ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -My Sweetheart..You're Everything -KiHae HanHyuk SJ-

    ลำดับตอนที่ #74 : :: Chapter 51 : ความรู้สึกที่ไม่เคยเปลี่ยน ::

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.71K
      13
      1 พ.ค. 53

     

     

     

     

     

    ความรู้สึกที่ไม่เคยเปลี่ยน

     

     

     

     

    ตอนเย็นซองมินถูกฮันกยองกับฮยอกแจลากไปหาอะไรกินด้วยกันจากนั้นพวกเขาก็พากันมาส่งที่บ้าน  เดาได้ลางๆ ว่าฮันกยองคงจะไปค้างที่บ้านฮยอกแจอีกตามเคย   ยิ่งอยู่ใกล้กับสองคนนี้ก็ยิ่งรู้สึกอยากมีใครสักคนไว้ให้ออดอ้อน   ชวนทะเลาะ   และพูดจาน่ารักใส่กันบ้างเหมือนกัน   แต่มันคงจะยากเกินไปในเมื่อตอนนี้เรื่องของคยูฮยอนมันยังตามหลอกหลอนให้น้อยเนื้อต่ำใจได้ไม่เลิก   กระทั่งฮยอกแจมาส่งที่บ้านก็ยังคงตัดเรื่องที่ทำให้วุ่นวายใจออกไปไม่ได้ทั้งหมด

    ตากลมมองไปที่ห้องนอนฝั่งตรงข้ามกับระเบียงของตนที่ยังคงเปิดไฟเอาไว้   คยูฮยอนคงยังไม่เข้านอนหรือไม่ก็อาจจะหลับไปแล้ว   ไม่ใช่เรื่องที่ตัวเองจะต้องสนใจแท้ๆ แต่ก็อดที่จะใส่ใจไม่ได้   เป็นแบบนี้ก็ยิ่งมีแต่จะฟุ้งซ่านเข้าไปอีกว่าป่านนี้...  คยูฮยอนยังมีความคิดที่จะบอกรักเขาอยู่หรือเปล่า

    ทำไมนะ...  ตั้งแต่วันที่นายทิ้งชั้นไปจนกระทั่งวันนี้   ชั้นก็ยังอยากได้ยินคำว่ารักจากปากของนายไม่เคยเปลี่ยน  

    พูดว่าเกลียดไปกี่หนกันแล้วสำหรับผู้ชายอย่างนาย   แต่ทำไม...  ความรู้สึกนี้ถึงไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย

    ซองมินเลิกที่จะสนใจ   หยิบนิตยสารที่ซื้อติดมือมาวันนี้ขึ้นอ่านเผื่อจะช่วยหันเหความสนใจของเขาไปจากคยูฮยอนได้บ้าง   และมันก็ทำให้เขารู้สึกปลอดโปร่งขึ้นมานิดหน่อยจริงๆ

    ห่างไปอีกฟากที่มีระเบียงและสายลมคั่นกลาง   คยูฮยอนเงยหน้ามองห้องฝั่งตรงข้ามที่เพิ่งเปิดไฟ   ซองมินคงกลับมาแล้วสินะ   จากที่เป็นห่วงว่าทำไมถึงกลับบ้านดึกก็พอจะวางใจได้บ้างว่าอีกฝ่ายคงปลอดภัย   คำพูดที่แสดงออกถึงความน้อยอกน้อยใจและไม่ต้องการที่จะเห็นหน้าเขาตราบใดที่ยังไม่ได้ยินคำว่ารักออกจากปากทำให้คยูฮยอนรู้สึก... ดีใจ  

    ผมดีใจ   ที่อย่างน้อยมินมินก็ยังคงต้องการคำว่ารักจากปากของผม

    คยูฮยอนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่   นิ้วมือก็คลิกนู่นคลิกนี่เรื่อยเปื่อยเพื่อค้นหาสิ่งของที่ต้องการซื้อผ่านทางอินเตอร์เน็ตไปอย่างตั้งใจ   ริมฝีปากหยักหนาขยับยิ้มกว้างเมื่อพบสิ่งถูกตาต้องใจอย่างที่ต้องการ   ดวงตาเรียวเป็นประกายวาวอย่างสมใจ

