คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #102 : :: บทส่งท้าย ::
ลมหนาวพัดผ่านมาบ้างเป็นบางคราวบ่งบอกว่าฤดูแห่งความหนาวเหน็บกำลังจะผ่านพ้นไปและฤดูใบไม้ผลิกำลังจะเข้ามาแทนที่ ผีเสื้อหลากสีบินฉวัดเฉวียนให้ได้เห็นมากมายพอๆ กับดอกไม้สีสดบนยอดหญ้าที่เริ่มไหวลู่ลมแข่งกันชูช่ออวดความงาม
ธรรมชาติก็เหมือนความรัก รู้สึกเป็นสุขในช่วงเวลาที่ดอกรักเริ่มผลิบาน มีแห้งแล้งหัวใจบ้างในฤดูร้อน เงียบเหงาและเดียวดายบ้างในฤดูหนาว แต่ท้ายแล้วเมื่อฤดูใบไม้ร่วงเวียนมาความชุ่มชื่นก็หวนคืนสู่หัวใจ หมุนเปลี่ยนไปมาแต่ไม่ว่ายังไงก็กลับมาบรรจบที่เดิมไม่มีวันแตกต่าง
ผีเสื้อยังมีสิทธิ์เลือกดูดน้ำหวานที่มันจะกินจากเกสรดอกไม้มากมายบนพื้นโลกได้ตามใจชอบ แล้วไยคนเราถึงเลือกที่จะรักบ้างไม่ได้ ในเมื่อธรรมชาติไม่ใช่ผู้หญิงหรือผู้ชาย หากแต่เป็นความรัก
มาเฟียเกาหลีแอบยืนด้อมๆ มองๆ อยู่แถวถุงอาหารที่รุ่นน้องเตรียมมาทาน ในช่วงเที่ยงนี้ด้วยสายตาซุกซน ถูมือไปมาอย่างตื่นเต้นกับรสชาติหอมกรุ่นที่ลอยล่องออกมาจากถุงกระดาษสีน้ำตาล
ขนมปัง ขนมปังแน่ๆ เสร็จตูละ ฮี่...
ถัดไปเล็กน้อยผ้าปูนั่งสำหรับปิกนิคถูกม้วนออกและจัดให้กว้างราบกับพื้นหญ้านุ่มสีน้ำเงินประกายมุกโดดเด่นท่ามกลางยอดหญ้าไหวพลิ้ว จอมบงการและเจ้าความคิดอันเป็นเพื่อนซี้เลือกนั่งกันก่อนตามใจชอบพร้อมด้วยรุ่นน้องที่ทยอยเข้ามานั่งทีหลัง
คิบอม ดงเฮ ฮันกยอง คยูฮยอน เยซองและเรียวอุควิ่งไล่ลูกบอลกันอยู่ไกลออกไป เด็กน้อยย้ายมาเรียนที่เกาหลีในช่วงม.ปลายและมีติวเตอร์ที่ดีอย่างเยซองคอยติวฟิสิกส์กับเคมีให้อย่างใกล้ชิด นิสัยไม่ยอมห่างพี่ชายสุดหวงกับพี่สะใภ้แสนสวยนั้นทำให้เรียวอุคติดพี่แจยิ่งกว่าเมื่อก่อน แถมเดี๋ยวนี้มีพี่เยเย่เข้ามาเพิ่มอีกคนก็ยิ่งแล้วใหญ่ไปไหนมาไหนไม่เยซองก็เรียวอุคนี่แหละที่ต้องหนีบอีกฝ่ายให้มาด้วยกันไม่ยอมให้ห่างตัว
ฮยอกแจกับซองมินคุยออกรสเรื่องนั้นนี้อย่างคนเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันหลายเดือน ปิดเทอมปีสามคยูฮยอนพาซองมินไปเยี่ยมพ่อที่ประเทศจีนจนไม่ได้ติดต่อกัน หรือจะพูดให้ถูกคือเจ้ากระต่ายป่าไม่ยอมให้ไอ้หมาป่าสิ้นลายได้รอดพ้นสายตาแอบไปซ่าที่ไหนได้อีก
