NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไอ้เอ๋อ my stupid's boy

    ลำดับตอนที่ #7 : 06

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.3K
      292
      2 ต.ค. 62

    06


                   ตกบ่าย ไอ้เอ๋อถูกปลุกด้วยเสียงดังเอะอะของไอ้ตาร์ มันพึ่งกลับจากค่าย มาพร้อมกับหลวงตาบัว มาแบบทั้งชุดพละน้ำท่าไม่ยอมอาบ ทันทีที่รู้ว่าไอ้เอ๋อโดนซ้อมและไข้ขึ้นจนต้องพาส่งโรงพยาบาล มันรู้มันก็แทบคลั่ง จะไปเอาเรื่องคนที่ทำร้ายไอ้เอ๋อให้ได้ ดีที่หลวงตาแกห้ามเอาไว้ได้ทันไม่อย่างนั้นเรื่องมันคงจะบานปลายมากกว่านี้แน่ๆ เพราะคนที่มันจะไปเอาเรื่องนั้นร้ายใช่ย่อยแถมแค่ลำพังตัวมันคนเดียวขืนไปมีหวังกลับมาแบบเป็นศพแน่นอน

              “พี่ต้าร์ งือออ” ไอ้เอ๋อมันลุกขึ้นมาด้วยสีหน้ายุ่งๆ หัวฟูฟ่องไม่เป็นทรง มันยกมือขึ้นมายีขี้ตาด้วยความงัวเงีย ไข้มันลดลงไปเยอะแล้ว แต่หน้ามันยังมีรอยเขียวช้ำอยู่ สิงห์ยกมือไหว้หลวงตาแล้วหลีกทางให้ ไอ้ต้าร์มันหันมามองสิงห์ตาเขม็งก่อนจะเดินไปหาไอ้เอ๋อ

              “เป็นยังไงบ้างวะ ทำไมหน้ามึงเป็นแบบนี้ละ?” มันสำรวจหน้าไอ้เอ๋อด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก นี่แค่มันไปค่ายแค่สามวันกลับมาหน้าไอ้เอ๋อยังเละขนาดนี้

              “พวกคนใจร้าย หะ ห้าววว มันตีนะโม” ไอ้เอ๋อมันตอบไปด้วยหาวไปด้วยอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน

              “พวกไหนวะ แมร่ง แล้วมึงก็โง่ให้มันตีเหรอ ไอ้ที่กูเคยสอนมันไม่เข้าหัวเลยรึไง” มันพูดเหมือนโกรธไอ้เอ๋อ แต่น้ำเสียงมันกลับดูเป็นห่วงเสียมากกว่า

              “เอาน่าไอ้ต้าร์เรื่องมันผ่านไปแล้วก็แล้วกันเถอะ ถึงเอ็งสอนมวยมันมันก็ไม่ทำร้ายใครหรอก คนอย่างไอ้เอ๋อเคยทำใครเจ็บที่ไหน” หลวงตาบังพูดขัด แล้วลูบหัวไอ้เอ๋อเป็นการเรียกขวัญ หลวงตาห่วงมันจนนอนไม่หลับทั้งคืน มือเหี่ยวๆ ลูบลงอย่างอ่อนโยน เมื่อไหร่ที่เขาหมดห่วงเรื่องไอ้เอ๋อเมื่อนั้นเขาคงจะตายตาหลับ

              “หลวงตาจ๋า นี่” มันยกแขนข้างที่เจาะน้ำเกลือให้หลวงตาดู แล้วทำหน้าอ้อนๆ

              “อะไรของเอ็ง” คิ้วเหี่ยวๆ เริกขึ้นอย่างสงสัย

              “เอาออก ได้ไหมจ๊ะ นะโมเจ็บจ้ะหลวงตา” มันทำหน้าอ้อนใส่หลวงตา

              “อ่า เอ่อ หมอเค้าให้เอาออกแล้วเหรอ โยมสิงห์” หลวงตาหันไปถามร่างสูงที่ยืนดูนิ่งๆ อย่างถามความเห็น

              “ยังครับ คงต้องรอตรวจอีกรอบ”

              “งะ -3- “

              “ไม่ดื้อนะ นะโมเอ้ย”