    รอหน่อยนะมินมิน  ขอเวลาชั้นอีกนิดเดียว   นิดเดียวจริงๆ

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

    “นี่หมอนั่นตัดใจไปแล้วหรือไง    ...เฮอะ  ชั้นคงโง่เองแหละที่คิดว่าผู้ชายพรรค์นั้นจะมาจริงจังกับความรู้สึกบ้าๆ นี่”   ซองมินพึมพำกับตัวเอง   สายตาตัดพ้อจ้องมองไปที่โรงจอดรถว่างเปล่าที่เมื่อคืนยังมีรถของคยูฮยอนจอดอยู่และคาดว่าเช้านี้เขาคงออกจากบ้านไปแล้ว   ไม่มีเวลาแม้แต่จะมานั่งสนใจความรู้สึกของตัวเองอย่างที่คิดไว้หรอก   ฝันเฟื่องจริงๆ ลีซองมิน

    “แต่ก็ดี...   จบมันซะตั้งแต่ตอนนี้นายจะได้ไม่ต้องเสียใจยังไงล่ะคยู   ชั้นเองก็ไม่ได้อยากทำให้คนที่ชั้นรัก...เสียใจเหมือนกัน”

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

     

     

     

    เสียงร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ดังสุขสันต์ไปทั่วคฤหาสน์   เด็กน้อยเจ้าของวันเกิดอมลมเข้าแก้มยุ้ยแล้วเป่าเทียนดังฟู่   คิบอมที่ถือเค้กสองปอนด์เอ่ยอวยพรมักเน่แสนซนของเขาเป็นคนแรก   ตามด้วยแทยอน  ทิฟฟานี่   ดงเฮ   คุณนมของเรียวอุคและคุณพ่อบ้าน

    “อ๊า!!!  ตุ๊กตานีโม่!!!~   น่ารักที่สุดเล๊ยยยยยยยยยย”   

    ของขวัญจากคิบอมดูท่าคงเป็นที่ตื่นตาตื่นใจมากที่สุด  เพราะแม้แต่แทยอนกับทิฟฟานี่ที่อุตส่าห์ลงขันซื้อเพลย์สเตชั่นให้เรียวอุคยังไม่ลัลล้าเท่านี้    แต่ก็คงช่วยอะไรไม่ได้เพราะคิบอมถือเป็นพี่ชายหัวแก้วหัวแหวนของน้องเรียวอุคมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

    “พี่ด๊องก็มีของขวัญให้อุคกี้ด้วยนะ”

    “ไหนอ๊าๆ”  

    “หืม   แอบไปซื้อมาตอนไหนครับ”  

    “ไม่บอก”

    คนสวยแลบลิ้นให้หนึ่งทีแล้วเดินไปหยิบกล่องของขวัญห่อสวยงามมาให้เจ้าของวันเกิด   เรียวอุคฉีกกระดาษอย่างเด็กอยากรู้อยากเห็นและมีความสุขเต็มที่   กล่องก็ไม่ใช่น้อยๆ และน้ำหนักก็ไม่ใช่เบาๆ     เป็นอะไรกันน๊าาา

    “อ๊า   เครยอนชินจัง!?

    “ถูก”   คนซื้อให้ยิ้มแก้มปริ   “อุตส่าห์โทรไปถามการ์ตูนโอตาคุเยซองแล้วนะว่าเรื่องไหนเหมาะกับอุคกี้    เค้าก็บอกว่าชินจังเหมาะกับเด็กน่ารักกำลังโต”

    “พี่เยเย่เหรอ?”   ใครบางคนพึมพำ

    “มันการ์ตูนปัญญาอ่อนไม่ใช่เหรอ?”  

