ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fill My Heart พิมพ์รักเติมหัวใจนายเจ้าชู้

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 55


    ติดตามข่าวสารทางFacebookได้ที่http://www.facebook.com/SandTheSnowFc?ref=hl

    บทนำ

    “ยูซังคะ ยูซังๆๆ ตื่นได้แล้วนะคะ”

    ผมที่รู้สึกตัวตื่นเพราะเสียงแหลมๆของคนๆหนึ่งดังข้างๆหู มันทำให้ผมถูกปลุกขึ้นมาจากภวังค์แห่งการหลับไหล เมื่อผมเงยหน้าขึ้นมา ก็พบกับริรุกะที่ยืมกอดอกทำหน้าบึ้งบูดอยู่ต่อหน้า

    “หาวววว มีอะไรเหรอริรุกะ ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วเหรอ หาวว =O=

    “จะบ้าเหรอคะยูซัง นี่ยังไม่บ่ายโมงเลยนะคะ ตื่นๆแล้วรีบวาดรูปต่อได้แล้วนะคะ -*-”

    “อ้าวงั้นเหรอ” ผมมองดูนาฬิกาตัวเองปรากฏว่านี่พึ่งจะเป็นเวลา เที่ยงกับอีก10นาที “อืม...ยังไม่ถึงเวลาอาหารเย็นจริงๆด้วย งั้น ราตรีสวัสดิ์น๊า ครอก~

    “กรี๊ดดดด จะมานอนตรงนี้ได้ยังไงกันคะ ยูซัง นี่มันเวลางานนะค๊า ตื่นได้แล้วตื่นๆๆ”

    ริรุกะกระชากคอเสื้อผมแล้วเขย่าแรงๆ จนผมต้องตื่นอีกรอบ

    “โอ้ย อะไรนักหนาเนี่ย คนจะหลับจะนอน -*-”

    “นอนน่ะได้นอนแน่ค่ะ แต่ช่วยส่งงานให้ทันเส้นตายด้วยนะคะ เส้นตายคือ หกโมงเย็นวันนี้ค่ะ”

    เออจริงด้วย ลืมไปเลยว่าผมเป็นนักวาดการ์ตูน แล้ววันนี้เป็นวันที่กำหนดเส้นตายส่งเย็นนี้ด้วย ว้ากกกไม่นะ เหลือเวลาอีกแค่6ชั่วโมงเอง ไม่ได้การแล้ว ต้องรีบจ้ำเข้า ผมหยิบดินสอข้างๆตัวมาวาดลงไปที่กระดาษตรงหน้า ไม่ไหวแล้วดันหลับไปวะได้ จะทันมั้ยเนี่ย แว๊กกกก ทำไมตามาเบี้ยวแบบนี้ล่ะ อ้ากกก ปากเหวอขึ้นมาอีก อ้ากไม่นะ ถ้าไม่ทันเส้นตายล่ะก็ซวยแน่ๆคราวนี้แล้วตอนสองทุ่มก็มีนัดไปดื่มอีกล่ะ โอ้ยไม่นะม่ายยยยยT_T

    “เอ่อ....ยูซะ”

    “อย่างพึ่งชวนคุยน่ะริรุกะ ตอนนี้ฉันขออยู่คนเดียวก่อนนะ เธอออกไปก่อนถ้างานเสร็จแล้วเดี๋ยวเรียกแล้วกัน”

    “อะ....เอ่อ ค่ะ งั้นไปก่อนนะคะ เสร็จเมื่อไหร่ก็โทรไปด้วยนะคะ”

    “รับทราบ!!!

