คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #80 : :: Chapter 55 : In fitting room ::
[ ไอ้โหด :: Calling ]
[ ไอ้โหด :: Calling ]
[ ไอ้โหด :: Calling ]
[ 3 Miss Call :: ไอ้โหด ]
[ ไอ้โหด :: Calling ]
"โอ๊ย!!! ฮันกยอง ชั้นจะนอน!!!” ฮยอกแจแว๊ดลั่นโลก ทำเอาอีกฝ่ายหูแทบแตก
[หนูเล็กอ่า ตื่นได้แล้ว ไปข้างนอกกัน]
“ไม่ จะนอน”
[ผมขอร้อง]
“ไม่”
[งั้นผมบังคับ]
“อะไรของนายเนี่ย ทำไม ม๊านายป่วยเหรอ”
[โหย แรง ไปโยนโบว์กันเหอะ]
กว่าร่างเล็กจะถึงลานโบว์ลิ่งฮันกยองก็เก็บแต้มสไตรค์ไปได้เกือบเต็มสกอร์ พอร่างบางมาถึงก็คะยั้นคะยอชวนให้เล่น ยิ่งฮยอกแจบอกว่าเล่นไม่เป็นก็ยิ่งแล้วใหญ่ ฮันกยองชอบใจท่าทางเก้ๆ กังๆ แต่ตั้งใจนั้นอย่างบอกไม่ถูก
“หักไหล่ลงนิดนึง อย่าเกร็งนะหนูเล็ก ค่อยๆ ขยับข้อมือ” ฮยอกแจพยักหน้ารับตั้งใจฟังเต็มที่ ยิ่งเห็นก็ยิ่งขำ “ยกสะโพกขึ้นอีกนิด ส่ายเบาๆ ปรับสมดุลในร่างกาย”
“สมดุลบ้านอาอี๊นายสิ ทะลึ่ง ได้ยังอ่ะ มันหนักนะ”
“ฮ่ะๆ ถ้าคิดว่าโอเคแล้วก็ได้เลยครับ”
“อืม”
ฮยอกแจโยน... เรียกว่าโยนคงจะถูกต้องที่สุดสำหรับท่าทางของคุณหนูลี ปลายเท้าขวาวาดไปด้านหลังและโค้งเรียวอย่างสวยงาม สะโพกมนบิดไปตามสรีระประหลาดๆ ตามธรรมชาติของคนเล่นไม่เป็นและถูกสอนมาให้แอ็คท่าดูดีไว้ก่อนจากฮันกยอง ครูฝึกแอบกระหยิ่มยิ้มในใจแล้วมองก้นงอนที่ส่ายน้อยๆ นั่นด้วยสายตากรุ้มกริ่ม
“โอ๊ะ ไม่เล่นแล้ว เสียอารมณ์”
ฮยอกแจเท้าสะเอว พ่นลมหงุดหงิดใจกับฝีมือตัวเอง เดินฉับๆ ออกไปไม่บอกกล่าว
“ไม่เล่นอีกหน่อยเหรอหนูเล็ก สนุกดีออก”
“ไม่ต้องมาพูด ก็บอกอยู่ว่าเล่นไม่เป็นๆ ยังจะยุให้ชั้นทำอีก”
“ทำไมเล่า มองโลกในแง่ดีบ้างสิ อย่างน้อยคุณก็ทำให้ล้างท่อซะสะอาดเอี่ยมเลยนะ” ฮันกยองยิ้มเผล่
“ตลกตายล่ะ”
เดินออกมาจากลานโบว์แล้วร่างเล็กก็แวะเข้าไปดูเสื้อผ้าในร้านให้ฮันกยอง หมู่นี้ชักจะเห็นเสื้อซ้ำๆ กันของไอ้โหดนี่มากเกินไปหน่อยแล้ว ระหว่างน้องอ่อนแอ(?)เลือกเสื้อไปก็บ่นไปด้วย
“พักนี้นายใส่แต่เสื้อเดิมๆ ซ้ำกันบ่อยนะ เสื้อผ้าไปไหนหมด”
“อ่า อยู่ในกระเป๋าน่ะครับ”
“อะไร แพ็คกระเป๋าก่อนตั้งอาทิตย์นึงเลยเหรอ บ้าหรือเปล่า”
