ”  ซีวอนลืมตาแล้วเข้ามาเขย่าแขนเล็กก่อนถามเพื่อความมั่นใจ

     

    “อืม  จริง”

     

    “ดีใจจัง”   ซีวอนพูดแค่นั้นแล้วดึงร่างบางเข้าสู่อกแกร่ง

     

    “กลับบ้านนะ”   เสียงหวานอ่อนโยนขึ้นนิดหน่อย   เสเปลี่ยนเรื่อง   ถอยตัวเองออกจากอ้อมกอดของซีวอน   กลบเขิน

     

    “อือ...   บ้านนน  ของเพ่”

     

    “เฮ้ย   บ้านนายเซ่”

     

    “ม่ายเอา  ผมอยากอยู่กับเพ่  อืม...”  ซีวอนงัวเงีย   ฮีซอลอยากจะปฏิเสธ   ดงเฮก็ไม่อยู่บ้านซะด้วยสิ

     

    เฮ้ย   แกจะไปกลัวอะไรวะฮีซอล   คิดว่าไอ้ซีวอนมันจะปล้ำรึไง   คิดว่าจะสู้มันไม่ได้รึไง   เฮอะ   ไม่มีทาง!

     

    ……

     

    เหรอ~~~

     

    ฮีซอลประคองร่างแข็งแรงของซีวอนไปที่รถคันงามอย่างทุลักทุเล   ยังดีหน่อยที่ซีวอนสงสารพยายามไม่ทิ้งน้ำหนักลงไปมาก   รถสวยแล่นออกไปจากผับตรงไปยังบ้านของหน้าสวย   ทิ้งให้หญิงสาวที่ยืนแอบดูอยู่บริเวณนั้นตั้งแต่แรกยิ้มกว้างอย่างสนุกสุดฤทธิ์

     

    “เฮ่อ   สำเร็จจนได้   เสียงจูบนั่นใช้การได้จริงๆ   ไม่เสียแรงที่ยอมลงทุนจนมือแดงเลย”  

     

    ซอนยีบ่นนิดๆ แล้วยิ้มอีกครั้ง  สะบัดมือเล็กๆ ที่หลังมือนั้นแดงเถือกไปมา   ก็ใช่น่ะสิ   เธอลงทุนดูดดื่มจูบจ๊วบจ๊าบกับหลังมือตัวเองให้เสียงนั่นได้ลอดผ่านไปเข้าหูฮีซอลขนาดนั้นจนหน้าสวยต้องรีบมาหาถึงที่   คุ้มกับที่ลงทุนจริงๆ

     

    ...ถึงว่า   ซีวอนถึงได้บอก   ผู้หญิงฉลาดๆ  น่ากลัวจริงๆ...

     

     

     

     

    ----  My  Sweetheart…  You’re  Everything  ----

     

     

     

     

    “ครับ   ผม... จะพยายามครับ”   ดงเฮพูดเขินๆ

     

    [พยายามอะไรล่ะด๊อง   ขนาดนี้แล้ว   นี่ถ้าด๊องไม่เล่าเรื่องตอนอยู่บนรถให้พี่ฟังนะ   พี่คงไม่รู้เลยว่าน้องพี่เด็ดขนาดนี้]   อิทึกพูดอย่างตื่นเต้น   เค้าแค่ช่วยวางแผนเรื่องนั่งใกล้ๆกับคิบอมเฉยๆ  ไม่นึกว่าไอ้ที่นั่งใกล้น่ะจะเป็นนั่งติดกัน   แถมยังมีกอด   มีซบ   พระเจ้า!   น้องเค้ายั่วเก่งสุดๆ

     

    “เอ่อ   แหะๆ”  

     

    [ต่อไปก็ตามแผนเลยนะ   เอาเสื้อกับกางเกงที่พี่ให้ไปรึเปล่าน่ะ]

     

    “เอามาฮะ   แต่ผมว่าไม่น่าจะใช้คืนนี้...” 

     

    [อ้าว  ทำไมล่ะ]   อิทึกสนุกไปตามเกมส์ของน้องรัก

     

    “ก็มันตั้งสามคืน   ถ้ามุกหมดแล้วผมจะทำยังไงล่ะครับ”

     

    [เออว่ะ   โหยยย   น้องพี่ฉลาดจริงๆ เลย   สมแล้วที่มีเลือดแบบเดียวกับฮีนิมอยู่ในตัว]   อิทึกพูดถึงเพื่อนสนิท   ทำให้ดงเฮนึกขึ้นมาได้

     

    “จริงสิครับ   แล้วพี่ฮีซอลล่ะฮะ”

     

