NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไอ้เอ๋อ my stupid's boy

    ลำดับตอนที่ #39 : 38

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.5K
      146
      30 ต.ค. 62

    38


    ขอชี้แจงสักเล็กน้อยนะคะ เรื่องการ แทนการเรียกตัวน้องนะคะ ไรท์ขออนุญาตเปลี่ยนจากคำว่า” มัน” เป็นน้อง, ร่างบาง,คนตัวเล็ก,เด็กแสบ นะคะเพื่อความสบายใจในการอ่าน ของทุกคนนะคะ ไร้ท์ไม่ทันคิดอะว่าคำบางคำมันอาจจะดูไม่ดี ขอโทษเด้อ ถ้ามีหลุดบ้างก็อภัยกันด้วยนะ .. จุฟ




                        สามทุ่มกว่า เป็นเวลาที่ร่างสูงเดินออกจากห้องประชุม สีหน้าเครียดๆ แสดงออกได้อย่างชัดเจน เขามุ่งตรงไปยังห้องทำงานที่มีร่างเล็กนอนรออยู่ สิงห์รู้ว่าคนตัวเล็กเป็นไข้และเขาอยากจะพาคนเป็นไข้กลับไปพักที่บ้าน แต่ทว่าเด็กดื้อของตนกลับไม่ได้อยู่ที่ห้องอย่างที่คิดเอาไว้

              “น้องหายไปไหน?” สิงห์เดินหารอบๆ ห้องแต่ก็ไม่เจอ

              “อาจจะไปเข้าห้องน้ำ มั้ง” เขาคิดแต่ความรู้สึกจริงๆ แล้วไม่ใช่ น้องกินยาเข้าไปและไม่มีทางที่จะตื่นขึ้นมา สิงห์รีบเดินไปยังห้องน้ำ แต่กลับไม่เจอและนั่นทำให้เขายิ่งกังวล มือหนึ่งกดโทรหาเพื่อนรักอย่าง พลัส ก่อนจะเรียกให้หน่วยรักษาความปลอดภัยตรวจดูกล้องวงจรปิด เพื่อดูว่าเมียรักของตัวเองเดินหายไปไหน แต่กลับไม่พบ มีภาพบางภาพหายไป ตรงช่วงหน้าห้องทำงานของเขา และนั่นทำให้สิงห์รู้ได้ทันทีว่ามีคนพาน้องออกไปจากอกเขา สิงห์กำมือแน่น เขากำลังโกรธ โกรธที่ตัวเองสะเพร่า แล้วก็โกรธคนที่มันบังอาจพาตัวน้องไปจากเขา

              “ไอ้พลัส ส่งคนของมึงออกตามหาเมียกูที เมียกูหาย!! ”

              “อืม รอกูแป๊บ” แม้จะตกใจกับสิ่งที่ได้ยินแต่คนอย่างพลัส ในเมื่อเพื่อนขอมาเขาก็จัดให้ได้ พลัสส่งลูกน้องของตัวเองออกตามหาคนตัวเล็กช่วยอีกแรง ในขณะที่สิงห์เองก็ให้คนออกตามหา ตอนนี้ร่างสูงแทบจะอยู่ไม่สุข เขาพยายามคิดว่าน้องจะไปที่ไหนได้บ้าง หรือไปแอบนอนที่ไหน แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด น้องกำลังไม่สบาย และนั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกเป็นกังวล


              รอเพียงไม่นาน พลัสก็โทรเข้ามา


              “ว่าไงมึง ได้เรื่องอะไรบ้าง” สิงห์ถามด้วยความร้อนรน

              “ไม่เจอเลยวะ ทั้งกล้องวงจรปิดตามท้องถนน แล้วคนในมีใครน่าสงสัยบ้างไหม”

              “ใครมันจะกล้าล้วงคอคนอย่างกูวะ แมร่ง น้องไม่สบายอยู่กูห่วงฉิบหาย กูจะเป็นบ้าอยู่แล้ว! ”

              “ใจเย็นนะมึง มึงต้องมีสติ มึงมีศัตรูที่ไหนหรือเปล่า พวกที่มึงไล่ออกไป กูไม่ได้จะพูดให้มึงไม่สบายใจนะเว้ย แต่อะไรมันก็เกิดขึ้นได้..... กูจะช่วยมึงตามหาอีกแรง”

              เขากำลังจะบ้า และตอนนี้ใครๆ ก็เข้าหน้าเขาไม่ติด หลังจากวางสาย สิงห์แทบจะอาระวาดออกมา



    .........................................................................................................................................


              “อึก อือออ หนาว น้องหนาว”

              “อดทนหน่อยนะครับ เดี๋ยวหมอก็มาแล้ว”


    .....

