ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -My Sweetheart..You're Everything -KiHae HanHyuk SJ-

    ลำดับตอนที่ #80 : :: Chapter 55 : In fitting room ::

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.76K
      24
      1 มิ.ย. 53



    In fitting room

     

     

     

     

     

    [  ไอ้โหด  :: Calling ]

     

    [  ไอ้โหด  :: Calling ]

     

    [  ไอ้โหด  :: Calling ]

     

    [ 3 Miss Call ::  ไอ้โหด  ]

     

    [  ไอ้โหด  :: Calling ]

     

     

    "โอ๊ย!!!   ฮันกยอง   ชั้นจะนอน!!!   ฮยอกแจแว๊ดลั่นโลก   ทำเอาอีกฝ่ายหูแทบแตก

    [หนูเล็กอ่า   ตื่นได้แล้ว   ไปข้างนอกกัน]

    “ไม่   จะนอน”

    [ผมขอร้อง]

    “ไม่”

    [งั้นผมบังคับ]

    “อะไรของนายเนี่ย   ทำไม   ม๊านายป่วยเหรอ”

    [โหย   แรง   ไปโยนโบว์กันเหอะ]

    กว่าร่างเล็กจะถึงลานโบว์ลิ่งฮันกยองก็เก็บแต้มสไตรค์ไปได้เกือบเต็มสกอร์   พอร่างบางมาถึงก็คะยั้นคะยอชวนให้เล่น   ยิ่งฮยอกแจบอกว่าเล่นไม่เป็นก็ยิ่งแล้วใหญ่  ฮันกยองชอบใจท่าทางเก้ๆ กังๆ แต่ตั้งใจนั้นอย่างบอกไม่ถูก

    “หักไหล่ลงนิดนึง   อย่าเกร็งนะหนูเล็ก   ค่อยๆ ขยับข้อมือ”   ฮยอกแจพยักหน้ารับตั้งใจฟังเต็มที่   ยิ่งเห็นก็ยิ่งขำ   “ยกสะโพกขึ้นอีกนิด   ส่ายเบาๆ ปรับสมดุลในร่างกาย”

    “สมดุลบ้านอาอี๊นายสิ   ทะลึ่ง   ได้ยังอ่ะ   มันหนักนะ” 

    “ฮ่ะๆ    ถ้าคิดว่าโอเคแล้วก็ได้เลยครับ”

    “อืม”

    ฮยอกแจโยน...  เรียกว่าโยนคงจะถูกต้องที่สุดสำหรับท่าทางของคุณหนูลี   ปลายเท้าขวาวาดไปด้านหลังและโค้งเรียวอย่างสวยงาม   สะโพกมนบิดไปตามสรีระประหลาดๆ ตามธรรมชาติของคนเล่นไม่เป็นและถูกสอนมาให้แอ็คท่าดูดีไว้ก่อนจากฮันกยอง   ครูฝึกแอบกระหยิ่มยิ้มในใจแล้วมองก้นงอนที่ส่ายน้อยๆ นั่นด้วยสายตากรุ้มกริ่ม

    “โอ๊ะ   ไม่เล่นแล้ว   เสียอารมณ์”

    ฮยอกแจเท้าสะเอว   พ่นลมหงุดหงิดใจกับฝีมือตัวเอง   เดินฉับๆ ออกไปไม่บอกกล่าว

    “ไม่เล่นอีกหน่อยเหรอหนูเล็ก   สนุกดีออก”

    “ไม่ต้องมาพูด   ก็บอกอยู่ว่าเล่นไม่เป็นๆ ยังจะยุให้ชั้นทำอีก”

    “ทำไมเล่า   มองโลกในแง่ดีบ้างสิ   อย่างน้อยคุณก็ทำให้ล้างท่อซะสะอาดเอี่ยมเลยนะ”   ฮันกยองยิ้มเผล่

    “ตลกตายล่ะ”

    เดินออกมาจากลานโบว์แล้วร่างเล็กก็แวะเข้าไปดูเสื้อผ้าในร้านให้ฮันกยอง   หมู่นี้ชักจะเห็นเสื้อซ้ำๆ กันของไอ้โหดนี่มากเกินไปหน่อยแล้ว   ระหว่างน้องอ่อนแอ(?)เลือกเสื้อไปก็บ่นไปด้วย