ฮันกยองบอกตั้งแต่เดือนที่แล้วว่าอาทิตย์หน้าเขาจะต้องบินกลับไปจีนเพื่อเยี่ยมแม่และญาติคนอื่นๆ เหมือนทุกปีเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ แต่ฮยอกแจก็ไม่นึกว่าผู้ชายคนนี้จะติดนิสัยแปลกๆ ทำอะไรแบบนั้น
ปากพูดไปก็หยิบเสื้อที่คิดว่าเข้ากับฮันกยองมาทาบร่างสูงไปด้วย
“ก่อนไปผมจะยุ่งๆ น่ะ อีกอย่างเสื้อผ้าที่นู่นตัวมันก็เล็กไปหมดแล้วเลยเอาไปเกือบหมดตู้ เหลือไว้สองสามตัวเอง”
“งั้นวันนี้ก็ซื้อเสื้อที่นี่แล้วเอาไปยัดตู้ที่ว่างของนายซะ โอเคมะ”
“อาฮะ ฮยอกแจตัวนี้สวยมากเลย”
“นายจะเอาเหรอ” ฮยอกแจทำหน้าประหลาด ก็ดูสิ สีแดงเปรี้ยวเซี้ยวซ่าโฉบเฉี่ยว ดูเซ็กซี่นิดๆ กับคอเสื้อที่กว้างโชว์ไหล่ แถมยังมีเกล็ดเพชรประดับอยู่ที่อกซ้ายเป็นรูปหัวใจอีก แต่ที่ถูกใจฮันกยองคงจะเป็นภาษาจีนที่เขียนไว้ใต้รูปหัวใจนั้นมากกว่า
“คุณสิไม่ใช่ผม ผมใส่ก็ตลกตาย”
“แล้วภาษาจีนนั่นมันแปลว่าอะไร”
“แปลว่า...ชั้นอยากจะเป็นของคุณ”
ชายหนุ่มเบือนหน้ามาพูดความหมายด้วยสายตาหวานหยด หากเป็นปกติฮยอกแจคงจะร้องกวนๆ กลับไป แต่เพราะตอนนี้มีคำพูดแบบนั้นออกมาจากปากฮันกยองเลยทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นไหวเหมือนสมัยคบกันแรกๆ
“ลองใส่ตัวนี้นะหน่อยฮยอกแจ นะๆ”
“ฮะ? ไม่เอา ชั้นไม่ได้บอกนายว่าจะเอาสักหน่อย นายชอบก็ใส่เองสิ”
“คุณหนูเล็กสมองเล็กอีกแล้วนะ เสื้อตัวแค่นี้ผมจะใส่ได้ไง”
“งั้นก็ไม่ต้องใส่ เอาไปเก็บเลย”
“พลีสสสสส”
“จะอ้อนทำไมเนี่ย ไม่ได้น่ารักเลยนะ”
“ไม่ใส่จูบ” ไม้อ่อนใช้ไม่ได้ฮันกยองก็งัดไม้แข็ง
“ไอ้... เออ ก็ได้ฟะ”
คนตัวเล็กหน้าบูด คว้าเสื้อเจ้าปัญหาแล้วจ้ำอ้าวไปที่ห้องฟิตติ้งเพื่อลองชุดให้ไอ้คนหื่นที่อยากจะเห็นเขาแต่งตัวเว้าแหว่งซะเต็มที่นั่นดูให้เต็มตา
ฮันกยองนั่งรออยู่หน้าห้องนั้นใจจดใจจ่อ ซ้ำร้ายยังทำตาขวางใส่คนอื่นๆ ที่จะเข้ามาลองชุดบ้างอีกจนไม่มีใครเข้ามายุ่มย่าม แม้แต่พนักงานของร้านเองก็เถอะ
ไม่กี่นาทีถัดมาร่างเล็กก็เดินออกมาพร้อมเสื้อตัวใหม่ที่เพิ่งผลัดเปลี่ยน อาภรณ์สีแดงสดขับผิวขาวสะอาดยิ่งกว่าผิวเด็กให้เปล่งปลั่งยวนตา เหมือนดั่งดวงตะวันที่คอยฉายแสงในหัวใจฮันกยองปรากฎกายขึ้นตรงหน้านี้แล้ว
“หนูเล็กเซ็กซี่เป็นบ้าเลย”