              “เด็กคนนั้นเป็นยังไงบ้าง แกไม่เห็นบอกฉันเลยว่าเด็กนั่นกำลังป่วย” น้ำเสียงทรงอำนาจเอ่ยถามด้วยความกังวล และอดที่จะเป็นห่วงไม่น้อย สายตาที่มองมานั้นไม่ได้มีแววของความเป็นศัตรูเลย มีแต่ความเอ็นดูมากกว่า

              “ขอโทษครับท่าน ตอนไปเอาตัวคุณนะโมมา คุณนะโมตัวร้อนมาก อีกอย่างผมไม่มีเวลาพาไปหาหมอด้วย” กรบอก ด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล

              “ถ้างั้นก็ตามหมอมาที่นี่ ระวังด้วยละป่านนี้สิงห์มันคงตามหาให้วุ่น”

              “นายท่านแน่ใจนะครับว่าทำแบบนี้แล้วคุณสิงห์จะไม่อาละวาดบ้านแตก” นี่เป็นอีกเรื่องที่กรกลัว นายน้อยเคยกลัวใครที่ไหน

              “หึหึ ลูกชายชั้นมันไม่ทำอะไรโง่ๆ หรอก” นาคมั่นใจ ว่าครั้งนี้สิงห์ไม่กล้าอาละวาดใส่เขาแน่นอน

              “แต่นี่คนรักของคุณหนูเลยนะครับ”

              “ก็เพราะมีเด็กคนนี้นี่แหละ ...หึหึหึ ชั้นก็แค่อยากเจอเด็กที่ทำให้ลูกชายของชั้นมันหยุดทุกสิ่งทุกอย่างก็เท่านั้น”

              “แต่ ผมว่าผมไม่น่ารอด คุณท่านครับ คืนน้องให้คุณหนูเถอะครับ”กรเอ่อยด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล

    ทำแบบนี้เหมือนล้วงคองูเห่า แล้วขโมยไข่มาชัดๆ

              “เป็นลูกน้องชั้นอย่าใจเสาะสิ” นาคพูดแกมดุใส่กรที่นั่งเช็ดตัวให้ว่าที่สะใภ้ของบ้านอยู่ ใบหน้าหวานหยดราวกับหญิงสาวกำลังหลับตาพริ้มและละเมอเพราะพิษไข้ กรมองคนตรงหน้าแล้วรู้สึกสงสาร

              “นายน้อยท่าจะเล่นหนักเหมือนกันนะครับดูจากรอยพวกนี้แล้ว ผมไม่คิดว่าน้องจะรับไหว” กรมองรอยจ้ำๆ บนลำตัวของน้องด้วยสีหน้าทึ่งๆ พร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอ

    ตัวเล็กขนาดนี้ จะรับไหวได้ยังไง

              “ดุเดือดมาก ไอ้สิงห์มันไม่คิดจะถนอมเลยรึไง ตัวก็เล็กนิดเดียว” นากมองเด็กที่นอนซมด้วยความรู้สึกเห็นใจแล้วก็ตกใจกับร่องรอยบนร่างกายเล็ก เขาไม่คิดว่าลูกชายจะมีรสนิยมแบบนี้และไม่คิดว่าเมียเด็กของมันจะเป็นผู้ชายด้วย ยิ่งได้รู้ว่าคนตรงหน้ามีร่างกายที่ไม่สมบูรณ์เขาก็ยิ่งคิดมากถึงเรื่องอนาคตของคนทั้งคู่


              “งือออ หนาว พี่จ๋า อย่า ฮื่อออ” คนเป็นไข้ใช้มือปัดผ้าเย็นๆ ที่กำลังเช็ดตัวอยู่ออก อย่างรำคาญ

              “นายครับคุณหมอมาแล้วครับ”

              “เออ พาเข้ามาเลย”

    ถ้ามีเรื่องอะไรที่มันจะบังเอิญก็คงจะเป็นเรื่องนี้แหละ

              “คุณไม้!! ”

              “อะ เอ่ออ สวัสดีครับลุงนาค ใครป่วยเหรอครับถึงได้ตามหมอมาที่บ้าน พอดีว่า ไม่มีใครว่างมาเลยผมก็เลย... น้อง!! ” ไม้เมืองที่เดินถือกระเป๋าแพทย์เข้ามาเอ่ยทักทายเจ้าของบ้านก่อนจะหันไปเห็นเมียเพื่อนที่นอนไม่ได้สติ เขาตกใจที่เห็นคนตัวเล็กนอนอยู่ในห้อง โดยที่ไม่มีร่างของเพื่อนเขาอยู่ ไม้เมืองหรี่ตามองอย่างจับผิด

              “ใครเป็นคนตามหมอมาวะ” นาคสบทเบาๆ เพราะถ้าหมอไม้รู้ไม่นานสิงห์ก็ต้องรู้

              “นี่มันเรื่องอะไรกันครับ น้องนะโมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วไอ้สิงห์ไปไหนครับ” ไม้เมืองส่งคำถามออกมาเป็นชุด

              “มาดูน้องก่อนเถอะครับคุณหมอ” พอได้ยินกรพูดแบบนั้นเขาก็รีบเดินมาตรวจอาการทันที แต่ไม่ลืมที่ที่จะตั้งคำถามกับคนที่ยืนดูอยู่ห่างๆ

