ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    First Of Love รักครั้งใหม่กับหัวใจดวงเดิม

    ลำดับตอนที่ #1 : อดีต1

    • อัปเดตล่าสุด 1 ธ.ค. 49


                                                                     Chapter:1

           อดีต1   
      
     

    หวัดดีครับ  ผมชื่อ นาย ศิลาเวทย์  ศิระวัฒนาวงศ์ครับ  ตอนนี้ผมอายุ  17  ครับ  ชื่อเล่น  เฟริส  เกิดวันที่  14  กุมภาพันธ์  2531  เลือกกรุ๊ป  AB  ชอบเล่นกีต้าร์ครับ(เป็นมือกีต้าร์ของโรงเรียน  ใช่ว่าผม  ร้องเพลงไม่เก่งนะ  แต่ชอบกีต้าร์มากกว่าอ่ะก็เลยเล่น)  ผมเรียนที่  โรงเรียน  บูรวิทณ์(บ.ว.)  ม.5/9 ครับ ห้องสุดท้ายเลยแบบว่าผมไม่ค่อยชอบเรียนหนะ  ชอบแต่นอน อ๋อ!  แล้วผมก็อยู่สายศิลป์ครับ  แต่คงไม่ต้องบอกก็รู่เนอะสายวิทย์ที่ไหนมาอยู่ห้อง 9  ผมมีเพื่อน 2 คนครับ

                    ชื่อ  นาย  นภดล   วรเวทย์วินัยกานต์  นามเล่นว่า ไอ้ ปาล์ม  มันเป็นเพื่อนซี้ปึกเลยครับ  เกิดวันที่  17 กุมภาพันธ์  2531(มันเกิดวันเดียวกับผม  แต่ผมเกิดกลางคืนมันเกิดกลางวัน)  เรียนที่เดียว ห้องเดียวกัน  นั่งใกล้กัน  และที่สำคัญที่สุด  พวกเราชอบชอบผู้หญิงคนเดียวกันครับ  แต่ผมก็ไม่ได้จริงจังมากมายในเมื่อผมก็แค่คิดเล่นๆกับพวกผู้หญิงพวกนั้นเหมือนกัน  เราก็เลยไม่ผิดใจกัน  แถมยังสะใจซะด้วยที่หลอกยัยพวกนั้นได้  ผู้หญิงสมัยนี้อะไรก็ไม่รู้หลายใจชิปเป๋ง  สรุปคือ  ผมกับไอ้ปาล์มคล้ายกันที่สุดในกลุ่มก็ว่าได้  ก็มีอีกคนนี้แหละที่ต่างจากเราราวฟ้ากับดิน  มันไม่ค่อยพูดเลย  เก๊กขรึม  แต่อยากบอกว่ามันหน้าตาดีมากๆครับสาวกรี๊ดกันสลบ  ถึงมันจะเงียบๆดูเย็นชาก็เถอะ   แต่มันก็ได้ฉายามาจากแฟนคลับมันด้วยนะ  อืม...อะไรอ่ะ  อ๋อ!  เจ้าชายน้ำแข็งครับ   ส่วนผม  555+  ไม่มีครับ  YY^YY  ไอ้เจ้าชายน้ำแข็งเนี่ยชื่อจริงมันมีนามว่า

