คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : Dream 12 :: Innocent - Cupid & Couple
Innocent - Cupid & Couple
Part 1
ข่าวเรื่องเนื้อคู่แห่งโชคชะตาปรากฏตัวแพร่สะพัดไปทั่วทั้งแดนสวรรค์ เหล่าแองเจิลน้อยใหญ่มากมายแวะเวียนกันมายลโฉมโอเนย์รอสตัวน้อยเจ้าของใบหน้าเศร้าสร้อยและริมฝีปากสีหวานที่ไม่เคยเอื้อนเอ่ยถ้อยคำใด
สายตาเหม่อลอยทอดมองไปยังที่ไกลแสนไกล เฝ้าคิดถึงมนุษย์ผู้นั้นสุดหัวใจและรอคอยเพียงค่ำคืนแห่งเรเดียนไนท์สวรรค์ไม่มีรุ่งอรุณและยามราตรี ทุกนาทีบนพิภพแห่งนี้ผ่านไปอย่างเชื่องช้า เนิ่นนานจนหัวใจทงเฮแห้งเหี่ยวอย่างไร้การเยียวยา
บ้างก็แอบลงไปยังโลกมนุษย์ทั้งที่มิมีกิจอันใดเพื่อดูหน้ามนุษย์ในชะตากรรมผู้ถูกเลือก สวรรค์ทั้งแดนปั่นป่วนไปหมดจนเหล่าแองเจิลกายแทบจะอยู่ไม่สงบสุข
แองเจิลกายฮันกยองโมโหพวกเทพไม่รู้จักหน้าที่หัวฟัดหัวเหวี่ยงที่ทำประตูสวรรค์วุ่นวายไปหมด
ครั้นตอนพบหน้ากับแองเจิลคิวปิดตนอื่นๆ ที่กำลังลงไปทำภารกิจบนโลกมนุษย์ก็ต้องหัวเสียหนักเข้าไปใหญ่เมื่อเทพเหล่านั้นพากันซุบซิบนินทาจนเขาอดรนทนไม่ไหว
ฮันกยองถามเหล่าแองเจิลอาภรณ์สีขาวเสียงขุ่นจนพวกเขาผวาไปตามๆ กัน ตอบเสียงอึกอัก
“ท..ท่านฮันกยองเบื่อหน่ายแองเจิลคิวปิดตนเดิมแล้วใช่หรือไม่ พวกข้าก็แค่... สงสัยว่าท่านมองหาเทพคู่ใจอยู่หรือเปล่าในตอนนี้ ตัวข้ายินดี...”
“พูดอะไรบ้าๆ ไปเอาเรื่องพวกนี้มาจากไหน” แองเจิลหนุ่มโกรธจัด
“ก..ก็คิวปิดฮยอกแจบอกว่าท่านตัดสัมพันธ์กับเขาไปแล้ว”
“ฮะ!? ฮยอกแจเนี่ยนะพูด” เขาแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
“ใช่ท่าน”
“บ้า บ้ากันไปใหญ่แล้ว นี่นายคิดอะไรของนายอยู่นะ ฮยอกแจ”
ฮันกยองพึมพำหัวเสียยกใหญ่ เพียงพริบตาเสียงดังวาบก็เกิดขึ้นพร้อมร่างของแองเจิลหนุ่มผู้หล่อเหลาที่หายวับไป
“ฮยอกแจ!! คิวปิดฮยอกแจ!!!”
ฮันกยองร้องเรียกฮยอกแจดังไปทั่วแดนแห่งความรัก ร้อนถึงมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของแดนแห่งรักต้องออกมาดู
“อะไรกันท่านแองเจิลกาย ท่านส่งเสียงดังในแดนแห่งรักมีเรื่องอันใดรึ”
เครายาวถูกลูบไปมาตามนิสัย ตาแก่ที่บังอาจลิขิตชะตารักของมนุษย์บนโลกและเทพสวรรค์หรี่ตามองฮันกยองอย่างสำรวจ
อะไรกัน นี่ข้าเลือกเขาเป็นเนื้อคู่คิวปิดน้อยฮยอกแจหรอกรึ ฮ่าๆ เหมาะสม เหมาะสม...
