ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ SF - Keep in touch | WONHYUK KIHAE ★

    ลำดับตอนที่ #6 : WONHYUK | Senior

    • อัปเดตล่าสุด 17 ม.ค. 57









     

    Senior

    SIWON x HYUKJAE | PG-15

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อันนั้นเป็นของสำคัญครับ

    เสียงของนักแสดงหนุ่มในรายการซอกแซกบ้านดาราดังเล็ดลอดออกมาจากโทรทัศน์  ดวงตาคู่เรียวจ้องมองนักแสดงที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งอยู่ตอนนี้  นิ่งเงียบแต่แฝงไปด้วยความขุ่นเคือง

    สำคัญยังไงคะ

    รุ่นน้องที่ชอบผมเคยให้มาน่ะครับ

    มือหนาหยิบจับกระดาษโพสอิทสีเขียวในมือและเล่าความเป็นมาของมันด้วยสายตารักใคร่ พิธีกรสาวร้องว้าวด้วยความอิจฉาที่แม้จะเป็นเรื่องสมัยมัธยมปลาย แต่นักแสดงหนุ่มชื่อดังอย่างชเวซีวอนก็ยังจำได้แม่น

    ถึงเขาจะไม่เคยบอกผมว่าเขาเป็นใคร แต่ถ้าเขาปรากฏตัวขึ้นอีกเมื่อไหร่ ผมก็พร้อมจะตอบรับความรู้สึกของเขาเสมอครับ

    ชเวซีวอน... คุณมันจอมสร้างภาพ!

     

    ฮยอกแจ ไปสแตนบายด์ข้างเวทีได้แล้ว

    รีบออกไปตามคำสั่งหัวหน้าวง ไอดอลวงใหม่อย่างซูเปอร์จูเนียร์กำลังโด่งดังขึ้นอย่างรวดเร็ว อีฮยอกแจในฐานะตำแหน่งเมนเต้นก็พอจะมีแฟนคลับให้ชื่นใจเยอะแยะเหมือนกัน เห็นแฟนๆ ร้องอังกอร์อยู่หน้าเวทีแล้วค่อยยิ้มออกหน่อย พอจะลืมเรื่องที่ทำให้อารมณ์เสียไปได้บ้าง

    ชเวซีวอนยืนมองไอดอลกลุ่มใหม่อยู่จากที่ไกลๆ ดูเหมือนว่าฉากหนึ่งในละครของวันนี้จำเป็นต้องใช้แฟนคลับและศิลปินมาประกอบฉากด้วย  ระหว่างรอซูเปอร์จูเนียร์ใช้เวทีเสร็จเป็นวงสุดท้ายก็จะเป็นคิวถ่ายละครของเขาที่มาขอยืมใช้สถานที่

    ร่างสูงของดาราหนุ่มกอดอกยืนมอง คนตัวเล็กแต่ผิวขาวที่สุดในวงดูเหมือนจะโดดเด่นออกมาเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเวลาเต้นที่มักก้าวมาอยู่ด้านหน้าเสมอ ซีวอนชมการแสดงสดไปเรื่อยๆ พวกศิลปินใหม่ๆ นี่ทำอะไรก็น่าดูไปหมดจริงๆ

    มองเหมือนมึงจะม่อเด็กยังไงไม่รู้เยซองโผล่มายืนข้างๆ แล้วมองตามสายตาเพื่อน คนขาวๆ นั่นเหรอ เออน่ารักจริง

    กูมองเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร

    ให้มันจริง กูเห็นมองแบบนี้ทีไรมึงสนใจเค้าทุกที

    อันนี้เปล่า แค่รู้สึกว่าหน้าคุ้นๆ เหมือนเคยเจอที่ไหน

    มุขใหม่หรือไงเยซองหรี่ตาใส่ซีวอนที่ทำหน้าเหมือนพยายามนึกอะไรสักอย่าง แต่สักพักก็เลิกสนใจการแสดงบนเวทีแล้วหันมาหาเรื่องเยซองแทน

    นี่มึงจะให้กูม่อเด็กให้ได้เลยว่างั้น

    เยซองยักไหล่ ดึงซีวอนมากอดคอแล้วพยักพเยิดให้กลับไปชมการแสดงบนเวทีต่อ

    ก็ไม่เด็กเท่าไหร่นะ ห่างกว่าเราสองสามปีเอง คนที่มึงเล็งน่ะชื่อฮยอกแจ กูเคยคุยด้วยสองสามที เขาบอกเป็นน้องกูสองปีเองนะ

    อายุยี่สิบสี่เองเหรอวะ

    แหม่ ไอดอลสมัยนี้เด็กสุดก็สิบสี่แล้วมึง

    ตบไหล่เพื่อนปุๆ อย่างปลอบใจให้รู้ว่าแก่แค่ไหนสำหรับวงการนี้ ซีวอนยักไหล่เพราะไม่คิดจะอยู่ในวงการนี้ไปตลอดเช่นกัน เขายังมีกิจการของครอบครัวต้องรับช่วงต่อ ดังนั้นวงการบันเทิงก็ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของเด็กหน้าใหม่น่ะถูกแล้ว คิดพลางมองการแสดงบนเวทีต่อไปจนจบ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     สวัสดีครับ! พวกเราซูเปอร์จูเนียร์ครับ

    เงยหน้าขึ้นจากบทละครหลังได้ยินเสียงดังเอะอะจากหน้าประตู สมาชิกวงที่เพิ่งลงจากเวทีเข้ามาทักทายทีมงานและนักแสดงในห้องแต่งตัว  แต่มากันไม่กี่คนเท่านั้นน่าจะเฉพาะคนที่สนใจอยากเห็นดาราตัวเป็นๆ มากกว่า มีหัวหน้าวงกับเมมเบอร์อีกสี่คน หนึ่งในนั้นเป็นคนที่ชเวซีวอนรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาแปลกๆ แต่จำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหน

    รายนั้นพอหันหน้ามาสบตาเข้าพอดีก็ดูอึ้งๆ ไป ซีวอนจึงยิ้มให้อย่างเป็นมิตรและพยายามนึกให้ออกว่าเป็นใคร แต่ก็ต้องแปลกใจเพราะนอกจากคนตัวเล็กที่เต้นเก่งๆ คนนั้นจะไม่ยิ้มกลับแล้วยังขึงตาใส่เขาอีก

    หรือจะคิดไปเองวะ

    คงไม่เพราะทันทีที่ฮยอกแจเห็นซีวอนก็รีบหมุนตัวกลับแล้วเดินฉับๆ ออกไปจากห้อง ไม่สนใจเสียงเรียกของทงเฮที่ยึกยักจะตามเพื่อนไปดีหรือมาขอลายเซ็นเยซองที่อยู่ใกล้ๆ ดี

    ซีวอนลุกขึ้นไปทักทายกลุ่มนักร้องที่เหลืออยู่ในห้องตามมารยาท ทุกคนเป็นมิตรและดูนอบน้อม สมาชิกทุกคนที่มายืนคุยกับทีมงามไปพลางๆ ระหว่างทงเฮขอลายเซ็นซีวอนและตามด้วยนักแสดงคนอื่นๆ จนครบ

    ทำไมจู่ๆ น้องเค้าก็ทำหน้าบึ้งแล้วเดินออกไปเฉยเลยวะ

    ใครทำเยซองขมวดคิ้วงงๆ

    ฮยอกแจไง เมื่อกี้ตอนเข้ามาพอเค้าเห็นกูสีหน้าก็เปลี่ยนไป แถมเดินหนีออกไปเลย กูไปทำอะไรไว้หรือเปล่าวะ

    แล้วมึงจะไปทำอะไรเค้าตอนไหน คิดมาก น้องเค้าอาจมีธุระก็ได้มั้ง

    ซีวอนยังทำหน้าแคลงใจ สงสัยกับท่าทีประหลาดๆ ของฮยอกแจแต่พยายามคิดให้ได้เหมือนที่เยซองพูด จนกระทั่งผู้กำกับเรียกคิวถ่ายของเขาที่หน้าเวที ซีวอนก็รู้ได้ในทันทีว่าฮยอกแจต้องไม่พอใจเขาอยู่แน่ๆ

    ผมไม่ทำ แค่ผมเต้นของผมอย่างเดียวก็พอแล้ว

    อย่างี่เง่าสิฮยอกแจ จำไว้ว่ามันคืองาน งานของนาย เพราะฉะนั้นนายต้องทำ

    ให้ทงเฮทำสิ เรื่องอะไรผมต้องเข้าฉากกับผู้ชายคนนั้นด้วย

    เข้าฉากนิดๆ หน่อยๆ ไม่มีบทพูดด้วยซ้ำ นายแค่สอนคุณแตฮีเต้นแล้วคุณซีวอนก็แค่มองเข้ามา ไม่ได้เข้าใกล้กันด้วยซ้ำ แล้วก็ไม่ต้องเอาทงเฮมาอ้าง นายก็รู้ว่าทงเฮเต้นท่านั้นแย่แค่ไหน ถ้าอยากให้ภาพพจน์วงเราดูไม่ดีก็ตามใจ ฉันก็เคารพการตัดสินใจของนาย

    โธ่พี่.......”

