ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My love on the beach ร้อนนั้นฉันมีรัก นทแอป[yuri]

    ลำดับตอนที่ #4 : เชียงใหม่ เชียงใหม่ เชียงใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 54


    ความเดิมตอนที่แล้ว
    “นอนเถอะนะคะ...คนดี” คนตัวสูงกระชับวงล้อมของอ้อมแขน ด้วยอารมณ์ง่วงเต็มที คนที่ตัวเล็กกว่าก็ซุกเข้าหาไออุ่นในอ้อมกอดตามสัญชาตญาณ ก่อนจะหลับไปในอ้อมกอดแห่งความสุข อิษฏ์อาณิกเหมือนจะเห็นรอยยิ้มละลายโลกนั่นลางๆ เธอยิ้มตอบแล้วลูบแก้มเนียนของคนที่อยู่ในอ้อมกอด

    “ฝันดีนะคะ...คุณนท”

     

    “นี่เราฝันไปเหรอ???” สาวหมวยเอ่ยขึ้นกับตัวเอง เมื่อพบว่าห้องทั้งห้องมีแต่ความว่างเปล่า แล้วความอบอุ่นที่ได้รับในเมื่อคืนนี้เล่า มันเป็นเพียงแค่ฝันด้วยหรือเปล่า เธอจำได้ลางๆว่า แม้จะร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนทุกครั้งที่เมา แต่แตกต่างตรงที่เมื่อคืนเธอรู้สึกปลอดภัยเป็นที่สุด
     

    “เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย???”
    สาวหมวยพึมพำกับตัวเองขณะที่แสงแดดส่องแยงตา นทพยุงตัวเองขึ้นมานั่ง แล้วพยายามทบทวนเรื่องเมื่อคืนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก จำได้ลางๆแต่เพียงว่า เธอนั่งดื่มเบียร์อยู่นอกระเบียง...พลันนึกบางอย่างออก นทถึงกับตาโต

                สาวหมวยสาวเท้าไปที่ระเบียง พบกระป๋องเบียร์บุบที่ตัวเองฟาดลงกับพื้นไม้ได้แม่น มือบางกุมขมับ

    “เวรแล้ว นี่เราเมาจริงเว้ยเฮ้ย เมาต่อหน้าแอปเปิ้ลด้วย”
    นทรู้ดีว่าเวลาฤทธิ์แอลกอฮอล์เข้าสู่กระแสเลือดแล้วตัวเองจะเป็นอย่างไร คิดแล้วก็อดนึกสงสารคนร่างสูงไม่ได้ว่าจะต้องลำบากสักเพียงไรกับการอยู่ร่วมห้องกับคนเมาอารมณ์อ่อนไหวอย่างเธอ และที่สำคัญเธอจำแทบไม่ได้ว่าเพ้ออะไรลงไปบ้างเมื่อคืน

    เมื่อขาขาวๆก้าวเข้ามาในบังกะโล ตาก็เหลือบไปเห็นแผ่นกระดาษสีขาวที่มีก้อนหินทับไว้ และ...ชามข้าวต้ม

    คุณนทคะ... เมื่อคืนคุณนทไม่สบายค่ะ ตัวร้อนมากๆเลย แต่เมื่อตอนเช้าแอปรู้สึกว่าไข้ลดลงแล้ว

     ก็หมดห่วง แอปได้รับโทรศัพท์ด่วนจากคุณแม่ให้รีบกลับบ้านค่ะ ไม่อยากปลุกคุณนทเดี๋ยวจะรบกวนเวลาพักผ่อนเอา แอปซื้อข้าวต้มมาให้นะคะ คุณนทต้องทานข้าวแล้วก็ทานยานะคะ อย่าเพิ่งออกไปตากแดดตากลม เดี๋ยวไม่สบายเข้าอีก ขอบคุณมากนะคะที่ทำแผลให้แล้วก็ให้ที่นอนแอปเมื่อคืน แผลแอปเริ่มจะหายดีค่ะ แล้วคุณนทเองก็ต้องให้ตัวเองหายไข้ไวๆนะคะ

                นทถอนหายใจเมื่ออ่านเสร็จ ความรูสึกโหวงๆอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆที่เจอกันเพียงแค่วันเดียว แต่ผู้หญิงน่ารัก ตัวสูงคนนั้น ก็ทำให้วันหนึ่งของเธอเต็มไปด้วยความสดใส รอยยิ้ม และกลิ่นหอม

