คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CH2:สวัสดีคาบภาษาไทย
ชั้นบนสุดของตึกมัธยมปลาย น้อยคนนักที่จะรู้ว่ามีทางขึ้นมาได้ ขอบตาข่ายที่กั้นคนตกลงไปก็ได้จับจองด้วยเจ้าของเส้นผมสีน้ำตาลเข้มที่กำลังเฝ้ารอใครซักคนอยู่
“เรียกมาทำไมเนี่ย กูกำลังทำเวรเลย” อึนฮยอกที่กำลังค่อยๆปีนบันไดขึ้นมาจากเพดานชั้นบนสุดก่อนจะมาถึงดาดฟ้าของโรงเรียน
“นั่งก่อนดิ เดี๋ยวปราณีตมา” ชื่อครูสุดโหดประจำห้องฝ่ายปกครองหลุดออกมาจากปาก จะไม่นั่งก็จะหาเรื่องใส่ตัวใช่ย่อย ทั้งสองทรุดตัวลงก่อนจะพิงขอบตาข่ายโดยที่อีกด้านโดนบังไว้ด้วยแท้งน้ำขนาดใหญ่
“วันหลังนัดที่อื่นเหอะ เหม็นบุหรี่ว่ะ เสื้อดำอีก” พูดไปไม่ทันขาดคำ คนตัวสูงก็เอานิ้วเรียวไปปาดพื้นที่เต็มไปด้วยฝุ่นหนาทำท่าทีจะมาป้ายกางเกงสีน้ำเงินของผม ไม่รอช้าเอื้อมมือไปตีหัวเหมือนเดิม เดี๋ยวเหอะมึงพึ่งบอกไปอยู่ว่ากลัวเสื้อดำ-_-
“เล่นไม่รู้เรื่อง สรุปมีไรเนี้ยถ้าไม่มีกูจะไปทำเวรต่อล่ะ” มองหน้าทำเป็นเคืองไปงั้นล่ะครับ ความจริงอยู่บนนี้นานๆหน่อยก็ดีขี้เกียจลงไปเช็ดกระจก แต่ประเด็นคือคุยที่อื่นได้มั้ยเหม็นบุหรี่โว้ย
“มึง”
“อะไร” โอ้ยแสบจมูกโว้ย ดูดอยู่นั้นแหละบุหรี่อ่ะเดี๋ยวโทรให้ปราณีตขึ้นมาจับเลย
“ถ้ากูชอบม....”
ปึง!
“มาแอบอยู่ที่นี่เอง ทัณฑ์บนรอบที่แล้วมันไม่ได้เข้าสมองเลยใช่มั้ย!”
เสียงร้องโอดอวยของเด็กนักเรียนที่อยู่อีกฟากดาดฟ้าก่อนจะตามมาด้วยเสียงกระทืบเท้ากันยกใหญ่ก่อนที่กลิ่นบุหรี่จะค่อยๆหายไป คาดเดาว่าน่าจะโดนให้ดับบุหรี่และจากเสียงไม้เรียวแล้วท่านคุณครูปราณีตน่าจะมาเยือน พูดไม่ทันคาดคำเลย แหะๆ
และแน่นอนคนฉลาดอย่างคยูฮยอนไม่ปล่อยให้นั่งโง่โดนจับเข้าห้องปกครองหรอกครับ คนตัวสูงรีบดึงตัวผมให้ลงบันไดทางเดิมที่ขึ้นมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องน้ำชายโชคดีที่ภารโรงยังไม่ล็อคพอดี ได้แต่ยืนหอบอยู่ในห้องน้ำก่อนที่คนตัวเล็กจะเปิดก๊อกน้ำมาวักล้างหน้า
“เกือบซวยแล้วไง” แขนแกร่งค่อยๆปาดเหงื่ออกจากใบหน้า
“ใครให้มึงขึ้นไปนัดกูบนดาดฟ้าล่ะ” พูดจบผมก็เอามือที่เปียกน้ำมันเช็ดที่เสื้อคยูมัน สมน้ำหน้าอยากแกล้งกูเองตอนแรก
“เออจะว่าไปเมื่อกี้มึงพูดว่าไรนะ ชอบอะไรนะกูฟังไม่ทัน”
“อะ......เอ่อ…..ป่าวๆ” คยูฮยอนตอบกลับมาด้วยท่าทีลุกลี้ลุกแปลกไปจากปกติ ก่อนจะทำเป็นเปิดก๊อกวักน้ำล้างหน้า
จะไม่มีได้ไงเรียกกูมาคุยบอกไม่มีอะไร เดี๋ยวเหอะ-_-
“จะบอกว่า...อา...มีก็ได้มั้ง” หลังล้างหน้าเสร็จก็เช็ดกางเกงตัวเองก่อนจะกลืนน้ำลายหนืดๆลงคอแล้วเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่าย
“ถ้า......กูหายไป.....มึงจะทำไงวะ?”