พูดถึงเรื่องนี้คยูฮยอนก็เข็ดอยู่เหมือนกัน ช่วงที่ง้องอนกันเรื่องเขาเผลอนอกกายไปนั้นซองมินไม่ยอมแม้แต่จะให้แตะต้องร่างกาย ถึงแม้ช่วงหลังจะยอมให้ทำตามอำเภอใจมากขึ้นแต่ก็ยังมีฟอร์มเล่นตัวบ้าง สั่งให้สวมถุงด้วยเหตุผลที่ว่าอีผู้หญิงที่เขาไปกกไม่รู้สกปรกมากแค่ไหน แถมยังมีเหน็บแนมมาเรื่อยๆ ว่าเขาเป็นพวกไม่สะอาดไปแล้วบ้างละ แปดเปื้อนราคีคาวตามประสาคนหึงหวงบ้างละ และแม้จะถูกสั่งให้ใช้สิ่งขวางกั้นเพราะทิฐิอันสูงชันทว่าความร้อนแรงที่คยูฮยอนบรรจงมอบให้ก็ทำให้เขาเผลอไผลได้ใช้ถุงพลาสติกเหนียวนั่นเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
ครึ่งชั่วโมงถัดมาดงเฮก็ออกจากสนามบอลจำเป็นมาด้วยสภาพเหงื่อซก ใบหน้าขึ้นสีจัดเพราะการออกกำลังกายหนักโดยกีฬาสุดโปรด แต่เล่นได้ไม่เท่าไหร่ก็ออกมาก่อนเพราะในสนามมีแต่พวกขายาวๆ ลงไปเล่น จะให้คนขาสั้นแถมยังเตี้ยตะแมะแคะไปสู้กับใครเขาได้ ไม่นับเรียวอุคที่พี่คนอื่นๆ ส่งลูกให้เล่นบ่อยๆ เพราะถือเป็นน้องเล็ก
ไม่เด็กมั่งให้รู้ไป ชิ!!!
คังอินวางพัดและบรรดาน้ำผลไม้มากมายที่เคยถือปรนนิบัติพัดวีนางฟ้าคนงามแล้วเปลี่ยนตัวกับดงเฮเข้าไปเล่นแทน มีการหันไปเรียกรุ่นน้องสุดหล่อให้ร่วมวงกันแต่เพราะวันนี้พ่อคุณดันพกกล้องตัวโปรดมาหวังเก็บภาพธรรมชาติอย่างที่ชอบเต็มสตรีมเลยขอบาย ซีวอนเดินห่างออกไปจากบริเวณที่สมาคมเคะนั่งรวมตัวกันบนเสื่อสีน้ำเงินเพื่อทำกิจกรรมสุดโปรดปรานของเขาต่อ ดงเฮหยิบพัดมาสะบัดแรงๆ ใส่ตัวเองและดื่มน้ำเอื๊อกๆ พลางหันไปหาอิทึกที่กำลังจ้องจะเปิดประเด็นลับเฉพาะ(เคะ)
“นี่ พวกนั้นน่ะ” ดวงตาซุกซนเคลื่อนไปพยักพเยิดทางพวกที่เล่นฟุตบอลกัน อยู่และซีวอนที่อยู่ไกลออกไป “นายว่าใครมีแววเคะ”
“โหย ถามอะไรเนี่ย” ซองมินโอยคนแรก
“ผมไม่เคยเจออะไรเคะๆ ในตัวฮันกยองเลยนะฮะ” ฮยอกแจครุ่นคิดไม่สนซองมิน
“เอาขำๆ ไง” อิทึกยุให้วกเข้าประเด็นเดิม ใช้สายตาจี้คิบอมกับฮันกยองที่กำลังแย่งลูกกันแล้วถามว่า “ฮยอก นายว่าใครเคะ”
