ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -My Sweetheart..You're Everything -KiHae HanHyuk SJ-

    ลำดับตอนที่ #14 : :: Chapter 9 : Dream ::

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.46K
      21
      26 มี.ค. 53

     

     

     

     

    9

    Dream

     

     

     

     

    “พี่ฮีซอล   พี่ฮีซอล   อ้าว   หลับไปแล้ว   นี่พี่เมา...  ได้ไงกันเนี่ย”

     

    ซีวอนพูดกับตัวเองงงๆ   เมื่อคนที่นั่งอยู่ในอ้อมกอดเกิดหลับไป   แถมปลุกยังไงก็ไม่ตื่นด้วยสิ

     

    เวลาประมาณสี่ทุ่มทุกคนกำลังจะเคลื่อนย้ายสถานที่กันแล้ว   เจย์กับจุนกิขอตัวกลับบ้าน   ส่วนคังอินและฮีซอลนั้นมีนัดไปบ้านอิทึกเพื่อไปเยี่ยมเยียนคุณนายปาร์ค  

     

    ตอนแรกซีวอนกะจะพาฮีซอลไปส่งบ้านแล้วเลื่อนนัดไปเป็นวันอื่นแทน  แต่ถูกพี่ชาย(?)รั้งไว้    บอกให้ฮีซอลอยู่บ้านคนเดียวตนคงห่วงแย่   พาไปด้วยกันคงดีที่สุด

     

    รถคันหรูเทียบหน้าเคหาสน์หลังใหญ่   ตามมาติดๆกับบีเอ็มซีรีส์ล่าสุดที่ภายในมีร่างไร้สติของคนเมาอยู่ด้วย

     

    “มากันแล้วเหรอจ๊ะ   แม่ๆนั่งดูละครรอตั้งนานแน่ะ”   คุณนายปาร์คเดินออกมาต้อนรับ   พร้อมด้วยคุณนายชเว

     

    “อ้าว   คุณแม่อยู่ด้วยเหรอครับ”   ซีวอนที่เพิ่งลงจากรถออกปากถามมารดา  

     

    “จ้ะ   รอดูหน้าลูกสะใภ้ของแม่อยู่น่ะจ้ะ   ว่าแต่   หนูฮีซอลไปไหนซะล่ะ   ไม่มาด้วยกันเหรอ”

     

    “ซอลลี่เค้าเมาน่ะครับคุณน้า  พวกเราเลยไม่อยากให้เค้านอนอยู่บ้านคนเดียว   เลยพามาด้วย    พอดีดงเฮไปเข้าแคมป์กับที่โรงเรียนน่ะฮะ”   อิทึกตอบแทน   แต่คุณนายชเวดูจะไม่ปลื้มนิดหน่อยที่ลูกสะใภ้ที่เธอหมายมั่นไว้ดันไปดื่มเหล้าซะเมามาย   ดูไม่งามเลย

     

    คนตาหวานที่ดูเหมือนจะดูอาการของผู้เป็นน้าออกจึงรีบขยายความต่อ

     

    “พอดีพวกเราแกล้งซอลลี่นิดหน่อยน่ะฮะ   ผมเป็นคนผสมเหล้าเยอะๆเอง   ซอลลี่เค้าไม่รู้เค้าก็เลยกินซะเมา”

     

    “ตายแล้วลูกทึก   ทำไมไปทำแบบนั้นล่ะ   ไม่งามเลยนะจ๊ะ”   คุณนายปาร์คดุลูก   ด้วยตัวเธอเองก็ไม่ค่อยมองว่ามีลูกเป็นผู้ชายอยู่แล้ว   กริยาท่าทางที่สั่งสอนไปจึงเป็นแบบเลี้ยงดูลูกสาวเสียสิ้น   “ไม่ได้นะตาคังอิน   อย่าให้ลูกแม่ดื้อแบบนี้อีกนะ   ถ้าเห็นคราวหน้าต้องสั่งสอนให้เข็ดหลาบ  รู้มั้ย”    แม่ยายสั่งสอนว่าที่ลูกเขย   ก็จริงนี่นา   เธออยากได้ลูกเขย   มากกว่าลูกสะใภ้

     

    “ได้ครับคุณแม่”  คนถูกสั่งสอนได้แต่ยิ้มตาหยี  

     

