คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : WONHYUK | Fake Wedding
Fake Wedding
WONHYUK | PG-16
ธุ ร กิ จ ก็ คื อ ธุ ร กิ จ
ย่ อ ม มี ผู้ ไ ด้ รั บ ผ ล ป ร ะ โ ย ช น์
แ ล ะ ผู้ สู ญ เ สี ย ผ ล ป ร ะ โ ย ช น์
“ผมไม่แต่งอ่ะ! ผมไม่แต่ง ยังไงผมก็ไม่แต่ง พ่อบ้าไปแล้วเหรอคิดยังไงให้ผมไปแต่งงานกับไอ้ซีวอน นั่นเพื่อนผมนะพ่อ”
เสียงเอ็ดตะโรโวยวายของลูกชายคนโตกับพ่อตนเองดังลั่น จนน้องชายที่นั่งอยู่ด้วยกันถึงกับต้องยกมืออุดหูแล้วมองซ้ายทีขวาทีเพื่อฟังพ่อพูดบ้างพี่พูดบ้าง
“ก็เพราะเป็นเพื่อนแกนั่นแหละถึงได้ให้แต่งไป แต่งกันแต่ในนามแค่ให้เรามีเครดิตกับตระกูลชเวเท่านั้นแหละ ยังไงก็เพื่อนกัน มันคงตกลงอะไรด้วยไม่ยากหรอก”
“พ่อ!” อีทึกโวยลั่น
“ปาร์คจองซู!!! ฉันจะถือว่านี่เป็นคำสั่ง ถ้าแกไม่ทำตามก็ตัดพ่อตัดลูกกันไปเลย!!”
จบสิ้นประเด็นโต้แย้งกันแต่เพียงเท่านั้น พ่อของทั้งสองก็หันหลังและเดินออกไปจากห้องนอนลูกชายคนโตก่อนจะปิดประตูเสียงดัง
อีทึกกระโดดลงเตียงแล้วร้องอ๊าก ตะกุยตะกายเหมือนอยากจะจมหายไปในที่นอน
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก กูไม่อยากแต่งงาน
กูไม่เอาผัววววว กูจะเอาเมียยยยยยย
TT_________________TT
ทะเลของความเศร้าโศกาในใจอีทึกที่กำลังถูกบังคับให้แตกกระจายออกด้วยเสียงหัวเราะก๊ากลั่นของอีฮยอกแจ น้องชายที่ติดมากับแม่ใหม่ของเขา แต่ถึงจะไม่ใช่พี่น้องท้องเดียวกันแต่พ่อแม่ของทั้งสองคนก็แต่งงานกันตั้งแต่พวกเขายังเด็ก ความสนิทสนมจึงไม่ต่างอะไรกับพี่น้องที่คลานตามกันมา
“หัวเราะอะไรไอ้หอกแจ”
อีทึกเริ่มทำตัวเป็นพี่ที่ดีพร้อมและแสนดีอีกครั้ง ฮยอกแจละสายตาออกจากหนังสือการ์ตูนวันพีชแล้วจิ๊ปากรำคาญ ปากสีแดงสดของเด็กวัยรุ่นกำลังโตพึมพำเบาๆ “ยุ่งอะไรเล่า...”
“มึงวางการ์ตูนสับปะรังเคนั่นลงแล้วมาช่วยกูคิดก่อนดีกว่ามั้ยว่าจะทำยังไงถึงไม่ต้องแต่งงาน หอกแจกูไม่อยากแต่งงานนะเว่ย แถมไอ้เชี่ยที่จะมาแต่งกะกูก็ไอ้ซีวอนอีก แต่งงานทั้งทีกูอยากได้เมียนะเว้ยไม่ใช่ผัว”
“ก็ให้พี่ซีวอนเคะให้ดิ้” ฮยอกแจบอก สายตายังไม่ละออกจากการ์ตูนเล่มโปรด
“เคะห่าอะไรไอ้เชี่ยนั่นคงยอมหรอก”
“พี่แต่งๆ ไปเหอะน่า สามเดือนเดี๋ยวก็หย่า”
อีทึกเหยียดปากปรายสายตามองน้องชายอันแสนกวนส้นตีนและเพิกเฉยต่อความเดือดร้อนของตนเอง ก่อนจะเอ่ยคำพูดประชดประชันที่ก็ไม่ได้ทำให้ฮยอกแจรู้สึกเห็นใจอะไรขึ้นมา
“เออมึงก็พูดได้สิมึงไม่ได้เป็นลูกคนโตต้องแต่งงานเหมือน...กู...นี่..........”
ดวงตาคมกล้าของพี่ชายผู้แสนดีหรี่ลงอย่างใช้ความคิด ก่อนที่ริมฝีปากเรียวนั้นจะยกรอยยิ้ม จังหวะเดียวกับที่ฮยอกแจพลิกหน้ากระดาษของหนังสือการ์ตูนต่อไปอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร
F A K E W E D D I N G
“ว่าไงนะ!!! อีทึกหนีไป!?”
ทว่าประโยคนี้ที่ดังลั่นภายในห้องแต่งตัว...เจ้าสาว กลับทำให้อีฮยอกแจที่ไม่รู้สึกอะไรกับคลุมถุงชนครั้งนี้ต้องร้อนๆ หนาวๆ อย่างช่วยไม่ได้
“หาดูให้ทั่ว! จองซูมันไม่มีทางหักหน้าพ่อมันเด็ดขาด ไปหาสิ!!!”
น้ำเสียงประกาศิตทำให้บริวารเหล่านั้นกุลีกุจอออกจากห้องแต่งตัวไปตามหาตัวเจ้าสาวที่หายไปอย่างรวดเร็ว ทว่าแม้จะพลิกคฤหาสน์อีหาก็ไม่เห็นแม้แต่เงา
ประธานบริษัทชเวเดินเข้ามาท่ามกลางความตึงเครียดของตระกูลอี ฮยอกแจมองป๊าที่ตอนนี้รู้สึกอับอายขายหน้ากับสายตาเหยียดหยามของชเวกึนวู
“เพราะเป็นกันซะแบบนี้ไงล่ะ ผมถึงต้องให้คุณใช้ลูกชายเป็นเครดิตให้ตัวเอง แล้วลูกชายของคุณก็ทำงามหน้าเสียเหลือเกินนะคุณอี”
“.........”
เจ้าของนามอีทุกคนในห้องแทบไร้เสียงจะเปล่งออกมาเป็นคำพูด กระทั่งร่างสูงในชุดเจ้าบ่าวก้าวเข้ามา ซีวอนในชุดสูทสีขาวแตะแขนของบิดาตนเองเบาๆ
“ใจเย็นเถอะครับพ่อ เรื่องนี้มันเป็นเหตุสุดวิสัย คุณลุงเขาคงไม่รู้ว่าอีทึกมันจะหนีไปจริงๆ”
ชเวกึนวูไม่เอ่ยอะไรต่อ ดูเหมือนว่าเขาจะเริ่มใจเย็นและเห็นใจเพื่อนร่วมวงการธุรกิจมานิดหนึ่งแล้ว แรกเริ่มเดิมทีการลงทุนร่วมกับตระกูลอีนี้มีเสียงทัดทานจากกรรมการบริหารในบริษัทจำนวนมาก เพราะเป็นที่เลื่องลือมาปากต่อปากว่าอีแจฮุนเป็นคนไม่ซื่อ แต่โปรเจ็คต์ที่ร่วมกันสร้างขึ้นนี้หากสำเร็จบริษัททั้งสองก็จะได้กำไรมหาศาล ดังนั้นจึงคุ้มที่จะลองเสี่ยงโดยเอาลูกชายอีกฝ่ายไว้เป็นประกัน
ตระกูลอีจะไม่มีวันทุจริตตราบใดที่ลูกชายยังขึ้นชื่อว่าเป็นสะใภ้ตระกูลชเวและมีทรัพย์สินร่วมกันครึ่งหนึ่ง
“แล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร แขกเหรื่อมากันเต็มงาน”
อีแจฮุนกุมขมับ จากนั้นไม่นานเขาจึงเอ่ยวิธีแก้ไขปัญหาออกมาด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก
“ผมจะให้ฮยอกแจแต่งงานแทน”
ฮยอกแจไม่มีทางเลือก... ป๊าไม่ได้ตวาดหรือออกคำสั่งเหมือนอย่างที่ทำกับอีทึก พ่อเลี้ยงของฮยอกแจวางมือลงบนไหล่เล็กของฮยอกแจราวคนไร้เรี่ยวแรง
“ป๊าขอโทษนะฮยอกแจ”
ลูกชายคนเล็กจึงไม่มีแม้แต่ปากเสียง ถ้อยคำปฏิเสธถูกกลืนหายลงไปในลำคอแห้งผากของฮยอกแจเมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดของผู้มีพระคุณ ดวงหน้าขาวใสของเด็กหนุ่มพยักขึ้นลงแทนคำตอบ
ฮยอกแจกระชับสูทสีขาวซึ่งหลวมนิดหน่อยเพราะเป็นขนาดตัวของอีทึกอยู่หน้ากระจก ดีไซน์ของสูทชุดนี้ออกแบบมาให้เข้ากับสูทของเจ้าบ่าวแต่ดูอ่อนหวานกว่า เสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนหวานกับไทด์ยาวสีขาวของฮยอกแจถูกทับด้วยสูทแขนกุดสีขาวติดรังดุม และตามด้วยสูทแขนยาวสีขาวซึ่งแสดงถึงความบริสุทธิ์ทับลงไป ส่วนของซีวอนเป็นเชิ้ตสีขาวสะอาดด้านใน สวมทับด้วยสูทและผูกหูกระต่ายสีดำ เรียบง่ายและสง่างามเหมาะสมตามบุคลิกของผู้สวมใส่
เด็กหนุ่มที่เพิ่งอายุสิบแปดไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อนถอนหายใจ มีเสียงสวบสาบของเนื้อผ้าเสียดสีกับอะไรบางอย่างในกระเป๋าด้านในตัวสูท ฮยอกแจขมวดคิ้วเมื่อสัมผัสถึงแผ่นกระดาษยับๆ ใบหนึ่ง ลายมือทุเรศบนกระดาษเห็นแวบเดียวก็รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ
‘แต่งๆ ไปเหอะน่า สามเดือนเดี๋ยวก็หย่า
555555555555555555555555555555555555555555555’
อีพี่ทึก.... ไอ้เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
F A K E W E D D I N G
“เอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องด้วยนะ”
เจ้าของบ้านหันไปบอกสาวใช้เพื่อให้นำกระเป๋าของเด็กที่กำลังทำตัวลีบเล็กอยู่ข้างหลังเขาไปเก็บในห้องหอ ฮยอกแจตัวหดเหลือนิดเดียวตั้งแต่พูดคำว่า ‘รับครับ’ และรับจุมพิตสาบานรักจากเขา ซีวอนยังคงจำริมฝีปากสั่นระริกที่ได้สัมผัสและเปลือกตาเรียวรีที่ปิดปี๋นั้นได้ดี
เด็กอะไรทำตัวน่าแกล้งชะมัด จูบที่เขาได้มาคงเป็นจูบแรกของเจ้าตัวไม่ผิดแน่
ซีวอนถอดสูทสีดำมาพาดไว้บนแขนในขณะที่ฮยอกแจยังสวมชุดแต่งงานตัวเล็กน่ารักเอาไว้เต็มยศ อาจเป็นเพราะอายุที่ห่างกันถึงเจ็ดปีทำให้ฮยอกแจไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาได้แต่เดินตามซีวอนไปต้อยๆ จนกระทั่งถึง...ห้องหอ
“เข้ามาสิ” ชายหนุ่มเรียกเมื่อฮยอกแจยืนค้างอยู่หน้าประตู ร่างเล็กสะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะรีบเดินตามเข้ามาอย่างรวดเร็ว
เตียงกว้างสีขาวถูกประดับด้วยกลีบกุหลาบแดงเรื่อเป็นรูปหัวใจ ซีวอนสั่งให้สาวใช้ที่นำกระเป๋าของฮยอกแจมาเก็บนั้นจัดการทำความสะอาดเตียงให้เรียบร้อยก่อนที่ชายหนุ่มจะหายเข้าไปในห้องแต่งตัวด้านในห้องนอน
ฮยอกแจกวาดตามองไปรอบห้อง มองเห็นรูปของซีวอนและพี่ชายตัวเองที่ถ่ายในพิธีจบการศึกษาร่วมกับเพื่อนคนอื่นตั้งอยู่บนตู้หนังสือ ข้างกันนั้นเป็นรูปถ่ายซีเปียที่คาดว่าเจ้าของห้องน่าจะเป็นคนถ่ายเอง ห้องนอนของซีวอนหรูหราทว่าก็แฝงความเรียบง่ายไว้ในเวลาเดียวกัน กระนั้นฮยอกแจก็ยังรู้สึกว่าตัวเองช่างเกะกะ ไม่รู้จะไปยืนอยู่มุมไหนของห้อง จนสาวใช้เก็บเอากลีบกุหลาบบนเตียงลงถังขยะและขอตัวออกจากห้องไปนั้นฮยอกแจจึงถอยตัวเองไปยืนอยู่ข้างกระเป๋าเสื้อผ้าที่หน้าประตูห้อง
เตรียมพร้อมจะบอกลาขอกลับไปนอนบ้านตัวเองทันทีที่ซีวอนออกมาจากห้องที่เพิ่งเข้าไป
ร่างเล็กสะดุ้งอีกครั้งเมื่อซีวอนเดินออกมาในสภาพเสื้อเชิ้ตที่ปลดกระดุมเม็ดบนออกสามเม็ดอย่างสบายตัว คาดว่าคงทิ้งสูทไว้ในห้องแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว
“เหนื่อยไหม? ไปอาบน้ำก่อนได้นะ”
“คือ... คือฮยอกแจ...”