“งั้น... คิบอมมั้ง แบบ...น่านิ่งๆ แต่วิ่งไวไรเง้ย ทำเป็นเฉยแต่ในใจอาจแอบ เคะนิ่มๆ ก็ได้นะ” เข้าข้างคนของตัวเองอีกตามเคย ใครมันจะไปยอมให้สามีของตัวเอง มันกลายเป็นเมียคนอื่นได้ง่ายๆ กัน
“เคะนิ่มๆ...? เหอ เห็นคิบอมเป็นงั้นแต่เอาเรื่องเหมือนกันนะ” คนรู้ดีเรื่องคิมคิบอมทำหน้าประหลาดแล้วพูดเปรยๆ ไม่เชิงแจงสี่เบี้ยให้คนฟังได้รู้ว่าไอ้ที่ ‘เอาเรื่อง’ น่ะ เรื่องไหนกันแน่
ไอ้นิสัยทำให้เสียวแล้วเลี้ยวกลับนี่เก่งนักละลีดงเฮ
“เหรอ” ฮยอกแจงึมงำ “งั้นคยูกี้ของแกเลยซองมิน หื่นๆ อย่างงั้นอยากเป็นคนลองถูก...เฉี๊ยบเองบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้” ฮยอกแจใช้นิ้วชี้ทะลวงอากาศให้ได้รู้ว่า ‘เฉี๊ยบ’ นั่นคืออะไร
“เฉี๊ยบง่ามตีนชั้นก่อนมั๊ยไอ้ไก่ ปาก” ซองมินไม่ยอมให้คยูฮยอนมีภาพพจน์เป็นผู้ชายยุคใหม่ใส่ใจความสวยแบบนั้นแน่ โน๊วววว
“อ่ะๆๆ” คนเปิดประเด็นพยายามไกล่เกลี่ย “งั้นแฟนพวกนายเนี่ย ใครอึดสุด”
“ฮันกยองไม่ทุกคืนก็จริงนะ แต่ทำแต่ละทีผมแทบจะตายคาเตียงอ่ะ สัปดาห์นึงก็สักสองคืน แต่คืนละกี่รอบนี่นับแทบไม่หวาดไม่ไหว” ไม่มีเหนียมอายกันแล้วเมื่อมาถึงขั้นนี้ ก็ที่ผ่านมายังแสดงออกไม่ชัดเจนอีกเหรอว่าเจ้าพวกเคะๆ ที่เคยอวดสวยกันหน้าสลอนเนี่ย... มันเป็นประเภทหื่นลึกลับ!!!
“ซีวอนชอบนอกสถานที่” คนสวยปั้นหน้ายุ่งเหลือบมองไอ้หล่อจ๋า
“ส่วนของผมมันก็ท่าเยอะ บางครั้งทำผมแทบเดินไม่ได้” คงจะไม่พ้นใครนอกจากคยูฮยอน
“ประเภทเดียวกับพี่เลยน้องรัก” อิทึกโยกหัวซองมินอย่างคนหัวอกเดียวกัน ทุกสายตาหันไปมองคนที่ยังไม่ได้ตอบอะไรออกมาสักแอะ คนถูกจ้องหันไปมองคิบอมที่กำลังเลี้ยงลูกพยายามยิงเข้าประตูด้วยสายตาครุ่นคิด
“อืม... ใจง่ายมั๊ง”
“หา?” งงกันทุกคน
“คือแบบ... นิดๆ หน่อยก็ผีหื่นเข้าสิงแล้วอ่ะ มันจะมาแบบไม่ให้รู้ตัวด้วยนะ จู่ๆ มากอดมาอ้อนอะไรเงี้ย เหมือนจะทำตัวน่ารักแต่เปล่าเหอะ สามนาทีให้หลังก็เริ่มปลดเสื้อแล้ว”
“ตัวอันตรายเลยนะเนี่ย” ฮยอกแจพึมพำ
“ถึงได้บอกไงว่าเอาเรื่อง หื่นเอาเรื่อง!!”