    “พี่อิทึก   นี่พี่มอมเหล้าพี่ฮีซอลเหรอ”  ซีวอนโพล่งถาม   ไม่พอใจนิดหน่อย    แต่เค้าต้องรอฟังเหตุผลของญาติผู้พี่เสียก่อน

     

    “นี่ซีวอน   แกไม่ได้ยินข่าวรึไง   แถวบ้านซอลลี่น่ะโดนยกเค้าไปหลายบ้านแล้วนะ   แล้วตอนนี้ซอลลี่ก็อยู่คนเดียว   ถ้าเมื่อวานนายไม่ไปนอนบ้านเพื่อนพี่   พี่ก็จะให้ซอลลี่มานอนที่นี่แล้ว   โจรหื่นๆน่ะมีเยอะแยะ   หรือนายอยากให้เรลล่าของนายเสียจิ้นให้ไอ้หื่นจิตที่ไหนล่ะ”  

     

    อิทึกอ้างเหตุผล   ใช่   เค้าคิดแบบนั้น   แต่ตอนที่มอมเหล้าฮีซอลก็ดันคิดถึงอีกเรื่องมาได้  

     

    ชิ   ชั้นอุตส่าห์เปิดทางให้นายแล้วนะไอ้น้องชายหน้าหล่อ   ยังจะโง่อีก

     

    ซีวอนคิดตาม   จริงอย่างที่อิทึกว่า   ขนาดเมื่อวานตอนเค้าเดินออกมาจากบ้านฮีซอลก็รู้เลยว่าหน้าสวยนี่ระวังตัวเองขนาดไหน   ...  ศูนย์น่ะสิ!   บ้านไม่ล็อดประตู    รั้วหน้าบ้านก็ไม่ได้ปิด    คิดแล้วก็เป็นห่วงแทนเจ้าตัวเหลือเกิน

     

    “ผมเข้าใจแล้วครับ   งั้นคุณน้าครับ   ผมขออนุญาตใช้ห้องรับรองแขกบ้านคุณน้าหน่อยนะครับ”  

     

    “อุ๊ย   ได้จ้ะได้”   คุณนายปาร์คตอบตกลง   แต่ก็ถูกขัด

     

    “ได้ไงล่ะตาซีวอน   สะใภ้เราก็ต้องไปนอนบ้านเราสิ”    คุณนายชเวพยักพเยิดไปยังหน้าสวยที่หลับอยู่เป็นตุ๊กตาหน้ารถ   แล้วหันมากล่าวกับเพื่อนสนิท   “ชั้นกลับก่อนนะเฮียวริน   จะพาว่าที่สะใภ้กลับไปนอน   ฮิๆ   บ๊ายบายจ้ะ”

     

    “ไม่ค่อยเลยนะอึนเฮ   เอาเถอะ   โชคดีแล้วกันนะจ๊ะ”   สองคุณแม่ไม่ยอมแก่ตามวัยล่ำลากัน   ซีวอนได้ยินดังนั้นก็ก้มหัวลาผู้อาวุโสกว่าแล้วบอกลาพี่อีกสองคน   ก่อนจะไปประคองเอาใจคุณแม่ตนที่ดูจะรู้ใจเค้าตลอด

     

    “แหมๆๆ   เอาอกเอาใจแม่ใหญ่เลยนะซีวอน”

     

    “เอ่อ   ครับ   แหะๆ”

     

    รถคันหรูขับออกไปแล้ว   คังอินถูกเชื้อเชิญเข้าบ้านโดยการต้อนรับอย่างอบอุ่นโดยมารดาของคนรัก   เปรียบได้ดั่งรักที่ไร้อุปสรรคใดๆทั้งสิ้น...