“หือ?”
“ฮยอกแจ...อยากกลับบ้าน พี่ซีวอนให้ฮยอกแจกลับบ้านนะ”
“ไม่ได้หรอก” ท่าทีของเพื่อนพี่ชายใจดีของซีวอนหายไปทันทีที่เอ่ยประโยคถัดมา “ฮยอกแจแต่งงานเป็นภรรยาพี่แล้วก็ต้องอยู่กับพี่สิ”
“ม..ไม่ใช่ซะหน่อย ภรรยาของพี่ซีวอนคือพี่อีทึก ฮยอกแจแต่งงานแทนเพราะพี่อีทึกหนีไปนะ!”
“ตอนแรกก็เป็นแบบนั้น แต่ว่าตอนนี้คนที่จดทะเบียนสมรสกับพี่คือฮยอกแจ พี่ปล่อยให้ฮยอกแจกลับไปนอนบ้านในคืนเข้าหอไม่ได้หรอก ทุกอย่างจะแย่ลงถ้านักข่าวเอาเรื่องของเราไปเขียน ฮยอกแจไม่อยากให้ตระกูลอีเสียชื่อเสียงหรอกใช่ไหม”
“ผม....”
“อดทนหน่อยนะ อยู่ที่นี่ไปก่อนเถอะ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นเพราะยังไงพี่ก็เป็นเพื่อนอีทึก ไม่รังแกเราหรอกน่า”
“แต่ว่า....”
“........?”
“แต่ว่าพี่ซีวอนชอบพี่ชายฮยอกแจไม่ใช่เหรอ”
ฮยอกแจช้อนสายตาถาม ซีวอนได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าประหลาด เขาถามฮยอกแจด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม
“อีทึกมันบอกฮยอกแจแบบนั้นเหรอ หืม?”
ฮยอกแจส่ายหน้า “มันบอกว่าพี่ซีวอนไม่คัดค้านการแต่งงาน ...ถ้าพี่ซีวอนไม่ชอบมันพี่ก็คงไม่อยากแต่งงานไม่ใช่เหรอฮะ”
“ไม่ใช่หรอก” ซีวอนยิ้ม “พี่ทำเพราะพ่อพี่ขอร้องน่ะ แล้วก็... ถ้าพี่ไม่แต่งงานกับคนตระกูลอีพ่อพี่ก็คงให้พี่แต่งงานกับตระกูลอื่นเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจอีกอยู่ดี ยังไงแต่งงานกับเพื่อนตัวเองไปมันก็คงคุยกันรู้เรื่องมากกว่า เราว่าจริงไหมล่ะ?”
ซีวอนทิ้งคำถามไว้ให้ฮยอกแจขบคิดก่อนจะเลี่ยงไปหยิบผ้าเช็ดตัวในห้องแต่งตัวมายื่นให้ ฮยอกแจก้มมองของในมือด้วยสายตามึนงง ยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรนัก
“ไปอาบน้ำเถอะ อย่ากังวลอะไรเลยนะครับ”
เพราะรอยยิ้มอ่อนโยนของซีวอนที่มอบให้นั้นไอ้พี่ชายตัวจริงที่แสนประเสริฐมันไม่เคยมีให้เขาเลยทำให้ฮยอกแจอดชมเชยในความจริงใจของพี่ซีวอนไม่ได้ ร่างเล็กพยักหน้ารับอย่างเต็มใจก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ
“คุณซีวอนคะ”
สาวใช้คนเดิมกลับเข้ามาในห้อง ซีวอนหันไปถามว่ามีอะไร
“แล้วห้องนอนที่เตรียมไว้ให้คุณอีทึกล่ะคะ จะให้ดิฉันย้ายกระเป๋าคุณฮยอกแจไปที่ห้องนั้นไหมคะ?”
“...ไม่ต้องหรอก ปิดห้องนั้นไปเลยแล้วกัน ให้เจ้าสาวของฉันนอนที่นี่แหละ...”
F A K E W E D D I N G
ซีวอนมองหน้าจอโทรศัพท์ที่กำลังแผดเสียงแข่งกับเสียงของสายน้ำจากฝักบัวที่กระทบกับพื้นห้องน้ำที่มีฮยอกแจอยู่ในนั้น ชายหนุ่มกดรับแล้วกรอกเสียงไม่สบอารมณ์ลงไป
“กูจะโทรบอกพ่อมึงดีไหมว่าไอ้ชั่วที่กำลังหลบหนีการจับกุมมันโทรมา”
[แหม พูดซะกูเป็นนักโทษที่ทางการกำลังต้องการตัวเลยนะครับท่านชเว]
“มึงหนีไปทำไม มึงรู้ไหมน้องมึงไม่รู้เรื่องอะไรต้องมาแต่งงานกับกูแทนเนี่ย”
[โถไอ้เชี่ย สงสารกูเถอะครับ ให้กูแต่งกะมึงอ่ะกูแต่งได้นะ แต่ต้องไม่ใช่ในชุดเจ้าบ่าวสีชมพูโมเอ้อย่างงั้น แล้วก็ไม่ต้องไปสงสารน้องกูหรอก ไอ้หอกแจมันชิว มันยังบอกกูอยู่เลยนะว่าแต่งๆ ไปเหอะแค่สามเดือนเองเดี๋ยวก็หย่า ฮ่าๆๆๆๆๆ]
“กูสงสารน้องมึง ตอนกูจูบน้องในโบสถ์งี้ตัวสั่นเลย”
[จูบแรกมันก็ต้องสั่นเสียวบ้างเป็นธรรมดา]
ซีวอนขมวดคิ้ว เพิ่งเข้าใจว่าป่วยการไปแล้วที่จะพูดให้อีทึกสงสารน้องตัวเอง
[ว่าแต่พ่อกูกับพ่อมึงน่ะ เซ็นต์สัญญากันยังวะ?]
“ก็เสร็จหลังจากกูกับน้องฮยอกแจจดทะเบียนสมรสนั่นแหละ ปากกาด้ามเดียวกันด้วยซ้ำไป” ซีวอนพูดพลางคิดถึงสีหน้าเศร้าซึมของฮยอกแจในขณะที่จรดปากกาเขียนชื่อของตัวเองลงไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน “แล้วนี่มึงอยู่ที่ไหน?”
[บอกให้ควายดิ่ สัดกูไม่โง่นะ กูไม่กลับไปหรอก]
“กูจะฟ้องเมียมึง”
[เสียใจว่ะ เมียกูหลับอยู่ข้างๆ เนี่ย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ]
“-*-”
[เพราะงั้นกูจะปิดเครื่องกูนะ มีไรก็โทรหาเมียกูเดี๋ยวกูรับเอง]
“เออๆ”
[มึงอยู่กะน้องกูก็ทนๆ แม่งไปหน่อยละกัน ปิดเทอมงี้วันๆ มันไม่ทำไรหรอกนอกจากแดกกะนอน อ้อ มันอ่านการ์ตูนแล้วหัวเราะด้วยนะ เสียงหัวเราะมันแหลมๆ แรดๆ เหมือนกูนั่นแหละ]
“กูสงสารน้องมึงจริงๆ ที่มีพี่สารเลวอย่างมึงเนี่ย”
[เออน่า ครบสามเดือนเมื่อไหร่ก็โทรมาบอกกูด้วยละกัน กูจะได้พาเมียกลับไปหาพ่อขอแต่งมั่ง ไม่งั้นเค้าก็จะบังคับกูแต่งงานกับคนอื่นไปเรื่อยๆ]
“เออๆๆ เรื่องของมึงเหอะ งั้นเท่านี้นะ”
ซีวอนไม่เห็นประโยชน์อะไรต่อไปที่จะพูดคุยกับอีทึกนอกจากจะให้ตัวเองประสาทเสียเล่นๆ แล้วยังบั่นทอนสมรรถภาพทางอารมณ์ของเขาให้ต่ำลงไปอีกจึงได้ตัดบทเสีย
[เฮ้ยเดี๋ยว!]
“อะไรของมึงอีก”
[น้องกูอ่ะ ถึงจะเห็นมันเกรียนๆ ไปมั่งแต่หัวใจมันก็โมเอ้มากนะเว่ย เพราะฉะนั้น....]
“ฉะนั้น....?”
[มึงห้ามซั่มน้องกูเด็ดขาด!!!]