“ไอ้หื่น”
“พอใจหรือยัง ชั้นจะไปเปลี่ยนแล้ว”
ใจนึงก็นึกอยากจะเอาฮยอกแจไปอวดโฉมและประกาศให้โลกทั้งโลกรู้เอาไว้ว่าลีฮยอกแจเป็นของใคร แต่อีกใจก็หวงผิวขาวๆ ดวงหน้าจิ้มลิ้มน่ารักนั่นจนแทบไม่อยากให้ใครได้เห็น
“งั้นเอาตัวนี้นะหนูเล็ก”
“ไอ้โหดโคตรหื่น!!!”
ฮยอกแจบริภาษอีกคำแล้วเดินกลับเข้าไปเปลี่ยนเสื้อ แน่ใจว่าฮันกยองจะไม่ลุกไปไหนนอกจากนั่งเฝ้าเขาเป็นหมาหวงเจ้าของแบบนั้นก็วางใจไม่ได้ลงกลอนห้องลองเสื้อแคบๆ นี้แต่อย่างใด
แต่ดูเหมือนลีฮยอกแจจะคิดผิด ...
“ผมไปรอหน้าร้านเลยนะ”
“กลับไปรอบ้านเลยก็ได้” ฮยอกแจประชด แทบแทรกแผ่นดินหนีเมื่อสติสตังกลับมาครบและสำนึกได้ว่าตัวเองกับไอ้โหดหื่นนี่ทำอะไรลงไปในห้องฟิตติ้งแคบๆ นี่
ฮันกยองเดินยิ้มกริ่มออกไปก่อน ฮยอกแจหันมองคราบสีขาวและหยดน้ำที่พื้นอย่างเหนื่อยอ่อน ใช้ฝ่าเท้าที่มีถุงเท้าหุ้มเช็ดกระจกที่เปียกและพื้นที่เอ่อนองหยดน้ำเล็กๆ ซับคราบน่าอายทั้งหมดจนถุงเท้าเปียกชุ่ม
ลีฮยอกแจสาบาน ให้ตายยังไงก็จะไม่มีวันลืมเรื่องนี้แน่!!!
ฮันกยองถือถุงสองถุงพร้อมมือของฮยอกแจอีกข้าง แวะทานอาหารที่ฟู๊ดส์เซ็นเตอร์ ฮยอกแจชอบอะไรง่ายๆ และไม่ยุ่งยากถึงเลือกทานอะไรแบบนี้ รู้ดีว่าไอ้ผีจีนมันรวยและสามารถเลี้ยงลีฮยอกแจเป็นสิบคนให้สุขสบายไปตลอดชีวิตได้ เพียงแต่ว่าอะไรที่ฮยอกแจเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องจำเป็นก็ไม่อยากเสียเงินโดยใช่เหตุ แต่อยากได้เรียกว่างก เรียกว่าใช้เงินเป็น
“กินอาหารแพงๆ แบบนั้นไม่ใช่ต้องมีเงินอย่างเดียวนะ ต้องโง่ด้วย”
“ผมแค่อยากให้คุณกินอะไรดีๆ”
“นี่ไม่ดีตรงไหน คาโบนาร่านายชั้นกินเนื้อได้เป็นร้อยชิ้น” ฮยอกแจเท้าคางมองคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม
“โอเคๆ ผมยอมแพ้”
“เออนี่ ชั้นง่าจะถามนายตั้งนานแล้ว ทำไมนายต้องย้ายมาเกาหลีล่ะ ตอนแรกก็อยู่จีนไม่ใช่เหรอ”
“อื๋อ? ...ก็คือว่า วันนึงเนี่ยนะ ผมก็รู้สึกได้ว่าผมต้องมาตามหาคนที่ใช่ที่นี่ แล้วมันก็เป็นพรหมลิขิตที่ทำให้ผมเข้าชมรมเทควันโด เหมือนในฝันที่มีนางฟ้าประจำตัวมาบอกว่ากำลังจะเจอเนื้อคู่ ตอนนั้นเลยได้เจอคุณหนูลีตัวเล็กปากดีอวดเก่งมือหนักเท้าหนักเอาแต่ใจ...”