    ซีวอนมองคนตัวเล็กกระทืบเท้าแรงๆ อย่างขัดใจอีกหลายครั้ง เถียงกับหัวหน้าวงต่ออีกสักพักสุดท้ายก็ดูเหมือนว่าจะปฏิเสธงานนี้ไม่ได้ ซีวอนยังนั่งติดอยู่บนเก้าอี้และมองฮยอกแจที่ซ้อมเข้าฉากกับคิมแตฮีนางเอกของเรื่อง ทำทีเป็นอ่านบทของตัวเองไปเรื่อยๆ ทั้งที่จำได้ขึ้นใจหมดแล้วอย่างแนบเนียน

    ท่าทางของฮยอกแจซึ่งแตกต่างจากทุกคนที่เข้าหาเขามันทำให้เกิดความสงสัยขึ้นในหัวของซีวอน ถ้าเป็นคนอื่นเขาก็จะคิดเอาว่าที่ทำเป็นไม่ชอบกันแบบนั้นก็คงเพราะไม่ชอบ เหตุผลที่จะไม่ชอบดารามีอยู่เยอะแยะ แต่ที่ทำให้ซีวอนยังคาใจก็เพราะเขารู้สึกคุ้นหน้าฮยอกแจอย่างที่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่าเคยเจอกันที่ไหนมากกว่า

    ที่ไม่คุ้นเลยก็มีแต่น้ำเสียงห้วนๆ ที่อีกฝ่ายพูดให้ได้ยินแว่วๆ นั่นแหละ

    คุณซีวอนเข้าฉากค่ะ

    พระเอกของเรื่องทิ้งบทไว้บนเก้าอี้ผ้าแล้วลุกเข้าไปในฉาก ยืนคุยกับผู้กับกำเรื่องคิวอยู่สักพักก็ถึงเวลาถ่ายจริง ไม่ใช่เรื่องยากของฮยอกแจนักเพราะแค่เต้นให้คิมแตฮีดู จากนั้นก็พูดกับเธอแค่ว่า 'ตรงนี้ไม่ต้องยกแขนสูงมาก' ตามบท แล้วถึงหันมาเห็นเขาที่ยืนดูคนทั้งคู่อยู่หน้าประตูจึงเดินออกไปจากห้องซ้อมเพื่อให้พระนางได้มีโอกาสให้กำลังใจกันก่อนเริ่มการแสดง

    แอคชั่น

    ฮยอกแจเริ่มเต้นทันทีที่ได้ยินเสียงสั่ง กล้องสองตัวจับภาพระยะใกล้และไกลของคนทั้งคู่ในห้องซ้อมหลังเวที ส่วนอีกตัวหนึ่งกำลังจับสายตาคมของพระเอกหนุ่มที่กำลังมองหญิงสาวคนรัก ซึ่งจริงๆ แล้วกำลังมองเด็กหนุ่มร่างเล็กโยกย้ายสะโพกอย่างคล่องแคล่วมากกว่า

    ตรงนี้ไม่ต้องยกแขนสูงมากนะ

    พอพูดจบฮยอกแจก็ทำตามคิวที่ต้องบังเอิญหันมาเห็นซีวอนอยู่พิงกรอบประตูมองอยู่พอดี ซีวอนไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรมากนัก แต่ฮยอกแจเป็นฝ่ายที่ต้องทำเหมือนประหลาดใจเมื่อเห็นเขา รายนั้นแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมแม้จะเป็นบทเล็กๆ ที่หันไปยิ้มให้นางเอกเหมือนบอกลาแล้วเดินหายเข้าไปในอีกห้องหนึ่ง

    คัท

    ฮยอกแจเดินกลับเข้ามาดูจอมอนิเตอร์ ทิ้งระยะห่างจากซีวอนด้วยทีมงานที่ยืนดูอยู่ด้วยอีกสี่คน จนผู้กำกับบอกขอบคุณและล่ำลาทีมงานคนอื่นจนเสร็จฮยอกแจก็แทบจะหายตัวไปจากห้องก่อนที่ซีวอนจะรู้ตัว แน่นอนว่าฮยอกแจไม่ได้เข้ามาพูดอะไรกับเขาเลยแม้แต่น้อย

    ยิ่งทำให้ความสงสัยในตัวของอีฮยอกแจมีมากขึ้นไปอีก

    กูว่ากูต้องเคยเจอเค้ามาก่อนแน่ๆ ที่ไหนสักที่ แล้วก็อาจไปทำให้เค้าไม่พอใจจนเกลียดกูมาถึงทุกวันนี้

    หมายถึงใครวะ? อ๊อออออ น้องคนนั้นน่ะเหรอ อะไรของมึงยังไม่เลิกคิดอีกเหรอ ผ่านมาสองวันแล้วนะเว้ยเยซองกระดกเหล้าเข้าปากพลางมองสีหน้าครุ่นคิดของซีวอน ก็ว่าแปลกๆ ที่วันนี้มาเที่ยวทั้งทีแต่ข้างกายเพื่อนรักกลับไม่มีสาวสวยมานั่งด้วยเหมือนทุกครั้ง ที่แท้ก็เอาแต่คิดถึงน้องคนนั้นนี่เอง

    เหมือนจะลืมๆ ไปแล้ว แต่พอได้ยินเพลงวงนั้นทีไรหน้าก็ลอยมาอีกหมายถึงเพลงที่ดีเจในผับกำลังเปิดอยู่และเป็นที่นิยมขณะนี้จนไปไหนมาไหนก็ต้องได้ยิน เลยอดคิดไม่ได้ว่ากูไปทำอะไรเค้าไว้กันแน่

    อยากรู้ก็ถามสิวะ

    คงจะตอบหรอก หน้ากูยังไม่อยากจะมอง

    แหม่ คนอย่างมึงก็มีวิธีเยอะแยะให้สาวๆ ยอมเปิดปากพูด น้องน่ารักๆ อย่างฮยอกแจอีกคนนึงก็คงไม่น่าพลาดซีวอนยิ้มมุมปากกับคำชมของเพื่อน จรดขอบแก้วบนริมฝีปากแล้วจิบนิดหน่อย

    คงยากว่ะ อาทิตย์หน้ากูมีคิวถ่ายต่างจังหวัดทั้งวัน สัมภาษณ์สถานีวิทยุหรือออกรายการอะไรก็ไม่ได้ไป คงไม่มีทางไปเจอได้เนียนๆ หรอก

    ก็อาทิตย์หน้าไงโอกาสของมึง งานคอนเสิร์ตที่ผู้กำกับคิมใช้ถ่ายทำเป็นฉากจบของละคร มึงรู้มั้ยว่าที่ไหน

    ก็หาดคังวอนโดไง

    แล้วมึงรู้มั้ย ว่าศิลปินปิดงานวันนั้นเป็นใคร

    ใบหน้าหล่อจัดของพระเอกยอดนิยมเริ่มมีรอยยิ้ม มึงอย่าบอกกูนะว่า...”

    หน้ามึงดีใจขนาดนี้แล้วนี่หว่า  ถ้าไม่ใช่ซูเปอร์จูเนียร์กูก็โดนถีบสิวะ

    ชเวซีวอนไม่ชอบงานต่างจังหวัดที่ต้องเดินทางไกลๆ นัก ยกเว้นงานนี้ นักแสดงชื่อดังขับรถไปจังหวัดคังวอนโดด้วยตัวเองตั้งแต่เช้ามืด กว่าจะถึงก็สายๆ ที่รีสอร์ทใกล้สถานที่จัดงานคอนเสิร์ต มีทีมงานในกองละครเซตฉากรอโดยอาศัยเวทีจริงเป็นสถานที่ถ่ายทำ หลังมาถึงซีวอนพยายามมองหาศิลปินกลุ่มใหญ่ๆ ที่หลังเวที แต่ก็ยังไม่เห็นวงไหนมีสมาชิกมากไปกว่าเจ็ดคนสักวง

    “พี่ฮุกแจน่ารักจังเลยค่ะแม่”

    “ฮยอกแจจ้ะ  ไหนพูดสิจ๊ะ”

    ซีวอนเดินตามสองแม่ลูกที่เพิ่งผ่านหน้าเขาไปตะกี้

    “ขอโทษนะครับ  ซูเปอร์จูเนียร์อยู่แถวนี้เหรอครับ”

    “ตรงริมหาดนู้นน่ะค่ะ”   แม่ของเด็กผู้หญิงมีทีท่าจะจำเขาได้แต่ยังไม่แน่ใจเพราะซีวอนใส่แว่นดำ  ซีวอนรีบก้มหาเด็กหญิงที่ถือกระดาษอยู่ในมือ

    “ลายเซ็นพี่ฮยอกแจเหรอครับ”

    “ค่า  พี่เค้าเซ็นให้ฮายังด้วย   วาดหัวใจซ้วยสวยยย”

    “ขอพี่ดูหน่อยได้มั้ยครับ”  ฮายังยื่นกระดาษลายเซ็นให้ดูแต่โดยดีเพราะพี่ชายท่าทางใจดี  แถมยังหล่อด้วย

    แต่ลายเซ็นบนกระดาษทำเอาหัวใจของชเวซีวอนหยุดเต้นไปชั่วขณะ  มองผิวเผินก็เหมือนรูปหัวใจสวยๆ ทั่วไปแบบที่ฮายังบอก  แต่การวาดแบบนี้แล้วแต้มรอยยิ้มไว้ตรงกลางรูปหัวใจนี่มัน

    ไม่กล้าบอกรักหรอก  แค่มองก็พอแล้ว

    เจ้าของโพสอิทที่เขาเก็บไว้มาเกือบเจ็ดปี!

    ซีวอนรีบคืนกระดาษให้ฮายังแล้ววิ่งออกมาทันที  ถึงว่าหน้าตาคุ้นๆ แถมยังสายตาชิงชังที่บ่งบอกว่าเกลียดเขานักหนานั่นอีก  ฮยอกแจเป็นเด็กคนที่เขียนโพสอิทให้เขา  ซีวอนเพิ่งรู้  และซีวอนก็รู้อีกด้วยว่าฮยอกแจมาสารภาพรักกับเขาแล้ว!

    “โธ่เว้ย!