    เวลา 18.40 น. ณ หน้าสำนักพิมพ์

    เฮ้อออ รอดพ้นวิกฤติมาได้สักที เฮ้อตายๆๆ ไม่มีแรงแล้วเนี่ย เหนื่อยชะมัด=_=

    อ๊ะ จริงสิผมยังไม่ได้แนะนำตัวเลยสินะ งั้นขอแนะนำตัวก่อนล่ะ

    ผมชื่อว่า ยามาโนะ ยู อายุ25ปี ครับ เป็นนักวาดการ์ตูนรุ่นใหม่ไฟแรง ทำงานอยู่ที่สำนักพิมพ์มุรุคาวะ เป็นนักวาดการ์ตูนผู้หญิงซึ่งมันเป็นงานที่ไม่ได้ปรารถนาเลยแต่อย่างใด เพราะใจจริงแล้วอยากเป็น นักเขียนอิสระซะมากกว่า ตัวผมเองก็ถนัดเรื่องวาดรูปอยู่พอตัว ซึ่งสำนักพิมพ์นี้ก็ได้เห็นความสามารถของผม จึงถูกจัดแจงให้มาเป็นนักวาด ซึ่งตอนแรกก็บอกปัดไปแล้วว่าไม่อยากเป็น แต่เพราะตอนนั้นสำนักพิมพ์มีนักวาดไม่เพียงพอ และผมก็อายุยังน้อยจึงเหมาะกับอาชีพนักวาดเสียมากกว่า เขาว่ามาแบบนั้นน่ะครับ

    ตอนนี้ผมกำลังเดินทางไปที่บาร์เหล้าแห่งหนึ่งซึ่งเพื่อนๆจากกอง บก. เดียวกันชวนไปดื่มฉลองเป็นการขอบคุณที่ทำให้ยอดขายทะลุเป้าได้ มีเพื่อนๆอีก4คนรออยู่ที่นั่น ซึ่งบาร์ที่ว่านี้ก็ไม่ได้ไกลจากสำนักพิมพ์เท่าไหร่

    ตี๊ดๆ ตี๊ดๆ

    อ๊ะเสียงเรียกเข้ามือถือผมนิ่ใครโทรมานะ

    “อ๊ะ ว่าไงๆ....ยูจัง ถึงไหนแล้วเนี่ย??”

    อ่อ...ไอ้บ้าชูเฮย์นี่เอง

    “เอ่อ...ตอนนี้น่ะเหรอ อยู่หน้าร้านแล้วล่ะ”

    “งั้นเหรอๆ งั้นรีบเข้ามาเลยนะ อยู่ห้อง 085”

    “โอเคๆ เท่านี้ล่ะ”

    ปี๊ด

    ผมเดินเข้ามาในประตูร้าน ก็บ๊ะกับกลิ่นเหล้าที่คลุ้งอยู่ในร้าน ร้านนี้เป็นเหมือน ทั้งบาร์และคาราโอเกะรวมอยู่ด้วยกัน ซึ่งหน้าร้านจะเป็นบาร์นั่งดื่มทั่วๆไป ส่วนข้างในจะเป็นห้องคาราโอเกะที่มีอยู่หลายห้อง เอ....หมอนั่นบอกอยู่ห้อง085สินะ 085 085 อ๊ะเจอแล้วๆ

    ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องที่มีเพื่อนๆรอกันอยู่แล้ว 4คน ผู้ชายทั้งหมดเลย

    มี2คนที่กำลังร้องเพลงอยู่ ส่วนอีก2คนกำลังนั่งดูอยู่ เมื่อผมเปิดเข้ามาสายตาทุกคู่ก็หันมามองผมกันหมด ชูเฮย์ที่เห็นผมเดินเข้ามาก็ยิ้มหน้าบานแล้วโผเข้ามากอดคอผมหมับ

    “เย่ๆ ยูจังมาแล้ว มาเหนื่อยสินะ มะๆเชิญเลย เราสั่งของกินไว้แล้ว”

    ชูเฮย์ผายมือไปยังโต๊ะอาหารกลางห้อง ซึ่งมีอาหารถูกจัดแจงไว้เต็มโต๊ะ

    ชูเฮย์ผลักหลังผมแล้วจับให้ไปนั่งข้างๆนิชิโนะ ซึ่งกำลังเล่นโทรศัพท์อยู่ ก็หันมามองผมแล้วยิ้มเล็กๆ

    “อะ...เชิญเลยๆ มาเหนื่อยๆนะ กินให้เต็มที่จะสั่งอะไรก็สั่งเลย วันนี้ไอ้ชูเฮย์มันเลี้ยง”

