คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : CH3:สวัสดีโรงเรียนใหม่
“แคนดี้เลทเทอร์?” พูดไปก็พลิกห่อลูกอมไปมา แสงสีเหลืองนวลส่องไปตามใบหน้าอีกฝ่าย
ใช่ลูกอมที่พี่โซราเคยเล่าป่ะวะ?
“ครูครับ ขอไปคุยโทรศัพท์แป๊ปนะครับ”
ไม่รอให้เจ้าของคาบบอกอนุญาต ก็สาวเท้าเปิดประตูบานเลื่อนเดินออกนอกห้องไปตรงดิ่งไปยังห้องน้ำ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครคนหนึ่ง
ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก......
......T_T
ร่างบางได้แต่ทำหน้าเศร้าก่อนจะยัดมือถือลงไปในกระเป๋ากางเกง เปิดน้ำมาล้างหน้าเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองกระจกตรงหน้า
“สวัสดี”
“!!!”
คนตัวเล็กหันหลังกลับไปมองอย่างรวดเร็ว เมื่อพบกับชายแปลกหน้าที่แต่งตัวด้วยชุดสูทสีดำสนิทตัดกับเชิ้ตขาวที่เนคไทตรงกลางถูกปลดออกมาพร้อมทั้งกระดุมสองสามเม็ดบนตัวเสื้อและใบหน้าประกอบไปด้วยแว่นตากันแดดขอบสีดำ
“นี่!จะออกมาทำไมเล่า” ผู้ชายตัวเล็กกว่าเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อสูทเหมือนคนตรงหน้าผม ทำหน้าเหวี่ยงเหมือนอีกฝ่ายทำอะไรเสียแผนปล่อยให้คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรปล่อยคนอย่างผมยืนโง่ประกอบฉาก
“พวกนายเป็นใคร?” เพื่อไม่ให้ดูตัวเองโง่ไปกว่านี้เลยเอ่ยปากถามสองคนในร่างชุดสูทที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“นายกินลูกอมรึยัง?” คนที่ดูตัวสูงกว่าถอดแว่นกันแดดออกก่อนจะถาม
“ห่ะ? ย...ยัง”
“เยส! ฉันบอกแล้ว อย่าลืมสามร้อยเบคที่สัญญานะพี่เยซอง J” ใบหน้าเล็กเผยยิ้มออกมาอย่างสะใจ ก่อนที่คนตัวสูงกว่าจะยีผมตัวเองด้วยมือข้างเดียวอย่างอารมณ์เสีย
“เออน่าเรียวอุคใช่เรื่องที่ควรพูดตอนนี้มั้ย” เจ้าของชื่อ’เยซอง’เอามือปิดริมฝีปากบางของคนตัวเล็กกว่าไม่ให้พูดอะไรออกมาอีก เรียวอุคได้แต่ส่งเสียงอื้ออึงในลำคอก่อนจะยอมเงียบปากลง
“ดะ..เดี๋ยว ถ้ากินไปแล้วจะทำไม?”
“ช่างมันเหอะ จะไปกันรึยัง” คนตัวสูงพูดไปก็พลางเอามือล้วงกระเป๋าด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“ไปไหน?”
เดี๋ยวนะ เดี๋ยวววววว ไปไหนจะไปไหนกัน *ได้แต่กรีดร้องในใจ*
“โรงเรียนไง beyond school ไง อ้าวไม่รู้จักหรอ?” เรียวอุคหันมามองผมก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อผมตอบคำถามแบบนั้นไป
“รู้จัก แต่จะไปตอนนี้เลยหรอ?”
“ก็เออสิ จะรออะไรล่ะ” เยซองตอบ ก่อนเอื้อมแขนมาคว้าคอปกเสื้อนักเรียนของผม
“เห้ย ทำอะไรวะ!”
ไม่รู้ว่าเพราะตัวเองตัวเบา ตัวเตี้ย หรือจะอะไรก็ตามที่ด้อยกว่าอีกคน ทำให้ผมตัวลอยขึ้นมาจากพื้นได้จากแรงของคนตัวสูงมือเดียว ขาของผมเตรียมพร้อมที่จะสะบัดไปโดนอีกฝ่าย แต่ไม่ทันที่จะทำแบบนั้น..
&@^$^&$*^@$^*
เสียงอื้ออึงน่ารำคาญดังขึ้นมาก่อนจะตามด้วยแสงสีขาวสว่างจนต้องหยีตาแล้วปิดหู นี่มันเสียงบ้าอะไรเนี่ย รอสักพักเสียงก็เงียบลงพร้อมกับแสงสว่าง ก่อนที่ผมจะลืมตาขึ้นมา
“เห้ย....ที่นี่มัน...” ทันทีที่เปลือกตาถูกเปิดขึ้นสถานที่รอบข้างผมก็เปลี่ยนไป ปราสาทขนาดใหญ่ภายใต้กรอบรั้วสูงอยู่ตรงหน้าก่อนจะเหลือบไปเห็นป้ายสีน้ำตาลอักษรสีทองขนาดใหญ่ตั้งเด่นอยู่ติดกับประตูทางเข้า
‘Beyond Regular st.’