     

     

     

     

    - - - - My Sweetheart.. You’re Everything. - - - -

     

     

     

     

    “พี่ชาย..   เอาจริงๆหรอ   หนูเล็กว่าพี่ชายอย่าไปเลยนะ   นะๆๆ”

     

    เสียงแหลมใสออดอ้อน   เผยนิสัยน้องคนเล็กของบ้านได้แบบเห็นไส้   ใช้แก้มนิ่มถูไถกับแขนพี่ชายหน้าสวยไปมา    กริยาน่ารักน่าเอ็นดูนัก   แต่จุนกิก็ทำใจแข็ง   ไม่ยอมอ่อนข้อให้

     

    “ไม่เอาน่า  พี่ก็แค่อยากไปดูหน้าว่าที่น้องเขยหน่อยเดียวเอง”

     

    “บ้า   ใช่ที่ไหนกัน   เค้ายังไม่ได้เป็นอะไรกับหนูเล็กซักหน่อย”

     

    ยังคงนั่งเถียงกันอยู่ในห้องของจุนกิ   หลังจากพี่ชายกลับมาจากการสังสรรค์กับเพื่อนแล้ว   หนูเล็กอย่างฮยอกแจก็รีบรุดมาคุยกับพี่ชายถึงเรื่องที่ค้างไว้ทันที

     

    ก็พี่ชายยืนยันจะไปดูหน้าไอ้โหดนั่นให้ได้   โอ๊ย   ฮยอกละกลุ้ม!

     

    “หืม   ทำไมล่ะ   ก็วันนี้เขาก็มาคุยแล้วไม่ใช่เหรอ”

     

    “ไอ้โห..  เอ๊ย   ฮันกยองเค้าก็แค่มาขอโทษเรื่องที่ว่าหนูเล็กอ่อนแอเท่านั้นเอง   ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นซะหน่อย”  ฮยอกแจยู่ปาก   พูดอย่างหงุดหงิดนิดๆ

     

    “เอ๋?”   จุนกิฉงน   นิสัยซนๆแสบๆของคุณหนูเล็กแตกต่างจากคุณหนูใหญ่ที่สุภาพเรียบร้อย ทั้งภายนอกและภายใน

     

    “แล้วทำไมหนูเล็กถึงนั่งเหม่อทั้งวันล่ะครับ?”

     

    “ก็เพราะไอ้โหดนั่นมันพูดแค่นั้นแหละพี่ชาย   หนูเล็กนะอยากจะตะโกนถามไปเลยว่าจะอ้ำอึ้งทำไมนักหนา   ตุ๊ดรึเปล่า”   ฮยอกแจใส่อารมณ์หงุดหงิดที่ยังไม่ค่อยคลายเท่าไหร่นักจากอาการของฮันกยอง

     

    “นั่นสินะ พี่ก็ชักจะอยากรู้แล้วเหมือนกัน   เอาล่ะ   พรุ่งนี้ต้องไปดูหน้านายฮันกยองของหนูเล็กให้ได้เลย   ไปๆๆ   ไปนอนได้แล้วครับ   เดี๋ยวพี่ไปส่งนะ”   จุนกิรวบรัดจบบทสนทนาแล้วดันหลังเล็กๆกับตัวบางๆของน้องชายไปส่งถึงหน้าห้องโดยไม่ยอมฟังคำค้านที่ดังเป็นระงม

     

    “ม่ายยย    ไม่ต้องป๊ายยยยย”

     

     

     

     

    - - - - My Sweetheart.. You’re Everything. - - - -

     

     

     

     

    “เรียบร้อยแล้วนะครับ   แผลไม่ลึก   ไม่มีรอยแผลเป็นแน่นอนครับ   วันสองวันนี้ก็อย่าเพิ่งให้โดนน้ำนะครับ   ทางที่ดีนอนพักดีกว่า   เดี๋ยวแผลฉีกเลือดอาจไหลไม่หยุดก็ได้นะครับ   แล้วก็อย่าลืมทานยาให้ตรงเวลา   ป้องกันการอักเสบของแผลด้วยนะครับ”

     

    คุณหมอกำชับ   ส่งรอยยิ้มเอ็นดูให้กับคนไข้คราวลูก

     

    “ขอบคุณมากนะครับ   มีอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษนอกจากนี้มั้ยครับ”   คำถามนี้สมควรจะเป็นของคนไข้   ทว่ามันกลับดังมาจากคนที่นั่งข้างๆผู้ลงชื่อเป็นเจ้าของไข้

     

    “นอกจากเรื่องโดนน้ำแล้วก็ไม่ต้องกังวลครับ   แค่ทานยาให้ตรงเวลาและพักผ่อน   อย่างที่บอกครับ   ให้นอนพักอย่างเดียวจะดีที่สุด”