“ข้ามาหาฮยอกแจ รบกวนท่านช่วยตามเขามาพบข้าที”
กับเทพที่มีอำนาจมากกว่าฮันกยองจำต้องให้ความเคารพ
หึๆ นิสัยแบบนี้มีแต่จะรังแกคิวปิดน้อยของข้า เดี๋ยวเถอะ ข้าจะแกล้งเสียให้เข็ด
“มิได้หรอกท่าน ยามนี้ฮยอกแจกำลังพบปะเทพคู่ใจของตนอยู่”
“ท..เทพคู่ใจ” ฮันกยองหน้าเสีย มหาเทพคิวปิดแอบลอบยิ้มให้กับท่าทีนั้นอย่างสมใจ
“ถูกแล้วท่าน”
“ข..ข้าจะไปพบฮยอกแจ!” ฮันกยองประกาศลั่น ผละจากเทพเคราเทาเข้าไปวิหารด้านใน ทิ้งให้คนที่ยืนอยู่หัวเราะเบาๆ อย่างเอ็นดู
“ฮยอกแจ!! นายอยู่ไหน”
“ผู้ใดเรียกพบเรา”
แองเจิลคิวปิดตัวน้อยเดินออกมาตามเสียงเรียก แต่พอเห็นหน้าฮันกยองเท่านั้นเจ้าตัวเล็กที่เขาเคยบอกว่าเซ็กซี่ก็หน้าซีด
“ท่านฮันกยอง...”
“ก็ชั้นน่ะสิ นี่มันหมายความว่าไงฮะ เรื่องที่นายเอาไปพูดว่าเราจบกันแล้วน่ะ แล้วไหนยังจะเรื่อง...”
“พอเถอะ! ท่านไม่ต้องการเสียหน้ากับเทพตนอื่นเราก็พูดว่าท่านทิ้งเราไปแล้ว ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ท่านกับเราต้องข้องแวะกันอีก”
“อ..อะไรวะ” ฮันกยองแทบไม่อยากเชื่อ คิวปิดไร้เดียงสาที่น่ารักคนนั้นหายไปไหนแล้ว
ฮยอกแจตั้งท่าจะเดินหนี ทว่าฮันกยองกระชากแขนบอบบางให้หันมาทางตนอย่างดุดัน
“ท่านฮันกยอง! เราเจ็บนะ!!”
“จะเดินหนีชั้นไปไหน”
“เราบอกแล้วไงว่าเรากับท่านไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป ไม่จำเป็นที่เราต้องพบหน้ากันอีกแล้ว”
“อย่าบ้าไปหน่อยเลย เจ้าไม่ใช่มนุษย์นะอีฮยอกแจ อย่าทำตัวงี่เง่าเหมือนคนพวกนั้นจะได้มั้ย ข้าไม่ได้ต้องการแบบนี้!”
