ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Secret Spy

    ลำดับตอนที่ #2 : They Are "Wolf"

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 56


    บทนำ

                    @ ZA pub

                    เอี๊ยด! เสียงล้อบดถนนจากการแตะเบรกเพื่อจอดรถยนต์คันหรู เมื่อรถสปอร์ตสุดหรูจอดนิ่งสนิทแล้ว ชายหนุ่มนักตระเวรราตรีก็ก้าวเท้าลงมาจากรถอย่างมาดเท่ห์ ตามมาด้วยเหล่าเพื่อนชายอีกสามคนที่มาถึงก่อนหน้านี้ไม่กี่นาที พวกเขาเป็นกลุ่มเพื่อนที่ต่างก็มีฐานะร่ำรวยระดับอภิมหึมามหาเศรษฐี หญิงสาวต่างรู้จักพวกเขาเป็นอย่างดีในนามว่า wolf

                    ฟรีทาวน์ หนุ่มหล่อร้ายที่ภายนอกอาจจะดูแบดบอยแต่ลึกๆ แล้วก็เรียกได้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่มีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่บ้าง(ขอย้ำว่ามีอยู่บ้าง)

                    เคอร์ฟิว หนุ่มหล่อน่ารัก แต่นิสัยไม่น่ารักเหมือนหน้าตาน่ะสิ เขาคือชายหนุ่มที่สมยานามได้คำเดียวว่าเลวบริสุทธิ์ เลยล่ะ ที่บ้านเขาทำธุรกิจผับบาร์ และบ่อนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก (ไม่แปลกใจเลยทำไมถึงได้เลวบริสุทธิ์ -*- )

                    ซิสเท็ม หนุ่มหน้าสวยเขาชอบประชดเพื่อนๆ ที่มักจะว่าเขาเป็นตุ๊ดเป็นเกย์ด้วยการแต่งตัวคลอสเพลย์เป็นผู้หญิงน่ารักๆ จนตอนนี้กลายเป็นความชอบไปโดยปริยาย (แมนร้อยเปอร์เซ็นนะจ๊ะ ?)

                    และคนสุดท้าย เฮกเซน หนุ่มหล่อเพลย์บอย ผู้ชอบความท้าทายโดยเฉพาะแข่งรถ งานอดิเรกคือคั่วผู้หญิงไม่ซ้ำหน้ากันเปลี่ยนหญิงควงเหมือนเปลี่ยนกางเกงในเลยล่ะ

                    เมื่อทั้งสี่หนุ่มมารวมกลุ่มกันแล้วย่อมเป็นที่สนใจจากหญิงสาวที่มาท่องราตรี ตั้งแต่ที่พวกเขาก้าวเข้ามาในสถานที่แห่งนี้หญิงสาวมากมมายต่างจ้องพวกเขาเป็นตาเดียว พวกเขารู้สึกชินชากับสถานการณ์แบบนี้อยู่แล้วเพราะตั้งแต่เด็กจนโตก็มีแต่ผู้คนจับจ้องพวกเขาเพราะความหล่อเหลาที่ดั่งเทพแห่งศิลปะเป็นผู้บรรจงปั้นแต่งพวกเขามากับมือ

     

     

    [ เปิดไดอารี่ : เฮกเซน ]

    ตั้งแต่ที่ผมเดินเข้ามาใน  ZA pub ก็มีแต่สาวๆ มองพวกผมเป็นตาเดียว ฮ่าๆ พวกผมชินแล้วล่ะครับเวลาไปไหนมาไหนจะคนเดียวหรือเป็นกลุ่มก็โดนจับตามองตลอด ก็คนมันหล่ออ่ะนะต้องทำใจครับ J

    “เฮ้ย ไอ้เซนวันนี้แกไม่ควงแม่สาวซาน่าของแกมาด้วยหรอวะ” ไอ้ซิสเท็มเอ่ยถามผมมาอย่างกวนทีน มันก็รู้ว่าผมแค่เล่นๆ กับยัยนั่นไม่ได้คิดจริงจัง แต่ยัยนั่นดันมาติดผมนึบเลย สลัดยังไงก็ไม่หลุด พูดแล้วเซ็งในอารมณ์-*-

    “ไอ้เวร แกเลิกพูดถึงยัยนั่นซะทีเหอะ ขนลุกว่ะ”