“เลิกเล่นได้หรือยังไอ้โหดบ้า พูดอะไรเลอะเทอะจริงๆ เลยนายนี่”
“ฮ่าๆๆ ถูกบังคับให้มาน่ะ ไม่อยากมาหรอกตอนแรก”
“อ้าว”
“แต่พอดีตอนนั้นทั้งป๊าทั้งม๊าก็ย้ายมากันหมดผมเลยไม่มีทางเลือก”
“แล้วผิดหวังมั๊ยล่ะตอนนี้”
“ไม่”
“...”
“เพราะได้เจอคุณหนูลีตัวเล็กปากดีแล้วก็อวดเก่งคนนี้ไง” นิ้วชี้จิ้มปลายจมูกเล็กเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว
“...”
“เขินใช่มะ” ฮันกยองทำเสียงกิ๊วๆ
“อือ -///-”
เห็นฮยอกแจทำตัวน่ารักแบบนี้ฮันกยองก็แทบไม่อยากปล่อยให้ห่างกาย เวลาเจ็ดวันไม่นานก็จริงแต่ระยะทางที่ห่างไกลข้ามประเทศแบบนั้นเกิดอะไรขึ้นเขาคงปกป้องฮยอกแจไม่ได้
“หนูเล็ก”
“อือ”
“คิดใหม่อีกครั้งดีมั๊ย ไปเที่ยวบ้านผมนะ”
“ไม่เอา จะให้พูดอีกกี่ครั้งเนี่ย พุธหน้ามันวันรวมญาติ” แม้จะเป็นวันรวมญาติแต่จุนกิก็ไม่บินกลับมาเพราะติดสอบ ฮันกยองโน้มน้าวเขาเป็นร้อยรอบแต่ก็ปฏิเสธเพราะงานนี้ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เขาให้ความเคารพก็มากันแทบทั้งนั้น พี่ชายไม่อยู่เกิดหนูเล็กไม่อยู่อีกคนคงจะเป็นการเสียมารยาทไม่น้อย
“แต่ผมใจไม่ดีเลย”
“คิดมากไปหรือเปล่า ป่วยหรือไงนายเนี่ย เป็นประสาทหรือไง”
“ป่วยสิ เป็นโรคร้ายแรงด้วย”
“โรคอะไร”
“น้องอ่อนแอลิสซึ่ม”
“อย่ามาทำอ้อน!! =///=*”
เก้าอี้ตัวใหญ่มันเงาบ่งบอกถึงสถานภาพของเจ้าของมันได้เป็นอย่างดี ร่างสูงขมวดคิ้วมุ่นไล่สายตาไปตามตัวอักษรที่เรียงรางหน้าดำคร่ำเครียด ถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่ออ่านรายงานจบ ก่อนเซ็นรับทราบในฐานะผู้บริหารแล้วดันแฟ้มสุดท้ายนี้ไปด้านหน้า
ใบหน้าชายหนุ่มยังคงตึงเครียดจากการคิดประเมินงานทั้งหมดที่เข้ามาอยู่ในการดูแลของตน ไม่รู้ว่าคุณยูอีฝ่ายการตลาดนั่นประชดเขาหรืออย่างไร แค่ถามว่ามีเอกสารอะไรบ้างที่เขาต้องศึกษาเท่านั้นเจ้าหล่อนก็ให้เลขาขนมากองจนสูงเป็นพะเนิน คิ้วเข้มหนาฝังปมแน่นอย่างใช้ความคิด กระทั่งเสียงโทรศัพท์ที่ตั้งค่าให้แตกต่างจากคนอื่นเพียงคนเดียวดังขึ้น รอยยิ้มที่หายไปนับจากเข้าห้องทำงานมาก็กลับมาประดับใบหน้าหล่อเหลาอีกครั้ง