ซีวอนไม่ตอบอะไรนอกจากหัวเราะให้เจ้าของรางวัลพี่ชายที่แสนดีอวอร์ดได้ยินก่อนจะเป็นฝ่ายตัดสายไป
ห้านาทีหลังจากนั้นฮยอกแจก็ออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนลายลูกไก่เต้นบัลเลต์สีเหลืองอ๋อย ซีวอนบอกอะไรที่ควรรู้ให้ฟังฮยอกแจก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย รวมถึงคำพูดย้ำนักย้ำหนาว่าให้ฮยอกแจทำตัวสบายๆ เหมือนเป็นบ้านของตัวเองนั่นด้วย
“ถ้าง่วงก็นอนได้เลยนะไม่ต้องรอพี่”
ซีวอนบอกก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำ กลิ่นสบู่น้ำนมของฮยอกแจยังอบอวลอยู่ในห้องน้ำของเขาอยู่เลย ชายหนุ่มถือโอกาสสูดหายใจเข้าลึกๆ จนฉ่ำปอด ซีวอนไม่เคยอ้อยอิ่งอยู่ในห้องอาบน้ำนานขนาดนี้มาก่อนเลยให้ตายเถอะ
ชายหนุ่มเดินเช็ดผมที่เปียกชื้นออกมาจากห้องน้ำ รอยยิ้มเล็กๆ ผุดพราวขึ้นบนใบหน้าเมื่อเห็นบรรดาตุ๊กตาที่ฮยอกแจหอบหิ้วมาจากบ้านเอามาวางเรียงกันกั้นเป็นกำแพงบนเตียง น่าสงสัยว่าทำไมไม่เอาหมอนข้างของเขามาวางกั้นให้สิ้นเรื่อง คำตอบก็เพราะคนตัวเล็กบนเตียงติดหมอนข้างจนต้องเอามานอนกอดไปอ่านการ์ตูนไป
สมกับเป็นเด็กอายุสิบแปดเสียจริง
ซีวอนยืนมองฮยอกแจนอนอ่านการ์ตูนอยู่บนเตียงของเขาโดยหันหลังให้ไปพลางเช็ดผมเปียกหมาดไปพลาง กระทั่งเรือนผมของชายหนุ่มแห้งสนิทฮยอกแจก็ยังไม่รู้สึกตัวว่าถูกจ้องอยู่ ไม่มีเสียงหัวเราะร่าตลกๆ อย่างที่อีทึกบอกมาเพราะฮยอกแจนอนอ่านการ์ตูนเกร็งๆ แน่ละ...ไม่ใช่บ้านของตัวเองนี่ใครมันจะไปชิวได้ขนาดนั้น
ร่างเล็กในชุดลูกไก่เต้นบัลเลต์สะดุ้งเฮือกเมื่อเตียงอีกฝั่งยวบไปด้วยน้ำหนักของ...สามี แต่แล้วฮยอกแจก็ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกเมื่อซีวอนนอนเฉยๆ อยู่ในที่ของตนเอง
ฮยอกแจปิดหนังสือการ์ตูนในมือเมื่อคิดว่าคงถึงเวลานอนแล้ว ร่างเล็กเดินไปเปิดกระเป๋าแล้วยัดการ์ตูนเยินๆ เข้าไปข้างในตามด้วยรูดซิปปิด คนที่มองการกระทำนั้นอยู่ตลอดจึงได้เอ่ยออกมา
“เอาหนังสือการ์ตูนกับของเล่นไปวางบนชั้นพวกนั้นก็ได้ พี่แบ่งให้”
ฮยอกแจมองตามสายตาของซีวอนไปก็พบว่าเป็นตู้หนังสือของซีวอนที่มีกรอบรูปวางประดับอยู่ประปราย และพื้นที่ที่เหลือก็ว่างพอให้ฮยอกแจใส่ ‘หนังสือการ์ตูน’ และ ‘ของเล่น’ ที่หอบมาจากบ้านไว้ได้หมด
“ฮยอกแจไม่ได้เอาของเล่นมาซะหน่อย ฮยอกแจสิบแปดแล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว”
ซีวอนอมยิ้มกับคำแก้ตัวเหล่านั้น ไม่เอ่ยอะไรอีกนอกจากมองฮยอกแจเดินไปเดินมาเก็บของเข้าชั้นเงียบๆ จนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยและมาล้มตัวนอนลงบนเตียง มือหนาจึงได้เลื่อนไปหรี่แสงไฟของเพดานห้องลง
“หูวววว หรูจัง ปรับไฟได้ขนาดนี้เลยเหรอ”
“อืม แต่ทำได้เฉพาะสวิตช์นี่นะ”
“งั้นพรุ่งนี้ฮยอกแจขอนอนฝั่งนั้นนะ”
ซีวอนหัวเราะเมื่อได้ยินแบบนั้น แต่ก็ยอมรับคำขอของภรรยา “ได้สิ”
ชายหนุ่มไม่พูดอะไรเรื่องตุ๊กตาที่ฮยอกแจเอามากั้นเป็นแนวยาวระหว่างเรา รู้ดีว่าคนตัวเล็กคงจะกังวลไม่น้อยเขาจึงไม่หยิบยกเรื่องนี้มาพูดให้ฮยอกแจต้องอับอาย
ถึงกระนั้น.... กลางดึกซีวอนก็จำต้องลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกได้ถึงศีรษะกลมๆ บนอกกว้างและแขนเรียวของภรรยาตัวเล็กบนหน้าท้องแข็งแกร่งของตัวเอง
เล่นมาเห็นกันเป็นหมอนข้างแบบนี้.... เดี๋ยวพี่ก็ไม่เป็นสามีแค่ในนามซะหรอกเจ้าตัวเล็ก
F A K E W E D D I N G
ซีวอนตื่นแต่เช้าด้วยสภาพที่ขอบตาเป็นสีคล้ำน้อยๆ จากการที่เขาหลับๆ ตื่นๆ ตลอดทั้งคืน เพราะนอกจากฮยอกแจจะเห็นเขาเป็นหมอนข้างแล้วยังเห็นเขาเป็นตุ๊กตายางอีกด้วย
สีพี่จังเลย (=________________________ =;; )
สามีเลยจำต้องยกขาที่ภรรยาแต่ในนามเพียรวาดมาพาดเอวเขาจนเฉียดซีวอนน้อยๆ ไปหลายต่อหลายครั้งออกไปจากร่างกายตัวเองเรื่อยๆ แต่ไม่พ้นครึ่งชั่วโมงฮยอกแจก็ตวัดขามาพาดที่เดิมอีก ถ้ารู้ว่าจะฤทธิ์มากขนาดนี้ก็จับมัดมือมัดเท้าเอาไว้เสียแต่แรกแล้ว
ไม่อย่างนั้นจะทำให้สามีในนามผู้แสนดีอย่างซีวอนที่ตั้งใจจะเป็นต้องพังลงจนฮยอกแจอาจต้องกลายมาเป็นภรรยาทางพฤตินัยอย่างช่วยไม่ได้
อาหารมื้อแรก ณ เรือนหอหลังนี้ฮยอกแจทานข้าวต้มด้วยอารมณ์แจ่มใส เพราะรสชาติอาหารค่อนข้างถูกปากมากทีเดียว อีกทั้งซีวอนก็ยังใจดีชวนฮยอกแจคุยเล่นจนรู้สึกได้ถึงความอึดอัดที่เริ่มเบาบางลง
“พี่ซีวอนไม่ไปทำงานเหรอฮะ?”
ซีวอนมองหน้าคนถามที่กำลังเคี้ยวอาหารตุ้ยๆ อย่างเอ็นดู เขายกกาแฟขึ้นจิบแล้วบอก
“หลังแต่งงานก็ต้องหยุดงานไปฮันนีมูนสิ แต่พอดีตอนแรกเจ้าสาวดันเป็นอีทึก พี่ก็เลยไม่ได้จะไปเที่ยวไหน ฮยอกแจคงไม่คิดว่าพี่อยากดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับพี่เราหรอกใช่ไหม”
แค่คิดก็จะอ้วก พี่สารเลวของตัวเองไม่เหมาะสมกับผู้ชายแสนดีอย่างพี่ซีวอนเลยสักกะปิ๊ดนึง
“ขอโทษนะฮยอกแจ ถ้าพี่รู้ว่าเราจะเป็นภรรยาพี่...พี่ก็คงเตรียมหาที่ฮันนีมูนให้ฮยอกแจแล้ว”
ดวงหน้าขาวจัดของเด็กหนุ่มซับสีระเรื่อเมื่อตีความคำพูดนั้นได้ว่าซีวอนยินดีจะฮันนีมูนด้วย... ถ้าเจ้าสาวเป็นเขาไม่ใช่อีทึก
“ไม่เป็นไร...” ฮยอกแจตอบเสียงแผ่ว “ฮยอกแจไม่ชอบเที่ยว ฮยอกแจชอบอยู่บ้านอ่านการ์ตูน”
“งั้นเหรอ แล้วเราเรียนอะไรอยู่ล่ะ?”
“ดิจิตอลมีเดียอ้ะ”
ซีวอนหัวเราะ ดูท่าว่าฮยอกแจจะชอบการ์ตูนเอามากๆ “แล้วจบไปฮยอกแจทำงานอะไรล่ะครับ? จะช่วยที่บ้านมั้ย?”
ภรรยาตัวเล็กของเขาส่ายหน้าแล้วบอก “อีพี่ทึกมันบอกว่าจะฮุบกิจการทั้งหมดเอาไว้คนเดียว ฮยอกแจจะทำอะไรก็ได้แต่อย่าไปยุ่งกับมันอ่ะ ก็เลยคิดว่าจะไปทำอเนมิชั่น น่าจะเหมาะ...มั้ง”
สามีหนุ่มเท้าคางมองภรรยา ในใจก็รู้ดีว่าที่อีทึกบอกฮยอกแจไปแบบนั้นเพราะอยากให้น้องไปทำอะไรที่ชอบและไม่ต้องมากังวลเรื่องงานอันซับซ้อนของบริษัทมากกว่า แต่ด้วยความที่เป็นคนปากหนักและค่อนข้างหยาบกระด้างมันก็เลยสื่อสารออกมาแบบนั้น
“แล้วจะมีกินเหรอ ไม่ใช่ว่าจะเป็นเหมือนนักเขียนการ์ตูนไส้แห้งอะไรแบบนั้นหรอกนะ”
ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นจากชามข้าวต้ม จ้องซีวอนตาแป๋ว ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้ซีวอนต้องระบายยิ้มกว้างในความน่ารักของคนตัวเล็ก
พูดอะไรมาแต่ละอย่าง... คุณภรรยาจะรู้ไหมครับว่ามันทำให้คุณสามีคิดลึก
“ฮยอกแจก็จับพี่ซีวอนได้แล้วไง มีสามีรวยแล้วไส้แห้งยังไงก็ไม่อดตายหรอก”
ซีวอนปักใจเชื่อคำพูดของอีทึกแล้วจริงๆ … หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จฮยอกแจก็วิ่งขึ้นห้องไปเปิดแอร์หยิบการ์ตูนบนชั้นมานอนอ่าน เขาซึ่งต้องนั่งทำงานอยู่ในห้องก็นั่งไปเงียบๆ แรกๆ ฮยอกแจก็หัวเราะคิกคักแลน่ารักน่าชังไปตามประสา แต่พอหนักเข้า.... เสียงหัวเราะแหลมๆ ใสๆ แบบสะใจเว่อร์(เหมือนอีทึก) ก็ดังลั่นห้องหอ
หัวเราะเสียงดังแบบนี้ฮยอกแจคงเลิกเกร็งเวลาอยู่กับเขาแล้วสินะ
วันแรกของการเป็นสามีภรรยาผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น แม้ฮยอกแจจะซุกซนไปบ้าง (วิ่งชนแจกันข้างบันไดแตกไปหนึ่งใบตอนลงมากินข้าวเย็น) แต่ก็ถือว่าเป็นเด็กที่น่ารักดี ซีวอนไม่ได้คลุกคลีกับคนที่อายุน้อยกว่าและมีบุคลิกร่าเริงแบบนี้มานานมากแล้ว อีกทั้งฮยอกแจยังตลก... ตอนที่อ่านชินจังแล้วหัวเราะลั่นบ้านจนเขาถามว่ากำลังอ่านอะไรอยู่ เจ้าตัวเล็กบนเตียงก็วิ่งดุ๊กดิ๊กหอบเอามาการ์ตูนมาแบ่งให้เขาอ่านบ้าง
ยิ่งมื้อที่สามของวันนี้ผ่านไปฮยอกแจก็ยิ่งเป็นตัวของตัวเอง ภรรยาของเขาตักอาหารที่ชอบและถูกปากมาวางให้บนจาน แถมยังซนตักพริกเผ็ดมาวางบนจานสามีอย่างเขาแล้วบอกให้กินเพราะเป็นผักมีประโยชน์อย่างทะเล้นอีกด้วย
ฮยอกแจดื้อ... อยู่ไม่สุข... ชอบวิ่งเล่นป่วนคนอื่นไปทั่ว
แต่ทำไมซีวอนถึงรู้สึกว่าวันแรกของชีวิตแต่งงานมันช่างมีสีสันเพราะคุณภรรยาตัวน้อยๆ คนนี้จังเลย
คืนนี้หลังจากซีวอนออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าคุณภรรยาของเขาในชุดลูกเป็ดสีเขียวได้ย้ายสำมะโนครัวจากเตียงฝั่งซ้ายเมื่อวานมาเป็นเตียงฝั่งขวาเรียบร้อยแล้ว แถมยังเอื้อมมือไปลูบๆ คลำๆ สวิตช์ไฟจนแสงไฟบนเพดานหรี่ขึ้นหรี่ลงเหมือนบ้านผีสิง ซีวอนอมยิ้มเมื่อฮยอกแจดูจะมีความสุขกับของเล่นชิ้นใหม่เสียเหลือเกิน
“กุ๊กๆ กู๊~”
ฮยอกแจหรี่ไฟลงจนทั้งห้องมืดลง จากนั้นก็ทำซาวด์เอฟเฟ็คให้หลอนหูซีวอนเล่น สามีหนุ่มหัวเราะกับนิสัยขี้เล่นของภรรยาก่อนจะเดินอ้อมไปอีกด้านของเตียงเพื่อล้มตัวลงนอน
“ฮยอกแจไม่กลัวผีเหรอ” จู่ๆ ซีวอนก็ถามขึ้นกลางความมืด
“ก็...กลัวนิดนึง”
แรกๆ คุณภรรยาก็ยังลงท้ายประโยคให้ว่า 'ครับ' หรือ 'ฮะ' แต่เมื่อเช้าหลังจากขออนุญาตเขาว่า ขอตีซี้ได้ไหม? และได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้าก็ดูเหมือนว่าฮยอกแจจะช่างหัวคำลงท้ายทุกอย่างไปแล้ว
“เล่นเป็นผีตอนกลางคืนเดี๋ยวก็เจอของจริงหรอก” ซีวอนแกล้งขู่ หางตามองเห็นฮยอกแจตวัดหน้ามามองเขาอย่างตื่นๆ
ทันใดนั้นหมอนข้างตรงกลางกับบรรดาตุ๊กตาอารักขาของฮยอกแจก็ถูกกวาดเอาไปไว้ฝั่งซ้ายของคนกลัวผี คุณภรรยาเขยิบตัวมานอนติดท่อนแขนแข็งแรงของคุณสามีแล้วหดขาที่เหยียดออกไปเข้ามาขัดสมาธิเพราะกลัวจะถูกมือที่มองไม่เห็นดึงตกเตียงไป
“อย่าหนีฮยอกแจไปนอนที่อื่นนะ พี่ซีวอนพูดถึงผีให้ฮยอกแจกลัวทำไมก็ไม่รู้”
“ดูหนังผีบ่อยหรือ?”