    “เมื่อวานคงเป็นวันพิเศษของผู้หญิงที่ชื่อนทจริงๆแหละ”
    นทยิ้มให้กับตัวเอง ถึงแม้ว่าเวลาแห่งรอยยิ้มมันจะผ่านไปแล้ว แต่มันก็ผ่านไปพร้อมกับความทรงจำที่น่าประทับใจ
     

                สาวมาดเซอร์คว้าอุปกรณ์วาดรูปแล้วตรงดิ่งไปสถานที่แห่งนั้น... หญิงสาวต่อเติมจินตนาการที่เพิ่งผุดขึ้นมาใหม่ลงในภาพวาดอย่างบรรจงเช่นเคย ปลายพู่กันตวัดเป็นเส้นสีครั้งแล้วครั้งเล่า นทจำความรู้สึกที่ยืนอยู่ที่นี่ในเมื่อวานได้แม่น เด็กผู้หญิงใส่ชุดเดรสสีขาวนั่งกุมเท้าอยู่ตรงนั้น และเธอ...ก็ยืนอยู่ตรงนี้

    “เจ้าหญิง...งั้นสิ” นทยิ้มให้กับภาพวาดตรงหน้าแล้วต่อเติมมันไปเรื่อยๆ



     

    “อะไรนะแม่...เชียงใหม่?” อิษฏ์อาณิกถามเสียงสูง เมื่อผู้เป็นมารดาแจ้งข่าวให้เธอทราบว่าจะต้องย้ายที่อยู่

    “เยส...มาดาม” ผู้เป็นแม่ตอบลูกสาว

    “แม่ได้งานใหม่ที่นั่นน่ะแอป แล้วอีกอย่างพี่อ๊อฟจบแล้วก็ได้งานที่นั่นด้วย เราก็เลยจะขนสำมะโนครัวไปกัน    
    อีกสามวันจ๊ะ ไปเก็บของเร๊ววว ไอ้โย่ง” ผู้เป็นมารดาหันไปถามลูกสาวเมื่อเห็นอาการหน้าเง้าๆของอิษฏ์อาณิก

    “แอปไม่อยากย้ายเหรอลูก? ทำไมล่ะ”
     

    “เปล่าค่ะแม่ แอปชินกับที่นี่มากกว่า อยู่มาตั้งหลายปีจู่ๆจะย้ายไป ใจหายเหมือนกันค่ะ”

    เมื่อได้ยินอย่างนั้น ผู้เป็นมารดาจึงเดินเข้าไปกอดคอลูกสาว แล้วเอ่ยให้กำลังใจ

    “ชีวิตคนเรามันก็อย่างนี้แหละลูก มีเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา อย่าเสียดายไปเลยนะแอป บางทีไปเชียงใหม่คราวนี้แอปอาจจะได้เจออะไรใหม่ๆในชีวิต อาจจะเป็นสิ่งที่บ้านหลังนี้ จังหวัดนี้ไม่มีให้ก็ได้”

    “แต่เชียงใหม่ไม่มีทะเลนี่คะ” อิษฏ์อาณิกเอ่ยอย่างเด็กๆ

    “กำแพงเพชรก็ไม่มีทะเลนะแอป” - -* (หน้าแม่)

    “อะไรของหนูเนี่ย เพิ่งกลับมาจากทะเลก็ร้องหาทะเลซะแล้ว ไปๆเก็บของได้แล้ว เฮ้อออ” ผู้เป็นมารดาเอ่ยเพื่อจบการสนทนา อิษฏ์อาณิกเดินเข้าไปเก็บข้าวของเครื่องใช้เฉพาะที่จำเป็น แม้จะมึนงงกับข่าวย้ายบ้าน แต่มันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องย้ายไป

    เชียงใหม่ไม่มีทะเล เชียงใหม่ไม่มีสาวมาดเซอร์สุดเท่ห์ เชียงใหม่ไม่มีคนเมาอารมณ์อ่อนไหว เชียงใหม่ไม่มีคนเล่นอูคูเลเล่ เชียงใหม่ไม่มีรอยยิ้มเจิดจ้าละลายโลก...แต่ทะเลมี ทีทุกอย่างที่เด็กหญิงหุ่นนางแบบต้องการ

    เมื่ออิษฏ์อาณิกตามความคิดตัวเองทันก็ถึงกับต้องสะดุ้ง ไม่นึกไม่ฝันว่ารอยยิ้มเจิดจ้าละลายโลกที่สาวหมวยฝากไว้จะตามมาหลอกหลอนเธอแม้กลับมาจากทะเลแล้ว อิษฏ์อาณิกตบแก้มตัวเองจนร้อง โอ๊ย!!!
    แล้วเธอก็มานั่งนึกถึงความเพี้ยนของตัวเองหลังจากกลับจากทะเล อิษฏ์อาณิกพบว่าชีวิตเธอคงไม่ปกติแล้ว หลังจากที่กลับจากทะเลคราวนั้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ยังคงมีรอยยิ้มเจิดจ้านั่นให้นึกถึงอยู่แทบตลอดเวลา