     

     

    เจ็ดปีก่อน

    ซีวอนล้วงหยิบกระดาษโพสอิทที่ได้มาวันนี้จากกระเป๋ากางเกงแล้วมองด้วยสายตาอบอุ่น  เขาชอบความสม่ำเสมอของเจ้าของโพสอิทที่ได้รับมาตั้งแต่เขาอยู่ปีสองจนใกล้จะจบปีสามแล้ว  และซีวอนก็คิดว่าอาจจะกำลังตกหลุมรักคนที่ไม่กล้าบอกรักเขาแต่แสดงออกอย่างลับๆ ว่าเป็นห่วงเขาอยู่ตลอดก็ได้

    ในจำนวนร้อยกว่าใบ  มีสองใบที่ซีวอนชอบที่สุดเพราะข้อความที่เขียนมาว่า

    ไม่กล้าบอกรักหรอก แค่มองก็พอแล้ว

    ถ้าบอกว่าชอบแล้วไม่ได้มองพี่เหมือนเดิมอีก งั้นไม่บอกหรอก จะแอบมองอยู่อย่างนี้แหละ ให้คนอื่นพูดไปเถอะเถอะแต่ถ้าเป็นไปได้  อย่าเพิ่งไปชอบใครนะฮะ

    จริงๆ แล้วซีวอนชอบใบหลังมากกว่าเพราะนอกจากจะฟังดูเหมือนงอนๆ เขาแล้ว  ยังมีอาการอ้อนน่ารักๆ เพิ่มเข้ามาอีก   เจ้าของโพสอิทนี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ซีวอนไม่ยอมรับรักใคร   ถึงอย่างนั้นทุกครั้งที่มีคนรวบรวมความกล้าเข้ามาสารภาพรักซีวอนก็จะมองหาโพสอิทในมือ  หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับคนที่เขารอ 

    มีอย่างหนึ่งที่ซีวอนแน่ใจเกี่ยวกับเจ้าของโพสอิทแผ่นนี้คือต้องเป็นรุ่นน้องของเขาหนึ่งปี  เพราะซีวอนเคยเห็นกระดาษแบบนี้ในกระเป๋าดินสอของกลุ่มเด็กปีสอง  แต่รอดูอยู่นานก็ไม่มีเจ้าของมาหยิบไปจนซีวอนไปเข้าห้องน้ำแล้วกลับมาเท่านั้นแหละกระเป๋าใสๆ ทั้งใบก็หายไปเลย

    “มึงบอกเขาสิว่ามึงก็ชอบ  ให้แสดงตัวได้แล้ว”

    เยซองกระตุ้น  ซีวอนถอนหายใจหนักๆ อาทิตย์นี้เขาถูกสารภาพรักมาเป็นครั้งที่ห้าแล้ว  เยซองตบไหล่เบาๆ เป็นเชิงปลอบใจเพราะรู้ว่าซีวอนเป็นคนดีที่ไม่ชอบทำให้ใครผิดหวัง  เวลามีคนมาบอกว่ารักหรือชอบก็ทำเพียงยิ้มให้แล้วพูดว่าขอบคุณ  ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธเพราะกลัวจะทำให้อีกฝ่ายเสียใจ

    ซีวอนคิดตามแต่ก็พยายามไม่สนใจเยซองที่เอาแต่พูดกรอกหู   เก็บกระดาษสีใบเล็กใส่กระเป๋าเพราะมีคนเรียกออกไปนอกห้อง  เยซองดีดกีตาร์จบไปหนึ่งเพลงซีวอนก็กลับเข้ามาด้วยสีหน้าเซ็งๆ

    “ถูกสารภาพรักอีกแล้วเหรอมึง” 

    “เออ” 

    “ใช่น้องโพสอิทมั้ย”

    “ไม่ใช่”

    “เชื่อกูเดี๋ยวก็มีมาอีก  แล้วเนี่ยถ้ามึงไม่ปฏิเสธไปจริงๆ จังๆ นะ  น้องโพสอิทที่รักของมึงเค้าอาจจะคิดว่ามึงตอบตกลงกับใครสักคนไปแล้วแน่ๆ”  เยซองที่นั่งดีดกีตาร์อยู่ข้างๆ บอกอย่างรำคาญ  เขาเองก็คอยจะเห็นหน้าเจ้าของโพสอิทนี่เหมือนกัน

    “เขาน่าจะรู้ว่ากูไม่ได้คบใคร”

    “มึงบอกเขาแอบมองมึงอยู่ตลอดไม่ใช่เหรอ  ถ้าเผอิญตอนมีคนมาบอกว่าชอบมึงแล้วกลับออกไปด้วยท่าทางยิ้มๆ มีความสุข  มึงว่าน้องโพสอิทเห็นแล้วจะคิดยังไงล่ะ”

    “งั้นกูควรทำไง”

    “ปฏิเสธให้เด็ดขาดไปซะ  บอกว่ามีคนที่ชอบแล้ว  ไม่ต้องมาหวังอะไรจากมึงหรอก”

    ยังไม่ทันตอบอะไรเพื่อนร่วมห้องก็เรียกซีวอนออกไปอีกเพราะมีคนมาหา  ซีวอนเดินออกมาเจอเด็กผู้ชายใส่แว่นผมฟูๆ ยืนก้มหน้างุด

    “มีอะไรกับฉันเหรอ”

    “เอ่อ  ผม……………. ผมชอบพี่ซีวอน!”  กลั้นหายใจแล้วพูดออกไปเต็มเสียง  ไม่มีใครสนใจนักหรอกเพราะหน้าห้องนี้น่ะมันสถานที่บอกรักชเวซีวอน   ซีวอนอึ้งไปสักพักแล้วมองหน้าอีกฝ่ายที่กำลังยืนหน้าแดงปิดตาปี๋ภายใต้กรอบแว่น  มือขยุกขยิกเหมือนไม่มั่นใจ

    “เฮ่อ….  นายเป็นคนที่เจ็ดนะรู้มั้ย”   ซีวอนถอนหายใจ  “แล้วตอนนี้ฉันก็เบื่อจนไม่อยากจะถูกเรียกออกมาหน้าห้องเพราะเรื่องแบบนี้อีกแล้ว”  

    “พี่ซีวอน…..” 

    เห็นเด็กปีสองน้ำตาคลอเบ้าแล้วซีวอนก็ใจอ่อนยวบ   รู้สึกสงสารจนไม่อยากให้มีใครเป็นแบบนี้เพราะเขาอีกแล้ว

    “ฉันมีคนที่ชอบแล้ว  นายไปชอบคนอื่นเถอะ” 

    ตัดบทแล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง  ทิ้งให้คนที่รวบรวมความกล้ามาตลอดหลายเดือนนิ่งค้างอยู่หน้าห้อง  มือเล็กกุมโพสอิทแน่นจนยับ  วิ่งหนีออกมาพร้อมกับกระดาษแผ่นเล็กในมือซึ่งวันนี้ตั้งใจวาดรูปหัวใจสวยๆ มีรอยยิ้มตรงกลางมาให้เองกับมือพร้อมบอกความรู้สึก  แต่สิ่งที่ได้รับคือการขอให้ไปชอบคนอื่น

    ฮยอกแจเกลียดพี่ซีวอน  เกลียดพี่ซีวอนที่สุดเลย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ฮยอกแจหน้าบึ้งขึ้นมาทันทีที่เห็นชเวซีวอนในระยะใกล้และดูเหมือนว่าอีกฝ่ายกำลังเดินเข้ามาหา   ไม่รู้ว่าในมือถืออะไรมาแต่เหมือนกระดาษกับปากกาเมจิก   ฮยอกแจแกล้งทำเป็นไม่สนใจแล้วลงมือขุดทรายมาปั้นเล่นต่อ  แต่จู่ๆ ก็ดูเหมือนว่าแดดอ่อนๆ ที่กำลังส่องอยู่จะถูกบังด้วยร่างของซีวอนจนหมดสิ้น  ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่พอใจ

    “หลีกไป”

    “ขอนั่งด้วยคน”

    “ไม่ให้”

    “แค่แป๊บเดียว”

    ตวัดตามองอย่างไม่สบอารมณ์นึกอยากผลักร่างสูงให้กระเด็นไปบนกองทรายแต่ว่าไม่กล้าพอ   ทำท่าจะลุกหนีไปที่อื่นซะเองข้อมือก็ถูกจับไว้แล้วดึงให้นั่งลงที่เดิม

    “ปล่อยผมนะ”

    “ทีมงานขอร้องให้ฉันมาขอลายเซ็นนาย  เขาเป็นแฟนคลับของนายเลยนะ” 

    ยื่นกระดาษให้เซ็นแต่ฮยอกแจยังเมินอย่างไม่อยากสนใจ  แต่เพราะคำว่าแฟนคลับของนายทำให้ยอมลดสายตาลงมองกระดาษแล้วคว้ามาเซ็นให้เร็วๆ

    “เขาชื่ออะไรครับ”  ถามห้วนๆ แล้วเปิดปลอกปากกาออกเร็วๆ  จัดการเซ็นลายเซ็นลงไปอย่างชำนาญ

    “แทยัง   เขียนให้ด้วยนะว่าอย่าเพิ่งไปชอบใครนะฮะ”

    ฮยอกแจตวัดสายตามองเคืองๆ เป็นใครกันมาสั่งอยู่ได้  แต่ก็ยอมเซ็นให้ตามที่ขอ  พอเขียนเสร็จก็วาดรูปหัวใจยิ้มปิดท้าย   เหมือนจะหยุดหายใจไปอย่างไรอย่างนั้นตอนที่ฮยอกแจเขียนเสร็จแล้วยัดกระดาษใส่มือซีวอน  ทำท่าจะลุกหนี  แต่ก็ต้องฮึดฮัดใส่ร่างสูงอีกครั้งเพราะยังเอาแต่จับไว้อยู่ได้

    “จับได้แล้ว”  ซีวอนพูดยิ้มๆ

    “จับอะไรของคุณ  ปล่อยผมได้แล้ว”

    “เจ้าของโพสอิทที่เขียนให้ฉันทุกวันพฤหัสกับศุกร์  บางครั้งก็เอานมสตรอว์เบอร์รี่มาใส่ไว้ในล็อกเกอร์จนฉันต้องกินเพราะนายงอแงมาในโพสอิท  บอกว่าชอบฉันแต่จะไม่สารภาพรักด้วย  แต่ก็บอกฉันว่าอย่าเพิ่ง  แล้วก็เป็นคนที่ทำให้ฉันไม่ได้คบกับใครเลยตอนม.ปลายเพราะว่ากลัวเขาเสียใจ”

    ……………..

