คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : WONHYUK | Senior
Senior
SIWON x HYUKJAE | PG-15
‘อันนั้นเป็นของสำคัญครับ’
เสียงของนักแสดงหนุ่มในรายการซอกแซกบ้านดาราดังเล็ดลอดออกมาจากโทรทัศน์ ดวงตาคู่เรียวจ้องมองนักแสดงที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งอยู่ตอนนี้ นิ่งเงียบแต่แฝงไปด้วยความขุ่นเคือง
‘สำคัญยังไงคะ’
‘รุ่นน้องที่ชอบผมเคยให้มาน่ะครับ’
มือหนาหยิบจับกระดาษโพสอิทสีเขียวในมือและเล่าความเป็นมาของมันด้วยสายตารักใคร่ พิธีกรสาวร้องว้าวด้วยความอิจฉาที่แม้จะเป็นเรื่องสมัยมัธยมปลาย แต่นักแสดงหนุ่มชื่อดังอย่างชเวซีวอนก็ยังจำได้แม่น
‘ถึงเขาจะไม่เคยบอกผมว่าเขาเป็นใคร แต่ถ้าเขาปรากฏตัวขึ้นอีกเมื่อไหร่ ผมก็พร้อมจะตอบรับความรู้สึกของเขาเสมอครับ’
ชเวซีวอน... คุณมันจอมสร้างภาพ!
“ฮยอกแจ ไปสแตนบายด์ข้างเวทีได้แล้ว”
รีบออกไปตามคำสั่งหัวหน้าวง ไอดอลวงใหม่อย่างซูเปอร์จูเนียร์กำลังโด่งดังขึ้นอย่างรวดเร็ว อีฮยอกแจในฐานะตำแหน่งเมนเต้นก็พอจะมีแฟนคลับให้ชื่นใจเยอะแยะเหมือนกัน เห็นแฟนๆ ร้องอังกอร์อยู่หน้าเวทีแล้วค่อยยิ้มออกหน่อย พอจะลืมเรื่องที่ทำให้อารมณ์เสียไปได้บ้าง
ชเวซีวอนยืนมองไอดอลกลุ่มใหม่อยู่จากที่ไกลๆ ดูเหมือนว่าฉากหนึ่งในละครของวันนี้จำเป็นต้องใช้แฟนคลับและศิลปินมาประกอบฉากด้วย ระหว่างรอซูเปอร์จูเนียร์ใช้เวทีเสร็จเป็นวงสุดท้ายก็จะเป็นคิวถ่ายละครของเขาที่มาขอยืมใช้สถานที่
ร่างสูงของดาราหนุ่มกอดอกยืนมอง คนตัวเล็กแต่ผิวขาวที่สุดในวงดูเหมือนจะโดดเด่นออกมาเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเวลาเต้นที่มักก้าวมาอยู่ด้านหน้าเสมอ ซีวอนชมการแสดงสดไปเรื่อยๆ พวกศิลปินใหม่ๆ นี่ทำอะไรก็น่าดูไปหมดจริงๆ
“มองเหมือนมึงจะม่อเด็กยังไงไม่รู้” เยซองโผล่มายืนข้างๆ แล้วมองตามสายตาเพื่อน “คนขาวๆ นั่นเหรอ เออน่ารักจริง”
“กูมองเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร”
“ให้มันจริง กูเห็นมองแบบนี้ทีไรมึงสนใจเค้าทุกที”
“อันนี้เปล่า แค่รู้สึกว่าหน้าคุ้นๆ เหมือนเคยเจอที่ไหน”
“มุขใหม่หรือไง” เยซองหรี่ตาใส่ซีวอนที่ทำหน้าเหมือนพยายามนึกอะไรสักอย่าง แต่สักพักก็เลิกสนใจการแสดงบนเวทีแล้วหันมาหาเรื่องเยซองแทน
“นี่มึงจะให้กูม่อเด็กให้ได้เลยว่างั้น”
เยซองยักไหล่ ดึงซีวอนมากอดคอแล้วพยักพเยิดให้กลับไปชมการแสดงบนเวทีต่อ
“ก็ไม่เด็กเท่าไหร่นะ ห่างกว่าเราสองสามปีเอง คนที่มึงเล็งน่ะชื่อฮยอกแจ กูเคยคุยด้วยสองสามที เขาบอกเป็นน้องกูสองปีเองนะ”
“อายุยี่สิบสี่เองเหรอวะ”
“แหม่ ไอดอลสมัยนี้เด็กสุดก็สิบสี่แล้วมึง”
ตบไหล่เพื่อนปุๆ อย่างปลอบใจให้รู้ว่าแก่แค่ไหนสำหรับวงการนี้ ซีวอนยักไหล่เพราะไม่คิดจะอยู่ในวงการนี้ไปตลอดเช่นกัน เขายังมีกิจการของครอบครัวต้องรับช่วงต่อ ดังนั้นวงการบันเทิงก็ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของเด็กหน้าใหม่น่ะถูกแล้ว คิดพลางมองการแสดงบนเวทีต่อไปจนจบ
“สวัสดีครับ! พวกเราซูเปอร์จูเนียร์ครับ”
เงยหน้าขึ้นจากบทละครหลังได้ยินเสียงดังเอะอะจากหน้าประตู สมาชิกวงที่เพิ่งลงจากเวทีเข้ามาทักทายทีมงานและนักแสดงในห้องแต่งตัว แต่มากันไม่กี่คนเท่านั้นน่าจะเฉพาะคนที่สนใจอยากเห็นดาราตัวเป็นๆ มากกว่า มีหัวหน้าวงกับเมมเบอร์อีกสี่คน หนึ่งในนั้นเป็นคนที่ชเวซีวอนรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาแปลกๆ แต่จำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหน
รายนั้นพอหันหน้ามาสบตาเข้าพอดีก็ดูอึ้งๆ ไป ซีวอนจึงยิ้มให้อย่างเป็นมิตรและพยายามนึกให้ออกว่าเป็นใคร แต่ก็ต้องแปลกใจเพราะนอกจากคนตัวเล็กที่เต้นเก่งๆ คนนั้นจะไม่ยิ้มกลับแล้วยังขึงตาใส่เขาอีก
หรือจะคิดไปเองวะ
คงไม่เพราะทันทีที่ฮยอกแจเห็นซีวอนก็รีบหมุนตัวกลับแล้วเดินฉับๆ ออกไปจากห้อง ไม่สนใจเสียงเรียกของทงเฮที่ยึกยักจะตามเพื่อนไปดีหรือมาขอลายเซ็นเยซองที่อยู่ใกล้ๆ ดี
ซีวอนลุกขึ้นไปทักทายกลุ่มนักร้องที่เหลืออยู่ในห้องตามมารยาท ทุกคนเป็นมิตรและดูนอบน้อม สมาชิกทุกคนที่มายืนคุยกับทีมงามไปพลางๆ ระหว่างทงเฮขอลายเซ็นซีวอนและตามด้วยนักแสดงคนอื่นๆ จนครบ
“ทำไมจู่ๆ น้องเค้าก็ทำหน้าบึ้งแล้วเดินออกไปเฉยเลยวะ”
“ใครทำ” เยซองขมวดคิ้วงงๆ
“ฮยอกแจไง เมื่อกี้ตอนเข้ามาพอเค้าเห็นกูสีหน้าก็เปลี่ยนไป แถมเดินหนีออกไปเลย กูไปทำอะไรไว้หรือเปล่าวะ”
“แล้วมึงจะไปทำอะไรเค้าตอนไหน คิดมาก น้องเค้าอาจมีธุระก็ได้มั้ง”
ซีวอนยังทำหน้าแคลงใจ สงสัยกับท่าทีประหลาดๆ ของฮยอกแจแต่พยายามคิดให้ได้เหมือนที่เยซองพูด จนกระทั่งผู้กำกับเรียกคิวถ่ายของเขาที่หน้าเวที ซีวอนก็รู้ได้ในทันทีว่าฮยอกแจต้องไม่พอใจเขาอยู่แน่ๆ
“ผมไม่ทำ แค่ผมเต้นของผมอย่างเดียวก็พอแล้ว”
“อย่างี่เง่าสิฮยอกแจ จำไว้ว่ามันคืองาน งานของนาย เพราะฉะนั้นนายต้องทำ”
“ให้ทงเฮทำสิ เรื่องอะไรผมต้องเข้าฉากกับผู้ชายคนนั้นด้วย”
“เข้าฉากนิดๆ หน่อยๆ ไม่มีบทพูดด้วยซ้ำ นายแค่สอนคุณแตฮีเต้นแล้วคุณซีวอนก็แค่มองเข้ามา ไม่ได้เข้าใกล้กันด้วยซ้ำ แล้วก็ไม่ต้องเอาทงเฮมาอ้าง นายก็รู้ว่าทงเฮเต้นท่านั้นแย่แค่ไหน ถ้าอยากให้ภาพพจน์วงเราดูไม่ดีก็ตามใจ ฉันก็เคารพการตัดสินใจของนาย”
“โธ่พี่.......”
