ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Give in to Love>>>นทแอปแอปนท [yuri]

    ลำดับตอนที่ #5 : เริ่มงานวันแรก

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ค. 54


    “แอปๆแวะซื้อน้ำส้มที่ป้ายรถเมล์ข้างหน้าหน่อยนะแก ฉันหิวน้ำอ่ะ” อากาศร้อนๆทำให้สาวผิวเข้มกระหายขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ภาวิดาสะกิดคนข้างๆด้วยคำพูด แต่อีกฝ่ายก็ให้ความเงียบมาเป็นคำตอบ
    “ว่าไงแก แกจะเอาซักแก้วด้วยไหม” เอ่ยซ้ำพร้อมกับหันไปปมองข้างๆ พบว่าเพื่อนรักไม่สนใจคำพูดของตน ซ้ำยังยิ้มเหม่อลอยร่างเข้มถอนหายใจตะโกนเรียกอีกฝ่ายเสียงดัง
    “ไอ้แอป เอ็งจะเหม่อไปไหนวะ?”
    “เว้ยเฮ้ย!จะตะโกนทำไมวะ เรียกเบาๆก็รู้เรื่องแล้ว”
    “ยังจะมาพูดอีก แกเหม่อแบบไม่ไหวแล้วนะ คิดจะแจกยิ้มให้คนทั้งป้ายเลยเหรอเนี่ย มีเรื่องดีใจอะไรนักหนาวะ”

    อิษฏ์อาณิกไม่ตอบ เธอหุบยิ้มกว้าง เหลือไว้เพียงรอยยิ้มบางๆที่มุมปาก...แม้ว่าวันนี้แดดจะจัดจ้าชวนให้แสบผิว แต่ท้องฟ้าวันนี้มันช่างสดใสเสียเหลือเกิน ราวกับชีวิตที่หม่นหมองถูกความอบอุ่นทอแสงสดใสเข้ามา เพิ่มเติมความสุขใจให้กับชีวิตเทาๆอีกครั้ง
    เนิ่นนานที่ชีวิตมีแต่ความเงียบเหงา เหน็บหนาว
    เนิ่นนานที่ชีวิตไร้คนรอบสนใจ ใส่ใจ
    เนิ่นนานที่ใครบางคนเคยจากไป
    ใครบางคนที่เห็นความสำคัญของเธอ
    ใครบางคนที่ดูอบอุ่น
    ใครบางคนที่ใส่ใจ เมตตา การุณกับเธอยิ่งนัก
    ใครคนนั้นกลับมาแล้ว...กลับมาอยู่ใกล้ๆเธออีกครั้ง
     ...กลับมาแล้วสินะคะ คุณหนู
     
     
    เสียงครืดๆบนหัวเตียงทำให้คนที่นอนหลับสบายอยู่ใต้ผ้าห่มงัวเงียหงุดหงิด ปกติเขาต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าอยู่แล้ว นี่เพิ่งตีสี่ ทำไมถึงได้มีสายเข้า มือหนาคว้าสะเปะสะปะไปยังตำแหน่งที่เจ้าเครื่องจิ๋วครางครืดๆ แสงจากมือถือส่องให้เขายีตา เมื่อเห็นเบอร์เรียกเข้าแล้วคิ้วหนาขมวดมุ่น...บิดาของเขาโทรมาทำไมแต่เช้า

    นิ้วหัวแม่มือควานหาปุ่มรับสาย...พอได้สดับรับฟังเนื้อความสารที่บิดาแจ้งเท่านั้นแหละ นนท์ถึงกับตาสว่างผุดลุกจากเตียงอย่างอัตโนมัติ
    “หา!อะไรนะป๊า ทำไมมันเร็วกว่ากำหนดตั้งสามวันล่ะ แล้วนี่ผมจะเตรียมการณ์ทันรึเปล่าเนี่ย”