                    “ฮ่าๆๆ อย่างน้อยแกก็เคยได้ยัยนั่นอยู่นี่นา”

                    “ก็ตอนนั้นยังไม่รู้นี่หว่าว่ายัยนั่นน่าสยดสยองขนาดไหน” ผมพูดพลางทำท่าสยดสยองประกอบไปด้วย มันน่าขนลุกจริงนี่ครับ ข้างนอกสวยแต่ข้างในเน่าและน่าสะอิดสะเอียน

                    “พวกแกเลิกเถียงกันสักทีเหอะรำคาญว่ะ” เคอร์ฟิวพูดตามสไตล์ มันเป็นอย่างนี้จนพวกเราชินแล้วล่ะครับ

                    “เงียบไปเลยแก ไอ้เคอร์ฟิว ไปจัดการบริหาร ZA pub นู่นไป” ผมบอกมันอย่างอดไม่ได้

                    “ไม่ต้องบอกฉันก็ไปอยู่แล้ว แกก็เหมือนกันนะไอ้เซนอย่าก่อเรื่องที่ผับของฉันอีก” ไอ้ฟิวบอกอย่างรำคาญ จริงๆ แล้วผมไม่ได้ไปก่อเรื่องอะไรเลยนะครับ ก็แค่เผอิญไปจีบสาวที่เค้ามีคู่ควงมาด้วยอยู่แล้ว(ก็ผมไม่รู้อ่ะ ผมผิดหรอ?) เลยทำให้มีการเจรจากันนิดๆ หน่อยๆ (ผับเกือบพังเนี่ยนะนิดๆ หน่อยๆ ของแก : ไรท์เตอร์)

                    “คร้าบๆ ทราบแล้วคร้าบคุณผู้จัดการ”

                    “ผู้บริหารเว้ย”

                    J

                    หลังจากที่โดนผมกวนทีนจนมันหงุดหงิด มันก็เดินขึ้นไปยังชั้นสองของผับเพื่อที่จะดูความสงบเรียบร้อย(ลืมบอกไปครับ ZA pub หรือก็คือที่ที่ผมอยู่ ณ ตอนนี้นี่แหละครับ เป็นผับสองชั้นชั้นล่างก็เป็นผับปกติ ส่วนชั้นบนเป็นบ่อนขนาดย่อมครับ พื้นที่ไม่ใหญ่มากแต่ก็ไม่ได้กว้างอะไร เป็นธุรกิจที่ไอ้เคอร์ฟิวมันทำแก้เซ็งเฉยๆ ซึ่งเป็นแหล่งสุมหัวของกลุ่มเราด้วย)

                    “เฮ้ยฟรีทาวน์วันนี้แกไม่ไปซิ่งแหกโค้หรอว่ะ” ผมหันมาถามฟรีทาวน์บ้างเพราะปกติมันจะคลุกอยู่แต่สนามแข่ง ไม่ก็โรงรถของมัน

                    “ไม่อ่ะเมื่อย” มันพูดพลางทำหน้าเหนื่อย คงเหนื่อยจริงๆ ล่ะ เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกว่ามันแปลกๆ ไป ปกติมันจะเฮฮากว่านี้อีกนะ

                    “งั้นเรานั่งโต๊ะประจำกันดีกว่า” ไอ้ซิสเท็มว่าพลางดันหลังให้ผมเดินออกก่อนเพื่อน ตลอดล่ะไอ้นี่ ­­ -_-

     

    11:30 pm

                    พวกผมทั้งสี่คนนั่งดื่มกันคุยกันตามประสาหนุ่มโสด (หรอ?) ช่วงนี้พวกผมยุ่งๆ กับการเรียนเลยไม่คอยได้ออกตระเวรเที่ยวสักเท่าไหร่ เห็นผมอย่างนี้แต่ผมเป็นคนที่ไม่ทิ้งการเรียนนะครับ (แต่ก็ไม่ได้บ้าเรียนนะครับ ^^ ) อย่างผมกับไอ้ซิสเรียนวิศวะครับ ไอ้ฟรีเรียนหมอเข้ากับลุค(?)อย่างมหัศจรรย์ ส่วนไอ้ฟิวมันเรียนบริหารครับ พวกเราคบกัน (แบบเพื่อนนะครับอย่าคิกลึก) ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้นแล้ว ตอนนั้นผมยังจำได้นะว่าพวกผู้หญิงในห้องเข้าใจผิดว่าผมกับไอ้ซิสเป็นคู่ขากัน T_T เล่นเอาสาวๆ ไม่กล้าตามจีบผมเลยล่ะเพราะกลัวไอ้ซิสมันจะตามไปแหกอกพวกเธอ

