คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : อดีต2
Chapter:2
อดีต2
17 มีนาคม พ.ศ. 2531
ทายสิครับวันเกิดใคร ถูกต้องแล้วคร้าบวันเกิดแอมแปร์นั้นเอง วันนี้ผมมาเล่นที่บ้านแอมแปร์ครับเพราะกะจะมาช่วยคุณป้าทำเค้กด้วย คณป้าบอกว่าวันเกิดลูกสาวตัวเองทั้งทีจะมาซื้อเค้กที่คนอื่นทำได้ไง
พวกเราก้อมาช่วยคุณป้า(ทำให้มันยุกยาก)กัน
“เฟริสๆ เอาเค้กรสไรดีอ่ะ”
“เอาอะไรก้อได้ แอมกินอะไรเฟริสก้อกินได้หมด” ผมตอบยิ้ม
“ให้มันจริงเถอะแล้วอย่ามาว่าที่หลังหละกัน งั้นเอาเค้กวนิลลานะเราชอบ” เธอบอกผมแล้วรีบหันไปหาคุณป้า
“แม่คะเอาเค้กวนิลานะคะ” เธอหันไปบอกคุณป้าที่กำลีงจะเอาเค้กเข้าเตาตบ
“จ้าๆ แล้วเฟริสเค้ากินได้รึป่าวถามเฟริสยังลูก” คุณป้าตอบยิ้มๆ
“แอมถามแล้วเฟริสบอกว่าแอมกินไรเฟริสก็กินอย่างงั้น เห็นมั้ยหละคะคุณแม่ เฟริสไม่กล้าขัดใจแอมหรอก” เธอหันไปตอบอวดๆให้แม่ตัวเอง
“จ้าๆแม่ตัวเก่ง แม่ก็เห็นแต่เฟริสเค้ายอมให้ลูกนั้นแหละ เมื่อสัปดาห็ก่อนไปมีเรื่องกับนายตุ่น(หน้ามันเหมือนตุ่นมากๆ)เด็กหัวโจกลูกป้าอุ๋ แล้วไม่ยอมเค้า จนเค้าจะต่อยเอาถ้าเฟริสไม่ช่วยแล้วจะทำยังไงหละฮึ ดูสิแผลที่ข้อมือเฟริสนี่จะเป็นแผลเป็นเปล่าก้อไม่รู้” คุณป้าบอกอย่างเบื่อๆกับนิสัยของลูกตัวเอง
“ก้อมันมาหาเรื่องแอมก่อนนี้คะ บอกว่าแก้มแอมเหมือนซาลาเปา แล้วก้อล้อว่าซาลาเปาเดินได้ๆ” แอมเถียงคุณป้าโดยที่ตัวเองก็งอนตุบป่องๆ
“แต่ลูกก็ทำให้เฟริสเจ็บนะจ้ะ” คุณป้าพูดอย่างตำหนิ
“คะ เฟริสเราขอโทษนะเรารู้ว่านิสัยเราไม่ดี แต่ต่อไปนี้เราจะไม่ทำให้เฟลิสเจ็บตัวแทนเราอีกแล้ว เราสาบานต่อหน้าพระ” แอมแปร์รับคำคุณป้า แล้วหันมาขโทษผมด้วยหน้าที่สำนึกผิด
“ไม่เป็นไรหรอกแอม แอมไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ถือว่าเราช่วยคนที่เราชอบไม่ได้รึไง” ผมตอบยิ้มๆ
“0//////0 เฟริสบ้า” 555+ แอมแปร์หน้าแดงมากเลย ใช่ครับผมเพิ่งบอกว่าชอบแอมแปร์ไปไม่นานนี่เองแล้วเราก้อเป็นแฟนกันแล้วด้วย(มันแก่แดดแท้ฟะ)
“เอาน่าเราไม่ว่าอะไรสักหน่อยแผลใกล้หายแล้วด้วย” ผมบอกพร้อมกับชูแผลให้ดู
“แล้วมันจะเป็นแผลเป็นรึเปล่าเฟริส” แอมแปร์ถามพร้อมกับชูหน้าขึ้นมาดู