              “แต่หนูเจ็บนี่จ้ะ” เป็นครั้งแรกที่สิงห์ได้ยินไอ้เอ๋อมันแทนตัวเองว่าหนู เขายินถึงกับใจกระตุก เพราะไอ้เอ๋อมันทำหน้าอ้อนๆ แบบนั้นด้วย ส่วนหลวงตากับไอ้ต้าร์ได้ยินจนชินเวลาไอ้เอ๋อมันอยากอ้อนขึ้นมา

              “เจ็บก็ต้องทนดิวะ มึงเป็นผู้ชายนะไอ้เอ๋อ” ไอ้ต้าดุไอ้เอ๋อด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ไอ้เอ๋อหันมามองลูกพี่ของมันอย่างไม่เข้าใจ

              “ผู้ชายต้องอดทนหรอ? อดทนยังไงอะ? พี่ต้าอดทนเก่งเหรอ?” มันย้อนถาม ไอ้ต้าร์ถึงกับคิ้วกระตุกนิดๆ

              “เออ กูอดทนเก่ง (//ถ้ากูอดทนไม่เก่งมึงไม่รอดมาจนถึงตอนนี้หรอกไอ้เหี้ยเอ๋อ//) ”

    ในขณะที่พวกเขาคุยกันนั้น จู่ๆ ประตูห้องก็เปิดออกพร้อมร่างของคุณหมอวัยใสที่มาพร้อมกับใบหน้าอิดโรยจากความเหนื่อยล้า หมอไม้เมืองเดินยิ้มอ่อนๆ ส่งให้รุ่นพี่แล้วหันไปหาไอ้เอ๋อ คิ้วเรียวคู่สวยมุ่นลงอีกครั้ง

              “มึง/มึง!!! ” ทั้งไม้เมืองและไอ้ต้าร์อุทานออกมาพร้อมกัน พร้อมกับสีหน้าที่แทบจะฆ่ากันให้ตาย

              “มาทำไม!! เป็นหมอหนุ่มที่ตะคอกใส่คนเด็กกว่าไม่รู้ว่าสองคนนี้ไปมีเรื่องอะไรกันมาถึงได้แทบจะตีกันแบบนี้

              “เรื่องของกู! ”

              “อะไรกันโยม จะเสียงดังใส่กันทำไม” หลวงตาที่นั่งพักอยู่เอ่ยออกมาเสียงดุ

              “อ่าว ขอโทษครับหลวงตา ผมไม่ทันได้มองว่าหลวงตาอยู่ด้วย” ไม้เมืองยกมือขึ้นขอขมาหลวงตาทันที

              “ช่างเถอะโยม แล้วจะทะเล่ากันทำไม ไอ้ต้าร์เอ็งก็อีกคนไปขึ้นเสียงกับโยมหมอได้ยังไงกันเอ็งเด็กกว่าเขาตั้งเยอะ” หลวงตาบัวเอ็ดไอ้ต้าร์เสียงเข้ม มันพอสลดลงบ้างมีแต่ไอ้เอ๋อที่ยังยิ้มให้หมอหนุ่ม มันเริ่มจะใช้หน้าอ้อนๆ กับหมออีกคน

              “” คุณหมอจ๋า นะโมหายแล้ว ถอดสายน้ำเกลือให้นะโมทีนะจ้ะ” มันทำเสียงออดอ้อนหมอไม้เมืองหมอหนุ่มยิ้มตาหยี>-<

              “ต้องให้พี่หมอตรวจก่อนนะครับ ไหนดูซิ” ไม้เมืองเริ่มตรวจอาการของไอ้เอ๋อ

              “ไข้ลดลงเยอะแล้ว เหลือแต่แผลช้ำๆ เนอะ” หมอเมืองบอกด้วยเสียงนุ่มๆ ลุคดูเป็นหมอผู้ใจดี

              “คิคิคิคิ”

              “หมอจะถอดสายน้ำเกลือให้นะครับ” พอได้ยินแบบนั้นไอ้เอ๋อมันก็ยิ้มกว้างจนคนมองแอบหมั่นไส้เบาๆ เมื่อไม้เมืองแกะสายน้ำเกลือให้ไอ้เอ๋ออย่างเบามือด้วยสีหน้าอ่อนละมุน ไม่ว่าใครมาเห็นหมอในลุคนี้ต้องมีหลงกันมั่งแหละ ใจดีออกซะขนาดนี้ เว้นเสียแต่...