              “โหหหหหห ไอ้เหี้ยสิงห์มึงทำอะไรน้องเนี้ยะ” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสาเหตุที่น้องป่วยเป็นเพราะอะไร ไม้เมืองอยากจะโทรไปด่าเพื่อนตัวเองมากๆ ในตอนนี้ เขาฉีดยาให้น้องไปสองเข็มและกำชับว่าให้น้องพักผ่อนเยอะๆ ยังดีที่ช่องทางยังไม่ได้อักเสบมาก

              “คุณลุงตอบผมหน่อยได้ไหมครับว่าทำไมน้องถึงได้มาอยู่ที่นี่” ไม้เมืองหันไปถามนากเพื่อจะเอาคำตอบ แต่สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนมากประสบการณ์

              “แค่อยากจะคุยอะไรกับสิงห์มันหน่อย ช่วงนี้ไม่ยอมเข้ามาหาลุงเลย บ่ายเบี่ยงตลอด”

              “คุณลุงจะคุยเรื่องการสืบทอดงานในบริษัทใช่ไหมล่ะครับ มันถึงไม่ยอมมาเจอ” ไม้เมืองถามอย่างคนรู้ทัน

              “แกก็รู้ดีเหมือนกันนี่เจ้าไม้ เห้ออลุงแกแล้ว อยากวางมือบ้าง แต่สิงห์มันไม่ยอมเลย”

              “ลุงเลยจะใช้น้องมาเป็นข้อต่อรองใช่ไหมครับ”

              “ก็ใช่” นาคยกยิ้มแต่ไม้เมืองไม่ได้ยิ้มด้วย

              “ระวังมันจะแหกอกลุงเอานะครับ เล่นเอาเมียมันมาแบบนี้ ยิ่งน้องเป็นแบบนี้อีก”

              “ถ้ามันกล้าก็ลองดู”

              “ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”

              “อืม เดี๋ยวให้กรไปส่ง”

              “ลาละครับ” ไม้เมืองยกมือไหว้นาคก่อนจะเดินออกจากบ้านไปและก็โทรหาสิงห์ทันที

    ....

              “พานะโมไปที่เซฟเฮ้าส์ ก่อนที่ไอ้สิงห์มันจะมา ไปรีบไป” คำสั่งขั้นเด็ดขาดของนาคทำให้การซ่อนตัวของนะโมถูกดำเนินการอย่างรวดเร็ว ก่อนที่สิงห์จะมาถึง ด้วยซ้ำ กรจัดการอุ้มร่างของนะโมไปยังรถที่เตรียมไว้ ก่อนจะขับออกไปยังสถานที่ ที่ปลอดภัยที่สุด


              “พ่อ!!! เมียผมอยู่ไหน”น้ำเสียงห้าวตะโกนลั่น ด้วยความเดือดดาล เขารีบบึ่งรถกลับมาที่บ้านของตนเองทันที่ได้รับข้อมูลจากไม้เมือง อย่างน้อยๆเขาก็สบายใจขึ้นเมื่อรู้ว่าใครเป็นคนลักพาตัวน้องมา

              “ใจเย็นสิไอ้ลูกชาย มาถึงก็โวยวาย” นาคเดินออกมาจากห้องทำงานเขารู้อยู่แล้วว่าสิงห์ต้องมาอาละวาดใส่เขา ตอนนี้หน้าของสิงห์ไม่ต่างอะไรกับเสือที่โดนแย่งเนื้อออกจากปาก ร่างสูงกำลังหงุดหงิดเขากวาดสายตามองไปทั่วบ้านเพื่อหาร่างเล็กแต่กลับไม่เจอ

              “พ่อ คืนน้องมาให้ผม” สิงห์พูดอย่างใจเย็นทั้งที่ในใจเขาร้อนเป็นไฟ ร่างสูงขบฟันจนเห็นสันกรามเด่นชัด  เขารู้ว่าพ่อตัวเองนั้นเจ้าเล่ห์และร้ายขนาดไหน เล่นขโมยน้องมาแบบนี้ ต้องมีแผนอะไรบางอย่างแน่นอน

              “น้องไหน” นาคยังคงยิ้มให้กับลูกชาย

              “พ่อ!! ผมไม่เล่นนะ”

              “หึหึ ไม่คิดว่าคนนิ่งๆ อย่างแกจะมาหลุดลุคเพราะเด็กผู้ชายแค่คนเดียว” นาคเอ่ยเสียงเรียบๆ พร้อมกับใช้สายตาประเมินลูกชายตัวเองไปด้วย

              “พ่อ!! น้องไม่สบายอยู่”เขาพยายามจะรังับอาราณืของตัวเองให้นิ่งที่สุด 

              “เรื่องนั้นแกไม่ต้องห่วง นะโมมีคนดูแลอยู่”คนเป็นพ่อเอ่ยอย่างใจเย็น ดูไม่ทุกข์ไม่ร้อน ยังคงใช้สีหน้าที่ราบเรียบแสดงต่อหน้าลูกชายคนเล็ก