ซีวอนมองคนตัวเล็กกระทืบเท้าแรงๆ อย่างขัดใจอีกหลายครั้ง เถียงกับหัวหน้าวงต่ออีกสักพักสุดท้ายก็ดูเหมือนว่าจะปฏิเสธงานนี้ไม่ได้ ซีวอนยังนั่งติดอยู่บนเก้าอี้และมองฮยอกแจที่ซ้อมเข้าฉากกับคิมแตฮีนางเอกของเรื่อง ทำทีเป็นอ่านบทของตัวเองไปเรื่อยๆ ทั้งที่จำได้ขึ้นใจหมดแล้วอย่างแนบเนียน
ท่าทางของฮยอกแจซึ่งแตกต่างจากทุกคนที่เข้าหาเขามันทำให้เกิดความสงสัยขึ้นในหัวของซีวอน ถ้าเป็นคนอื่นเขาก็จะคิดเอาว่าที่ทำเป็นไม่ชอบกันแบบนั้นก็คงเพราะไม่ชอบ เหตุผลที่จะไม่ชอบดารามีอยู่เยอะแยะ แต่ที่ทำให้ซีวอนยังคาใจก็เพราะเขารู้สึกคุ้นหน้าฮยอกแจอย่างที่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่าเคยเจอกันที่ไหนมากกว่า
ที่ไม่คุ้นเลยก็มีแต่น้ำเสียงห้วนๆ ที่อีกฝ่ายพูดให้ได้ยินแว่วๆ นั่นแหละ
“คุณซีวอนเข้าฉากค่ะ”
พระเอกของเรื่องทิ้งบทไว้บนเก้าอี้ผ้าแล้วลุกเข้าไปในฉาก ยืนคุยกับผู้กับกำเรื่องคิวอยู่สักพักก็ถึงเวลาถ่ายจริง ไม่ใช่เรื่องยากของฮยอกแจนักเพราะแค่เต้นให้คิมแตฮีดู จากนั้นก็พูดกับเธอแค่ว่า 'ตรงนี้ไม่ต้องยกแขนสูงมาก' ตามบท แล้วถึงหันมาเห็นเขาที่ยืนดูคนทั้งคู่อยู่หน้าประตูจึงเดินออกไปจากห้องซ้อมเพื่อให้พระนางได้มีโอกาสให้กำลังใจกันก่อนเริ่มการแสดง
“แอคชั่น”
ฮยอกแจเริ่มเต้นทันทีที่ได้ยินเสียงสั่ง กล้องสองตัวจับภาพระยะใกล้และไกลของคนทั้งคู่ในห้องซ้อมหลังเวที ส่วนอีกตัวหนึ่งกำลังจับสายตาคมของพระเอกหนุ่มที่กำลังมองหญิงสาวคนรัก ซึ่งจริงๆ แล้วกำลังมองเด็กหนุ่มร่างเล็กโยกย้ายสะโพกอย่างคล่องแคล่วมากกว่า
“ตรงนี้ไม่ต้องยกแขนสูงมากนะ”
พอพูดจบฮยอกแจก็ทำตามคิวที่ต้องบังเอิญหันมาเห็นซีวอนอยู่พิงกรอบประตูมองอยู่พอดี ซีวอนไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรมากนัก แต่ฮยอกแจเป็นฝ่ายที่ต้องทำเหมือนประหลาดใจเมื่อเห็นเขา รายนั้นแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมแม้จะเป็นบทเล็กๆ ที่หันไปยิ้มให้นางเอกเหมือนบอกลาแล้วเดินหายเข้าไปในอีกห้องหนึ่ง
“คัท”
ฮยอกแจเดินกลับเข้ามาดูจอมอนิเตอร์ ทิ้งระยะห่างจากซีวอนด้วยทีมงานที่ยืนดูอยู่ด้วยอีกสี่คน จนผู้กำกับบอกขอบคุณและล่ำลาทีมงานคนอื่นจนเสร็จฮยอกแจก็แทบจะหายตัวไปจากห้องก่อนที่ซีวอนจะรู้ตัว แน่นอนว่าฮยอกแจไม่ได้เข้ามาพูดอะไรกับเขาเลยแม้แต่น้อย
ยิ่งทำให้ความสงสัยในตัวของอีฮยอกแจมีมากขึ้นไปอีก
“กูว่ากูต้องเคยเจอเค้ามาก่อนแน่ๆ ที่ไหนสักที่ แล้วก็อาจไปทำให้เค้าไม่พอใจจนเกลียดกูมาถึงทุกวันนี้”
“หมายถึงใครวะ? อ๊อออออ น้องคนนั้นน่ะเหรอ อะไรของมึงยังไม่เลิกคิดอีกเหรอ ผ่านมาสองวันแล้วนะเว้ย” เยซองกระดกเหล้าเข้าปากพลางมองสีหน้าครุ่นคิดของซีวอน ก็ว่าแปลกๆ ที่วันนี้มาเที่ยวทั้งทีแต่ข้างกายเพื่อนรักกลับไม่มีสาวสวยมานั่งด้วยเหมือนทุกครั้ง ที่แท้ก็เอาแต่คิดถึงน้องคนนั้นนี่เอง
“เหมือนจะลืมๆ ไปแล้ว แต่พอได้ยินเพลงวงนั้นทีไรหน้าก็ลอยมาอีก” หมายถึงเพลงที่ดีเจในผับกำลังเปิดอยู่และเป็นที่นิยมขณะนี้จนไปไหนมาไหนก็ต้องได้ยิน “เลยอดคิดไม่ได้ว่ากูไปทำอะไรเค้าไว้กันแน่”
“อยากรู้ก็ถามสิวะ”
“คงจะตอบหรอก หน้ากูยังไม่อยากจะมอง”
“แหม่ คนอย่างมึงก็มีวิธีเยอะแยะให้สาวๆ ยอมเปิดปากพูด น้องน่ารักๆ อย่างฮยอกแจอีกคนนึงก็คงไม่น่าพลาด”ซีวอนยิ้มมุมปากกับคำชมของเพื่อน จรดขอบแก้วบนริมฝีปากแล้วจิบนิดหน่อย
“คงยากว่ะ อาทิตย์หน้ากูมีคิวถ่ายต่างจังหวัดทั้งวัน สัมภาษณ์สถานีวิทยุหรือออกรายการอะไรก็ไม่ได้ไป คงไม่มีทางไปเจอได้เนียนๆ หรอก”
“ก็อาทิตย์หน้าไงโอกาสของมึง งานคอนเสิร์ตที่ผู้กำกับคิมใช้ถ่ายทำเป็นฉากจบของละคร มึงรู้มั้ยว่าที่ไหน”
“ก็หาดคังวอนโดไง”
“แล้วมึงรู้มั้ย ว่าศิลปินปิดงานวันนั้นเป็นใคร”
ใบหน้าหล่อจัดของพระเอกยอดนิยมเริ่มมีรอยยิ้ม “มึงอย่าบอกกูนะว่า...”
“หน้ามึงดีใจขนาดนี้แล้วนี่หว่า ถ้าไม่ใช่ซูเปอร์จูเนียร์กูก็โดนถีบสิวะ”
ชเวซีวอนไม่ชอบงานต่างจังหวัดที่ต้องเดินทางไกลๆ นัก ยกเว้นงานนี้ นักแสดงชื่อดังขับรถไปจังหวัดคังวอนโดด้วยตัวเองตั้งแต่เช้ามืด กว่าจะถึงก็สายๆ ที่รีสอร์ทใกล้สถานที่จัดงานคอนเสิร์ต มีทีมงานในกองละครเซตฉากรอโดยอาศัยเวทีจริงเป็นสถานที่ถ่ายทำ หลังมาถึงซีวอนพยายามมองหาศิลปินกลุ่มใหญ่ๆ ที่หลังเวที แต่ก็ยังไม่เห็นวงไหนมีสมาชิกมากไปกว่าเจ็ดคนสักวง
“พี่ฮุกแจน่ารักจังเลยค่ะแม่”
“ฮยอกแจจ้ะ ไหนพูดสิจ๊ะ”
ซีวอนเดินตามสองแม่ลูกที่เพิ่งผ่านหน้าเขาไปตะกี้
“ขอโทษนะครับ ซูเปอร์จูเนียร์อยู่แถวนี้เหรอครับ”
“ตรงริมหาดนู้นน่ะค่ะ” แม่ของเด็กผู้หญิงมีทีท่าจะจำเขาได้แต่ยังไม่แน่ใจเพราะซีวอนใส่แว่นดำ ซีวอนรีบก้มหาเด็กหญิงที่ถือกระดาษอยู่ในมือ
“ลายเซ็นพี่ฮยอกแจเหรอครับ”
“ค่า พี่เค้าเซ็นให้ฮายังด้วย วาดหัวใจซ้วยสวยยย”
“ขอพี่ดูหน่อยได้มั้ยครับ” ฮายังยื่นกระดาษลายเซ็นให้ดูแต่โดยดีเพราะพี่ชายท่าทางใจดี แถมยังหล่อด้วย
แต่ลายเซ็นบนกระดาษทำเอาหัวใจของชเวซีวอนหยุดเต้นไปชั่วขณะ มองผิวเผินก็เหมือนรูปหัวใจสวยๆ ทั่วไปแบบที่ฮายังบอก แต่การวาดแบบนี้แล้วแต้มรอยยิ้มไว้ตรงกลางรูปหัวใจนี่มัน…
‘ไม่กล้าบอกรักหรอก แค่มองก็พอแล้ว’
เจ้าของโพสอิทที่เขาเก็บไว้มาเกือบเจ็ดปี!
ซีวอนรีบคืนกระดาษให้ฮายังแล้ววิ่งออกมาทันที ถึงว่าหน้าตาคุ้นๆ แถมยังสายตาชิงชังที่บ่งบอกว่าเกลียดเขานักหนานั่นอีก ฮยอกแจเป็นเด็กคนที่เขียนโพสอิทให้เขา ซีวอนเพิ่งรู้ และซีวอนก็รู้อีกด้วยว่าฮยอกแจมาสารภาพรักกับเขาแล้ว!
“โธ่เว้ย!”