“อีพี่ทึกบังคับดู ฮยอกแจแกล้งหลับแต่มันก็หยิกฮยอกแจจนต้องมานั่งดูเป็นเพื่อน”
“อ่า... อีทึกนี่มันใช้ไม่ได้เลย”
ซีวอนตำหนิเพื่อนรักในใจ เขาเริ่มสงสารฮยอกแจขึ้นมาเสียแล้ว เพราะนอกจากการถูกมัดมือชกให้แต่งงานในครั้งนี้นั้นก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าที่ผ่านมาถูกพี่ชายสารเลวมันรังแกอะไรบ้าง
“เนอะ วันต่อมาฮยอกแจก็เลยเอาสลอดใส่ในน้ำให้มันกินแล้วล็อกกุญแจห้องน้ำทุกห้องในบ้านเป็นการแก้แค้น”
เอ่อะ =___________________=;;;
“แล้ว....อีทึกมันทำไงล่ะ?”
“วิ่งไปขอคนข้างบ้านใช้ห้องน้ำ แต่ไม่ทันก็เลยขี้แตกเต็มกางเกง”
คุณภรรยาคนดี(?)ของเขาเล่าไปก็หัวเราะไป ซีวอนนึกอยากขำตามแต่ก็ขำไม่ออกเพราะสงสารเพื่อน
“แต่เรื่องนี้ก็ตั้งนานแล้วนะ ตอนอีพี่ทึกอยู่ปีหนึ่งแน่ะ”
ไอ้ที่หน้าซีดมาสอบหนนั้นก็คงเป็นเพราะเรื่องนี้สินะ …
ชเวซีวอนชักอยากถอนคำพูด ไอ้เขารึก็เกือบลืมไปแล้วว่าฮยอกแจเป็นน้องชายของอีทึก เพื่อนเขายังเลวได้ขนาดนั้นฮยอกแจก็คงร้ายกาจไม่ต่างกัน แสบทั้งพี่ทั้งน้อง!!!
“พี่ซีวอน...”
“หืม? ว่าไงครับ”
“พี่ซีวอนอย่าปล้ำฮยอกแจนะ”
“หะ...หา....?”
“พี่ซีวอนไม่คิดว่าฮยอกแจน่ารักเหรอ เซะซี่นะ ผิวก็ขาวปากก็แดงๆ อ่ะ ใครๆ ก็บอกว่าฮยอกแจน่ารัก ฮยอกแจกลัวพี่ซีวอนปล้ำ”
“อ..เอ่อ.. ไม่หรอก”
ซีวอนตอบไม่เต็มเสียง ใครสั่งใครสอนให้ฮยอกแจพูดจาตรงไปตรงมาแบบนี้กันเนี่ย ขนาดเขาเป็นคนฟังยังรู้สึกอายขึ้นมาแทนน้องเลย
ฮยอกแจหัวเราะอายๆ เหมือนเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าพูดเรื่องอะไรออกมา ภรรยาของเขาหัวเราะเก้อๆ แล้วพลิกร่างนอนหันหลังให้ คงจะเริ่มอายขึ้นมาแล้วสินะ
เวลาผ่านไปไม่นานคนนอนไม่หลับเพราะมัวแต่ใช้แขนก่ายหน้าผากแล้วครุ่นคิดถึงนิสัยแปลกๆ ของคุณภรรยา ซีวอนยิ้มบางๆ ก่อนเหลือบสายตามองร่างบางใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันด้วยสายตาเอ็นดู แม้ว่าฮยอกแจจะแสบสันแค่ไหน แต่ยามหลับปุ๋ยแบบนี้ภรรยาของเขาก็เป็นแค่เด็กอายุสิบแปดเท่านั้น
“พี่จะไม่รังแกนายหรอกนะฮยอกแจ ...ไม่สิ คุณภรรยา”
F A K E W E D D I N G
หนึ่งเดือนกว่าผ่านไปสำหรับชีวิตแต่งงานหลอกๆ ของซีวอนและฮยอกแจ ทุกเช้าชายหนุ่มต้องชิงตื่นก่อนเพื่อคอยยกร่างของคุณภรรยาที่มานอนกอดเขาได้ทุกวันไปวางอีกฝั่งหนึ่งของเตียงเพราะฮยอกแจจะได้ไม่ต้องเขินอายที่ทำเรื่องแบบนี้กับเขาโดยไม่รู้ตัว
ซีวอนเคยคิดว่าการอยู่บ้านบางครั้งก็เป็นเรื่องน่าเบื่อ แต่สำหรับฮยอกแจนั้นไม่ใช่เลย ร่างเล็กอยู่บ้านได้ทั้งวันโดยไม่บ่นอะไรเลยแม้แต่นิด จนคนที่ไม่ค่อยอยู่ติดบ้านอย่างเขารู้สึกอยากจะอยู่บ้านเพื่อคอยมองหาคุณภรรยาที่ไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังเล่นซนอยู่ส่วนไหนของบ้าน
“พี่ซีวอนฮยอกแจอยากไปซื้อการ์ตูนอ่ะ ฮยอกแจขับรถไม่เป็นพี่ซีวอนพาฮยอกแจไปหน่อยนะ”
สามีหนุ่มอดหัวเราะไม่ได้ เหตุผลเพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้คุณภรรยาของเขายอมออกจากบ้านคือการไปซื้อหนังสือการ์ตูนสินะ
พอถึงช่วงชำระเงิน ภรรยาตัวน้อยๆ ของเขาก็เขยิบเข้ามาเกาะแขนแล้วช้อนดวงตาเรียวรีนั้นขึ้นอ้อนพร้อมกับริมฝีปากสีหวานขยับพูดเจื้อยแจ้ว
“พี่ซีวอนจ่ายตังค์ให้ฮยอกแจหน่อยนะ ไม่ได้อยู่บ้านแบบนี้ฮยอกแจขอตังค์ป๊าออกมาซื้อการ์ตูนไม่ได้อ่ะ นะฮะพี่ซีวอน นะ”
“เข้าใจแล้วๆ ไม่ต้องอ้อนพี่ขนาดนั้นก็ได้ ยังไงพี่ก็ซื้อให้อยู่แล้วน่า”
ซีวอนขยี้เรือนผมนุ่มของฮยอกแจที่กำลังยิ้มแป้นอย่างดีใจ ชายหนุ่มรู้สึกตัวขึ้นมาแล้วว่าเขาแพ้รอยยิ้มออดอ้อนของคุณภรรยาคนนี้เข้าให้แล้ว
กระทั่งกลับมาถึงบ้าน ฮยอกแจก็ยังไม่เลิกมาอ้อนเขาให้ตามใจด้วยการเรียกชื่อเขาซ้ำๆ พี่ซีวอนอย่างนั้นพี่ซีวอนอย่างนี้....