                    ชื่อ  นาย  อาทิตย์   บูรวิทณ์กิจเจริญ  (ตรงข้ามกับฉายามันมาก  ฉายามันเย๊นเย็น  แต่ชื่อจริงมันนี้ซิ ไม่บาร์ร้านเลย)    ชื่อเล่นว่าบาส  เกิดวันที่  17  กุมภาพันธ์ 2531 มันเว่อร์มั้ยครับเกิดวันเดียวกันสามคนเลย  ตอนแรกผมก็งงนะว่าทำไมเราสามคนถึงเกิดวันเดียวเรียกได้ว่าสุดยอดปาฏิหารย์เลย  แต่ที่ผมเข้าใจเนี่ยไม่ใช่เพราะอะไรหรอก  มีเหตุผลเดียวแหละ.....ผมเก่ง  ^^  โทษครับอย่าเพิ่งทีบ  แค่ล้อเล่นเอง  มาเล่าต่อดีกว่า  เราสามคนอยู่ ชมรมเดียวกันครับคือ  ชมรมดนตรี  เรียกดีๆหน่อยก็  โฟร์คซองค์  ที่พูดไปแล้วคือผมเล่นกีต้าร์  ไอ้ ปาล์มมันเล่นกลอง  ส่วนเจ้าชายน้ำแข็งก็เล่นเบสครับ  ผมอยากบอกมันเท่ได้ใจมากครับไอ้บาสเนี่ย  ตอนก่อนจะเล่นดนตรีที่หอประชุมปกติมันจะไม่ค่อยยิ้มครับ  แต่พอมันจับเบสแค่นั้นแหละ  มันจะยิ้มนิดๆที่มุมปากแถมยังมีลักยิ้มอีกด้วย  สรุปคือคนที่ดูเราหน้าเวที  สลบเป็นแถวๆเลย    อ๋อ..พวกเราสามคนยังโสดครับ  ผมรู้นะว่าคุณคนอ่านถามผมในใจว่ามีแฟนกันยัง   คือแบบว่าพวกมันยังไม่เจอคนที่ถูกใจหนะครับ  ที่ผมใช่คำว่าพวกมันก็คงเพราะว่า  ผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้วครับรักมากด้วยถึงเธอจะไม่อยู่แล้วก็ตามแต่ผมก็รักเธอ.....เพราะเราสัญญากันไว้   เดี๋ยวผมจะเทศให้ฟัง

    13 ปีที่แล้ว

                    ผมอายุ 4 ขวบฮะ  ตอนนี้ผมเพิ่งย้ายมาที่หมู่บ้านแห่งใหม่ที่ใจกลางกรุงเทพฯ  เพราะมันใกล้ที่บริษัทพ่อผม  แล้วผมก็ต้องย้ายโรงเรียนด้วย  ทำให้ผมต้องหาเพื่อนใหม่อีก  เฮ้อ~   แล้วจะหาได้มั้ยเนี่ย  ผมมานั่งเล่นที่สนามเด็กเล่นในหมู่บ้านทุกวัน  เพราะเป็นช่วงปิดเทอมอยู่  ผมนั่งก่อปราสาททรายอยู่เพลินๆก็มีเสียงหวานๆของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นข้างๆหู

                    "ว้าว!!~ นายเก่งจัง  ทำเองหรอ  สอนฉันบ้างสิ"  เด็กผู้หญิงคนนั้นพูดพลางทำตาโตมองปราสาททรายของผม

                    "ได้สิๆ  แต่เธอเป็นใครหละฉันยังไม่รู้จักเธอเลย"  ผมตอบรับเธออย่างดีใจ  ก็จะมีเพื่อนเล่นทั้งที  ถึงจะเป็นผู้หญฺงก็เถอะ

                    "ฉันชื่อ  แอมแปร์  ฉันอยู่ที่หมู่บ้านนี้มาตั้งนานแล้วแต่ว่าฉันต้องทำการบ้านตอนปิดเทอมให้เสร็จก่อนถึงจะมาเล่นได้  เมื่อกี้ฉันก็เพิ่งทำเสร็จคุณแม่เลยให้มานั่งเล่น  นายหละฉันไม่เคยเห็นนายเลย  เพิ่งย้ายมาใหม่หรอ"  เด็กผู้หญิงคนนั้นบอกชื่อตัวเอง  พลางอธิบายเหตุผลต่าง  ผมอยากบอกเธอว่าเธอพูดเก่งมาก

                       ชื่อแอมแปร์หรอ  น่ารักจัง  ผมคิดในใจ

                    "เราชื่อ  เฟริส  เพิ่งย้ายมาได้สัปดาห์เดียวเอง เลยไม่มีเพื่อนเล่น  เธอเป็นเพื่อนเราได้ป่าว"  ผมถามเพราะผมไม่อยากเล่นคนเดียวอีกแล้ว  มันเหงา

                    "ได้สิ  ตกลงเราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ"  แอมแปร์ตอบตกลงพลางยิ้มแล้วก็หอมแก้มผม  /////-//////  ผมหน้าแดงมาก  เพราะไม่เคยถูกผู้หญิงหอมแก้มมาก่อน  ถึงมันจะดีใจนิดๆก็เถอะนะ