    “พักนี้นายใส่แต่เสื้อเดิมๆ ซ้ำกันบ่อยนะ   เสื้อผ้าไปไหนหมด”

    “อ่า    อยู่ในกระเป๋าน่ะครับ”

    “อะไร   แพ็คกระเป๋าก่อนตั้งอาทิตย์นึงเลยเหรอ   บ้าหรือเปล่า”

    ฮันกยองบอกตั้งแต่เดือนที่แล้วว่าอาทิตย์หน้าเขาจะต้องบินกลับไปจีนเพื่อเยี่ยมแม่และญาติคนอื่นๆ เหมือนทุกปีเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์   แต่ฮยอกแจก็ไม่นึกว่าผู้ชายคนนี้จะติดนิสัยแปลกๆ ทำอะไรแบบนั้น

    ปากพูดไปก็หยิบเสื้อที่คิดว่าเข้ากับฮันกยองมาทาบร่างสูงไปด้วย

    “ก่อนไปผมจะยุ่งๆ น่ะ   อีกอย่างเสื้อผ้าที่นู่นตัวมันก็เล็กไปหมดแล้วเลยเอาไปเกือบหมดตู้   เหลือไว้สองสามตัวเอง”

    “งั้นวันนี้ก็ซื้อเสื้อที่นี่แล้วเอาไปยัดตู้ที่ว่างของนายซะ   โอเคมะ”

    “อาฮะ   ฮยอกแจตัวนี้สวยมากเลย”

    “นายจะเอาเหรอ”  ฮยอกแจทำหน้าประหลาด  ก็ดูสิ   สีแดงเปรี้ยวเซี้ยวซ่าโฉบเฉี่ยว   ดูเซ็กซี่นิดๆ กับคอเสื้อที่กว้างโชว์ไหล่   แถมยังมีเกล็ดเพชรประดับอยู่ที่อกซ้ายเป็นรูปหัวใจอีก   แต่ที่ถูกใจฮันกยองคงจะเป็นภาษาจีนที่เขียนไว้ใต้รูปหัวใจนั้นมากกว่า

    “คุณสิไม่ใช่ผม   ผมใส่ก็ตลกตาย”

    “แล้วภาษาจีนนั่นมันแปลว่าอะไร”

    “แปลว่า...ชั้นอยากจะเป็นของคุณ”

    ชายหนุ่มเบือนหน้ามาพูดความหมายด้วยสายตาหวานหยด    หากเป็นปกติฮยอกแจคงจะร้องกวนๆ กลับไป   แต่เพราะตอนนี้มีคำพูดแบบนั้นออกมาจากปากฮันกยองเลยทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นไหวเหมือนสมัยคบกันแรกๆ

    “ลองใส่ตัวนี้นะหน่อยฮยอกแจ   นะๆ”

    “ฮะ?   ไม่เอา   ชั้นไม่ได้บอกนายว่าจะเอาสักหน่อย   นายชอบก็ใส่เองสิ”

    “คุณหนูเล็กสมองเล็กอีกแล้วนะ   เสื้อตัวแค่นี้ผมจะใส่ได้ไง”

    “งั้นก็ไม่ต้องใส่   เอาไปเก็บเลย”  

    “พลีสสสสส”

    “จะอ้อนทำไมเนี่ย   ไม่ได้น่ารักเลยนะ”

    “ไม่ใส่จูบ”   ไม้อ่อนใช้ไม่ได้ฮันกยองก็งัดไม้แข็ง

    “ไอ้...    เออ  ก็ได้ฟะ”

    คนตัวเล็กหน้าบูด   คว้าเสื้อเจ้าปัญหาแล้วจ้ำอ้าวไปที่ห้องฟิตติ้งเพื่อลองชุดให้ไอ้คนหื่นที่อยากจะเห็นเขาแต่งตัวเว้าแหว่งซะเต็มที่นั่นดูให้เต็มตา