ดวงตาสีเข้มสอดประสานเข้ามาในสายตาของคนตรงหน้า บ่งบอกถึงความจริงจังในคำตอบที่จะออกมาของอีกฝ่าย
“จะ..จะไปไหน...” แก้วตาสีน้ำตาลของร่างบางเริ่มแดง น้ำตาไหลมารวมกันที่ขอบตาเหมือนเขื่อนที่กักเก็บน้ำเกินกำลังและพร้อมจะปลดปล่อยให้ไหลออกมาได้ทุกเมื่อ
ฮยอกแจยังจำได้เลยว่า ตอนที่คยูมันต้องปั่นงานส่งแล้วลืมลงไปกินข้าวกลางวันปล่อยให้ตัวเขาเองลงไปนั่งกินข้าวอยู่คนเดียวมันเหงาขนาดไหน
ทั้งเสียงนินทา เสียงว่าลับหลังเขา.........
หลังจากนั้นก็ไม่เคยที่จะลืมมาหาคยูฮยอนก่อนพักเลยแม้แต่ครั้งเดียว
แล้วครั้งนี้จะหายไปเลยหรอ.....
“กู...บอกไม่ได้ว่ะ แต่มึง....มึงจะทำยังไง” มือหนาคว้าอีกคนมากอดเมื่อเห็นหยดน้ำตาที่ไหลลงมาเลอะใบหน้าคนตัวเล็ก รู้ตัวดีว่าเพื่อนกันแมนๆเตะบอลไม่มีใครเค้าทำแบบนี้กันหรอก แต่ไหนๆเหตุการณ์กูพาไปขนาดนี้แล้ว
ขอเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้อยู่ด้วยกันใกล้ๆเถอะ....
“เอ้าหนู ป้าจะล็อคห้องน้ำแล้วนะรีบออกมาก่อนเร็ว”
เสียงคุณป้านักการประจำห้องน้ำตึกมัธยมปลายเอ่ยออกมา ผมรีบปาดน้ำตาลวกๆก่อนจะพยักให้คุณป้าแล้วรีบเดินออกจากห้องน้ำลงมาจนถึงห้องเรียนตัวเอง ผมรีบเดินไปยกเก้าอี้ก่อนจะสะพายกระเป๋านักเรียนออกมา ไม่สนใจคำบอกลาของเพื่อนร่วมห้องที่พึ่งทำเวรเสร็จเลยแม้แต่น้อย
“....”
ตั้งแต่เดินมาจากหน้าโรงเรียนจนถึงป้ายรถเมล์ที่เขาทั้งสองมารอประจำ ไม่มีแม้แต่ประโยคเดียวที่หลุดออกมาจากปากของใคร มีแต่เสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ยังบ่งบอกให้รู้ว่ายังมีใครอีกคนอยู่แม้จะไม่ได้หันไปมองหน้ากันเลย
รถเมล์สายประจำของเจ้าผมสีบลอนส์ทองกำลังจะแล่นมาจอดที่ป้าย ทุกๆครั้งที่เจอสายนี้เค้าจะต้องหันไปโบกมือลาเพื่อนสนิทของตัวเอง แต่วันนี้กลับไม่กล้าแม้จะหันไปมองหน้าเลยซะด้วยซ้ำ
ทันทีที่รถเมล์ชะลอความเร็วลง คนตัวเล็กก้าวขาที่ใส่กางเกงสีน้ำเงินขึ้นรถให้ทัน
“ฮยอกแจ!”