    “หวา..อะไรอ่ะนิดจัง ฉันไม่ได้เลี้ยงซะหน่อย ออกเงินกันไม่ใช่เหรอ =O=

    “ก็ฉันจะให้แกจ่ายคนเดียวมีไรป่ะ -_-+++

    นิชิโนะส่งสายตาชิ้งๆไปหาชูเฮย์

    “ไม่ได้นะ ทำแบบนี้กับภรรยาได้ยังไง เดี๋ยวจุ๊บเลย-3-”

    “ภรรยงภรรยาอะไร แกนี่มันมั่วไปทั่วจริงๆ -*-”

    “แหมๆ อย่ามาซึนหน่อยเลยน่า มามะ จุ๊บๆ^3^

    “อี๋ แกทำหน้าแบบนี้ลงไปได้ยังไงกัน น่าเกลียดมากเลยนะ -_-

    ผมที่นั่งมองสองคนนี้แหย่กันก็อดยิ้มไม่ได้ 55 สองคนนี้นี่ต้องหาเรื่องกัดกันตลอดเลยแฮะ โดยเฉพาะชูเฮย์

    ผมขอแนะนำเพื่อนมั่งนะ คนแรก ชูเฮย์ เป็นคนบ้าๆบอๆต๊องๆ ผมสีทองตัวเล็กผิวขาว สีฟ้า เป็นคนที่เฟรนด์ลี่สุดๆ และป๊อปมากในหมู่สาวๆสมัยเรียน

    ส่วนอีกคน นิชิโนะ คนๆนี้ก็เป็นเพื่อนสมัยม.ปลายเหมือนกับชูเฮย์ เป็นคนเงียบๆขรึมๆ ชอบทำหน้าตายตลอดเวลา แต่เป็นคนแฝงไปด้วยความฮาและกวนสุดๆ ชอบประชด เยาะเย้ย และเถียงเก่งสุดๆเลยล่ะ ใครๆเถียงก็ไม่เคยชนะเลยประมาณว่าฉันถูกเสมอเป็นคนตัวเล็กผมสีคาราเมล ตาสีน้ำตาลผิวขาว หน้าตาหน้ารักดูบอบบางแต่ความจริงเป็นคนที่ถึก หมัดหนัก ถ้าไม่ได้รู้จักกันจริงๆแล้วล่ะก็ จะแลดูน่ากลัวมาก ถ้าจับใส่กับชูเฮย์จะเปรียบเสมือน หยินกับหยางที่อุดมไปด้วยวิตามินและแคลเซียม

    “อ้าวๆไม่เป็นไรเชิญตามสบายเลยนะ เดี๋ยววันนี้ฉันจ่ายเอง ^^

    ฮอนโชซังเดินเข้ามานั่งข้างๆแล้วพูดออกมา

    คนๆนี้ก็คือคุณฮอนโช หรือที่เราๆเรียกกันว่า ฮอนโชซัง เป็นรุ่นพี่สมัยเรียนม.ปลายเป็นคนตัวสูงขาวผมสีดำเจาะหูซ้าย6รู ตาสีดำ และเป็นพี่ใหญ่ของเรา

    มีความเป็นผู้นำ ใจเย็น รอบคอบ และเป็นคนดีมากๆ ส่วนอีกคนที่ร้องเพลงอยู่ชื่อ โจโนะเป็นคนที่ตัวสูงเหมือนกับฮอนโชซัง ผมสีน้ำตาล ตาสีดำ ผิวขาว เป็นคนที่มีความสามารถรอบด้าน เก่งทุกเรื่อง รู้ทุกอย่าง เป็นคนที่หน้าตาดีมาก และเป็นเพื่อนคนสำคัญมาก

    “อ้าวๆ เชิญไม่ต้องเกรงใจนะ วันนี้ฉันเลี้ยงเอง พูดพร้อมกันนะ แด่ความสำเร็จของพวกเรา”

    ฮอนโชซังยืนขึ้นแล้วพูดออกมา

    “แด่ความสำเร็จของพวกเรา”

    เอื้อก....ในที่สุดก็ได้กลับบ้านซะที ง่วงชะมัดเลย ชูเฮย์กับนิชิโนะก็กัดกันไม่เลิก ฮอนโชซังกับโจโนะ ก็เอาแต่ร้องเพลงกัน ฮ้าววววว