     

    “ครับ  ขอบคุณครับ”  

     

    “เชิญทางนี้ค่ะ” 

     

    พยาบาลที่ยืนอยู่ข้างๆผายมือไปยังประตู   ดงเฮถูกคนข้างๆประคองจนออกมาด้านนอกบริเวณสถานที่รอรับยา   คงเพราะความเหนื่อยล้าจากกิจกรรมที่ดำเนินมาทั้งวัน   ทำให้หน้าหวานค่อยๆหลับตาแล้วผล็อยหลับไปกับไหล่ของคนชอบทำหน้านิ่ง   จนกระทั่งตนถูกวางลงบนเตียงนุ่มของที่พัก   และได้รับการดูแลจากคนที่ตนไม่ชอบขี้หน้า   ...ตลอดทั้งคืน

     

     

     

     

    - - - - My Sweetheart.. You’re Everything. - - - -

     



     

    - - - - My Sweetheart.. You’re Everything. - - - -

     

     

     

     

    “ย่ะห์!

     

    “ย่าห์!

     

    “ย๊ากกกก”

     

    แพร่ด!

     

    คนที่ตัวเล็กที่สุดในชมรมตะโกนเสียงประหลาดกว่าชาวบ้านแล้วพุ่งตรงไปที่คู่ต่อสู้   มันต้องมีซักครั้งแหละน่าที่เค้าจะสามารถเอาชนะคนๆนี้ได้   ...ไอ้โหด

     

    ร่างสูงเขยิบหนีเพียงเล็กน้อยก็สามารถหลบหลีกจากเตะลอยนั่นได้   แถมยังมีกะใจเอื้อมมือไปดึงแขนเล็กเบาๆให้เสียหลัก   ให้คนถูกแกล้งล้มแพร่ดมานอนตรงหน้าได้สำเร็จ  

     

    ฮันกยองไม่ปล่อยให้โอกาสลอยผ่าน    ทับกายลงไปบนร่างเล็กทันที    แกล้งทำเป็นกรรมการกดผู้เข้าแข่งขัน   ทว่า   นี่มันทั้งตัว

     

    “เฮ้ย   ออกไปนะไอ้โหด!   ฮยอกแจตวาดลั่น    ตกใจสุดๆเมื่อฮันกยองทิ้งตัวแล้วมาทับเค้า  

     

    “ยอมแพ้รึยัง”    คนข้างบนไม่สนใจ   ตีเบาะแรงๆเหมือนนับเวลาไปด้วย

     

    “ใครจะไปยอม!   ลุกออกไปนะ”  

     

    “ไม่    จนกว่าคุณจะยอมแพ้”   ฮันกยองเล่นไม่เลิก   จ้องคนข้างล่างด้วยแววตากรุ้มกริ่มจนอีกฝ่าย..สะท้าน

     

    ..มันหวิวไปทั้งใจ

     

    “ปล่อยโว้ยยย”    ฮยอกแจคุณหนูเล็กเอาแต่ใจแผลงฤทธิ์เล็กพริกขี้หนู   ระดมเตะต่อยถีบผลักไม่ยั้ง    แต่ด้วยทักษะป้องกันตัวของฮันกยองที่มีมากกว่า   ทำให้คว้าได้แต่อากาศเพียงเท่านั้น

     

    “ยอมรึยัง”    

     

    “ไม่!   ฮยอกแจเสียงแข็งไม่เลิก    ใครมันจะไปยอมกัน

     

    “ยอมซะ”  

     

    จุ๊บ

     

    พูดแค่นั้นแล้วแกล้งทำเป็นเสียหลัก   แขนที่ตั้งฉากไว้กับเบาะนิ่มเพราะคร่อมคนตัวเล็กเกิดหมดแรงกะทันหัน   ส่งผลให้จมูกโด่งๆสัมผัสกับแก้มขาวๆอย่างช่วยไม่ได้  

     

    “เฮ้ย!   อะ...  อะ..”   ฮยอกแจอึ้ง    พูดออกมาได้แค่นั้น     หน้าแดงแปร๊ด

     

    “ขอโทษที   จู่ๆแขนมันก็หมดแรงขึ้นมาซะเฉยๆ”   พูดหน้าตายรู้สึกผิดเต็มประดา    แต่แววตานั่น....  