“มันหน้าจะเป็นนะไม่เห็นเป็นไรเลย เป็นแผลเป็นเพราะช่วยแฟนตัวเองเท่ออกเนอะ เหมือนพระเอการ์ตูนญี่ปุ่นเลย หรือว่าแอมไม่ชอบ” ผมบอกอย่างร่าเริง แล้วมาหน้าเศร้าเพราะกลัวว่าแอมแปร์จะเกลียดแผลตัวเอง
“ไม่หรอก เฟริสเท่มากเลย เป็นซุปเปอร์ฮีโร่ที่หนึ่งในดวงใจแอมเลย” ^0^ แอมแปร์บอกพร้อมกับยิ้มโชว์ฟันขาวให้ผม
“แฮะๆ 0//0 ครับ” ผมตอบพร้อมกับเอามือเกาหัวแก้อาย
“แล้วแอมแปร์จะสวีทกับเฟริสอีกนานไหมจ้ะไหนบอกจะมาช่วยแม่ทำเค้กไงนี่แม่ทำคนเดียวเลยนะเนี่ย”
“แฮะๆ เฟริสนั้นแหละมาช่วยแอมคุย เฟริสผิด” เอ้ามาโทษผมเฉยเลย
“ก้อได้ๆเฟริสผิดก็ได้ครับ” ผมตอบออกไปเพราะถึงเถียงกับเธอผมก็ไม่ชนะอยู่ดี
“แอมเขียนวันเกิดว่าอะไรดีจ้ะ” คุณป้าถามหลัวจากปาดครีมบนเค้กเสร็จ
“อืม...อืม....เขียนแอมแปร์รักเฟริสที่สุดคะ”
“ทำไมเขียนอย่างงั้นหละจ้ะ”
“ฮิฮิ เพราะวันที่แอมแปร์มีความสุขที่สุดคือวันที่มีเฟริสวันนี้ไงคะ” โอ้วหน้าแดงมากครับ0/////////////0(ทำไมมันเน่าแท้ฟะเรื่องนี้)
“แล้วเอาเทียนสีอะไรดีจ้ะ”
“เอาสีฟ้ากับชมพูปีกสลับกันคะ เพราะเฟริสชอบสีชมพู” แอมแปร์ตอบอย่างฉะฉานอย่างมั่นใจในคำตอบมาก
“จ้าๆ รับทราบครับผม เอ้า!เสร็จแล้วไปเรียกคุณพ่อมาที่ห้องกินข้าวสิจ้ะ”
“ค้า^0^” แอมแปร์ตอบเสียงใสพร้อมกับวิ่งไปเรียกคุณลุงที่ห้องดูหนัง
”คุณป้าครับเฟริสขออะไรอย่างนึงได้มั้ยครับ”
“อะไรจ้ะ” คุณป้าถามผมอย่างสงสัย
“คือว่า.......”
ที่ห้องกินข้าว
“วันเกิดปีที่เท่าไหร่ของลูกพ่อเนี่ย แหมมีเขียนแอมแปร์รักเฟริสที่สุดด้วย ไม่รักพ่อแล้วหรอ” คุณลุงพูดแซวแอมแปร์พลางยิ้มนิดนิดกับความเป็นเด็กของลูกตัวเอง
“วันเกิดสี่ขวบของแอมคะ แล้วก็แอมรักพ่อที่สุด แต่ก็รักเฟริสที่สุดในโลกเหมือนกัน”
“จ้าๆ ก้อได้ๆพ่อไม่แซวแล้ว”
“เอ้าอธิฐานสิจ้ะแอม แล้วค่อยเปาเทียน” คุณป้าบอก
“ขอให้คุณพ่อคุณแม่รักกันและอยู่กับแอมนานๆ ขอให้เฟริสกับแอมรักกันนานๆ และขอให้โลกนี่มีแต่สีฟ้ากับสีชมพู หิหิ”
“เฟริสมาช่วยแอมเป่าเทียยนด้วย” แอมแปร์พูดเสร็จก็ดึงหน้าผมเข้าไปใกล้หน้าเธอ
“หาๆ...ครับๆ” ผมตอบแล้วก็ลงมือเป่าเทียนพร้อมกับแอมแปร์ ในขณะที่คุณป้าเดินไปเปิดไฟนั้น แอมแปร์ก็จุ๊บที่ปากผมทีนึง ผมอึ้งไปเลยครับ ทั้งทีจะชิงหอมแก้มก่อนแท้