              “เสร็จแล้วครับ”

              “เย้ๆ ๆ ๆ ๆ ขอบคุณครับพี่หมอสุดหล่อ” พอได้ดั่งใจปากมันก็หวานขึ้นมาทันที ขี้ประจบใช่ย่อยนะไอ้เอ๋ออออ หลวงตาที่มองอยู่ก็ยิ้มเอ็นดูก่อนจะเอ่ยถามหมอถึงเรื่องค่ารักษาพยาบาล

              “นะโมมันมีบัตรคนพิการอยู่ไม่ใช่เหรอครับหลวงตา” ไอ้ตาร์มันพูดขึ้นมาพร้อมกับค้นอะไรสักอย่างในกระเป๋าก่อนจะหยิบบัตรคนพิการกับบัตรประชาชนของไอ้เอ๋อออกมา มันยื่นให้หมอไม้เมืองแบบขอไปที

              “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมไปจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาลก่อนนะครับ” เป็นสิงห์ที่เอ่ยออกมาพร้อมกับยื่นมือไปรับบัติของไอ้เอ๋อที่หมอรุ่นน้องส่งมาให้ พอสิงห์ออกไปหมอก็ขอออกไปบ้าง ตอนนี้เหลือแค่หลวงตากับไอ้ต้าร์เท่านั้น

              “หลวงตาจ้ะนะโมจะได้กลับวัดแล้วใช่ไหม ^-^”

              เอออกลับได้แล้ว เอ็งนี่จะติดวัดมากเกินไปแล้วนะ นะโม” หลวงตาว่าอย่างไม่จริงจังนัก ต้าร์อาสาพานะโมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง ถึงแม้ว่าจะเคยเห็นเรือนร่างของอีกฝ่ายมาตั้งแต่เด็กจนโตแต่ไอ้ต้าร์มันก็ไม่เคยชินกับภาพตรงหน้าสักที มันลอบมองผิวกายขาวเนียนของไอ้เอ๋ออยู่บ่อยครั้งใจก็อยากจะสัมผัสผิวขาวเหมือนน้ำนมนั่นสักครั้งแต่มันก็ไม่กล้า ได้แต่แอบมอง แอบคิดอกุศลของมันไปเรื่อย มันยืนมองไอ้เอ๋อไปอย่างเนียนๆ มีดุบ้างเวลาไอ้เอ๋อมันใส่ผิด เสร็จแล้วก็พากันออกมาจากห้องน้ำ ก็เจอใครบางคนที่ยืนรออยู่เงียบๆ สายตาคมสองคู่ประสานกันอย่างกับนัดหมายกันไว้ ต่างคนต่างมองด้วยแววตาที่ดุดัน และไม่มีใครยอมใครจนหลวงตาบัวต้องกระแอมใส่ สิงห์รักษาระยะห่างจากน้องเล็กน้อยทั้งที่ในใจอยากจะกระชากตัวนะโมออกจากไอ้ต้าร์เต็มที่ เพราะไม่อยากให้หลวงตาดูเขาไม่ดี สิงห์ถึงได้ยืนนิ่งๆ ผิดกับไอ้ต้าร์ที่แสดงออกอย่างเต็มที่ว่ามันหวงไอ้เอ๋อต่อหน้าเขาและหลวงตา สองมือหนาประคองไอ้เอ๋อไม่ห่างจนสิงห์แทบจะทนไม่ไหว มันมากเกินไป!! แถมไอ้ต้าร์มันยังกันท่าเขาทุกวิถีทาง


              “ขอบใจโยมสิงห์มากนะที่อุตส่าห์เป็นธุระเรื่องนะโมให้”

              “ไม่เป็นไรครับหลวงพ่อ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว” สิงห์ไม่ได้ต้องการจะย้ำเรื่องที่เขาอยากจะรับเลี้ยงไอ้เอ๋อ แต่ปากมันพาไป หลวงตามีสีหน้าที่หม่นลง เพราะยังคิดไม่ตกถึงเรื่องนี้