    ฮันกยองนั่งรออยู่หน้าห้องนั้นใจจดใจจ่อ   ซ้ำร้ายยังทำตาขวางใส่คนอื่นๆ ที่จะเข้ามาลองชุดบ้างอีกจนไม่มีใครเข้ามายุ่มย่าม   แม้แต่พนักงานของร้านเองก็เถอะ

    ไม่กี่นาทีถัดมาร่างเล็กก็เดินออกมาพร้อมเสื้อตัวใหม่ที่เพิ่งผลัดเปลี่ยน   อาภรณ์สีแดงสดขับผิวขาวสะอาดยิ่งกว่าผิวเด็กให้เปล่งปลั่งยวนตา  เหมือนดั่งดวงตะวันที่คอยฉายแสงในหัวใจฮันกยองปรากฎกายขึ้นตรงหน้านี้แล้ว

    “หนูเล็กเซ็กซี่เป็นบ้าเลย”

    “ไอ้หื่น”  

    “พอใจหรือยัง    ชั้นจะไปเปลี่ยนแล้ว”

    ใจนึงก็นึกอยากจะเอาฮยอกแจไปอวดโฉมและประกาศให้โลกทั้งโลกรู้เอาไว้ว่าลีฮยอกแจเป็นของใคร   แต่อีกใจก็หวงผิวขาวๆ ดวงหน้าจิ้มลิ้มน่ารักนั่นจนแทบไม่อยากให้ใครได้เห็น

    “งั้นเอาตัวนี้นะหนูเล็ก”

    “ไอ้โหดโคตรหื่น!!!

    ฮยอกแจบริภาษอีกคำแล้วเดินกลับเข้าไปเปลี่ยนเสื้อ   แน่ใจว่าฮันกยองจะไม่ลุกไปไหนนอกจากนั่งเฝ้าเขาเป็นหมาหวงเจ้าของแบบนั้นก็วางใจไม่ได้ลงกลอนห้องลองเสื้อแคบๆ นี้แต่อย่างใด  



    แต่ดูเหมือนลีฮยอกแจจะคิดผิด ...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ผมไปรอหน้าร้านเลยนะ”

    “กลับไปรอบ้านเลยก็ได้”   ฮยอกแจประชด   แทบแทรกแผ่นดินหนีเมื่อสติสตังกลับมาครบและสำนึกได้ว่าตัวเองกับไอ้โหดหื่นนี่ทำอะไรลงไปในห้องฟิตติ้งแคบๆ นี่

    ฮันกยองเดินยิ้มกริ่มออกไปก่อน   ฮยอกแจหันมองคราบสีขาวและหยดน้ำที่พื้นอย่างเหนื่อยอ่อน   ใช้ฝ่าเท้าที่มีถุงเท้าหุ้มเช็ดกระจกที่เปียกและพื้นที่เอ่อนองหยดน้ำเล็กๆ    ซับคราบน่าอายทั้งหมดจนถุงเท้าเปียกชุ่ม

    ลีฮยอกแจสาบาน   ให้ตายยังไงก็จะไม่มีวันลืมเรื่องนี้แน่!!!

    ฮันกยองถือถุงสองถุงพร้อมมือของฮยอกแจอีกข้าง   แวะทานอาหารที่ฟู๊ดส์เซ็นเตอร์   ฮยอกแจชอบอะไรง่ายๆ และไม่ยุ่งยากถึงเลือกทานอะไรแบบนี้   รู้ดีว่าไอ้ผีจีนมันรวยและสามารถเลี้ยงลีฮยอกแจเป็นสิบคนให้สุขสบายไปตลอดชีวิตได้   เพียงแต่ว่าอะไรที่ฮยอกแจเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องจำเป็นก็ไม่อยากเสียเงินโดยใช่เหตุ   แต่อยากได้เรียกว่างก   เรียกว่าใช้เงินเป็น

    “กินอาหารแพงๆ แบบนั้นไม่ใช่ต้องมีเงินอย่างเดียวนะ   ต้องโง่ด้วย”

    “ผมแค่อยากให้คุณกินอะไรดีๆ”