    “ไม่หรอกฮะคุณแทยอน   ตอนเด็กๆ พี่ผมก็ซื้อให้อ่าน   ผมว่าก็ดีนะครับ”

    ผ่านไปสักพักคิบอมกับเรียวอุคก็นั่งชี้ชะตา EXP กันอยู่บนหน้าจอทีวีที่เปลี่ยนสายแจ็คกับเพลย์สเตชั่นเครื่องใหม่เรียบร้อยแล้ว   ส่วนแทยอนก็คอยขี้โกงให้เจ้าของวันเกิดชนะด้วยการวิ่งมาจับก้นดงเฮจนคิบอมอยู่ไม่เป็นสุข   ตะโกนลั่นว่าอย่ามาแตะต้องเมียชั้นจนคนสวยอับอายแทบแทรกแผ่นดินหนี   ...แน่ละ   คิบอมมีประสบการณ์ผู้หญิงมารักชอบเมียเขาแล้วถึงสองคน   ถึงยัยแทยอนมันจะมีทิฟฟานี่แล้วก็เถอะ    ฮึ่ม!   ยังไว้ใจไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ

    คนหน้าแดงแจ๋เพราะถูกผู้หญิงโคตรรั่วทำอนาจารบีบก้นเดินหลบอายออกมาหยิบบาร์บีคิวที่ย่างอยู่บนเตาด้านนอก   แต่ชักอยากจะกลับเข้าไปซะแล้วสิเพราะตัวอันตรายดันเดินตามออกมา

    “ปาร์ตี้สนุกมั๊ยคะ”  

    “ก็สนุกดีครับ”

    “พูดครับๆ  แบบนี้แล้วนึกถึงเมื่อก่อนนะคะ   ตอนที่ชั้นยังแย่งคิบอมอยู่กับคุณ”   หญิงสาวหันมายิ้ม  

    “ไม่หรอกครับ”   ดงเฮเผื่อโอกาสเชิงรับเชิงสู้   ไม่รู้จะมาไม้ไหน

    “แหม   แต่ก็ไม่แน่นะคะ   ตอนนี้คิบอมเค้าอาจจะคิดแบบนั้นอยู่ก็ได้”

    อ้าว  ยัยนี่ - -*

    “ไม่หรอกครับ”   คำตอบเดิมยังคงมีอยู่   “เมื่อก่อนก็เคยคิดนะครับว่าจะใช้วิธีไหนมัดใจเค้าดี   แต่คงไม่ต้องแล้ว   ในเมื่อตอนนี้ผมแน่ใจว่าเค้ารักเค้าหลงผมจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วล่ะครับ”    มุมปากสีหวานกรีดยิ้มเย็น    กับคนทั้งโลกไม่ว่ายังไงคิบอมก็ต้องให้เขาเป็นที่หนึ่งเสมอ

    “เอาเป็นว่า   ถ้าคืนนี้คุณนอนไม่หลับก็มาเดินเล่นแถวๆ ห้องของเราได้นะครับ   อ๊ะ..   ไม่ดีกว่า   รอฟังเสียงของผมกับเค้าอยู่ที่ห้องคุณก็ได้    ผมว่าเค้าคงทำให้ผมครางจนดังลั่นได้เหมือนอย่างเคยนั่นแหละ   ขอตัวนะครับคุณทิฟฟานี่”

    “แร๊ง งง งงงง  ไม่เจอกันปีเดียวแรงเป็นบ้าเลยลีดงเฮ    อึ๋ยยย~!

    ทิฟฟานี่ขนลุก  ใจก็ไม่อยากป่วนประสาทดงเฮหรอก  แต่แทยอนของเธอดันนึกสนุกอยากจะแกล้งปั่นหัวคู่นี้น่ะสิ   ช้างเท้าหลังอย่างหล่อนมีหรือจะขัดใจได้   ก็ต้องยอมตามใจแทยอนจนตัวเองได้มาฟังอะไรสยิวกิ้วแบบนี้เนี่ย!~

    ด้านคนที่เดินจากมาก็เกิดอาการสะใจอย่างบอกไม่ถูก   หัวเราะคนเดียวจนไหล่บอบบางสั่นไปมาอยู่แบบนั้น   คนที่บังเอิญลุกมาเข้าห้องน้ำอย่างเรียวอุคเห็นแล้วก็อดงงไม่ได้

    “พี่ด๊อง   เจ้าเข้าเหรอฮะ?”