              “หน้าที่อะไร มันใช่เรื่องเหรอ มึงเป็นคนนอกไม่ต้องมาทำพูดว่าหน้าที่หรอก” ต้าร์แขวะใส่ขณะพากันเดินออกมาจากโรงพยาบาล

              “เดี๋ยวพี่จ๋าไปส่งนะโมที่วัดนะครับ” สิงห์พูดพร้อมกับเดินนำไปที่รถโดยไม่สนว่าต้าร์จะตามมาด้วยหรือไม่เขานิมนต์หลวงตาขึ้นรถและพานะโมไปนั่งที่ด้านหลังคนขับพร้อมกับรัดเข็มขัดให้ ไอ้ต้าร์มันไม่ได้ขึ้นรถมาด้วยมันขี่มอเตอร์ไชต์คู่ใจมา เห็นอีกทีมันก็บิดออกไปแล้วนี่คงไปรอพวกเขาที่วัด ขับรถเข้ามาจอดที่ลานวัด เข็มขัดยังไม่ทันได้ปลด ไอ้ต้าร์มันก็รีบพาไอ้เอ๋อลงจากรถกึ่งลากกึ่งจูงไปที่ห้องของมันทันที

              “เก็บเสื้อผ้าไปอยู่บ้านกู” ไอ้ต้าร์มันสั่ง

              “ไปทำไมจ้ะพี่ต้าร์” มันเอียงคอถามอย่างไม่เข้าใจ

              “อย่าถามมากรีบเก็บ” มันเร่งพร้อมกับช่วยเอาเสื้อที่พับไว้มุมห้องมาใส่กระเป๋าให้ ยังเหลือเสื้อผ้าใต้ถุนกุฏิอีก

              “นั่นพวกเอ็งทำอะไร? ไอ้ต้าเอ็งจะพานะโมมันไปไหน” หลวงตาที่ขึ้นกุฏิมาเอ่ยถามเสียงลั่น ส่วนสิงห์นั้นกลับไปดูบ้านที่กำลังตกแต่ง เพราะเขาเพิ่มในส่วนของไอ้เอ๋อเข้าไปด้วย

              “ผมจะพาไอ้เอ๋อไปอยู่ด้วย ปล่อยมันไว้คนเดียวคงไม่ปลอดภัยเท่าไหร่”

              “นี่เอ็งจะมาตัดสินใจแทนอาตมาได้ยังไง” หลวงตาว่าเสียงดุ ไอ้ต้าร์มันสลดลงทันที มันคิดน้อยไป มันห่วงแค่เรื่องของไอ้เอ๋อ

              “แต่ ว่า ...”

              “ให้อาตมาคิดสักนิดเถอะ บางทีเรื่องมันอาจจะไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้”

              “มีเรื่องอะไรกันเหรอจ๊ะ” น้ำสียงใสๆ เอ่ยขัดบรรยากาศมาคุ

              “ไม่มีอะไรนะโมไปพักเถอะลูกไป” หลวงตาไล่มันไปนอนพัก ไอ้เอ๋อมันว่าง่ายอยู่แล้วหลวงตาสั่งอะไรมันก็ทำ มันเดินหอบเสื้อผ้ากลับเข้าไปในห้องตามคำสั่ง ไอ้ต้าร์หน้าเจื่อนไปนิด

              “ถ้าอย่างนั้นผมขอมานอนเป็นเพื่อนมันละกันนะครับหลวงตา”

              “แล้วแต่เอ็งเถอะไอ้ต้าร์” หลวงตาบอกแค่นั้นก็กลับเข้าไปจำวัดในกุฏิ มันไม่รอช้ารีบตรงดิ่งกลับไปที่บ้านไปขนเสื้อผ้ามาอยู่กับไอ้เอ๋อทันที รอไม่นานมันก็กลับมาพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าใบเขื่องนี่กะอยู่ยันไอ้เอ๋อบวชเลยใช่ไหม-*-

              “ไอ้เอ๋อ ตื่นได้แล้ว จะมืดแล้ว ลุกขึ้นมากินข้าวกินยา” ไอ้ต้าร์มันอาบน้ำตัวหอมฉุยนั่งลงข้างๆ ที่นอนแล้วใช้เท้าเขี่ยๆ ไอ้เอ๋อ มือมันใช้ยีหัวอยู่ไม่ว่าง สะกิดแค่เบาๆ ไอ้เอ๋อมันก็งัวเงียขึ้นมาทำหน้ายุ่งๆ ใส่ไอ้ต้าร์ลูกพี่ของมัน

              “ง่วง = = ปลุกทำมายย”

              “จิ๊ -*- ไอ้นี่ ตื่นไปอาบน้ำกินข้าว.! .”