              “แต่นั่นมันเมียผม! ” เขาขบกรามแน่นไม่อยากใจร้อนเพราะน้องอยู่ในมือพ่อ เขาจะบุ่มบ่ามไม่ได้ สิงห์อยากจะบ้าเขาต้องสงบสติอารมณ์ เขาต้องไม่ตกลงหลุมที่พ่อตัวเองขุดไว้เป็นอันขาด

              “แล้วถามชั้นรึยังว่า ชั้นจะยอมรับเด็กคนนั้นได้รึเปล่า เด็กผู้ชายที่พิการทางสมอง รู้ถึงไหนอายถึงนั้น”นาคเริ่มแสดงสีหน้าที่เครียดขรึมกว่าเดิม

    (เล่นใหญ่รัชดาฯแลนด์เลยนะนายท่าน)-กร


              “พ่อหมายความว่ายังไง” สิงห์ขบฟันแน่น นี่แสดงว่าเรื่องของน้องพ่อเขาสืบข้อมูลมาหมดแล้วสินะ ใบหน้าหล่อคมไม่แสดงสีหน้ากังวลออกไปให้เห็น

              “เรื่องของเด็กคนนั้นถึงแกจะปิดคนข้างนอกได้ แต่แกปิดชั้นไม่ได้หรอกนะสิงห์ แกเลี้ยงเด็กคนนั้น เอาไว้เป็นเมีย ไม่ได้เอาไว้เป็นน้องอย่างที่ใครๆ เขาเข้าใจ” นาคจ้องมองลูกชายคนเล็กของบ้านแล้วยกยิ้ม เพราะเขาเห็นดวงตาคมคู่นั้นไหววูบ

              “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่พ่อต้องมาเอาตัวน้องไปด้วย”

              “ชั้นจะรับเด็กคนนั้นเป็นลูกบุญธรรม และสิทธิขาดเรื่องการดูแลขึ้นอยู่กับชั้นเพียงแต่ผู้เดียวไม่ว่าแก่จะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม  และแกจะไม่ได้เห็นเด็กคนนั้นอีกเลยถ้าแกปฏิเสธคำขอข้องชั้น  ถ้าแกยอมรับการเข้ารับตำแหน่งแทนชั้น ชั้นจะคืนเด็กคนนั้นให้ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น”

              “ไม่ได้ ผมไม่ยอม น้องเป็นของผม พ่อจะมาบีบผมแบบนี้ไม่ได้!! ”เขาเดาไว้ไม่มีผิดว่าพ่อต้องบีบให้เขารับตำแห่งผู้บริหารแน่ๆ

              “ถ้าแกไม่ยอม แกจะไม่ได้เจอเด็กคนนั้นอีก ชั้นจะส่งเด็กคนนั้นไปอยู่ในที่ที่ แกหาไม่เจอ แกรู้นะว่าชั้นทำอะไรได้บ้าง”

              “ทำไมต้องบังคับ พ่อก็รู้ว่าผมไม่ชอบงานพวกนั้น” สิงห์อยากจะเอาหัวทุ่มกำแพงให้ตายไปเลยตอนนี้ถ้าไม่ติดว่าห่วงเมีย

              “แต่แกก็ทำมันได้ดี”

              “....”

              “ยอมรับเถอะว่าแกเองก็ทำงานพวกนี้ได้”

              “....”

              “มันไม่ได้ยากอะไรเลย กับแค่บริหารโรงแรม ส่วนงานที่ไร่ยังมีพวกกร ชั้นเองก็จะกลับมาดูแลไร่ ไม่อยากทำงานใส่สูทแล้ว”

              “เป็นพ่อก็พูดง่ายสิ”

              “ตกลงจะทำไม่ทำ”

              “แล้วผมเลือกอะไรได้มั่ง พ่อมัดมือผมขนาดนี้ เอาน้องมาเป็นข้อต่อรองกับผม พ่อจะใจร้ายกับผมไปถึงไหน” สิงห์พูดกึงบ่นกึ่งตัดพ้อ มือหนาลูบหน้าตัวเองอย่างคนปลงไม่ตก ไม่คิดว่าพ่อเขาจะเล่นแง่กับเขาแบบนี้ ใช้จุดอ่อนของเขาเรื่องน้องมาบีบให้รับตำแหน่ง

              “พูดแบบนี้แสดงว่ายอมแล้ว?” นาคเลิกคิ้วถามพร้อมกับรอยยิ้มที่ปิดไม่มิด รอยยิ้มที่สิงห์ไม่ชอบเอาซะเลย

              “ไม่ยอมก็ต้องยอม แต่บอกไว้เลยว่าผมไม่เต็มใจ”

              “หึหึหึ” นาคดีใจที่เขาปลดภาระบนบ่าของตนเองได้สำเร็จ ก่อนจะส่งมอบให้ลูกชายคนเล็กดั่งที่ตั้งใจเอาไว้แม้จะใช้วิธีสกปรกก็ตามที

              “ทีนี้ก็คืนน้องมาให้ผมสักที! ”

              “ค่อยมารับพรุ่งนี้ละกัน ตอนนี้เด็กคนนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่” นาคแกล้งแหย่ลูกชายตนเองด้วยความสนุก

              “พ่อ!! ไม่ได้ คืนน้องมา ไม่อย่างนั้นผมจะเอาไอ้กรกลับ”

              “เกี่ยวอะไรกับกร?”