    แต่ปลายเสียงตอบกลับอย่างสุขุม แม้ในใจจะร้อนรนไม่แพ้บุตรชาย “นั่นน่ะสิ แล้วนี่จะทำยังไงดี ยังไม่อยากให้เจ้านทเข้าบริษัทเลยจริงๆ วันนี้มีประชุมโปรเจคตัวใหม่ แต่ละฝ่ายนำเสนอแผนงานเสียด้วย”
    ชายหนุ่มรู้แกวพี่สาวดี ว่าหากปล่อยนทเข้าบริษัทพรุ่งนี้ มีหวังผู้ถือหุ้นแต่ละรายได้ถอนหุ้นเกลี้ยง
    “ให้มันเข้าบริษัทวันนี้ไม่ได้นะป๊า ไม่งั้นมันไปเปลี่ยนแผนงานโปรเจคใหม่ที่เขาวางมาหลายเดือนเป็นว่าเล่นแน่”
    ผู้เป็นบิดาเงียบไปสักพักอย่างครุ่นคิด นนท์เองก็ลุกขึ้นมากุมขมับบนเตียง ทำไมทุกอย่างมันจึงวุ่นวายได้อย่างน่าหวาดเสียวเช่นนี้ เขาพยายามคิด แต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออกในเวลาที่กระชั้นชิดแล้วจิตใจที่ร้อนรนเช่นนี้

    เสียงเข็มนาฬิกาบนโต๊ะเดินตึกตัก พร้อมกับเสียงหายใจฮึดฮัดของนักธุรกิจหนุ่ม ทำไมหนอ ทำไม ทำไมพี่สาวตัวดีถึงได้กลับมาในเวลาสำคัญเช่นนี้
    “ไม่ให้เจ้านทเข้าบริษัทวันนี้แล้วจะให้เจ้านทมันไปไหน ก็เห็นบอกว่ากลับมาถึงแล้วจะไปทำงานเลย”
    นักธุรกิจหนุ่มค่อยๆผ่อนลมหายใจ
    เขาปล่อยสมองให้ว่างชั่วครู่ หลับตาแล้วนวดขมับเบาๆ นั่นสินะ เขากำลังทำสมาธิรวบรวมสติไม่ให้ร้อนไปกับเรื่องของพี่สาว แล้วคิดหาทางแก้ปัญหาในช่วงเวลาสุดท้าย...

    ชายหนุ่มวางโทรศัพท์พร้อมกับสลัดความเครียดออกไป ถือผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำ หวังว่าน้ำอุ่นๆในอ่างจะทำให้เขาคิดอะไรออกได้ เพราะมีไม่น้อยครั้งเหมือนกันที่ไอเดียดีๆผุดขึ้นที่นั่น อย่างที่เขาไม่เคยนึกฝันมาก่อน
    “อย่างไรเสียต้องกันพี่นทไม่ให้เข้าบริษัทพรุ่งนี้” เขาพึมพำกับตัวเอง
    หากเยื้อเวลาด้วยการเบนความสนใจนทไปยังจุดหมายอื่น อย่างให้ออกไปชอปปิ้ง หรือไปเที่ยว วิธีนี้ย่อมใช้ไม่ได้แน่ เพราะนทกลับมาด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำงาน...
    “พี่นทกลับมาทำงาน ต้องหางานให้พี่นททำ แต่เป็นงานที่ไม่ได้ทำในบริษัท...อะไรดีวะ???เฮ่ออออ” นนท์ถอนหายใจ เขาไม่ได้หมดหวังหรอก เพียงแต่เขายังไม่พบทางออกเท่านั้นเอง...
    ขณะที่ชายหนุ่มคิดไม่ตกเรื่องพี่สาวอยู่นั่นเอง เสียงครืดๆข้างขอบอ่างทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์ความคิด คราวนี้เป็นเบอร์ของเลขาส่วนตัวโชว์หราอยู่บนหน้าจอ
    “ว่าไง คุณอรนภา”
    “ขอโทษนะคะเจ้านายที่โทรมารบกวนแต่เช้า คือวันนี้ต้องมีผู้บริหารระดับสูงไปตรวจสาขาน่ะคะ แต่วันนี้ทั้งเจ้านายและท่านประธานมีงานใหญ่อยู่ที่บริษัท ดิฉันเลยอยากจะทราบว่าเจ้านายจะเลื่อนวันตรวจสาขาหรือจะส่งใครไปทำงานแทนดีคะ”
    สีหน้าเหน็ดเหนื่อยของนนท์จางลงไปทันที รอยยิ้มแห่งความดีใจระบายทั่วใบหน้า เลขาสาวช่างรู้ใจ โทรมาให้ข้อมูลที่ตรงกับความต้องการของเขาอย่างเหมะเจาะพอดี ทางออกอยู่ตรงนี้สินะ ตรงที่อรนภาเสนอให้เขา