     

    ฮึ่ย!   มันแกล้งกันชัดๆ!

     

    “ปล่อย!  

     

    “ยอมรึยังล่ะ”  

     

    “ไม่!

     

    “ตามใจ   อยู่แบบนี้ก็สบายดีน๊า   อะไรๆมันดูนิ๊มนิ่ม    ...อย่างที่คิดไว้เลย”    ประโยคหลังเบาแทบไม่ได้ยิน   แต่ไอ้ประโยคหน้าๆที่ดูมากเล่ห์นั่นมันก็ทำเอาฮยอกแจต้องยอมแพ้    ตะโกนอย่างเหลืออด

     

    “เออ!   ยอมแพ้ก็ได้!    พอใจรึยัง    ลุกออกไปซะที”    ฮยอกแจพูดเสียงโหด   แต่ไอ้โหดก็ไม่ยี่หระ

     

    “คนแพ้ต้องทำตามที่ผู้ชนะสั่ง”   ฮันกยองหาลู่ทางเอาเปรียบ

     

    “อ..อะไร”

     

    ฮันกยองไม่ตอบ    แต่เอียงหน้าให้ได้องศาแล้วยื่นแก้มเข้าไปใกล้ๆ   ไม่ได้พองลมอมแก้ม   แต่ท่าทางอย่างงั้น  ดูก็รู้

     

    “ม..ไม่เอา!    ฮยอกแจปฏิเสธเสียงแข็ง   ทั้งๆที่ตนไม่ได้มีทางเลือกเท่าใดนัก

     

    “เร็วๆเลย   ไม่งั้นก็นอนอย่างงี้ไปเรื่อยๆ   แต่ผมไม่ได้หมายความว่าให้นอนอย่างเดียวหรอกนะ”   ฮันกยองพูดมีแง่   หื่นไม่เก็บอาการ  

     

    “หน้าด้าน!

     

    ฮยอกแจตวาดไปที   แต่คนถูกด่ายิ้มเผล่รับ

     

    “งั้นคนหน้าบางก็คงต้องหัดทำใจให้ด้านแล้วละนะ   เพราะผมจะทำอย่างอื่น    ที่ไม่ได้จบแค่ตรงนี้แล้ว”   ฮันกยองยิ้มร้ายเจ้าเล่ห์    แลบลิ้นเลียรอบริมฝีปากเพื่อประกาศเป็นนัยๆ  

     

     ฮยอกแจเกลียดรอยยิ้มของคนข้างบนที่ดูเหมือนตนจะต้องตกเป็นเบี้ยล่างอยู่ตลอดเวลา   มองฮันกยองอย่างโมโห      

     

    “ฮึ่ย!   ได้แต่กัดฟันอย่างคับแค้น   ฮันกยองได้ใจ   รีบยื่นแก้มมาโดยเร็ว   คิดว่าคงปราบพยศคนดื้อได้ก็คราวนี้  

     

    ฮยอกแจยอมยื่นหน้าเข้าไป   แต่ไม่ได้ใช้จมูกหรือปากเล็กๆของตนสัมผัสผิวแก้มแต่อย่างใด    กลับใช้...   อวัยวะที่แข็งแรงที่สุดในร่างกาย   งับไปแรงๆที่ใบหูข้างขวาอย่างไม่ปรานี

     

    “อ๊ากกกกกกกก”

     

    ฮันกยองร้องลั่นอย่างเจ็บปวด     ยันมือกับพื้นจะหนีให้พ้น    ทว่าคนข้างล่างกลับยึดคอตนเองไว้แน่น   ไม่ยอมให้หนีไปไหน  

     

    “ฮ่าๆ   เอ็นไออ้ะ   อูกอายอ๊ายยย (เป็นไงล่ะ   ถูกใจมั้ย)”   ฮยอกแจถามข้างๆหูเลยทีเดียว  แต่พูดไม่ชัดเจนนักเพราะมีบางอย่างขัดอยู่ที่ปาก

     