              “อย่านึกว่าไม่รู้นะ ว่าคิดจะทำอะไรกับลูกน้องผม” สิงห์หรี่ตามองผู้เป็นพ่อ อย่างจับผิด

              “รู้มากจริงไอ้ลูกคนนี้” แม้ปากจะไม่ได้ยอมรับอะไรออกมา แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้คิดอะไรกับลูกน้องคนสนิท เพราะความห่วงใยและความใกล้ชิด ทำเอาคนแก่อย่างนาคที่ใจเคยมืดดับ ตอนนี้มันกลับเต้นแรงให้กับเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวลูก อย่างไร จะว่าไปนาคก็ไม่ได้ดูแย่หรือแก่อะไรมากมายเพราะภายนอกยังดูหนุ่ม เหมือนคนอายุสี่สิบต้นๆ อาจจะเพราะเขาชอบออกกำลังกาย และชอบกินอาหารที่มีประโยชน์ทำให้เขายังดูหนุ่มกว่าอายุ แถมเจ้าตัวยังมีรูปร่างที่หล่อเหลาไม่แพ้ลูกชายอย่างสิงห์เลย

              “เอาน้องมาคืนผม ตอนนี้ ก่อนที่ผมจะส่งไอ้กรไปทำงานที่ภูเก็ต” สิงห์ไม่ได้แค่ขู่ แต่เขาทำจริงแน่ๆ ดูจากสายตาดุดัน ทำให้นาคไม่อยากจะเสี่ยง รองได้ให้สิงห์โมโหแล้ว เขาก็ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อตัวเอง นาคเลยไม่อยากเสี่ยง เขาโยนกุญแจเซฟเฮ้าส์ให้ร่างสูง สิงห์รับเอาไว้ แล้วแสยะยิ้ม

              “พ่อจำวันนี้ไว้นะ ว่าพ่อทำกับผมไว้ยังไง ผมจะเอาคืนให้ดู” สิงห์ พูดก่อนจะเดินออกจากบ้านใหญ่ และตรงดิ่งไปยังเซฟเฮ้าส์ที่อยู่ถัดไปไม่ไกลจากบ้านใหญ่


                             ภายในบ้านที่ปกคลุมไปด้วยแมกไม้ และล้อมไปด้วยกำแพงสูง ร่างบางที่กำลังตื่นจากนิทรา ดวงตากลมปรือขึ้นมองรอบๆ ก่อนจะตกใจเพราะที่ที่ ตนเองนอนอยู่ไม่ใช่ที่ทำงานของพี่จ๋า ในห้วงความจำครั้งสุดท้าย ร่างบางจำได้ว่าตนเองกินแล้วนอนในห้องทำงานของสิงห์ แต่ที่นี่ไม่ใช่ แถมคนที่นั่งมองอยู่ก็ไม่ใช่คนที่รู้จัก ร่างบางตกใจและขยับตัวขึ้นยืน แต่ทว่า ร่างกายที่ยังไม่หายจากพิษไข้ทำให้ร่างกายโงนเงนจะล้ม กรที่นั่งมองอยู่ก็รีบพุ่งมารับตัวเอาไว้

              “ไม่อย่าจับ พี่จ๋า กรี๊ดดด ช่วยน้อง กรี๊ดดด ช่วยน้อง” มันโวยวาย พร้อมกับดิ้นหนีกรด้วยความหวาดกลัว

              “ใจเย็นๆ นะครับ น้องพี่ไม่ได้จะทำร้ายน้องนะ ใจเย็น”

              “ไม่ อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นตีนะ ตีเจ็บๆ เลยนะ ฮรือออ พี่จ๋า พี่จ๋า” คนตัวเล็กยกมือขึ้นทำท่าขู่ แต่กรกลับหัวเราะออกมา

    น้องน่ารักแบบนี้สินะ นายน้อยถึงได้หลงขนาดนี้


              “ไม่เป็นไรนะ พี่ไม่ทำอะไรเรา นั่งลงก่อน ไม่ปวดหัวเหรอ”

              “ปวด ฮึก ปวดหัว” นะโมน้ำตาไหลพร้อมกับจับหัวตัวเอง แถมยังมองกรด้วยสายตาไม่ไว้ใจอีก

              “กินน้ำไหม พี่ไปเอามาให้” กรพยายามจะสร้างความไว้ใจกับคนตัวเล็กที่กำลังลังเล และพร้อมจะอาละวาดเขาได้ทุกเวลา

              “อื้ออ น้องหิวน้ำ ตะ แต่ พี่จ๋าอยู่ไหน ฮึก พี่จับตัวน้องมาใช่ไหม”

              “หึหึหึ น่ารักจริงๆ เลยนะเรานี่ รออยู่นี่พี่จะไปเอาน้ำมาให้กิน” กรบอกพร้อมกับเดินออกไป ร่างบางที่พอคนแปลกหน้าออกไปก้รีบควานหาโทรศัพท์ตัวเองทันที แต่กลับไม่เจอ