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

    “อื้อหือ!!   แฟนแกนี่โคตรแรงเลย”   แทยอนอดพูดไม่ได้   ทุกถ้อยคำที่ดงเฮกับทิฟฟานี่เอ่ยออกมาเข้าสู่โสตประสาทของเธอและลูกพี่ลูกน้องคนนี้ทั้งหมด    “เห็นหงิมๆ นะนั่นน่ะ”

    “น..หนูด๊อง”   คิบอมถึงกับคราง   อึ้ง   ทึ่ง   เสียวสุดๆ!!!

    “ชั้นสงสัยแล้วว่ะว่าปากกล้าแบบนี้จะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่า”  

    “อะไรของเธอ   ให้ทิฟฟานี่พูดยั่วดงเฮแบบนั้นทำไม”

    “แหม่   ชั้นก็อยากเห็นว่าที่น้องสะใภ้เวิ่นเว้อเพราะหึงนายนี่หว่า   เค้าว่ากันว่าไม่หึงแปลว่าไม่รักนา”

    “98% ของคำว่า “เค้าว่ากันว่า” มาจากคนพูดเองทั้งหมด   อย่าไร้สาระ   กลับไปดูเรียวอุคได้แล้วเธอน่ะ”

    “แน่ะ   มาทำเป็นโมโหกลบเกลื่อน   ชั้นน่ะรู้จักแกดีที่สุดนะคิบอม   ตกลงจะเอาไง”

    “เอาอะไร”

    “ก็หนูด๊องของนายนั่นแหละ   อยากรู้หรือเปล่าล่ะว่าเค้ารักนายมั๊ย”

    “เค้ารักชั้น”   คิบอมมั่นใจ

    “มากหรือน้อยล่ะ”  

    “เธอไม่ได้ยินที่เค้าพูดเมื่อกี้หรือไง  ถามอะไรโง่ๆ”   ยิ่งพูดก็ยิ่งปลื้ม   คิบอมสะกดยิ้มจนหน้าแทบเบี้ยวแล้วตอนนี้

    “หึ   ที่เค้าพูดเมื่อกี้น่ะอาจจะแค่อยากจะเอาชนะทิฟก็ได้   นายด่วนสรุปอะไรเร็วเกินไปหรือเปล่า” 

    “ไม่เห็นมีอะไรต้องสงสัย   ความรู้สึกเค้าทำไมชั้นจะไม่รู้   ว่าแต่เธอเถอะ    พักนี้เธอไปทำอะไรมาหรือเปล่า กระเต็มหน้าเลย”

    “อุ๊ย  จริงเหรอ”   ทาบหน้าตัวเองอย่างตกใจ   ถึงจะไม่ได้รักสวยรักงามเป็นเลิศอย่างทิฟฟานี่แต่ก็ไม่อยากให้ตัวเองทุเรศจนดูไม่ได้

    “กระบือน่ะ”

    “อ...ไอ้..!!

    คิบอมไม่สนจะฟังอะไรอีก   ยิ้มเย้ยทิ้งไว้ตรงนั้นแล้วเดินจากมาอย่างสะใจ  

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

    นิทานประโลมโลกเรื่องที่ล้านแปดของคิบอมกล่อมเรียวอุคให้สะลึมสะลืองัวเงียจ้องจะหลับเต็มที่   ห่มผ้าปิดไฟให้เสร็จก็เดินกลับมาในห้องที่มีร่างเล็กนั่งอ่านนิตยสารรออยู่ปลายเตียงทั้งที่เขาบอกไว้แล้วว่าถ้าง่วงก็หลับก่อนได้เลย   คิบอมตรงเข้าไปอาบน้ำโดยไม่ได้พูดอะไร   ทำเอาคนเจ้าแผนการเริ่มใจฝ่อขึ้นมานิดๆ

    ปกติต้องเข้ามาคลอเคลียแล้วนี่นา...  เอ๊ะ  หรือเพราะยัยนั่น!!!