เจ็ดปีก่อน
ซีวอนล้วงหยิบกระดาษโพสอิทที่ได้มาวันนี้จากกระเป๋ากางเกงแล้วมองด้วยสายตาอบอุ่น เขาชอบความสม่ำเสมอของเจ้าของโพสอิทที่ได้รับมาตั้งแต่เขาอยู่ปีสองจนใกล้จะจบปีสามแล้ว และซีวอนก็คิดว่าอาจจะกำลังตกหลุมรักคนที่ไม่กล้าบอกรักเขาแต่แสดงออกอย่างลับๆ ว่าเป็นห่วงเขาอยู่ตลอดก็ได้
ในจำนวนร้อยกว่าใบ มีสองใบที่ซีวอนชอบที่สุดเพราะข้อความที่เขียนมาว่า
‘ไม่กล้าบอกรักหรอก แค่มองก็พอแล้ว’
‘ถ้าบอกว่าชอบแล้วไม่ได้มองพี่เหมือนเดิมอีก งั้นไม่บอกหรอก จะแอบมองอยู่อย่างนี้แหละ ให้คนอื่นพูดไปเถอะเถอะ …แต่ถ้าเป็นไปได้ อย่าเพิ่งไปชอบใครนะฮะ’
จริงๆ แล้วซีวอนชอบใบหลังมากกว่าเพราะนอกจากจะฟังดูเหมือนงอนๆ เขาแล้ว ยังมีอาการอ้อนน่ารักๆ เพิ่มเข้ามาอีก เจ้าของโพสอิทนี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ซีวอนไม่ยอมรับรักใคร ถึงอย่างนั้นทุกครั้งที่มีคนรวบรวมความกล้าเข้ามาสารภาพรักซีวอนก็จะมองหาโพสอิทในมือ หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับคนที่เขารอ
มีอย่างหนึ่งที่ซีวอนแน่ใจเกี่ยวกับเจ้าของโพสอิทแผ่นนี้คือต้องเป็นรุ่นน้องของเขาหนึ่งปี เพราะซีวอนเคยเห็นกระดาษแบบนี้ในกระเป๋าดินสอของกลุ่มเด็กปีสอง แต่รอดูอยู่นานก็ไม่มีเจ้าของมาหยิบไปจนซีวอนไปเข้าห้องน้ำแล้วกลับมาเท่านั้นแหละกระเป๋าใสๆ ทั้งใบก็หายไปเลย
“มึงบอกเขาสิว่ามึงก็ชอบ ให้แสดงตัวได้แล้ว”
เยซองกระตุ้น ซีวอนถอนหายใจหนักๆ อาทิตย์นี้เขาถูกสารภาพรักมาเป็นครั้งที่ห้าแล้ว เยซองตบไหล่เบาๆ เป็นเชิงปลอบใจเพราะรู้ว่าซีวอนเป็นคนดีที่ไม่ชอบทำให้ใครผิดหวัง เวลามีคนมาบอกว่ารักหรือชอบก็ทำเพียงยิ้มให้แล้วพูดว่าขอบคุณ ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธเพราะกลัวจะทำให้อีกฝ่ายเสียใจ
ซีวอนคิดตามแต่ก็พยายามไม่สนใจเยซองที่เอาแต่พูดกรอกหู เก็บกระดาษสีใบเล็กใส่กระเป๋าเพราะมีคนเรียกออกไปนอกห้อง เยซองดีดกีตาร์จบไปหนึ่งเพลงซีวอนก็กลับเข้ามาด้วยสีหน้าเซ็งๆ
“ถูกสารภาพรักอีกแล้วเหรอมึง”
“เออ”
“ใช่น้องโพสอิทมั้ย”
“ไม่ใช่”
“เชื่อกูเดี๋ยวก็มีมาอีก แล้วเนี่ยถ้ามึงไม่ปฏิเสธไปจริงๆ จังๆ นะ น้องโพสอิทที่รักของมึงเค้าอาจจะคิดว่ามึงตอบตกลงกับใครสักคนไปแล้วแน่ๆ” เยซองที่นั่งดีดกีตาร์อยู่ข้างๆ บอกอย่างรำคาญ เขาเองก็คอยจะเห็นหน้าเจ้าของโพสอิทนี่เหมือนกัน
“เขาน่าจะรู้ว่ากูไม่ได้คบใคร”
“มึงบอกเขาแอบมองมึงอยู่ตลอดไม่ใช่เหรอ ถ้าเผอิญตอนมีคนมาบอกว่าชอบมึงแล้วกลับออกไปด้วยท่าทางยิ้มๆ มีความสุข มึงว่าน้องโพสอิทเห็นแล้วจะคิดยังไงล่ะ”
“งั้นกูควรทำไง”
“ปฏิเสธให้เด็ดขาดไปซะ บอกว่ามีคนที่ชอบแล้ว ไม่ต้องมาหวังอะไรจากมึงหรอก”
ยังไม่ทันตอบอะไรเพื่อนร่วมห้องก็เรียกซีวอนออกไปอีกเพราะมีคนมาหา ซีวอนเดินออกมาเจอเด็กผู้ชายใส่แว่นผมฟูๆ ยืนก้มหน้างุด
“มีอะไรกับฉันเหรอ”
“เอ่อ ผม……………. ผมชอบพี่ซีวอน!” กลั้นหายใจแล้วพูดออกไปเต็มเสียง ไม่มีใครสนใจนักหรอกเพราะหน้าห้องนี้น่ะมันสถานที่บอกรักชเวซีวอน ซีวอนอึ้งไปสักพักแล้วมองหน้าอีกฝ่ายที่กำลังยืนหน้าแดงปิดตาปี๋ภายใต้กรอบแว่น มือขยุกขยิกเหมือนไม่มั่นใจ
“เฮ่อ…. นายเป็นคนที่เจ็ดนะรู้มั้ย” ซีวอนถอนหายใจ “แล้วตอนนี้ฉันก็เบื่อจนไม่อยากจะถูกเรียกออกมาหน้าห้องเพราะเรื่องแบบนี้อีกแล้ว”
“พี่ซีวอน…..”
เห็นเด็กปีสองน้ำตาคลอเบ้าแล้วซีวอนก็ใจอ่อนยวบ รู้สึกสงสารจนไม่อยากให้มีใครเป็นแบบนี้เพราะเขาอีกแล้ว
“ฉันมีคนที่ชอบแล้ว นายไปชอบคนอื่นเถอะ”
ตัดบทแล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง ทิ้งให้คนที่รวบรวมความกล้ามาตลอดหลายเดือนนิ่งค้างอยู่หน้าห้อง มือเล็กกุมโพสอิทแน่นจนยับ วิ่งหนีออกมาพร้อมกับกระดาษแผ่นเล็กในมือซึ่งวันนี้ตั้งใจวาดรูปหัวใจสวยๆ มีรอยยิ้มตรงกลางมาให้เองกับมือพร้อมบอกความรู้สึก แต่สิ่งที่ได้รับคือการขอให้ไปชอบคนอื่น…
ฮยอกแจเกลียดพี่ซีวอน เกลียดพี่ซีวอนที่สุดเลย
ฮยอกแจหน้าบึ้งขึ้นมาทันทีที่เห็นชเวซีวอนในระยะใกล้และดูเหมือนว่าอีกฝ่ายกำลังเดินเข้ามาหา ไม่รู้ว่าในมือถืออะไรมาแต่เหมือนกระดาษกับปากกาเมจิก ฮยอกแจแกล้งทำเป็นไม่สนใจแล้วลงมือขุดทรายมาปั้นเล่นต่อ แต่จู่ๆ ก็ดูเหมือนว่าแดดอ่อนๆ ที่กำลังส่องอยู่จะถูกบังด้วยร่างของซีวอนจนหมดสิ้น ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่พอใจ
“หลีกไป”
“ขอนั่งด้วยคน”
“ไม่ให้”
“แค่แป๊บเดียว”
ตวัดตามองอย่างไม่สบอารมณ์นึกอยากผลักร่างสูงให้กระเด็นไปบนกองทรายแต่ว่าไม่กล้าพอ ทำท่าจะลุกหนีไปที่อื่นซะเองข้อมือก็ถูกจับไว้แล้วดึงให้นั่งลงที่เดิม
“ปล่อยผมนะ”
“ทีมงานขอร้องให้ฉันมาขอลายเซ็นนาย เขาเป็นแฟนคลับของนายเลยนะ”
ยื่นกระดาษให้เซ็นแต่ฮยอกแจยังเมินอย่างไม่อยากสนใจ แต่เพราะคำว่าแฟนคลับของนายทำให้ยอมลดสายตาลงมองกระดาษแล้วคว้ามาเซ็นให้เร็วๆ
“เขาชื่ออะไรครับ” ถามห้วนๆ แล้วเปิดปลอกปากกาออกเร็วๆ จัดการเซ็นลายเซ็นลงไปอย่างชำนาญ
“แทยัง เขียนให้ด้วยนะว่าอย่าเพิ่งไปชอบใครนะฮะ”
ฮยอกแจตวัดสายตามองเคืองๆ เป็นใครกันมาสั่งอยู่ได้ แต่ก็ยอมเซ็นให้ตามที่ขอ พอเขียนเสร็จก็วาดรูปหัวใจยิ้มปิดท้าย เหมือนจะหยุดหายใจไปอย่างไรอย่างนั้นตอนที่ฮยอกแจเขียนเสร็จแล้วยัดกระดาษใส่มือซีวอน ทำท่าจะลุกหนี แต่ก็ต้องฮึดฮัดใส่ร่างสูงอีกครั้งเพราะยังเอาแต่จับไว้อยู่ได้
“จับได้แล้ว” ซีวอนพูดยิ้มๆ
“จับอะไรของคุณ ปล่อยผมได้แล้ว”
“เจ้าของโพสอิทที่เขียนให้ฉันทุกวันพฤหัสกับศุกร์ บางครั้งก็เอานมสตรอว์เบอร์รี่มาใส่ไว้ในล็อกเกอร์จนฉันต้องกินเพราะนายงอแงมาในโพสอิท บอกว่าชอบฉันแต่จะไม่สารภาพรักด้วย แต่ก็บอกฉันว่าอย่าเพิ่ง แล้วก็เป็นคนที่ทำให้ฉันไม่ได้คบกับใครเลยตอนม.ปลายเพราะว่ากลัวเขาเสียใจ”
“……………..”