              ข้าว *0*” ยังไม่ทันพูดว่ายาไอ้เอ๋อมันก็ตาวาว ไอ้ตาร์รู้ดีว่าจะจัดการเด็กดื้อยานี่ยังไง

              “เออ ไป ไปอาบน้ำอาบท่ากูจะไปหาข้าวให้กิน” มันดึงไอ้เอ๋อให้ลุกจากที่นอนเก่าๆ ของมัน

              “กินก่อนไม่ได้เหรอ^0^”

              “ไม่ได้ ไปอาบน้ำเร็วๆ เข้า”

              “จ้า จ้า อาบน้ำอาบน้ำ นะโมอาบน้ำ” มันพูดด้วยเสียงยานๆ ก่อนจะเดินลงจากกุฏิไปอาบน้ำที่ตุ่มน้ำด้านหลัง ส่วนไอ้ต้าร์มันก็เดินไปที่โรงครัว ที่ตอนนี้มีงานพิธีปนกิจศพอยู่ มันเดินไปขอข้าวต้มในโรงครัวมาสองชาม น้ำเป็บซี่อีกขวดใหญ่ พร้อมน้ำแข็ง ไอ้เอ๋อมันจะสบายไปไหนมีแต่คนคอยบริการมันตลอดแบบนี้ กลับมาก็เจอไอ้เอ๋อยืนตัวเปียกกำลังใส่เสื้อผ้าอยู่

              “ไอ้เหี้ยเอ๋อออ เช็ดตัวด้วยดิวะ” มันถูกลูกพี่ต้าร์ดุอีกแล้ว มันลนลานรีบหาผ้าขึ้นมาเช็ดตัวทันที

              “ดุยิ่งกว่า แม่ด่างอีก” มันบ่นงุบงิบไอ้ต้าร์มันไม่ได้ทันได้ยินหรอกเพราะว่าด่าเสร็จมันก็เดินขึ้นกุฏิไปเลย ไอ้เอ๋อรีบแต่งตัวเพราะว่ามันจะได้รีบไปกินข้าว แต่หารู้ไม่ว่าลูกพี่สุดหล่อของมันเตรียมอะไรไว้ให้มันบ้าง

              “ข้าวๆ ๆ ๆ ๆ ๆ จ๋านะโมมาแว้ววว” มันกระโดดมานั่งแหมะที่โต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กๆ ที่กว้างแค่วางจานข้าวไม่กี่ใบ ข้าวต้มหมูชามโตวางอยู่ตรงหน้ามันพร้อมกับแก้วน้ำที่ใส่เป็บซี่เย็นๆ มาเต็มแก้ว

              “ใจเย็นไอ้เอ๋อ กินนี่ก่อน” นี่ไงละของที่ไอ้ต้าร์มันเตรียมไว้ไห้ ยาเม็ดเขื่องบดเป็นผงผสมกับน้ำผึ้งแล้วปั้นเป็นลูกกร

              “อะไร อะ”

              “ลูกอม”

              “ลูกอมเหรอ?” มันรับเม็ดยามาถือไว้

              “เออกินซะสิจะได้กินข้าว” ก้บอกแล้วไอ้เอ๋อมันว่าง่ายมันเอายานั่นเข้าปากก่อนจะเคี้ยว ยิ่งเคี้ยวสีหน้ามันยิ่งเปลี่ยนจากยิ้มสดในเริ่มจะเหยเก

              “ลูกอม ขม แอ๋” มันแทบจะคายทิ้งแต่โดนสายตาดุๆ ของลูกพี่คนหล่อของมัน ไอ้เอ๋อเลยต้องฝืนกลืนยาลงไป ไอ้ต้าร์ส่งน้ำเปล่าให้มันกิน นี่ยังเหลือยาหลังอาหารอีกสองเม็ดที่มันจะต้องกล้ำกลืนฝืนกิน คิดแล้วก็รู้สึกสงสาร พอได้ลิ้มลองรสฝืดคอก็มาถึงรสที่มันปรารถนา ข้าวต้มร้อนๆ ที่มันค่อยๆ ตักเข้าปาก