    คนสวยเม้มปากแน่น   ก็คนมันหึงนี่   ก่อนที่จะส่งเรียวอุคเข้านอนทิฟฟานี่เดินไปกระซิบกระซาบหัวร่อต่อกระซิกกับคิบอมทั้งๆ ที่แทยอนก็ยืนอยู่ตรงนั้นมันยิ่งทำให้ดงเฮระแวง   น้องคนเล็กอย่างเขาขี้หวงเอาเรื่องเหมือนกันนะ

    หรือผมต้องทำอย่างที่ประกาศเอาไว้จริงๆ

    คนในห้องน้ำได้แต่คิดถึงคนสวยว่าวันนี้นึกคึกอะไรของเขาถึงได้พูดกับทิฟฟานี่ออกไปแบบนั้น  จะว่าหึงหวงมันก็อาจจะเกินไปนักเพราะปกติไม่เคยจะต่อปากต่อคำกับใครได้ในเรื่องแบบนี้   แต่...  อืม   เขาว่าความรักเหมือนโคถึก  เวลามันคึกใครก็ยั้งไม่อยู่   ไม่แน่หนูด๊องอาจจะรักเขาจนทนต่อไปไม่ไหวแล้วก็ได้

    อา..   คิดแล้วก็ชื่นใจ      ลิ้มแก้มแตกมีความสุข  ^ ^

    คิบอมปั่นผมจนแห้งด้วยความเกรงใจคนดีของเขาว่าจะไม่พอใจที่หิ้วเอาหัวเปียกๆ ออกมาจากห้องน้ำอีก   จะว่าไปแล้ว   ตั้งแต่มีดงเฮเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต   จากทุกอย่างที่เคยดูเรื่อยเปื่อยและน่าเบื่อในชีวิตของเขากลับมีความหมายขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ   ไม่น่าเชื่อว่าคนๆ เดียวจะสามารถเปลี่ยนแปลงคิบอมไปได้มากขนาดนี้   ...หากคนๆ นั้นไม่ใช่ดงเฮ   เขาจะมีความสุขอย่างทุกวันนี้มั้ยนะ

    ชายหนุ่มสวมชั้นใน  เสื้อกล้ามตามด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำผืนหนา   ตั้งใจว่าจะออกมาสวมเสื้อผ้าด้านนอกอย่างเคย   แต่แล้วคิบอมก็ต้องแปลกใจกับสภาพของห้องที่มืดมิด  ด้วยความเคยชินตลอดชีวิตกับห้องของตนเองจึงไม่มีอะไรให้กังวลมากนัก   เว้นแต่ว่าอีกคนที่เขาพยายามมองฝ่าความมืดหาตัวอยู่นี่สิ

    “หนูด๊อง   ปิดไฟทำไมครับ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “เห็นมั๊ยล่ะแท   ทิฟบอกแล้วว่าอยู่ที่ห้องก็ยังได้ยิน   มาแอบฟังผ่านประตูแบบนี้เหมือนผ่านซาวด์สเตอริโอเลยอ่ะ   อึ๋ย...   ดงเฮร้องดังชะมัด”

    “พูดเหมือนอยากร้องบ้างงั้นล่ะ”  สายตาซุกซนของแทยอนทำเอาทิฟฟานี่ร้องใส่ว่าบ้า   พอนึกภาพเมื่อพวกเธอกลับไปที่ห้องออกได้รำไร   และความเป็นจริงมันก็ไม่ต่างจากที่เธอคิดไว้นัก

     

     

     

     

     

    “อ๊า!!!!~   อะไรกันเนี่ยพี่บ้าๆ    เค้าเพิ่งสิบสามวันนี้เองนะ    แข่งกันส่งเสียงอ๊ะอ๊าใส่หูเค้าทำไม   อ๊า!!!!!~  ลืมไปแล้วหรือไงว่าห้องเค้ากั้นห้องพวกตัวเองอยู่เนี๊ย   ไม่ไหวแล้ววว   อ๊า!!!~    เค้าจะน๊อนนนนนนน”