“ถ้าพี่รู้ว่าเด็กคนนั้นคือเรา พี่จะไม่มีทางปฏิเสธเขาเลย ฮยอกแจ”
สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำให้ฮยอกแจพูดไม่ออก แต่พอคิดถึงวันที่ถูกเขาปฏิเสธมาอย่างไร้เยื่อใยแล้วฮยอกแจก็หน้าชา แม้จะถูกมองด้วยความอ่อนหวานแต่ก็พยายามจะข่มใจที่เหมือนจะเต้นหนักขึ้นมาทุกทีตอนที่ซีวอนพูดจาอ่อนโยนด้วย ตั้งเจ็ดปีเลยนะ… เพิ่งจะมาเห็นค่ากันตอนนี้เหรอ
“แต่คุณก็ปฏิเสธไปแล้ว”
“เพราะพี่ไม่รู้ พี่ขอโทษ”
“ไม่จำเป็น เพราะตั้งแต่วันนั้นผมก็ยอมรับความต้องการของคุณ และทำตามที่คุณต้องการครบถ้วนแล้วด้วย”
ฉันมีคนที่ชอบแล้ว นายไปชอบคนอื่นเถอะ
“ใคร”
เสียงของซีวอนเย็นยะเยือก สายตาอ่อนหวานก็แข็งกร้าวขึ้นทันที
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ” ฮยอกแจสะบัดตัวหนีแล้วก้าวเท้าเร็วๆ จากไป นึกอยากปิดหูเพราะเสียงตะโกนของซีวอนที่ดังตามมา
“เราไม่มีทางเลิกชอบพี่ได้หรอกฮยอกแจ!”
ไม่จริง!
ฮยอกแจพยายามเลี่ยงซีวอนตลอดทั้งวันเพราะกองถ่ายละครกับหลังเวทีคอนเสิร์ตนั้นแทบจะอยู่ติดกัน ตอนฮยอกแจซ้อมเต้นอยู่บนเวทีก็ถูกพระเอกดังมายืนมองจนเสียสมาธิ เต้นผิดเต้นถูกจนโดนพี่อีทึกดุ เหมือนจะรู้ว่าเป็นตัวต้นเหตุซีวอนถึงได้ยิ้มขำๆ ให้อย่างจงใจ แต่ก็ไม่ได้ละสายตาไปจากฮยอกแจเลย
มีแค่ช่วงที่ซีวอนถ่ายละครเท่านั้นที่ฮยอกแจค่อยหายใจหายคอโล่ง ไม่ต้องทนเก๊กหน้าบึ้งตลอดเวลาอย่างเมื่อกี้
“เป็นอะไรไป” คยูฮยอนเดินเข้ามาขยี้หัวตามประสาเพื่อนที่ชอบเล่นหัวเล่นหางกันปกติ ฮยอกแจร้องย่าห์แล้วกระโดดเหย็งๆ จะยีหัวคยูฮยอนบ้างแต่อีกคนใช้ความตัวสูงให้เป็นประโยชน์ยืดตัวจนฮยอกแจเอื้อมไม่ถึง ฮยอกแจเลยกระโดดหมับล็อกเข้าที่เอวหนาแล้วเกาะเป็นลิงซะเลย
“เฮ้ย ลงไปเลย”
“ไม่ คยูฮยอนอยู่นิ่งๆ ดิเดี๋ยวตก”
“จะไปกินน้ำ ลงไปเหอะ”
“พาเราไปด้วย”
แล้วฮยอกแจก็หนีบคยูฮยอนแน่นให้พาไปกินขนมที่หลังเวทีซึ่งเปิดโล่งไว้ คยูฮยอนหยิบน้ำมาดื่มแล้วเผื่อไปให้ฮยอกแจด้วยแต่ต้องป้อนเพราะฮยอกแจมือไม่ว่าง
“นั่นชเวซีวอนป่ะน่ะ เขามองมาทางนี้ทำไม”
“ช่างเขาดิ”
“ทำไม มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า”
“จะไปมีได้ไงไม่รู้จักกัน”
“เออว่ะ”
แล้วคยูฮยอนก็แบกฮยอกแจไปรอบโต๊ะที่มีอาหารอยู่เต็มไปหมด บางทีฮยอกแจก็เป็นคนแกะถุงขนมแล้วป้อนคยูฮยอนที่ใช้มือยึดต้นขาเขาไว้กับตัว เป็นภาพสวีทหวานให้แฟนๆ คยูฮยอกที่ยืนอยู่ข้างนอกได้กรี๊ดกร๊าดกันเป็นแถบ ยกเว้นกับซีวอนที่ทนมองอยู่นานแล้ว
“ซีวอนมีสมาธิหน่อย”
นักแสดงหนุ่มลูบหน้าสองสามทีก่อนจะกลับไปตั้งใจทำงาน แต่ยังอดมองไปยังอีกฟากของกองถ่ายไม่ได้เพราะฮยอกแจยังเกาะอยู่บนหลังคยูฮยอนไม่ปล่อย ยิ่งพอรายนั้นบังเอิญหันมาสบตากับซีวอนและได้รับสายตาดุๆ กลับไปก็ยิ่งลอยหน้าลอยตา ป้อนน้ำป้อนขนมคยูฮยอนต่ออย่างยั่วโมโห
“ขอโทษครับ ผมขอพักสิบนาที”
หันไปมองอีกทีซีวอนก็หายไปแล้ว ฮยอกแจเลยได้ฤกษ์โดดลงจากหลังคยูฮยอนซะที คยูฮยอนร้องโวยที่จู่ๆ ฮยอกแจก็เหวี่ยงตัวเองลงมาไม่ได้สนใจเลยว่าเขาจะหน้าทิ่มหรือเปล่าแต่ฮยอกแจก็หัวเราะใส่อย่างสะใจก่อนจะหันซ้ายหันขวามองหาเพื่อนคนอื่น
“ทงเฮไปไหน”
“จะรู้ได้ไง ไปติ่งดาราอีกมั้ง ลองกลับไปดูที่ห้องพักดิเนี่ยเดินไปข้างหลังอ่ะไม่น่ามีคน”
“โอเคๆ”
เดินมาตามทางที่คยูฮยอนบอกที่มีบ้านพักเล็กๆ ตั้งเป็นหลังๆ แต่เงียบสงบเพราะกำลังปิดซ่อม ฮยอกแจเดินฮัมเพลงไปเรื่อยๆ ฉับพลันฝ่ามืออุ่นจัดของใครบางคนที่ทำให้ฮยอกแจตัวเย็บวาบก็พุ่งเข้ามาปิดปากแล้วดึงคนตัวเล็กให้เข้ามาในทางเดินแคบๆ ที่เชื่อมจากบ้านพักไปยังชายหาด
หัวใจที่เต้นแรงด้วยความหวาดกลัวเริ่มใจชื้นขึ้นมาหน่อยเมื่อเห็นชเวซีวอนกำลังยืนอยู่ต่อหน้า จากที่ตกใจกลัวก็กลายเป็นโมโหแล้วสะบัดท่อนแขนแกร่งให้พ้นจากตัว
“คุณทำบ้าอะไร”
“เรานั่นแหละทำอะไรอยู่”
“อะไร”
“พยายามจะทำให้พี่หึง สนุกนักหรือไง”
ฮยอกแจไม่ไว้ใจกับท่าทางย่างสามขุมเข้าหาของซีวอนเท่าไหร่นักแต่อะไรบางอย่างก็ผลักดันให้ฮยอกแจเชิดหน้ารั้น ตอบกลับด้วยท่าทีหยิ่งยโส
“ก็สนุกดี”
“งั้นเราคงดีใจถ้าได้รู้ว่า... มันได้ผล”
มัวแต่เชิดหน้าหนีรู้ตัวอีกทีก็โดนขโมยจูบที่แก้มไปแรงๆ จนแก้มนิ่มยุบ รู้สึกได้ถึงจมูกโด่งเป็นสันที่ฟัดลงมาจนเจ็บนิดๆ ฮยอกแจตาโตผลักซีวอนออกแต่ก็ถูกจับแขนไว้ ยิ่งตกใจเข้าไปอีกตอนที่ซีวอนทำท่าจะโน้มหน้าลงมาอีกครั้ง ฮยอกแจหันหน้าหนีอีกแต่กลายเป็นว่าเปิดโอกาสให้เขาก้มลงมาจูบแก้มอีกข้างเข้าเต็มๆ
“ปล่อยผมนะ!”
“บอกแล้วว่ามันได้ผล แล้วถ้าเราไม่อยากถูกลงโทษอีกก็อย่ายั่วโมโหพี่”
ฮยอกแจเอามือจับแก้มตัวเอง จ้องซีวอนอย่างโกรธๆ ไม่สนว่าซีวอนจะโน้มหน้าลงมาพูดด้วยอย่างใกล้ชิดแค่ไหน
“พี่ไม่เชื่อหรอกนะว่าความรู้สึกของเราจะเปลี่ยนไป”
“.................”
“เพราะพี่เองยังรู้สึกเหมือนเดิมกับเราอยู่เลย”
ฮยอกแจเกลียดชเวซีวอนที่สุด!