    “ถ้าพี่รู้ว่าเด็กคนนั้นคือเรา  พี่จะไม่มีทางปฏิเสธเขาเลย   ฮยอกแจ”

    สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำให้ฮยอกแจพูดไม่ออก  แต่พอคิดถึงวันที่ถูกเขาปฏิเสธมาอย่างไร้เยื่อใยแล้วฮยอกแจก็หน้าชา  แม้จะถูกมองด้วยความอ่อนหวานแต่ก็พยายามจะข่มใจที่เหมือนจะเต้นหนักขึ้นมาทุกทีตอนที่ซีวอนพูดจาอ่อนโยนด้วย   ตั้งเจ็ดปีเลยนะเพิ่งจะมาเห็นค่ากันตอนนี้เหรอ

    “แต่คุณก็ปฏิเสธไปแล้ว”  

    “เพราะพี่ไม่รู้  พี่ขอโทษ”

    “ไม่จำเป็น   เพราะตั้งแต่วันนั้นผมก็ยอมรับความต้องการของคุณ  และทำตามที่คุณต้องการครบถ้วนแล้วด้วย”

    ฉันมีคนที่ชอบแล้ว  นายไปชอบคนอื่นเถอะ

    “ใคร” 

    เสียงของซีวอนเย็นยะเยือก   สายตาอ่อนหวานก็แข็งกร้าวขึ้นทันที

    “ไม่ใช่เรื่องของคุณ”   ฮยอกแจสะบัดตัวหนีแล้วก้าวเท้าเร็วๆ จากไป  นึกอยากปิดหูเพราะเสียงตะโกนของซีวอนที่ดังตามมา

    “เราไม่มีทางเลิกชอบพี่ได้หรอกฮยอกแจ!

    ไม่จริง!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ฮยอกแจพยายามเลี่ยงซีวอนตลอดทั้งวันเพราะกองถ่ายละครกับหลังเวทีคอนเสิร์ตนั้นแทบจะอยู่ติดกัน   ตอนฮยอกแจซ้อมเต้นอยู่บนเวทีก็ถูกพระเอกดังมายืนมองจนเสียสมาธิ  เต้นผิดเต้นถูกจนโดนพี่อีทึกดุ  เหมือนจะรู้ว่าเป็นตัวต้นเหตุซีวอนถึงได้ยิ้มขำๆ ให้อย่างจงใจ  แต่ก็ไม่ได้ละสายตาไปจากฮยอกแจเลย

    มีแค่ช่วงที่ซีวอนถ่ายละครเท่านั้นที่ฮยอกแจค่อยหายใจหายคอโล่ง  ไม่ต้องทนเก๊กหน้าบึ้งตลอดเวลาอย่างเมื่อกี้

    “เป็นอะไรไป”  คยูฮยอนเดินเข้ามาขยี้หัวตามประสาเพื่อนที่ชอบเล่นหัวเล่นหางกันปกติ  ฮยอกแจร้องย่าห์แล้วกระโดดเหย็งๆ จะยีหัวคยูฮยอนบ้างแต่อีกคนใช้ความตัวสูงให้เป็นประโยชน์ยืดตัวจนฮยอกแจเอื้อมไม่ถึง  ฮยอกแจเลยกระโดดหมับล็อกเข้าที่เอวหนาแล้วเกาะเป็นลิงซะเลย

    “เฮ้ย  ลงไปเลย”

    “ไม่  คยูฮยอนอยู่นิ่งๆ ดิเดี๋ยวตก”

    “จะไปกินน้ำ  ลงไปเหอะ”

    “พาเราไปด้วย”

    แล้วฮยอกแจก็หนีบคยูฮยอนแน่นให้พาไปกินขนมที่หลังเวทีซึ่งเปิดโล่งไว้  คยูฮยอนหยิบน้ำมาดื่มแล้วเผื่อไปให้ฮยอกแจด้วยแต่ต้องป้อนเพราะฮยอกแจมือไม่ว่าง

    “นั่นชเวซีวอนป่ะน่ะ   เขามองมาทางนี้ทำไม”

    “ช่างเขาดิ”

    “ทำไม  มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า”

    “จะไปมีได้ไงไม่รู้จักกัน”

    “เออว่ะ” 

    แล้วคยูฮยอนก็แบกฮยอกแจไปรอบโต๊ะที่มีอาหารอยู่เต็มไปหมด   บางทีฮยอกแจก็เป็นคนแกะถุงขนมแล้วป้อนคยูฮยอนที่ใช้มือยึดต้นขาเขาไว้กับตัว   เป็นภาพสวีทหวานให้แฟนๆ คยูฮยอกที่ยืนอยู่ข้างนอกได้กรี๊ดกร๊าดกันเป็นแถบ   ยกเว้นกับซีวอนที่ทนมองอยู่นานแล้ว

    “ซีวอนมีสมาธิหน่อย”

    นักแสดงหนุ่มลูบหน้าสองสามทีก่อนจะกลับไปตั้งใจทำงาน   แต่ยังอดมองไปยังอีกฟากของกองถ่ายไม่ได้เพราะฮยอกแจยังเกาะอยู่บนหลังคยูฮยอนไม่ปล่อย  ยิ่งพอรายนั้นบังเอิญหันมาสบตากับซีวอนและได้รับสายตาดุๆ กลับไปก็ยิ่งลอยหน้าลอยตา  ป้อนน้ำป้อนขนมคยูฮยอนต่ออย่างยั่วโมโห

    “ขอโทษครับ  ผมขอพักสิบนาที”

    หันไปมองอีกทีซีวอนก็หายไปแล้ว  ฮยอกแจเลยได้ฤกษ์โดดลงจากหลังคยูฮยอนซะที  คยูฮยอนร้องโวยที่จู่ๆ ฮยอกแจก็เหวี่ยงตัวเองลงมาไม่ได้สนใจเลยว่าเขาจะหน้าทิ่มหรือเปล่าแต่ฮยอกแจก็หัวเราะใส่อย่างสะใจก่อนจะหันซ้ายหันขวามองหาเพื่อนคนอื่น

    “ทงเฮไปไหน”

    “จะรู้ได้ไง  ไปติ่งดาราอีกมั้ง  ลองกลับไปดูที่ห้องพักดิเนี่ยเดินไปข้างหลังอ่ะไม่น่ามีคน”

    “โอเคๆ”

    เดินมาตามทางที่คยูฮยอนบอกที่มีบ้านพักเล็กๆ ตั้งเป็นหลังๆ แต่เงียบสงบเพราะกำลังปิดซ่อม  ฮยอกแจเดินฮัมเพลงไปเรื่อยๆ ฉับพลันฝ่ามืออุ่นจัดของใครบางคนที่ทำให้ฮยอกแจตัวเย็บวาบก็พุ่งเข้ามาปิดปากแล้วดึงคนตัวเล็กให้เข้ามาในทางเดินแคบๆ ที่เชื่อมจากบ้านพักไปยังชายหาด

    หัวใจที่เต้นแรงด้วยความหวาดกลัวเริ่มใจชื้นขึ้นมาหน่อยเมื่อเห็นชเวซีวอนกำลังยืนอยู่ต่อหน้า  จากที่ตกใจกลัวก็กลายเป็นโมโหแล้วสะบัดท่อนแขนแกร่งให้พ้นจากตัว

    “คุณทำบ้าอะไร”

    “เรานั่นแหละทำอะไรอยู่”

    “อะไร”

    “พยายามจะทำให้พี่หึง   สนุกนักหรือไง”

    ฮยอกแจไม่ไว้ใจกับท่าทางย่างสามขุมเข้าหาของซีวอนเท่าไหร่นักแต่อะไรบางอย่างก็ผลักดันให้ฮยอกแจเชิดหน้ารั้น  ตอบกลับด้วยท่าทีหยิ่งยโส

    “ก็สนุกดี”

    “งั้นเราคงดีใจถ้าได้รู้ว่า... มันได้ผล”

    มัวแต่เชิดหน้าหนีรู้ตัวอีกทีก็โดนขโมยจูบที่แก้มไปแรงๆ จนแก้มนิ่มยุบ  รู้สึกได้ถึงจมูกโด่งเป็นสันที่ฟัดลงมาจนเจ็บนิดๆ  ฮยอกแจตาโตผลักซีวอนออกแต่ก็ถูกจับแขนไว้ ยิ่งตกใจเข้าไปอีกตอนที่ซีวอนทำท่าจะโน้มหน้าลงมาอีกครั้ง  ฮยอกแจหันหน้าหนีอีกแต่กลายเป็นว่าเปิดโอกาสให้เขาก้มลงมาจูบแก้มอีกข้างเข้าเต็มๆ

    “ปล่อยผมนะ!” 

    “บอกแล้วว่ามันได้ผล  แล้วถ้าเราไม่อยากถูกลงโทษอีกก็อย่ายั่วโมโหพี่”

    ฮยอกแจเอามือจับแก้มตัวเอง  จ้องซีวอนอย่างโกรธๆ  ไม่สนว่าซีวอนจะโน้มหน้าลงมาพูดด้วยอย่างใกล้ชิดแค่ไหน

    “พี่ไม่เชื่อหรอกนะว่าความรู้สึกของเราจะเปลี่ยนไป”

    “.................”

    “เพราะพี่เองยังรู้สึกเหมือนเดิมกับเราอยู่เลย”

     

    ฮยอกแจเกลียดชเวซีวอนที่สุด!