พรึ่บ~
“เฟริสเป็นอะไรหน้าแดงหนะลูกร้อนหรอ อ้าว แอมก็ด้วย แอร์ไม่เย็นรึไงลูก” คุณลุงถามเมื่อมองหน้าผมกับแอมแปร์
“เฟริสอย่าเขินสิ แอมเขินตามเลยเห็นมั้ย หยุดเลยๆ” เอาเป็นว่าผมผิดอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ยแล้วมาเฟิรสคิสเค้าจะไม่ให้เขินก็ด้านเกินไปแล้ว หรือว่าแอมแปร์ด้านหว่า อิอิ
“เอ้าตัดเค้กๆ” คุณลุกว่าพลางส่งมีดให้แอมแปร์
“ตัดลงไปทีเดียวพอนะจ้ะไม่ต้องตัดต่อเดี๋ยวแม่ตัดเอง ถ้าแอมตัดหมดคงไม่ได้กินเค้กพอดี” คุณป้าบอกพร้อมกับเรียกเสียงหัวเราะของคนทั้งโต๊ะยกวันเจ้าของงานคนเดียวที่นั่งอมซาลาเปาไว้ที่แก้มอยู่ แล้วแอมแปร์ก็ลงมือตัดเค้ก
“อร่อยมั้ยจ้ะเฟริส”คุณป้าถามหลังจากผมตักเต้กเข้าปาก
“อร่อยมากๆครับ เพราะแอมแปร์เป็นคนทำ” ผมตอบไปพร้อมกับเรียกหน้าแดงๆของแอมแปร์มาได้อีกรอบ(อันที่จริงเธอไม่ได้ทำหรอกแค่ช่วย(สั่ง)ให้กำลังใจคุณป้า
“เฟริสไม่ต้องโกหกก็ได้นะลูก ลุงไม่ว่าหรอก 555+” ^0^55+ คุณพูดและหัวเราะเสียงดัง
“อ๊ะ!! อะไรในปากอ่ะ” แอมแปร์พูดแล้วคายออกมา”
“แหวนนี่คะคุณแม่น่ารักจัง” แอมแปร์ใช่มือเขี่ยเค้กที่เกาะออก อันที่จริงผมแค่อยากจะให้เธอตักโดนแหวนอ่ะนะไม่รู้เลยว่าเธอจะกินไปทั้งวงอย่างงี้
“ใช่จ้ะ เฟริสเค้าให้แม่เอามาใส่ชิ้นที่แอมจะกินแล้วลูกก็กินมันไปจริงๆด้วย แม่ว่าไปล้างก่อนดีกว่านะจ้ะ มันอาจจะสวยกว่านี้ขึ้นเยอะเลย” คุณป้าบอกพลางทำหน้าแหยๆมองมาทางผม
“ค้า” แอมแปร์บอกแล้วรีบวิ่งไปล้างที่ก๊อกน้ำในครัว
“ขอบใจนะเฟริสแอมชอบมากเลย แอมจะไม่ถอดตลอดชีวิต” แอมแปร์บอกผมพลางสวมแหวนเข้านิ้ว
“ไม่ได้นะ” ผมตอบกลับไปทันที
“ทำไมหละ” o-0? แอมแปร์ทำหน้างงหนัก
“เพราะตอนเราแต่งงานกันแอมแปร์ต้องถอดแหวนออกไม่งั้นเราก้อใส่แหวนแต่งงานไม่ได้หนะสิ” ผมบอกความจริงออกไป
“เออ จริงด้วยๆ งั้นจะรอวงที่สองหละกันนะ อย่าลืมหละ” เธอบอกพร้อมกับมองแหวนในมือไปมา
1สัปดาห์ต่อมาที่สนามเด็กเล่น
“เฟริส แอมมีอะไรจะบอก”แอมแปรืกมหน้างุดๆขณะที่เรียกผม
”อะไรหรอ” ผมถามขณะนั่งอยู่บนกองทรายซึ่งแอมแปร์เป็นคน มันก็....ดูดีขึ้นมาหน่อยหละนะ
“เฟริสไม่โกรธแอมนะ” แอมแปร์ว่าพลางกำทรายในมือแน่น