“พี่ซีวอนเลิกกินกาแฟได้แล้ว”
“ทำไมล่ะ พี่ชอบนี่”
“พี่ซีวอนกินนมให้ฮยอกแจหน่อย ฮยอกแจกินไม่หมด”
คุณภรรยามายืนเบะปากยื่นกล่องนมรสกล้วยมาให้ ซีวอนส่ายหัวอย่างอ่อนใจก่อนจะบอกให้วางเอาไว้เดี๋ยวจะกินให้ทีหลัง ฮยอกแจได้ยินแบบนั้นก็ร้องเย้แล้วโน้มร่างลงจูบแก้มของซีวอนเร็วๆ ก่อนจะวิ่งหนีออกจากห้องนอนลงไปข้างล่าง
ฝ่ายสามีที่ถูกขโมยจูบแตะแก้มตัวเองอย่างอึ้งๆ ทนเก็บซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ไม่ไหวเลยจำต้องระบายยิ้มออกมาเต็มหน้า
ไหนบอกไม่ให้เขารังแก... ใครกันแน่ที่ทำให้พี่ใจสั่นแบบนี้น่ะ
มาเรียกพี่ซีวอนๆ ทั้งวันแบบนี้... มันจะทำให้พี่ลำบากนะถ้าต้องไม่มีนายน่ะ
คืนนี้คุณภรรยาเป็นฝ่ายอาบน้ำทีหลังสามี เหตุเพราะฮยอกแจดึงดันจะช่วยสาวใช้เพียงหนึ่งเดียวในบ้านล้างจานให้ได้จึงป่วนในครัวอยู่เสียนาน ซีวอนปิดหนังสืออัตชีวประวัติบุคคลสำคัญของโลกก่อนจะนำไปเก็บบนชั้นหนังสือซึ่งด้านล่างของชั้นที่เคยว่างอยู่นั้นกอปรไปด้วยหนังสือการ์ตูนและโมเดลมากมายวางเบียดๆ กัน
ชายหนุ่มหัวเราะ ดูท่าว่าเขาคงต้องให้ช่างมาทำชั้นลอยเพิ่มให้สำหรับโมเดลของคุณภรรยาเสียแล้ว
ณ ที่ว่างบนชั้นหนังสือเดียวกันนั้นเองฮยอกแจวางไอโฟนของตัวเองทิ้งไว้บนนั้นเพราะน้อยครั้งที่ซีวอนจะเห็นภรรยาของเขาคุยโทรศัพท์ ถ้าไม่โทรไปอ้อนหม่าม๊ะขอให้ส่งขนมนั่นนี่มาให้ก็ไม่พ้นเล่นเกม ชายหนุ่มถือสิทธิ์ในความเป็นสามีหยิบไอโฟนเครื่องนั้นมาไว้ในมือ ซีวอนอมยิ้ม อยากจะเห็นนักว่าฮยอกแจจะบ้ากล้องเหมือนใครเขาหรือเปล่า
นิ้วยาวเลื่อนปลดล็อกทัชสกรีน ทว่าวอลเปเปอร์บนไอโฟนที่เป็นภาพของฮยอกแจถ่ายคู่กับผู้ชายอีกคนกลับทำให้รอยยิ้มในหน้าของสามีหนุ่มค่อยๆ เลือนหายไป มือใหญ่วางไอโฟนลงที่เดิม ลมหายใจถูกสูดลึกเข้าไปเมื่อซีวอนรู้สึกได้ถึงความกรุ่นโกรธที่รายล้อม ดวงหน้าหล่อจัดของซีวอนเคร่งขรึมขึ้นมาเพราะภาพที่ฮยอกแจเอนศีรษะซบอิงกับไหล่ของชายอื่น ดูแค่นี้ก็รู้แล้วว่าสนิทสนมกันมากแค่ไหน
ไม่กี่นาทีถัดมาร่างเล็กในชุดนอนลายกุ๊กไก่ทอดไข่ดาวก็ออกมาจากห้องน้ำ ฮยอกแจมองแผ่นหลังกว้างของสามีที่นอนหันหลังให้เขางงๆ ปกติถ้าไม่อ่านหนังสือรอก็น่าจะนั่งทำงานอยู่หน้าคอม แปลกแฮะที่วันนี้เข้านอนก่อนเขา แต่สงสัยคงจะเหนื่อยล่ะมั้งก็วันนี้ฮยอกแจเล่นพาพี่ซีวอนไปนู่นไปนี่ทั้งวัน
คุณสามีชักจะตามใจจนทำให้ภรรยาคนนี้เสียคนเกินไปแล้วน๊า~
ภรรยาวัยสิบแปดหัวเราะเบาๆ ขณะมองร่างของสามีด้วยสายตาขวยเขิน ฮยอกแจล้มตัวลงบนที่นอนแล้วเอื้อมมือไปแตะๆ บนสวิชต์ไฟเพื่อปรับให้เพดานหรี่แสงลง
…เงียบแฮะ
เงียบกว่าทุกคืนเพราะปกติซีวอนมักจะชวนเขาคุยหรือไม่ก็ถามอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนฮยอกแจทนความง่วงไม่ไหวผล็อยหลับไปก่อนทุกครั้ง แต่ว่าคืนนี้ซีวอนคงจะเหนื่อยมากจริงๆ ถึงได้หลับไปโดยไม่รอ... ถ้าไม่ติดว่าวันนี้ตามใจฮยอกแจทั้งวันละก็นะ ฮยอกแจจะงอนไม่คุยกับพี่ซีวอนเลย
“ฮยอกแจ”
ร่างเล็กภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันสะดุ้งน้อยๆ เมื่อซีวอนเปล่งเสียงทุ้มออกมาท่ามกลางความเงียบ
“อื๋อ?”
“พี่ขอโทษนะที่ถือวิสาสะเล่นไอโฟนของฮยอกแจ แต่...ผู้ชายที่ฮยอกแจถ่ายรูปด้วยน่ะใครเหรอครับ?”
ด้วยความที่วุฒิภาวะมากกว่าซีวอนจึงไตร่ตรองเป็นอย่างดีแล้วว่าเขาไม่สมควรจะทำตัวงี่เง่าให้ฮยอกแจไม่สบายใจด้วยการเงียบเฉยแบบนี้ และผู้ชายคนนั้นอาจไม่ได้เป็นอะไรกับภรรยาของเขาเพียงแต่เขาเข้าใจผิดและหึงไปเองเท่านั้น จึงควรจะถามจากเจ้าตัวนั่นแหละเป็นดีที่สุด
ซีวอนหวังว่าคำตอบที่ของฮยอกแจนั้นจะตรงกับความคิดของเขา
“ก็... แฟนฮยอกแจเองแหละ”
ทว่ามันกลับไม่เป็นแบบนั้น …..
F A K E W E D D I N G
เช้านี้ฮยอกแจตื่นขึ้นด้วยเสียงของสายน้ำที่กระทบกับพื้นหินในห้องอาบน้ำอีกครั้ง ร่างเล็กบนเตียงนอนขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงแก้ง่วง นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมทุกเช้าเขาถึงได้ไปนอนบนฝั่งของสามีทุกที
คนนอนตาแป๋วอยู่บนเตียงเบิกตากว้างขึ้นนิดๆ เมื่อร่างสูงเดินติดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกมาจากห้องน้ำ ฮยอกแจยันตัวขึ้นนั่งบนเตียง
“พี่ซีวอนจะไปไหน?”
“........”
พี่ซีวอนคงหูอื้อเพราะอาบน้ำแน่ๆ คิดได้แบบนั้นก็เพิ่มระดับเสียงของตัวเองให้ดังขึ้นอีกนิด
“พี่ซีวอนจะไปหนายยยยยยยยยยย!?”
“พี่จะไปทำงาน”
ซีวอนตอบเรียบๆ กลับมาจากในห้องแต่งตัวแล้วเลือกเอาเนคไทด์ที่วางเรียงกันขึ้นมาผูก เพราะฮยอกแจเคยบอกว่าไม่ชอบให้เขาเดินออกมาจากห้องอาบน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียว(ฮยอกแจเห็นแล้วฮยอกแจเขิน) ดังนั้นเขาจึงต้องหอบเอาเสื้อผ้าไปใส่ให้เรียบร้อยตั้งแต่ในห้องอาบน้ำ
“ไปทำงาน? แต่พี่ซีวอนบอกจะหยุดสองเดือนไม่ใช่เหรอ อีกตั้งสองอาทิตย์แน่ะ ทำไมต้องรีบไปด้วยอ้ะ”
“ก็มันไม่มีอะไรแล้วนี่ ฮยอกแจเองก็คุ้นเคยกับบ้านพี่แล้ว อีกอย่างเราก็ไม่ได้ไไปฮันนีมูนกันด้วยแล้วจะลาหยุดให้เสียการเสียงานทำไม” ถ้อยคำปกติแต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมามันช่างเหินห่างอย่างบอกไม่ถูก
ฮยอกแจวิ่งลงมาจากเตียงไปหาร่างสูงซึ่งกำลังหยิบสูทมาสวม ภรรยาตัวเล็กกระตุกแขนเสื้อสามีเบาๆ ไปมาอย่างออดอ้อน
“ไปด้วย!”
“จะไปทำไม?”
“พี่ซีวอนพูดเหมือนไม่อยากให้ฮยอกแจไปเลย”
คนไม่ชอบออกจากบ้านงอแง แม้จิตใจของซีวอนจะไม่เป็นปกติเท่าไหร่นักแต่ก็ไม่อาจขัดใจของภรรยาที่กำลังทำหน้างออยู่ต่อหน้าเขาได้
ใบหน้าหล่อเหลาที่พยักขึ้นลงเพื่อบอกอนุญาตทำให้ฮยอกแจร้องเย้ คนตัวเล็กหยิบเสื้อสีเหลืองสดใสกับเอี๊ยมยีนส์ในตู้มาถือไว้ก่อนจะรีบวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำ
“พี่ซีวอนรอฮยอกแจก่อนนะ!”
เหล่าพนักงานในบริษัทต่างโค้งศีรษะให้ชายหนุ่มในฐานะรองประธานบริษัทอย่างนอบน้อม ฮยอกแจในชุดเอี๊ยมยีนส์ขาสั้นกับเสื้อลายลูกไก่สีเหลืองเดินจับชายเสื้อของสามีหนุ่มไปตลอดทางจนเหมือนน้องชายตัวเล็กๆ ที่ไม่ประสีประสาและกลัวคน แม้ในใจจะรู้ว่าฮยอกแจคงอายที่ใครต่อใครต่างจ้องมองแต่จะให้เดินตามเขาแล้วเกาะเสื้อเอาไว้ตลอดเวลาแบบนี้คงไม่ไหว ภาพลักษณ์ของลูกชายตระกูลอีอาจเสียหายเอาได้ คิดได้ดังนั้นซีวอนจึงรวบมือซ้ายของภรรยามากุมแล้วเดินไปด้วยกันตลอดทางจนถึงห้องทำงาน
“คุณซีวอนคะ”
กรรมการบริหารอย่างยูอีที่เพิ่งกลับมาจากงานสัมมนาที่ต่างประเทศเอ่ยเรียกเจ้านายหนุ่มขณะเขาเดินผ่านห้องทำงานของเธอไป ซีวอนหยุดเดินและยืนฟังเธอถามพร้อมกับกุมมือเล็กๆ เอาไว้ไม่ได้ปล่อย
“ครับ?”
“นั่นเด็กที่ไหนเหรอคะ? ตัวเล็กน่ารักดีจัง”
ชายหนุ่มยิ้มให้หล่อน ริมฝีปากกำลังจะเอ่ยคำว่า 'ภรรยา' ออกไปกลับชะงักเมื่อหางตามองเห็นภรรยาตัวน้อยกำลังมองมาที่เขาด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน
“น้องชายน่ะครับ”
และใบหน้าแสนซนนั้นก็บุบบี้ขึ้นมาในทันที อีฮยอกแจประกาศสถานะของตัวเองลั่นต่อหน้าผู้ถามและพนักงานแถวนั้น
“ภรรยา! ฮยอกแจเป็นภรรยาของพี่ซีวอน!”
เมื่อพอใจแล้วก็เป็นฝ่ายดึงมือของสามีตนเองให้เดินไปอย่างรวดเร็ว ซีวอนกลั้นยิ้มไว้ไม่ให้ร่างเล็กที่กำลังลากเขาเดินไปได้เห็น ชายหนุ่มพยายามดึงมือของตัวเองคืนมาจากการถูลู่ถูกังของฮยอกแจจนฮยอกแจหันมาโวยวายใส่
“พี่ซีวอนจะดื้อทำไม!”
ซีวอนหัวเราะลั่นในใจภายใต้สีหน้าเคร่งขรึม ใครกันแน่ที่สมควรจะพูดคำนี้
“แล้วฮยอกแจจะไปไหนล่ะ เราน่ะเดินเลยห้องพี่มาแล้วนะ”
“ล...แล้วทำไมพี่ซีวอนไม่บอกเล่า!”
โต้กลับไปด้วยสีหน้าแดงๆ ยังอดรู้สึกหงุดหงิดไม่หายเพราะสามีนิสัยไม่ดีจงใจแกล้งเขาต่อหน้าผู้หญิงคนอื่นแบบนี้ ถ้าไม่คิดว่าซีวอนตั้งใจปกปิดฐานะของเขาเพราะไม่อยากให้ผู้หญิงคนนั้นเข้าใจผิดแล้วจะเป็นอะไรไปได้อีก
ฮยอกแจไม่ชอบเลยนะที่พี่ซีวอนทำเหมือนฮยอกแจไม่สำคัญแบบนี้น่ะ!