    ระหว่างทางกลับบ้านผม ซึ่งเป็นซอกตึกมืดๆ โดยปกติที่นี่จะร้างผู้คนมากแต่ไหงวันนี้มีนักเลงหัวไม้ทั้งหลายแหล่มารวมตัวกันอย่างนี้เนี่ย

    “เฮ้ย แกน่ะเป็นคนทำลูกน้องฉันจนเจ็บปางตายใช่มั้ยว๊า”

    คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าสุดซึ่งดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าแก๊งนั้น เอ่อ....คือแบบว่าทำไมท่านหัวหน้าถึงได้ผอมกะหล่องกะแหล่งเป็นตะเกียบเผาแบบนั้นล่ะครับ

    ดูสิ ตัวมีแต่หนังหุ้มกระดูกดำก็ดำ ส่วนพวกลูกน้องที่อยู่ข้างหลังก็สภาพไม่ต่างกันเลย อย่างกะผีตายซาก มิน่าล่ะถึงได้เจ็บปางตาย-*-

    “ใช่ ทำไมงั้นเหรอ ก็ลูกน้องแกมันมาตีสนิทกับสาวๆของฉันนี่หว่า”

    คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมซึ่งดูเป็นคนที่แข็งแรง บึกบึน ถึก ทน พูดออกมา สงสัยเป็นคนที่ทำร้ายลูกน้องตะเกียบเผาซังแน่ๆเลย อืมๆ

    “แก แกทำให้ลูกน้องของฉันเจ็บ แกเองก็ต้องเจ็บ”

    โอ้ยยยยย อยากจะหัวเราะจริงจริ๊ง สภาพแบบนั้นจะไปทำอะไรเค้าได้ ถามหน่อยเหอะ ขนาดเขายังไม่ได้ทำอะไรยังสั่นระริกระรี้อยู่เลย แบบนี้จะไปทำอะไรเขาได้ฮะ 55555555

    “ถ้างั้นก็เข้ามาสิ ไอ้ตะเกียบเอ๊ย!!

    เฮ้ย เดี๋ยวๆใครบอกให้มาเรียกตะเกียบแบบฉันฟร๊ะเจ้านี่นิ่ ไหนๆขอดูหน้าหน่อยซิ

    แสงไฟบวกกับแสงพระจันทร์ของคืนเดือนหงายทำให้พอเห็นหน้าคนๆนั้นได้

    โอ้ว ว๊าว หล่อจังแฮะ จมูกโด่งหน้าคมเข้ม ผิวขาว ผมซอย สไลท์ สีดำ เสื้อเชิ้ตฟิตๆ กางเกงยีน มีกล้าม เพอร์เฟก สุดๆ *0*

    “หึๆ ฉันไม่ทำแกก็แล้วกัน”

    ไอ้ตะเกียบเผาพูดแล้วยิ้มเยาะราวกับว่ามันได้เปรียบสุดๆ

    “อะไรของแกวะ เกิดป๊อดขึ้นมารึไง”

    “ฉันไม่ได้ป๊อด ฉันจะแทงไอ้คนข้างหลังแกต่างหากเว้ย”

    คนข้างหลังเขา คนไหนล่ะ คนที่อยู่ข้างหลังเขาก็มีแต่..... เฮ้ยผมนี่หว่า มิน่าสิยิ้มเยาะซะปากจะฉีกไปถึงหูอยู่แล้ว มันเล็งผมนี่เองเหรอ ว้ากกไม่นะ ผมยังไม่อยากตาย!!

    “หึๆ แกเสร็จฉันแน่ไอ้หนู!!!

    ไอ้บ้าตะเกียบเผาชักมีดออกมาจากไหนไม่รู้แล้ววิ่งตรงมาทางผม

    “ว้ากกกก”

    เฮ้ย ซวยแล้ว!!

    ฉึก

    “เฮ้ย/เฮ้ย!!”ผมและตะเกียบเผาซังอุทานออกมาพร้อมกัน

    เลือด..ไม่นะ นี่มันเลือดจริงๆ ทำไงดี นิยายเรื่องนี้ยังไม่อยากจบแค่นี้นะ ม่ายยยยยยยยย!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×