“ไม่หรอกเฟริสไม่มีวันโกรธแอมหรอก ถ้าวันนั้นจิงๆมันคงไม่มาจากความรู้สึกจริงๆของเฟริสหรอก
“คือ ฮึก...แอมต้องย้ายบ้าน ฮือ” แอมแปร์พูดไปสะอึกสะอื้นไป
“แอมอย่าโกหกสิ โหกไม่ดีนะ เฟริสไม่ชอบคนโกหก” ผมกล่าวเสียงสั่น เพราะคิดว่าแอมแปร์พูดเล่น
“ไม่นะแมพูดจริงๆ ฮืออออออออ แอมไม่อยากจากเฟริส”เธอว่าแล้วยกมือที่เปื้อนทรายเช็ดหน้า
“ไม่ไปไม่ได้หรอแอม” ผมว่าพลางลุกไปนั่งข้างๆ
“แอมก็ไม่อยากไป แต่คุณแม่ ฮืออออออออออออออ” ตอนนี้ตาเธอแดงมากๆเลยอะ
“แอมอย่าร้องสิเฟริสจะร้องตาม ฮือออออออออออ”แล้วก็นั้นแหละครับ ผมร้องออกมา แล้วคุณป้าแม่ของแอมแปร์เดินมาเห็นเราร้องไห้ ก็รีบเดินมาดูใหญ่ ถามว่าเป็นอะไร ใครแกล้ว ไอหน้าตุ่นรึป่าว
“แม่ขา แอม ฮึอ...ฮือ แอมไม่อยากไปคะ แอมอยากอยู่กะเฟริส ฮือออออออออออออ” แอมแปร์ว่าน้ำตาไหลเต็มหน้า
“คะ..คุณป้าครับ ฮึก คุณป้า...ฮึกๆ...ไปที่ไหนหรอครับ”ผมถามปนสะอื้นฮึกๆ
“ป้าไปอังกฤษจ้ะ คุณลุงต้องไปดูแลบริษัทที่เปิดใหม่ที่นั้นหนะจ้ะ เฟริสอย่าร้องไห้น้า เดี๋ยวแอมแปร์ก็กลับมาจ้ะ” ผู้เป็นแม่มองเด็กสองคนแล้วทำหน้าเศร้า เพราะรู้ว่าเด็กสองคนผูกผันกันมาก แล้วพ่อแม่ผมก็เดินมา
“เฟริสร้องทำไมลูก” แม่ผมรีบเข้ามาอุ้มผมทันทีที่เห็นว่าผมร้องไห้
“หนูแอมแปร์ก็ด้วยร้องไห้ทั่งคู่เลย โดนอะไรกันมาหรอ ถึงร้องไห้จ้ะ” คุณแม่ผมถามแอมแปร์เหมือนกันที่เห็นคราบน้ำตาของแอมแปร์
“พอดีว่าบ้านเราต้องย้ายไปทำงานที่ต่างประเทศหนะคะ เลยให้แอมแปร์มาเล่บอกตาเฟริส แล้วพอมาเห็นอีกทีร้องไห้น้ำตาเต็มหน้าทั้งคู่เลย” คุณป้าอธิบายให้คุณแม่ผมเข้าใจ
“จริงหรอคะ แล้วไปประเทศอะไรหละ ออกเดินทางวันไหนหรอ” แม่ผมถามอย่างตกใจ เมื่อรู้เรื่อง
“ไปอังกฤษจ้ะ อีก2วันก็ต้องออกเดินทางแล้ว” คุณป้าบอก
“ฮืออออออออออออออออออออ/ฮืออออออออออออออออ”เสียงเราสองคนคือผมกับแอมแปร์นั้นเอง ร้องไห้ประสานเสียงกัน
“โอ๋ๆๆๆ อย่าร้องกันลูก งั้นเรามาถ่ายรูปดีกว่า เอาตอนที่ทั้ง2เล่นด้วยกันนะ เด๋วแม่กับคุณป้าจะถ่ายให้เอง” แม่แอมแปร์บอกกะพวกผม
“ครับ/คะ” เราตอบตกลงก่อนจะไปเล่นกันที่กองทรายต่อ
“เฟริสสัญญากับแอมได้มั้ยว่าจะไม่ลืมแอม จะไม่รักใครนอกจากแอม ฮืออ” แอมแปร์ว่าพลางร้องไห้เล็กๆ แล้วปาดน้ำตา