เราเป็นสามีภรรยากันนะ!
เพราะความหยิ่งทนงหรืออะไรก็แล้วแต่ทำให้ฮยอกแจไม่ยอมแสดงออกไปชัดเจนว่ากำลังโมโหซีวอนอยู่ในขณะนี้ ก็เหมือนกับเด็กที่งอนผู้ใหญ่แต่ไม่ยอมบอกว่าเรื่องอะไร ต้องให้เอาขนมมาล่อหรือไม่ก็พร่ำพูดขอโทษซ้ำๆ จนกว่าจะพอใจถึงจะยอมหายโกรธ
แต่อีฮยอกแจโตแล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่งงานแล้วด้วย! และถ้าสามีอย่างพี่ซีวอนไม่รู้ว่าฮยอกแจเป็นอะไรก็ไม่ต้องมาพูดกัน!
ด้วยเหตุนี้ตั้งแต่เข้ามาในห้องทำงานของสามี คุณภรรยาจึงไม่สนใจจะเดินดูรอบห้องแล้วสำรวจนู่นนี่เหมือนเด็กอยากรู้อยากเห็นไปหมดเหมือนอย่างเคย เพียงแค่กวาดสายตาไปโดยรอบเพื่อให้รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้วก็ควักเอาไอแพดสองจากกระเป๋าหน้าของเอี๊ยมออกมานอนเล่นเกมอยู่บนโซฟาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
ซีวอนมองอาการนั้นแล้วส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย เพียงไม่กี่วันฮยอกแจก็ปั่นหัวให้เขาว้าวุ่นได้ขนาดนี้เสียแล้ว
ฤทธิ์เยอะกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีกนะคุณภรรยา..!
เอกสารที่ต้องเซ็นต์อนุมัติล้วนอาศัยสมาธิในการคิดไตร่ตรองและตัดสินใจในทุกขั้นตอน โดยปกติแล้วซีวอนทำงานเหล่านี้ให้เสร็จได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง แต่พอมีเจ้าเด็กตัวแสบมานอนเล่นเกมจนส่งเสียงดังลั่นห้องแบบนี้แล้วทุกอย่างมันก็เป๋ไปหมด
รองประธานบริษัทกุมขมับเป็นรอบที่แปดขณะเงยหน้ามองภรรยาด้วยความเหนื่อยอ่อน
“ฮยอกแจ เบาเสียงหน่อยได้ไหม พี่ทำงานไม่สะดวก”
“ไม่เอา”
ดื้อ!
เขาขอร้องฮยอกแจแบบนี้มาไม่ต่ำกว่าห้ารอบแล้วด้วยซ้ำ แต่คำตอบของฮยอกแจก็ยังคงเป็นคำเดิมไม่ว่าเขาจะพยายามอ้อนวอนหรือเกลี้ยกล่อมขนาดไหน
ช่วยไม่ได้! พี่ซีวอนทำฮยอกแจโกรธเองนะ!!
ภรรยาตัวน้อยที่นอนไขว้ขวาอยู่บนโซฟาอย่างเด็กกะโปโลตะโกนดังในใจ ไม่สนใจต่อเสียงที่อ่อนลงของซีวอนเพราะกำลังขอร้องให้เขาเบาเสียงไอแพดลงหน่อย
“พี่กำลังทำงานหาเงินให้ฮยอกแจอยู่นะ ถ้าพี่เซ็นต์เอกสารผิดไปจนบริษัทล้มละลายเราจะทำยังไง พี่จะเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงนักวาดการ์ตูนไส้แห้งอย่างเราเล่า”
ความจริงมันก็ไม่ถึงขนาดนั้น ซีวอนแค่พูดเว่อร์ๆ ไว้ให้ฮยอกแจตกใจเล่นเท่านั้นแหละ แต่ก็ไม่คาดคิดมาก่อนเหมือนกันว่าคำตอบของคุณภรรยาตัวดีจะทำให้เขาต้องกัดฟันโมโหทนเซ็นต์เอกสารต่อไปทั้งที่เสียงซาวด์เอฟเฟคต์จากไอแพดยังคงดังลั่นเหมือนเดิม
“ฮยอกแจก็แต่งงานใหม่ดิ”
เด็กแปดขวบหายงอนง่ายฉันใด
อีฮยอกแจก็หายงอนง่ายฉันนั้น
เด็กแปดขวบตื่นนอนร้องหาพ่อแม่ฉันใด
คุณภรรยาของซีวอนก็ร้องหาสามีฉันนั้น
เข็มนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงตรงพอดีเมื่อร่างเล็กบนโซฟาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ฮยอกแจเล่นเกมจนเหนื่อยเลยเผลอหลับไปตั้งแต่เก้าโมงและที่ตื่นก็คงจะเพราะท้องมันกำลังร้องอยากจะหาอะไรกินแล้วแน่ๆ
“พี่ซีวอน...”
ภรรยาขี้เซาขยี้ตาพลางเอ่ยเรียกสามีหนุ่มที่ตอนนี้ไม่ได้นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานแล้ว
“พี่ซีวอน”
เอ่ยเรียกอีกครั้ง ความเงียบสวนกลับมาเป็นคำตอบ ฮยอกแจแน่ใจแล้วว่าซีวอนไม่ได้อยู่ในห้องนี้ คงจะทิ้งเขาที่นอนหลับไม่รู้เรื่องแล้วหนีไปกินข้าวกันสองคนกับผู้หญิงสวยๆ คนนั้นสินะ
ฮึก.... พี่ซีวอนใจร้าย.....
“ฮยอกแจเป็นภรรยาพี่ซีวอนนะ..!”
ตะโกนลั่นพร้อมกับร้องไห้ออกมาทั้งแบบนั้น ภรรยาอายุสิบแปดที่กริยาไม่ต่างอะไรกับเด็กแปดขวบนักสะอื้นฮักเพราะการตื่นมาและถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียวเป็นเรื่องที่ฮยอกแจเกลียดแสนเกลียด แถมไอ้ท้องบ้าก็ยังจะมาหิวตอนนี้อีกฮืออออออออออ
“ทำไมต้องตะโกนอะไรแบบนั้นออกมาแล้วร้องไห้ด้วย?”
ดวงหน้าเปื้อนน้ำตาหันขวับไปตามเสียง ฮยอกแจผุดลุกขึ้นจากโซฟาอย่างรวดเร็วแล้วตรงไปทุบอกสามีตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย
“พี่ซีวอนไปไหนมาทำไมไม่อยู่กับฮยอกแจ! พี่ซีวอนทิ้งฮยอกแจทำไม! ฮือออออออ”
“โอ๊ย ฮยอกแจเบาๆ สิพี่เจ็บนะ!”
น้ำเสียงดุดันของซีวอนและฝ่ามือหนาที่รวบแขนทั้งสองของภรรยาไว้ทำให้ฮยอกแจยอมสงบในที่สุด กระนั้นก็ยังไม่วายร้องไห้งอแงแล้วพยายามตีซีวอนอีกสองสามที
“พี่ซีวอนไม่อยู่... ฮึก....”
“ก็พี่...”
“ขออนุญาตเข้าไปนะคะ”
เสียงของเลขาหน้าห้องตัดบทชายหนุ่ม เขาตอบรับคนนอกประตูก่อนจะเบี่ยงร่างของฮยอกแจให้หลีกทาง
เลขาสาวกับพนักงานจากโรงอาหารของบริษัทอีกสองคนถือถาดอาหารเดินเข้ามาและนำไปวางบนโต๊ะรับรองแขกหน้าโซฟา ดวงตาชื้นน้ำใสๆ มองตามไปอย่างงุนงง แต่ฮยอกแจไม่โง่พอที่จะไม่เข้าใจว่าซีวอนหายไปไหนมา
รอยยิ้มอายๆ ของเลขาสาวที่เดินผ่านพวกเขาสองคนออกไปจากห้องทำให้ฮยอกแจเพิ่งรู้ตัวว่าเขากับคุณสามีกำลังอยู่ในสภาพไหน คนตัวเล็กกว่าผลักอกกว้างตรงหน้าออกอย่างรวดเร็วก่อนจะรีบเดินหนีไปนั่งหันหลังให้บนโซฟาคนเดียว
งือออออออ ฮยอกแจเขิน *กัดปาก*
หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วซีวอนก็เรียกแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาด ฮยอกแจกลัวว่าตัวเองจะเกะกะจึงกระโดดขึ้นไปนั่งงอเข่าเล่นเกมในไอแพดต่อระหว่างที่แม่บ้านกำลังเก็บกวาด(ส่วนใหญ่เป็นเศษอาหารที่ฮยอกแจทำหกจนเลอะเทอะไปหมดเพราะแย่งเนื้อในจานของซีวอน) ในขณะที่ซีวอนก็นั่งเซ็นต์เอกสารที่คั่งค้างไว้จากวันที่ลาหยุดไปต่อ
“พี่ซีวอนกินกาแฟไหม๊?”
ถามไปงั้น เพราะเจ้าคนถามก็ลุกขึ้นจากโซฟาแล้ววิ่งออกไปชงกาแฟที่ห้องครัวเรียบร้อยแล้ว ไม่รอให้ซีวอนได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไรทั้งสิ้น ดังนั้นเมื่อฮยอกแจเดินกลับเข้ามาพร้อมถ้วยกาแฟหอมกรุ่น(ถามสูตรกาแฟจากเลขาหน้าห้องแล้วเรียบร้อย)จึงนำของในมือที่บรรจงชงมาวางลงตรงหน้าคุณสามี
“ฮยอกแจทำกาแฟเย็นมาให้กินพี่ซีวอนจะได้สดชื่นมีแรงทำงานหาตังค์ให้ฮยอกแจใช้”
ตอนแรก... ซีวอนก็ดีใจอยู่หรอก มือหนาเอื้อมไปเตรียมจะหยิบหูของถ้วยกาแฟมาดื่มแต่พอฟังฮยอกแจพูดประโยคนั้นจบดี มือจากที่จะเอื้อมไปหยิบก็กลายเป็นดันแก้วนั้นออก
“พี่ไม่ดื่มกาแฟเย็น”
คุณภรรยานั่นแหละ... จะพูดเรื่องทำงานหาเงินทำไม มันทำให้พี่คิดถึงเรื่องที่ฮยอกแจจะหนีไปแต่งงานใหม่เมื่อกี้นะ
“หงึ...”
ฮยอกแจเปล่งเสียงออกจากลำคอเพียงเท่านั้น ก่อนเด็กดื้อของซีวอนจะเชิดหน้า ปากเบะ แล้วคว้าเอาแก้วกาแฟเย็นตรงหน้าขึ้นมายกซดรวดเดียวหมด!
เอ่อะ … จะปวดท้องไหมนั่น (=___________=;; )
แล้วทำไมฮยอกแจถึงได้ตลกแบบนี้เนี่ย ซีวอนคิดแล้วถามออกมาเบาๆ
“อร่อยมั้ย?”
“อร่อย – มาก !!!”
ให้ตายเถอะ! คุณสามีจะกลั้นยิ้มไม่ไหวแล้วนะครับคุณภรรยา~
และพอแม่บ้านประจำชั้น 17 ทำความสะอาดเสร็จและเดินพ้นประตูไปเท่านั้น ภรรยาตัวแสบของซีวอนที่เพิ่งดื่มกาแฟไปหนึ่งถ้วยเต็มก็ลากเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่มาวางไว้ข้างๆ กับเก้าอี้บุนวมหนาของท่านรองประธาน ซีวอนหันมามองอย่างงงๆ มือใหญ่ถือปากกาค้างไว้จนกระทั่งฮยอกแจนั่งลงบนเก้าอี้แล้วเขยิบเข้ามาจนชิด!