                    "แก้มนายหอมจัง"  เธอบอกผม  พลางเอามือสองข้างมาดึงแก้มผมเล่น

                    "ระ....หรอ"  ผมตอบอย่างตะกุกตะกัก

                    "เรามาก่อปราสาททรายกันดีกว่า"  แอมแปร์พูดจบ  ก็ตักทรายใส่กระป๋องแล้วทำปราสาททายของตัวเอง     แล้วผมก็ได้รู้ว่าแอมแปร์สร้างปราสาททรายได้สวยมาก...แบบว่าสวยไปหมด  มันไม่น่าเรียกปราสาททรายด้วยซ้ำ  น่าจะเรียกว่า บ้านโดนคลื่นยกัษ์ถล่ม

                    "แอมแปร์เฟริสว่าแอมแปร์ทำผิดแล้วนะ"  ผมว่าพลางทุบปราสาททรายของเธอให้ราบเรียบกับพื้นเพื่อทำใหม่  โดยไม่ได้มองหน้าแอมแปร์ที่เริ่มบูด

                    "เฟริสทำลายปราสาททรายของแอมแปร์ทำไม  ฮึก  ฮือออ"  แอมแปร์ว่าผมพลางสะอื้น  ตายหละหว่าร้องทำไมเนี่ย  แล้วเค้าง้อผู้หญิงกันยังไงหละเนี่ยไม่เคยซะด้วย 

                    "เฟริสขอโทษนะแอมแปร์  เฟริสแค่อยากให้แอมแปร์ทำใหม่มันไม่ดีหนะ"  ผมว่าอย่างลุกลี้ลุกลนแม่เธอมาเห็นว่าผมเปิงแน่

                    "เฟริสว่าปราสาททรายของแอมแปร์ไม่สวยหรอ ฮืออออออ  ฮึก ฮือออ"  แอมแปร์ยิ่งร้องไห้และสอื้นหนักว่าเดิม

                    "เปล่าเราขอโทษแอมแปร์  เราแค่อยากทำปราสามทรายกับแอมแปร์  เราขอโทษ  ทำยังไงถึงจะหายโกรธบอกเฟริสมาเลยนะ  โอ๋ โอ๋"  ผมขอโทษพลางลูบหัวแอมแปร์เบาๆ

                    "จริงรึเปล่า......งั้นเฟริสต้องให้แอมแปร์ตีมือคืนก่อนทีนึงนะ "  แอมแปร์ว่าพลางปาดที่ตาที่ยังเหลือคาบน้ำตาดูน่าสงสารอยู่

                    "อืม...โอเคถ้าทำให้แอมแปร์หายโกรธ"  ผมว่าพลางแบมืออกไปข้าง

                    แปะ

                    แอมแปร์ตีมือผมนิดนึงก่อนยิ้มออก  เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่ยอมคนจริงๆตั้งแต่ผมเจอมา  แล้วผมก็ยิ้มรับเธอ ทำให้แอมแปร์หน้าแดงผมก็งงว่าทำไมอ่ะนะ

                    "นี่เฟริสสัญญากับแอมแปร์ได้มั้ย"  เธอถามผม

                    "สัญญาอะไรหรอ"   ผมถามอย่างสงสัยว่าเธอจะให้ผมสัญญาอะไร

                    "ก็สัญญาว่าเฟริสจะไม่ทำให้แอมแปร์ร้องไห้อีกแล้วไง" เธอตอบผม

                    "ได้สิเราสัญญา"  ผมว่า

                    "ไม่ได้ต้องเกี่ยวก้อยด้วย"  เธอว่าพลางชูนิ้วก้อนขึ้นมา  รู้สึกเด็กผู้หญิงจะชอบอะไรแบบนี้กันจังนะ

                    "ก็ได้"  ผมว่าพลางเอานิ้วก้อยไปเกี่ยวเธอ

                    "แล้วก็แปะโป้งด้วย"  แอมแปร์ว่าว่าพลางหมุนมือที่ยังเกี่ยวก้อยอยู่ขึ้นมาแล้วเอามาแปะกับนิ้วโป้งของผม 

                    "แล้วก็ถ้าเฟริสผิดคำสัญญาต้องกินเข็มพันเล่มด้วย"  แอมแปร์พูดมา

                    "โห  ขนาดนั้นเลยหรอแอมแปร์"  ผมว่าอย่างกลัวๆเมื่อนึกถึงตอนเมื่อทำผิดสัญญา

                    "ใช่ ถ้าถึงตอนนั้นเมื่อไหร่แล้วเฟริสทำแอมแปร์ร้องไห้แอมแปร์จะไม่ยุ่งกับเฟริส  จะไปจากชีวิตเฟริสทันทีเลย"  แอมแปร์ว่าท่าทางขึงขัง

