คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ
MISSION 2
ตะวัน I PA002
------------------------------------------------------------------
‘Anatomy’
ชื้น
อับ
กลิ่นของยา
กลิ่นของเลือด…
“แค่ก!” ทันทีที่ลืมตาขึ้นทั้งฝุ่น ทั้งกลิ่นอับชื้น กลิ่นจางๆของยาและกลิ่นคาวเลือดก็ทำเอาเขาแสบทั้งจมูกและคอจนสำลักออกมา ตะวันกระพริบตาหลายๆรอบเพื่อไล่ความงุนงงและตบเบาๆที่หน้าเพื่อเรียกสติ ความทรงจำสุดท้ายของเขาคือกำลังนั่งเรียนอยู่ในห้อง และหลังจากจบคาบก็มีควันสีดำลอยขึ้นมาจากใต้โต๊ะ แล้วเขาก็หลับไป ไม่สิ เรียกสลบไปน่าจะเข้าเค้ากว่า
ให้ตาย ปากกาเลคเชอร์ยังไม่ได้เก็บเลยด้วยซ้ำ
แล้วที่นี่ที่ไหน
ตาคมกวาดมองไปรอบตัวอย่างครุ่นคิด เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อมองสภาพห้อง หรืออาจจะเรียกว่า ‘คลังยา’ ที่ดูเก่าและ ‘เละ’ เกินกว่าจะเป็นโรงพยาบาลที่เปิดให้ใช้บริการ เด็กหนุ่มคาดเดาว่าเขาคงถูกนำมาปล่อยไว้ที่โรงพยาบาลร้างที่ไหนสักแห่งเพื่อทำตามภารกิจที่ได้รับมา
ร่างสูงค่อยๆลุกขึ้นยืนแล้วปัดฝุ่นที่ติดอยู่ตามเสื้อผ้าออก ก่อนจะสำรวจกระเป๋าที่ติดมาด้วยกัน เมื่อค้นพบว่าในนั้นมีแค่ปากกากับสมุดเขาก็ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะคว้าเป้ขึ้นสะพายบ่าแล้วออกเดินออกไปจากห้องยาเพื่อมุ่งหน้าไปยังห้องเก็บเครื่องมือผ่าตัด อ่า มันน่าจะเรียกแบบนี้ล่ะนะ
สารภาพตามตรงว่าเขาไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับวิชาชีวะ มันไม่ได้ดีและไม่ได้แย่ เขาไม่ได้มีความฝันว่าอยากเป็นหมอและที่บ้านก็ไม่ได้อยากให้เป็น ความรู้ที่พอจะติดหัวมาก็น่าจะมีแค่ผ่าไก่ ผ่ากบกับผ่าหัวใจหมูที่ อ.เก็บคะแนนในคาบชีวะ
แต่ผ่าศพนี่ไม่เคยนะ แล้วก็ไม่คิดว่าจะมีเด็กอายุสิบเจ็ดปกติคนไหนเคยด้วย
“...ที่นี่นี่มัน สุดๆไปเลยนะ” เขาพึมพำออกมาขณะก้าวเท้าไปตามแผนผังโรงพยาบาลที่วาดคร่าวๆหลังจากคลำทางไปที่ (ที่น่าจะเคยเป็น) ประชาสัมพันธ์และพยายามแกะภาพแผนผังที่แปะไว้ สภาพของโรงพยาบาลแห่งนี้นี่ดูไม่จืด เมื่อกี้เหมือนเขาเห็นภาพประวัติของที่นี่ แต่ช่างเถอะ เป้าหมายของเขาคือการผ่าศพแล้วก็เรียนรู้ ไม่ใช่ประวัติโรงพยาบาล
แกร๊ก
เด็กหนุ่มค่อยๆบิดลูกบิดประตูห้องเก็บเครื่องมือออก ก่อนจะมองเข้าไปด้านใน ที่เหมือนจะ...มีคนอยู่? ตะวันค่อยๆปิดประตูลงอย่างเงียบเชียบ สมองกำลังวิ่งวุ่นอย่างหนักเพื่อเปรียบเทียบภาพของคนตรงหน้ากับคนที่เขารู้จักในขณะที่ค่อยๆสาวเท้าเข้าไปใกล้
นี่มัน...