ฮันกยองเริ่มโกรธาเข้าให้แล้ว ร่างเล็กสั่นนิดๆ อย่างหวาดกลัวท่าทางพิโรธของเทพหนุ่ม เสียงใสสั่นระริก
“ท..ท่านต้องการอะไร”
“เหตุผล เจ้าเป็นบ้าอะไรขึ้นมา” เสียงเข้มฉุนจัด
“ร..เราก็แค่... เราก็แค่.. ฮึก.. เราไม่รู้ ฮือๆๆ เพราะท่านนั่นแหละ ท่านคนเดียว”
ใช่ว่าบนแดนสวรรค์ชั้นฟ้าจะมีแองเจิลไร้เดียงสาอยู่ตนเดียว แม้ฮยอกแจจะไม่มีอุปนิสัยราวเด็กน้อยเหมืองทงเฮ แต่หากกล่าวถึงความประสาในเรื่องรักแล้วฮยอกแจยังอ่อนหัดนัก
“ข้าไปทำอะไร” ฮันกยองตกใจไม่น้อยที่จู่ๆ ฮยอกแจก็น้ำตาร่วง แม้จะโมโหเพียงไรก็ทนเห็นน้ำตาของร่างบอบบางนี้ไม่ได้เช่นกัน เสียงเข้มอ่อนลงจนแทบเป็นเสียงนุ่มดังเดิม
“พอมีทงเฮ ...ท่านก็ไม่สนใจเราอีกเลย เรา.. เรารู้สึกน้อยใจ เราไม่อยากพบหน้าท่านอีกแล้ว”
ปากเล็กๆ เปล่งวาจาน่ารักยิ่งนัก ฮันกยองยิ้มให้กับความอ่อนเดียงสานั้นอย่างชอบใจ
“แล้วไงอีก” เทพหนุ่มยังมีกะใจอยากจะแกล้งต่อ
“เราไม่อยากข้องแวะกับท่านอีก ยิ่งคิดถึงท่านเราก็ยิ่งรู้สึกเจ็บแปลบ เราอยากลืมท่านไปจากความทรงจำเสียให้หมด”
หัวใจฮันกยองกระตุกวูบทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น แองเจิลกายรูปหล่อหน้าเสียไปถนัด
“เจ้าอย่าทำอะไรบ้าๆ แบบนั้นนะฮยอกแจ”
“เราไม่สนใจท่านอีกต่อไปแล้ว เราจะไปขอร้องให้ แองเจิลเมดีนมอบน้ำยาลบความทรงจำให้กับเรา ท่านฮันกยองปล่อยเรานะ” ร่างเล็กดีดดิ้นไม่หยุดจนฮันกยองต้องรวบตัวเข้าไว้ในอ้อมกอด
“ข้าไม่ยอมให้เจ้าทำอะไรแบบนั้นหรอก เจ้าใจร้ายมากรู้มั้ยฮยอกแจ”
“ฮึก.. เราเปล่าใจร้าย ท่านต่างหากที่ทำให้เราต้องร้องไห้ ท่านทำอะไรกับเราก็ไม่รู้ ไปให้พ้น”
เมื่อฮยอกแจไม่สนใจจะฟังความ ฮันกยองจึงจำต้องงัดเอาความเจ้าเล่ห์ที่เทพสวรรค์พากันกล่าวขานจนเป็นที่เลื่องลือมาใช้ ...เพื่อใช้มัดใจคิวปิดตัวเล็กนี้ให้อยู่หมัด
“ข้ารู้แล้ว ข้ามีวิธีให้เจ้าไม่เศร้าเสียใจต่อข้าแล้ว ฟังข้าสิฮยอกแจ”
ให้ตายเถอะ ใสซื่อบริสุทธิ์ต่อเรื่องรักๆ ใคร่ๆ แบบนี้เป็นแองเจิลคิวปิดได้ยังไงกันนะ
“ท่านพูดอะไร” คิวปิดน้อยผู้ใสซื่อชะงักงัน
“ข้ามีวิธีช่วยไม่ให้เจ้ารู้สึกเจ็บแปลบแล้ว เชื่อข้าสิ”
“ท่านจะทำอะไร”
“ช่วยเจ้าไง”
ทันทีที่ร่างเล็กยอมโอนอ่อนต่อเทพหนุ่ม ฮันกยองจึงเชยดวงหน้าจิ้มลิ้มเข้าหาตน ใช้ความใกล้ชิดเป็นสิ่งสะกดใจ ฮยอกแจให้อยู่เฉย ประทับจุมพิตลงบนกลีนปากสีหวานเบื้องหน้าอย่างย่ามใจ