ไม่ทันจะอะไรอยู่ๆทัศนวิสัยก็ถูกบดบังโดยร่างสูงทำให้ผมต้องเงยหน้าไปสบตา
“ขอแนะนำอย่างเป็นทางการอีกรอบล่ะกัน ที่นี่ Beyond Regular หรือก็คือบีอาร์นั้นแหละเดี๋ยวต้องรอรอบรถเวียนหน่อย” ร่างสูงพูดพลางปาดเหงื่อออกจากใบหน้าลวกๆก่อนที่คิมเรียวอุคจะหยิบทิชชู่ยื่นให้ เมื่อกี้นี้ตอนที่อยู่ในห้องน้ำทั้งๆที่ร้อนกว่าก็ยังไม่เห็นจะมีเหงื่ออะไรเลย
เดี๋ยวนะ
ก่อนหน้านี้เราอยู่ที่ห้องน้ำนี่....
เห้ย!!!!!!!!!
“แล้วกูมาอยู่ที่นี่ได้ไงวะ!!!!”
“เฮ้! เงียบๆหน่อย พึ่งรู้ตัวรึไง เดี๋ยวค่อยอธิบายน่า” คนรอบข้างที่เดินขวักไขว่ไปมาหันมามอง คนตัวเล็กถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปาก ก็คนมันตกใจนะเห้ย
“เอ้ย อะไอ่ออิอายหอ่อยอ่อ” (เห้ย จะไม่อธิบายหน่อยหรอ) แม้จะถูกปิดปากแต่ก็พยายามที่จะอ้าปากพูดไม่เลิก
“ตอนนี้นายเป็นบุคคลสำคัญของประเทศแล้ว อย่าทำตัวเป็นจุดเด่นให้สิ” เยซองกระซิบเบาๆที่ข้างใบหูผม ก่อนที่คนตัวเล็กข้างหน้าจะเอามือออก เปิดปากให้ผมพูดได้เมื่อเห็นท่าว่าดูสงบสติอารมณ์แล้ว
ทันทีที่รถตู้สีขาวมาจอดเทียบกับฝั่งที่ยืนอยู่ เมื่อเปิดประตูออกมาทั้งสองคนจะดันให้ผมเข้าไปในรถตู้
“บอกลาโลกภายนอกได้เลยนะ” ไม่ว่าเปล่ามือหนาก็เอื้อมไปปิดประตูรถตู้ด้วย
“?”
“เพราะนายจะไม่ได้ออกมาอีกสองปี” คนตัวสูงกว่าพูดจบก็ล้มตัวลงกับเบาะก่อนจะหยิบแว่นกันแดดสีดำมาใส่
“เห้ย!งั้นหมายความว่า..” อีฮยอกแจถึงกับกลืนน้ำลายลงคอแต่ไม่ทันได้พูดอีกประโยคถัดมาเรียวอุคก็แทรกขึ้น
“นายมีสิทธิอยู่ได้แค่ในบริเวณโรงเรียนจนกว่าจะครบสองปี อ่อ หมายถึงขั้นต่ำนะ”
ขั้นต่ำ!!!
นี่โรงเรียนหรือคุกวะ...
“เห้ยเดี๋ยว! แล้วพ่อแม่....”
เออลืมไป ขนาดกลับบ้านทุกวันก็แทบจะไม่ได้เจอหน้าเลยนี่....
“ก็คงต้องส่งจดหมายเหมือนนักเรียนคนอื่นนั้นแหละ” คนตัวเล็กกว่าตอบคำถามให้หายข้องใจ
“เดี๋ยว แล้วโทรศัพท์อ่ะไม่ได้หรอ” ผมชูเครื่องมือสื่อสารในมือ นี่ผมก็ไม่คิดนะว่าโรงเรียนในเมืองขนาดนี้จะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์หรอกนะ=_=
“ที่นี่เขาไม่ให้ใช้โทรศัพท์” พูดจบคนที่ใส่แว่นตากันแดดก็หยิบโทรศัพท์ไหนมือผมไปดื้อๆก่อนจะยัดใส่กระเป๋าเสื้อสูทตัวเองลงไป
แต่คนอย่างฮยอกแจจะยอมให้ใครเขาเอาสมบัติล้ำค่าไปดื้อๆรึไง
เจ้าของเรือนผมสีทองคว้าหมับเข้าที่เสื้อสูทไม่ให้อีกฝ่ายได้ทันตั้งตัว ก่อนจะล้วงมือลงไปในกระเป๋าที่หน้าอกข้างซ้ายอย่างรวดเร็ว
เห้ย..