มาทำเรื่องแบบนั้นกับเขาแล้วยังมีหน้ากลับไปถ่ายละครต่อด้วยท่าทางอารมณ์ดีแบบนั้นได้ยังไง มันน่าโมโหชะมัดที่พอหลังจากนั้นสามชั่วโมงทีมงานก็เก็บกองเตรียมเปลี่ยนสถานที่ถ่ายทำ ฮยอกแจก็พยายามจะไม่สนใจอยากอยู่ห่างๆ เอาไว้ให้มากที่สุดจนกระทั่งคยูฮยอนเดินเข้ามาบอก
“เออเมื่อกี้ชเวซีวอนเขามาขอเบอร์นายกับฉัน เห็นหน้าตาดีเลยให้ไปละนะ”
โจคยูฮยอน !!!!!!!!!
ตั้งแต่วันนั้นก็มีเบอร์แปลกๆ โทรเข้ามาตลอดแต่ฮยอกแจมั่นใจเกินครึ่งแล้วว่าต้องเป็นชเวซีวอนแน่ๆ ถึงได้ไม่ยอมรับ พอหลายวันเข้าจากที่โทรมาบ่อยๆ ก็เป็นแค่ข้อความในคาคาโอะมาแทน บล็อกเบอร์ซะเลยดีมั้ย!!
“เป็นอะไรเห็นหงุดหงิดกับโทรศัพท์หลายวันแล้ว” คยูฮยอนตัวการแกล้งทำหน้าซื่อถาม พอฮยอกแจแยกเขี้ยวใส่รายนั้นก็ยิ้มเผล่ “ลองคุยด้วยหน่อยก็ไม่เสียหายหรอกมั้ง เค้าอุตส่าห์เข้ามาขอเบอร์นายด้วยตัวเองเลยนะ”
“แล้วให้ไปทำไมไม่ทราบ”
“แหม่ นานๆ ทีจะมีคนหน้าตาดีโหลดต่ำมามองแกบ้าง ฉันไม่คว้าไว้ให้ก็กลัวเพื่อนเสียดายแย่”
“แต่คนนี้ไม่ต้อง!”
ซีวอนเริ่มสนุกกับการตื๊อฮยอกแจหนักขึ้นเรื่อยๆ นอกจากข้อความทางคาคาโอะทอล์คที่ส่งมาแบบส่วนตัวแล้ว วันนี้ที่งานรับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ฮยอกแจก็ได้รับดอกไม้แสดงความยินดีจากชเวซีวอนจนถูกเพื่อนในวงรุมยกใหญ่
“ไปคบกันตอนไหนอ้ะทำไมเราไม่รู้เรื่อง” ทงเฮโวยวาย แต่ถูกคิบอมเดินมาลากออกไปนิ่งๆ
“น่าอิจฉาจังเลย เขาจะเปิดตัวหรือเปล่านะ” รยออุคพึมพำอย่างชื่นชม ดอกไม้หรูหราน่าดูแค่พิจารณาจากร้าน The Forest ที่โด่งดังมากๆ กับการ์ดขอบทองลงชื่อ ‘ยินดีด้วยนะ ...พี่ซีวอน’ ก็ยิ่งทำให้ตาลุกวาว
“อีกหน่อยคงเปิดมั้ง ง้อเช้าง้อเย็นขนาดนี้”
คยูฮยอนหมายถึงที่เมื่อเช้าก็มีอาหารเช้าจากโรงแรมห้าดาวมาส่งให้ที่ห้องซ้อม แถมยังเผื่อแผ่มายังสมาชิกคนอื่นอีก ยกเว้นของ ‘คุณฮยอกแจ’ ที่บริกรถูกกำชับมาว่าต้องเป็นกล่องนี้เท่านั้นเพราะไม่มีแครอทและเพิ่มเส้นเยอะๆ ถึงจะเป็นข้อมูลส่วนตัวที่หาได้ทั่วไปตามอินเตอร์เน็ตแต่ก็ทำเอาฮยอกแจอดรู้สึกดีใจลึกๆ ไม่ได้ที่เป็นฝ่ายถูกซีวอนเอาใจใส่บ้าง
ถึงแบบนั้นก็ทำใจแข็ง ยกอาหารส่วนของตัวเองให้เพื่อนแล้วกินข้าวกล่องที่ซื้อมาแต่ไม่กินแล้วของคังอินแทน
ไม่ทันไรก็มีโทรศัพท์เข้ามาจากคนที่ถูกเมมชื่อว่า ‘คนนิสัยไม่ดี’ ฮยอกแจมองอย่างโกรธๆ ก่อนจะกดรับอย่างหมดความอดทน
“สะดุ้งเลยนะเนี่ย สงสัยพี่ชินกับเสียง ตื๊ด... ตื๊ด... แล้วมั้ง”
“มาเอาของของคุณกลับไป”
ฮยอกแจได้ยินเสียงรายนั้นถอนหายใจเหนื่อยๆ ก่อนพยายามตอบกลับมาอย่างใจเย็น
“รับไว้เถอะ พี่ให้เพราะอยากแสดงความยินดีกับเราด้วยจริงๆ”
“แต่ผมไม่ต้องการ”
“วันนี้แสดงได้ดีมากนะ”
“นี่ ผมบอกว่า...”
“เหนื่อยไหม?”
คำถามที่แทรกเข้ามาทำเอาฮยอกแจหยุดหายใจ ใครๆ ต่างก็พากันมาแสดงความยินดีหรือไม่ก็พาไปฉลองกับความสำเร็จที่ได้รับแต่ไม่มีใครเลยที่มาถามเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้กับเขาว่าเหนื่อยไหมในวันที่รู้สึกว่าเหนื่อยที่สุด ใจอ่อนยวบลงเพราะความอ่อนโยนที่อีกฝ่ายแสดงออกมา ฮยอกแจกัดริมฝีปากแน่นเป็นเหมือนตอนนั้นเลยที่พี่ซีวอนอ่อนโยนกับทุกๆ คน แต่สุดท้ายก็ใจร้ายกับเขาแค่คนเดียว ฮยอกแจไม่เข้าใจ!
“พี่รู้ว่าเราเหนื่อย แต่ทำได้ดีมากเลยนะ”
ฮยอกแจไม่อยากฟัง... ที่พูดมันก็แค่คำพูดทั่วไปที่พี่ซีวอนใช้พูดกับทุกคนที่ชอบ... พี่ซีวอนก็รู้ว่าฮยอกแจชอบพี่ซีวอน แล้วจะมาให้ความหวังกันทำไม ในเมื่อพูดว่ารักออกไปแล้วก็ไม่ยอมรับมันอยู่ดี
“ผมคงเหนื่อยน้อยกว่านี้ ถ้าคุณเลิกตามตอแยผมเสียที”
“รู้ไหมว่าพูดแบบนี้พี่เสียใจนะ”
“เรื่องของคุณ”
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลาพี่เสียใจ เราคงเรียนเขียนโพสอิทมาแปะหน้าล็อกเกอร์พี่แล้ว”
“.............”
“ยังเก็บไว้อยู่ใช่มั้ย”
“.............”
“พี่ก็เหมือนกัน ครบทุกใบ ไม่เคยทิ้งเลย”
ติ๊ด... ฮยอกแจกดตัดสายทันทีอย่างไม่อยากจะรับฟังอะไรต่ออีก ความโมโหทำให้ฮยอกแจควานหาโพสอิทในกระเป๋าสะพายออกมา มันติดเป็นนิสัยแล้วที่ชอบลืมของสำคัญจนต้องมีติดตัวเอาไว้แต่พอถูกพูดให้นึกถึงเรื่องในอดีตแบบนั้นก็อยากจะทำลายทิ้ง ทิ้งมันไปให้หมด
“อย่าทิ้งนะ”
จู่ๆ มือของคนที่ไม่คิดว่าจะมาอยู่ที่นี่ก็คว้าข้อมือฮยอกแจเอาไว้ ฮยอกแจไม่แปลกใจหรอกที่ชเวซีวอนปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ที่ทางหนีไฟที่เขาออกมาคุยโทรศัพท์ เพราะตั้งแต่วันนั้นชเวซีวอนก็ตามเขาไปเกือบทุกๆ ที่อยู่แล้ว
“ถ้าจะทิ้ง ก็เอามาให้พี่เถอะ”
ฮยอกแจกัดริมฝีปากแน่น สะบัดแขนออกแล้วปาปึกโพสอิทสีเขียวใส่ซีวอนจนมันตกไปกองบนพื้นก่อนจะก้าวเร็วๆ ออกมาแล้วเข้าไปในห้องแต่งตัวด้วยความฉุนเฉียว
เช้าวันถัดมาฮยอกแจตื่นขึ้นด้วยความสดใส เมื่อคืนไปเลี้ยงเนื้อย่างกับเพื่อนในวงจนอิ่มแปล้แถมยังได้นอนครบแปดชั่วโมงอีก กำลังจะผลักประตูห้องพักที่นอนคนเดียวออกไปแต่ก็ต้องชะงัก เพราะกระดาษแผ่นเล็กๆ สีเขียวที่ติดอยู่!
‘เรากลายเป็นคนขี้โมโหตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?
Have a beautiful day :^D’
“ใครเอาไอ้กระดาษบ้านี่มาติดที่ห้องฉัน!”
สมาชิกในวงสะดุ้งกันเป็นแถบตอนที่ฮยอกแจออกมาโวยวาย ทุกคนไม่มีท่าทางน่าสงสัยยกเว้นอีทงเฮที่ทำหัวหดแล้วมุดหลบอยู่หลังคิบอม ไม่น่าสงสัยเลยให้ตายเถอะ! คนที่ติ่งศิลปินจนยอมทำทุกอย่างให้ได้แบบนี้มีอยู่คนเดียว!
“อีทงเฮ!”
“งื้อออ ก็พี่ซีวอนขอร้องมาอ่ะ แถมยังให้รูปพร้อมลายเซ็นมาด้วยนะดูป่ะๆๆ”
“ไม่ต้อง แล้วต่อไปนี้ไม่ต้องเอาโพสอิทบ้าๆ นี่มาแปะห้องฉันอีกแล้วนะเข้าใจมั้ย!”