    “นี่ไม่ดีตรงไหน   คาโบนาร่านายชั้นกินเนื้อได้เป็นร้อยชิ้น”   ฮยอกแจเท้าคางมองคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม

    “โอเคๆ   ผมยอมแพ้”

    “เออนี่   ชั้นง่าจะถามนายตั้งนานแล้ว   ทำไมนายต้องย้ายมาเกาหลีล่ะ    ตอนแรกก็อยู่จีนไม่ใช่เหรอ”

    “อื๋อ?   ...ก็คือว่า   วันนึงเนี่ยนะ   ผมก็รู้สึกได้ว่าผมต้องมาตามหาคนที่ใช่ที่นี่   แล้วมันก็เป็นพรหมลิขิตที่ทำให้ผมเข้าชมรมเทควันโด   เหมือนในฝันที่มีนางฟ้าประจำตัวมาบอกว่ากำลังจะเจอเนื้อคู่    ตอนนั้นเลยได้เจอคุณหนูลีตัวเล็กปากดีอวดเก่งมือหนักเท้าหนักเอาแต่ใจ...”

    “เลิกเล่นได้หรือยังไอ้โหดบ้า   พูดอะไรเลอะเทอะจริงๆ เลยนายนี่”

    “ฮ่าๆๆ   ถูกบังคับให้มาน่ะ   ไม่อยากมาหรอกตอนแรก”

    “อ้าว”

    “แต่พอดีตอนนั้นทั้งป๊าทั้งม๊าก็ย้ายมากันหมดผมเลยไม่มีทางเลือก”

    “แล้วผิดหวังมั๊ยล่ะตอนนี้”

    “ไม่”

    “...”

    “เพราะได้เจอคุณหนูลีตัวเล็กปากดีแล้วก็อวดเก่งคนนี้ไง”   นิ้วชี้จิ้มปลายจมูกเล็กเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว

    “...”

    “เขินใช่มะ”   ฮันกยองทำเสียงกิ๊วๆ

    “อือ -///-

    เห็นฮยอกแจทำตัวน่ารักแบบนี้ฮันกยองก็แทบไม่อยากปล่อยให้ห่างกาย   เวลาเจ็ดวันไม่นานก็จริงแต่ระยะทางที่ห่างไกลข้ามประเทศแบบนั้นเกิดอะไรขึ้นเขาคงปกป้องฮยอกแจไม่ได้

    “หนูเล็ก”

    “อือ”

    “คิดใหม่อีกครั้งดีมั๊ย   ไปเที่ยวบ้านผมนะ”

    “ไม่เอา   จะให้พูดอีกกี่ครั้งเนี่ย   พุธหน้ามันวันรวมญาติ”   แม้จะเป็นวันรวมญาติแต่จุนกิก็ไม่บินกลับมาเพราะติดสอบ   ฮันกยองโน้มน้าวเขาเป็นร้อยรอบแต่ก็ปฏิเสธเพราะงานนี้ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เขาให้ความเคารพก็มากันแทบทั้งนั้น   พี่ชายไม่อยู่เกิดหนูเล็กไม่อยู่อีกคนคงจะเป็นการเสียมารยาทไม่น้อย

    “แต่ผมใจไม่ดีเลย”

    “คิดมากไปหรือเปล่า   ป่วยหรือไงนายเนี่ย    เป็นประสาทหรือไง”

    “ป่วยสิ   เป็นโรคร้ายแรงด้วย”

    “โรคอะไร”

    “น้องอ่อนแอลิสซึ่ม”

    “อย่ามาทำอ้อน!!   =///=*

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เก้าอี้ตัวใหญ่มันเงาบ่งบอกถึงสถานภาพของเจ้าของมันได้เป็นอย่างดี   ร่างสูงขมวดคิ้วมุ่นไล่สายตาไปตามตัวอักษรที่เรียงรางหน้าดำคร่ำเครียด   ถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่ออ่านรายงานจบ   ก่อนเซ็นรับทราบในฐานะผู้บริหารแล้วดันแฟ้มสุดท้ายนี้ไปด้านหน้า