ดวงเนตรสีอ่อนเบิกกว้างอย่างตะลึงงันกับสิ่งที่เกิดขึ้น การกระทำที่มนุษย์เรียกว่าจูบบัดนี้กำลังเกิดขึ้นกับตน แขนเล็กที่ยกขึ้นจะทุบตีถูกรั้งให้บังคับเกี่ยวคอหนา ฮันกยองละเลียดจุมพิตหวานบนริมฝีปากสีฉ่ำด้วยความร้อนแรงจนฮยอกแจรู้สึกปั่นป่วนไปหมด
น่าแปลก... ความรู้สึกเจ็บแปลบน้อยใจที่ตนรู้สึกพลันมลายหายไปสิ้น หัวใจที่เต้นแรงดังระรัวราวกลองสวรรค์ ความรู้สึกอิ่มเอมในใจนี้มาพร้อมกับเกลียวลิ้นหนาที่แทรกความหวานเข้ามาในโพรงปากตนอย่างจาบจ้วง รุกรานและเรียกร้องให้ตนสนองตอบ
“คิวปิดตัวน้อย จูบตอบข้าหน่อยสิ”
ฮันกยองถอนริมฝีปากออกเพื่อบอกคนในอ้อมแขน ดวงหน้าขาวขึ้นสีเรื่อน่ารักน่าชัง แองเจิลหนุ่มเชยคางมนขึ้นอีกครั้งและกดจูบลงไปด้วยหัวใจที่ปรารถนา
ลิ้นหนาสอดเข้ามาในดินแดนแห่งความอ่อนหวาน ชักนำลิ้นเล็กให้พริ้วไหวไปกับตนอย่างชำนิชำนาญ ฮันกยองลืมตาขึ้นมองฮยอกแจที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างเผลอไผลและเผลอใจให้เขาด้วยความเอ็นดู
ก็เจ้าน่ารักขนาดนี้ข้าจะยอมปล่อยไปให้คนอื่นได้ยังไง เนื้อคู่ก็เนื้อคู่เถอะ ข้าจะเผาบัญญัตินั่นแล้วเขียนชื่อข้าลงไปให้รู้แล้วรู้รอด เทพคู่ใจเจ้าจะมีเพียงข้าเท่านั้น
เจ้าน่ะเป็นของข้านะคิวปิดฮยอกแจ
Innocent - Cupid & Couple
Part 2
“ซีวอน!! เร็วเข้าสิ ชักช้าเดี๋ยวไปไม่ทันฮีชอลเปิดร้านนะ”
คยูฮยอนเท้าสะเอวรอตาคุณชายชเวซีวอนที่ชักช้าเหลือ เกิน
“คร้าบๆ ...นี่ขนาดยังไม่แต่งยังบ่นอย่างกับแม่ ตกลงจะเป็นเมียหรือแม่กันแน่วะ”
“บ่นอะไร!!”
“เปล่าคร๊าบเปล่า”
คยูฮยอนย่นหน้าใส่อย่างไม่เชื่อ ไอ้บ้าชเวซีวอนนี่มันเจ้าเล่ห์มาตั้งแต่บังคับให้คบกันยังไงก็ยังเจ้าเล่ห์แบบนั้นอยู่วันยังค่ำ
“คุณหนูคยูคะ คุณลืมกล่องของขวัญไว้บนห้องค่ะ”
“ขอบคุณครับป้าแชยอน” คยูฮยอนรับของขวัญที่ซื้อไว้ให้ฮีชอลมาถือแล้วหันไปปั้นหน้ายักษ์ใส่ซีวอน
“นี่นายกล้าลืมของสำคัญแบบนี้เลยเหรอฮะ ชั้นบอกแล้วใช่มั๊ยว่าให้ดูให้ดี”
“โธ่คุณหนูครับ อย่างอนผมนักเลยครับ ผมไม่ได้ตั้งใจลืมสักหน่อย” ซีวอนเหนื่อยใจ ยิ่งใกล้วันแต่งงานคยูฮยอนก็ยิ่งอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ท่าทีเหมือนคนกังวลอยู่ตลอดเวลา
กว่าจะขอแต่งงานอย่างเป็นทางการได้ซีวอนแทบขู่จะฆ่าตัวตายถ้าคยูฮยอนไม่ยอม ก็ใครจะไปยอมล่ะ เล่นมาขอแต่งงานตอนยังเรียนอยู่ปีสี่ ให้เรียนจบก่อนก็ไม่ได้ คยูฮยอนเวิ่นเว้อจะแต่งหรือไม่แต่งดีอยู่นานจนซีวอนเริ่มท้อใจ สุดท้ายที่ตอบตกลงก็เป็นช่วงที่ซีวอนแทบจะน้ำตาตกในไปแล้ว