“ฮา ฮา ที่พูดนี่เหมือนไม่ชอบนะ พอเอาเข้าจริงถูกใจให้ฟรีทำดีให้เบิ้ลซะงั้นอ่ะ” ซองมินแอบแขวะเล็กน้อยพอน่ารัก เสียงล้อเลียนเลยยิ่งโหมกระพือจนคนถูกรุมกินโต๊ะต้องรีบเปลี่ยนเรื่อง
“แล้วพี่เจย์ไปไหนอ่ะ ทำไมไม่มา พี่จุนกิก็อีกคน”
“หึๆๆ” สองหัวโจกสุดอาวุโสสองคนหันมามองหน้ากันแล้วหัวเราะด้วยสุ้มเสียงไม่น่าไว้ใจ “ป่านนี้ก็คงจุดๆๆ กันรอบสามล่ะมั๊ง” อิทึกคาดการณ์รุ่นน้องที่เหลือมองหน้ากันงงๆ จนกระทั่งซองมินหันไปเล่นเกมส์กับดงเฮโดยใช้กติกาเดียวกับในภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เคยดูด้วยกัน
“สิบเอ็ด”
“วันวัน”
“สิบสอง”
“วันทู”
“สิบสาม”
“วันสงกรานต์”
“สิบสี่”
“วันวาเลนไทน์”
“สิบห้า”
“วันเกิดเค้า”
ซองมินเริ่มกัดริมฝีปากเพราะจนแต้มที่ดงเฮจะชนะ ใบหน้าแสนสวยยักคิ้วมาให้หนึ่งทีสู้ไม่ถอย กระต่ายป่าแยกเขี้ยวใส่ฮยอกแจที่กระซิบบอกเป็นเชิงไม่ต้องยุ่ง
“สิบหก!”
“วันหวยออก!”
“สิบเจ็ด!!”
“วันหวยแดก!!! แอร๊ยยยย ชนะใส!!!”
ดงเฮกับฮยอกแจปะมือกันดังลั่นอารมณ์สะใจสุดขีด ซองมินผู้พ่ายแพ้พึมพำงุ่นง่าน “ฮึ่ม แค้นใจนัก”
“ไร้สาระสิ้นดี ชั้นฟังแกพูดจนจบได้ไงวะเนี่ย” ฮีซอลงงตัวเองมหาศาล
[ ไอ้ห้วน :: Calling ]
“อาฮะ” ฮีซอลรับเสียงใส ข้างๆ มีอิทึกแนบหูฟังด้วยท่าทางระริกระรี้
“อ๊ะอ๊า มึงอย่ามาด่ากู มึงขอให้กูช่วยเองนะ ... แล้วเป็นไง ได้ผลมะ ... ฮ่าๆๆ กูกะแล้ว เฮ่ย ขนาดนี้แล้วมึงไม่ต้องมาปากแข็งแล้วนะ ถ้ามึงไม่เคลียร์กูนี่แหละ จะหาผัวให้มันเอง เออ”
เท่านั้นฮีซอลก็วางสาย หัวเราะคิกคักกับอิทึกอยู่สองคนไม่ยอมปริปากบอกว่าเฮฮากันเรื่องอะไรจนคนอยากรู้เสียอารมณ์ไม่น้อย ซองมินแก้เก้อด้วยการเรียกคยูฮยอนให้มาหา
“คยูกี้ ไปเอาขนมหลังรถมาให้หน่อย”
“แค่นี้ยังอ้วนไม่พออีกเหรอ”
ไม่พูดจาวอนโปรตีนให้สักหน่อยคงไม่ใช่คยูฮยอน ไอ้หมาป่าจอมเฟี้ยวเคี้ยวรากหญ้าผู้กลับใจยอมสยบให้เจ้าอ้วนนิ่มๆ คนนี้