                    “เซนค่ะ” เสียงคุ้นหูดังมาแต่ไกล ตาขวากระตุกเริ่มส่อเค้างานเข้าแล้วล่ะสิ -*-

                    ผมหันหน้าไปทางต้นกำเนิดของสียงที่เรียกชื่อผมเมื่อตะกี้ O_O ผมถึงกับผงะตกใจ เวรล่ะ ยัยซาน่ารู้ได้ไงว่ะว่าผมมาคลุกอยู่ที่นี่

                    “แหม...ไม่ต้องทำหน้าดีใจขนาดนั้นก็ได้หรอกค่ะเซน นึกแล้วเชียวว่ามาแบบไม่บอก เซนของน่าต้องเซอร์ไพรซ์แน่ๆ”^+++^

                    เหอๆ เซอร์ไพรซ์มากกกกกกกกกกก -_-“

                    “เธอมาที่นี่ได้ยังไง” ผมพูดเสียงตึง

                    “ก็น่าคิดถึงเซนไง เลยมาหา ช่วงนี้ดูเหมือนเซนกำลังหลบหน้าซาน่าเลยนะ”

                    ก็ใช่น่ะสิ ผมได้แต่คิดในใจไม่อยากทำให้ยัยนี่วีนแหลกตอนนี้ครับ

                    “เธอเข้าใจถูกแล้วล่ะซาน่า ไอ้เซนมันเบื่อเธอจริงๆนั่นแหละ” ^^ ไอ้ซิสเท็มตอบแทนผมอย่างยียวนกวนประสาทยัยซาน่า

                    “หุบปากเดี๋ยวนี้นะ นังตุ๊ด ฉันไม่ได้ถามแก” ซาน่าเริ่มวีนแล้วครับท่าน

                    “อ้าวทำไมพูดจาหยาบคายเยี่ยงนี้เล่า ไม่สวยแล้วยังจะร้ายอีก แล้วอีกอย่างน่ะนะ ฉันไมได้เป็นตุ๊ดเป็นแต๋ว ถึงถ้าฉันเป็นอย่างนั้นนะผู้หญิงทั่วโลกคงได้ร้องไห้เพราะตุ๊ดอย่างฉันสวยกว่า อย่างเธอคงไม่ได้เกิดหร้อกกกก ฮ่าๆ” ^O^

                    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ไอ้บ้า ไอ้...ไอ้...” -O-

                    “หยุดกรี๊ดเหมือนมีหนอนชอนก้นซะทีเหอะ รำคาญว่ะ” คราวนี้ฟรีทาวน์ออกปากเลยแหะ สงสัยคงรำคาญเสียงแปดหลอดของยัยนี่แน่แลย

                    “กรี๊ด หนอนชอนก้นแกน่ะสิ”

                    “เลิกกรี๊ดแล้วกลับบ้านเธอไปซะ ไอ้เซนมันเบื่อผู้หญิงอย่างเธอจะแย่” ฟรีทาวน์เอ่ยเสียงเรียบเย็น

                    “ไม่จริง ไม่จริงใช่มั้ยค่ะเซน” ประโยคแรกเธอพูดกับตัวเอง (เหมือนคนบ้าว่ะ) แล้วหันมาถามผมด้วยประโยคหลัง

                    “อืม ก็อย่างที่ไอ้ทาวน์ว่านั่นแหละ เธอต้องเข้าใจนะซาน่า เธอก็รู้ว่าคนอย่างฉันน่ะรักสนุกแค่ไหน ต่อไปนี้เธอไม่ต้องมาเจอฉันอีกนะ ลาขาดล่ะครับ” -_-

                    ผมบอกอย่างไม่ใส่ใจ ไม่รู้ว่าผมทนคบกับผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไง ผู้หญิงทุกคนจำไว้นะครับอย่าทำตัวง่ายแบบนี้ ไม่งั้นคุณจะเป็นแค่ของตายที่ผู้ชายเอามาเล่นแก้เบื่อนะครับ