              “หายไปไหน อ่า ฮรืออออ” น่าจะหล่นอยู่บนโซฟา ดวงตากลมกวาดมองไปทั่วๆ ห้อง

    แกรก...เสียงประตูที่เปิดออกมันเหมือนแสงสว่างในที่มึดในใจของสิงห์ ร่างบางนั่งเช็ดน้ำต่อยู่บนที่นอน

              “นะโม!! ”

              “พี่จ๋า” พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามา คนตัวเล็กก็โผเข้าหาทันที สิงห์กอดน้องเอาไว้แน่นพร้อมกับกดจูบที่เรือนนิ่มเขาทั้งหวงทั้งห่วงคนในอ้อมแขนแทบขาดใจ

              “เจ็บตรงไหนไหม? มีใครทำอะไรหนูรึเปล่าครับ” สิงห์ถามเสียงสั่น พร้อมกับลูบแก้มนิ่มของน้องด้วยความห่วงใย กรที่ถือแก้วน้ำเข้ามา เขาเห็นภาพตรงหน้าแล้วก็อดที่จะทึ่งไม่ได้นายน้อยดูอ่อนโยนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?

              “ไม่น้องไม่เจ็บ แต่น้องกลัว ฮึกพี่จ๋าไปไหนมา” คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นถาม ใบหน้าหวานหยดตอนนี้มองเขาด้วยสายที่ตัดพ้อ

              “พี่ไม่ได้ไหนครับ พี่ไปทำงานมา” สิงห์แก้ตัวน้ำขุ่นๆ เขาไม่อยากให้ร่างเล็กนี่คิดว่าพ่อของเขาเป็นตัวร้ายที่จับตัวเองมาขังไว้

              “แล้วทำไมน้องมาอยู่ที่นี่ พี่คนนั้นเป็นใครครับ ฮึก เขาจะตีน้องไหม” ดวงตากลมเอียงไปมองคนด้านหลัง อย่างไม่ไว้ใจ สิงห์ยกยิ้ม

              “ไม่ตีครับ ถ้ากรตีน้องพี่จะก็จะตีกรให้แรงกว่าที่กรตี เอาให้ตายไปเลย” สิงห์ยิ้มเหี้ยมส่งไปให้ลูกน้องตนเอง

             “ใครจะไปตีลงละครับ น้องน่ารักขนาดนี้” กรอยากจะดึงน้องมาหอมหัว เขาเอ็นดูเด็กคนนี้ไม่ต่างอะไรกับคนตรงหน้าเลยสักนิด

              “น่ารักแต่มึงไม่ต้องมารักด้วย คนนี้ของกู” สิงห์บอก ก่อนที่เขาจะจูงน้องไปนั่งบนที่นอน

              “หวงจริง จริ้งงงงง” กรหยอกเจ้านายตนเองด้วยรอยยิ้มขำ

              “เออ กูหวง หวงมากด้วย และมึงกล้ามากที่มาขโมยน้องไปจากกู”

              “คำสั่งนายท่านนะคร๊าบบ ลูกเพ่จะให้ผมขัดนายท่านเหรอ”

              “มึงไม่ขัดเขาแต่มึงกล้าขัดกุอย่างงี้อ่อ”

              “อย่าดุแรงครับลูกพี่ ผมกลัวแล่ว” กรบอกอย่างทะเล้นๆ สิงห์ชี้หน้าคาดโทษเอาไว้

              “จะไปไหนก็ไปปะ กูจะพาน้องกลับบ้านแล้ว”

              “อืออ พี่จ๋าน้องปวดหัว” คนตัวเล็กพูดเสียงอู้อี้ สิงห์ช้อนตัวน้องขึ้นแนบอก

              “ครับ เรากลับบ้านกันดีกว่าเนอะ ^^”

              “ครับ อึกอืออ ปวดหัวจังเลยครับ” ร่างบางซุกหน้าลงกับแผงอกกว้างก่อนจะหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า ตัวร้อนรุมๆ

              “ผมให้หมอไม้ฉีดยาให้น้องแล้วนะครับ ถ้าคืนนี้ไม่ดีขึ้น คงต้องพาไปโรงพยาบาล”

              “อืม เข้าใจละ มึงก็กลับไปดูแลพ่อกูได้ละ อ่อ แล้วก็ระวังตัวเอาไว้ละ อย่าไปเชื่อใจใครง่ายๆ โดยเฉพาะคนแก่ๆ ที่บ้าน กุเตือนด้วยความหวังดี” สิงห์พูดทิ้งท้ายเอาก่อนจะอุ้มร่างบางขึ้นรถ และพากลับบ้าน


    ตกดึก


              “อือออ หนาว ฮึก หนาว หลวงตา อืออ พี่เปรี้ยว ฮึกจะไปไหน อย่าทิ้งหนูไว้ที่นี่ กลับมา ฮือออ” ร่างบางนอนตัวสั่นอยู่บนที่นอนและละเมอออกมา จนทำให้ร่างสูงที่นอนอยู่ข้างกันสะดุ้งตื่น