    [อ๋อ   รายนั้นเค้าทะเลาะกับซีวอนอีกแล้วอ่าดิ   ประชดไปประชดมาเหมือนลูกตุ้มเลย   ซ้ายทีขวาที   พี่ละมึน   นี่ก็เพิ่งกลับมาจากบ้านฮีนิมเนี่ย   จู่ๆ พอรับโทรศัพท์แล้วก็ขับรถออกไปเลย   หน้าตาบอกบุญไม่รับเลยตอนนั้น   นี่ๆ  จะบอกให้นะ   ซีวอนเค้าหึงฮีนิมด้วยละวันนี้  อิอิ]   อิทึกร่ายยาวเห็นเป็นเรื่องสนุก   [ด๊องลองโทรหาฮีนิมหน่อยแล้วกันนะจ๊ะ   เท่านี้ก่อนนะ   พอดีพี่นัดกับตาหมีไว้น่ะ]  

     

    “ครับ   เที่ยวให้สนุกนะครับ”

     

    [จ้า   บ๊ายบาย]

     

    “บ๊ายบายครับ”

     

    ดงเฮวางสายจากอิทึก   แล้วต่อโทรศัพท์ถึงฮีซอล

     

    [ฮัลโหล]   ฮีซอลที่เห็นเป็นเบอร์ดงเฮจึงกดรับ

     

    “พี่ทำอะไรอยู่อ่า”

     

    [ขับรถ   แป๊บนึง]   ดงเฮรู้สึกเหมือนจะฮีซอลจอดรถข้างทางแล้วหยิบ Bluetooth ขึ้นมาเชื่อมต่อ   ก่อนออกรถอีกครั้ง

     

    [ได้ละ   เป็นไงบ้าง]

     

     “ก็ดีฮะ   น้ำทะเลที่นี่น่าเล่นมากกก   ไว้คราวหน้าเรามาเที่ยวกันนะ”

     

    [อืม  ได้สิ   แล้วเหยื่อแกเป็นไงมั่ง]

     

    “อ่า   ก็เรื่อยๆ นี่นา   ผมจะโทรมาถามพี่ว่าพี่เป็นไงมั่ง”

     

    [เป็นไงล่ะ  ก็ดี   ปกติ]   ฮีซอลตอบเรียบๆ

     

    “แต่คนอย่างพี่อะไรที่มันปกติมันจะไม่ค่อยปกติน้า  ฮ่าๆ”

     

    [ไอ้ปลา]  ฮีซอลขู่   ดงเฮไม่ได้กลัวแม้แต่น้อย  แน่นอน   ไกลมือไกลตีนแล้วนี่

     

    “เอ้าๆ   ตกลงพี่กับซีวอนเป็นไงมั่งล่ะ”

     

    [เฮอะ   ไอ้ทึกคงแพล่มให้แกฟังอีกล่ะสิ]

     

    “ก็นิดหน่อย    พี่อยากบอกผมรึเปล่าล่ะครับ”

     

    [...เฮ่อ   ไม่รู้สิ   ชั้นกำลังสับสนอะ   ชั้นเผลอไปทำให้ไอ้ซิมบ้านี่เสียใจอีกแล้ว   เมาไม่รู้เรื่องเลย   กำลังขับรถไปส่งที่บ้านเนี่ย]   ฮีซอลอธิบาย   เลือกที่จะเก็บความลับที่ว่าเป็นบ้านของเค้าและดงเฮเอาไว้   บอกให้น้องนี่รู้มีหวังโดนแซวตาย

     

    “อะนะ   ดูแลเค้าหน่อยก็แล้วกัน   ผมว่า   ที่พี่ซีวอนตามพี่มาเป็นปีๆ เนี่ย   เค้าคงไม่ได้คิดกับพี่แค่พี่น้องหรอกมั้ง   แล้วพี่ล่ะ   คิดไง”   ดงเฮรวบรัดถาม   ฮีซอลอึ้งไปนิดๆ   

     

    นั่นสิ   แล้วชั้นล่ะคิดยังไง...

     

    แอ๊ด...

     

    ประตูห้องน้ำเปิดออก   คิบอมก้าวออกมาพร้อมชุดลำลองที่แต่งแล้วเรียบร้อยภายในห้องน้ำ   ดงเฮที่อาศัยเวลาช่วงที่คิบอมอาบน้ำคุยโทรศัพท์ต้องรีบวางสาย

     

    “งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ   ครับ   ผมจะดูแลตัวเอง  ส่วนพี่ก็ดูแลเค้าไปละกัน   ฮิฮิ   ฝันดีนะครับ  บ๊ายบาย”   ดงเฮร่ำลาอย่างประจำและแอบแซว   วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะเล็กๆ ข้างหัวเตียงตามเดิม

     

    “เสร็จแล้ว”   รูมเมทบอกสั้นๆ แล้วโน้มตัวลงนอนพัก   อีกประมาณชั่วโมงจะมีกิจกรรมตอนกลางคืนอีก   นี่แค่ตอนบ่ายไปบำเพ็ญประโยชน์ให้สาธารณะยังเหนื่อยจะตาย   ยังจะมาจัดงานบ้าบอนี่อีก

     

    “อืม   ชั้นจะอาบน้ำแล้วนะ”   ดงเฮบอกแค่นั้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป 

     



     

     

    ---- My sweetheart…  You’re Everything ----

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×