ถ้าไม่ติดว่ารักว่าหลงล่ะก็ไม่มียอมให้ข่มง่ายๆ นะเฟ้ย
“ไม่ต้องพูดมาก จะไปมั๊ยฮะ รีบๆ มาขึ้นรถสิ”
“คร๊าบๆ”
ว่าที่คนขับรถชั่วชีวิตของคยูฮยอนรีบทำตามแต่โดยดี ระหว่างทางคยูฮยอนก็ต้องคอยป้อนขนมปังให้ซีวอนที่นั่งข้างๆ อยู่ตลอดเวลาเพราะไม่มีเวลาแม้แต่จะทานข้าวเช้า
ทั้งที่เมื่อวานก็บอกว่าไม่ยอมแล้วแท้ๆ แต่ซีวอนก็ปล้ำเขาจนได้ รอบเดียวยังไม่พอไม่รู้ไปคึกมาจากไหนถึงได้มีแรงมากมายขนาดนั้น
ทำไมนะ นับวันซีวอนมีแต่จะบ้ารักเขาขึ้นทุกทีๆ ไม่เคยรู้จักเพลาๆ ลงบ้างเลย
ชิ ไอ้คนไม่รู้จักเห็นใจคู่หมั้น
คอยดูนะ คืนแต่งงานนี่แหละชั้นจะจับนายทำเมีย!!
พอรถจอดเข้าที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าซีวอนก็คว้าของขวัญและลงจากรถรีบวิ่งมาเปิดประให้ว่าที่ภรรยาอย่างรวดเร็วทันใจ
งานเปิดตัวห้องเสื้อของคิมฮีชอลเจ้าแม่แฟชั่นนิสตาอันดับต้นๆ ของเกาหลีมีนักข่าวจำนวนมากให้ความสนใจ แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ก้าวเข้างานคยูฮยอนก็รั้งซีวอนไว้
“อะไรเหรอคุณหนูคยู”
“มานี่ก่อนซิ”
เนคไทที่บิดเบี้ยวถูกจัดให้เข้าที่เข้าทาง แม้คยูฮยอนจะปากร้ายและเป็นจอมโวยวายขนาดไหนแต่หน้าที่ของคู่หมั้นคนๆ นี้ก็ทำให้ไม่เคยขาดตกบกพร่อง วินาทีนี้ยิ่งทำให้ซีวอนมั่นใจว่าเขาเลือกคู่ชีวิตไม่ผิดคน
ซีวอนยิ้มกริ่มหลังจากคยูฮยอนปัดชายเสื้อให้เป็นลำดับ
สุดท้าย ชายหนุ่มประสานมือกับคนร่างโปร่งที่นับวันยิ่งน่ารักสำหรับเขามากขึ้นไปทุกทีเข้าไปในงานอย่างสง่าผ่าเผย
“โฮะ นี่เพื่อนพวกนายเปิดร้านทั้งทีไม่คิดจะมาก่อนชาวบ้านเขาเลยใช่มั๊ยเนี่ย” ฮีชอลโวยวายตามนิสัย
“อ่า ขอโทษนะฮีชอล พวกชั้นตื่นสายไปหน่อย”
“ไม่ต้องบอกก็รู้คยูฮยอน เห็นท่าเดินนายแล้วชั้นก็พอจะนึกภาพออก” ฮีชอลทำเพื่อนสนิทอีกคนหน้าแดงอีกแล้ว คยูฮยอนยื่นของขวัญให้ทั้งใบหน้าขึ้นสีเรื่อ
“คอยดู วันแต่งพวกนายชั้นจะโผล่ไปขโมยซีนบ้าง”
“ฮา ฮา ฮา ตลกฝืดมาก - -;;” ซีวอนถึงกับยิ้มไม่ออก
“พวกนายไปหาอะไรกินตรงนู้นก่อนสิ ชั้นให้เด็กในร้านเตรียมไว้ให้แล้ว เรียกคิบอมออกมาให้ด้วยนะ”
“คิบอมมาแล้วเหรอ”
“รายนั้นน่ะมาช่วยเปิดร้านเลยด้วยซ้ำ รีบๆ เข้าไปได้แล้ว อย่าลืมเรียกคิบอมให้ชั้นล่ะ”
“ได้ๆ แต่ใครจะไปรู้ล่ะฮีชอล นึกว่างานถ่ายละครจะรัดตัวซะอีก เป็นดาราดังไปแล้วนี่”