“ไม่หรอกเฟริสไม่มีวันรักใครแน่ๆนอกจากแอม แอมสัญญาได้มั้ยว่าจะไม่ลืมเฟริส จะไม่รักคนอื่นนอกจากเฟริส” ผมว่าพลางปัดทรายที่ติดแก้มแอมออก แล้วรีบขยี้ตาตังเองที่แดงเพราะจะร้องอีกรอบ
“ฮืออออออออ สัญญาจ้ะ งั้นเรามาเกี่ยวก้อยกันนะ ถ้าคนไหนลืมจะต้องถูกอีกฝ่ายลงโทษ” แอมแปร์ว่าแล้วยิ้มทั้งคราบน้ำตา
“อืม เฟริสสัญญา” ผมว่าอย่างหนักแน่น แล้วก็เอานิ้วก้อยตัวเองไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยเล็กๆของแอมแปร์ ต่างคนต่างยิ้ม มือนึงปาดน้พตา ส่วนอีกมือก็เกี่ยวก้อยกัน
วันเดินทาง
“ป้าไปนะจ้ะเฟริส ไปก่อนนะจ้ะ” คุณป้าบอกผม แล้วหันไปบอกคุณแม่ผม
“จ้ะ เดินทางดีๆนะจ้ะ” แม่ผมว่า
“ไปก่อนนะเพื่อน ถ้าโอกาสหน้ามีจิงคงได้มาดื่มกันอีก” พ่อแอมแปร์กล่าวพลางตบไหล่พ่อผม
“อืมบายเพื่อนเดินทางดีๆนะ ลูกสาวแกโตแล้ว ลูกข้าจองนะเว้ย” พ่อผมกล่าวลาพลางตีตราจองแอมแปร์เอาไว้ก่อน
“เออๆ โอเคเว้ย จะเลี้ยงให้สวย ให้เฟริสเห็นอีกครั้งแล้วตะลึงเลย พวกลุงไปก่อนนะเฟริส อยู่กับพ่อแม่เป็นเด็กดีนะ” คุณลุงพูดกับพ่อเสร็จก็หันมายิ้มเอ็นดูให้ผม
“ครัยคุณลุง” ผมกล่าวแล้วยกมือไหว้
“แอมไม่ลาเฟริสหรอลูก” คุณป้ากล่าวบอกแอมที่ซบไหล่อยู่
“ไม่คะคุณแม่ ฮืออออ ถ้าบอกว่าลาก่อน มันก็เหมือนกับว่าจะไม่เจอกันตลอดชาติ แอมไม่บอกลาหรอกคะ ฮืออออออ” แอมแปร์เงินหน้าที่ตาแดงๆขึ้นมาแล้วพูด และก้มไปร้องไห้อีกรอบ
“จ้ะๆงั้นไปก่อนนะจ้ะเครื่องใกล้ออกแล้ว” คุณป้าว่าพลางเตรียมหัยหลังเดินจากไป พอไปได้ครึ่งทางแอมแปร์ชะโงกขึ้นมาจากไหล่ แล้วตะโกนบอกผมว่า
“เฟริสรอแอมนะ แอมจะกลับมาหาเฟริส อย่าลืมกันนะ” แล้วแอมแปร์ก๋เดินเข้าประตูผู้โดยสารไป
“ฮึกๆๆ ฮือออออออออ แม่ครับเฟริสเสียใจ” ผมว่าพลางเกาะท่อนขาแม่ร้องไห้
“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะลูก เฟริสก็อย่าลืมแอมสิลูก แอมก็บอกแล้วหนิว่าจะกลับมาหา ฉนั้นตอนที่หนู
แอมไม่อยู่ เฟริสต้องเข้มแข็ง และไม่ร้องไห้นะลูก พอหนูแอมกลับมาจะได้ปกป้องหนูแอมได้ไงลูก” คนเป็นแม่พูดปลอบใจลูกตัวเอง แล้วนึกสงสารจับใจ
“ครับแม่ เฟริสจะเข้มแข็ง จะไม่ร้องไห้เฟริสสัญญา”