    มาทำเรื่องแบบนั้นกับเขาแล้วยังมีหน้ากลับไปถ่ายละครต่อด้วยท่าทางอารมณ์ดีแบบนั้นได้ยังไง  มันน่าโมโหชะมัดที่พอหลังจากนั้นสามชั่วโมงทีมงานก็เก็บกองเตรียมเปลี่ยนสถานที่ถ่ายทำ  ฮยอกแจก็พยายามจะไม่สนใจอยากอยู่ห่างๆ เอาไว้ให้มากที่สุดจนกระทั่งคยูฮยอนเดินเข้ามาบอก

    “เออเมื่อกี้ชเวซีวอนเขามาขอเบอร์นายกับฉัน  เห็นหน้าตาดีเลยให้ไปละนะ”

    โจคยูฮยอน !!!!!!!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตั้งแต่วันนั้นก็มีเบอร์แปลกๆ โทรเข้ามาตลอดแต่ฮยอกแจมั่นใจเกินครึ่งแล้วว่าต้องเป็นชเวซีวอนแน่ๆ ถึงได้ไม่ยอมรับ   พอหลายวันเข้าจากที่โทรมาบ่อยๆ ก็เป็นแค่ข้อความในคาคาโอะมาแทน  บล็อกเบอร์ซะเลยดีมั้ย!!

    “เป็นอะไรเห็นหงุดหงิดกับโทรศัพท์หลายวันแล้ว”  คยูฮยอนตัวการแกล้งทำหน้าซื่อถาม  พอฮยอกแจแยกเขี้ยวใส่รายนั้นก็ยิ้มเผล่   “ลองคุยด้วยหน่อยก็ไม่เสียหายหรอกมั้ง  เค้าอุตส่าห์เข้ามาขอเบอร์นายด้วยตัวเองเลยนะ”

    “แล้วให้ไปทำไมไม่ทราบ”

    “แหม่  นานๆ ทีจะมีคนหน้าตาดีโหลดต่ำมามองแกบ้าง  ฉันไม่คว้าไว้ให้ก็กลัวเพื่อนเสียดายแย่”

    “แต่คนนี้ไม่ต้อง!

    ซีวอนเริ่มสนุกกับการตื๊อฮยอกแจหนักขึ้นเรื่อยๆ  นอกจากข้อความทางคาคาโอะทอล์คที่ส่งมาแบบส่วนตัวแล้ว  วันนี้ที่งานรับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ฮยอกแจก็ได้รับดอกไม้แสดงความยินดีจากชเวซีวอนจนถูกเพื่อนในวงรุมยกใหญ่

    “ไปคบกันตอนไหนอ้ะทำไมเราไม่รู้เรื่อง”  ทงเฮโวยวาย  แต่ถูกคิบอมเดินมาลากออกไปนิ่งๆ

    “น่าอิจฉาจังเลย  เขาจะเปิดตัวหรือเปล่านะ”  รยออุคพึมพำอย่างชื่นชม  ดอกไม้หรูหราน่าดูแค่พิจารณาจากร้าน The Forest ที่โด่งดังมากๆ กับการ์ดขอบทองลงชื่อ ยินดีด้วยนะ  ...พี่ซีวอนก็ยิ่งทำให้ตาลุกวาว

    “อีกหน่อยคงเปิดมั้ง  ง้อเช้าง้อเย็นขนาดนี้”

    คยูฮยอนหมายถึงที่เมื่อเช้าก็มีอาหารเช้าจากโรงแรมห้าดาวมาส่งให้ที่ห้องซ้อม  แถมยังเผื่อแผ่มายังสมาชิกคนอื่นอีก  ยกเว้นของ คุณฮยอกแจที่บริกรถูกกำชับมาว่าต้องเป็นกล่องนี้เท่านั้นเพราะไม่มีแครอทและเพิ่มเส้นเยอะๆ  ถึงจะเป็นข้อมูลส่วนตัวที่หาได้ทั่วไปตามอินเตอร์เน็ตแต่ก็ทำเอาฮยอกแจอดรู้สึกดีใจลึกๆ ไม่ได้ที่เป็นฝ่ายถูกซีวอนเอาใจใส่บ้าง

    ถึงแบบนั้นก็ทำใจแข็ง  ยกอาหารส่วนของตัวเองให้เพื่อนแล้วกินข้าวกล่องที่ซื้อมาแต่ไม่กินแล้วของคังอินแทน

    ไม่ทันไรก็มีโทรศัพท์เข้ามาจากคนที่ถูกเมมชื่อว่า คนนิสัยไม่ดีฮยอกแจมองอย่างโกรธๆ ก่อนจะกดรับอย่างหมดความอดทน

    “สะดุ้งเลยนะเนี่ย  สงสัยพี่ชินกับเสียง ตื๊ด... ตื๊ด... แล้วมั้ง”

    “มาเอาของของคุณกลับไป”

    ฮยอกแจได้ยินเสียงรายนั้นถอนหายใจเหนื่อยๆ ก่อนพยายามตอบกลับมาอย่างใจเย็น

    “รับไว้เถอะ  พี่ให้เพราะอยากแสดงความยินดีกับเราด้วยจริงๆ”

    “แต่ผมไม่ต้องการ”

    “วันนี้แสดงได้ดีมากนะ”

    “นี่  ผมบอกว่า...”

    “เหนื่อยไหม?”

    คำถามที่แทรกเข้ามาทำเอาฮยอกแจหยุดหายใจ  ใครๆ ต่างก็พากันมาแสดงความยินดีหรือไม่ก็พาไปฉลองกับความสำเร็จที่ได้รับแต่ไม่มีใครเลยที่มาถามเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้กับเขาว่าเหนื่อยไหมในวันที่รู้สึกว่าเหนื่อยที่สุด   ใจอ่อนยวบลงเพราะความอ่อนโยนที่อีกฝ่ายแสดงออกมา  ฮยอกแจกัดริมฝีปากแน่นเป็นเหมือนตอนนั้นเลยที่พี่ซีวอนอ่อนโยนกับทุกๆ คน  แต่สุดท้ายก็ใจร้ายกับเขาแค่คนเดียว  ฮยอกแจไม่เข้าใจ!

    “พี่รู้ว่าเราเหนื่อย   แต่ทำได้ดีมากเลยนะ”

    ฮยอกแจไม่อยากฟัง...  ที่พูดมันก็แค่คำพูดทั่วไปที่พี่ซีวอนใช้พูดกับทุกคนที่ชอบ...  พี่ซีวอนก็รู้ว่าฮยอกแจชอบพี่ซีวอน  แล้วจะมาให้ความหวังกันทำไม  ในเมื่อพูดว่ารักออกไปแล้วก็ไม่ยอมรับมันอยู่ดี

    “ผมคงเหนื่อยน้อยกว่านี้   ถ้าคุณเลิกตามตอแยผมเสียที”

    “รู้ไหมว่าพูดแบบนี้พี่เสียใจนะ”

    “เรื่องของคุณ”

    “ถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลาพี่เสียใจ  เราคงเรียนเขียนโพสอิทมาแปะหน้าล็อกเกอร์พี่แล้ว”

    “.............”

    “ยังเก็บไว้อยู่ใช่มั้ย”

    “.............”

    “พี่ก็เหมือนกัน  ครบทุกใบ  ไม่เคยทิ้งเลย”

    ติ๊ด...  ฮยอกแจกดตัดสายทันทีอย่างไม่อยากจะรับฟังอะไรต่ออีก  ความโมโหทำให้ฮยอกแจควานหาโพสอิทในกระเป๋าสะพายออกมา  มันติดเป็นนิสัยแล้วที่ชอบลืมของสำคัญจนต้องมีติดตัวเอาไว้แต่พอถูกพูดให้นึกถึงเรื่องในอดีตแบบนั้นก็อยากจะทำลายทิ้ง  ทิ้งมันไปให้หมด

    “อย่าทิ้งนะ” 

    จู่ๆ มือของคนที่ไม่คิดว่าจะมาอยู่ที่นี่ก็คว้าข้อมือฮยอกแจเอาไว้  ฮยอกแจไม่แปลกใจหรอกที่ชเวซีวอนปรากฏตัวขึ้นที่นี่  ที่ทางหนีไฟที่เขาออกมาคุยโทรศัพท์  เพราะตั้งแต่วันนั้นชเวซีวอนก็ตามเขาไปเกือบทุกๆ ที่อยู่แล้ว

    “ถ้าจะทิ้ง  ก็เอามาให้พี่เถอะ”

    ฮยอกแจกัดริมฝีปากแน่น  สะบัดแขนออกแล้วปาปึกโพสอิทสีเขียวใส่ซีวอนจนมันตกไปกองบนพื้นก่อนจะก้าวเร็วๆ ออกมาแล้วเข้าไปในห้องแต่งตัวด้วยความฉุนเฉียว

     

     

    เช้าวันถัดมาฮยอกแจตื่นขึ้นด้วยความสดใส  เมื่อคืนไปเลี้ยงเนื้อย่างกับเพื่อนในวงจนอิ่มแปล้แถมยังได้นอนครบแปดชั่วโมงอีก  กำลังจะผลักประตูห้องพักที่นอนคนเดียวออกไปแต่ก็ต้องชะงัก  เพราะกระดาษแผ่นเล็กๆ สีเขียวที่ติดอยู่!

     

    เรากลายเป็นคนขี้โมโหตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?  

    Have a beautiful day :^D’

     

    “ใครเอาไอ้กระดาษบ้านี่มาติดที่ห้องฉัน!

    สมาชิกในวงสะดุ้งกันเป็นแถบตอนที่ฮยอกแจออกมาโวยวาย   ทุกคนไม่มีท่าทางน่าสงสัยยกเว้นอีทงเฮที่ทำหัวหดแล้วมุดหลบอยู่หลังคิบอม  ไม่น่าสงสัยเลยให้ตายเถอะคนที่ติ่งศิลปินจนยอมทำทุกอย่างให้ได้แบบนี้มีอยู่คนเดียว!

    “อีทงเฮ!

    “งื้อออ  ก็พี่ซีวอนขอร้องมาอ่ะ  แถมยังให้รูปพร้อมลายเซ็นมาด้วยนะดูป่ะๆๆ”

    “ไม่ต้อง  แล้วต่อไปนี้ไม่ต้องเอาโพสอิทบ้าๆ นี่มาแปะห้องฉันอีกแล้วนะเข้าใจมั้ย!