คู่สามีภรรยาในอนาคตเดินเข้ามาด้านในของร้านที่ยังมีนักข่าวพลุกพล่านไม่มากนัก มองหาเพื่อนสนิทของตนได้ไม่นานก็พบ ในเมื่อเหล่าพนักงานพากันจ้องคิบอมตาเป็นมันแบบ
นั้นจะไม่เจอได้ยังไง
“สวัสดีคิบอม”
ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลาเป็นที่รู้จักของคนทั่วทั้งประเทศเงยหน้าขึ้นจากบทละครที่กำลังอ่าน แว่นสายตาอันเดิมที่เคยเห็นบ่อยๆ ถูกถอดออกพร้อมเสียงทักกลับ
“มาแล้วเหรอคยูฮยอน ซีวอน นั่งก่อนสิ”
“อื้อ คิบอม วันนี้นายไม่มีงานหรือไง เห็นฮีชอลบอกมาตั้งแต่เช้า”
“ผมมีงานตั้งเย็นๆ น่ะครับ ฮีชอลให้มาเช้าเพราะจะให้นักข่าวตีข่าวแรงๆ” เขายิ้มบางๆ
“เฮ๊ย ตกลงมันเอาจริงเหรอน่ะ” คยูฮยอนตกใจ
“ครับ เขาให้บทผมมาแล้วนี่ไง” คิบอมชูกระดาษที่ตอนแรกทั้งซีวอนและคยูฮยอนต่างคิดว่าเป็นบทละครให้ดู
เมื่อถึงเวลาสัมภาษณ์ของนักข่าวนักแสดงชื่อดังก็ขอตัวออกมาหน้าร้านพร้อมกับฮีชอล เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นพร้อมแสงแฟลชที่สว่างวูบวาบ ถ่ายภาพดาราที่กำลังเป็นที่จับตามองกับคิมฮีชอล โกดมีนัมผู้เลื่องชื่อในด้านความสวยงามขนาดที่ผู้หญิงยังอายเดินมาพร้อมกัน
“การเปิดตัวห้องเสื้อของคุณฮีชอลไม่ทราบว่าคุณคิบอมได้ช่วยเหลือด้านการเงินหรือเปล่าคะ”
“ผมเป็นเพื่อนรับฟังงานของฮีชอลเท่านั้นครับ ทั้งหมดนี้คือความสำเร็จของฮีชอลเพียงคนเดียว” คิบอมยิ้มตอบคำถาม แขนหนาของชายหนุ่มมีแขนเล็กเกี่ยวอยู่ตลอดเวลา ฮีชอลยิ้มสวยให้ทุกกล้องที่จับจ้องมาที่เขา ในขณะที่คิบอมมีสีหน้าปกติ เหมือนทุกครั้งที่ให้สัมภาษณ์นักข่าว
“แล้วความสัมพันธ์ของคุณสองคนคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว”
“เพื่อนสนิทครับ”
“มีโอกาสพัฒนาไปเป็นแฟนหรือเปล่าครับคุณฮีชอล”
นักข่าวเปลี่ยนเป้าหมายเมื่อดูท่าคิบอมคงให้ข่าวเหมือนเดิม ฮีชอลยิ้มหวาน แม้การสัมภาษณ์จะไม่ได้เกี่ยวกับร้านของเขามากนักแต่นี่ก็เป็นทางหนึ่งที่จะใช้นักข่าวพวกนี้โฆษณาร้านให้
“ก็คงต้องดูไปเรื่อยๆ อ่ะนะฮะ” ฮีชอลยิ้มทะเล้น คิบอม หันขวับมาหาเพื่อนสนิทตัวเองที่ทำอะไรแบบนั้น แต่แรงบีบที่แขนก็สั่งให้เขาตีหน้าปกติและตอบคำถามต่อไป
“ฮีชอล ทำไมตอบนักข่าวแบบนั้น”
“เฮ่อ ว่าแล้วว่าต้องโกรธ โทษทีนะคิบอม แต่โอกาสโฆษณาร้านของชั้นลอยมาอยู่ตรงหน้าถ้าไม่ตีข่าวให้ระเบิดมันก็ชวดกันหมดนะ”
“แต่ผม...”