เด็กหนุ่มโยกตัวหลบกำปั้นลุ่นๆที่อีกฝ่ายพลิกตัวกลับมาต่อยสวนในขณะที่เขากำลังเข้าไปใกล้ ก่อนจะเกร็งหลังเพื่อบรรเทาความเจ็บเมื่อรู้สึกว่าโลกกำลังพลิกกลับด้าน
โอเค เขารู้อยู่แล้วว่ามันต้องมาจบอีหรอบนี้
ตะวันยิ้มมุมปากนิดๆเมื่อมองคนที่กดตัวเองลงกับพื้นแล้วเงื้อมือจะต่อย เมื่ออีกฝ่ายเห็นหน้าเขาชัดๆก็ตามมาด้วยเสียงถอนหายใจหนักๆก่อนที่น้ำหนักตัวที่กดทับจะหายไป
ขอบคุณสวรรค์ที่ด้านหลังของเขามีกระเป๋าเป้ ไม่งั้นหลังคงเดาะไปแล้ว
“บาย” เขากล่าวเบาๆเมื่อได้ยินเสียงอีกฝ่ายบิดลูกบิดประตูไปพร้อมๆกับของบางอย่างในมือ ให้ทายเขาว่า เอก คงได้ของที่ต้องการแล้ว
เด็กหนุ่มยันตัวขึ้นมาก่อนจะบิดกล้ามเนื้อเล็กน้อยเพื่อคลายอาการปวด แล้วค่อยๆยืนขึ้นเพื่อหาของที่ตัวเองต้องการ ดวงตาสีม่วงเข้มค่อยระลึกความหลังที่ตัวเองเคยเรียน ก่อนจะเดินไปที่เคาน์เตอร์แล้วหยิบมีดผ่าตัด มีดตัดกระดูก คีมคีบเนื้อเยื่อและถุงมือหมอสีขาวๆออกมา มันอาจจะดูเหมือนง่ายๆ แต่จริงๆไม่เลย เขาแทบจะต้องค้นทุกซอกทุกมุมเพื่อหาของพวกนี้ที่สภาพก็ค่อนข้างที่จะเก่า...มาก แต่เอาเถอะ เขาเอาไปผ่าศพนี่นะ ถ้าผ่าคนเป็นๆนี่คงต้องคิดหนักหน่อย
ตะวันเปิดซองถุงมือออกแล้วสวมเข้าไปที่มือทั้งสองข้าง ใจจริงเขาอยากจะใส่แมสก์ด้วย แต่จากสภาพฉีกขาดที่เจอเมื่อกี้ เขาว่าไม่ใส่น่าจะโอเคกว่า ก่อนจะค่อยๆถืออุปกรณ์ผ่าตัดทั้งสามอันแล้วเดินออกไปด้านนอก
จริงอยู่ที่ที่นี่มีศพมากมาย แต่เขาอยากจะหาคนที่สภาพดูสมบูรณ์และผ่าดูได้ง่าย
อย่างเช่นศพคุณประชาสัมพันธ์ที่นอนอยู่บนเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เมื่อกี้
เด็กหนุ่มเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ที่โรงพยาบาลแห่งนี้มีศพอยู่หลายประเภท ทั้งที่ยังใหม่และทั้งที่กลายเป็นเศษซากแห้งๆ กลิ่นคาวเลือดบางจุดก็คละคลุ้งราวกับเพิ่งเกิดเมื่อวาน บางจุดก็หลงเหลือแต่คราบแห้งกรัง ทำให้เขารู้สึกสงสัยอยู่ในใจ แต่บางเรื่องไม่รู้ก็คงดีกว่า
“ขออนุญาตนะครับ” เขาเอ่ยขึ้นมาเบาๆก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปถอดชุดสูทที่หญิงสาวสวมใส่อยู่ออก โรงพยาบาลแห่งนี้น่าจะเชี่ยวชาญเกี่ยวกับระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ ถ้าวัดจากป้ายประชาสัมพันธ์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับตำแหน่งกล้ามเนื้อที่วางอยู่เรียงราย
ด้านในเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์นั้นไม่สูงมาก แต่กว้างพอที่จะให้หญิงสาวคนหนึ่งนอนราบไปได้ ศพที่เขากำลังจะผ่าเปิดดูนี้ยังค่อนข้างใหม่ ตะวันค่อยๆลงมีดเพื่อเลาะหนังกำพร้าของหญิงสาวออกไปตามช่วงแขนและมือ เมื่อทำการลอกชั้นหนังกำพร้าออกไปเรียบร้อยแล้ว เขาก็ลงมีดตามตำแหน่งที่ได้ระบุไว้ตามป้ายที่ให้ความรู้ ตะวันค่อยๆลงมีดผ่าไปตามช่วงแขนและกล้ามเนื้อ เมื่อทำการผ่าแยกชิ้นส่วนเรียบร้อยๆเขาก็ค่อยๆถอดถุงมือและหยิบปากกาขึ้นมาจดชื่อและหน้าที่ของกล้ามเนื้อส่วนที่ได้ผ่าออกมา ป้ายนิเทศที่วางอยู่ข้างๆได้กลายเป็นแหล่งข้อมูลของเขาไปแล้ว และวาดรูปจำลองชิ้นส่วนจริงที่ได้ผ่าออกมาเพื่อไม่ให้การผ่านั้นเสียเปล่า
“ขอบคุณมากครับ” เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดแล้วตะวันเอ่ยขอบคุณศพตรงหน้าและเอาชุดสูทมาคลุมร่างและชิ้นส่วนที่เลาะออกมาเพื่อเป็นการให้เกียรติ แล้วเดินออกไปจากเคาน์เตอร์เมื่อเขาได้รับข้อความว่าภารกิจเสร็จสิ้นและจะมีคนมารับเขากลับไปที่โรงเรียนผู้รอดอีกครั้ง...
-End-
ความคิดเห็น