    ใบหน้าชายหนุ่มยังคงตึงเครียดจากการคิดประเมินงานทั้งหมดที่เข้ามาอยู่ในการดูแลของตน   ไม่รู้ว่าคุณยูอีฝ่ายการตลาดนั่นประชดเขาหรืออย่างไร   แค่ถามว่ามีเอกสารอะไรบ้างที่เขาต้องศึกษาเท่านั้นเจ้าหล่อนก็ให้เลขาขนมากองจนสูงเป็นพะเนิน   คิ้วเข้มหนาฝังปมแน่นอย่างใช้ความคิด   กระทั่งเสียงโทรศัพท์ที่ตั้งค่าให้แตกต่างจากคนอื่นเพียงคนเดียวดังขึ้น   รอยยิ้มที่หายไปนับจากเข้าห้องทำงานมาก็กลับมาประดับใบหน้าหล่อเหลาอีกครั้ง

    “สวยจ๋า”   ซีวอนอ้อนเสียงหวาน   ตอนทานอาหารเที่ยงกับพนักงานเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีแอบได้ยินหัวหน้าจางคุยโทรศัพท์กับแฟนสาวแล้วอ้อนว่า อ้วนจ๋า   เห็นว่าน่ารักดีเลยแอบมาดัดแปลงแล้วใช้เรียกฮีซอลบ้าง

    [สวยบ้านออมม่านายหรือไง]   ฟีดแบ็คที่กลับมาทำเอาหล่อจ๋าแทบน้ำตาร่วง   มินิฮีทำร้ายหัวใจดวงน้อยๆ ของวอนน้อยอีกแล้ว

    “ไม่น่ารักเหรอครับ   ผมว่าดูดีออก   พี่สวยจ๋า   ผมก็หล่อจ๋าไง”

    [เออ  ดี   ชั้นหล่อจ๋า   นายสวยจ๋า    เฮ้ยยยย  เริ่ด!!    ฮีซอลดี๊ด๊าเป็นปลาช่อนได้น้ำ    ส่วนซีวอนก็แทบจะกุมขมับ   เห็นแบบนั้นแต่ที่จริงแล้วชายหนุ่มก็ต้องพ่นหัวเราะ    คิมฮีซอลไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนได้จริงๆ

    “คิดถึงผมใช่มั๊ยถึงโทรมา   ผมงี้นะทำงานหนักมากเลย   ตอนปิดเทอมก็คงต้องมาทดลองงานจริงๆ จังๆ ด้วยเนี่ย   ไม่มีเวลาไปไหนกับสวยจ๋าแน่เลย”  ซีวอนตีเนียนเรียกไปเรื่อยๆ   เขาว่าน้ำเซาะเข้าทุกวันหินมันยังกร่อน   อีกสักสิบปีฮีซอลก็คงจะยอมรับสภาพความเป็นเมียโดยสมบูรณ์เองนั้นแหละ  T T

    [ลืมแล้วหรือไงไอ้หล่อจ๋า]    ซีวอนแทบจะกรี๊ด  เอ๊ย   เฮปิดซอยเลี้ยงกับคำพูดนั่น  [เดี๋ยวอีกหน่อยชั้นก็ไปเป็นทาสในเรือนเบี้ยที่บริษัทนายแล้ว]

    “ไม่ลืมหรือน่า   แต่พี่ฝึกเอ้าท์ดอร์ตลอดเลยนี่นา”

    [มันก็คงต้องมีอินดอร์มั่งแหละน่า   เค้าคงไม่ให้ชั้นไปตากแดดตากลมทั้งวันอยู่แล้วแหละ]

    “ทาครีมกันแดดด้วยนะครับ”   ชืนเสียผิวขาวๆ ไปคงจะเป็นเขานี่แหละที่เสียใจ

    [เดี๋ยวจะโบ๊ะซะสามชั้นเลย]

    “วันไหนเอางานบังหน้าได้ผมจะไปตรวจสถานที่นะครับ”

    [ความคิดชั่วร้ายครอบงำว่าที่ประธานซะละ   เหอๆๆ]    ฮีซอลนึกภาพอีกหน่อยตัวเองนั่งรอประธานบริษัทชเวกรุ๊ปกลับบ้านคอยถือสูทเดินตามต้อยๆ แล้วก็ได้แต่หัวเราะเหอๆ   คิดแล้วขนลุกไงพิกล   ถ้าให้เขาทำงานแล้วซีวอนอยู่บ้านทำกับข้าวรอคงน่าดูชมไม่น้อย