                    "ก็ได้  ถ้าถึงตอนนั้นเฟริสทำให้แอมแปร์ร้องไห้เมื่อไหร่เฟริสจะยอมทำตามที่แอมแปร์สั่งทุกอย่าง"  ผมว่าพลางชูสามนิ้ว

                    "ดีมาก" ^^  แอมแปร์ยิ้มหร่า

                    "แอมมาเล่นที่นี้ทุกวันรึเปล่า"  ผมถามเพราะอยากรู้จริงๆ

                    "มาสิ  ต้องมาเล่นทุกวันอยู่แล้ว  ยกเว้นแต่ว่าเฟริสไม่อยากให้แอมแปร์มา"  แอมแปร์ว่าแล้วทำแก้มป่อง

                    "ใครจะกล้าห้ามแอมแปร์หละ  งั้นแอมแปร์ต้องมาเล่นกับเฟริสทุกวันตอนปิดเทอม"  ผมทำขอตกลงกับแอมแปร์

                    "ได้สิ  แอมก็ไม่มีเพื่อนเล่นเหมือนกัน"  เธอตกลง

                    "แอมแปร์เฟริสว่ามันเย็นแล้วนะ  เฟริสว่าเรากลับบ้านกันดีกว่า"  ผมชวนแอมแปร์กลับบ้าน

                    "ได้สิ"  แอมแปร์ลุกขึ้นแล้วปัดกระโปรงของตัวเอง

                    "เดี๋ยวเฟริสเดินไปส่งแอมแปร์นะ"  ผมว่าพลางจูงมือแอมแปร์

                    "เหนะ   เฟริสแต๊ะอั๋งแอมแปร์"  แอมแปร์ว่าแล้วยิ้ม

                    "ปะ  เปล่านะ"ผมรีบแก้ตัว

                    "ไม่เป็นไร  ถ้าเฟริสจับแอมแปร์ไม่ว่าหรอก   ต่อไปนี้แอมแปร์จะไม่ให้จับมืออีกนอกจากพ่อแม่แล้วก็

    เฟริสดีไหม"  แอมแปร์ว่าแล้วจับมือผมตอบแล้วแกว่งไปมาตอนเดินออกจากสนามเด็กเล่นของหมู่บ้าน

                    "อืม"  ผมก้มหน้า  แล้วทำไมผมต้องอายคนเดียวนะแอมแปร์ไม่เห็นอายเลย(มันว่าแกด้านอะ  แอมแปร์)

                    หลังจากนั้นผมก็เดินไปส่งแอมแปร์ที่บ้านซึ่งบ้านของแอมแปร์ก็อยู่คนละซอยกับที่บ้านผมนั้นเอง  แล้วคุณแม่ของแอมแปร์ก็ให้ผมเข้าไปนั่งเล่นในบ้านแล้วก็โทรบอกคุณแม่ผมที่อยู่ที่บ้านให้มารับกลับ แต่ตอนคุณแม่ผมมารับนะสิครับ  คุยกับแม่แอมแปร์ตั้งนานสงสัยคงถูกชะตากัน  แอมแปร์เลยพาผมไปเล่นที่ห้องนอนเธอ  ผมอึ้งในตอนแรกๆที่เห็นห้องของแอมแปร์เพราะมันเป็นสีฟ้าทั้งห้องย้ำ!!ทุกอย่าง  เตียง  ผ้าห่ม  หวี ทุกอย่าง ฟ้าหมด  แล้วก็ตุ๊กตาที่เต็มเตียงนั้นอีก  เยอะมากๆซึ่งส่วนมากจะเป็นโดเรมอนเพราะมันมีสีฟ้า  จะมีสีอื่นอยู่ก็ไม่กี่ชิ้นหรอก

                    "แอมแปร์ชอบสีฟ้าหรอ"  ผมถาม

                    "ใช่แอมชอบมากๆเลย  ใครให้ของขวัญแอมสีฟ้านะแอมจะรักจนตายเลย"  แอมแปร์ว่าแล้วก็วิ่งไปนั่งที่ขอบเตียงลายโดเรมอนของเธอ