    คนรอบข้างเริ่มหันมามองแล้วหัวเราะ    รองประธานผู้คอยกันท่าทุกคนให้ออกห่างคู่ซ้อมเสมอๆกำลังถูกเอาคืน   เห็นนัวเนียๆกันมาซักพัก   ไม่คิดว่าจะถูกเล่นงานเองแบบนี้

     

    “ไม่ชอบๆๆ   ผมไม่ชอบ    ปล่อยผมๆ   ฮยอกแจปล่อยผม”    ฮันกยองโอดครวญ    แต่ฮยอกแจเลิกใช้ฟันกัดตั้งนานแล้ว   ทำเพียงใช้ปากเล็กๆขบแรงๆไว้เท่านั้น    

     

    “อี้ๆๆๆ    อ้อบแอ้งเอ๊าอีอั๊ก (นี่ๆๆๆ   ชอบแกล้งเค้าดีนัก)”  

     

    ฮยอกแจงับแน่น   ไม่ปล่อย    ความเจ็บจากการกัดเริ่มทุเลาลง    ฮันกยองเพิ่งรู้สึกได้แล้วว่าที่คนตัวเล็กทำอยู่นั้นเป็นเพียงการงับหูเน้นๆ  

     

    คนตัวสูงเตรียมจะเอาคืน    จับเอวร่างเล็กไว้ให้เข้าที่    หมายมั่นจะดึงออกแล้วจัดการเองซะเลย    ถ้าไม่ทำ    เค้าทำเองก็ได้

     

    “อ๊ะ..”  

     

    ฮยอกแจตกใจนิดหน่อยเพราะถูกดึงตัวออกจากฮันกยอง   แต่ก็ไม่ตกใจเท่า   จนได้ยินและได้รับสัมผัสนี้

     

    ฟอดดดดด

     

    คนถูกหอมนั่งอ้าปากค้าง    มันอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก    คนทำเองเลยยิ่งได้ใจ    เปลี่ยนเป็นหอมซ้าย    แล้วก็กลับมาหอมขวา   แล้วก็หอมซ้าย   หอมขวา   หอมๆๆอีกหลายๆรอบ

     

    “วิ้ววว”

     

    “วู้ววว”

     

    “รองโชว์หนังสดว้อย”

     

    คนในชมรมโห่ร้องแซว    ทำเอาคนตัวเล็กได้สติ    หลังจากจมอยู่กับการนับว่าโดนหอม...   ไปกี่ที  

     

    “เฮ้ย”

     

    พลั่ก!!!

     

    ฮยอกแจรู้สึกตัวและถีบฮันกยองที่นั่งคร่อมไปเต็มแรง    จนอีกฝ่ายโอดครวญเพราะอาการจุก    สบถเบาๆด่าไอ้พวกที่ทำลายบรรยากาศ   

     

    “จะหอนกันทำไมวะ    เกือบจะได้ซักยี่สิบทีแล้วไง”

     

    “ว่าไงนะ!   ฮยอกแจควันออกหูเลยก็ว่าได้   แล้วพอหันไปมองคนรอบๆ

     

    =[]=!!!

     

    เหวอออ    นี่มันทั้งชมรมเลยนี่หว่า   ล..ละ..แล้วนั่น

     

    “พี่จุนกิ!

     

    จุนกิ   คังอิน    อิทึก   และเจย์ คิม   ยืนมองตาปริบๆกับเลิฟซีนที่เพิ่งผ่านไปหมาดๆ   ไม่ใช้สลิง   ไม่ใช้สแตนอิน    เล่นจริง   ของจริง   จูบจริง   และถีบจริง

     

    เป็นจุนกิที่วิ่งหนีออกไปตั้งแต่ฮยอกแจร้องเรียก    คุณหนูเล็กผู้รักครอบครัวเป็นที่หนึ่งรีบผลุนผลันวิ่งตามออกไปราวกับต้องการแก้ตัวเมื่อคนรักเกิดความเข้าใจผิด   เหมือนฉากในละครน้ำเน่า    เหมือนสิ่งที่ฮันกยองกำลังคิด...

     

    ผู้ชายคนนั้น?  

     

    จุนกิ...

     

    เป็นใครกัน...?