เสียงเรียกชื่อให้อีกฝ่ายหันไปประจันหน้า คนตัวสูงไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปหาคนตัวเล็กที่หันกลับหลังมามองทั้งๆที่ขาทั้งสองของตัวเองก็ยืนอยู่บนบันไดขึ้นเมล์แล้วด้วยซ้ำ
จุ๊บ!
“!!!!!!!!!!”
อีฮยอกแจได้แต่กุมแก้มแก้มด้านขวาที่ถูกริมฝีปากหนาๆของไอ้ด็อกเตอร์นั้นหอมไปหนึ่งฟอด ไม่ทันได้ตั้งตัวรถเมล์ก็ออกตัว ร่างบางรีบเกาะเสาทันที ก่อนจะหันไปหาอีกคนที่เป็นเจ้าตัวก่อเหตุบ้าๆนี้ขึ้น
มือเรียวยังคงสัมผัสใบหน้าตัวเองอยู่เหมือนเดิม จะว่ารังเกียจก็ไม่ใช่ มันรู้สึกแปลกไปจากปกติซะมากกว่า แต่ว่าตอนอยู่ต่างประเทศชอบโดนพวกเพื่อนในห้องหอมกันเป็นว่าเล่น
คยูฮยอน.........มันเป็นบ้าอะไรฟะ
(นังฮยอกแจคนโง่;_____________;)
.
.
“อี-ฮะ-ย้อก-แจ” เสียงแน่นหนักทุกพยางค์คำปลุกให้ร่างบางหลุดจากการนิทราทั้งมวลก่อนจะลืมตามาเห็นคุณครูผู้เลื่องชื่อในมัธยมศึกษาปีที่สี่ ซึ่งเป็นเจ้าของวิชาภาษาไทย
“อา...ครูสุมาลาครับ…แหะๆ” เสียงทุ้มหวานได้แต่หัวเราะออกมาแห้งๆทันทีที่ได้สบตากับสายตาที่บ่งบอกว่าอะไรจะเกิดต่อไปนี้
“คงรู้ตัวใช่มั้ยว่าต้องทำยังไง”
กฎการเรียนกับสุมาลานั้น
1.ห้ามพูดหรือส่งเสียงรบกวน
2.ห้ามแต่งกายผิดระเบียบ
และ3.ห้ามนอนหลับแม้จะสอนน่าเบื่อขนาดไหนก็ตาม
ร่างบางได้แต่ยืนถอนหายใจเมื่อถูกไล่ออกจากห้องให้มายืนถือกระเป๋านักเรียน ถ้าใครเดินมาเห็นก็จะเป็นอันรู้ได้เลยว่าเรียนคาบของคุณครูภาษาไทยสุดน่ารักแน่นอน
นับตั้งแต่โจวคยูฮยอนย้ายออกไปอีฮยอกแจก็ไม่เคยจะตั้งใจเรียนเหมือนแต่ก่อน จะบอกว่าแต่ก่อนเป็นเด็กเรียนก็ไม่ใช่ แต่ที่แน่ๆไม่เคยหลับในห้องเรียนก็แล้วกันยิ่งเป็นคาบอย่างนี้ด้วย
หลังจากวันที่คนๆนั้นชวนไปคุยบนดาดฟ้า ไม่มีครั้งไหนเลยที่จะลงไปกินข้าวที่โรงอาหาร คนตัวเล็กได้แต่ซื้อของทานเล่นอย่างเหนียวไก่มาเก็บไว้แล้วแอบปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าไปนั่งกินอยู่บ่อยๆ
ส่วนพี่โซราอ่ะหรอ บางทีพี่เค้าก็จะมานั่งกินข้าวบนดาดฟ้าเป็นเพื่อนด้วย แต่ช่วงนี้ต้องทำเรื่องเข้ามหาลัย พี่โซราสอบติดตั้งแต่ต้นๆเทอมสองแล้วครับ และแน่นอนไอ้คนสอบติดยิ่งเทอมสองแล้วใครจะอยากมาโรงเรียนอีกล่ะ...