    “นี่เป็นอะไรไปแอป แม่เห็นแอปเหม่อๆนะช่วงนี้ มีปัญหาอะไรรึเปล่า?”
    ผู้เป็นมารดาถามหลังจากที่เห็นว่าลูกสาวของตัวเองพูดน้อยลง และชอบเหม่อ สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่

    “แม่เคย เจอใครแล้วแบบมันอธิบายไม่ถูกน่ะค่ะ ทั้งๆที่เพิ่งรู้จักกันแต่เหมือนสนิทกันมากๆ มันมีความสุขนะแม่ เพียงแค่คุยกัน แล้วไม่ว่าเค้าจะทำอะไรในความรู้สึกเรามันเหมือนจะดีไปหมด” อิษฏ์อาณิกอธิบายให้อีกฝ่ายฟัง
     เธอและมารดาสนิทสนมกันเหมือนเพื่อน เมื่อเกิดอะไรขึ้นเธอมักจะปรึกษามารดาอยู่เสมอๆ และมารดาก็เปิดใจรับฟังเรื่องราวทุกเรื่องของลูกสาวอย่างเข้าใจ เพราะเชื่อว่าเด็กวัยรุ่นนั้นติดเพื่อน วิธีการที่จะเลี้ยงดูลูกสาวในวัยรุ่นไม่ให้เตลิดเปิดเปิง ต้องเลี้ยงลูกเหมือนเป็นเพื่อนลูก

    “ชอบเค้าเหรอแอป” มารดาถามตรงๆ

    “แอปจะไปชอบเค้าได้ไงแม่ เจอกันก็แค่ครั้งเดียว” อิษฏ์อาณิกตอบ

    “แล้วแอปมานั่งนึกถึงเค้าจนเข้าขั้นเหม่อทำไมล่ะ มันไม่ดีนะลูกที่จะต้องมานั่งเพ้อ ไม่เป็นอันทำอะไรพอดี” มารดาเตือนด้วยน้ำเสียงห่วงใย อิษฏ์อาณิกพยักหน้าอย่างยอบรับ

    “แอปแค่อยากรู้จักเค้าให้มากขึ้น อยากเป็นเพื่อนกับเค้า เพราะเค้ามีอะไรหลายๆอย่างที่แอปไม่มี แล้วก็หลายๆอย่างที่แอปอยากเรียนรู้” เด็กหญิงตัวสูงพูดจบแล้วคิดถึงรอยยิ้มละลายโลกขึ้นมาทันที เธอเชื่อว่าไม่ว่าใครก็ตามที่เห็นจะต้องชอบ รวมถึงคนที่นั่งอยู่ข้างๆเธอนี่ด้วย

    “เอ้า อยากเป็นเพื่อนก็ไม่เห็นต้องมานั่งเหม่อแบบนี้นี่แอป การเป็นเพื่อนกับใครสักคนเป็นเรื่องง่ายมากเลยนะ แต่นั่งเหม่อแบบนี้อ่ะแม่รู้สึกว่ามันผิดปกตินะรู้รึเปล่า?” มารดาทอดสายตามองลูกสาวด้วยสายตาห่วงใย

    “เอ้องั้นก็พาเค้ามาทานข้าวบ้านเราสิ แม่ก็อยากจะรู้เหมือนกันนะว่าคนนี้เค้าจะน่าสนใจอย่างที่แอปบอกจริงรึเปล่า” มารดาเริ่มสบายใจเพราะอิษฏ์อาณิกไม่มีท่าทีแบกรับอะไรไว้ในใจเหมือนกับตอนที่เพิ่งกลับมาจากทะเลใหม่ๆอีกแล้ว คงจะเป็นเพราะอาจได้ระบายออกมาบ้าง

    ร่างสูงหันไปยิ้มให้มารดา

    “จะชวนเค้ามาได้ไงแม่ เบอร์ก็ไม่มีอะไรก็ไม่มี ไม่รู้ว่าชาตินี้จะได้เจอกันอีกรึเปล่า”

    “ฮ่าๆ แกคงต้องพึ่งความกลมของโลกแล้วล่ะแอปเอ้ย เอาเถอะถ้ามันแปลกจริงก็เก็บเค้าไว้เป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำก็แล้วกัน” ร่างสูงยิ้มแล้วเข้าไปกอดมารดาอย่างเอาใจ