ไม่ใช่เพราะกลัว ไม่ใช่เพราะต้องการจะรั้งให้เขาอยู่กับตัวเอง คยูฮยอนอาจเป็นคนเห็นแก่ตัวที่ทำร้ายซองมินมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือคยูกี้ไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากความรักของมินมิน
“ไม่ได้อ้วน อวบระยะสุดท้ายเฟ้ย”
“ไปเอาด้วยกันดิ” คยูฮยอนพูดแล้วตรงมาดึงแขนอวบให้ไปด้วยกัน ฮยอกแจหัวเราะเอิ๊กอ๊ากกับคำพูดแปลได้หลายนัยของคยูฮยอนจนคนที่ถูกลากไปหันมาถลึงตาใส่
ในสนามบอลจำเป็นที่มีโกลเป็นรองเท้าของคิบอมและฮันกยองในสองฝั่งเมื่อขาดคยูฮยอนกองหน้าไปเกมส์เลยเริ่มกร่อย คิบอมเดินไปใส่รองเท้าแล้วรีบวิ่งไปคว้ารองเท้าฮันกยองก่อนเหวี่ยงไปสุดแรงที่บริเวณชายป่า
“เก๋าเจ้ง!!” ฮันกยองสบถลั่นวิ่งตามไปเก็บรองเท้า คิบอมยิ้มเยาะแล้วเดินไปหาน้ำดื่มพร้อมกับคังอิน เจ้าหมีขี้แกล้งใช้ปลายเท้าเขี่ยหลังชินดงที่นั่งเนียนกินขนมปังของฮยอกแจที่เตรียมมาอย่างเอร็ดอร่อยด้วยความหมั่นไส ้
เยซองพาเรียวอุคไปซับเหงื่อที่บริเวณนอกสวนเพราะร่างเล็กนั้นออกกำลังวิ่งมากกว่าคนอื่นๆ ตุ๊กตาคู่ใจที่เจ้าตัวเล็กมักพกไปไหนมาไหนเสมอแม้แต่ตอนเข้าห้องสอบถูกชายหนุ่มถือไว้ขณะรอเรียวอุคเปลี่ยนเสื้ออยู่ในรถ
“หอมแฮะ” ใบหน้ากลมเคลื่อนลงดมกลิ่นของตุ๊กตาแล้วพึมพำ จังหวะเดียวกับที่เรียวอุคเปิดประตูออกมาพอดี
“พี่เยเย่!! พี่ทำอะไรตุ๊กตาของเค้า!!!”
เสียงใสร้องลั่นไม่พอใจ กระชากของรักของหวงกลับคืนสู่อ้อมกอดของตัวเองทันที เด็กอายุสิบสามในวันวานบัดนี้เติบโตจนเข้าเลขสิบห้าทว่าก็ยังคงเป็นจอมงอแงของตาแก่ขี้บ่นแถวนี้ไม่เคยเปลี่ยน
“พ..พี่แค่ลอง...” จะให้พูดได้ไงว่าแอบดมกลิ่นกายหวานๆ ของอีกคน เยซองอึกอักไม่ตอบสักที
“จะจุ๊บแบมแบมของเค้าใช่มั๊ย แบมแบมเป็นของเค้านะ พี่เยเย่ห้ามจุ๊บ!!!’