     

     

     

     

     

     





     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    มาดูความโง่ของไรเตอร์สวีทฮาร์ทและเพื่อนอีกคนกันดีกว่า = =

    มิน : เฮ้ย  นี่มันเครื่องทำความร้อนป่าววะ  กุเคยเห็นในหนัง  สีงี้เลย

    คือมินไม่รู้  อยากถามเพื่อนให้แน่ใจ

    เฟย์ : เออ

    มิน : อ๋อ   ในหนังงี้เลย  

    นิว : นี่มันเครื่องกำจัดยุง!  อ่านดิเนี่ย!! 

    =///=  คนสงสัยอ่ะไม่เท่าไหร่   แต่คนที่มันตอบว่า ใช่ นี่ดิ = =;;

     

     

    จากนั้นเราก็ไปว๊ากกันต่อ(ร้องเกะ)  ว๊ากเสร็จก็เดินแด๊ดแด๊   มินได้ศัพท์มาใหม่จากเด็กชลชายอย่างพวกมันแต่ไม่คิดว่าจะได้ใช้วันนี้

    เฟย์ : มุ(เพื่อนมินเรียกงี้)   เมิงไปดูคนนั้นดิ   หล่อโคตร

    ไอ้เราก็หัน   แต่เขาเดินไปแล้ว  

    เฟย์ : เมิงวิ่งไปดูดิ!!!

    ชั่งใจก่อน  แต่ก็เอาวะมองจากข้างหลังแล้วเหมือนน้องวอน  

    มิน : =_= (ด่ามัน  แต่กลัวแฟนฟิคผู้ใสซื่อรับมิได้)

    เฟย์ : ก๊ากกกกกก

    มิน : เนี่ยนะหล่อ   หน้าสะบู้ตีนสุดๆ

     

    สะบู้ตีน - -;;  เด็กชลชายกำลังฮิตเลยค่ะ

     

     

     

    อันนี้มินคิดเอง  สมัยเด็กดีดราม่าเรื่องเอ็นซี   แต่ไม่นึกว่าจะได้ใช้

    ตอนนั้นคำว่า ติ่งหู กำลังอิน

    เฟย์ (เอวรี่ติงจิงกาเบลก็กะไอ้นี่อ่ะมินน่ะ = =) : กินแม็คกัน

    มิน : เมิงมีตังค์เหรอ

    ดักมันก่อน  อินี่เนียนให้เลี้ยงตลอด

    เมเม่ : จะอะไรก็ขอซักที่เหอะ  เมื่อยแล้ว

    มิน : เฟย์เมิงมีตังค์เหรอ

    เมเม่ : งั้นซื้อไอ้ติมคนละโคน 27 บาทแล้วนั่งในร้าน

    มิน : ความคิดเมิงอาร์ตติ่งมาก - -*
               
    อาร์ตติ่ง   ศิลปะแบบทำชาวบ้านเดือดร้อน    

    ตอนแรกคำนี้มินใช้เขียนเฟรนด์ชิพให้คนๆ นึง   มินเกลียดมันแต่มันไม่รู้อ่ะ  ก๊ากกกกก

     

     

    เดี๋ยวอาร์ตติ่ง  สะบู้ตีนจะแว่บมาโผล่ในฟิค   ฮา ฮา ฮา

    คิดถึงแฟนฟิคเด๊ออออ

    จุ๊บๆ

    ปล. ฉากบีลีฟทำลากเลือด   กล้ามลอยเต็มหน้าน้องเฮเลยเหอะ TT TT  

     

     

    ปล. ถ้ามินแต่งเสร็จฟิคจะออกราวเดือนสิงหาคมค่ะ   ทันงานไก่พอดี

    แต่ช่วงนี้อึนกับคาเฟ่ตัวเองอย่างรุนแรง  = =

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×