              “นะโมครับ หนู” มือหนาจับที่ตัวอีกคนเพื่อให้สงบ

              “ฮึก อย่าทิ้งหนู อย่าไป ฮึก...กลับมา”

                             สิงห์ลุกจากที่นอน เพื่อที่จะมาเช็ดตัวให้คนที่นอนเพ้อเพราะพิษไข้ ขณะที่เช็ดตัวให้น้องเขาก็พิจารณามอง ถ้าหากเขาได้เจอน้องก่อนหน้านี้ ชีวิตของคนตรงหน้าคงจะมีความสุขมากกว่านี้ สองมือค่อยเช็ดตัวให้อย่างเบามือ และเขาก็ต้องคอยตื่นมาเช็ดตัวป้อนยาให้ทั้งคืน จนกระทั่งเช้า ไข้ถึงได้ลดลง ใบหน้าหล่อก้มมองคนที่หลับตาพริ้มด้วยความห่วงใย แม้จะเหนื่อยแค่ไหนเขาก็ไม่ปริปากบ่น ต่อจากนี้เขาจะมีเวลาให้คนตรงหน้าน้อยลง เพราะหน้าที่ที่เขาต้องแบกอยู่บนบ่า

              “พี่รักหนูนะ” ริมฝีปากอุ่นประทับลงบนแก้มนวล ก่อนจะผละออก เขาต้องเตรียมตัวไปทำงานแล้ว วันนี้คงจะให้ไปโรงเรียนไม่ได้ แต่จะให้อยู่คนเดียวก็ไม่ได้อีก

              “ (ว่าไงพี่) ” เสียงเข้มติดทะเล้นดังมาตามสาย เขาติดต่อไปยังรุ่นน้องตัวแสบ

              “เมียมึงว่างป่าววะวันนี้”

              “ (ว่างพี่วันนี้มันไม่มีเรียน จะให้ไปเฝ้าไข้น้องใช่ปะ) ”

              “เออ รู้ดีนะมึง รีบให้มันมาที กูจะต้องเข้าบริษัท เดี๋ยวช่วงบ่ายจะเปลี่ยนมาเฝ้าเอง รบกวนมันที”

              “ (ได้พี่ เดี๋ยวผมเข้าไปดูอาการน้องด้วย อ่อแล้วจะให้ซื้ออะไรเข้าไปด้วยไหม?”)

              “โจ๊กก็ได้”

              “ (ได้พี่ ผมอาบน้ำแปป) ”

              “ขอบใจมึงมาก กูไปทำงานก่อน รีบมาก่อนที่น้องมันจะตื่นนะเว้ย”

              “ (เดี๋ยว งานนี้ไม่ฟรี โอนมาด้วย ห้าพัน!! ) ”

                   “ไอ้ต้าร์ -*- “

              “ (ผัวไม่ขอแต่กูจะขอครับ โอนมาด้วยห้าพัน) ”

              “ไอ้หน้าเลือดไอ้ไม้มันเลี้ยงมึงอดๆ อยากๆ รึไง! ”

              “ (ป่าว แต่ผมอยากได้รองเท้าคู่ใหม่ ไม่อยากรบกวนเงินผัว ไปแยะ อาบน้ำดีฟ่า) ”

    ติ๊ด

                   “อิสัส -*- “


    .................

    ณ โรงเรียน


              “นะโมไปไหน?” เนมเดินมาหาซีตัสที่ห้องทับสามพร้อมกับเอ่ยถามถึงคนที่ขาดเรียนวันนี้

              “พี่สิงห์โทรบอกเมื่อเช้าว่ามันป่วย นอนอยู่บ้าน” ซีตัสบอกพร้อมกับหยิบสมุดการบ้านออกมา

              “ไปเยี่ยมมันกันมะ ตอนเย็น” ปิงเสนอ

              “อืออ กูก็ว่าจะชวนพวกมึงไปอยู่ ห่วงมันวะ” เนม

              “ห่วงตัวเองก่อนเถอะมึงอะ ไม่ไปเรียนรึไง ไปได้แล้ว! ” ส้มที่เดินกลับมาจากการส่งสมุดการบ้านเอ็ดใส่เนม เพราะเนมยืนขวางประตูอยู่

              “นี่ก็ดุจัง ชาติที่แล้วเป็นหมารึไง”

              “หมาที่หน้ามึงสิอิเนม กลับห้องมึงไปได้แล้วไป๊ ลูกกูไม่อยู่ ไม่ต้องแวะเวียนมาบ่อยๆ เป็นสัมภเวสีแบบนี้” ส้มแซะใส่เนมก่อนจะดันหลังให้เนมกลับห้องไป

              “มึงนี่ก็กัดมัน เห็นหน้ามันตอนรู้ว่าไอ้เอ๋อมันไม่สบาย รู้เลยว่าห่วงลูกมึงมาก”

              “เย็นนี้ไปหามันกัน ซื้ออะไรไปให้มันกินด้วย ป่านนี้ไม่รู้จะงอแงอะไรบ้าง” ส้มเดินมานั่งที่ของตัวเอง แล้วหันหลังไปคุย

              “มันคงกินได้หรอก ไปแต่ตัวนี่แหละ” ซีตัสบอกเสียงหน่ายๆ คุยกันได้สักพักอาจารย์ก็เข้าสอน


    บ้านสิงห์ 9.45 น..