“สวยจ๋า” ซีวอนอ้อนเสียงหวาน ตอนทานอาหารเที่ยงกับพนักงานเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีแอบได้ยินหัวหน้าจางคุยโทรศัพท์กับแฟนสาวแล้วอ้อนว่า ‘อ้วนจ๋า’ เห็นว่าน่ารักดีเลยแอบมาดัดแปลงแล้วใช้เรียกฮีซอลบ้าง
[สวยบ้านออมม่านายหรือไง] ฟีดแบ็คที่กลับมาทำเอาหล่อจ๋าแทบน้ำตาร่วง มินิฮีทำร้ายหัวใจดวงน้อยๆ ของวอนน้อยอีกแล้ว
“ไม่น่ารักเหรอครับ ผมว่าดูดีออก พี่สวยจ๋า ผมก็หล่อจ๋าไง”
[เออ ดี ชั้นหล่อจ๋า นายสวยจ๋า เฮ้ยยยย เริ่ด!!” ฮีซอลดี๊ด๊าเป็นปลาช่อนได้น้ำ ส่วนซีวอนก็แทบจะกุมขมับ เห็นแบบนั้นแต่ที่จริงแล้วชายหนุ่มก็ต้องพ่นหัวเราะ คิมฮีซอลไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนได้จริงๆ
“คิดถึงผมใช่มั๊ยถึงโทรมา ผมงี้นะทำงานหนักมากเลย ตอนปิดเทอมก็คงต้องมาทดลองงานจริงๆ จังๆ ด้วยเนี่ย ไม่มีเวลาไปไหนกับสวยจ๋าแน่เลย” ซีวอนตีเนียนเรียกไปเรื่อยๆ เขาว่าน้ำเซาะเข้าทุกวันหินมันยังกร่อน อีกสักสิบปีฮีซอลก็คงจะยอมรับสภาพความเป็นเมียโดยสมบูรณ์เองนั้นแหละ T T
[ลืมแล้วหรือไงไอ้หล่อจ๋า] ซีวอนแทบจะกรี๊ด เอ๊ย เฮปิดซอยเลี้ยงกับคำพูดนั่น [เดี๋ยวอีกหน่อยชั้นก็ไปเป็นทาสในเรือนเบี้ยที่บริษัทนายแล้ว]
“ไม่ลืมหรือน่า แต่พี่ฝึกเอ้าท์ดอร์ตลอดเลยนี่นา”
[มันก็คงต้องมีอินดอร์มั่งแหละน่า เค้าคงไม่ให้ชั้นไปตากแดดตากลมทั้งวันอยู่แล้วแหละ]
“ทาครีมกันแดดด้วยนะครับ” ชืนเสียผิวขาวๆ ไปคงจะเป็นเขานี่แหละที่เสียใจ
[เดี๋ยวจะโบ๊ะซะสามชั้นเลย]
“วันไหนเอางานบังหน้าได้ผมจะไปตรวจสถานที่นะครับ”
[ความคิดชั่วร้ายครอบงำว่าที่ประธานซะละ เหอๆๆ] ฮีซอลนึกภาพอีกหน่อยตัวเองนั่งรอประธานบริษัทชเวกรุ๊ปกลับบ้านคอยถือสูทเดินตามต้อยๆ แล้วก็ได้แต่หัวเราะเหอๆ คิดแล้วขนลุกไงพิกล ถ้าให้เขาทำงานแล้วซีวอนอยู่บ้านทำกับข้าวรอคงน่าดูชมไม่น้อย
“ผมคิดถึงพี่นะฮีซอล”
[อืม]
“ดูแลตัวเองนะครับ”