หลังจากนั้นผู้เป็นแม่ก็ไม่เคยเห็นน้ำตาลูกชายตัวเองอีกเลย แถมยังพยายามทำตัวเข้มแข็งยิ่งขึ้น แล้วทุกวันก็จะมานั่งมองรูปถ่ายที่ถ่ายกับแอมแปร์ไว้ทุกวัน จากทุกวันจนกลายเป็นปี จากปีกลายเป็นหลาย
“เฮ้ย เฟริส เป็นไรเงียบเลยนะมึง คิดถึงเธอคนนั้นอีกแล้วหละสิ มึงเนี่ยน้า อย่าคิดให้มันมากนักเลย จริงจังกับผู้หญิงคนอื่นบ้างเถอะ กูสงสารผู้หญิงพวกนั้นวะ” ไอ่เพื่อนเวรที่มีนามว่า ปล์ามปลุกผมตื่นจากผวังที่กำลังนึกแล้วทำให้น้ำตาซึม
“มึงก็พูดมาได้นะ แหมมึงน้อยหน้ากูที่ไหนหละ พูดไม่ดูตัวเองเลย น้อยหน้ากูหรอไง” ผมว่าพลางตบหัวไอ้เพื่อนรัก
“อ่าวๆ มึงว่างี้ก็สวยดิ ที่กูไม่จริงจังก็เพราะ กลัวผู้หญิงคนอื่นเค้าเหงา อย่าลืมสิ กูเป็นของทุกคนเว้ย รักทุกคนนะคร้าบบบบบบบบบบบ” ^0^ ไอ้ปาล์มว่าพลางพูดแซวสาวที่เป็นแฟนคลับมัน เล่นเอายัยพวกนั้นกรี๊ดใหญ่เลย
“เออ!!!ไอ้ของสาธารณะ”ผมว่ากัดมัน
“พูดงี้ก็สวยดิเพื่อน ต่อยกัยเลยดีกว่า” ไอ้ปาล์มว่าพลางกระโดดมาล็อคคอผม
“เฮ้ย!!!!!!!!!!!!!!ปล่อยเว้ย กูยิ่งบ้าจี้อยู่” ผมรีบแย้งมัย นั้นยิ่งทำให้มันยิ่งจักจี้ผมใหญ่
“พวกแกจะเล่นกันอีกนานมั้ยเนี่ย เพลงยังแต่งค้างอยู่เลยนะมึง โน๊ตก็ยังแกะไม่เสร็จ ประกวดอะจะประกวดมั้ยหะ!!!!!!!!!!!!!!!!”
เงียบ
โอว~ ในที่สุดวาจาเชือดเฉือน ที่เปรียบดังน้ำแข็งก็หลุดจากปากไอคนที่ชื่อบาส ผมกับไอปาล์มมองหน้ากันก่อนจะ
“ขอโทษคร้าบบบบบบบ/ขอโทษคร้าบบบบบบบบ” เราสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน ไม่อยากเถียงกับมันมาก เดี๋ยวหนาวตายพอดี สาเหตุเนื่องจากน้ำแข็งที่ติดมากับคำพูดของมัน
“แล้วแกจะร้องเพลงอะไรไอเฟริส แกต้องเปิดงานหนิ จากนั้นค่อยเป็นหน้าที่พี่ป๊อปที่ร้องต่อจากนาย”
“อ๋อ อิอิ นางฟ้าคนเดิมเว้ย ของพี่แบงค์อะ รู้จักป่าว” ผมว่าพลางหยิบเนื่อเพลงมาดู ถ้าจะโหยหวนไม่เบา
“ไอ้ฟาย ไม่รู้กูก็โง่แล้ว กูไม่ใช่เต่านะเว้ยจะได้อยู่แต่ในกระดอง ไม่รู้เรื่องเพลง” ไอ้ปาล์มว่าอย่างงอนๆ
“เออๆ โทษเว้ย”
“แล้วจำโน้ตได้ยัง แกต้องเล่นกีต้าร์ คลอๆไปกับเพลงด้วยหนิ” ไอบาสถามผมหลังจากเงียบไปนาน
“ก็พอได้วะ แต่ยังไม่คล่องอะ เดี๋ยวพวกมึงไปค้างบ้านกูดิ จะได้ไปซ้อมด้วยกันด้วย เด๋วห้องดนตรีกูล้างพอดี พวกมึงไม่ไปมั้งเลย” ผมกล่าวชวนเพื่อนทั้งสองที่นานที่ปีหนจะไปบ้านผม เพราะส่วนมากจะไปบ้านไอบาสมากกว่า เพราะบ้านมันคนใช่เยอะ น่ารักทั้งน้านนนนนนน หุหุ