              “งือออออ หิวน้ำ หิวน้ำ” ร่างบางรู้สึกว่าตัวเองลำคอแห้งผาก ก็ร้องหาน้ำทั้งๆ ที่ตายังไม่ลืม ต้าร์กับไม้เมืองมาถึงตั้งแต่แปดโมงกว่าๆ พอมาถึงก็วัดไข้ เช็ดตัวให้ก่อนจะฉีดยาซ้ำเข้าไปอีกเข็ม ต้าร์เดินเอาน้ำมาให้ก่อนจะประคองร่างบางให้ลุกขึ้นนั่ง พิงหัวเตียงเอาไว้ ร่างบางปรือตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก แพขนตายาวขยับถี่ๆ ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา

              “อะ นี่น้ำ ค่อยๆ กิน” ต้าร์เอาหลอดจ่อปากเพื่อให้อีกคนดูดน้ำจากหลอด

              อึก อึก อึก

              “อืม พี่ต้าร์หรอ อึก น้องคิดถึงพี่ต้าร์ทำไมไม่มาหาบ้างเลย” คนป่วยพูดด้วยเสียงที่ตัดพ้อ ดวงตากลมมีรอยน้ำตาขึ้นมา เพราะว่าป่วยเลยอ่อนไหวง่าย

              “กูมีเรียนไหม จะจบแล้วเรียนหนัก มึงเองทำไมไม่ดูแลตัวเอง ปล่อยให้ป่วยแบบนี้ได้ไง” ต้าร์ทำเสียงดุใส่แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไร ร

              “นึกว่าโดนพี่หมอดุเลยไม่มาหาหนู”

              “มันจะกล้าดุอะไรกู แค่ก็ยกมือมันก็หงอแล้ว” ต้าร์พูดอวดออกมาโดยที่ไม่รู้ว่าคนที่ตัวเองพาดพิงอยู่กำลังยืนกอดอกมองมาจากข้างหลัง ไม้เมืองแสยะยิ้ม ก่อนจะเดินเข้าไปกอดคอ พร้อมกับบีบไหล่

              “!!! ”

              “เหรอต้าร์เหรอ กูกลัวมึงสินะ”

              “อะไร ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย เนอะไอ้เอ๋อเนอะ 555”

              “สัมผัสได้ถึงความตอแหลในน้ำเสียงนะครับ นะโมครับ ยังปวดหัวอยู่ไหม?” หันไปบอกคนของตัวเองก่อนจะใช้เสียงสองถามอีกคนที่นั่งยิ้มอยู่บนที่นอน

              “ปวดครับ แต่ไม่เยอะแล้ว”

              “ไหนพี่หมอขอวัดไข้หน่อยนะ” ไม้เมืองหยิบเอาปรอทวัดไข้ วัดในช่องหูของน้อง

              “37.3 ลงมาบ้างแล้วเนอะ เดี๋ยวกินข้าวแล้วกินยานะครับจะได้หายไวๆ”

              ครับ” คนป่วยว่าง่าย ดวงตากลมมองไปรอบๆ เหมือนกำลังมองหาใครสักคน

              “มันไปทำงาน ไม่ต้องมองหาหรอก” ต้าร์บอกในสิ่งที่อีกคนอยากรู้ ใบหน้าหวานสลดลง เพราะคนที่อยากเจอ อยากอ้อนไม่อยู่ให้อ้อน

              “ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น เดี๋ยวบ่ายๆ มันก็กลับมาหาแล้ว”

              “จริงนะ พี่หมอไม่หลอกน้องนะ”

              “จริงสิพี่จะหลอกหนูทำไม”

              “อื้อ หนูเชื่อก็ด๊ะ เอ๊ะ พี่ต้าร์ ทำไมคอของพี่ต้าร์” มันจับที่คอตัวเอง เพราะที่คอของต้าร์มีรอยเหมือนมันไม่มีผิด

              “อ้อ เอ่อ ยุง ยุงกัด เนี้ยะคั้นคัน” ต้าร์หน้าแดง รีบยกคอเสื้อขึ้นมาปิดรอยที่คอเอาไว้

              “ยุงเหรอ? เหมือนของหนูเลย แต่ของหนูยุงไม่ได้กัด พี่จ๋ากัด ^^”


    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ว้ายยุงไม่ได้กัด แต่พี่จ๋ากัด

    มันจะเลย40 ตอนไหมเนี้ยะ ฮ่าๆ ปมพี่น้องยังไม่มาเลย ทำไมมันไม่ถึงสักที งงตัวเองเหมือนกัน คิกค๊ากกกกกกกกกกกกกกกก


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×