“น๊าๆๆ เราเป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้ว นายน่าจะรู้จักนิสัยชั้นดีนะคิบอมเพื่อนร๊ากกกกก ยืมชื่อเป็นข่าวด้วยหน่อยนะเพื่อน ฮ่าๆๆ”
ฮีชอลหัวเราะร่าแล้วเดินจากไปจัดการหน้าร้านต่อ คยูฮยอนกับซีวอนได้แต่มองหน้ากัน ท้ายแล้วคยูฮยอนจึงบอกให้ซีวอนออกไปรอเขาด้านนอก
“คิบอม นายไม่มีปัญหาอะไรใช่มั๊ย มีข่าวแบบนั้นแล้วมันกระทบกับงานนายหรือเปล่า”
“เปล่าหรอกครับคยูฮยอน ผมก็แค่...”
“เฮ่อ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เรียนม.ปลายยันจะเรียนจบมากี่ปี นายยังไม่ไว้ใจชั้นอีกเหรอ”
“เปล่าหรอกครับ”
“แล้วมันเรื่องอะไรกันล่ะ”
“ผมกลัวทงเฮเข้าใจผมผิด แค่ผมช่วยฮีชอลเรื่องสร้างกระแสคบกันผมก็กลัวเค้าเข้าใจผิดจะแย่แล้ว แถมตอนนี้ยังมีเรื่องแบบนี้อีก” ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความพะว้าพะวงและกังวลอย่างถึงที่สุด
“ทงเฮ...? คนที่นายบอกว่าเป็นคนรักของนายน่ะเหรอ”
“ครับ”
“เรื่องมันผ่านมาหลายปีแล้วไม่ใช่เหรอคิบอม ทำไมนายยังฝังใจไม่เลิกอีกล่ะ”
“ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี หรือมันจะผ่านไปอีกนานแค่ไหน เขาก็คือคนๆ เดียวที่ผมรักครับคยูฮยอน”
“ชั้นไม่เข้าใจ นายเป็นดารา มีชื่อเสียง มีคนที่พร้อมจะรักนายเยอะแยะ ทำไมถึงได้ปักใจกับคนๆ นั้นมากมายขนาดนี้”
“เพราะเขามองเห็นผมในตอนที่ผมไร้ตัวตน ...วันที่ผมไม่ใช่ดาราดัง เป็นเพียงผู้ชายธรรมดาหน้าตาเชยๆ ที่คนรอบข้างไม่มีใครอยากจะเข้าใกล้ มีแค่ทงเฮเท่านั้นที่บอกกับผมว่าเขารักผม”
“ผมทรยศคนที่รักผมด้วยใจบริสุทธิ์โดยการลืมเขาไปจากหัวใจไม่ได้หรอกครับ”
ทงเฮ... สัญญาของเรา
ผมจำได้ไม่เคยลืม
รีบกลับมาหาผมนะครับที่รัก
-----------------------------
ตอนหน้าก็จบแล้วเน้อ
ยังมีฟิคขายอยู่นะจ๊ะ ^______^
ความคิดเห็น