“โอเคเพื่อน เฮ้ยบาสตกลงนะ” ปาล์มว่าพลางกระถุงไหล่บาส
“เออๆ กูเคยขัดพวกมึงได้มั้ยหละ” ไอบาสว่าพลางหันไปสนใจโน้ตที่มันต้องใช่กับเบสสุดรักของมัยต่อ แล้วโลกก็หลุดจาดภาวะน้ำแข็งเกาะ
“โอเค....งั้นกลับบ้านกันเถอะวะมืดแล้วกลัวโดนฉุด” ไอ่ปาล์มว่าพลางหยิยเป๋มาสะพาย
“แหวะ!!!พูดมาได้นะมึง มึงจะฉุดเค้าไม่หละว่า “ ผมว่ากัดมันนิดๆ
“เหอะ” มันว่าพลางเชิดหน้า ถ้าผมไม่สนิทกะมันผมคงคิดว่ามันเป็นตุ๊ดไปแล้วแน่ๆ
แอ๊ด~
“พี่ปาล์มขา จะกลับแล้วหรอคะ ไปเที่ยวกะเชอร์รี่ก่อนได้มั้ยคะ” ยัยผู้หญิงคนั้นว่าพลางเดินเข้ามาในห้องซ้อม พลางเอาอกที่โครตพ่อโครตแม่แตงโม มาเบียดที่แขนไอปาล์ม
“ได้สิครับ งั้นเดี๋ยวพี่บอกเพื่อนพี่แป๊ปนะครับ” ไม่มีปฏิเสธเลยนะมึง แล้วมันก็เดินมากระสิบกับผมและไอ้บาส
“คิกๆกูต้องไปแล้ววะคงไม่เสียใจนะเว้ย ที่กูกลับด้วยไม่ได้ แต่กูต้องไปจริงๆวะ สรรค์กำลังเรียกกูอยู่ไปช้าเดี๋ยวสรรค์ปิด อุตสาห์มาหาถึงที่ เย็นนี้ลาบปากอีกแล้วกู” ไอ้ปาล์มว่าพลางกระโดดไปหาน้องไดนาไมค์นั้น
“มึงรีบไปเถอะ ก่อนที่กูจะถีบส่ง” ไอ้บาสพูดขึ้นมา เงียบเลยอะดิไอ้ปาล็มสมน้ำหน้า555555+
“แหะๆ งั้นไปก่อนนะเว้ย บาย เดินข้างทางระงับจิตใจด้วยนะเว้ยไอ้เฟริส เดี๋ยวเผลอไปฉุดผู้หญิงเค้า555+” ไอ้ปาล์มพูดกวนก่อนจะโอบไหล่น้องไดนาไมไป(คือผมไม่รู้จะเรียกไงดีอะ)
“ปะ กลับกันไอ้บาส”ผมชวนมันกลับ
“กูว่ากูจะค้างที่บ้านพักพ่อกูหลังโรงเรียนวะมึงกลับไปเถอะ” ไปบาสพูดขึ้นมา
“กรรม แล้วมึงไม่บอกกู กูเลยต้องกลับคนเดียวเลย” ผมว่าอย่างพาลๆ
“มึงไม่ถามหนิ แล้วใครเค้าจะตอบมึง” ไอ้บาสที่กวนผมเสร็จ ก็หันไปยิ้มอย่างซะใจที่ตอกกลับผมได้เออ!!จำไว้เลยไอ้เพื่อนเวร
“เออ ไปก่อนนะเว้ยเดี๋ยวกูได้ฆ่าคนตายแน่ๆถ้าพูดกะมึงต่อ” ปัง~ ผมรีบวิ่งขึ้นรถกลับบ้านมันที ผมรีบกลับบ้านทำกิจวัติประจำวันเหมือนทุกครั้ง คือกลับไปอาบน้ำ แล้วลงมากินข้าวกับพ่อแม่ แล้วขึ้นห้องนอนแต่ไม่ทำการบ้าน (คงรู้นะเพราะอะไร เพราะผมเก่งอยู่แล้วเลยไม่ต้องทำไง)สุดท้าย ก็นั่งมองรูปเธอคนนั้นผู้เป็นที่รัก
ความคิดเห็น