    “คุณม้า ขอบคุณมากเรื่องข้อมูล เดี๋ยวผมจะให้คนของผมไปจัดการเองไม่ต้องเลื่อนวันหรือส่งใครไปแทนหรอก อ้อ!แล้วอย่าลืมเตรียมเอกสารเรื่องการพิจารณาโปรเจค ที่ผมให้แต่ละฝ่ายไปร่างให้พร้อมนะ วันนี้ผมจะเข้าไปสายหน่อย แต่ไปถึงก่อนประชุมอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงแน่นอน”

    คำสั่งยาวเหยียดแต่เลขาสาวโน้ตย่อไว้อย่างครบถ้วนกระบวนความ ชำนิชำนาญสมกับมีเจ้านายเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงเสียจริง อรนภาเอ๋ย
     

    “ไงนท หน้าดูเซียวๆนะ กลับไปนอนต่อเถอะไป” ชายหนุ่มร่างใหญ่ในชุดสูทที่กำลังหั่นเบคอนพูดพลางพยักเพยิดหน้าไปหามารดาที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์ ส่วนมารดาก็รับมุขต่อ
    “นนท์ ว่าไม่ได้เชียวนะ รายนี้คงลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่ตีสี่ ดูสิ นั่งหาวหวอดๆ ระวังนะจะไปหลับบนเก้าอี้ทำงานเอา”
    ชายหนุ่มผู้ถูกเอ่ยชื่อหัวเราะเบาๆ “ผมเกรงว่าเจอเอกสารไม่กี่แฟ้มแล้วจะคิดถึงห้างหรูๆ ร้านอาหารหรูๆก่อนน่ะสิครับ”

    พอพูดจบสองแม่ลูกก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน ไม่ได้สนใจเลยว่าหญิงสาวอีกคนจะหน้าเง้าไปเพียงใด นนท์ทำเป็นไม่สนใจกับอากัปกริยาของพี่สาว เขายักไหล่เลิกคิ้ว
    “จริงๆนะนท เราว่านายไปนอนต่อให้อิ่มดีกว่า ตื่นขึ้นมาก็ไปช็อปปิ้ง หลังจากนั้นก็ไปหาอะไรทาน อย่างนั้นคงจะเหมาะกว่าที่จะไปปั้นหน้าเครียดอยู่บริษัท” น้องชายเสนอหน้าหรา ส่วนมารดาก็ต่อให้
    “เดี๋ยวไปแล้วไปหลับอยู่โต๊ะทำงาน อายเขาแย่นาคุณนท” พอพูดจบทั้งแม่และลูกชายหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน ราวกับนัดกันกระเซ้าหญิงสาวหน้าหมวยแต่เช้า

    ด้านนทเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้นด้วยนิสัยด้านหนึ่งที่มองโลกในแง่ร้าย หล่อนก็คิดเองเออเองว่ากำลังโดนสบประมาทจากบุคคลในครอบครัว
    คำก็เด็ก สองคำก็เอาแต่ใจ นี่คนบ้านนี้เห็นหล่อนเป็นคนทำอะไรไม่เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
    “เฮอะ!ไม่ต้องพูดมากเลย ยังไงวันนี้นทก็ต้องได้ทำงานที่บริษัท ทุกคนจะได้สบประมาทนทซักที”
    ได้ยินดังนั้นผู้เป็นมารดาส่ายศีรษะ เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไร้อารมณ์เล่นหัวเหมือนเมื่อครู่
     
    “นท ไม่มีใครสบประมาทนททั้งนั้นแหละ ทุกคนเป็นห่วงนทถึงได้ออกมาเตือนๆนท แล้วงานที่บริษัทมันก็วุ่นวายซับซ้อน แม่อยากให้การทำงานของนทมันค่อยเป็นค่อยไป เท่านั้นเอง”
    หล่อนเงียบไปสักครู่หนึ่ง แล้วถามออกมา “คนที่บ้านไม่เชื่อใจนทบ้างเหรอ???”
    มีเพียงเสียงของความคิดตอบนนท์อยู่ในหัวเท่านั้นว่า ‘ไม่’ เมื่อหันไปสบตามารดา ชายหนุ่มพอจะเดาออกว่ามารดาคงมีความคิดไม่ต่างจากเขาสักเท่าไหร่
    “ลองทดลองงานก่อนไหมล่ะนท ในตำแหน่งพนักงานธรรมดาก็ได้ เผื่อชอบไม่ชอบอย่างไรจะได้เปลี่ยนใจทัน”