     

     

     

     

    - - - - My Sweetheart.. You’re Everything. - - - -

     

     

     

     

    “เมื่อวานพี่ฝันหรือเปล่าครับ”    ซีวอนถามคนหน้าสวยที่นั่งเล่นอยู่บนเตียง    หลังตื่นมาแล้วปล่อยให้โวยวายได้ซักพักจึงยอมฟังเค้าอธิบายเรื่องราวทั้งหมด   ทั้งเรื่องที่อิทึกฝากตนไว้กับซีวอนด้วยความเป็นห่วง    ทั้งเรื่องที่ซีวอนไปนอนอีกห้องเพื่อให้ฮีซอลนอนห้องของเขาเอง    ซึ่งดูเหมือนฮีซอลจะแอบซึ้งอยู่นิดๆ   

     

    ....นิดๆ จริงๆ

     

    หลังจากเมื่อเช้าโทรไปเค้นความกับพี่ชายผู้หวังดี   ถามว่าใส่อะไรลงไปในแก้วเหล้าฮีซอลบ้าง   พี่ชายก็บอกมาแค่ว่ามีแต่  วิสกี้ๆๆ   แล้วก็วิสกี้    ซึ่งซีวอนก็เชื่อ   เพราะไม่งั้น...   เมื่อวานเค้าคงไม่ต้องย้ายไปนอนห้องอื่นเพราะกลัวข่มอารมณ์ตัวเองไม่ได้   คงจะได้สบายไปหลายยกแล้ว

     

    “ฝันเหรอ...  อืม   ใช่   ทำไมอะ”    หน้าสวยตอบซื่อๆ   เสื้อนอนมิดชิดที่ซีวอนกลั้นใจเปลี่ยนให้นั้นทำให้เจ้าตัวยังมองไม่เห็นรอยสีกุหลาบ    ตาโตราวผู้หญิงหันมาให้ความสนใจร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่บนปลายเตียง   เลิกใช้สายตาสำรวจห้องกว้างๆซักพัก   ผิดกับเค้าที่นั่งบนเตียงและใช้หลังเล็กๆพิงกับหัวเตียงที่เป็นเบาะนิ่มๆ  แพงๆ

     

    บ้านไอ้ซิมบ้า   แม่ง    อย่างกะโรงแรมห้าดาว    โคตรหรูเลย...

     

    “ฝันว่าอะไรครับ”     ซีวอนถามต่อ    สงสัยนักว่าทำไมเมื่อคืนฮีซอลถึงได้จะต่อยเอาเตะเอา  

     

    “ฝัน...  เอ่อ  ไม่บอกได้มั้ย”   คนสวยเขินนิดหน่อยเมื่อพอจำฝันนั้นได้เลาๆ    แอบอ้อนเป็นเด็กๆ

     

    รู้สึกดีนะ   แต่ซีวอนอยากรู้มากกว่า    ตอนอุ้มมาบนห้องทำเอาเขาลำบากเลือดตาแทบกระเด็น

     

    “ผมอยากรู้นี่นา   นะครับ   นะๆ”

     

    “ชั้นฝันว่า...”

     

    “ว่า?”

     

    “ชั้นถูกนายกด”   

     

    !!!

     

    ...แล้วในฝันนายก็ทำชั้นเคลิ้ม   ชั้นก็เลยรุกนายบ้าง   แล้วเราก็...   อ๊ากกกก   ชั้นฝันอะไรวะเนี่ย…!!’

     

    “หา”

     

    พี่ต่างหากล่ะ...  ที่ตั้งท่าจะกดผมน่ะ...

     

    ทั้งสองจ้องมองกัน   ทว่าต่างคนต่างความคิด   คนหนึ่งคิดอยู่บนความจริงของอีกคนไม่ได้สติ   อีกคนคิดอยู่บนความไร้สติของตัวเอง   จ้องมองกันงงๆ    ก่อนหน้าสวยจะจัดการเปลี่ยนเรื่อง

     

    “ไม่ต้องมาหาอะไรทั้งนั้นแหละ   ถอยๆ   ชั้นจะอาบน้ำ”

     

    ซีวอนยังยืนอึ้ง   หรือเพราะที่ฮีซอลฝัน...   มันจะทำให้ร่างบางเผลอมากดเค้าจริงๆ

     

    ...เกือบไปแล้วมั้ยล่ะไอ้ซีวอน   แกเกือบจะถูกกดแล้วมั้ยล่ะ...!!