              “โอ๊ะ อู้ววว ร้อนอะ” ช้อนแทบร่วงทันทีที่ข้าสัมผัสปาก มันจือปากแดงๆ ของมันไปทางคนตัวสูง ไอ้ต้าร์ส่ายหัวเบาๆ ก่อยจะเป่าปากมันให้ ซึ่งมันก็ทำแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้วเวลาไอ้เอ๋อทำอะไรทำนองนี้ เพราะเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ถึงจะอยู่ในถานะเบ้จิปาถะ แต่มันก็ได้รับความใส่และการดูแลจากไอ้ต้าร์มากว่าเพื่อนเล่นคนอื่นๆ ถือได้ว่ามันจะได้รับอภิสิทธิ์พิเศษอื่นๆ ก่อนใครเสมอๆ

              “รีบแดกไงละ ร้อนก็หัดเป่าสิวะ! ”

              “หิวนี้ ต้าเป่าให้หน่อย” มันทำเสียงอ้อน

              “ปากก็มีเป่าเองสิ กูก็ต้องกินเหมือนกัน”

              “วุ้ว ใจดำอะ ใจดำ” มันว่าใส่ ไอ้ต้าร์ถึงกับชี้นิ้วใส่ มันถึงได้สลด หดคอหนี

              “ปากเก่งขึ้นทุกวันเลยนะมึง -*- “มันว่าไอ้เอ๋อ

              “ฟู่ ๆ ๆ อ้ามมม อาหย่อย” มันกินไปยิ้มไป ไอ้ต้าร์ก็กินของมันไปเงียบๆ มีบ้างที่เหลือบมองไอ้เอ๋อเป็นระยะๆ วันนี้เป็นครังแรกที่มันจะได้นอนร่วมห้องกับไอ้เอ๋อ มันรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ จนเกือบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่

              “อิ่มยังวะ จะได้เอาจานไปเก็บ” คนตัวสูงถามเสียงหน่ายๆ ไอ้เอ๋อมันพยักหน้าแล้วยิ้มให้

              “เอ้า อิ่มแล้วก็ลุกดิวะ จะนั่งทำสากกะเบืออะไรละ เอาชามไปเก็บวู้ว ต้องให้สั่งตลอดเลยมึง”

    ทั้งคู่ช่วยกันยกชามไปเก็บที่โรงครัว ตอนไปเอาไอ้ต้าร์มันเดินทางด้านหน้าโบถ์ แต่ขาเอาของไปเก็บมันดันพาไอ้เอ๋ออ้อมมาด้านหลังเพราะว่าทางมันใกล้มากกว่า แต่มันลืมอะไรไปรึเปล่าว่าทางนี้ต้องเดินผ่านลานเผาศพกับเมรุด้วย ทั้งคู่เดินไปกันเงียบๆ แต่ จู่ๆ ไอ้เอ๋อมันหยุดเดิน แล้ววมองไปยังต้นโพธิ์ต้นใหญ่ใกล้กับเมรุ

              “ลุงชา ลูงงงงงงง ไปยืนทำอะไรตรงนั้น” มันร้องเรียกลุงที่มันเห็นแต่ไอ้ต้าร์มันไม่เห็น ชื่อที่ไอ้ต้าร์ได้ยินแล้วหัวใจมันหล่นไปถึงตาตุ่ม จะชื่อใครเสียได้ก็ชื่อเจ้าของข้าวต้มที่พวกมันกินกันอยู่นี่ไงศพยังนอนอยู่บนศาลาอยู่เลย

              “เชี้ยะเอ๋อ !! มึงเอาอีกแล้วนะ ไอ้ห่าเอ้ย” ไอ้ต้าร์มันรีบลากไอ้เอ๋อออกจากที่ตรงนั้น

              “เดี๋ยว เดี๋ยวลุงชา....กินข้าววว พี่ต้าร์ลุงชามาแล้ว รอก่อนๆ” มันยังจะตะโกนเรียกผีลุงชามากินข้าว ไอ้ต้าร์มันได้ยินขาก็แทบทรุด