สามีหนุ่มงงงวยเล็กน้อยเมื่อเจออากัปกิริยานี้ของฮยอกแจ ฮยอกแจจึงบอกเหตุผลด้วยน้ำเสียงรั้นๆ ว่า 'ถ้าไม่เฝ้าไว้เดี๋ยวพี่ซีวอนก็หนีฮยอกแจไปอีก' กระนั้นด้วยความที่เขายังพยายามจะเคืองๆ ฮยอกแจอยู่จึงไม่พูดอะไรนอกจากก้มหน้าก้มตาทำงานต่อและปล่อยให้ฮยอกแจวุ่นวายอยู่ใกล้ๆ ต่อไป
แต่ก็นะ.... อ่านอะไรไม่รู้เรื่องเลยสักนิด OTL
แย่มาก... ภรรยาของเขาแย่มาก.....
มานั่งซบไหล่กันแบบนี้จะรู้ไหมว่าสามีคนนี้ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรแล้ว ….
ซีวอนนั่งตัวแข็งแต่พยายามฝืนเกร็งให้เป็นธรรมชาติอยู่ครึ่งชั่วโมง นานจนฮยอกแจที่นอนอิงและวางศีรษะลงบนไหล่ขวาของเขาถึงกับลืมตาขึ้นมาเพื่อถามว่า
“อ่านนานจัง พี่ซีวอนอ่านหนังสือไม่ออกเหรอ แล้วเรียนจบได้ไง”
ยังมีหน้ามาทำตาแป๋วเอียงคอถามกันอีก ซีวอนกำลังจะแก้ตัวไปตามน้ำทว่าก็ต้องกลืนคำพูดเหล่านั้นลงคอไปเมื่อไอโฟนของฮยอกแจมีสายเข้ามา
“อ่า ว่าไงคยูฮยอน”
ชื่อนี้ทำให้อารมณ์ดีๆ ของซีวอนเตลิดไปไกลอีกแล้ว
ดวงหน้าขาวใสของคุณภรรยาบูบี้จนดูไม่ได้ เหตุเพราะตั้งแต่เขาวางโทรศัพท์จากคยูฮยอนที่โทรมาถามสถิติเกมส์ Super Junior Shake ว่าทำสูงสุดได้เท่าไหร่และฟังมันเยาะเย้ยผ่านโทรศัพท์อยู่นานเพราะมันทำได้มากเป็นอันดับหนึ่งของโลกก็ปาไปเกือบครึ่งชั่วโมง พอจะกลับมานั่งที่เดิมก็พบว่าซีวอนลุกจากเก้าอี้ หยิบสูทมาสวม ไม่พูดพร่ำทำเพลงเดินตัวปลิวออกไปจากห้องเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหันไม่ยอมคุยด้วยมาจนถึงตอนนี้
ฮยอกแจทำผิดอะไร ทำไมพี่ซีวอนต้องมาทำเป็นโกรธกันด้วย !
เมื่อกลับถึงบ้าน ประตูรถฝั่งที่นั่งคนขับถูกกระแทกปิดอย่างแรงด้วยฝีมือของภรรยาตัวร้าย เด็กหนุ่มในชุดเอี๊ยมสั้นสียีนส์กับเสื้อสีเหลืองยืนเท้าสะเอวรอคุณสามีลงมาจากรถเพื่อจะคุยกันให้รู้เรื่อง แต่ทันทีที่ฮยอกแจปิดประตูนั้นสนิทแล้วรถคันตรงหน้ากลับขับออกไปโดยไม่แม้แต่จะชะลอเพื่อฟังเสียงโวยวายของ 'ชเวฮยอกแจ' สักนิดเลย
ไอ้พี่ซีวอนบ้า !!!
F A K E W E D D I N G
แก้วเหล้าทรงกระบอกสั้นในมือถูกหมุนไปมาด้วยฝีมือของชายหนุ่ม ดวงตาคมกล้าซึ่งบัดนี้เริ่มปรือปรอยเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปพอสมควรเริ่มทำให้สติของชเวซีวอนไม่อยู่กับเนื้อกับตัวขึ้นทุกที
หรือความคิดทั้งหมดของเขามันอาจหล่นอยู่ตรงหน้าบ้าน ตรงที่ภรรยาของเขายืนโวยวายตามหลังเขามาด้วยความไม่พอใจนั่นแหละ
[ อีทึก : Calling ]
“เออ...”
น้ำเสียงยานคางของคนรับทำให้อีกฝ่ายตะโกนใส่มาอย่างแปลกใจ
[เฮ้ย! นี่มึงเมาอยู่ไหนวะเนี่ย!?]
“ที่เดิมนั่นแหละ กูเซ็งๆ เลยออกมาแดกเหล้า”
[แล้วทิ้งไอ้หอกแจไว้เฝ้าบ้านเนี่ยนะ? เชี่ยน้องกูถึงหน้าจะเหมือนแต่ไม่ใช่หมานะเว่ย แล้วนี่มึงไปทำอะไรมันถึงได้โทรมาบอกกูว่าจะหย่าๆ ไม่เอาแล้วๆ เนี่ย]
อีทึกนึกแล้วเซ็ง คนกำลังจะกอดเมียไอ้หอกแจแม่งก็โทรมา แถมเสือกรู้ดีเรื่องที่เขาปิดเครื่องเลยโทรเข้ามาที่เบอร์ฮีชอลแทนเสียนี่ แถมตอนฟ้องเขาเรื่องซีวอนก็ยังพูดไปสะอื้นไปจนพี่ชาย(บอกแล้วว่าแสนดี)อย่างเขาอดยื่นมือเข้ามาช่วยไม่ได้
“หย่าเหรอ.... เหอะ ป่านนี้ก็คงโทรไปอ้อนแฟนเค้าให้มารับกลับบ้านแล้วล่ะมั้ง”
ซีวอนพูดแล้วกระดกเหล้าในแก้วเข้าปากอีกหนึ่งอึก ปลายสายได้ยินถึงกับขมวดคิ้ว
[มึงว่าอะไรนะ? อีกทีดิ๊]
“น้องมึงมีแฟนแล้ว”
[แฟน? แฟนเชี่ยอะไรวะ มันหนีกูไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ ….? อ๊อออออออออออ ไอ้คยูฮยอนนั่นอ่ะเหรอ]
“เออ มึงรู้จักเหรอ ตัวจริงเป็นไงวะ หล่อมั้ย”
เพราะเห็นแค่ในรูปและตอนนั้นก็รู้สึกโมโหจัดจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แต่พออีทึกรู้จักแบบนี้ก็อยากจะวัดกันให้รู้ไปเลยว่าระหว่างเขากับไอ้คยูฮยอนอะไรนั่นใครมันจะไปมีดีกว่ากัน
แต่จะไปมีประโยชน์อะไร... ในเมื่อฮยอกแจรักคยูฮยอน ไม่ใช่สามีจอมปลอมที่มีวันหมดอายุในอีกสามเดือนอย่างเขา
[ฮ่าๆๆๆๆ ไอ้ซีวอนไอ้ควายมึงก็ไปเชื่อมัน] เสียงหัวเราะแหลมๆ อย่างบ้าคลั่งของอีทึกทำให้ซีวอนตื่นจากภวังค์ความคิด เขากลับมาฟังคนในสายอีกครั้ง [นั่นอ่ะเพื่อนสนิทหอกแจมัน ส่วนไอ้คยูฮยอนน่ะรุ่นน้องกูแล้วแฟนมันก็ซองมินที่เคยเป็นน้องรหัสมึงไง ควายเอ๊ย มีดีแต่หนังหน้านะมึงเนี่ย โง่สัดอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ]
“จริงเหรอวะ!!”
[จริงดิ!]
“แล้วฮยอกแจจะหลอกกูทำไม?”
[คงกลัวมึงหลอกซั่มมันมั้งเลยต้องเอาไอ้คยูฮยอนมาอ้าง กูบอกแล้วว่ามันร้าย มึงไม่เชื่อกูเองฟาย]
“กูเชื่อมึง แต่คิดไม่ถึงว่าน้องมึงจะแสบขนาดนี้ คอยดูกูจะเอาคืนให้คุ้มเลย”
แม้จะดื่มหนักไปหน่อยแต่แอลกอฮอล์จำนวนนั้นก็ไม่สามารถเอาชนะสติสัมปชัญญะที่ยังคงเหลืออยู่มากโขไปได้ ซีวอนขับรถไปที่บ้านของเจ้าสาวหลังจากโทรกลับไปที่บ้านและได้รับคำตอบอย่างที่คิดเอาไว้จากสาวใช้
'คุณฮยอกแจเก็บข้าวเก็บของ... เอ่อ ของเล่นกับหนังสือการ์ตูนในห้องนอนกลับบ้านคุณแม่ของเธอไปหมดเลยค่ะ'
ทันทีที่มาถึงเหล่าสาวใช้ในคฤหาสน์ตระกูลอีต่างหลีกทางให้สามีของคุณหนูคนเล็กของบ้านกันถ้วนหน้า แม้แต่คุณแม่ของฮยอกแจซึ่งเป็นคนนำทางซีวอนมาที่ห้องของฮยอกแจเสียเอง
“น้องอยู่ในห้องนี่แหละซีวอน กลับมาถึงก็ปิดประตูร้องไห้งอแงอยู่ข้างใน หม่าม๊ะถามอะไรไปก็ไม่ตอบ ซีวอนเข้าไปดูน้องหน่อยนะลูก”
“ครับ” ลูกเขยตอบรับและไขกุญแจที่ได้มาจากแม่ยายเพื่อเข้าไปในห้อง แต่ก็ต้องชะงักเพราะมือของหญิงวัยกลางคนที่เอื้อมมาแตะแขนของเขา
“น้องดื้อไปนิด ซีวอนอย่าตีน้องนะลูก”
ชายหนุ่มพยักหน้ายิ้มๆ แล้วปิดประตูตามหลังโดยไม่ลืมที่จะลงกลอนไว้ตามเดิม
ดวงตาคมกล้ากวาดมองไปรอบห้องสีเหลืองสดใสที่ถูกประดับด้วยวอลเปเปอร์ลายลูกไก่สีส้มสลับเหลือง บนชั้นลอยที่ต่อกันจากบนพื้นขึ้นสู่ผนังห้องในระดับที่ฮยอกแจเอื้อมถึงมีชั้นหนังสือติดเอาไว้และถูกบรรจุด้วยการ์ตูนจำนวนมาก ซีวอนเข้าใจแล้วว่าฮยอกแจนั้นเป็นโอตาคุการ์ตูนมากแค่ไหน เหลือบไปเห็นโต๊ะทำงานสีฟ้าเหลืองริมหน้าต่างก็พบเม้าท์ปากกากับโมเดลการ์ตูนเหมือนกับแบบที่ร่างติดไว้บนบอร์ดเต็มไปหมด
ช่างเป็นเด็กที่กระตือรือร้นในสิ่งที่รักเสียจริงๆ
สายตาคู่คมหยุดลงบนร่างเล็กๆ ที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียงภายใต้ผ้านวมหนาลายอะลิตเติ้ลเมอร์เมด สามีหนุ่มขยับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ฮยอกแจที่กำลังนอนหันหลังให้เขามากขึ้น
“หม่าม๊ะไม่ต้องไล่ฮยอกแจกลับบ้านนู้นเลยนะ นู่นไม่ใช่บ้านฮยอกแจ อีพี่ทึกนิสัยไม่ดีจงใจแกล้งน้อง หม่าม๊ะอย่าไปเข้าข้างมันนะ”
“...........”