     

    และแล้ว   เมื่อคนสวยเข้าไปในห้องน้ำได้ซักพัก   สิ่งที่ซีวอนเตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องเกิดขึ้นก็ตามมา...

     

    “แว๊กกกก    น..นี่มัน   ไอ้ซิมบ้า!   ไอ้เด็กทะลึ่ง!   ไอ้หื่น!    กะ..แกเข้ามาอธิบายซิ!   เดี๋ยวนี้~~~!!!

     

     

     

     

    - - - - My Sweetheart.. You’re Everything. - - - -

     

     

     

     

    ฮยอกแจวิ่งตามพี่ชายออกมาอย่างเป็นห่วง   บางครั้งคุณหนูใหญ่ของบ้านก็รับความจริงบางอย่างไม่ค่อยจะได้   หากกล่าวถึงความอ่อนแอ   แน่นอนฮยอกแจย่อมมีมากกว่า   แต่ถ้าเป็นความอ่อนไหว...   จุนกิก็พุ่งสูงจนติดชาร์ทเกินใครเทียบ

     

    “พี่ชาย!  

     

    ฮยอกแจตะโกนแล้วหอบ   จุนกิจึงได้หยุดวิ่งหลังจากออกมาไกลจากชมรมพอสมควร   เหมือนเจ้าตัวเพิ่งสำนึกได้ด้วยนะนั่น

     

    คนตัวเล็กขาสั้นรีบวิ่งไปให้ทัน   สังเกตจากข้างหลังเห็นแล้วว่าจุนกิตัวสั่นๆโยนๆคล้ายๆกำลังร้องไห้

     

    ทว่า...

     

    “คิกๆๆ   ฮิๆ   คิกๆ   อุ๊บ   ฮ่าๆๆๆ”

     

    นี่สรุปว่า    ที่วิ่งออกมาน่ะ  

     

    วิ่งมา...  

     

    เพราะ...

     

    กลั้นหัวเราะไม่อยู่น่ะสิ!

     

    “พี่ชาย...”    ฮยอกแจคราง    มัน..  เสียเส้น!   

     

    โธ่!   ไอ้เราก็นึกห่วงกลัวว่าจะรับไม่ได้ที่น้องชายสุดที่รักถูกทำอย่างงั้น   ที่ไหนได้   วิ่งออกมาเพราะตัวเองจะหัวเราะร่ากลางวงเทควันโดซะอย่างนั้น  

     

    “คิกๆๆ   ข..ขอโทษทีหนูเล็ก   แต่พี่  พี่   โอ๊ย   มันตลกนี่นา   หน้าหนูเล็กอย่างฮาเลย”   จุนกิยังไม่หยุด    เจย์ที่ถูกส่งเป็นตัวแทนของนางฟ้าและหมีบ้าพลังเดินตามมาช้าๆจนพบ  

     

    “นายฮาไม่ดูเวลาเลยจุนกิ”   เจย์พูดเบาๆ   ฮยอกแจก้มหัวสวัสดีไปที    ยังไงก็เพื่อนพี่ชาย   แก่กว่า

     

    “ฮิๆ   โทษทีๆ   แต่เจย์ก็เห็นใช่มะ    ทั้งฮันกยองทั้งหนูเล็กอ่า”   จุนกิยิ้มสวยแล้วหัวเราะต่อ   ฮยอกพ่นลมเบาๆ   เจย์ส่ายหัวปลงๆ   

     

    เวลาเรียบร้อยน่ารักก็ดีอยู่หรอก   แต่เวลารั่วนี่...       ไม่ไหวเลยแฮะ

     

    ทั้งสองปล่อยให้จุนกิขำต่อไปซักพัก   เมื่อเห็นว่าพอจะทำใจได้แล้วก็ชวนกันกลับไปยังทางเดิม

     

    “อ้อ   หนูเล็ก   มานี่ๆ”  จุนกิคว้าคอน้องชายที่ทั้งตัวเล็กกว่าและเตี้ยกว่ามาใกล้ๆ

     

    “ซุบซิบๆๆๆๆ”

     

    “ห...หา!!

     

     

     

     

    - - - - My Sweetheart.. You’re Everything. - - - -

     

     

     

     

    วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2552

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×