              “นี่กูมาทำอะไรที่นี่วะ”

              บะ บะ บรู๊ววววววววววววววววว

              “โหลุงชาเดินไวมากเลย^0^” ยัง ยัง ไม่หยุดอีก ไอ้ต้าร์ฉี่มันจะราดอยู่แล้ว ไหนหมามันจะหอนรับกันเป็นทอดๆ อีก

              “ไอ้เชี้ยะเอ๋ออออออออออ มึงจะเรียกลุงแกมาทำม้ายยยย” เท่านั้นแหละไอ้ต้ามันก็ใส่เกียหมาชามที่ถือมาก็วางมันไว้กลางทางนั่นแหละ แล้วกระชากไอ้เอ๋อมันวิ่ง


              “เรียกใครไม่เรียกเสือกไปเรียกลุงชา มึงนะมึง” พอพ้นเขตเมรุ พวกมันก็ มายืนหอบอยู่หน้ากุฏิที่มีแสงสว่างให้อุ่นใจ

              “ทำไมอะ ทำไมถึงเรียกไม่ได้” สภาพไอ้เอ๋อมันก็ไม่ต่างจากไอ้ต้าร์มากเท่าไหร่ ยืนหอบพร้อมกับเท้าเอว เจ็บซี่ดครงไปหมด จากที่อาบน้ำมาตัวหอมตอนนี้มีแต่เหงื่อเต็มไปหมด

              “ก็มึงเรียกผีไง ไอ้โง่ ลุงชาแกหัวใจตายเมื่อตอนเย็นนี่มึงไม่รู้รึไง!! ” ไอ้เอ๋อมันจะไปรู้อะไรมันหลับทั้งวัน

              “ตาย!! ตาย T^Tตายแล้วไปอยู่กะพี่เปรี้ยวหรอ”มันทำปากเบะๆเมื่อได้ยินคำว่าตาย มันคิดถึงอีเปรี้ยวขึ้นมาทันที ไอ้ต้ากุมหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด เพราะไอ้เอ๋อมันทำท่าจะร้องไห้ออกมา

              “เออออ ที่หลังมึงเห็นอะไรตอนกลางคืนไม่ต้องร้องทักไม่ต้องเรียกมานะมึง หัวใจกูจะวาย สาสสเอ้ย เล่นซะกูเสียหลักหมด”


                        หลังจากอบรมไอ้เอ๋อเรื่องสัมผัสที่หกแล้วก็พันไปล้างมือล้างเท้าแล้วพากันเข้านอนดีหน่อยที่วันพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์อาทิตย์ไอ้ต้าร์มันเลยไม่ต้องรีบตื่นไปเรียน ต้ามันปูเสื่อนอนข้างๆ ฟูกของไอ้เอ๋อ หมอนผ้าห่มก็เอาของที่วัดมาใช้ ช่วยกันกางมุ้งคลอบที่นอนดีที่มุ้งมันใหญ่พอที่จะเอาทุกอย่างเข้ามาได้ พัดลมเก่าๆ เวลาเปิดมันก็จะดังแกรกๆ เหมือนจะระเบิดใส่อยู่ตลอดเวลา จัดมุ้งจัดที่นอนเรียบร้อยก็พากันนอนเล่นดูหนังในมือถือ และหนังที่ดูก็ไม่พ้นหนังผี ไม่รู้ไอ้คนตัวสูงมันคิดอะไรถึงได้เปิดหนังผีให้ไอ้เอ๋อมันดู

                       ไอ้เอ๋อมันชอบปะแป้งเย็นๆ ก่อนนอนตอนนี้มันเลยดูเหมือนหมูชุบแป้งทอดพอถึงเวลาปิดไฟหน้าขาวๆ ของมันก็จะลอยเด่นจนไอ้ต้าร์ผวาตกใจจนต้องรีบปิดหนังในมือ ไม่รู้ว่ามันไปทาเอาตอนไหน

              “เชี้ยะเอ๋อ” ไอ้ตาร์มันร้องใส่

              “คึคึคึ” คนไม่รู้เรื่องถึงกับขำออกมา

              “ขำพ่อง กูตกใจเห็นไหมเนี่ยะ นอนๆ แล้วไม่ต้องเสือกหันหน้ามาทางกูละ” ไอ้ต้าร์มันสั่งเสียงเหี้ยมที่สั่งไม่ใช่เพราะหลอนอะไรหรอกมันกลัวใจตัวเองต่างหาก กลัวว่าจะเผลอทำอะไรไอ้เอ๋อเข้า แค่ได้นอนข้างๆ กันแบบนั้นใจมันพาลแต่จะสั่นไม่หยุด กว่าจะข่มตาหลับได้ก็ปาไปเกือบเที่ยงคืน


    5.00น.