    สตรีผู้ที่กางหนังสือพิมพ์จิบกาแฟเสนอแนวทางให้หล่อน เพราะคิดดีแล้วว่าหากให้นทรับตำแหน่งสำคัญอาจจะส่งผลกระทบต่อการสั่งงานให้พนักงาน หากลดตำแหน่งลูกสาวลงอาจจะทำให้ลดบทบาทในบริษัทลงได้ อย่างน้อยๆมันอาจจะช่วยได้สักเปราะหนึ่ง...แต่ลูกสาวหน้าหมวยตอบกลับทันควัน
    “นทเป็นถึงลูกสาวท่านประธาน เป็นพี่สาวของรองประธาน แม่จะให้นทรับตำแหน่งเล็กๆอย่างนั้น นทไม่ยอมหรอก เรื่องอะไรที่นทจะต้องทำงานเล็กๆไม่มีความสำคัญแบบนั้น ไม่มีทางซะล่ะ!”
     
    คำตอบในแบบฉบับของหล่อน ทำให้มารดาผู้เป็นมารดาเริ่มถอดใจในความรั้น ไม่ว่ายังไง หล่อนยังคงดึงดันจนได้ ขู่ก็แล้ว ปลอบก็แล้ว แต่ไม่สามารถลดทิฐิของลูกสาวคนนี้ได้เลย ควรจะโทษการเลี้ยงดู โทษนิสัย หรือจะโทษอะไรดี ที่ทำให้นทเป็นคนแบบนี้...

    นนท์กระตุกยิ้มเงียบๆ จังหวะนี้แหละที่เขาจะจัดการกับทิฐิของพี่สาว
    ชายหนุ่มไม่รอช้าโจมตีจุดอ่อนของหล่อนทันที
    “แม่ฮะ ช่างเถอะ นทน่ะ ทำงานในตำแหน่งพนักงานธรรมดาไม่ได้หรอก แม่ก็รู้นี่ฮะว่าตำแหน่งสูงๆมันมีผู้ช่วยเยอะ ต่างจากพนักงานธรรมดาที่ต้องใช้ฝีมือของตัวเองล้วนๆ”
    ได้ยินลูกชายพูดแบบนั้นผู้เป็นมารดาตาโตด้วยความตกใจ คำพูดของนนท์ส่อแง่ที่จะทำให้เกิดสงครามกลางโต๊ะอาหารได้ง่ายๆ ลูกสาวคนโตจะลุกขึ้นมาขว้างจานชามกลางโต๊ะอาหารไหมหนอ?
    ด้านพี่สาวคนโตกระตุกริมฝีปาก ขมวดคิ้ว “นี่เธอหมายถึงอะไรล่ะนนท์”
    ชายหนุ่มที่รอจังหวะนี้มานานเริ่มสวนกลับทีละดอก “นท นายก็รู้นี่ว่าถ้านายเป็นผู้บริหารระดับสูง เวลามีงานนายก็โยนๆไปให้ลูกน้องทำ แค่นายหาผู้ช่วยดีๆซักคน งานนายผ่านฉลุยอยู่แล้ว” เขาตอบหน้าตาย
    นนท์รู้ดีว่าแม้หล่อนจะเอาแต่ใจ เจ้ายศเจ้าอย่าง แต่พี่สาวของเขาเป็นคนประเภทถูกท้าไม่ได้ ถูกหยามไม่ได้ ลองได้โดนท้า หล่อนจะเลือดขึ้นหน้าทันที

    ปัง!!!
    เป็นอย่างที่นักธุรกิจหนุ่มคาดการณ์ไว้ไม่มีผิด หล่อนตบโต๊ะดังปัง มารดาใจหายใจคว่ำด้วยอาการตกใจ ส่วนเขายังคงครองสีหน้าเรียบเฉยได้ ไม่ต้องเอ่ยถึงหล่อนที่เกิดอาการควันออกหูขั้นรุนแรง
    “เธอดูถูกฉันเหรอห๊า! ดูถูกความสามารถ ดูถูกความพยายาม ดูถูกความตั้งใจทั้งหมดของฉัน”
    ชายหนุ่มร่างหนาไม่มีท่าทีสะทกสะท้านกับเสียงแผดของหล่อน เขายังคงสุขุม ในขณะที่ในใจนทแทบดิ้นเร่าๆ
    “เราไม่ได้ดูถูกนายนะนท แต่นายจะให้เราคิดยังไง ในเมื่อตำแหน่งเล็กๆนายยังไม่กล้ารับ เราคิดเป็นอื่นไม่ได้หรอก เพราะนายแสดงให้เราเห็นแล้วว่า นายไม่กล้าพิสูจน์ฝีมือด้วยตัวเอง!”
    เขาหลับตาลง ในขณะที่ผู้เป็นมารดาตาโตด้วยความตกใจ กับการกระทำของลูกสาว...
    นนท์รู้สึกถึงแรงกระชากที่คอเสื้อสูท แม้จะเป็นเพียงแรงของผู้หญิง แต่เขาก็รับรู้ถึงความเดือดดาลในอารมณ์ผู้กระทำ