หลังจากที่คยูฮยอนหายไปสามเดือนบวกกับที่พี่โซราเข้ามหาลัย ก็เรียกได้เลยว่าอยู่ตัวคนเดียวมาตลอด โคตรแสตนอะโลน ถึงพวกงานกลุ่มจะไม่มีปัญหาอะไรกับเพื่อนก็เถอะ แต่ก็ยังทำใจให้ไปนั่งกินข้าวในกลุ่มพวกนั้นไม่ลงจริงๆ ไม่ใช่ว่ารังเกียจแต่ไม่รู้ว่าจะคุยอะไรดีตังหาก
กริ๊ง!
“ฉันหวังว่าคาบหน้าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นนะคะ นักเรียน” ทันทีเสียงกริ่งหมดเวลาดังขึ้นคุณครูผู้สอนที่หมดเวลาทำงานในชั่วโมงนี้ก็เปิดประตูออกมา ก่อนจะสั่งสอนเล็กๆน้อยตามแบบฉบับ ส่วนผมก็ได้แต่ยืนก้มหัวฟังอีกฝ่ายจนพอใจแล้วเดินกลับห้องพักครูไป
.
.
“เออฮยอกแจ ครูเค้าสั่งงานกลุ่มอ่ะ มึงไปเอากระดาษมาเขียนชื่อส่งหน่อย” เพื่อนที่ดูจะสนิทกับผมมากที่สุดในห้องพูดก่อนจะลงไปพักเบรกกับเพื่อนสนิทของตัวเอง ปล่อยให้ผมนั่งเอากระดาษมาจดชื่อโดยที่ไม่ได้บอกอะไร
ไม่แปลกใช่มั้ยครับที่ผมไม่คบคนแบบนี้เป็นเพื่อน=_=
ผมได้แต่เดินไปที่โต๊ะตัวเอง ก่อนจะดึงเก้าอี้ออกมาให้สามารถนั่งลงไปได้ แล้วค้นกระดาษในใต้เก๊ะที่สภาพดูเรียบร้อยพอที่จะเขียนรายชื่อสมาชิกกลุ่มส่งครูได้
พูดๆไปก็หายากชิบเป๋ง ใต้โต๊ะนี่มีทั้งเศษลูกอม ขนม ที่ขุดมากินแก้ง่วงตอนเรียน หรือจะเป็นทั้งหนังสือเรียนที่ตอนซื้อมาก็จัดใส่ไว้ที่ใต้โต๊ะเรียนหมดเลย ยิ่งรื้อก็ยิ่งเจอแต่เศษกระดาษทดเน่าๆที่ใช้เรียนคาบเลข
เดี๋ยว......กูสกปรกขนาดนั้นเลยเรอะ....
นี่ถ้าเป็นไปได้อยากจะยกโต๊ะขึ้นมาเทของออกให้หมดด้วยซ้ำ ไม่อยากจะพูดว่าก้มหัวหาของใต้โต๊ะนี่เหนื่อยซะยิ่งกว่าตอนที่ถูกทำโทษให้ยืนหน้าห้องอีก มือเรียวไล้หากระดาษไปทั่วทุกซอกทุกมุมก่อนจะเจอกระดาษแผ่นนึงที่สภาพดูเรียบร้อยพอใช้ได้ คนตัวเล็กหยิบกระดาษแผ่นบางออกมาก่อนจะตามด้วยปากกาถ้าไม่ติดว่า...