                    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด กรี๊ดดดดด กรี๊ดดดดดดดดดดดด”

                    ยัยซาน่าเมื่อได้ยินในสิ่งที่ผมเพิ่งพูดไปก็ถึงกับกรี๊ดลั่น จนทำให้คนในผับหันมาดูเล็กน้อยแล้วก็กลับไปทำกิจกรรมของตนต่อ

                    “นายจำไว้เลยนะเซน แล้วนายจะได้รู้ว่าทำแบบนี้กับฉันแล้วนายจะได้เจออะไรบ้าง”

                    พูดจบเธอก็เดินออกไปทั้งน้ำใสๆ ที่ไหลรินอย่างเงียบๆ แล้วมือบางก็ปาดมันออกอย่างไม่ใส่ใจ เธอรู้ว่าผู้ชายอย่างเฮกเซนไม่เคยรักใคร แต่เธอก็ยอมเสี่ยงเพื่อที่จะทำให้เขารักเธอแต่เธอก็ต้องผิดหวังที่คิดแบบนั้น ผู้ชายอย่างเขามันไร้หัวใจ มันคือปีศาจในร่างคนชัดๆ หญิงสาวสาบานกับตัวเองในใจว่าถ้าวันไหนที่ผู้ชายชื่อ เฮกเซน มีความรักที่แท้จริงเมื่อไหร่ล่ะก็ เธอจะทำทุกวิถีทางให้เขาทรมานที่สุดเท่าที่เธอสามารถจะกระทำได้ คอยดูแล้วกัน...

                    ทางด้านชายหนุ่มเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรกับคำพูดของหญิงสาวเลยแม้แต่นิดเดียวเพราะเขาคิดว่าผู้หญิงอย่างซาน่าไม่มีทางทำร้ายเขาได้หรอก เขาเลิกสนใจเธอแล้วนั่งดื่มกับเพื่อนของเขาต่อพลางมองหาสาวที่จะเป็นคู่นอนให้กับเขาในคืนนี้ เขามองไปมองมาอยู่สักพักก็เหลือบไปเห็นบริกรหญิงของผับ ที่ดูเผินๆเหมือนไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ แต่ชายหนุ่มกลับเห็นบางสิ่งบางอย่างในตัวของเธอ

                    “หึๆ” ชายหนุ่มแสยะยิ้มเย็น

                    “โดนยัยซาน่าอาละวาดจนเพี้ยนเลยหรอวะ นั่งหัวเราะอยู่คนเดียว ไอ้โรคจิต” หนุ่มหน้าสวยเอ่ยขึ้น

                    “เปล่าหรอก ฉันแค่เจอของดีเข้าให้แล้วล่ะ” หนุ่มเพลย์บอยว่าทั้งที่สายตายังไม่ละไปจากเหยื่อของเขา เป็นเหตุให้เพื่อนๆ ต้องมองตาม 'มันมองออะไรของมันนักหนาวะ'

                    เมื่อหันไปตาทิศทางของสายตาที่จ้องมองของหนุ่มเจ้าเพลย์บอย เพื่อนๆ ก็ถึงกับผงะ -O-

                    “แกคิดจะแอ้มยัยเด็กพนังงานนั่นหรอว่ะ” หนุ่มหน้าสวยพูดอย่างช็อกจัด เพราะยัยเด็กพนังงานเสิร์ฟที่ว่านั่นหน้าตาเทียบไม่ติดเลยกับผู้หญิงที่เฮกเซนเคยคบมา

                    “แกไม่รู้จักของดีซะแล้ว ถ้ากะจากสายตาของฉัน ฉันว่ายัยนั่นน่ะ หุ่นเอสไลน์ว่ะ”

                    “หึๆ ไอ้หมาจอก ดูปราดเดียวก็รู้นะแก” <<<เคอร์ฟิว (เพิ่งโผล่มาจากไหนไม่รู้ -*- )

                    คนโดนว่าไม่พูดอะไรเพียงแต่ไว้ไหล่ประมาณว่า 'ของมันแน่อยู่แล้ว'

    [ ปิดไดอารี่ : เฮกเซน ]

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×