[อือ]
“...ห้ามนอกใจนะ”
[เออ - -*] ฮีซอลรับโคตรห้วน ตงิดใจว่าคงจะติดนิสัยไอ้เจย์มาก็คราวนี้ [เอ้อ ชั้นฝันอ่ะ จะเล่าให้ฟังนะ แบบชั้นอยู่ในโรงแรมอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ แล้วคนอื่นแม่งกลายเป็นซามูไรกันหมดเลย มันไล่ฟันชั้นด้วย เจ็บไปหมดเลยอ่า แต่มีนายคนเดียวนะที่ช่วยชั้น แล้วพวกไอ้ทึกกี้อะไรเงี้ยมันก็ไล่ตามเรา นายก็เลยโดดลงสระว่ายน้ำแล้วก็ถอดเสื้อ ..สงสัยชั้นจะหมกมุ่นเรื่องจิ้นของชั้นมากเกินไป ต่อๆ แล้วนายก็ให้ชั้นขี่หลัง ในฝันงี้โคตรสยิวกิ้วเลยอ่ะ คิดแล้วขนลุก]
ฮีซอลเล่าเป็นฉากๆ จำเรื่องราวในมโนฝันทั้งหมดได้เป็นอย่างดี ยิ่งความรู้สึกตอนขี่หลังซีวอนหนีในน้ำยิ่งได้ฟีล
“ฝันกี่โมงครับ”
[เช้า แล้วชั้นก็นอนต่อ แถมยังฝันต่อจากเดิมด้วยอ่ะ]
“แม่ผมเคยบอกว่าถ้าฝันตอนเช้าแล้วมักจะเป็นจริงนะ”
[งี้ที่ชั้นตื่นแล้วฝันเรื่องเดิมเนื้อเรื่องมันจะต่อกันมั๊ยอ่ะ...?]
คำถามอินโนเซนส์ที่คาบเกี่ยวอยู่กับความปัญญาอ่อนจากบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าร้ายกาจจากใครๆ มากมายแต่ใสซื่อที่สุดสำหรับซีวอนเปล่งถามมาจนคนฟังหัวเราะก๊าก
[หัวเราะอะไรของนาย]
“ฮ่าๆๆ ล..แล้วพี่ฝันต่อว่าอะไรล่ะครับ” คนหัวเราะท้องแข็งถามเสียงสั่น
[ฝันว่า... นายที่ช่วยชั้นมาตั้งแต่ตอนแรกทิ้งชั้นไป ชั้นก็เลยถูกพวกนั้นจับตัวได้อ่ะดิ]
“งั้นผมว่า มันคงจะไม่เกิดขึ้นจริงหรอกครับ”
[หือ]
“เพราะความเป็นจริงคือผมจะไม่มีวันทิ้งพี่ไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”
----------------------------------------------------------
ความฝันของเจ๊อ่ะเรื่องจริงนะ แต่คนฝันคือมิน ฮา
เวลา .. หายไปไหน?
อยากแต่งฟิคให้จบ อ๊ากกกกกกกก
ส่งปกเข้ามากันเยอะๆ อีกสิคะ T T'
สวยจ๋ากับหล่อจ๋า
มาจากการย้อนกลับไปอ่านฟิคตัวเองที่บรรยายไว้ว่า คนหน้าสวยจ๋า = =;;
ส่วนหล่อจ๋านี่เรียกน้องว๊อนเค้าปกติอยู่แล้ว ก็หล่อจ๋าจริงๆ อ้ะ =3=!!!
แฟนฟิคของฉัน สู้ๆ !!!
ความคิดเห็น