‘สังเกตใต้โต๊ะ’
อุตส่าห์หากระดาษดีๆเจอ-_- ใครมาเสล่อเขียนไรใส่กระดาษอีกฟะ
อ่านข้อความในกระดาษด้วนสีหน้าเซ็งๆก่อนจะก้มไปหยิบแฟ้มเอกสารที่เป็นสิ่งเดียวที่ฮยอกแจจะเอาใส่กระเป๋ากลับบ้าน ค่อยๆเปิดแฟ้มออกก่อนจะหยิบกระดาษรายงานของโรงเรียนมาฉีกแล้วเขียนชื่อสมาชิกกลุ่มที่พอจะรู้ๆอยู่แล้วว่ามีใครบ้าง
เขียนเสร็จก็ยังมีหน้าที่ต้องไปส่งให้อีก ยังดีที่คาบต่อไปเรียนแนะแนว ว่าจะโดดเรียนขึ้นไปตากลมบนดาดฟ้าเล่นซักหน่อย คิดเสร็จก็ไม่รอช้าทันทีที่ออกมาจากห้องพักครูก็วิ่งขึ้นบันไดตรงดิ่งไปยังทางขึ้นดาดฟ้า
‘กลับไปดูที่ใต้โต๊ะเดี๋ยวนี้ อีฮยอกแจ’
เดี๋ยวนะ...
มือบางเอื้อมไปดึงกระดาษที่ถูกติดไว้ที่ประตูทางขึ้นดาดฟ้าของตึก นี่มีใครแกล้งเค้าหรือยังไงกัน ตั้งแต่กระดาษใต้โต๊ะแล้วนะ
หลังจากอ่านข้อความในกระดาษร่างบางก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ขยำกระดาษเป็นก้อนแล้วโยนออกไปอย่างไม่ใส่ใจ มือบางดันประตูขึ้นก่อนจะปีนขึ้นมาอยู่บนจุดสูงสุดของตึก
“อื้อ~” ยืดเส้นยืดสายให้หายเมื่อล้าหลังจากการถูกทำโทษ หยิบห่อข้าวปั้นในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาก่อนจะทรุดตัวหนังลงที่หลังแท้งค์น้ำเหมือนปกติ
ห่อพลาสติกถูกแกะออกมา มือเรียวค่อยๆดึงพลาสติกออกอย่างเบามือก่อนจะเจอเศษกระดาษเส้นยาวสีแดงในใส่ข้าวปั้น ผมค่อยๆดึงออกมาก่อนจะอ่านข้อความนั้นในใจ
‘ลงไปดูใต้โต๊ะตัวเองได้แล้ว อย่าให้ฉันต้องโมโห’
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน
และสุดท้ายการพักผ่อนก็เป็นอันล้มเหลวไปตั้งแต่เจอไอ้เศษกระดาษบ้าๆที่มาพร้อมข้อความประหลาด จะให้ดูอะไรท่ใต้โต๊ะมากมายวะ บ้ารึไง
ผมขออนุญาตเข้ามาในห้องก่อนจะโดนครูประจำวิชาตำหนิเล็กน้อย วิชาแนะแนวส่วนมากมอสี่ก็ไม่ได้เรียนอะไรเลยครับเรียกว่าเป็นคาบว่างเลยก็ยังได้ อย่างมากแค่ให้ครูเค้าเห็นน้าแล้วเช็คชื่อเค้าก็ไม่สนใจแล้วครับว่าเราจะทำอะไร ทันทีที่ผมทรุดตัวลงกับเก้าอี้ของตัวเองก็ก้มดูที่ใต้โต๊ะทันที ฝ่ามือกวาดไปทั่วๆก่อนจะเจอห่ออะไรบางอย่าง
เดี๋ยวนะทำไมมีแสงด้วยวะ....
______________________________________________________________________________________
โอ้ยนี่เป็นตอนที่เรียกว่าเวิ่นเว้อได้ป่ะ
ฮยอกแจชีวิตนางดูเศร้ามาก ไม่มีเพื่อนคบT_T
เป็นเราเราย้ายออกจากโรงเรียนนานล่ะโว้ย55555
ฟิคเป็นไงฝากติดชมด้วยนะคะ
จะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆนะคะTvT
และฝากเม้นฝากโหวตหรือ #ฟิคบียอน
ในบทความหรือทวิตด้วยค่า ♥
@DHsand
ความคิดเห็น