    “ขอบคุณมากค่ะที่พร้อมจะรับฟังแอปทุกเรื่อง แอปรู้สึกดีมากเลยนะคะรู้ไหม ที่แม่ใส่ใจกับเรื่องแบบนี้ของแอป แม่รู้ไหม แม่เป็นแม่ในอุดมคติของวัยรุ่นหลายๆคนเลยนะ”

    “ฟังนะแอป พ่อแม่ทุกคนรักลูก แต่เพราะความรักกับความเข้าใจมันก็ยังห่างกันอยู่ เพราะฉะนั้นก็อาจจะมีพ่อแม่บางคนที่สักแต่รักแต่ไม่เข้าใจ แล้วผลเป็นไง แอปก็ดูอาชญากรรมปัญหาสังคมที่เพิ่มขึ้นทุกวันสิ แม่ไม่อยากเห็นแอปเป็นแบบนั้น แม่รักหนูมาก มากพอที่จะเข้าใจและรับฟังทุกอย่าง” มารดาลูบผมของลูกสาวอย่างเอ็นดู เด็กหญิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ แค่มีผู้หญิงคนนี้ เพียงเท่านั้นชีวิตของเธอก็ไม่มีอะไรขาดหายอีกแล้ว

     

                     “อะไรนะซิลวี่ เอ้อๆๆ รู้แล้วๆ จะไปกันเมื่อไหร่ล่ะ” นทตะโกนผ่านเสียงคลื่นเพื่อสนทนากับอีกคน ที่ปลายสายอยู่บนพระธาตุดอยสุเทพ

    “วันมะรุ่งน่ะพี่นท พี่นทจะไปด้วยกันรึเปล่าล่ะ? งานนี้ก๊วนเราไปเกือบทั้งชมรมเลยนะ ซิลก็ไป พี่ตาม พี่แอมป์ด้วย” อีกฝ่ายเงียบรอฟังคำตอบของนท ด้านนทที่เพิ่งวาดภาพเสร็จก็ขมวดคิ้วด้วยความสับสนว่าจะเอาไงดี

    “เอาไงดีวะ? คือตอนนี้พี่อยู่ทะเลไงแก งานนี้พี่อยากไปมากเลยอ่ะ แต่ใจนึงก็อยากจะติสต่อที่นี่

    เอาไงดีวะ???” นทเงียบไปซักอึดใจเดียว แล้วตอบกลับ

    “เอ้าไปก็ไปวะ โอเคซิลแล้วอีกสองวันเจอกัน”

                นทเก็บกระเป๋าเตรียมตัวกลับบ้าน อีกสองวันสาวหมวยมีโปรแกรมจะทำค่ายอาสาพัฒนาชุมชนกับเพื่อนๆในชมรม เป็นค่ายสอนหนังสือเวลาประมาณสามอาทิตย์ หรืออาจจะตลอดซัมเมอร์เลย ซึ่งมันก็สำคัญมากที่จะทำให้เธอคิดว่าจะไปดีไหม อุตส่าห์หอบชีวิตมาติสอยู่ทะเล สุดท้ายก็ได้ขึ้นดอย เอาเถอะ มันสร้างประโยชน์ให้มากกว่านั่งอยู่เฉยๆนี่

              เมื่อเป้ใบใหญ่ถูกสะพายขึ้นบนหลัง หญิงสาวหยิบแว่นกันแดดมาสวมแล้วสาวเท้าออกจากบังกะโลที่อาศัยมาอาทิตย์กว่าๆ เธอเดินเลียบชายหาด บรรยากาศก่อนตะวันตกดินทำให้สาวเธอนึกถึงผู้หญิงอีกคนที่เธอแบกเมื่อวาน นึกถึงใบหน้าหวาน รอยยิ้มเขย่าหัวใจ และกลิ่นหอมนั่น อดไม่ได้ที่ต้องยิ้มให้กับตัวเองอย่างมีความสุข

    ชีวิตอาร์ติสก็เป็นอย่างนี้แหละ ต้องเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆไม่หยุดนิ่ง ทุกอย่างที่มี ที่ทำในชีวิตเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ การหาอะไรใหม่ๆในชีวิตทำ ไม่ยึดอยู่กับวิถีหรือกิจวัตรซ้ำซาก เป็นสิ่งปกติที่อาร์ติสมักจะนึกถึงเป็นอย่างแรก นี่ไม่ใช่กฎหรือทฤษฎีความเป็นอาร์ติสหรอกนะ อาร์ติสไม่มีกฎหรอก มีแต่นี่...ความรู้สึก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×