“แล้วฮยอกแจก็ไม่ชอบพี่ซีวอนแล้วด้วย พี่ซีวอนงี่เง่า!”
คนถูกต่อว่ายืนนิ่ง ก่อนซีวอนจะเลิกผ้าห่มในฝั่งนี้ขึ้นแล้วสอดตัวเข้าไป รั้งร่างน้อยๆ ที่นอนหันหลังให้ด้วยอารามบึ้งตึงนั้นเข้ามากอดแน่น
“อ๊ะ!... พี่ซีวอน!? ปล่อยฮยอกแจนะ! อื้อ!!”
ร่างบอบบางของคุณภรรยาดีดดิ้นเป็นการใหญ่เมื่อคนที่เข้ามาไม่ใช่หม่าม๊ะอย่างที่คิดเอาไว้
ฮยอกแจเพิ่งรู้ว่าร่างกายของสามีตัวเองนั้นกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ เพราะไม่ว่าเขาจะดิ้นหรือขัดขืนอย่างไรก็ไม่อาจหลุดพ้นอ้อมกอดแนบแน่นนี้ไปได้เลย
“ฮยอกแจอยู่เฉยๆ ได้ไหม อย่าดิ้นสิ พี่เจ็บนะครับ”
“พี่ซีวอนปล่อยฮยอกแจนะ! ฮยอกแจไม่อยากเข้าใกล้พี่ซีวอนแล้ว ฮยอกแจจะหย่า!! พี่ซีวอนไม่มีสิทธิ์ทำกับฮยอกแจแบบนี้!!!”
“อย่าพูดจาแบบนี้สิ ไม่น่ารักเลยนะ”
“ไม่น่ารักก็ไม่น่ารักสิ! ฮยอกแจไม่สนใจหรอก!! ฮยอกแจจะหย่ากับพี่ซีวอนแล้วหนีไปแต่งงานกับคนอื่น!!!”
เด็กหนุ่มถือดีอยากจะเอาชนะผู้ชายตัวโตที่กำลังบังคับให้เขาตกอยู่ในอ้อมกอดแน่นๆ นี้จนแทบขยับไม่ได้จึงได้พูดออกไปแบบนั้นเพื่อยั่วโมโหคนตัวโตกว่า ร่างเล็กๆ ของคุณภรรยาจึงดิ้นสะบัด เตะถีบคนข้างหลังจนซีวอนจุกเจ็บไปหมด
แต่เจ็บกายก็ไม่เท่าไหร่ เทียบไม่ได้กับหัวใจที่เริ่มปวดหน่วงขึ้นมาเพราะคุณภรรยากำลังใช้กำมือเล็กๆ นั้นขยี้ใจสามีคนนี้ด้วยคำว่า 'หย่า'
“ได้! จะเอาแบบนี้ใช่ไหม ไหนๆ ก็จะหย่าแล้ว ขอให้พี่ใช้สิทธิ์ความเป็นสามีให้คุ้มหน่อยเป็นไง!”
“พี่ซีวอน!! ไม่เอานะ! ไม่นะ อื้อ....!”
ริมฝีปากสีหวานของภรรยาที่ซีวอนคอยลอบมองมาตลอดนับจากมอบจุมพิตสาบานให้ครั้งนั้นตกอยู่ในอำนาจของเขาอีกครั้ง ชายหนุ่มรู้วิธีที่จะทำให้ฮยอกแจใจอ่อนด้วยสัมผัสจากเขา ใช้เวลาเพียงไม่นานซีวอนก็สามารถกำราบพยศของคุณภรรยาผู้แสนไร้เดียงสาให้ลดลงได้ ใจดวงน้อยๆ ไม่ประสีประสาสั่นระริกเมื่อรู้สึกถึงปลายลิ้นอุ่นชื้นที่แทรกเข้ามาในโพรงปาก มือไม้ที่ผลักอกกว้างของสามีไว้ค่อยๆ คลายออกก่อนจะเคลื่อนขึ้นโอบล้อมรอบลำคออีกฝ่ายไว้แน่นด้วยความขลาดกลัวและเขินอายที่จะตอบสนองต่อสัมผัสพิเศษที่ทำให้รู้สึกดี
เนื้อผ้าบนร่างถูกปลดออกไปในไม่ช้าเพื่อให้ชายหนุ่มผู้ถือสิทธิ์ความเป็นสามีอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้กระทำตามอำเภอใจบนร่างกายของคุณภรรยาได้เต็มที่
“อ๊ะ..... พี่...พี่ซีวอน......”
F A K E W E D D I N G
“พี่รักฮยอกแจนะ”
เจ้าของคำพูดพร่ำกระซิบแผ่วเบาข้างใบหูของภรรยาสมบูรณ์แบบ ฮยอกแจรู้สึกถึงอกกว้างที่อุ่นจนร้อนของซีวอนขยับเข้ามาจนชิดแผ่นหลังบอบบางของตัวเอง แค่คิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ผิวหน้ากระจ่างใสก็ขึ้นสีระเรื่อ กัดริมฝีปากล่างอันบวมช้ำของตัวเองที่เกิดจากการถูกดูดดึงอย่างหนักด้วยเสน่หาจากสามีเต็มตัวตลอดหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา
หนึ่งชั่วโมงที่คุณภรรยาครวญครางชื่อสามี 'พี่ซีวอน....พี่ซีวอน.....' ตลอดเวลา
กระนั้นเจ้าของร่างเล็กอันเปลือยเปล่าใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันก็ยังคงนอนหันหลังให้เขาอย่างแง่งอน
“คนโกหก... ถ้าพี่ซีวอนรักฮยอกแจจริงๆ พี่ซีวอนไม่ทำกับฮยอกแจแบบนี้หรอก”
คนถูกปรามาสว่าไม่รักนั้นถอนหายใจเบาๆ ก่อนริมฝีปากหยักหนาจะเลื่อนขึ้นจูบแก้มขาวที่พองลมนั้นอย่างเอาใจ
“สามีภรรยา...ก็ต้องทำเรื่องแบบนี้เป็นธรรมดา”
“พี่ซีวอนรังแกฮยอกแจแล้วก็พูดได้สิ!”
“พี่เปล่าแก้ตัวนะ ถึงพี่จะอยากแก้เผ็ดฮยอกแจมากแค่ไหน แต่ที่พี่...รังแกฮยอกแจแบบนี้เพราะว่าพี่ไม่อยากให้ฮยอกแจหนีพี่ไปหาใครจริงๆ พี่รักเรานะ ทำยังไงเราถึงจะยอมเชื่อ หรือว่าเรา...เกลียดพี่ ?”
“ทำไมพี่ซีวอนยังไม่เลิกโกหกอีก! เราไม่ได้แต่งงานกันจริงๆ สักหน่อย เรื่องของเรามันไม่ได้เริ่มต้นที่ความรัก ฮยอกแจกับพี่ซีวอนเป็นแค่พี่น้องกันเท่านั้น”
“ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ ถ้าพี่เห็นเราเป็นน้องชาย พี่ไม่ทำอะไรแบบนี้ด้วยแต่แรกหรอก”
“ฮยอกแจจะหย่า”
ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกจากปากแดงๆ นั่นร่างของคุณภรรยาก็รู้สึกได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นและร่างสูงใหญ่ที่แนบแน่นเข้ามา
“อย่าพูดแบบนี้เลยนะ”
“ทำไมจะพูดไม่ได้ ฮยอกแจจะหย่า จะหย่า จะหย่า!”
“ไม่ได้เป็นคนฟังก็พูดได้สิ” ซีวอนพร่ำกระซิบด้วยน้ำเสียงน้อยใจ “เลิกพูดว่าจะหย่าได้แล้ว ไม่สงสารพี่เลยหรือไงกัน รู้ไหมว่าตั้งแต่เจ้าสาวของพี่กลายเป็นฮยอกแจ พี่ก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องสัญญาอะไรนั่นเลยนะ”
และคำพูดประโยคนี้ก็ทำให้เด็กดื้อของเขาเลือกที่จะเงียบพร้อมกับใบหน้าแดงจัด ฮยอกแจไม่เอ่ยอะไรอีกนอกจากปล่อยให้คุณสามีเป็นฝ่ายพูดความรู้สึกของตัวเองต่อไป
“ถึงจะเป็นการแต่งงานจอมปลอม แต่ความรู้สึกของพี่เป็นเรื่องจริง”
….....
…...............
…............................
“พี่สารภาพความรู้สึกของพี่ไปแล้วนะ แล้วฮยอกแจล่ะรักพี่ไหม...?”
“ไม่รู้”
คำตอบห้วนๆ จากภรรยาตัวเล็กที่เด็กกว่าเขาถึงเจ็ดปีและมักจะปั่นหัวให้ชายหนุ่มปั่นป่วนไปหมดนั้นทำเอาซีวอนใจแป้วไม่น้อย ซีวอนกระชับร่างน้อยๆ ใบอ้อมแขนให้แน่นขึ้นซึ่งฮยอกแจก็ไม่ขัดขืน นาทีถัดมาคุณภรรยาก็ยอมพลิกร่างกลับมาเผชิญหน้ากัน
“พี่ซีวอนนั่นแหละ คนรักกันต้องค่อยๆ จีบค่อยๆ ทำความรู้จักกันไม่ใช่เหรอ แต่จู่ๆ พี่ซีวอนก็ข้ามขั้นมาแต่งงานกับฮยอกแจเลยอ่ะ แล้วจะให้ฮยอกแจทำยังไง...!?”
ริมฝีปากสีฉ่ำนั้นบิดเบ้ ซีวอนจิ้มนิ้วลงบนปลายจมูกโด่งรั้นของเด็กดื้อเบาๆ อย่างเย้าแหย่
“นั่นสินะ ข้ามขั้นมาจนถึงตอนนี้แล้วด้วยสิ”
“พี่ซีวอนอ่ะ!!!”
คุณภรรยาหน้าแดงแปร๊ด ทุบอกซีวอนแรงๆ ไปทีหนึ่งแล้วซุกหน้าลงไปบนอกกว้างนั้นอย่างเขินอายจนไม่รู้จะสู้หน้าชายหนุ่มได้อย่างไร ซีวอนเห็นท่าทีนั้นของคุณภรรยาแล้วก็อยากจะแกล้ง แต่กลัวว่าถ้าฮยอกแจงอนเขาขึ้นมาอีกรอบแล้วคงจะร้องไห้งอแงไปฟ้องหม่าม๊ะแน่นอนจึงยั้งใจเอาไว้แล้วหัวเราะออกมาแทน
“พี่ซีวอนหัวเราะอะไร”
“ฮยอกแจน่ารัก”
“เพิ่งรู้เหรอ”
เจ้าเด็กตัวแสบเงยหน้ามายักคิ้วให้อย่างร้ายกาจ ริมฝีปากที่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นทำเอาซีวอนอดใจไม่ไหวต้องกดจูบหนักๆ ซ้ำลงไปบนกลีบปากแสนหวานนั้นอีกครั้ง...อีกครั้ง...และอีกครั้งตลอดคืน
ธุ ร กิ จ ก็ คื อ ธุ ร กิ จ
ย่ อ ม มี ผู้ ไ ด้ รั บ ผ ล ป ร ะ โ ย ช น์
แ ล ะ ผู้ สู ญ เ สี ย ผ ล ป ร ะ โ ย ช น์
ท ว่ า สิ่ ง ที่ เ ห นื อ ไ ป ก ว่ า ผ ล ป ร ะ โ ย ช น์ . . .
. . . นั่ น คื อ ค ว า ม รั ก . . .
END :)
ความคิดเห็น