    ทั้งที่พูดไปแบบนั้น  แต่ทงเฮก็ยังไม่เข้าใจแล้วก็ไม่อยากเข้าใจด้วย  เช้าวันใหม่ฮยอกแจก็ได้รับกระดาษแบบเดิมที่ประตูห้องอีก

     

    โพสอิทบ้าๆ เหรอ?  แล้วใครกันนะบ้าเขียนมาให้พี่ได้เกือบทุกวัน

     

    ทำไมเห็นรูปหัวใจบ้าๆ นี่แล้วถึงได้รู้สึกโมโหได้ขนาดนี้นะแถมยังมีรอยยิ้มที่กลางหัวใจเลียนแบบเขาอีก!

    โวยวายทงเฮไปกี่ครั้ง  ทุกครั้งก็ทำท่าสำนึกผิดตลอดแต่ไม่เคยรับปากเลยว่าจะเลิกเอาโพสอิทจากชเวซีวอนมาแปะให้เสียที  ไม่รู้เอาเวลาไปเจอกันตอนไหน

    วันนี้ก็อะไรอีกล่ะ...

     

    ตื่นสายใช่มั้ย?  อย่าลืมดื่มนมกับไอติมที่ซื้อไว้ให้นะ

     

    ฮยอกแจงงเหมือนกันที่วันหนึ่งเปิดตู้เย็นที่หอแล้วเจอกล่องนมสตรอว์เบอร์รี่กับไอศกรีมของฮาเก้นดาซหลายกล่องแช่อยู่ในช่องฟรีซ  แต่มีแค่กล่องที่เป็นรสสตรอว์เบอร์รี่ที่มีแปะชื่อของฮยอกแจเอาไว้  นอกนั้นก็เหมือนถูกตั้งไว้ให้เป็นของสมาชิกแบ่งกันกิน

    จนคนที่เฉยๆ กับซีวอนตอนนี้หันมาตื่นเต้นกันใหญ่ว่าวันๆ ฮยอกแจจะได้ขนมอะไรแล้วตัวเองจะได้อะไรเผื่อบ้าง

    แล้วซีวอนก็เป็นคนที่อัพเดทข่าวสารของเขาเร็วมากกกกกก ไม่น่าแปลกใจเลยเพราะตอนไปแอบดูโทรศัพท์ของทงเฮ   รายนั้นส่งคาคาโอะไปรายงานเรื่องเขาให้ฟังตลอด  ล่าสุดก็เรื่องที่เต้นจนปวดขา  พอวันถัดมาก็เริ่มเลย

     

    พักผ่อนบ้างสิ  หักโหมมากๆ มันไม่ดีรู้ไหม

    เห็นใจคนเป็นห่วงบ้าง

     

    “ไม่เห็นจะอยากสนใจเลย”  พึมพำกับตัวเองแล้วทิ้งโพสอิทลงในกล่องใส่สำลีบนโต๊ะเครื่องแป้ง   ไม่ได้อยากจะเก็บไว้สักหน่อยแต่ถังขยะมันเต็ม   กล่องใส่สำลียังมีที่ว่างก็เลยฝากไว้ขนขยะไปทิ้งเมื่อไหร่ค่อยทิ้งพร้อมกัน

    แล้วก็มีโพสอิทแบบเดิมมาให้ฮยอกแจทุกวันที่ประตูห้อง  จนฮยอกแจตัดสินใจล็อคประตูห้องนอนทั้งที่ปกติไม่เคยเพื่อทงเฮจะได้ไม่แอบย่องเข้ามาตอนเขาหลับไปแล้วและเอาโพสอิทมาแปะไว้  แต่พอล็อคเท่านั้นแหละ  แทนที่จะติดเอาไว้ข้างในอีทงเฮตัวแสบก็แปะไว้หน้าห้อง  ที่ทุกคนต้องเดินผ่านเวลาไปเข้าห้องน้ำ!

    “แหม  ฮยอกแจ  น่าอิจฉาจังนะมีคนเป็นห่วงแกทั้งวันเลย”  คยูฮยอนเปิดมติแซวคนแรก  ตามด้วยคังอิน  อีทึกและคนอื่นๆ ที่เป็นหัวโจกทั้งหลายนั่นแหละ  แม้แต่คิบอมที่ไม่ค่อยยุ่งเรื่องของใครและนั่งดูทีวีอยู่เงียบๆ ยังบอกเลยว่า

    “ฮยอง  แฟนฮยองออกทีวีน่ะ  จะดูมั้ย”

    จะแก้ตัวว่าไม่ใช่แฟนก็ไม่ทันแล้ว   เพราะรายการก๊อซซิปที่กำลังบุกไปสัมภาษณ์ซีวอนถึงกองถ่ายทำให้สมาชิกทุกคนที่ไม่มีงานเข้ามารวมอยู่หน้าทีวี

     

    มีแฟนๆ เห็นช่อดอกไม้ที่คุณซีวอนส่งไปแสดงความยินดีกับซูเปอร์จูเนียร์   แถมยังขับรถไปจอดที่ใต้หอพักของทางนั้นบ่อยๆ  กำลังเดทกับใครในวงนั้นอยู่หรือเปล่าคะ

    เจ้าของโพสอิทไงครับ

     

    “อีฮยอกแจ! แกคือรุ่นน้องที่เคยแอบชอบชเวซีวอนคนนั้นเหรอ!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    สมกับฉายาเจ้าชายแห่งวงการบันเทิงเพราะทันทีที่ซีวอนให้สัมภาษณ์ออกไปแบบนั้นเว็บข่าวทุกแห่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับก็ลงข่าวชเวซีวอนกับอดีตรุ่นน้องที่โรงเรียนซึ่งเคยมีอดีตร่วมกันแถมปัจจุบันรุ่นน้องคนนั้นยังเป็นหนึ่งในสมาชิกซูเปอร์จูเนียร์อีกด้วย   ตอนเย็นของวันนั้นจึงมีนักข่าวมาดักสัมภาษณ์อยู่ด้านล่างของหอพักจนฮยอกแจออกไปไหนไม่ได้  ทั้งอีทึกทั้งคังอินที่มีงานพิธีกรก็ต้องยกเลิกไปเพราะกองทัพนักข่าว

    ฮยอกแจเดินไปเดินมาอย่างกังวลเพราะไม่รู้จะสัมภาษณ์ออกสื่อยังไงเรื่องของซีวอน  แต่ถ้าไม่ออกไปการงานของสมาชิกคนอื่นก็คงจะเสียหายกันไปหมด

    “ฮยอกแจๆๆๆๆๆ”  ทงเฮที่วิ่งสังเกตการณ์อยู่ที่ชั้นหนึ่งรีบขึ้นมาบอกข่าวหลังจากพยายามจะออกไปซ้อมเต้นที่บริษัทกับคิบอม   “พี่ซีวอนมาอ้ะ   โดนนักข่าวรุมอยู่หน้าหอ!

    ถึงจะได้ยินแบบนั้นแต่ฮยอกแจก็ไม่ลงไปดูด้วยตาตัวเองอยู่ดี  แต่สมาชิกคนอื่นน่ะโกยกันลงไปชั้นหนึ่งหมดแล้วเพื่อจะได้เห็นเหตุการณ์จริง   มีอยู่คนเดียวที่ฉลาดที่สุด  คิบอมนั่งนิ่งๆ กดรีโมททีวีคลิกเดียวก็เปิดช่องที่กำลังถ่ายทอดสดชเวซีวอนอยู่หน้าหอพักของซูเปอร์จูเนียร์อยู่ตอนนี้

    กลุ่มนักข่าวรอสัมภาษณ์สมาชิกวงซูเปอร์จูเนียร์อยู่หน้าหอพักศิลปินค่ะ   แล้วเหมือนว่าซีวอนจะทราบเรื่องเลยขับรถมาด้วยตัวเองและให้สัมภาษณ์กับนักข่าวอยู่ตอนนี้   ไปดูภาพสดกันเลยค่ะ

    คุณซีวอนมาหาใครคะ

    ใครคือรุ่นน้องคนนั้นครับ

    คบกันมานานแค่ไหนแล้ว

    หลากคำถามรุมเข้าใส่นักแสดงหนุ่มพร้อมกับแสดงแฟลชจนฮยอกแจอดจะกังวลแทนซีวอนไม่ได้ที่ต้องรับหน้าอยู่คนเดียวแบบนั้น  แต่ก็สมควรแล้วนี่เป็นคนหาเรื่องเองก็ต้องรับผิดชอบเองสิ

    ซีวอนยกมือขึ้นเหนือหัวขอให้ทุกคนเงียบเสียง

    อย่างที่ข่าวออกไปนั่นแหละครับ   รุ่นน้องคนนั้นเป็นเมมเบอร์ซูเปอร์จูเนียร์จริง  และผมกำลังจีบเขาจริง  เคลียร์นะครับ   แต่ที่ผมอยากขอร้องคือสื่อมวลชนที่กำลังสนใจข่าวนี้  อย่าเพิ่งเร่งรัดถามพวกเขาหรือว่าผมเลยครับว่าเป็นใคร   ผมไม่อยากเป็นต้นเหตุสร้างความยุ่งยากให้เขา  ถ้าอยากสัมภาษณ์อยากถามอะไรก็มาถามผม  ผมจะตอบเอง

    ใครเป็นคนเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งนี้คะ

    ผมครับ

    ที่บอกว่ากำลังจีบคืออะไร   ไหนบอกว่ารุ่นน้องคนนั้นเคยชอบคุณไม่ใช่เหรอ

    เรื่องมันนานมากแล้วครับ   ตอนนี้ผมเป็นฝ่ายชอบเขาแล้ว

    ความสัมพันธ์ไปถึงขั้นไหนแล้วครับ

    ผมไม่อยากตอบคำถามที่นี่นะครับ   เพราะรู้มาว่าสมาชิกซูจูหลายคนออกไปทำงานไม่ได้   ผมจะไปเจอทุกท่านที่ห้องแถลงข่าวตึก SM เพื่อให้สัมภาษณ์กันนะครับ