    “นท! หยุดเดี๋ยวนี้นะ เอานิสัยแบบนี้มาจากไหน แม้จะโกรธแค่ไหน แต่ใครสั่งใครสอนให้ทำร้ายพี่น้องของตัวเอง” เมื่อตั้งสติได้ผู้เป็นมารดาก็รัวชุดใหญ่ให้นทชะงัก เป็นครั้งแรกที่หล่อนรู้สึกถึงคำตำหนิตรงๆของมารดา และเป็นครั้งแรกเช่นกันที่หล่อนรู้สึกถึงการโดนขัดใจ และสบประมาทขั้นร้ายแรงของบุคคลที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นน้องบังเกิดเกล้า แต่ไม่ทันจะได้โต้กลับ มารดาก็ตำหนิหล่อนเสียงดังอีกหนึ่งประโยค
    “ไม่นึกเลยนะว่าทิฐิในใจ มันจะทำให้ลูกมองไม่เห็นความเป็นพี่น้องระหว่างหนูกับนนท์เลย”
    ด้วยนิสัยมองโลกในแง่ร้าย ยิ่งได้ยินน้ำเสียงไม่พอใจของมารดา หล่อนก็ยิ่งรู้สึกว่าโดนรุม
    “แต่แม่ก็เห็นว่านนท์สบประมาทนท!นทไม่ยอมหรอก” หล่อนตะคอกจนหน้าแดง นนท์สังเกตเห็นเส้นเลือดโป่งนูนบริเวณลำคอ จึงรู้ว่าคงจะถึงเวลาเผด็จศึกแล้วล่ะ
    “เราไม่ได้สบประมาทนายนะนท เราอยากให้นายได้มีโอกาสแสดงฝีมืออย่างเต็มความสามารถ ก็เท่านั้นเอง ทำงานโดยไม่มีผู้ช่วย ทำงานโดยไม่มีคนคิดงานให้ ทำงานโดยคลุกคลีกับเพื่อนร่วมงาน ทำแค่นั้น นายทำได้ไหมนท”

    เขายังคงระดับเสียงทุ้มต่ำเยือกเย็น ราวกับนทสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจน่าเกรงขามให้หล่อนต้องเผยอปากค้าง สิ่งที่นนท์พูดมีเหตุผลอย่างเถียงไม่ขึ้น แต่คนอย่างหล่อน ไม่มีทางยอมรับผิดง่ายๆ นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าเสียหน้าที่สุด
     ว่าแต่น้องชายของหล่อนซึมซับเอาความเป็นนักธุรกิจลึกล้ำจากบิดาในเวลาเพียงไม่กี่ปีได้มากขนาดนี้เชียวหรือ หล่อนมึนงงในสมองเล็กน้อย แต่แล้วความมั่นใจก็ผุดขึ้นพร้อมกับความท้าทายที่เกิดกับตัวเองเงียบๆ
    “ได้...ฉันจะพิสูจน์ทุกอย่าง ดีล่ะจะแสดงให้นายกระจ่างเอง ว่าฉันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิด ถึงวันนั้นถ้าทุกคนในบริษัทยอมรับฉัน นายจะต้องยกตำแหน่งรองประธานของนายให้ฉันสามเดือน”