    “ผมคิดถึงพี่นะฮีซอล”

    [อืม]

    “ดูแลตัวเองนะครับ”

    [อือ]

    “...ห้ามนอกใจนะ”

    [เออ - -*]   ฮีซอลรับโคตรห้วน   ตงิดใจว่าคงจะติดนิสัยไอ้เจย์มาก็คราวนี้    [เอ้อ   ชั้นฝันอ่ะ   จะเล่าให้ฟังนะ   แบบชั้นอยู่ในโรงแรมอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ   แล้วคนอื่นแม่งกลายเป็นซามูไรกันหมดเลย   มันไล่ฟันชั้นด้วย   เจ็บไปหมดเลยอ่า   แต่มีนายคนเดียวนะที่ช่วยชั้น   แล้วพวกไอ้ทึกกี้อะไรเงี้ยมันก็ไล่ตามเรา   นายก็เลยโดดลงสระว่ายน้ำแล้วก็ถอดเสื้อ   ..สงสัยชั้นจะหมกมุ่นเรื่องจิ้นของชั้นมากเกินไป   ต่อๆ   แล้วนายก็ให้ชั้นขี่หลัง   ในฝันงี้โคตรสยิวกิ้วเลยอ่ะ   คิดแล้วขนลุก]

    ฮีซอลเล่าเป็นฉากๆ   จำเรื่องราวในมโนฝันทั้งหมดได้เป็นอย่างดี    ยิ่งความรู้สึกตอนขี่หลังซีวอนหนีในน้ำยิ่งได้ฟีล  

    “ฝันกี่โมงครับ”

    [เช้า   แล้วชั้นก็นอนต่อ   แถมยังฝันต่อจากเดิมด้วยอ่ะ]

    “แม่ผมเคยบอกว่าถ้าฝันตอนเช้าแล้วมักจะเป็นจริงนะ”

    [งี้ที่ชั้นตื่นแล้วฝันเรื่องเดิมเนื้อเรื่องมันจะต่อกันมั๊ยอ่ะ...?]

    คำถามอินโนเซนส์ที่คาบเกี่ยวอยู่กับความปัญญาอ่อนจากบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าร้ายกาจจากใครๆ มากมายแต่ใสซื่อที่สุดสำหรับซีวอนเปล่งถามมาจนคนฟังหัวเราะก๊าก

    [หัวเราะอะไรของนาย]

    “ฮ่าๆๆ   ล..แล้วพี่ฝันต่อว่าอะไรล่ะครับ”   คนหัวเราะท้องแข็งถามเสียงสั่น

    [ฝันว่า...   นายที่ช่วยชั้นมาตั้งแต่ตอนแรกทิ้งชั้นไป    ชั้นก็เลยถูกพวกนั้นจับตัวได้อ่ะดิ]

    “งั้นผมว่า   มันคงจะไม่เกิดขึ้นจริงหรอกครับ”

    [หือ]

    “เพราะความเป็นจริงคือผมจะไม่มีวันทิ้งพี่ไป   ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”

     

     

     












    ----------------------------------------------------------
    ความฝันของเจ๊อ่ะเรื่องจริงนะ  แต่คนฝันคือมิน  ฮา
    เวลา .. หายไปไหน?
    อยากแต่งฟิคให้จบ  อ๊ากกกกกกกก
    ส่งปกเข้ามากันเยอะๆ อีกสิคะ T T'


    สวยจ๋ากับหล่อจ๋า
    มาจากการย้อนกลับไปอ่านฟิคตัวเองที่บรรยายไว้ว่า คนหน้าสวยจ๋า = =;;
    ส่วนหล่อจ๋านี่เรียกน้องว๊อนเค้าปกติอยู่แล้ว   ก็หล่อจ๋าจริงๆ อ้ะ  =3=!!!




    แฟนฟิคของฉัน  สู้ๆ !!!  


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×