                    "แล้วเฟริสชอบสีอะไรหละ"  แอมแปร์ว่าพลางกอดโดเรมอนหัวกลม

                    "เฟริสไม่บอกได้ไหมเฟริสอายอ่ะ"  ผมว่า

                    "ไม่ได้ทำไมหละเฟริส  ไม่งั้นแอมร้องไห้นะ"  แอมแปร์ว่าแล้วก็เบะปาก

                    "บอกก็ได้  อย่าหัวเราะหละไม่งั้นเฟริสโกรธจริงๆนะ"  แล้วผมก็ต้องบอกแอมแปร์จนได้  รู้สึกผมจะไม่เคยชนะแอมแปร์ซักครั้งเลยนะ

                    "เฟริสชอบสี.....ชมพูหนะ"  ผมบอกออกมาในที่สุดพลางก้มหน้างุดๆ

                    "จริงหรอ   ว้าวงั้นห้องของเฟริสก็สีชมพูทั้งห้องนะสิ  อยากเห็นจังไว้พาแอมไปบ้านเฟริสบ้างนะ"  แอมทำท่างตื่นเต้น  ซึ่งไม่เห็นจะล้อเหมือนเพื่อนคนก่อนๆของผมเลยที่พอรู้ว่าชอบสีชมพูก็ว่าผมเป็นตุ๊ด

                    "ก็ประมาณนั้น"  ผมตอบ

                    "นี้  แป็ปนะเฟริสเดี๋ยวแอมไปหยิบของมาให้"   แอมแปร์พูดแล้วเดินไปค้นลิ้นชัก

                    "เอ้า!"  แอมแปร์ว่าพลางส่งของนั้นมาให้ ผม

                    "ให้เฟริสทำไมหรอ"  ผมถามงงๆ

    "ก็เฟริสชอบสีชมพูหนิ  แล้วเป็นของขวัญที่เราเป็นเพื่อนกันไงไว้เฟริสก็หาของสีฟ้ามาให้แอมปแปร์บ้างสิ"  แอมแปร์ตอบผม

    "ก็ได้  ขอบใจนะเราชอบมากเลยพวงกุญแจเท็ดดี้แบร์อันนี้  เฟริสจะเก็บไว้เป็นอย่างดีเลยเฟริสสัญญา"  ผมว่าพลางมอง  แหมแถมสีชมพูอีกนะมีผ้าผันคอด้วย....ไม่เป็นไรผมชอบ 555+

    "เฟริสกลับบ้านได้แล้วลูก"  แม่เรียกผมกลับบ้านอยู่หน้าประตูห้องแอมแปร์

                    "ครับแม่"  ผมรับปากแม่แล้วรีบเก็บตุ๊กตาใส่กระเป๋ากางเกง

                    "เฟริสจะกลับแล้วหรอ"  แอมแปร์ถามเสียงเศร้าๆ

                    "อืม...แอมแปร์ไม่เป็นไรนะ   เดี๋ยวพรุ่งนี้เราก็เจอกันที่สนามเด็กเล่นอีก"

                    "บ๊ายบายจ๊ะ" แอมแปร์บอกลาผมพลางยิ้มอย่างดีใจที่พรุ่งนี้ผมบอกว่าจะเจอกันที่สนามเด็กเล่น

                    วันเวลาผ่านไปประมาณ 2เดือนเราสนิทกันมาก  แถมตอนนี้เธอเลื่อนฐานะจากเพื่อนมาเป็นเฟริสเลิฟผมด้วย  แบบว่ามันอธิบายไม่ถูกอ่ะ  แอมแปร์นิสัยไม่เหมือนใคร  คือไม่ยอมใคร   ขี้ลืม  ชอบเก็บงำความคิดไว้คนเดียวแล้วมางอนผมที่หลัง(โดยที่เธอคิดมากไปเอง)   ชอบเถียงเป็นที่หนึ่ง  เป็นคนที่ไม่ให้ใครเห็นน้ำตาง่ายๆเหมือนเด็กผู้หญิงอื่นๆ  และอีกจิปาถะมากมาย  ที่เด็กผู้หญิงส่วนใหญ่เค้าไม่เป็นกัน  แต่เธอเป็น  อย่างงี้แหละครับผมถึงรักเธอ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×