ทั้งที่พูดไปแบบนั้น แต่ทงเฮก็ยังไม่เข้าใจแล้วก็ไม่อยากเข้าใจด้วย เช้าวันใหม่ฮยอกแจก็ได้รับกระดาษแบบเดิมที่ประตูห้องอีก
‘โพสอิทบ้าๆ เหรอ? แล้วใครกันนะบ้าเขียนมาให้พี่ได้เกือบทุกวัน ♥’
ทำไมเห็นรูปหัวใจบ้าๆ นี่แล้วถึงได้รู้สึกโมโหได้ขนาดนี้นะ! แถมยังมีรอยยิ้มที่กลางหัวใจเลียนแบบเขาอีก!
โวยวายทงเฮไปกี่ครั้ง ทุกครั้งก็ทำท่าสำนึกผิดตลอดแต่ไม่เคยรับปากเลยว่าจะเลิกเอาโพสอิทจากชเวซีวอนมาแปะให้เสียที ไม่รู้เอาเวลาไปเจอกันตอนไหน
วันนี้ก็อะไรอีกล่ะ...
‘ตื่นสายใช่มั้ย? อย่าลืมดื่มนมกับไอติมที่ซื้อไว้ให้นะ’
ฮยอกแจงงเหมือนกันที่วันหนึ่งเปิดตู้เย็นที่หอแล้วเจอกล่องนมสตรอว์เบอร์รี่กับไอศกรีมของฮาเก้นดาซหลายกล่องแช่อยู่ในช่องฟรีซ แต่มีแค่กล่องที่เป็นรสสตรอว์เบอร์รี่ที่มีแปะชื่อของฮยอกแจเอาไว้ นอกนั้นก็เหมือนถูกตั้งไว้ให้เป็นของสมาชิกแบ่งกันกิน
จนคนที่เฉยๆ กับซีวอนตอนนี้หันมาตื่นเต้นกันใหญ่ว่าวันๆ ฮยอกแจจะได้ขนมอะไรแล้วตัวเองจะได้อะไรเผื่อบ้าง
แล้วซีวอนก็เป็นคนที่อัพเดทข่าวสารของเขาเร็วมากกกกกก ไม่น่าแปลกใจเลยเพราะตอนไปแอบดูโทรศัพท์ของทงเฮ รายนั้นส่งคาคาโอะไปรายงานเรื่องเขาให้ฟังตลอด ล่าสุดก็เรื่องที่เต้นจนปวดขา พอวันถัดมาก็เริ่มเลย
‘พักผ่อนบ้างสิ หักโหมมากๆ มันไม่ดีรู้ไหม
เห็นใจคนเป็นห่วงบ้าง’
“ไม่เห็นจะอยากสนใจเลย” พึมพำกับตัวเองแล้วทิ้งโพสอิทลงในกล่องใส่สำลีบนโต๊ะเครื่องแป้ง ไม่ได้อยากจะเก็บไว้สักหน่อยแต่ถังขยะมันเต็ม กล่องใส่สำลียังมีที่ว่างก็เลยฝากไว้ขนขยะไปทิ้งเมื่อไหร่ค่อยทิ้งพร้อมกัน
แล้วก็มีโพสอิทแบบเดิมมาให้ฮยอกแจทุกวันที่ประตูห้อง จนฮยอกแจตัดสินใจล็อคประตูห้องนอนทั้งที่ปกติไม่เคยเพื่อทงเฮจะได้ไม่แอบย่องเข้ามาตอนเขาหลับไปแล้วและเอาโพสอิทมาแปะไว้ แต่พอล็อคเท่านั้นแหละ แทนที่จะติดเอาไว้ข้างในอีทงเฮตัวแสบก็แปะไว้หน้าห้อง ที่ทุกคนต้องเดินผ่านเวลาไปเข้าห้องน้ำ!
“แหม ฮยอกแจ น่าอิจฉาจังนะมีคนเป็นห่วงแกทั้งวันเลย” คยูฮยอนเปิดมติแซวคนแรก ตามด้วยคังอิน อีทึกและคนอื่นๆ ที่เป็นหัวโจกทั้งหลายนั่นแหละ แม้แต่คิบอมที่ไม่ค่อยยุ่งเรื่องของใครและนั่งดูทีวีอยู่เงียบๆ ยังบอกเลยว่า
“ฮยอง แฟนฮยองออกทีวีน่ะ จะดูมั้ย”
จะแก้ตัวว่าไม่ใช่แฟนก็ไม่ทันแล้ว เพราะรายการก๊อซซิปที่กำลังบุกไปสัมภาษณ์ซีวอนถึงกองถ่ายทำให้สมาชิกทุกคนที่ไม่มีงานเข้ามารวมอยู่หน้าทีวี
‘มีแฟนๆ เห็นช่อดอกไม้ที่คุณซีวอนส่งไปแสดงความยินดีกับซูเปอร์จูเนียร์ แถมยังขับรถไปจอดที่ใต้หอพักของทางนั้นบ่อยๆ กำลังเดทกับใครในวงนั้นอยู่หรือเปล่าคะ’
‘เจ้าของโพสอิทไงครับ’
“อีฮยอกแจ! แกคือรุ่นน้องที่เคยแอบชอบชเวซีวอนคนนั้นเหรอ!!”
สมกับฉายาเจ้าชายแห่งวงการบันเทิงเพราะทันทีที่ซีวอนให้สัมภาษณ์ออกไปแบบนั้นเว็บข่าวทุกแห่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับก็ลงข่าวชเวซีวอนกับอดีตรุ่นน้องที่โรงเรียนซึ่งเคยมีอดีตร่วมกันแถมปัจจุบันรุ่นน้องคนนั้นยังเป็นหนึ่งในสมาชิกซูเปอร์จูเนียร์อีกด้วย ตอนเย็นของวันนั้นจึงมีนักข่าวมาดักสัมภาษณ์อยู่ด้านล่างของหอพักจนฮยอกแจออกไปไหนไม่ได้ ทั้งอีทึกทั้งคังอินที่มีงานพิธีกรก็ต้องยกเลิกไปเพราะกองทัพนักข่าว
ฮยอกแจเดินไปเดินมาอย่างกังวลเพราะไม่รู้จะสัมภาษณ์ออกสื่อยังไงเรื่องของซีวอน แต่ถ้าไม่ออกไปการงานของสมาชิกคนอื่นก็คงจะเสียหายกันไปหมด
“ฮยอกแจๆๆๆๆๆ” ทงเฮที่วิ่งสังเกตการณ์อยู่ที่ชั้นหนึ่งรีบขึ้นมาบอกข่าวหลังจากพยายามจะออกไปซ้อมเต้นที่บริษัทกับคิบอม “พี่ซีวอนมาอ้ะ โดนนักข่าวรุมอยู่หน้าหอ!”
ถึงจะได้ยินแบบนั้นแต่ฮยอกแจก็ไม่ลงไปดูด้วยตาตัวเองอยู่ดี แต่สมาชิกคนอื่นน่ะโกยกันลงไปชั้นหนึ่งหมดแล้วเพื่อจะได้เห็นเหตุการณ์จริง มีอยู่คนเดียวที่ฉลาดที่สุด คิบอมนั่งนิ่งๆ กดรีโมททีวีคลิกเดียวก็เปิดช่องที่กำลังถ่ายทอดสดชเวซีวอนอยู่หน้าหอพักของซูเปอร์จูเนียร์อยู่ตอนนี้
‘กลุ่มนักข่าวรอสัมภาษณ์สมาชิกวงซูเปอร์จูเนียร์อยู่หน้าหอพักศิลปินค่ะ แล้วเหมือนว่าซีวอนจะทราบเรื่องเลยขับรถมาด้วยตัวเองและให้สัมภาษณ์กับนักข่าวอยู่ตอนนี้ ไปดูภาพสดกันเลยค่ะ’
‘คุณซีวอนมาหาใครคะ’
‘ใครคือรุ่นน้องคนนั้นครับ’
‘คบกันมานานแค่ไหนแล้ว’
หลากคำถามรุมเข้าใส่นักแสดงหนุ่มพร้อมกับแสดงแฟลชจนฮยอกแจอดจะกังวลแทนซีวอนไม่ได้ที่ต้องรับหน้าอยู่คนเดียวแบบนั้น แต่ก็สมควรแล้วนี่เป็นคนหาเรื่องเองก็ต้องรับผิดชอบเองสิ
ซีวอนยกมือขึ้นเหนือหัวขอให้ทุกคนเงียบเสียง
‘อย่างที่ข่าวออกไปนั่นแหละครับ รุ่นน้องคนนั้นเป็นเมมเบอร์ซูเปอร์จูเนียร์จริง และผมกำลังจีบเขาจริง เคลียร์นะครับ แต่ที่ผมอยากขอร้องคือสื่อมวลชนที่กำลังสนใจข่าวนี้ อย่าเพิ่งเร่งรัดถามพวกเขาหรือว่าผมเลยครับว่าเป็นใคร ผมไม่อยากเป็นต้นเหตุสร้างความยุ่งยากให้เขา ถ้าอยากสัมภาษณ์อยากถามอะไรก็มาถามผม ผมจะตอบเอง’
‘ใครเป็นคนเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งนี้คะ’
‘ผมครับ’
‘ที่บอกว่ากำลังจีบคืออะไร ไหนบอกว่ารุ่นน้องคนนั้นเคยชอบคุณไม่ใช่เหรอ’
‘เรื่องมันนานมากแล้วครับ ตอนนี้ผมเป็นฝ่ายชอบเขาแล้ว’
‘ความสัมพันธ์ไปถึงขั้นไหนแล้วครับ’
‘ผมไม่อยากตอบคำถามที่นี่นะครับ เพราะรู้มาว่าสมาชิกซูจูหลายคนออกไปทำงานไม่ได้ ผมจะไปเจอทุกท่านที่ห้องแถลงข่าวตึก SM เพื่อให้สัมภาษณ์กันนะครับ’
แล้วซีวอนก็เดินแหวกกลุ่มนักข่าวออกไป ฮยอกแจปรี่ไปที่หน้าต่างเห็นชเวซีวอนเดินไปที่รถ ก่อนจะเปิดประตูซีวอนเงยหน้ามองอพาร์ตเม้นและทันเห็นฮยอกแจที่ซ่อนตัวอยู่หลังระเบียงพอดี ซีวอนยิ้มให้บางๆ แทนคำขอโทษก่อนจะขับรถออกไปโดยมีนักข่าวตามไปทั้งหมดเพราะกลัวไม่ทันข่าวสดใหม่จากดาราดัง
ยิ่งมีข่าวออกมาก็ยิ่งทำให้ซีวอนงานชุกมากยิ่งขึ้น เรื่องราวของซีวอนยังถูกขอนำไปทำโฆษณาโปรโมทกระดาษโพสอิทให้ตลกเล่นอีก ฮยอกแจรู้เรื่องนี้เพราะข้อความในกระดาษที่ทงเฮเอามาแปะให้เหมือนทุกวัน
‘...ตอบไปว่าถ้านายรักฉันเมื่อไหร่ ฉันถึงจะยอมให้เขาเอาเรื่องของเราไปทำ’
“ใครจะไปรัก...” พึมพำกับตัวเองแล้วเริ่มต้นทำงานในวันนั้นด้วยความสดใส แต่พอวันถัดมาฮยอกแจตื่นตามปกติแล้วเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูกลับพบความว่างเปล่าก็รู้สึกแปลกๆ อ้อยอิ่งอาบน้ำแปรงฟันอยู่นานสองนานก่อนจะแข็งใจเดินเข้าไปในห้องทงเฮ ใช้เท้าสะกิดก้นกลมของทงเฮให้รู้สึกตัว
“งือออออ อะไย...”