    แล้วซีวอนก็เดินแหวกกลุ่มนักข่าวออกไป  ฮยอกแจปรี่ไปที่หน้าต่างเห็นชเวซีวอนเดินไปที่รถ  ก่อนจะเปิดประตูซีวอนเงยหน้ามองอพาร์ตเม้นและทันเห็นฮยอกแจที่ซ่อนตัวอยู่หลังระเบียงพอดี  ซีวอนยิ้มให้บางๆ แทนคำขอโทษก่อนจะขับรถออกไปโดยมีนักข่าวตามไปทั้งหมดเพราะกลัวไม่ทันข่าวสดใหม่จากดาราดัง

     

     

     

    ยิ่งมีข่าวออกมาก็ยิ่งทำให้ซีวอนงานชุกมากยิ่งขึ้น   เรื่องราวของซีวอนยังถูกขอนำไปทำโฆษณาโปรโมทกระดาษโพสอิทให้ตลกเล่นอีก   ฮยอกแจรู้เรื่องนี้เพราะข้อความในกระดาษที่ทงเฮเอามาแปะให้เหมือนทุกวัน

     

    ...ตอบไปว่าถ้านายรักฉันเมื่อไหร่   ฉันถึงจะยอมให้เขาเอาเรื่องของเราไปทำ

     

    “ใครจะไปรัก...”  พึมพำกับตัวเองแล้วเริ่มต้นทำงานในวันนั้นด้วยความสดใส   แต่พอวันถัดมาฮยอกแจตื่นตามปกติแล้วเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูกลับพบความว่างเปล่าก็รู้สึกแปลกๆ   อ้อยอิ่งอาบน้ำแปรงฟันอยู่นานสองนานก่อนจะแข็งใจเดินเข้าไปในห้องทงเฮ   ใช้เท้าสะกิดก้นกลมของทงเฮให้รู้สึกตัว

    “งือออออ อะไย...”

    “โพสอิทล่ะ  ไม่มีเหรอ”

    “งืออออ  อยู่ในกระเป๋าอะหาเอา...”

    พึมพำงัวเงียเพราะคงจะเหนื่อยมากจริงๆ ก็เมื่อวานเล่นทำงานทั้งวันแถมยังไปอัดรายการวิทยุถึงดึกอีกจะลืมย่องมาแปะให้ตอนดึกๆ เหมือนทุกคืนก็คงไม่แปลกหรอก

     

    เหนื่อยจัง

     

    “แค่นี้เนี่ยนะ?”  

    พอข้อความบนโพสอิทเริ่มน้อยลงไปฮยอกแจก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดแปลกๆ  ยิ่งพอวันถัดมาก็ยิ่งโมโห  ทงเฮคงเอาไปเล่าแน่ๆ ว่าเขาตามไปเอาโพสอิทถึงห้อง   ข้อความในกระดาษวันนี้ถึงได้มาเป็นแบบนี้ 

     

    ใบสุดท้าย  อยากคุยต้องรับโทรศัพท์แล้วนะ

     

    ร้ายกาจที่สุด!

     

    กลางดึกคืนนี้ทงเฮยังไม่เข้านอน  ฮยอกแจมองเพื่อนนั่งดูทีวีอยู่แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรหยิบการ์ตูนเล่มใหม่ที่เพิ่งซื้อมาเข้าไปอ่านคนเดียวในห้องเงียบๆ   อ่านไปจวนจะจบก็ได้ยินเสียงกริ่งหน้าห้อง  ตอนตีสองเนี่ยนะ?   พอได้ยินอีกครั้งจึงลุกออกไปดู   อีทงเฮหลับพับอยู่หน้าโซฟาแบบนั้นมิน่าถึงไม่มีใครออกไปเปิดประตู

    “มาทำไม”  พอเห็นว่าเป็นใครก็ปั้นหน้าแข็งขึ้นมาทันที  

    ซีวอนเองก็ไม่นึกว่าฮยอกแจจะเป็นคนมาเปิดประตูเหมือนกัน  ปกติเวลาเอาโพสอิทหรือขนมมาให้โดยฝากผ่านทงเฮก็จะโทรบอกทงเฮก่อนประมาณสิบนาที   แต่ตอนเที่ยงคืนเขามีถ่ายซ่อมละครเลยลืมโทรมาบอกทงเฮว่าจะมาช้า  มาถึงอีกทีทงเฮก็ไม่รับโทรศัพท์เลยลองกดกริ่งดู  ใครจะไปนึกว่าคนที่โผล่หน้าออกมาจะเป็นฮยอกแจ

    “เดี๋ยวนี้พูดจาไม่เพราะเลยนะ”

    “ไม่เพราะก็ไม่ต้องฟัง”

    “พูดดีๆ ก่อนแล้วจะซื้อขนมให้กิน”

    “ผมไม่ใช่เด็ก”

    “แล้วทำไมขี้งอน”

    ฮยอกแจกอดอกอย่างเคืองๆ  ยิ่งพอซีวอนทำเหมือนเขาเป็นเด็กโง่ๆ เห็นแก่กินคนหนึ่งก็ยิ่งไม่พอใจ

    “จะเอาของนั่นให้ทงเฮใช่มั้ย  เอามาสิ”  รีบๆ รับของมาจะได้รีบกลับไปซะที

    “เดี๋ยวทงเฮก็ต้องให้เราอยู่ดี”

    “แค่ถึงมือผมก็จะไปใช่มั้ยล่ะ   เอามาแล้วก็ไปซะทีสิ”

    “ทำไมเราถึงคุยกันดีๆ ไม่ได้เลยนะ”

    “อยากรู้จริงๆ น่ะเหรอครับ”

    “ก็เหมือนจะรู้อยู่แล้วน่ะนะ   เรื่องที่พี่ปฏิเสธเราไปตอนนั้นใช่มั้ย”  

    “..............”

    “ฟังแล้วเหมือนแก้ตัวนะ  แต่ที่พี่พูดไปตอนนั้นเพราะพี่คิดว่าเราก็เหมือนคนอื่นๆ  อยากให้เราตัดใจจากพี่ให้ได้  พี่ก็เลยพูดอะไรแรงไปหน่อย”

    ฮยอกแจก้มหน้านิ่ง   พูดเสียงแผ่ว

    “ไม่เกี่ยวกับที่คุณจะชอบหรือไม่ชอบผม  แต่เพราะ... เพราะคุณบอกว่าคุณมีคนที่ชอบแล้วต่างหาก  ถ้าคุณมีคนที่ชอบแล้วก็น่าจะบอกกันบ้าง  ผมจะได้ไม่ดูเหมือนเป็นคนโง่  เขียนโพสอิทบ้าๆ หาคุณเกือบทุกวันอยู่เป็นปีๆ หรอก”

    “ฮยอกแจ...”

    “ผมน่ะรู้สึกเหมือนเป็นคนโง่มาตลอด   ยิ่งเวลาที่มีคนไปสารภาพรักกับคุณ  ผมก็ยิ่งรู้สึกแย่ที่ทำได้แค่แอบมองแล้วเขียนทุกอย่างที่คิดไปในกระดาษที่ไม่รู้ว่าคุณจะเก็บไว้หรือทิ้งไป   แต่พอวันที่ผมมีความกล้ามากพอจะไปบอกว่าชอบคุณ  คุณกลับบอกว่ามีคนที่ชอบแล้ว”

    “คนที่พี่ชอบ  ก็เรานั่นแหละฮยอกแจ”

    ฮยอกแจเงยหน้ามองอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง  ตากลมกะพริบปริบอย่างแปลกใจขณะที่ซีวอนวางกล่องขนมลงบนพื้นแล้วขยับปลายเท้าเข้ามาใกล้มากขึ้นเพื่อดึงตัวเขาไปกอด  แม้ใบหน้าจะซุกแนบอยู่บนอกกว้างแต่ก็ได้ยินสิ่งที่ซีวอนพูดชัดเจน

    “บอกแล้วใช่มั้ย  ถ้าวันนั้นพี่ใจเย็นพอจะฟังเราพูดต่อให้จบ  พี่ก็คงรู้แล้วว่าเราเป็นเจ้าของโพสอิทพวกนั้น  ถ้าพี่ไม่รักเจ้าของมัน  พี่จะเก็บเอาไว้จนถึงทุกวันนี้ทำไม”

    “..................”

    “เราอาจเคยฟังแล้ว  แต่พี่จะพูดให้ฟังอีกทีว่าถึงแม้พี่จะไม่เคยรู้ว่าเจ้าของโพสอิทเป็นใคร  แต่ถ้าเขาปรากฏตัวขึ้นอีกเมื่อไหร่   พี่ก็พร้อมจะตอบรับความรู้สึกของเขาเสมอ”

    “ฮึก...... พี่ซีวอน....”  เสียงสะอื้นมาพร้อมกับมือเล็กที่กำเสื้อของซีวอนแน่น   มือใหญ่ลูบเรือนผมหนาเบาๆ อย่างนุ่มนวลอ่อนโยนพลางกระซิบถาม

    “ยอมเรียกพี่แล้วหรือ...”