พูดแค่นั้นก็สะบัดหน้า กอดแบมแบมของตัวเองไว้แนบอก ดวงตากลมเง้างอดอย่างเด็กหวงของเล่น เยซองยืนเกาหัวแกรกๆ เหงื่อตก ไม่รู้จะง้อเจ้าตัวเล็กที่เขาแอบมีความรู้สึกพิเศษให้แบบนี้ได้ยังไง
เง่อๆๆ พี่เยเย่เครียด Y Y
ดาบเรืองแสงถูกเหวี่ยงไปมาในมือของร่างเล็กระหว่างมองคนอื่นๆ พูดคุยกัน ดวงตากลมโตมองฮันกยองที่เดินมาแต่ไกลจากสภาพแล้วคงจะกู้คืนรองเท้ากลับมาได้เรียบร้อย ลุกขึ้นสวมรองเท้าแล้ววิ่งดุ๊กๆ ไปหาอย่างร่าเริง
“หนูเล็ก เล็กๆๆๆๆๆๆๆ” คุณหนูเล็กปั้นหน้ายุ่งใส่เจ้าคนตัวโตที่เรียกตัวเอง เพี้ยนๆ สั้นๆ แบบนั้น
“จะยํ้าว่าเล็กทำไมนักหนา” ก้าวไปประจันหน้า ท้าวสะเอวถามเสียงขุ่น
“อื๋อ?” สมองของเจ้าคนจีนกำลังประมวลผลด้วยความผิดๆ ถูกๆ หรือจงใจทำ เป็นเซ่อเพื่อจะกลั่นแกล้งคนร่างเล็กคนนี้ก็ไม่รู้ “ก็ ‘เล็ก’ จริงๆ อ่ะ”
“น..นี่นาย! อะไรเล็กฮะไอ้โหด!!!”
“ก็...” สายตาคมเลื่อนไปยังจุดที่ชอบย้ำนักยํ้าหนาว่าคุณหนู ‘เล็ก’ สมชื่อให้เจ้าตัวเสียความมั่นใจและตนเองถูกไล่ตีอยู่บ่อยครั้งแต่ก็ไม่เคยเข็ดสักที ฮยอกแจแยกเขี้ยวมองตาควํ่า ง้างดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์อันเปี่ยมไปด้วยฤทธานุภาพใส่ไอ้โหดเพื่อชำร ความแค้นที่สั่งสมมาเป็นปีๆ
“กลับมานี่เลยนะ!!!” จะยืนให้โง่ ฮันกยองใส่เกียร์หมาตั้งแต่ฮยอกแจว๊ากแล้ว
“ก็มัน ‘เล็ก’ จริงๆ นี่!!’
“อ๊ากกกก นายต๊ายยยยยยย”
ก็เพราะมันกวนตีนแบบนี้น่ะสิเราถึงไม่หวานแบบใครๆ ไม่ทำซึ้งเหมือนคู่อื่นที่เขาจู๋จี๋กันตลอดเวลา
แต่ฮันกยองก็เป็นแบบนี้เพราะเป็นเขาผมถึงได้รักเขาจนถึงทุกวันนี้ ..และเชื่อ ว่ามันจะเป็นแบบนี้จนหัวใจของผมไม่สามารถสั่งการให้รักใครได้อีก
สัญญาแล้วนะ สัญญาแล้วนะว่าจะปกป้องน้องอ่อนแอของนายตลอดไป ห้ามปล่อยมือจากชั้นแล้วนะ
“แบลร์ร้อนมั๊ย มาซับเหงื่อดีกว่า ให้ทึกกี้ดูแลแบลร์บ้างนะ” นางฟ้าคนสวยยิ้มหวาน สิ่งสำคัญที่ไม่เคยทำให้คังอินคิดเปลี่ยนใจไปจากเขาอันดับหนึ่งเลยคือความน่ารักและความซุกซนที่น่าค้นหาและเพลินตาเพลินใจทุกคนที่ได้สัมผัส
จากที่เป็นฝ่ายคอยดูแลปรนนิบัติตอนนี้คังอินยิ่งใหญ่ราวพระราชาที่มีพระชายากระวีกระวาดดูแลข้างกาย
จากที่เคยมองใครต่อใครมากมายสายตาอันแสนวิบวับและเต็มไปด้วยประกายความเจ้าชู้ก็ต้องหยุดลงและจ้องเพียงใบหน้าแสนสวยนี้เท่านั้น ไม่อาจทำลายความเชื่อใจ ของคนที่รักเขาหมดหัวใจอย่างอิทึกได้อีกต่อไป แบลร์ก็เป็นเพียงแค่ผู้ชายเจ้าชู้ในขณะที่ ทึกกี้คนงามคือมนุษย์เจ้าแผนการผู้ใช้สมองและหัวใจจัดการกับคังอินไม่ให้เขารักใครได ้อีกนอกจากตัวเอง