“โพสอิทล่ะ ไม่มีเหรอ”
“งืออออ อยู่ในกระเป๋าอะหาเอา...”
พึมพำงัวเงียเพราะคงจะเหนื่อยมากจริงๆ ก็เมื่อวานเล่นทำงานทั้งวันแถมยังไปอัดรายการวิทยุถึงดึกอีกจะลืมย่องมาแปะให้ตอนดึกๆ เหมือนทุกคืนก็คงไม่แปลกหรอก
‘เหนื่อยจัง’
“แค่นี้เนี่ยนะ?”
พอข้อความบนโพสอิทเริ่มน้อยลงไปฮยอกแจก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดแปลกๆ ยิ่งพอวันถัดมาก็ยิ่งโมโห ทงเฮคงเอาไปเล่าแน่ๆ ว่าเขาตามไปเอาโพสอิทถึงห้อง ข้อความในกระดาษวันนี้ถึงได้มาเป็นแบบนี้
‘ใบสุดท้าย อยากคุยต้องรับโทรศัพท์แล้วนะ ♥’
ร้ายกาจที่สุด!
กลางดึกคืนนี้ทงเฮยังไม่เข้านอน ฮยอกแจมองเพื่อนนั่งดูทีวีอยู่แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรหยิบการ์ตูนเล่มใหม่ที่เพิ่งซื้อมาเข้าไปอ่านคนเดียวในห้องเงียบๆ อ่านไปจวนจะจบก็ได้ยินเสียงกริ่งหน้าห้อง ตอนตีสองเนี่ยนะ? พอได้ยินอีกครั้งจึงลุกออกไปดู อีทงเฮหลับพับอยู่หน้าโซฟาแบบนั้นมิน่าถึงไม่มีใครออกไปเปิดประตู
“มาทำไม” พอเห็นว่าเป็นใครก็ปั้นหน้าแข็งขึ้นมาทันที
ซีวอนเองก็ไม่นึกว่าฮยอกแจจะเป็นคนมาเปิดประตูเหมือนกัน ปกติเวลาเอาโพสอิทหรือขนมมาให้โดยฝากผ่านทงเฮก็จะโทรบอกทงเฮก่อนประมาณสิบนาที แต่ตอนเที่ยงคืนเขามีถ่ายซ่อมละครเลยลืมโทรมาบอกทงเฮว่าจะมาช้า มาถึงอีกทีทงเฮก็ไม่รับโทรศัพท์เลยลองกดกริ่งดู ใครจะไปนึกว่าคนที่โผล่หน้าออกมาจะเป็นฮยอกแจ
“เดี๋ยวนี้พูดจาไม่เพราะเลยนะ”
“ไม่เพราะก็ไม่ต้องฟัง”
“พูดดีๆ ก่อนแล้วจะซื้อขนมให้กิน”
“ผมไม่ใช่เด็ก”
“แล้วทำไมขี้งอน”
ฮยอกแจกอดอกอย่างเคืองๆ ยิ่งพอซีวอนทำเหมือนเขาเป็นเด็กโง่ๆ เห็นแก่กินคนหนึ่งก็ยิ่งไม่พอใจ
“จะเอาของนั่นให้ทงเฮใช่มั้ย เอามาสิ” รีบๆ รับของมาจะได้รีบกลับไปซะที
“เดี๋ยวทงเฮก็ต้องให้เราอยู่ดี”
“แค่ถึงมือผมก็จะไปใช่มั้ยล่ะ เอามาแล้วก็ไปซะทีสิ”
“ทำไมเราถึงคุยกันดีๆ ไม่ได้เลยนะ”
“อยากรู้จริงๆ น่ะเหรอครับ”
“ก็เหมือนจะรู้อยู่แล้วน่ะนะ เรื่องที่พี่ปฏิเสธเราไปตอนนั้นใช่มั้ย”
“..............”
“ฟังแล้วเหมือนแก้ตัวนะ แต่ที่พี่พูดไปตอนนั้นเพราะพี่คิดว่าเราก็เหมือนคนอื่นๆ อยากให้เราตัดใจจากพี่ให้ได้ พี่ก็เลยพูดอะไรแรงไปหน่อย”
ฮยอกแจก้มหน้านิ่ง พูดเสียงแผ่ว
“ไม่เกี่ยวกับที่คุณจะชอบหรือไม่ชอบผม แต่เพราะ... เพราะคุณบอกว่าคุณมีคนที่ชอบแล้วต่างหาก ถ้าคุณมีคนที่ชอบแล้วก็น่าจะบอกกันบ้าง ผมจะได้ไม่ดูเหมือนเป็นคนโง่ เขียนโพสอิทบ้าๆ หาคุณเกือบทุกวันอยู่เป็นปีๆ หรอก”
“ฮยอกแจ...”
“ผมน่ะรู้สึกเหมือนเป็นคนโง่มาตลอด ยิ่งเวลาที่มีคนไปสารภาพรักกับคุณ ผมก็ยิ่งรู้สึกแย่ที่ทำได้แค่แอบมองแล้วเขียนทุกอย่างที่คิดไปในกระดาษที่ไม่รู้ว่าคุณจะเก็บไว้หรือทิ้งไป แต่พอวันที่ผมมีความกล้ามากพอจะไปบอกว่าชอบคุณ คุณกลับบอกว่ามีคนที่ชอบแล้ว”
“คนที่พี่ชอบ ก็เรานั่นแหละฮยอกแจ”
ฮยอกแจเงยหน้ามองอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ตากลมกะพริบปริบอย่างแปลกใจขณะที่ซีวอนวางกล่องขนมลงบนพื้นแล้วขยับปลายเท้าเข้ามาใกล้มากขึ้นเพื่อดึงตัวเขาไปกอด แม้ใบหน้าจะซุกแนบอยู่บนอกกว้างแต่ก็ได้ยินสิ่งที่ซีวอนพูดชัดเจน
“บอกแล้วใช่มั้ย ถ้าวันนั้นพี่ใจเย็นพอจะฟังเราพูดต่อให้จบ พี่ก็คงรู้แล้วว่าเราเป็นเจ้าของโพสอิทพวกนั้น ถ้าพี่ไม่รักเจ้าของมัน พี่จะเก็บเอาไว้จนถึงทุกวันนี้ทำไม”
“..................”
“เราอาจเคยฟังแล้ว แต่พี่จะพูดให้ฟังอีกทีว่าถึงแม้พี่จะไม่เคยรู้ว่าเจ้าของโพสอิทเป็นใคร แต่ถ้าเขาปรากฏตัวขึ้นอีกเมื่อไหร่ พี่ก็พร้อมจะตอบรับความรู้สึกของเขาเสมอ”
“ฮึก...... พี่ซีวอน....” เสียงสะอื้นมาพร้อมกับมือเล็กที่กำเสื้อของซีวอนแน่น มือใหญ่ลูบเรือนผมหนาเบาๆ อย่างนุ่มนวลอ่อนโยนพลางกระซิบถาม
“ยอมเรียกพี่แล้วหรือ...”