    ยิ่งฮยอกแจร้องไห้แล้วเบียดกายเข้าหาอ้อมกอดของซีวอนมากขึ้น  เพียงแค่นี้ซีวอนก็แน่ใจว่าได้หัวใจของฮยอกแจกลับคืนมาแล้ว   มันอาจน่าตลกอยู่สักหน่อยที่ตอนที่ฮยอกแจสารภาพรักกับเขาก็เป็นตอนอยู่หน้าห้องเรียน  ตรงที่นักเรียนใช้วางรองเท้ากัน  และตอนนี้ก็ยังยืนอยู่หน้าประตูห้องพัก  ตรงที่ที่ซูเปอร์จูเนียร์กองรองเท้าไว้เป็นภูเขาเลากา

    “พี่รักเรานะฮยอกแจ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     “อะไรหน่ะ   ยอมรับของเขามากินง่ายๆ แล้วเหรอ”

    คยูฮยอนโผล่หัวมาก็เริ่มแซะฮยอกแจทันที  แถมยังมีหน้ามาแย่งช็อกโกแลตยี่ห้อที่แพงที่สุดในถุงไปแกะกินหน้าตาเฉย   ฮยอกแจพยายามจะแย่งคืนแต่ก็ถูกดันออกจนคยูฮยอนกินไปหมด  ยังไม่พอ  พี่ๆ ที่ทยอยตื่นออกมาทีละคนยังคอยมาหยิบขนมในถุงของร้านเบเกอรี่หรูไปกินจนหมดอีก

    “นี่ฉันอาศัยอยู่ในดงโจรหรือไงกันนะ!

    “อยากมีแฟนรวยช่วยไม่ได้” 

    “นั่นดิ   ถ้าซีวอนหยุดซัพพอร์ตขนมนายเมื่อไหร่นี่มีปัญหากับทั้งวงนะ”  อีทึกพูดทีทำเอาทั้งวงหัวเราะเพราะนอกจากตั้งใจให้เป็นมุขตลกแล้วยังแปลความได้นัยๆ ว่าอย่าได้มาทำให้ฮยอกแจเสียใจ  ไม่งั้นซูเปอร์จูเนียร์ทั้งวงไม่ปล่อยไว้แน่นอน

    “ฮยอกแจ!!  โทรศัพท์ดังแน่ะ!

     

    [ พี่ซีวอน : Calling ]

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    INTERVIEW IN CeCi MAGAZINE

    Siwon (26) & Hyukjae (24)

     

    Q : ชอบอีกฝ่ายตรงไหน

    HJ : พี่ซีวอนตอบก่อนสิ

    SW : ก็ได้  ...ตอนแรกที่ผมได้โพสอิทบนล็อกเกอร์ผมก็งงนะ  เพราะทั้งแผ่นไม่ได้เขียนอะไรเลยนอกจากรูปหัวใจดวงเดียวแล้วมีรอยยิ้มอยู่ตรงกลาง   ผมติดใจตรงรูปยิ้มนั่นแหละก็เลยวางไว้บนโต๊ะหนังสือ   ไม่ได้ทิ้ง  จนได้อยู่เรื่อยๆ ก็เก็บไว้อีก  ของชิ้นใหญ่ๆ ที่ได้มาอย่างตุ๊กตาหรือดอกไม้นี่มันไม่ค่อยเหมาะกับผมเท่าไหร่ด้วยเลยให้น้องสาวไป  มีโพสอิทสีเขียวเนี่ยแหละที่ผมเก็บไว้  ไม่หวานเลี่ยนดี

    HJ : จริงๆ ก็จะใช้สีชมพูส่งให้นะแต่ที่สหกรณ์โรงเรียนมันหมด  ก็เขียนให้ครั้งแรกเป็นวันวาเลนไทน์พอดี

    SW : แล้วทำไมถึงชอบพี่

    HJ : ไม่ได้ชอบมากเลยนะแรกๆ  แต่ได้ไปดูแข่งบาสบ่อยๆ แล้วพี่ซีวอนเนี่ยชอบชู้ตสามแต้มก็เลยคอยมองอยู่ตลอดจนถูกเพื่อนแซว  ขนาดตอนไม่ได้แข่งบาสก็ยังเผลอแอบมอง   พอเพื่อนรู้ว่าพี่ซีวอนไม่มีแฟนก็เลยยุให้ไปสารภาพรัก  แต่จะให้สารภาพยังไงก็ยังไม่ได้รักเลย  วันวาเลนไทน์ตอนปีหนึ่งเลยวาดหัวใจไปให้อันนึงแล้วแอบดูอยู่ว่าตอนเห็นจะทำหน้ายังไง  

    SW : ตอนนั้นพี่ทำหน้ายังไง

    HJ : พี่ซีวอนก็ยิ้มมมมม  มองซ้ายมองขวาเหมือนหาคนที่เอามาแปะให้  ฮ่าๆ  ตอนนั้นเกือบหลบแทบไม่ทัน   นั่งเนียนเล่นโทรศัพท์อยู่ตั้งนานจนเห็นพี่ซีวอนถือของขวัญวาเลนไทน์ของคนอื่นกลับบ้าน   แล้วก็เอาโพสอิทใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ   ไม่รู้... ประทับใจอ่ะ  แล้วนานๆ ไปมันก็หยุดชอบไม่ได้   รักตอนไหนไม่รู้รู้แค่ว่าเริ่มต้นจากตรงนี้

    SW : ผมเหมือนกัน  แล้วโพสอิทสีเขียวนี่จะมาเฉพาะวันพฤหัสกับศุกร์นะ   ผมนี่วันไหนไม่ได้ก็หงอยไปละ  ไม่รู้ทำไมถึงได้แค่สองวัน

    HJ : ก็มีเรียนที่ตึกเคสองวันนั้นไง   พี่ซีวอนเคยมาแอบดูใช่มั้ยล่ะว่าใครเป็นคนติดโพสอิท   ตอนเพื่อนเดินกันลงมาผ่านล็อกเกอร์คนมันจะเยอะๆ มั่วๆ ใช่มั้ยล่ะผมก็ติดตอนนั้นแหละ   เก่งที่สุดอ่ะ!

    SW : ครับ  เก่งครับ

    HJ : อย่าขยี้หัวกันสิฮะ!

     

    Q : ในที่สุดก็ได้กลับมาเจอกัน  ตอนคบกันแรกๆ รู้สึกยังไงบ้าง

    HJ : มีความสุขที่สุดเลย   รักแรกกับแฟนคนแรกเป็นคนเดียวกัน

    SW : ฮยอกแจเขารู้มาตลอดว่าผมเป็นใคร  แต่ว่าผมไม่รู้   แวบแรกที่ผมรู้ว่ารุ่นน้องคนนั้นเป็นฮยอกแจผมดีใจจนบอกไม่ถูก  เหมือนเวลาที่เราทำของหายแล้วอยากได้คืน   ทั้งที่รู้ว่าไม่มีหวังแต่เราก็ยังรออยู่  แล้ววันนึงผมก็ได้เขากลับมาจริงๆ   มันมากกว่าดีใจซะอีก

     

    Q : ได้แสดงโฆษณาโพสอิทร่วมกัน  กระแสตอบรับดีมากเลยใช่มั้ย

    SW : ยิ่งกว่าดีอีกครับ  ตอนแรกฮยอกแจถูกแฟนคลับผมแอนตี้หนักมากๆ  ร้องไห้หนักจนทำงานไม่ได้  ผมรู้สึกงี่เง่ามากที่ทำได้แค่เป็นห่วงแต่ช่วยอะไรไม่ได้เลย   แต่พอโฆษณาชุดนี้เผยแพร่ออกไปแล้วแฟนคลับผมได้ดู   ก็ถามกันมาว่าจริงเหรอๆ  หลายคนตกใจแต่พอเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วก็พากันเปลี่ยนความคิดครับ   ผมต้องขอบคุณพวกเขามากๆ ที่ยอมรับการตัดสินใจของผม

    HJ : เคยบอกเลิกพี่ซีวอนเพราะเรื่องนี้ด้วย  สงสารแฟนคลับ

    SW : แต่ผมไม่ยอม  เพราะผมอยู่ในวัยที่สมควรจะมีใครอยู่ข้างๆ แล้วด้วยละมั้งครับ  ผมเลยจริงจังกับคนที่กำลังคบด้วยมากขึ้น  โดยเฉพาะถ้าคนคนนั้นเป็นฮยอกแจ

     

    Q : เคยทะเลาะกันมั้ย

    SW : บ่อยเลย   ฮยอกแจไม่ค่อยมีเวลาให้ผม

    HJ : คนต้องทำงานเหมือนกันนี่  พี่ซีวอนจะงอนบ่อยมากถ้าผมนัดแล้วเบี้ยว   บางทีมีงานจริงๆ ก็ไม่น่างอนใช่มั้ยล่ะ  แต่นี่ก็งอนให้ต้องง้อตลอด

    SW : ก็มันเป็นสิทธิของผมนะ   ฮยอกแจน่ะชอบโกรธถ้าผมไปรับช็อคโก้จากบ้านฮยอกแจมาแล้วพาไปไว้ที่คอนโด  คือบ้านฮยอกแจกับหอพักซูจูค่อนข้างไกล  ไปกลับลำบาก  แต่คอนโดผมกับหอพักอยู่ใกล้กันนิดเดียว  วันไหนผมไปรับช็อคโก้แล้วฮยอกแจรู้  ฮยอกแจจะใส่ร้ายผมว่าร้ายกาจ  แล้วก็โกรธผม  เล่นแต่กับช็อคโก้ไม่คุยกับผมเลย

     

    Q : ไม้เด็ดใช้ง้อแฟน

    SW : ความจริงคือขนม  ต้องเคลียร์ให้รู้เรื่องจนกว่าฮยอกแจจะพอใจแล้วถึงหายโกรธผม  แต่ถ้ามีขนมปิดท้ายนี่จะอารมณ์ดีขึ้นมาทันที

    HJ : ให้เวลาเยอะๆ  อ้อนแหลกเลย

     

    Q : เรื่องที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นของกันและกัน

    HJ : ซื้อโพสอิทสีเขียวที่สหกรณ์โรงเรียน

    SW : ตกลงไปแข่งบาสแทนเพื่อน   ทั้งที่วันนั้นไม่ใช่ผมที่ต้องลงแข่ง

     

    Q : สิ่งที่อยากบอกกับอีกฝ่ายที่สุด

    HJ : ขนมที่ซื้อมาให้ฮยอกแจไม่เคยได้กินเลย  โดนแย่งหมด

    SW : จะกินอีกเท่าไหร่ก็ซื้อให้ได้   เพราะรักมากๆ

     

     

     

     

    - END -

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×