“มันหายไปไหน!” ผมพูดขึ้นเสียงดัง ตะกี้เห็นกับตาเลยด้วยซ้ำว่าคนตัวสูงเอามือถือของตัวเองยัดใส่ลงไปในกระเป๋าเสื้อสูท แต่ทำไมเมื่อกี้พอล้วงมือเข้าไปกลับไม่พบอะไรเลย จะบอกว่ามีรูก็ไม่น่าใช่เพราะเมื่อกี้ฮยอกแจก็ล้วงลงไปจะสุดก้นกระเป๋าด้วยซ้ำ
ยังคงไม่ยอมแพ้ ผมล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงอีกคนทั้งสองข้างแต่ก็ไม่พบอะไรเลย เจ้าของเสื้อผ้าทำหน้าเอือมๆก่อนจะยอมถอดเสื้อสูทส่งมาให้เมื่อผมขอ แต่ไม่ว่าจะค้นยังไงก็หาไม่เจอ
“นี่หยุดเถอะ” คนตัวเล็กที่นั่งมองอีกฝ่ายค้นเสื้อสูทของรุ่นพี่คนสนิท “ตอนนี้มันไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วน่า”
“จะไม่อยู่ได้ไง เมื่อกี้นายไม่เห็นหรอว่าไอ้...”
ชื่ออะไรนะ...
“เยซอง” เจ้าของชื่อพูดเติมให้
“เห็น แต่จะให้อธิบายก็คงยาว” เรียวอุคกอดอกตอบคำถามก่อนจะเปิดม่านรถตู้เมื่อเห็นบรรยากาศภายนอกใกล้จะถึงที่ที่เขาจะต้องพาไอ้หัวทองไป
“อีกอย่างก็คงไม่เข้าใจด้วย ลงกันเหอะ”
พร้อมทั้งลากผมลงจากรถ
.
.
ตรงนี้เป็นเหมือนกับปราสาทขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่โดยมีสนามหญ้าสีเขียวชอุ่มล้อมรอบทั่วอาณาเขตผมมองไปรอบๆโดยรวมแล้วเหมือนกับปราสาทมากต่างแค่ว่ามีป้ายสีน้ำตาลเข้มประดับไปด้วยตัวอักษรสีเงินขอบทองเรียงกันเป็นคำว่าOFFICE
โห กูเข้ามาที่ไหนวะเนี่ย...
“เดี๋ยวต้องเข้าไปรายงานตัวกันก่อน” พูดจบก็พากันเดินเข้าไปข้างใน
ทันทีที่เท้าเหยียบเข้ามา ทุกอย่างดูอย่างกับในวังมากไหนจะโคมไฟอลังการงานสร้างที่อยู่เหนือหัวหรือจะเป็นบันไดคดโค้งไปมาที่ตรงหัวบันไดเป็นรูปสิงโตสีทอง นี่ถามจริงอย่าบอกนะว่ารัฐบาลเอาเงินมาลงกับโรงเรียนนี้หมดเลยน่ะ-_-
ทั้งสองคนพาผมเดินเข้ามาในตัวตึกเรื่อยๆจนมาหยุดที่หน้าห้องๆหนึ่งก่อนที่เยซองจะเอื้อมมือไปเคาะเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงอนุญาตก็เปิดประตูเข้าไป
“อ้าวผอ.ไม่อยู่หรอครับ” เรียวอุคถามขึ้นทันทีที่ปิดประตูห้องแล้ว
“สงสัยไปประชุมน่ะ นี่เด็กใหม่ที่ว่าน่ะหรอ”
นี่มันใครฟ่ะเนี่ย!
ฮยอกแจได้แต่คิดอยู่ในใจพร้อมกับมองร่างที่สูงกว่าตัวเองเกือบเท่าตัว(ปวดคอโว้ย) ก่อนจะยื่นถุงกระดาษมาให้
“อันนี้เครื่องแบบกับระเบียบการ โชคดีนะ” ทันทีรับถุงมา อีกฝ่ายก็โบกมือแล้วเดินสวนกับผมไปที่ทางประตู
“เดี๋ยวสิ ซีวอน!!” ไม่ฟังเสียงเรียกจากเยซองหรือเสียงใครก็ตาม มือหนาเอื้อมไปหมุนลูกบิดประตูให้เปิดออก ก่อนจะเจอเข้ากับใครสักคน ทั้งสองทักทายกันก่อนที่มือหนาของซีวอนจะเอื้อมไปลูบหัวอีกฝ่ายพร้อมกับคำพูด
“ฝากดูแลเด็กใหม่ด้วยนะ” ก่อนจะยิ้มบางๆให้อีกฝ่ายแล้วเดินจากไป ปล่อยให้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูเข้ามา
“เห้ย!/เห้ย!”
_________________________________________________________________________________________________
กลับมาแล้ววว หลังจากหายไปนานTvT
ตอนนี้เป็นตอนที่แต่งแล้วเมื่อยมาก โฮก
ท้อจริงไรจริง
ตอนแรกว่าจะแต่งเรื่องใหม่แล้ว กำลังจะลบต้นฉบับอันนี้เลย
แต่กลับมาอ่านก็เห็นว่าเออความจริงเราก็อยากจะแต่งต่อนะ
หวังว่าจะคุ้มการรอคอย(?)นะคะ อิ__อิ
ฝากเม้นหรือติดชมด้วยนะคะ
หรือจะ#ฟิคบียอนในทวิตก็ได้
ขอบคุณทุกคอมเม้นเด้อ♥
@DHsand
#ทักมาได้หมาไม่กัด
#สูบชีวิตชิบ
ความคิดเห็น