                        ไอ้เอ๋อมันตื่นก่อนเพราะต้องตามหลวงตาไปบิณฑบาตแต่เช้า มันย่องออกจากมุ้งด้วยความงัวเงีย ลงไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วถือปิ่นโตกับย่ามเดินตามหลวงตาออกจากวัดไป

                        พอกลับมาไอ้ต้าร์มันก็ตื่นเต้มตาเก็บที่นอนหมอนมุ้งเรียบร้อย มันนั่งรอไอ้เอ๋อที่บันไดหน้ากุฏิ เห็นมาเดินตามหลวงตาต้อยๆ ในมือถือของพะรุงพะรังไปหมด มันเลยเดินไปช่วยไอ้เอ๋อจัดอาหารถวายพระด้วยเลย วันนี้ได้ไข่พะโล้มาสองถุงหวานไอ้เอ๋อมันละ ทั้งคู่รอจนหลวงตาฉันเสร็จก็ยกอาหารมานั่งกินรวมกับเด็กวัด

              “โหยย พี่นะโม แบ่งผมบ้าง” ไอ้จ้อยร้องโหยหวนเมื่อไอ้เอ๋อเล่นตกไข่ใส่ชามก่อนครเพื่อน

              “ไม่แบ่ง คึคึคึ” อย่างเดียวนี่และมั่งที่ทำให้มันกลายเป็นคนขี้หวง กลายเป็นคนตะกละตะกลาม กินไม่แบ่งแบบนี้

              “มึงนี่นะ อะไอ้จ้อยเอาของพี่ไปกินจะได้ไม่ต้องไปแย่งมัน” ต้าร์มันเอาหมูสามชั้นชิ้นโตใส่จานให้ไอ้จ้อยเพื่อที่มันจะได้ไม่ไปแย่งไอ้เอ๋อ มื้อเช้าจึงผ่านไปด้วยดี กินเสร็จก็ต้องทำงาน ไอ้ต้าร์มันขัดพื้นให้ ส่วนไอ้เอ๋อมันก็ขัดบาตรของมันไป ขัดจนเปียกไปทั้งตัวจนโดนไอ้ต้ามันเอ็ดใส่ ก่อนจะพากันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

              “วันนี้ไปไหนดีพี่ต้า ไปเล่นกันไหม?”

              “เล่นอะไรละ ยังไม่หายดีมึงจะซ่าอีกแล้วหรอ” ไอ้ต้าร์มันบ่นใส่ แต่ในหัวก็คิดหาอะไรทำกับไอ้เอ๋อ ระหว่างรอไปเตะบอลตอนเย็น

              “ตกปลา?”

              “แดดร้อนปานนี้จะตกไงไหว เดี๋ยวได้เป็นลมเป็นแล้งไป”

              “งั้น อืม งั้น เล่นน้ำ”

              “ไข้พึ่งจะหาย เล่นไม่ได้”

              “วู้วว อะไรๆ ก็ไม่ด้าย นะโมนอนเล่นนิ้วมือตัวเองก็ได้ ชิ”

               “ไอ้เอ๋อออ กวนตีนละมึง งั้นมานอนดุหนังนี่ เมื่อคืนยังดูไม่จบ”

                        สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการหอบเอาเสื่อกับหมอนไปนอนดูหนังที่แคร่ใต้ต้นมะม่วง นอนดูหนังจนเผลอหลับกันไปทั้งคู่ ไอ้เอ๋อมันนอนดิ้น จนไอ้ต้าร์ต้องใช้ขาเกี่ยวเอวคอดๆ ของมันเอาไว้กันตกแคร่ เป็นอันว่าตอนนี้พวกมันสองคนนอนกอดกันกลมดิ๊กแข็งขาพันกันไปหมด


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×