    นนท์พยักหน้า อย่าว่าแต่สามเดือนเลย สิ่งที่นทยังไม่เคยรู้เลยก็คือ หากว่านทพิสูจน์ตัวเองได้อย่างที่ว่าจริง เขายอมมอบตำแหน่งของเขาให้หล่อนตลอดชีวิตเลยก็ได้
    “หึ...ฉันยอมรับคำท้าของนายนท”
    “ดี ฉันเองก็ยอมรับคำสบประมาทของเธอเช่นกัน”
    ...นนท์กระตุกยิ้มอย่างมีชัย “งั้น...นับแต่วันนี้ในเวลางาน นายเป็นลูกจ้างของฉัน”
    แววตาวาวรับคำท้าอย่างหยิ่งทะนง “ได้!!!”
    “งั้นงานแรก นายต้องออกนอกสถานที่ไปตรวจความเรียบร้อยของสาขาตามห้าง วันนี้ตอนเช้าเข้าบริษัทกับฉัน ฉันจะแนะนำนายกับพนักงานคนอื่นๆเอง แล้วตอนสายๆฉันจะพานายออกนอกสถานที่ ฉันจะพาตรวจหนึ่งสาขา ส่วนอีกสามสาขานายต้องลงมือทำด้วยตัวเอง ตกลงไหม?”
    นทกระหยิ่ม “เริ่มงานวันแรก นายให้ฉันทำงานง่ายแค่นี้เองเหรอ?”
    “หึๆนายผ่านวันนี้ให้ได้ก่อนเถอะ”
    “อ้อ!อีกอย่างนะนท ฉันจะไปส่งนายที่สถานีรถไฟฟ้า นายขึ้นรถไฟฟ้าไปสามสถานี เดินขึ้นมาก็เจอบริษัทเราเลย ฉันจะแนะนำนายในฐานะพนักงานเท่านั้น เราสองคนอยู่ในบริษัทเป็นเพียงเจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น”

    นทครางหึๆในลำคอ ความเกรี้ยวกราดถูกกลืนลงไป เหลือไว้เพียงเกมส์ท้าทายที่มีตำแหน่งรองประธานบริษัท Inspiration of Teatime เป็นเดิมพัน
    เธอเสร็จฉันแน่...นนท์ พนายางกูร แล้วจะรู้ว่านทคนนี้ไม่ได้เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาเป็นอย่างเดียว


     
    ผู้เป็นมารดาแทบสำลักกาแฟ ได้แต่มองหน้าลูกทั้งสองสลับกันไปมา นี่เด็กสองคนจะรู้ไหมว่ากำลังทำให้คนที่กำลังนั่งอยู่หัวใจจะวาย
    คนหนึ่งก็เอาแต่ใจ ถือทิฐิอย่างร้ายกาจ ทำได้ในสิ่งที่คาดไม่ถึงเมื่อโมโห อารมณ์เกี้ยวกราดราวกับว่าพายุทอร์นาโดหมุนรอบตัวเจ้าหล่อนตลอดเวลา
    อีกคนก็สงบนิ่ง เยือกเย็น แต่จิตใจไหลลึกล้ำ ไม่มีใครเดาถูกว่าคิดอะไรอยู่
    ได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงๆ นี่ผิดที่เธอหรือเปล่าที่เลี้ยงลูกมาแบบไม่พอดีเลยสักคน




    ..........................................
    กลับมาแล้วนะคะ ตอนนี้คคงมีเวลามากกว่าแต่เก่า แต่ก็ไม่ได้ว่างทั้งวันเหมือนตอนปิดเทอมค่ะ
    รับน้องผ่านไป งานเลี้ยงผ่านไป การทำงานพิเศษผ่านไป
    ทุกอย่างผ่านไป แล้วlionbabyของนักอ่านก็กลับมา
    ไม่รู้ว่าลืมกันบ้างรึยังนะคะ แต่ก็กลับมาด้วยความรักและความคิดถึงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
    อย่าโกรธ อย่างอน อย่าน้อยใจนะคะ

    อาจจะไม่ได้ลงบ่อย ลงมากเหมือนช่วงปิดเทอม
    แต่ก็ไม่ทิ้งนักอ่านค่ะ^^

    ดูแลตัวเองดีๆนะคะ ตั้งใจเรียน ตั้งใจทำหน้าที่ทุกอย่างของตัวเองให้ดีๆ
    ตรงนี้ยังเป็นที่อบอุ่นโอบกอดทุกความเหน็ดเหนื่อยเสมอ
    อยากให้รู้ว่าที่แห่งนี้ไม่ได้มีเพียงฟิค เพียงจินตนาการ
    แต่ที่แห่งนี้ยังคงมีความรักของคนเขียนคนนี้...ไม่เปลี่ยนแปลง



    รักคนอ่านที่สุด
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×