ยิ่งฮยอกแจร้องไห้แล้วเบียดกายเข้าหาอ้อมกอดของซีวอนมากขึ้น เพียงแค่นี้ซีวอนก็แน่ใจว่าได้หัวใจของฮยอกแจกลับคืนมาแล้ว มันอาจน่าตลกอยู่สักหน่อยที่ตอนที่ฮยอกแจสารภาพรักกับเขาก็เป็นตอนอยู่หน้าห้องเรียน ตรงที่นักเรียนใช้วางรองเท้ากัน และตอนนี้ก็ยังยืนอยู่หน้าประตูห้องพัก ตรงที่ที่ซูเปอร์จูเนียร์กองรองเท้าไว้เป็นภูเขาเลากา
“พี่รักเรานะฮยอกแจ”
“อะไรหน่ะ ยอมรับของเขามากินง่ายๆ แล้วเหรอ”
คยูฮยอนโผล่หัวมาก็เริ่มแซะฮยอกแจทันที แถมยังมีหน้ามาแย่งช็อกโกแลตยี่ห้อที่แพงที่สุดในถุงไปแกะกินหน้าตาเฉย ฮยอกแจพยายามจะแย่งคืนแต่ก็ถูกดันออกจนคยูฮยอนกินไปหมด ยังไม่พอ พี่ๆ ที่ทยอยตื่นออกมาทีละคนยังคอยมาหยิบขนมในถุงของร้านเบเกอรี่หรูไปกินจนหมดอีก
“นี่ฉันอาศัยอยู่ในดงโจรหรือไงกันนะ!”
“อยากมีแฟนรวยช่วยไม่ได้”
“นั่นดิ ถ้าซีวอนหยุดซัพพอร์ตขนมนายเมื่อไหร่นี่มีปัญหากับทั้งวงนะ” อีทึกพูดทีทำเอาทั้งวงหัวเราะเพราะนอกจากตั้งใจให้เป็นมุขตลกแล้วยังแปลความได้นัยๆ ว่าอย่าได้มาทำให้ฮยอกแจเสียใจ ไม่งั้นซูเปอร์จูเนียร์ทั้งวงไม่ปล่อยไว้แน่นอน
“ฮยอกแจ!! โทรศัพท์ดังแน่ะ!”
[ พี่ซีวอน ♥ : Calling ]
INTERVIEW IN CeCi MAGAZINE
Siwon (26) & Hyukjae (24)
Q : ชอบอีกฝ่ายตรงไหน
HJ : พี่ซีวอนตอบก่อนสิ
SW : ก็ได้ ...ตอนแรกที่ผมได้โพสอิทบนล็อกเกอร์ผมก็งงนะ เพราะทั้งแผ่นไม่ได้เขียนอะไรเลยนอกจากรูปหัวใจดวงเดียวแล้วมีรอยยิ้มอยู่ตรงกลาง ผมติดใจตรงรูปยิ้มนั่นแหละก็เลยวางไว้บนโต๊ะหนังสือ ไม่ได้ทิ้ง จนได้อยู่เรื่อยๆ ก็เก็บไว้อีก ของชิ้นใหญ่ๆ ที่ได้มาอย่างตุ๊กตาหรือดอกไม้นี่มันไม่ค่อยเหมาะกับผมเท่าไหร่ด้วยเลยให้น้องสาวไป มีโพสอิทสีเขียวเนี่ยแหละที่ผมเก็บไว้ ไม่หวานเลี่ยนดี
HJ : จริงๆ ก็จะใช้สีชมพูส่งให้นะแต่ที่สหกรณ์โรงเรียนมันหมด ก็เขียนให้ครั้งแรกเป็นวันวาเลนไทน์พอดี
SW : แล้วทำไมถึงชอบพี่
HJ : ไม่ได้ชอบมากเลยนะแรกๆ แต่ได้ไปดูแข่งบาสบ่อยๆ แล้วพี่ซีวอนเนี่ยชอบชู้ตสามแต้มก็เลยคอยมองอยู่ตลอดจนถูกเพื่อนแซว ขนาดตอนไม่ได้แข่งบาสก็ยังเผลอแอบมอง พอเพื่อนรู้ว่าพี่ซีวอนไม่มีแฟนก็เลยยุให้ไปสารภาพรัก แต่จะให้สารภาพยังไงก็ยังไม่ได้รักเลย วันวาเลนไทน์ตอนปีหนึ่งเลยวาดหัวใจไปให้อันนึงแล้วแอบดูอยู่ว่าตอนเห็นจะทำหน้ายังไง
SW : ตอนนั้นพี่ทำหน้ายังไง
HJ : พี่ซีวอนก็ยิ้มมมมม มองซ้ายมองขวาเหมือนหาคนที่เอามาแปะให้ ฮ่าๆ ตอนนั้นเกือบหลบแทบไม่ทัน นั่งเนียนเล่นโทรศัพท์อยู่ตั้งนานจนเห็นพี่ซีวอนถือของขวัญวาเลนไทน์ของคนอื่นกลับบ้าน แล้วก็เอาโพสอิทใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ ไม่รู้... ประทับใจอ่ะ แล้วนานๆ ไปมันก็หยุดชอบไม่ได้ รักตอนไหนไม่รู้รู้แค่ว่าเริ่มต้นจากตรงนี้
SW : ผมเหมือนกัน แล้วโพสอิทสีเขียวนี่จะมาเฉพาะวันพฤหัสกับศุกร์นะ ผมนี่วันไหนไม่ได้ก็หงอยไปละ ไม่รู้ทำไมถึงได้แค่สองวัน
HJ : ก็มีเรียนที่ตึกเคสองวันนั้นไง พี่ซีวอนเคยมาแอบดูใช่มั้ยล่ะว่าใครเป็นคนติดโพสอิท ตอนเพื่อนเดินกันลงมาผ่านล็อกเกอร์คนมันจะเยอะๆ มั่วๆ ใช่มั้ยล่ะผมก็ติดตอนนั้นแหละ เก่งที่สุดอ่ะ!
SW : ครับ เก่งครับ
HJ : อย่าขยี้หัวกันสิฮะ!
Q : ในที่สุดก็ได้กลับมาเจอกัน ตอนคบกันแรกๆ รู้สึกยังไงบ้าง
HJ : มีความสุขที่สุดเลย รักแรกกับแฟนคนแรกเป็นคนเดียวกัน
SW : ฮยอกแจเขารู้มาตลอดว่าผมเป็นใคร แต่ว่าผมไม่รู้ แวบแรกที่ผมรู้ว่ารุ่นน้องคนนั้นเป็นฮยอกแจผมดีใจจนบอกไม่ถูก เหมือนเวลาที่เราทำของหายแล้วอยากได้คืน ทั้งที่รู้ว่าไม่มีหวังแต่เราก็ยังรออยู่ แล้ววันนึงผมก็ได้เขากลับมาจริงๆ มันมากกว่าดีใจซะอีก
Q : ได้แสดงโฆษณาโพสอิทร่วมกัน กระแสตอบรับดีมากเลยใช่มั้ย
SW : ยิ่งกว่าดีอีกครับ ตอนแรกฮยอกแจถูกแฟนคลับผมแอนตี้หนักมากๆ ร้องไห้หนักจนทำงานไม่ได้ ผมรู้สึกงี่เง่ามากที่ทำได้แค่เป็นห่วงแต่ช่วยอะไรไม่ได้เลย แต่พอโฆษณาชุดนี้เผยแพร่ออกไปแล้วแฟนคลับผมได้ดู ก็ถามกันมาว่าจริงเหรอๆ หลายคนตกใจแต่พอเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วก็พากันเปลี่ยนความคิดครับ ผมต้องขอบคุณพวกเขามากๆ ที่ยอมรับการตัดสินใจของผม
HJ : เคยบอกเลิกพี่ซีวอนเพราะเรื่องนี้ด้วย สงสารแฟนคลับ
SW : แต่ผมไม่ยอม เพราะผมอยู่ในวัยที่สมควรจะมีใครอยู่ข้างๆ แล้วด้วยละมั้งครับ ผมเลยจริงจังกับคนที่กำลังคบด้วยมากขึ้น โดยเฉพาะถ้าคนคนนั้นเป็นฮยอกแจ
Q : เคยทะเลาะกันมั้ย
SW : บ่อยเลย ฮยอกแจไม่ค่อยมีเวลาให้ผม
HJ : คนต้องทำงานเหมือนกันนี่ พี่ซีวอนจะงอนบ่อยมากถ้าผมนัดแล้วเบี้ยว บางทีมีงานจริงๆ ก็ไม่น่างอนใช่มั้ยล่ะ แต่นี่ก็งอนให้ต้องง้อตลอด
SW : ก็มันเป็นสิทธิของผมนะ ฮยอกแจน่ะชอบโกรธถ้าผมไปรับช็อคโก้จากบ้านฮยอกแจมาแล้วพาไปไว้ที่คอนโด คือบ้านฮยอกแจกับหอพักซูจูค่อนข้างไกล ไปกลับลำบาก แต่คอนโดผมกับหอพักอยู่ใกล้กันนิดเดียว วันไหนผมไปรับช็อคโก้แล้วฮยอกแจรู้ ฮยอกแจจะใส่ร้ายผมว่าร้ายกาจ แล้วก็โกรธผม เล่นแต่กับช็อคโก้ไม่คุยกับผมเลย
Q : ไม้เด็ดใช้ง้อแฟน
SW : ความจริงคือขนม ต้องเคลียร์ให้รู้เรื่องจนกว่าฮยอกแจจะพอใจแล้วถึงหายโกรธผม แต่ถ้ามีขนมปิดท้ายนี่จะอารมณ์ดีขึ้นมาทันที
HJ : ให้เวลาเยอะๆ อ้อนแหลกเลย
Q : เรื่องที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นของกันและกัน
HJ : ซื้อโพสอิทสีเขียวที่สหกรณ์โรงเรียน
SW : ตกลงไปแข่งบาสแทนเพื่อน ทั้งที่วันนั้นไม่ใช่ผมที่ต้องลงแข่ง
Q : สิ่งที่อยากบอกกับอีกฝ่ายที่สุด
HJ : ขนมที่ซื้อมาให้ฮยอกแจไม่เคยได้กินเลย โดนแย่งหมด
SW : จะกินอีกเท่าไหร่ก็ซื้อให้ได้ เพราะรักมากๆ
- END -
ความคิดเห็น