เมื่อซีวอนเดินวนถ่ายรูปผีเสื้อสวยและสวนงามจนเป็นที่พอใจชายหนุ่มเดินกลั มาด้วยสีหน้ามีความสุข แต่ยังไม่ครบหรอก องค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งเขายังไม่ได้เก็บภาพนั้นไว้เลย
“สวยจ๋า” ซีวอนเรียกเสียงหวานพลางยกกล้องขึ้นจับโฟกัส เจ้าของชื่อแทนตัวก็ดูเหมือนจะรู้หน้าที่ดีอยู่แล้ว สวยจ๋ายิ้มแฉ่งชูท่าไม้ตายสองนิ้วปั้นหน้าแฉล้มใส่ให้ช่างภาพเจ้าของใบหน้าหล่อจ๋านั้นอย่างเต็มใจ
ถามว่ารักมั๊ย รักมาก
รักมากแค่ไหน มากที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้จะรักใครได ้
รักในแบบของหล่อจ๋ากับสวยจ๋า
ฝ่ามือเล็กวางราบลงกับผืนเสื่อนิ่มสีน้ำเงินประกายมุก บนหลังมือสีขาวมีฝ่ามือใหญ่ที่วางทับมันเอาไว้ด้วยความรักทั้งหมดจากหัวใจ ทั้งที่สายตาหรือแม้กระทั่งการพูดคุยดงเฮจะสนใจอิทึกที่กำลังพูดอยู่กับเขาทว่าสัมผัสอ่อนโยนจากผู้ชายข้างกายที่เบือนหน้าไปอีกทางมองทิวทัศน์สวนกว้างนั้นยังคงประทับแน่นและรู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่ร่างกายของเราได้ใกล้ชิดกัน
ไม่ต้องมีคำพูด ไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ สายตาไม่จำเป็นต้องประสานเพื่อจ้องมองใครอีกคนอยู่ตลอดเวลา แต่สัมผัสที่ยังคงตราตรึงและหยั่งลึกอยู่ในหัวใจก็คอยตอกย้ำให้พวกเขารับรู้ถึงกันและกันไม่เคยเลอะเลือน
หากไม่มีลิ้มหน้าหวานแล้วลิ้มแก้มแตกจะยิ้มได้ยังไง
หากไม่มีลิ้มบอมแล้วหนูด๊องจะคอยอ้อนคอยงอนให้ใครมาง้อ
หากไม่มีลีดงเฮและคิมคิบอมจะก่อเกิดเป็นความรักอันแสนประทับใจนี้ได้อย่างไร
ขาดไม่ได้ แยกจากกันไม่ได้ ดวงตะวันแสงสีทองนวลกระจ่างหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับภูผาน้ำแข็งแสนทึบหนาจนใครก็ไม่สามารถแยกสองสิ่งนี้ไปจากกันได้
เพราะเกมส์รักที่มีศักดิ์ศรีเดิมพัน แต่ยังไม่ทันที่จะได้ผู้ชนะ หัวใจไม่รักดีก็กลับพลาดท่าเสียทีหลงรักศัตรูคู่หัวใจนี้จนหัวปักหัวปำ แผนการแสนร้ายกาจที่บงการให้หัวใจสุดพยศยอมสยบหลงรักเขาจนโงหัวไม่ขึ้น
บอกแล้วใช่มั๊ย ไม่ว่ายังไง นายก็ต้องรักชั้น!
- อวสาน
ยังคงสติลยั่วจนหยดสุดท้าย นี่ด๊องหรือเป๊บซี่? ไม่เป็นไร เค้าเป็นพรีเซ็นเตอร์ คิคิคิ
ฝากอ่านตอนถัดไปด้วยนะคะ ^ ^
ความคิดเห็น